Smiley.๐Smiley*~๐..ความรัก เป็นเรื่อง สวยงาม..๐Smiley*~๐Smiley.๐Smiley*~๐.
Group Blog
 
 
ตุลาคม 2552
 
 123
45678910
11121314151617
18192021222324
25262728293031
 
16 ตุลาคม 2552
 
All Blogs
 

..Next Story : เรื่องรักของสองเรา ตอนที่10..

คำเตือน
ขอสงวนสิทธิ์ใดๆ ตามกฎหมาย ในการทำคัดลอก เผยแพร่ ดัดแปลง ส่วนหนึ่งส่วนใด หรือทั้งหมดของนิยายเรื่องนี้ โดยไม่ได้รับอนุญาต และ หากผู้ใดกระทำการคัดลอกหรือนำไปโพสในเวปอื่น ๆ หรือบล็อค โดยมิได้รับอนุญาตมีโทษปรับตั้งแต่ 20,000 บาท ถึง 200,000 บาท หรือ หากนำเรื่องไปเสนอต่อสำนักพิมพ์ ถือเป็นการเสนอขาย มีโทษจำคุกตั้งแต่ 6 เดือนถึง 4 ปี หรือปรับตั้งแต่ 100,000 บาท ถึง 800,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ ตามมาตรา 69 แห่ง พ.ร.บ.กฏหมายลิขสิทธิ์


***************************
Next Story : เรื่องรักของสองเรา
ตอนที่ 10

***************************











 

Create Date : 16 ตุลาคม 2552
9 comments
Last Update : 19 ตุลาคม 2552 19:30:43 น.
Counter : 307 Pageviews.

 




เมื่อทุกคนเข้าไปจัดสัมภาระเข้าที่ให้เรียบร้อย...........


พาสนาเดินออกมายังระเบียงด้านหน้าของบ้านพัก.......เธอมองออกไปยังท้องทะเลกว้าง ลมทะเลพัดโชยทำให้รู้สึกสดชื่น อากาศในยามเช้าทำให้พาสนานึกครึมใจอยากออกไปเดินเล่นที่ชายหาด


เธอมองเข้าไปที่บ้านพัก อรินยา และปัญจรียังคงอยู่ในห้อง ส่วนปัฐวี เธออนุญาตให้เค้าเอาเสื้อผ้าของใช้ไปเก็บไว้ในห้องของเธอได้.....เมื่อทุกคนกำลังวุ่นวายกับเรื่องของตัวเองกันอยู่ พาสนาจึงถือโอกาสแอบเดินลงไปยังชายหาดเพียงลำพัง


เสียงเกลียวคลื่นทะเลกระทบชายฝั่งดังเป็นจังหวะสม่ำเสมอ”“สายลมที่พัดโชยหอบเอากลิ่นอายทะเลขึ้นมาทำให้คนที่เดินเรียบหาดรู้สึกถึงความเป็นทะเลกว้าง........ท้องฟ้าสีฟ้าสดใส ก้อนเมฆปุกปุยสีขาวลอยเกลื่อนท้องฟ้า แสงแดดอ่อนๆ ส่องกระทบผิวน้ำเป็นเกล็ดระยิบระยับ


พาสนาเดินเรียบหาดทรายขาวไปเรื่อยๆ เธอกำลังปล่อยใจให้ล่องลอยไปกับสายน้ำที่เธอกำลังเหยียบย้ำมันอยู่.....น้ำทะเลสีใสถูกซัดเข้าหาเธอเป็นระลอกๆ


“อืมมม สบายใจจัง” พาสนาพูดออกมาเบาๆ ด้วยสีหน้ายิ้มๆ


“ป่านนี้ นายจอมยุ่งนั่น คงตามหาตัวพวกเราไม่เจอแน่ๆ หึหึหึ” พาสนาหัวเราะออกมาอย่างสุขใจเมื่อคิดถึงหน้าของชายหนุ่มคนหนึ่งที่ชอบสร้างเรื่องปวดหัวให้เธอ


พาสนาหยุดเดินที่โขดหินเล็กๆ เธอขึ้นไปนั่งบนโขดหินนั้น แล้วเธอก็ได้นอนลงกับโขดหิน ดวงตามองไปยังผืนท้องฟ้ากว้าง.....หูก็ฟังเสียงคลื่นทะเลกระทบฝั่ง.....รอยยิ้มที่ปรากฏขึ้นมานั้น แสดงให้รู้ว่าเธอกำลังมีความรู้สึกสบายใจอย่างที่สุด
.
.
.
“ต้องขอโทษคุณณุด้วยนะครับ ที่ต้องให้มาที่นี่กะทันหันแบบนี้” คุณภูเบศ กล่าวกับพิษณุเจ้านายของเค้าด้วยท่าทางนอบน้อม


“ไม่เป็นไรหรอกครับ ก็เรื่องนี้มันเรื่องสำคัญนี่นา” พิษณุกล่าวสีหน้าเรียบ


“ครับ ทางเราไม่กล้าตัดสินใจเองจริงๆ เพราะทางโน้นเค้าเรียกร้องมากกว่าที่ตกลงกันไว้หลายล้าน” คุณภูเบศยังคงกล่าวต่อ


“อืม จะพูดไป เค้าก็ถือว่าผิดสัญญานะครับ เราตกลงกันไว้ที่ 15 ล้าน แต่เค้าจะมาขอขึ้นเป็น 20 ล้าน ส่วนต่างตั้ง 5 ล้าน ไม่ใช่น้อยๆ เลย” พิษณุพูดด้วยสีหน้าครุ่นคิด


“ครับ” คุณภูเบศพยักหน้าตอบ


“ว่าแต่ เหตุผลที่เค้าแจ้งมาละครับ เค้าว่าไง” พิษณุซักถามคุณภูเบศอย่างสงสัย


“เห็นว่าทางรีสอร์ทหัวหินวิว ติดต่อขอซื้อเหมือนกันครับ” คุณภูเบศตอบสีหน้าเครียด


“อืมม อย่างนี้นี่เอง.....” พิษณุพยักหน้ารับเบาๆ


“แต่ผมว่า ทางรีสอร์ทหัวหินวิว ไม่น่าจะมาซื้อตัดหน้าเรานะครับ” คุณภูเบศพูดด้วยสีหน้าสงสัย


“ผมก็ว่างั้น เพราะทางนั้นกิจการไม่ค่อยดีเท่าไหร่จะเอาทุนที่ไหนไปลงเพิ่มอีก” พิษณุกล่าวสีหน้ายิ้มๆ


“แล้ว...” คุณภูเบศ มองหน้าเจ้านายของเค้าอย่างไม่เข้าใจคำตอบ


“ผมว่า ผู้ใหญ่เขียวต้องหาเรื่องขึ้นค่าที่มากกว่า” พิษณุตอบยิ้มๆ


“อ้อ อย่างนี้หรอครับ” คุณภูเบศพอจะเข้าใจแล้วเช่นกัน


“พวกชอบกรุข่าวขึ้นราคาแบบนี้ผมเจอบ่อย” พิษณุบอกกับคุณภูเบศสีหน้ายิ้มๆ


“แล้วคุณณุจะไปหาผู้ใหญ่เขียวเมื่อไหร่ครับ” คุณภูเบศกล่าวถามเจ้านายของเค้า


“อืมม บ่ายๆ ดีกว่า พอดีผมรู้สึกเพลียๆ ขอพักสักแปบ .....อ้อ อีกอย่าง ช่วยเตรียมเอกสารให้ผมด้วย” พิษณุกล่าวสีหน้านิ่ง


“ได้ครับ” คุณภูเบศรับคำสั่งเจ้านายของเค้า


“งั้นเดี๋ยวผมให้เด็กเตรียมบ้านพักให้นะครับ” คุณภูเบศบอกกับพิษณุ


“ครับ เดี๋ยวผมขอไปเดินเล่นที่ชายหาดสักพัก แล้วจะตามไป” พิษณุกล่าวกับคุณภูเบศ ก่อนจะเดินเลยลงไปยังชายหาดข่าว


“......” คุณภูเบศ หันกลับเดินไปยังออฟฟิศของรีสอร์ทสวย หนึ่งในโครงการของบริษัทไตรศร
.
.
.
พิษณุเดินเรียบหาดชายด้วยความรู้สึกสบายอารมณ์ บรรยากาศสบายๆ วิวสวยๆ ทำเอาชายหนุ่มรู้สึกผ่อนคลายกับเรื่องเครียดๆ ต่างๆ ลงได้เยอะ....


