Smiley.๐Smiley*~๐..ความรัก เป็นเรื่อง สวยงาม..๐Smiley*~๐Smiley.๐Smiley*~๐.
Group Blog
 
 
ธันวาคม 2552
 
 12345
6789101112
13141516171819
20212223242526
2728293031 
 
4 ธันวาคม 2552
 
All Blogs
 
..Blueragon : อภินิหารหัวใจมังกร ตอนที่23..

คำเตือน
ขอสงวนสิทธิ์ใดๆ ตามกฎหมาย ในการทำคัดลอก เผยแพร่ ดัดแปลง ส่วนหนึ่งส่วนใด หรือทั้งหมดของนิยายเรื่องนี้ โดยไม่ได้รับอนุญาต และ หากผู้ใดกระทำการคัดลอกหรือนำไปโพสในเวปอื่น ๆ หรือบล็อค โดยมิได้รับอนุญาตมีโทษปรับตั้งแต่ 20,000 บาท ถึง 200,000 บาท หรือ หากนำเรื่องไปเสนอต่อสำนักพิมพ์ ถือเป็นการเสนอขาย มีโทษจำคุกตั้งแต่ 6 เดือนถึง 4 ปี หรือปรับตั้งแต่ 100,000 บาท ถึง 800,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ ตามมาตรา 69 แห่ง พ.ร.บ.กฏหมายลิขสิทธิ์



************************
Blueragon : อภินิหารหัวใจมังกร
ตอนที่ 23

************************





.
.
.
.
ประตูด้านหลังกำแพงเมืองแง้มออกเล็กน้อย พอให้ร่างเล็กสอดตัวแทรกเข้าไปได้อย่างสะดวกก่อนที่จะถูกดันให้ปิดดังเดิม...



ร่างตะคุ้มๆ เดินลัดเลาะแนวพุ่มไม้เตี้ยที่เรียงตัวเป็นแนวยาวตั้งแต่ริมรั้วกำแพง ทอดยาวไปตามแนวทางเดินหินอ่อนสีขาวสวยงาม ลัดเลาะคดเคี้ยวผ่านลานกว้างที่ ขณะนี้ใช้เป็นที่จัดเลี้ยงรับรองเหล่าทหารกล้า และนักรบจากต่างแดน....แสงไฟจากคบไม้ส่องกระพริบ ริบหรี่มาจากลานกว้างกระทบกับแผ่นหินอ่อนสีขาวที่เป็นแนวยาวไปจนถึงเขตปราสาท



ร่างเล็กก้มตัวลงเล็กน้อยพอให้พ้นแนวพุ่มไม้เพื่อจะได้เดินต่อไปยังปราสาทอย่างไม่มีใครเห็น....แต่แล้วดวงตาคู่เล็กกลับชำเลืองเห็นทหารของนครนาบีเวียร์ล้มลุกคลุกคลานอยุ่กลางลานกว้าง บ้างก็นอนฟุบหมดสติโดยที่มือยังคงจับแก้วเหล้าไม่วาง....บางคนเดินโซซัดโซเซ หมุนตัวไปมา โดยมีคนของนาโดบาช่วยประคอง แต่ก็ไม่พ้นที่กำลังถูกคะยันคะยอให้ดื่มสุราจากแก้วในมือ



"เมากันเป็นแถว"
เสียงถอดหายใจ พร้อมคำบ่นเบาๆ หลุดออกมาก่อนที่เจ้าของเสียงจะพาร่างของตนเดินลัดเลาะแนวพุ่มไม้ไปยังเป้าหมายแรกที่ตั้งใจไว้ต่อไป




ปราสาทสีทองแสนสวย ตั้งเด่นอยู่เบื้องหน้า....พาทริสเงยหน้ามองแล้วให้เกิดอาการกลัดกลุ้ม เพราะขณะนี้ เค้าเองก็ไม่รู้ว่าคนที่เค้ากำลังตามเข้ามาช่วยเหลือนั้น อยู่ ณ ที่แห่งใดของปราสาท



"เอาน่า ไหนๆ ก็ ไหนๆ เสี่ยงเอาแล้วกัน"
หนุ่มน้อยพูดปลุกกำลังใจให้กับตนเอง ก่อนจะบุกเข้าไปในปราสาทที่ไม่เคยย่างก้าวเข้าไปมาก่อน
.
.
.
.
ณ ห้องบรรทมขององค์ราชินีนาโดบา....



แท่นบรรทมสีทองเหลืองอร่าม ตกแต่งประดับประดาด้วยผ้าลูกไม้สีสวย และผ้าแพรที่ดูนุ่มนวลน่าสัมผัส....ร่างแกร่งของเจ้าชายแห่งนาบีเวียร์ หลับใหลไม่ได้สติอยู่บนแท่นบรรทมนั้น โดยมีสาวงามผู้เลอโฉมนั่งประคับประคองอยู่ข้างๆ



ดวงหน้า และแววตาของราชินีผู้ยิ่งใหญ่ของนคร จ้องมองใบหน้างามของเจ้าชายอย่างเสน่หา พระนางยิ้มน้อยๆ ด้วยริมฝีปากสีแดงสด เรียวนิ้วงามค่อยๆ ลูบไล้สัมผัสใบหน้าคมเข้มของเจ้าชายอย่างแผ่วเบา จากหน้าผาก ไล่ลงมาเรื่อยยังจมูกอันโด่งเด่น และสัมผัสที่ริมฝีปากเรียวของเจ้าชายที่น่าจุมพิต



"เจ้าชายของข้า..."
น้ำเสียงเสน่หาของราชินีดังแผ่วกระซิบกระซาบ ก่อนที่ดวงหน้างามจะค่อยๆ ลดลงต่ำ ริมฝีปากสีแดงเผยอเล็กน้อย หมายจะจุมพิตเจ้าชาย




"ทูลองค์ราชินี"



แต่แล้วพระนางผู้เลอโฉมต้องชะงักจุมพิตของพระนางอย่างกระทันหัน เมื่อได้ยินเสียงจากด้านนอกห้องบรรทม....พระนางตวัดพระพักตร์ไปทางประตูห้อง ด้วยแววตาขุ่นเคือง



"มีอะไรท่านขุนพล"
น้ำเสียงอันเย็นเหยียบดังออกมาจากไรฟันของพระนางผู้งามเลิศ



"ข้าพระองค์มีเรื่องจะกราบทูลพะยะค่ะ"
น้ำเสียงของขุนพลประจำบัลลังค์ดังขึ้นอีกครั้งด้านนอกประตู....




"เรารู้แล้ว....เดี๋ยวเราจะออกไป"
พระนางแห่งนาโดบา รับสั่งกับขุนพลทหารด้านนอก ก่อนจะหันกลับมาที่ใบหน้างามของเจ้าชายนาบีเวียร์




"รอหม่อมฉันก่อนนะเพคะ.....แล้วหม่อมฉันจะรีบกลับมา"
สาวงามยิ้มที่มุมปาก ก่อนจะลุกขึ้นจากแท่นบรรทม แล้วก้าวเดินไปทางประตูห้อง เพื่อออกไปพบกับขุนพลทหาร




เมื่อพระนางองค์ราชินีแห่งนาโดบาได้ออกไปจากห้องบรรทม....คงเหลือแต่เจ้าชายผู้เมามายอยู่เพียงลำพัง.....ร่างแกร่งที่เคยยืนหยัดอยู่บนหลังม้า ในเวลานี้กลับนอนหลับใหลไม่ได้สติอยู่บนแท่นบรรทมขององค์ราชิต่างเมือง
.
.
.
.
หนุ่มน้อยพยายามหลับเลี่ยงเหล่าบรรดาทหารเฝ้ายาม และนางกำนัลของปราสาท เค้าเดินไปตามห้องต่างๆ เพื่อค้นหาบุคคลที่ตั้งใจเข้ามาช่วยเหลือ....