พิษณุก้มหยิบเปลือกหอยที่พื้นทรายขึ้นมา เค้าขว้างมันไปที่ผืนน้ำทะเล เพื่อให้มันกระทบกับผิวน้ำ แล้วกระดอนต่อเป็นทอดๆ อีก 2-3 ทีก่อนจะจมลงสู่ก้นทะเล


ชายหนุ่มทำแบบนี้อยู่หลายที จนกระทั้ง เปลือกหอยชิ้นใหญ่ในมือได้หลุดลอยไปกับแรงเหวี่ยงของเค้า....แต่มันไม่ได้ไปกระทบกับผืนผิวน้ำเหมือนชิ้นอื่นๆ มันกลับกระดอนไปกระแทกกับก้อนหินก้อนหนึ่งที่อยู่ในน้ำ แล้วการกระแทกนั้น มันทำให้เปลือกหอยชิ้นนั้นกระดอนกลับ ลอยละล่องผ่านอากาศ แล้วไปตกที่โขดหินที่ไม่ไกลกันนัก


“โอ้ยยยยยยยยย อะไรเนี่ยะ” เสียงหนึ่งดังขึ้น ที่โขดหิน หลังจากที่เปลือกหอยเจ้ากรรมกระดอนไปหา


“เฮ้ยยย โดนใครเข้าวะเนี่ยะ” พิษณุพึมพำออกมาเบาๆ


“ขะ ขอโทษครับ ผมไม่ได้ตั้งใจจริงๆ” พิษณุตะโกนบอกก่อนจะรีบเดินไปทางโขดหินนั้น


“ไม่ตั้งใจอะไรเล่า โดนหัวดังโป๊กเนี่ยะ” เจ้าของเสียงที่โวยวายลุกขึ้นยืน แล้วแผดเสียงมาทางพิษณุ ด้วยท่าทางเอาเรื่อง


และเมื่อพิษณุเห็นเจ้าของเสียงที่โวยวายออกมานั้น ชายหนุ่มก็ยืนตะลึงด้วยความประหลาดใจ ส่วนอีกฝ่ายเอง เมื่อมองมายังเจ้าของเปลือกหอยที่เธอถืออยู่ในมือ ก็ถึงกับเปิดตากว้าง มองเค้าด้วยอาการตกใจสุดๆ


“นาย...........นายมาได้ไงเนี่ยะ” พาสนาชี้มือไปทางพิษณุ เธอร้องโวยออกมาอย่างไม่อยากเชื่อสายตา


“แล้วเธอมาได้ยังไง” พิษณุเองก็ประหลาดใจไม่แพ้กัน


“โอ้ยยยยย ว่าแล้วทำไมถึงซวยแต่เช้า....” พาสนาร้องโอดโอยออกมาเมื่อเห็นหน้าชายหนุ่ม


“นี่ให้มันน้อยๆ หน่อยนะ” พิษณุขมวดคิ้วเข้มมองอีกฝ่าย


“แล้วนี่มาได้ไงเนี่ยะ แอบตามฉันมาหรอ” พาสนาขมวดคิ้วยุ่งร้องถามอีกฝ่ายด้วยท่าทางไม่พอใจ


“จะบ้าหรอ ฉันต่างหากที่ต้องถามเธอ ทำไมหรอ.....ยังติดใจเรื่องเมื่อเช้ามืดอยู่รึไง ถึงตามฉันมาถึงนี่” พิษณุแกล้งถามสีหน้ายิ้มๆ


“ไอ้บ้า........ใครเค้าไปคิดอะไรบ้าๆ แบบนาย” พาสนารู้สึกโกรธขึ้นมาทันทีที่พิษณุพูดถึงเรื่องเมื่อเช้ามืดระหว่างเธอกับเค้า


“คิดบ้าๆ คิดแบบไหนที่เรียกว่า บ้าๆ หึ” พิษณุเดินเข้าไปใกล้พาสนาอีก เค้าร้องถามเธอสีหน้ายิ้มๆ


“คิดแบบ.......ก็คิดแบบนายไง” พาสนาโต้กลับน้ำเสียงขุ่น


“แบบฉัน แบบไหนล่ะ บอกหน่อยซิ” พิษณุหยุดยืนตรงหน้าของพาสนา เค้าร้องถามเธอสีหน้ายิ้มกริ่ม


“ไม่ต้องมาใกล้ฉันนะ ออกไป” พาสนาใช้มือของเธอผลักเค้าออก เธอไม่อยากจะไว้ใจผู้ชายคนนี้เลยจริงๆ เพราะทุกครั้งที่เค้าเข้าใกล้เธอทีไร มักจะมีเรื่องเสมอ และเธอเองก็รู้สึกแปลกชอบกล มันสั่นๆ แบบที่ไม่เคยเป็นมาก่อน


“เอ ทำไม แค่ฉันมายืนใกล้ๆ ต้องทำหน้าแดงด้วยหรอ” พิษณุแกล้งพูดว่าอีกฝ่าย


“แดงที่ไหน มั่วแล้ว ฉันโดนแดดหรอก” พาสนายกมือจับแก้มของเธอ ก่อนจะโวยกลับ


“หึหึหึ...........ร้อนตัว” พิษณุมองพาสนา เค้ายิ้มขำๆ ออกมา เมื่อดูท่าทางเธอจะระวังตัวจัด


“กวนประสาท” พาสนาขมวดคิ้วต่อว่าอีกฝ่าย ก่อนจะทำท่าเดินหนีเค้า


“จะไปไหน” พิษณุรีบคว้ามือพาสนาเอาไว้


“เฮ้ยยย ปล่อยนะ” พาสนาเองก็รีบหันมาสะบัดมือเธอทันที ที่โดนอีกฝ่ายจับเอาไว้


“ก็ถามว่าจะรีบไปไหน” พิษณุถามกลับอีกครั้ง


“ฉันจะกลับรีสอร์ท ป่านนี้.........ยาย่าคงตามหาแย่แล้ว” พาสนาตอบชายหนุ่มด้วยใบหน้ากวนๆ


“ยาย่ามาด้วยหรอ” พิษณุขมวดคิ้วถาม


“ใช่ เรามาพักผ่อนตากอากาศกัน เพื่อหนีนักข่าว และก็.........แต่ก็คงหนีไม่พ้นแล้ว” พาสนาพูดจบก็มองชายหนุ่ม


“มาพักตากอากาศหรอ” พิษณุขมวดคิ้วยุ่ง


“อืมมม คิดดูซิ อากาศดีๆ บ้านพักสวยๆ โรแมนติกออก” พาสนายังคงพูดด้วยสีหน้ายิ้มระรื่น


 

โดย: kokoo_129 16 ตุลาคม 2552 20:11:09 น.  

 



พาสนายื่นหน้ายิ้มให้ชายหนุ่มเมื่อเห็นสีหน้าที่ยุ่งๆ ของเค้า เธอยิ้มเย้ยๆ ใส่เค้า เพื่อยั่วประสาทอีกฝ่ายเล่น


พิษณุเองก็รู้สึกหมั่นไส้กับท่าทางของพาสนาไม่น้อย และยิ่งเธอพยายามแสดงให้เค้ารู้ว่าเธอมาที่นี่เพื่อสวีทกับอรินยา ชายหนุ่มก็ยิ่งรู้สึกทั้งหมั่นไส้ และโมโหไม่น้อย


“เอ ไม่รู้ว่าป่านนี้ยาย่าจะจัดของเสร็จรึยังนะ ฉันขอตัวไปหายาย่าก่อนนะ” พาสนาพูดจบก็ยักคิ้วให้ชายหนุ่ม ด้วยสีหน้าเย้ยๆ ตามแบบของเธอ ก่อนจะเดินหันหลังให้เค้า


“เดี๋ยวซิ...” พิษณุรีบเดินตามพาสนาไปติดๆ


“นี่จะตามมาทำไม...” พาสนาหันมาทำเสียงดุใส่ชายหนุ่มที่กำลังเดินตามเธอมาติดๆ


“ก็เออออ.....” พิษณุมีอาการอ้ำอึ้งชั่วครู่


“ฉัน ฉันก็จะไปหายาย่าไง ให้มากับเธอแค่สองคน ไม่น่าไว้ใจเล้ยยย” ชายหนุ่มตอบน้ำเสียงตะกุกตะกักเล็กน้อย


“ชริ.......” พาสนาจ้องเค้าด้วยแววตาขุ่น ก่อนจะสะบัดหน้าเดินกลับบ้านพักด้วยอาการไม่พอใจ ที่ชายหนุ่มเดินตามเธอมา


พิษณุมองคนที่เดินนำหน้าเค้าด้วยสีหน้ายิ้มๆ เค้าค่อยๆ เดินตามเธอไปยังบ้านพักหลังสวยริมหาดฝั่งขวาของรีสอร์ทสวย...พิษณุมองรีสอร์ทที่พาสนาเข้าพัก ชายหนุ่มอมยิ้มออกมาอย่างชอบใจ


“เธอพักที่นี่หรอ” พิษณุกล่าวถามพาสนาด้วยสีหน้ายิ้มๆ


“ทำไม มีปัญหาอะไร” พาสนาไม่ได้ตอบคำถามของเค้า แต่เธอกลับหันมาถามกลับด้วยสีหน้าเอาเรื่อง


“ป่าวๆ แค่ถามดู”พิษณุโบกมือปฏิเสธพร้อมพูดยิ้มๆ


“ยุ่งไม่เข้าเรื่อง” พาสนาบ่นอุบใส่ชายหนุ่ม ก่อนจะเดินขึ้นไปยังบ้านพักของเธอ


“ปลาหายไปไหนมาคะ” เสียงหวานๆ ดังขึ้นก่อนที่ร่างบางจะเดินออกมาจากภายในบ้านพัก


อรินยารีบออกมาหาพาสนา พร้อมร้องถามน้ำเสียงหวานอ้อนๆ เธอรีบเดินเข้ามาเกาะแขนพาสนาพร้อมส่งยิ้มหวานให้เธอ.....พิษณุที่เดินตามมาด้านหลังมองการกระทำของอรินยาด้วยแววตาอึ้งๆ


พาสนารู้สึกตกใจเล็กน้อยที่อรินยาวิ่งเข้ามากอดแขนเธอ แต่เมื่อเธอนึกได้ว่าพิษณุกำลังเดินตามเธอมาติดๆ พาสนาจึงยิ้มหวานให้อรินยา และยกแขนของเธอโอบไหล่อรินยาเอาไว้


“ปลาไปเดินเล่นมาฮะ” พาสนาพูดด้วยสีหน้ายิ้มกับอรินยา


หญิงสาวชำเลืองมองมือของพาสนาที่ตอนนี้มันกำลังวางอยู่บนไหล่ของเธอ ด้วยสีหน้ายิ้มระรื่น มือสวยของเธอยกขึ้นจับมือพาสนาที่คล้องคอเธออยู่ด้วยอาการดีใจ


“แล้วทำไมไม่ชวนยาย่าไปด้วยล่ะคะ ใจร้ายจัง” อรินยาแกล้งพูดต่อว่าพาสนาด้วยน้ำเสียง และสีหน้าอ้อน


“ก็ปลาเห็นยาย่ากำลังจัดของอยู่ ก็เลยไม่อยากกวนนิฮะ ว่าแต่จัดของเหนื่อยมั้ย ดูซิเหงื่อออกเลย มาปลาเช็ดให้นะ” พาสนาพูดพร้อมยิ้มให้อรินยา เธอใช้มืออีกข้างที่ว่างอยู่หยิบผ้าเช็ดหน้าในกระเป๋ากางเกงออกมาก่อนจะใช้มันซับเหงื่อที่หน้าผากของอรินยา


สาวสวยมียิ้มหวานให้กับพาสนา ใบหน้าของเธอเป็นสีชมพูอ่อนทันทีที่พาสนาทำแบบนี้กับเธอ นี่เป็นครั้งแรกที่พาสนาทำแบบนี้ อรินยารู้สึกทั้งอาย และมีความสุขไปพร้อมๆ กัน


พิษณุยืนมองคนทั้งคู่ทางด้านหลัง ชายหนุ่มขมวดคิ้วยุ่ง ดวงตาแสดงให้เห็นถึงความโกรธที่มีอยู่


“อ้าวณุ มาได้ยังไงคะ...” อรินยาหันมาเห็นพิษณุที่ยืนมองเธอกับพาสนาอยู่ด้วยอาการประหลาดใจ


เมื่ออรินยาพูดจาทักทายพิษณุ พาสนาจึงปล่อยมือจากไหล่ของอรินยา เธอยังคงยืนหันหลังให้เค้า..


“นึกว่ายาย่าจะไม่เห็นผมซะแล้วนะครับ” พิษณุตอบหญิงสาวน้ำเสียงเคืองๆ


“โธ่ณุ งอนอะไรยาย่าคะ” อรินยาพูดยิ้มๆ


“ก็ยาย่าทำเป็นมองไม่เห็นผมเลยนี่นา” พิษณุตอบสาวสวย แต่สายตาเค้ากลับมองไปทางพาสนาที่ยืนทำเป็นไม่สนใจเค้า


“แหม ก็ยาย่าไม่เห็นจริงๆ นี่คะ ว่าแต่.........ณุมาที่นี่ได้ยังไงกันคะ” อรินยาถามพิษณุน้ำเสียงหวาน


“พอดีโครงการที่นี่มีปัญหานิดหน่อย ผมเลยต้องมาสะสางนิดหน่อยหน่ะ” พิษณุตอบหญิงสาวถึงเหตุผลที่เค้ามาที่นี่


“อ้อค่ะ...” อรินยาพยักหน้าเบาๆ รับ


“มาสร้างความวุ่นวายซิไม่ว่า” พาสนาพูดออกมาลอยๆ เธอทำเป็นไม่มองชายหนุ่มที่ยืนอยู่ด้านหลังของเธอ


“.........” พิษณุจ้องมองหญิงสาวที่กำลังพูดกระทบเค้าด้วยสีหน้า และแววตาขุ่น


“แล้วณุพักที่ไหนคะ” อรินยา ชวนพิษณุคุยต่อ เพื่อป้องกันการมีโอกาสพูดจาเถียงกันระหว่างพิษณุ และพาสนา


“ที่นี่ล่ะครับ” พิษณุตอบยิ้มๆ


“หะ...” พาสนาหันหลังกลับมามองชายหนุ่ม สีหน้าของเธอแสดงอาการไม่พอใจออกมา


“ก็ที่นี่มันเป็น 1 ในหลายๆ โครงการของผมนี่ครับ อย่าบอกนว่ายาย่าจำไม่ได้” พิษณุถามกลับสีหน้ายิ้มๆ


“อืมมมมม จริงด้วย” อรินยาทำท่าครุ่นคิดชั่วครู่ แล้วหญิงสาวก็ทำท่าคิดออกขึ้นมา


“ทำไมโลกมันกลมงี้วะ” พาสนาบ่นออกมาเบาๆ ก่อนจะเดินไปนั่งที่เก้าอี้ที่ตั้งอยู่ในส่วนระเบียงบ้าน


“ยาย่ามากันแค่สองคนเองหรือครับ” พิษณุถามอรินยาด้วยความอยากรู้ เค้าชะโงกหน้ามองไปในบ้านพัก


“เปล่าหรอกคะ มากับปุ่น แล้วก็คุณ....คุณ....เค้าชื่ออะไรนะคะปลา” อรินยาหันไปถามพาสนาที่นั่งอยู่ตรงเก้าอี้ไม่ไกลนัก