แต่แล้วพาทริสต้องรีบวิ่งหลบเข้าไปหลังผ้าม่านผืนใหญ่อย่างรวดเร็ว เมื่อเห็นเงาของคนสองคนเดินมาทางตนพอดี




"ว่าอย่างไร ท่านขุนพล..."
เสียงแรงหวานแว่ว กังวาลก้อง ฟังดูเหมือนเจ้าของเสียงนั้นจะเป็นสตรีผู้งดงาม



"ข้ากระหม่อมจัดการกับพวกทหารนักรบจนเมามายไม่ได้สติกันหมดแล้วพะยะค่ะ"
เสียงที่สองฟังดูกังวาล น่าเกรงขาม ดุดัน น่ากลัว



"ดี....ต่อไปก็จัดการกับพวกมัน เอาไปขังไว้ในคุกให้หมด"
เสียงแรกดังขึ้นอีกครั้ง แต่คราวนี้ดูจะร้ายกาจมากขึ้น



"แต่..."
น้ำเสียงของเสียงที่สองดูผ่อนลง เหมือนมีเรื่องบางอย่างเกิดขึ้น



"แต่....แต่อะไร เดี๋ยวนี้เจ้ามีแต่กับเราแล้วรึ"
น้ำเสียงแรกดูเกรี้ยวกราดขึ้นอย่างกระทันหัน ฟังดูนางจะเกิดความไม่พอใจขึ้นมาอย่างรวดเร็ว



"ด้วยเกล้า....ขอทรงอภัยให้หม่อมฉันด้วย"
น้ำเสียงที่สองฟังดูร้อนรน เหมือนตื่นกลัวเล็กๆ




"มีอะไร รีบบอกเรามาเดี๋ยวนี้"
เสียงอิสตรีผู้งดงามฟังดูฉุนเฉียว น่ากลัวมากขึ้น



"คือกระหม่อมหาตัวองครักษ์ประจำพระองค์ของเจ้าชายไม่เจอพะยะค่ะ"
ขุนพลกล้าแห่งนาโดบา ก้มคงอยู่เบื้องหน้าองค์ราชินี พร้อมกล่าวถ้อยคำที่ตนเองก็รู้ว่า ผู้รับฟังต้องเกิดความไม่พอใจอย่างที่สุด




"อะไรนะ....เจ้าว่า องครักษ์เอกของเจ้าชายหายไปงั้นรึ!!!~"
องค์ราชินีนาโดบา เบิกตากว้างจ้องมองยอดขุนพลเบื้องหน้า ด้วยแววตาขุ่นเคือง



".....พะ....พะยะค่ะ"
ขุนพลเอกตอบรับ



"โง่ !!!~ โง่ที่สุด งานแค่นี้เจ้ายังทำให้เราไม่สำเร็จ แล้วจะไปทำอะไรให้เราไว้ใจได้"
พระนางแผดเสียงสูง สีหน้า แววตาดุดัน จ้องมองขุนพลทหารเบื้องหน้า




"หม่อมฉันขอพระราชทานอภัยด้วยพะยะค่ะ...คือ..."
ยอดขุนพลมีอาการลนลานเล็กๆ ต่อหน้าพระนางผู้สิริโฉม



"ไป....ไปตามหามันเดี๋ยวนี้..."
พระนางผู้งดงามที่สุดแห่งนาโดบา กล่าวน้ำเสียงสูง ก่อนจะรีบเดินนำยอดขุนพลไปด้านนอกปราสาทเพื่อตามหาองครักษ์เอกของเจ้าชายที่หายตัวไป



ขุนพลแห่งนาโดบา รีบกุลีกุจอ เดินตามราชินีของตนไปติดๆ โดยหวังให้พระนางลดโทษให้




พาทริสที่แอบรู้เห็นเหตุการณ์เมื่อครู่ได้ออกมาจากที่ซ่อน เค้ามองตามหลังคนทั้งสองจนไกลลับตา ก่อนจะถอนหายใจออกมาเบาๆ