“ตุ้มเม้ง...” พาสนาตอบสีหน้าเรียบ แฝงด้วยความเครียดอยู่


“ค่ะๆ กับคุณตุ้ม” อรินยาหันมาตอบชายหนุ่มพร้อมรอยยิ้ม


พิษณุฟังคำตอบจากอรินยา ชายหนุ่มยิ้มออกมาอย่างไม่รู้ตัว เค้ามองไปทางพาสนาที่ตอนนี้นั่งหันหน้าไปทางชายหาดด้วยสีหน้าหงุดหงิดเล็กๆ ที่ชายหนุ่มรู้ว่าเธอไม่ได้มากับอรินยาเพียงลำพัง


“แล้วพักยังไงกันครับ บ้านหลังนี้มีห้องนอนแค่ 2 ห้องเองนะครับ” พิษณุกล่าวถามด้วยสีนหน้าสงสัย


“ก็ปลาเค้าจัดให้แล้ว ว่าให้ยาย่า กับปุ่นพัก 1 ห้อง ส่วนปลาอยู่อีกห้องค่ะ” อรินยาตอบชายหนุ่มตามความจริง


“แล้ว.........หนุ่มคนนั้นล่ะ นอนที่ไหน” พิษณุถามถึงปัฐวี


“อ้อ ปลาให้เค้านอนที่โซฟาค่ะ” อรินยาตอบพร้อมกับรอยยิ้ม


“หรือครับ...” พิษณุพยักหน้ารับเบาๆ เค้าแอบอมยิ้ม แล้วมองไปยังคนที่ทำเป็นไม่ได้สนใจเค้า


 

โดย: kokoo_129 16 ตุลาคม 2552 20:14:32 น.  

 



“เฮ้ย หายหัวไปไหนมาวะปลา” ปัฐวีเดินออกมาจากบ้านพักเมื่อได้ยินเสียงพาสนาคุยกับอรินยาเมื่อสักครู่


ชายหนุ่มเดินออกมามองหน้าพาสนา แล้วเค้าก็ต้องหันไปเห็นพิษณุที่ยืนอยู่กับอรินยา ปัฐวีจ้องมองพิษณุด้วยสีหน้าสงสัย...


“นัดกันไว้หรือวะ” ชายหนุ่มเดินเข้าไปถามพาสนาใกล้ๆ


“นัดบ้าอะไรล่ะ ฉันอยากจะหนีให้พ้นๆ จะแย่แล้ว” พาสนาขมวดคิ้วบอกกับปัฐวีเสียงขุ่น


“อ้าว คุณณุมาได้ไงคะ” ปัญจรีที่เดินออกมาจากภายในบ้านพักอีกคน มีสีหน้าประหลาดใจไม่น้อยที่เห็นพิษณุยืนอยู่ที่หน้าระเบียงบ้าน


“สวัสดีครับคุณปุ่น..” พิษณุกล่าวทักทายหญิงสาวสีหน้ายิ้มๆ


“ผมมาติดต่องานครับ บังเอิญจริงๆ นะครับที่มาเจอพวกคุณที่นี่ได้” พิษณุพูดสีหน้ายิ้ม เค้าจ้องมองไปทางพาสนาด้วยรอยยิ้มมุมปาก


“โลกมันกลมจริงๆ ด้วยวุ้ย” ปัฐวีมองพิษณุพูดแล้วต้องรู้สึกขำๆ กับเรื่องบังเอิญที่เกิดขึ้นนี้


“ว่าแต่ นี่ทานอาหารเช้ากันรึยังครับ” พิษณุร้องถามอรินยา


“อ้อ ยังเลยคะ” ปัญจรีรีบตอบแทนเพื่อนรักด้วยน้ำเสียงสดใส


“งั้นดีเลยครับ มื้อนี้ผมเลี้ยงเองแล้วกัน” พิษณุเสนอตัวเลี้ยงอาหารเช้ากับทุกคน


“แหวะ....” พาสนาทำหน้าเบ้ แล้วมองไปทางชายหาด


“แหวะเนี่ยะ ไม่กินใช่มะ” ปัฐวีกระซิบถามพาสนา


“เอออ......ฉันไม่กิน” พาสนาตอบน้ำเสียงขุ่น


“ลดความอ้วนรึไงไม่กินข้าวเนี่ยะหะ” ปัฐวีร้องถามด้วยความสงสัย


“ป่าว แต่ไม่อยากกิน” พาสนาพูดจบก็ลุกขึ้น แล้วเดินเข้าไปในบ้านพัก สร้างความงุนงงให้กับปัญจรี และอรินยาว่า พาสนาเป็นอะไรไป


“ปลาคะ ปลา....” อรินยาเดินตามพาสนาเข้าไปในบ้านพักเพื่อดูว่าพาสนาเป็นอะไร


“นี่ นายไปว่าอะไรคุณปลาหะ เค้าถึงได้เดินเข้าไปในบ้านแบบนั้นอ่ะ” ปัญจรีหันมาถามปัฐวีเสียงสูง


“อ้าว โทษอะไรผมล่ะ ไอ้ปลามันก็งี้ล่ะ นึกจะไปไหนมันก็ไป” ปัฐวีตอบหญิงสาวด้วยน้ำเสียงขุ่นเมื่อโดนเธอยัดเยียดข้อกล่าวหาให้


พิษณุยืนมองไปในบ้าน เพื่อดูว่าอรินยา และพาสนาเข้าไปพูดคุยอะไรกัน...


พาสนาเดินเข้ามาในห้องพักของเธอ..แต่ยังไม่ทันไร อรินยาก็เดินตามมาติดๆ


“ปลาคะ เป็นอะไรไปคะ ไปทานอาหารเช้ากันนะคะ” อรินยาร้องถามพาสนาน้ำเสียงหวาน


“ปลาไม่หิว” พาสนาตอบสีหน้าเรียบ


“อ้าว....” อรินยาจ้องมองพาสนาด้วยความรู้สึกไม่เข้าใจ


“ยาย่าไปทานเถอะ พอดีปลาอยากจะนอนพักหน่อยอ่ะ เมื่อคืนนอนน้อยไปนิด” พาสนาบอกกับอรินยา


“ปลาจะนอนหรอคะ” อรินยาถามย้ำอีกครั้ง


“อืมมม ปลาอยากนอนพักสักหน่อย ยาย่าไปทานข้าวกับคนอื่นเถอะฮะ” พาสนาพยักหน้าเบาๆ ให้


“แต่....” อรินยาทำท่าอิดออดเมื่อพาสนาไม่ไปเธอก็ไม่อยากจะไปเช่นกัน


“ยาย่าไปทานข้าวเถอะฮะ จะได้หายไวๆ “ พาสนารู้ดีว่าอรินยามีอาการอยากอยู่กับเธอมากกว่า เธอจึงบอกกับอรินยาไปทานข้าวกับคนอื่นๆ


“ยาย่า คุณปลาคะ ไปทานข้าวกันเถอะค่ะ” ปัญจรีที่เห็นสองสาวหายเข้ามานานแล้วจึงรีบเข้ามาดูว่าทั้งคู่คุยอะไรกันอยู่


“ปุ่น ปลาไม่ยอมไปทานข้าวอ่ะ” อรินยาหันไปบอกกับปัญจรีสีหน้างอนๆ


“อ้าวทำไมล่ะคะ” ปัญจรีถามพาสนาด้วยท่าทางสงสัย


“พอดีปลาอยากนอนพักฮะ คุณปุ่น กับยาย่าไปทานเลยนะฮะ” พาสนาตอบสองสาวน้ำเสียงเรียบ


“อ้อ งั้นพักตามสบายค่ะ แล้วเดี๋ยวปุ่นให้พนักงานรีสอร์ท เอาอาหารมาให้นะคะ” ปัญจรีพูดจบก็ยิ้มหวานให้พาสนา


“ขอบคุณฮะ” พาสนายิ้มรับ


“งั้นเราไปกันเถอะยาย่า” ปัญจรีหันมาพูดกับอรินยา พร้อมจูงมือเธอเพื่อพาเดินออกจากห้องของพาสนา


“แต่...” อรินยายังคงไม่อยากจะออกไป เธอหันมองมาทางพาสนาอีกครั้ง


“ไปเถอะ ปลาเค้าจะนอน จะกวนเค้าทำไม” ปัญจรีบอกกับเพื่อนรัก แล้วพาเธอเดินออกจากห้อง


พาสนามองสองสาวที่เดินออกไป เธอถอนหายใจออกมาเบาๆ ก่อนจะล้มตัวลงนอนกับที่นอนนุ่ม สีขาวสะอาดของรีสอร์ท.....


“ว่าไงครับ” พิษณุที่ยืนรออยู่ข้างนอก ร้องถามปัญจรีทันทีที่เห็นเธอเดินออกมากับอรินยา


“อ้อ ปลาเค้าอยากนอนพักค่ะ เค้าให้พวกเราไปทานก่อน” ปัญจรีตอบพิษณุถึงเรื่องของพาสนา


“งั้นไปกันเถอะครับหิวแล้ว” ปัฐวียกมือลูบท้องไปมาแสดงอาการหิวของเค้าให้ทุกคนรู้


“ครับ เชิญครับ” พิษณุบอกกับทุกคน แล้วชวนทุกคนเดินไปทางห้องอาหารของรีสอร์ท.....แต่ชายหนุ่มก็ไม่วายจะหันมองกลับไปยังบ้านพักอีกครั้ง


เมื่อเห็นหน้าของพิษณุ ก็ทำให้พาสนาคิดได้ถึงข่าวของวันนี้............เธอรู้สึกหนักใจอย่างมากที่หนีปัญหามาที่นี่ ไม่รู้ว่า ป่านนี้มารดาของเธอจะเป็นอย่างไรบ้าง จะรู้สึกยังไงกันนะ.......
.
.
.
“โอ้ยยยยยยยย นี่มันอะไรกันนนนน มันอะไรกันนนนนน” เสียงโวยดังลั่นขึ้น พร้อมกับร่างของหญิงวัยกลางคนที่ลงไปนั่งกองกับเก้าอี้ ในมือของท่านมีหนังสือพิมพ์ฉบับเช้านี้


“ป้าสุคะ เป็นอะไรไปคะ” แมงปอวิ่งออกมาดูคุณสุที่ร้องเสียงหลงเมื่อสักครู่


“ขะ....ขอยาดมหน่อยแมงปอ ขอยาดม” คุณสุบอกกับแมงปอ ด้วยสีหน้าซีด เหมือนคนกำลังจะเป็นลม


“นี่คะป้าสุ” แมงปอรีบหยิบยาดมส่งให้คุณสุอย่างรวดเร็ว


“ป้าสุเป็นอะไรไปคะ” แมงปอร้องถามคุณสุด้วยความเป็นห่วง


“ก็ดูซิ ดู พี่ปลาของแก มันทำเรื่องอีกแล้ว” คุณสุ ส่งหนังสือพิมพ์ให้แมงปอดู พร้อมกับพูดด้วยน้ำเสียงเคืองๆ


แมงปอรับหนังสือพิมพ์ขึ้นมาดู แล้วสาวน้อยก็ต้องรู้สึกตกใจไม่น้อยเช่นกัน


“ฉันทำเวร ทำกรรมอะไรไว้นะ ถึงได้มีลูกแบบนี้ ทำไมมันสร้างเรื่องได้ทุกวัน โอ้ยยยยยยย.......” คุณสุบ่นโวยวายออกมาอีกครั้ง ก่อนจะยกยาดมในมือขึ้นสูดดมอีกหลายต่อหลายครั้ง


“ป้าสุใจเย็นๆ นะคะ มันอาจไม่มีอะไรก็ได้” แมงปอพยายามพูดปลอบใจคุณสุ


“ไม่มีอะไรกันหะ.........ดูซิรูปลงขนาดนี้ แถมไอ้ตัวดีมันรู้ตัวด้วยนะ ถึงได้หนีไปเที่ยวกะทันหันอย่างนี้ ฉันว่าแล้วว่าทำไมมันถึงรีบไปนัก” คุณสุบ่นออกมาอย่างเจ็บใจ


“พี่ปลาไปไหนคะป้าสุ” แมงปอที่ไม่รู้เรื่องรู้ราวร้องถามสีหน้าสงสัย


“ไม่รู้ เห็นมันบอกว่าจะไปพักผ่อนตากอากาศอะไรเนี่ยะล่ะ ดีนะที่ฉันให้เจ้าตุ้มมันตามไปด้วย ไม่งั้นไม่รู้นัดไอ้หนุ่ม อีสาวไหนไปอีก โอ้ยยยยยย ถ้ามันกลับมานะ ตายยยยย” คุณสุร้องโวยวายอีกครั้ง


“ใจเย็นๆ ค่ะป้าสุ” แมงปอได้แต่พูดปลอบใจคุณสุ


“โอ้ยยยย....” คุณสุได้แต่พร่ำบ่นโวยออกมาอีกครั้ง ก่อนจะยกยาดมขึ้นสูด


 

โดย: kokoo_129 16 ตุลาคม 2552 20:18:42 น.  

 



“อุ้ย!!!~ ตายแล้วคุณ” คุณจินตนาซึ่งนั่งอยู่ที่โต๊ะอาหารร้องอุทานออกมาเสียงหลง


“อะไรกันคุณจิน ร้องเสียงดังเชียว” คุณกรุงถามภรรยาด้วยความสงสัย


“ก็ดูนี่ซิค่ะคุณ ดู...” คุณจินตนารีบส่งหนังสือพิมพ์ให้สามีของท่านดูข่าวในหนังสือพิมพ์


“อะไรกันคุณ” คุณกรุงรับหนังสือพิมพ์จากภรรยา มากางอ่าน


“เห็นทีจะได้ยินเสียงระฆังลั่นวิวาห์เป็นแน่แล้ว ระหว่างหนุ่มนักธุรกิจเนื้อหอมในหมู่สาวน้อยสาวใหญ่ไฮโซ กับสาวนักร้องมาดเท่ห์แห่งผับ Ninety Eight ขนาดควงกันไปเยี่ยมสาวไฮโซที่โรงพยาบาล สวีทหวานหยดจนมดเรียกพี่...” คุณกรุงอ่านข่าวที่ตีพิมพ์ในหนังสือพิมพ์ด้วยท่าทางอึ้งๆ


“นี่มันอะไรกันคะเนี่ยะ ตาณุเค้าทำอะไรของเค้าคะ” คุณจินตนาบ่นโวยออกมาหลังจากที่คุณกรุงอ่านข่าวจบ


“..........” คุณกรุงไม่ตอบอะไร ท่านวางหนังสือพิมพ์ลงกับโต๊ะอาหาร สีหน้านิ่ง


“แล้วนี่จะตอบคำถามท่านฑูตยังไงดี” คุณจินตนายังคงบ่นไม่เลิก


“แล้วนี่ตาณุไปไหนล่ะ” คุณกรุงถามภรรยาน้ำเสียงนิ่ง


“ไปหัวหินค่ะ เห็นว่าโครงการที่โน้นมีปัญหาต้องให้เคลียร์นิดหน่อย” คุณจินตนาตอบสามี


“อืมม........” คุณกรุงนั่งนิ่งอีกครั้ง


“เราจะทำไงกันดีคะคุณ” คุณจินตนาร้องถามสามีสีหน้าเครียด


“มันอาจไม่มีอะไรก็ได้...” คุณกรุงตอบภรรยาสีหน้าเรียบ


“ไม่มีอะไรได้ยังไงคะ โอ้ยยย ตาณุ นะ ตาณุ” คุณจินตนาร้องโวยออกมา ก่อนจะหยิบหนังสือพิมพ์กลับไปเปิดดูอีกครั้ง
.
.
.
พิษณุพาอรินยา ปัญจรี และปัฐวี มาทานอาหารที่ห้องอาหารของรีสอร์ท....