"เฮ้ออออออ.....ผู้หญิงอะไรดุชะมัด"



เด็กหนุ่มไม่เสียเวลาที่จะหยุดยืนอยู่ตรงนี้นานนัก เค้ารีบหาทางค้นหาคนที่ต้องการเจอตัวต่อไป แล้วก็ให้ฉุกคิดขึ้น



"พระนางมาทางนั้นนิ"
หนุ่มน้อยหันเหลียวมองไปทางด้านซ้ายของปราสาท จุดที่องค์ราชินีและยอดขุนพลเดินออกมา




"ต้องห้องนั้นแน่ๆ"
หนุ่มน้อย รีบวิ่งไปทางประตูบานใหญ่สีทอง ก่อนจะใช้สองมือผลักบานประตูให้เปิดออก



....แอ๊กกกกกกก.......



บานประตูสีทองบานใหญ่เปิดกว้างออก



หนุ่มน้อยมองไปรอบๆ แล้วสายตาของเค้าต้องชะงักที่แท่นบรรทมสีทองซึ่งตั้งเด่นอยู่ใจกลางห้อง




"เจ้าชาย..."
หนุ่มน้อยพาทริส รีบวิ่งเข้าไปยืนที่ข้างๆ แท่นบรรทม สองตาของเค้าจ้องมองร่างแกร่งที่ขณะนี้หลับไม่รู้เนื้อรู้ตัว



"เจ้าชาย...ตื่นซิเจ้าชาย"
พาทริส รีบเขย่าตัวเจ้าชายบาโอซีลอน เพื่อหวังให้เจ้าชายตื่น แต่ก็ไร้ผล ดูเหมือนว่า ฤทธิ์ของสุราผลไม้จะมีฤทธิ์แรงใช่เล่น




"โธ่ เจ้าชายตื่นซิ ตื่น..."
พาทริสพยายามปลุกให้เจ้าชายตื่น แต่เค้าก็ยังคงหลับไม่ได้สติ



"ตื่นซิตื่น...เดี๋ยวนางยักษ์มาเถอะ จะได้รู้สึก"
พาทริสพยายามเขย่าตัวเจ้าชายรูปงามอีกครั้ง แต่เจ้าชายก็ยังคงหลับไม่ได้สติ



"เอาไงดีล่ะทีนี้....ขืนชักช้า ราชินีนาโดบามา มีหวังตายทั้งคู่"
หนุ่มน้อยบ่นอย่างกังวล...เค้าพยายามหาทางนำตัวเจ้าชายออกจากปราสาทให้ได้



แล้วหนุ่มน้อยก็เหลียวหันมองไปรอบๆ ห้อง ก่อนจะหยุดสายตาไปที่เหยือกน้ำใส ที่ตั้งอยู่มุมห้อง



"ได้การล่ะ"
ว่าแล้วเด็กหนุ่มพาทริส ก็รีบเดินไปยกเหยือกน้ำ แล้วเดินมาหยุดตรงเจ้าชาย



"ขออภัยนะพะยะค่ะ"
กล่าวจบ น้ำทุกหยดในเหยือกก็ไหลรินสู่ใบหน้าของเจ้าชายบาโอซีลอน



"ขอให้ได้ผลเถอะ"
หนุ่มน้อยกล่าวเมื่อทำการรดน้ำที่ใบหน้าเจ้าชายเสร็จ



"แค่ก....แค่ก...."
เมื่อสูดเอาน้ำเข้าไปในระบบทางเดินหายใจ เจ้าชายที่หลับใหลเพราะฤทธิ์สุราก็มีอาการสำลักน้ำ และไอออกมา




"เจ้าชาย....ตื่นแล้วใช่มั้ย"
พาทริส รีบเข้าไปประคองเจ้าชายให้ลุกขึ้นนั่ง



"แค่ก....แค่ก.....นี่..."
เจ้าชายบาโอซีลอน ไอออกมาอีกหลายที ก่อนจะพยายามเพ่งสายตามองคนข้างๆ