พนักงานต่างเข้ามาต้อนรับ และคอยให้บริการอย่างดี


อีกมุมหนึ่งของห้องอาหาร มีชายคนหนึ่งที่กำลังนั่งอ่านหนังสือพิมพ์อยู่.....แล้วเค้าก็ชำเลืองมองมายังกลุ่มคนทั้ง 4 ด้วยแววตาบางอย่าง


ทุกคนต่างก็สั่งอาหารเช้าของตนเองตามชอบกับพนักงานบริการ...


“อืมม เดี๋ยวตอนกลับเราสั่งอาหารไปให้ปลาที่บ้านพักด้วยนะ” อรินยาพูดขึ้น


“จ๊ะ..” ปัญจรียิ้มรับ


“ไม่ต้องหรอกฮะ เดี๋ยวผมสั่งพนักงานเอาไปให้เอง” พิษณุกล่าวยิ้มๆ


“ก็ดีนะ พวกเราจะได้ไม่ต้องรีบมาก” ปัญจรีเห็นด้วยกับพิษณุ


“อืมม ทุกคนทานอาหารกันไปก่อนนะครับ เดี๋ยวผมขอตัวสักครู่จะไปคุยงานกับผู้จัดการซักหน่อย ตามสบายนะครับ” พิษณุบอกกับทุกคน ขณะที่อาหารถูกยกมาเสริฟ


“ค่ะ” อรินยาตอบพร้อมยิ้มให้เค้า


“คุณตุ้ม ตามสบายนะครับ” พิษณุหันไปบอกกับปัฐวีที่ดูจะนั่งนิ่งไม่พูดไม่จา


“เอออ ครับ” ปัฐวียิ้มรับบางๆ ให้พิษณุ


ชายหนุ่มลุกขึ้นจากโต๊ะอาหาร แล้วเดินออกไปทางเคาน์เตอร์ เพื่อสั่งอะไรบางอย่างกับพนักงานประจำห้องอาหาร..... แล้วเค้าก็เดินออกไปด้านนอกของห้องอาหารนั้น


ชายคนที่นั่งอยู่โต๊ะด้านริมของห้องอาหารเห็นพิษณุเดินออกไป เค้าก็ลุกขึ้น แล้วเดินตามชายหนุ่มออกไปเช่นกัน...


พิษณุออกมานั่งที่ล๊อบบี้ด้านหน้าของรีสอร์ท......เค้าหยิบหนังสือพิมพ์ฉบับวันนี้ขึ้นมาอ่าน แล้วชายหนุ่มก็ต้องนิ่งเงียบไปกับเนื้อหาของข่าวเช้านี้ ระหว่างที่พิษณุกำลังอ่านข่าวด้วยความสนใจอยู่นั้น พนักงานของรีสอร์ทก็เดินตรงมาหาเค้า


“คุณณุคะ ที่สั่งไว้ได้แล้วค่ะ ไม่ทราบว่าจะให้จัดส่งไปที่ไหนคะ” พนักงานของห้องอาหารนำถาดอาหารออกมาหาพิษณุที่นั่งรออยู่ที่ล๊อบบี้ของรีสอร์ทด้านหน้า


“เอาไปที่บ้านพักทางด้านขวาสุดนะ...” พิษณุบอกกับพนักงานคนดังกล่าว


“ค่ะ” พนักงานรับคำสั่ง และเดินนำถาดอาหารไปส่งตามที่พิษณุบอกไว้


เมื่อพนักงานของห้องอาหารนำถาดอาหารเดินไปส่งที่บ้านพักด้านขวาตามคำสั่ง พิษณุก็ลุกขึ้นจากเก้าอี้ที่นั่ง แล้วค่อยๆ เดินตามพนักงานคนดังกล่าวไป...


เมื่อเดินมาจนถึงบ้านพัก พิษณุก็เรียกพนักงานของห้องอาหารเอาไว้ทันที


“เดี๋ยววางไว้ที่โต๊ะด้านหน้านี่ล่ะ” ชายหนุ่มกล่าวน้ำเสียงเรียบ


“ค่ะ..” พนักงานคนดังกล่าวหันมารับคำสั่ง ก่อนจะจัดการวางถาดอาหารเช้าไว้ที่โต๊ะด้านหน้าระเบียงของบ้านพัก


“ขอบคุณนะ” ชายหนุ่มกล่าวน้ำเสียงเรียบกับพนักงานที่นำอาหารมาเสริฟให้เค้า


“ค่ะ” พนักงานคนดังกล่าว ตอบรับ ก่อนจะเดินกลับไปยังห้องอาหารของรีสอร์ท


พิษณุหันมองพนักงานที่เดินกลับไป แล้วเค้าก็หันมองไปยังภายในบ้านพัก ด้วยความรู้สึกบางอย่าง...
.
.
.
พาสนานอนอยู่บนที่นอนนุ่ม.....เธอมองไปนอกหน้าต่างห้อง.......ท้องฟ้าสีฟ้าสดใส ปุยเมฆล่องลอยเป็นรูปต่างๆ ตามแต่คนมองจะจินตนาการเอา แต่เหมือนในเวลานี้พาสนาจะไม่มีกระจิตกระใจจินตนาการอะไรเลย


เมื่อนึกถึงเรื่องราวที่เธอวิ่งหนีมา มันทำให้เธอรู้สึกผิดลึกๆ ในใจ


“แม่.....” พาสนาพูดออกมาเบาๆ


ตอนนี้เธอกำลังคิดถึงคุณสุ ไม่รู้ว่าป่านนี้คุณสุจะอ่านข่าวแล้วรู้สึกยังไง จะโกรธมากแค่ไหน จะเสียใจขนาดไหนกัน ยิ่งคิดพาสนาก็ยิ่งรู้สึกผิดในใจมากขึ้น


“แม่ปลาขอโทษ”.” น้ำเสียงที่สั่นบ่งบอกให้รู้ว่าตอนนี้ภายในใจของพาสนามันกำลังปวดร้าวแค่ไหนที่ทำให้มารดาเสียใจ


ดวงตาคู่สวยปิดลง พร้อมกับหยดน้ำตาใสๆ ที่ไหลออกมา....


“ปลาขอโทษ....” พาสนาพูดออกมาอีกครั้ง น้ำเสียงที่เปล่งออกมามันสั่นเหลือเกิน


พิษณุเดินเข้ามาในห้อง เค้ามองพาสนาด้วยแววตาบางอย่าง... ชายหนุ่มมองพาสนาที่กำลังนอนร้องไห้ด้วยความรู้สึกเห็นใจเธอ เพราะข่าวที่เค้าอ่านเมื่อสักครู่ มันเกินกว่าที่เค้าคาดคิดไว้มากมายนัก


“หึ....ไม่ทันไรก็ร้องไห้แล้วหรอ ขี้แยเกินไปรึป่าว” ชายหนุ่มพยายามพูดน้ำเสียงเรียบ เพื่อทำให้อีกฝ่ายรู้ตัวว่าเค้าเข้ามายืนอยู่หน้าห้องของเธอแล้ว


เมื่อได้ยินเสียงของใครบางคนที่เธอไม่ประสงค์จะเจอในเวลานี้เข้า พาสนาก็ถึงกับสะดุ้ง เธอรีบยกมือขึ้นปาดน้ำตาที่แก้มออก แล้วลุกขึ้นหันมองเค้าด้วยแววตาขุ่น ไม่พอใจ


“เข้ามาได้ไง” น้ำเสียงของเธอดุ และดังเอาเรื่อง


“ก็เดินเข้ามา” พิษณุตอบสีหน้าเรียบ


“ไร้มารยาท...นี่หรือที่คนดีๆ เค้าทำกัน” พาสนายังคงโวยวายไม่หยุด


“นี่ๆ น้อยหน่อย ฉันยังไม่ได้ทำอะไรเลยนะ” พิษณุโต้กลับ


“ออกไปเลย....ฉันไม่อยากเห็นหน้านาย” พาสนาลุกขึ้น แล้วเดินตรงไปหาพิษณุ เพื่อไล่เค้าออกจากห้องของเธอ


.

 

โดย: kokoo_129 16 ตุลาคม 2552 20:21:57 น.  

 


“อะไรกันเล่า...เฮ้ยๆๆๆ” พิษณุร้องออกมาเมื่อโดนพาสนาใช้มือผลักเค้าออกจากหน้าห้องของเธอ


“ออกไป...ไปให้พ้นๆ เลยไป ฉันไม่อยากเห็นหน้านาย” พาสนาพูดออกมาด้วยน้ำเสียงฮ้วน....


พิษณุจ้องมองหน้าของอีกฝ่าย ที่ตอนนี้ยังคงมีร่องรอยของน้ำตาที่เธอได้ปล่อยมันออกมาก่อนที่จะเห็นเค้า........ดวงตาสีแดงของอีกฝ่าย มันทำให้พิษณุรู้สึกแปลบๆ ในใจพิกล


“ร้องไห้ทำไม” พิษณุพูดขึ้น ด้วยน้ำเสียงนิ่ง


“ใครร้อง อย่ามามั่ว......” พาสนาตอบปฏิเสธเสียงแข็ง


“ตาแดงขนาดนี้ ยังจะมาเถียงอีก” ชายหนุ่มจ้องมองดวงตาของพาสนา


พาสนารีบหลบตาของเค้าทันที เธอมองไปทางอื่นแทน เพื่อไม่ให้พิษณุเห็นร่องรอยความอ่อนแอในดวงตาของเธอ...


“รู้ดี.......ฉันง่วงนอนหรอก” พาสนายังคงตอบปฏิเสธอยู่เช่นเดิม


“หึ...ปากแข็งจริงๆ นะ” พิษณุออกเสียงหัวเราะในลำคอเบาๆ ก่อนจะบอกกับเธอด้วยสีหน้ารู้ทัน


“เรื่องของฉัน ออกไปๆ” พาสนาหันมาโวยใส่พิษณุอีกครั้ง เธอใช้มือของเธอผลักที่อกของเค้าเพื่อให้เค้าออกจากห้องของเธอ


“นี่.......” พิษณุจับมือของพาสนาที่ผลักอกเค้าเอาไว้


“จะพูดดีๆ กันสักครั้งไม่ได้หรือไง” ชายหนุ่มร้องถามพาสนา น้ำเสียงของเค้าดูเปลี่ยนไป มันอ่อนโยนลงกว่าที่เคย


“ไม่.....ฉันไม่มีอะไรจะคุยกับนาย” พาสนายังคงตอบกลับเสียงแข็ง เธอดึงมือของเธอออกจากมือของพิษณุ


ชายหนุ่มกำมือของอีกฝ่ายไว้แน่น......เค้าไม่ยอมปล่อยมือของเธอ


“ปล่อยยย....” พาสนาโวยออกมาเมื่อเห็นว่าพิษณุไม่ยอมปล่อยมือของเธอ


“ก็คุยกันดีๆ ก่อนซิ” พิษณุยังคงพูดกับเธอด้วยสีหน้า และน้ำเสียงที่อ่อนโยนลง


“ไม่ๆๆๆๆ เข้าใจมั้ยว่า ไม่” พาสนายังคงโวยวายไม่เลิก เธอตะเบ็งเสียงใส่เค้าพร้อมกับดึงมือกลับ


“อืมมมม ทำตัวดีๆ ซิ” พิษณุยังคงไม่ยอมปล่อยมือง่ายๆ เค้าพยายามจะทำให้พาสนาคุยกับเค้าดีๆ ให้ได้


“บอกว่าไม่ไง ฟังภาษาคนไม่รู้เรื่องรึไง” พาสนาตะคอกใส่อีกฝ่าย เธอพยายามดึงมือของเธอออกจากมือของพิษณุ


“ปล่อยยยย...” พาสนาดึงมือของเธอจากมือพิษณุอย่างสุดแรงที่เธอมี


ด้วยแรงดึงจากพาสนา ทำเอาพิษณุเสียหลัก.........ตัวเธอเองก็พลอยเสียหลักไปด้วย เพียงเสี้ยววินาทีที่เกิดขึ้น ร่างของพาสนาล้มลงกับพื้น โดยที่ตัวพิษณุเองก็ล้มลงตามเช่นกัน


พาสนาล้มลงไปนอนกับพื้น พิษณุเองก็พลอยเสียหลักตามแรงดึงของพาสนาเมื่อสักครู่ ชายหนุ่มล้มตามลงไป ........เพียงวินาทีที่เกิดขึ้น ที่ทั้งสองไม่ทันได้ตั้งตัว และไม่ได้ตั้งใจ


ริมฝีปากสวยสีชมพูอ่อน ต้องโดนริมฝีปากเรียวบางสัมผัส.........จุมพิตที่ไม่ได้ตั้งใจเกิดขึ้นอย่างรวดเร็ว ริมฝีปากสวย โดนริมฝีปากบางประกบอย่างที่ทั้งสองไม่ได้ตั้งตัว.....


เพียงสัมผัสอันรวดเร็ว สร้างความตกตะลึงให้กับทั้งสองอย่างมากมาย....โดยเฉพาะอย่างยิ่งกับพาสนา เธอถึงกับช๊อคตาค้าง ในความรู้สึกของเธอ มันเกิดอาการตกตะลึง


ดวงตากลมโตของเธอจ้องมองชายหนุ่มตรงหน้า ด้วยความรู้สึกตกประหม่า..........เธอรู้สึกมึนงง กับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น สัมผัสเมื่อครู่คืออะไรกัน อยู่ๆ เธอก็เกิดรู้สึกใจเต้นรัว ใบหน้าเริ่มร้อนผ่าวๆ


พิษณุจ้องมองใบหน้าสวยตรงหน้า เค้าเองก็คิดไม่ถึงว่าจะเกิดเรื่องแบบนี้ขึ้นมาได้.......เค้าเกิดรู้สึกแปลกประหลาดในใจ เสียงหัวใจของเค้ามันกำลังเต้นแรง นับจากได้สัมผัสกับริมฝีปากอ่อนนุ่มนั้น....


ชายหนุ่มจ้องมองใบหน้าสวยตรงหน้า มือของเค้าค่อยๆ โอบตัวเธอเอาไว้ และอยู่ๆ ใบหน้าของเค้าก็กำลังก้มลงต่ำอีกครั้ง อย่างตั้งใจ.........สัมผัสอ่อนนุ่มนั้นช่างยั่วยวนให้เค้าอยากลิ้มลองอีกสักครั้ง


พาสนาเองยังไม่หายตกตะลึง เธอยังคงอยู่ในอาการค้าง........กับสิ่งที่เกิดขึ้น จนกระทั้งใบหน้าของพิษณุกำลังก้มมาหาเธอ ลมหายใจอุ่นๆ ของเค้าทำเอาเธอร้อนผ่าวไปทั้งตัว


“อะ...ออกไป....” พาสนารีบผลักตัวชายหนุ่มออก


เธอรีบลุกขึ้นยื่น แล้วมองเค้าด้วยความรู้สึกหวาดๆ ใจเธอยังคงเต้นแรง ใบหน้าร้อนไปหมด และรู้ได้ถึงเนื้อตัวทีสั่น...