"ไม่ต้องถาม เรารีบไปก่อนเถอะ"
ไม่ทันที่จะอธิบายอะไร พาทริส รีบประคองเจ้าชายรูปงามออกจากห้องอย่างรวดเร็ว



เหมือนมีแรงบางอย่างช่วยพาทริสนำเจ้าชายออกจากปราสาท....ร่างแกร่งที่หนุ่มน้อยกลัวว่าจะพาไปด้วยไม่ไหว กลับเบาหวิวเหมือนปุยนุ่ม เค้าพาเจ้าชายแห่งนาบีเวียร์ หลบหลีกพวกทหารยาม และนางกำนังออกมาจากปราสาทอย่างรวดเร็ว และง่ายดาย จนกระทั่งหลุดพ้นกำแพงของปราสาทสีทอง



สองร่างเดินซวนเซ เป๋ไป เป๋มา จนพ้นเขตเมืองนาโดบา และกำลังมุ่งหน้าไปยังค่ายทหารที่ตั้งอยู่ชายแดน



พาทริสประคองเจ้าชายจนมาถึงชายป่า และห่างไกลจากอาณาเขตขององค์ราชินีพอสมควร....ร่างแกร่งที่เคยเบาเหมือนนุ่นก่อนหน้านี้ กลับค่อยๆ หนักขึ้นเรื่อยๆ จนเหมือนจะประคองไว้ไม่ไหว



"ทำไมหนักขึ้นเรื่อยๆ เนี่ยะ"
หนุ่มน้อยบ่นออกมาเมื่อสังเกตุว่า ตัวเองจะประคองเจ้าชายไว้ไม่ไหว



แต่กว่าจะรู้ตัวทัน เค้าก็เดินสะดุดเอากับก้อนหินเข้าอย่างจัง.....แล้วสองร่างที่เซถล่าล้มลง และไหลกลิ้งไปตามแนวพงหญ้า



"เฮ้ยยย...."
หนุ่มน้อยร้องออกมาด้วยความตกใจ....แต่เค้ากลับกอดร่างอีกร่างไว้แน่น แล้วไถลลื่นไปด้วยกัน




ตุ๊บ!!!~



สองร่างหยุดนิ่งที่ริมแนวหญ้าข้างเนินทางเดิน



หนุ่มน้อยรู้สึกเจ็บระบมที่หัวไหล่ คงเพราะเมื่อครู่ล้มลงกระแทกเข้ากับก้อนหินข้างทาง ส่วนอีกฝ่ายเหมือนยังมีอาการเมาไม่รู้เรื่อง




"โอ้ยยย เจ็บจัง"
เจ้าชายบาโอซีลอน บ่นออกมาเมื่อรู้สึกว่า ตนเองโดนหินกระแทก



"ก็ใครล่ะ เมาไม่รู้เรื่อง"
พาทริสโวยขึ้นแข่งบ้าง



"แล้วเจ้าเป็นใครกัน...แล้วทำไมมานอนตรงนี้"
เจ้าชายร้องถาม เมื่อพยายามลืมตามองอีกฝ่าย ที่ขณะนี้มานอนทับตัวพระองค์ไว้



"ข้า...."
พาทริสเองก็เพิ่งรู้ตัวเช่นกัน เค้าพยายามยันตัวให้ออกจากตัวเจ้าชาย



แต่เค้าก็ทำไม่ได้ เมื่อเจ้าชายใช้มือจับตัวเค้าไว้



"จะหนีไปไหน เจ้ารู้มั้ยว่าเราเป็นใคร"
เจ้าชายร้องถาม แล้วดึงตัวพาทริสให้แนบชิดหนักกว่าเดิม เพื่อมองหน้าหนุ่มน้อย



"ปล่อยข้า..."
หนุ่มน้อยพยายามผลักเจ้าชายออก แต่เจ้าชายก็ไม่ยอม



ขณะนั้นเอง ก็มีแสงไฟจากคบไม้สว่างขึ้นที่บนทางดิน....



พาทริสเงยหน้ามองเห็นกลุ่มทหารของนาโดบากำลังเดินทางผ่านมา



"เจ้าเป็นครายยย บอกเรามาเดี๋ยวนี้"
เจ้าชายยังคงโวยวายตามผสาคนเมาไม่เลิก



"เงียบซิ..."
พาทริส รีบใช้มือปิดปากเจ้าชายเอาไว้



"เฮ้ยยย เจ้าไม่รู้รึไงว่าเราเป็นครายยยยย"
เจ้าชายเองก็ไม่ยอม เค้าปัดมือพาทริสออก แล้วร้องถาม



"นี่ท่าน...."
พาทริส ใช้มือปิดปากเจ้าชายอีกครั้ง



บนทางเดินด้านบนนั้น มีกลุ่มทหารของนาโดบาเดินผ่านเข้ามา และในนั้นเองทำเอาพาทริส กระตุกชาชั่ววูบที่เห็นยอดขุนพลของนาโดบาเดินทางมาด้วย นี่แสดงว่า องค์ราชินีต้องรู้ตัวแล้วแน่ๆ ว่าเจ้าชายหายไป



"ว่าไง เจ้าเป็นครายยย..."
เจ้าชายยังคงไม่ยอมเช่นกัน พระองค์ดึงมือพาทริสที่ปืดปากออก แล้วร้องถามเสียงดังมากขึ้น



"นี่เงียบก่อนได้มั้ย..."
พาทริสพยายามดึงมือตนออก เพื่อปิดปากเจ้าชายอีกแต่คราวนี้ไม่สำเร็จพระองค์รั้งมือหนุ่มน้อยไว้แน่น



"เจ้าต้องบอกกกกกเราเดี๋ยวนี้..."
เจ้าชายไม่ยอมลดละ พระองค์ร้องถามเสียงดังขึ้นอีกเรื่อยๆ



พาทริส ไม่รู้จะทำอย่างไรในเวลานี้ กองทหารของนาโดบาเข้ามาใกล้เรื่อยๆ ขืนปล่อยให้เจ้าชายขี้เมาร้องโวยวายอยู่อย่างนี้ มีหวังโดนจับได้ หนุ่มน้อยจนหนทาง เพราะมือของเค้าทั้งสองข้างโดนเจ้าชายจับเอาไว้ วิธีเดียวที่ทำให้เจ้าชายเงียบเสียงลงคือ...



ริมฝีปากอิ่มแนบชิดกับริมฝีปากเรียวของเจ้าชายอย่างรวดเร็ว....มีเพียงเสียงอู้อี้เล็ดลอดออกมา ขณะที่กองทหารของนาโดบาเคลื่อนตัวผ่านไป....เจ้าชายที่มีอาการมึนเมา รับจุมพิตจากอีกฝ่ายอย่างไม่ทันระวัง พระองค์มีอาการแปลกๆ เกิดขึ้น



ดวงเนตรของเจ้าชาย จ้องมองใบหน้าของผู้ที่กำลังจุมพิตพระองค์....มองลึกเข้าไปในดวงตาของอีกฝ่าย แล้วทำให้เกิดความรู้สึกประหลาด เหมือนเคยพบเจอที่ไหนมาก่อน.....ริมฝีปากก็ช่างอิ่มนุ่มน่าสัมผัสตอบ



เจ้าชายรับจุมพิตนั้นอย่างเต็มใจ แล้วเผลอรวบตัวอีกฝ่ายเข้ากอดแน่นขึ้น
.
.
.
.
.

************







Create Date : 04 ธันวาคม 2552
Last Update : 4 ธันวาคม 2552 19:11:39 น. 0 comments
Counter : 245 Pageviews.

kokoo_129
Location :
ชลบุรี Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?]




Smiley*~๐.."รัก" ก็แค่คำว่า "รัก"..๐~*Smiley
Cute Cursors from Dollielove
Free Hit Counters
Friends' blogs
[Add kokoo_129's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.