พิษณุเองก็รู้สึกว่าตัวเองผิดปกติไป เค้ารู้สึกควบคุมตัวเองไม่ได้ในช่วงเมื่อสักครู่....ชายหนุ่มลุกขึ้นยืนเช่นกัน เค้ารู้สึกว่า ทำตัวไม่ถูก มันเกิดอาการประหม่า


“คือ....” ชายหนุ่มเกิดอาการอ้ำอึ้ง


“ออกไปนะ ออกไป” พาสนาชี้มือไปที่ประตู แล้วพูดไล่เค้าให้ออกไปจากห้อง


“เดี๋ยวซิ ฉันอธิบายได้นะ คือ......” พิษณุอยากจะบอกกับพาสนาว่าเค้าเองไม่ได้ตั้งใจจะล่วงเกินเธอ แต่เพราะมันเป็นอุบัติเหตุต่างหาก แต่ดูท่าทางพาสนาจะไม่ยอมฟังเค้าซะแล้ว


“นายมันไว้ใจไม่ได้เลยสักนิด ออกไปเลยนะ ออกไป” พาสนายังคงชี้มือไล่เค้าไม่หยุด


“โอเคๆ ไม่ต้องตะโกนแล้ว” พิษณุยกมือขึ้น เค้าบอกับเธอด้วยสีหน้ายินยอมทำตามที่เธอต้องการทุกอย่าง


“ก็ออกไปซิ ออกไป” พาสนายังคงร้องไล่เค้าไม่หยุด


พิษณุถอนหายใจออกมาเบาๆ ก่อนจะยอมเดินออกจากห้องของพาสนาแต่โดยดี.....ทันทีที่ชายหนุ่มออกจากห้อง พาสนารีบวิ่งมาปิดประตูห้อง เธอล็อคห้องไว้อย่างแน่นหนา


ก่อนที่ตัวเธอเอง จะยืนพิงประตูห้อง ด้วยอาการแปลกๆ ที่เกิดขึ้น เธอยกมือกุมที่อกข้างซ้ายตรงตำแหน่งหัวใจ......มันกำลังเต้นเร็ว และรุนแรง ลมหายใจของเธอกำลังเร็วถี่ เหมือนจะหายใจไม่ทัน ใบหน้ายังคงแดงระเรื่อ


“ไอ้คนฉวยโอกาส” พาสนาพูดออกมาเมื่อคิดถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเมื่อสักครู่


“โอ้ยยย แล้วนี่เราเป็นอะไรไปเนี่ยะ “ พาสนาบ่นกับตัวเอง เมื่อรู้สึกว่า หัวใจของเธอมันไม่ยอมสงบเอาซะเลย


พิษณุที่ยืนนิ่งอยู่ด้านนอก........


เค้าได้แต่ยืนนิ่งอยู่อย่างนั้น อะไรบางอย่างกำลังสร้างความรู้สึกปั่นป่วนใจไม่หยุด ““..ชายหนุ่มไม่เข้าใจตัวเองเหมือนกันว่าเมื่อครู่มันเกิดอะไรขึ้น ทำไมเค้าถึงควบคุมตัวเองไม่อยู่ ทำไมเค้าถึงอยากจะกอดเธอ อยากจะ..............จูบเธอ


ชายหนุ่มเดินออกมาด้านนอกระเบียงบ้าน เค้าครุ่นคิดกับตัวเองอย่างหนัก กับสิ่งที่เกิดขึ้น เพราะอะไรกัน ทำไมกันนะ


ระหว่างที่พาสนากำลังนั่งเตือนสติตัวเองอยู่ในห้อง และพิษณุที่เดินออกมานั่งอยู่ตรงระเบียงด้านนอก ..........ชายที่เดินตามเค้ามาจากห้องอาหารได้ยืนดูเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นตั้งแต่พิษณุเข้าไปภายในบ้าน และเข้าไปหาพาสนา จนเกิดเหตุการณ์ที่ไม่คาดคิดนั้น เค้าได้เห็น ได้รับรู้ และ........ได้ถ่ายภาพเอาไว้หมดแล้ว


ชายคนนั้นก้มมองดูรูปในกล้องของเค้าอีกครั้ง ภาพพิษณุ กับพาสนาที่เกิดขึ้นหน้าห้องนอนของพาสนานั้นได้ถูกเก็บบันทึกไว้เรียบร้อย.....


พิษณุเดินกลับเข้าไปภายในอีกครั้ง เค้ายกมือเคาะประตูห้องพาสนา 2-3 ที


ก๊อก ก๊อก ก๊อก


“นี่....” พิษณุเคาะประตูเสร็จก็ร้องเรียกพาสนาที่อยู่ภายในห้อง


“อย่ามายุ่งกับฉัน” พาสนาโต้กลับน้ำเสียงขุ่น


“ฉันให้คนเอาข้าวเช้ามาส่งให้หน่ะ ออกมากินซิ” พิษณุบอกับพาสนาน้ำเสียงเรียบ


“ไม่กิน....บอกแล้วไงว่าไม่กิน” พาสนายังคงโต้กลับน้ำเสียงขุ่น


“ฉันขอโทษ...เมื่อกี้ฉันไมได้ตั้งใจ” พิษณุกล่าวน้ำเสียงเรียบ


“ไม่ต้องมายุ่งกับฉัน ไปให้พ้นๆ เลย ไป” พาสนาโต้กลับน้ำเสียงขุ่นเขียวหนักขึ้น


“นี่.......ฉันอุตส่าห์พูดด้วยดีๆ นะ” พิษณุเองก็เริ่มมีอารมณ์โกรธขึ้นมาบ้างแล้ว เมื่อพาสนาเอาแต่ตะคอกกับใส่เค้า


“ไม่ต้องมาพูดซิ ใครขอล่ะ” พาสนายังคงพูดจากฮ้วนๆ ยั่วโมโหอีกฝ่าย


“เอออ ตามใจ อยากจะอดตายก็ตามใจ หยิ่งมันเข้าไป” พิษณุเริ่มหงุดหงิดมากขึ้นเมื่อพาสนาไม่ยอมฟังเค้า


“เรื่องของฉัน” พาสนายังคงไม่ลดละ เธอยังคงอาการหัวแข็ง เสียงดังใส่อีกฝ่าย


“เอออ......ดี งั้นก็อยู่ในนั้นนั่นล่ะ” ชายหนุ่มพูดเสียงดังกลับบ้าง เค้าเดินออกมาจากหน้าห้องของพาสนาด้วยอาการหงุดหงิดมากขึ้น


 

โดย: kokoo_129 16 ตุลาคม 2552 20:26:25 น.  

 





“ยายเด็กบ้า....” ชายหนุ่มมีท่าทางหงุดหงิดเมื่อพาสนาไม่ยอมพูดดีๆ กับเค้า


“อยากทำอะไรก็เชิญ ไม่ยุ่งด้วยแล้ว” พิษณุมีอาการฉุนเฉียวออกมาก่อนจะเดินลงจากบ้านพักของพาสนา และเดินกลับไปยังห้องอาหารของรีสอร์ท


พาสนาที่นั่งทำหน้าตูมอยู่ในห้อง เธอได้แต่ขมวดคิ้ว ด้วยสีหน้ายุ่งเหยิง


“ไอ้บ้า....” เธอพูดออกมาด้วยน้ำเสียงขุ่น ก่อนจะยกมือของเธอถูที่ริมฝีปากของเธอแรงๆ หลายต่อหลายที


“ไอ้บ้าๆๆๆๆๆๆ อี้....” พาสนาโวยออกมาด้วยความรู้สึกหงุดหงิดใจกับเรื่องที่เกิดขึ้น เธอได้แต่ถูริมฝีปากของเธอไปมาจนมันเริ่มเป็นสีแดงเพราะแรงถู
.
.
.
พิษณุเดินกลับไปยังห้องอาหาร เค้าเดินออกมาจากบ้านพักด้วยสีหน้าหงุดหงิด แต่เพียงไม่นาน สีหน้าของเค้าก็เปลี่ยนไป เมื่อคิดถึงช่วงเวลานั้น ชายหนุ่มยกมือขึ้นลูบริมฝีปากของเค้าเบาๆ แล้วรอยยิ้มบางๆ ก็ผุดขึ้นบนใบหน้านั้น


“หึ...” ชายหนุ่มหัวเราะออกมาเบาๆ ในลำคอ พร้อมกับรอยยิ้มบางๆ


พิษณุเดินกลับเข้ามาในห้องอาหารอีกครั้ง ซึ่งอรินยา ปัญจรี และปัฐวีกำลังทานอาหารเช้ากันอยู่


“เป็นไงครับ อาหารที่นี่พอใช้ได้มั้ย” พิษณุกล่าวถามคนทั้งสาม


“อร่อยมากค่ะ” ปัญจรีตอบสีหน้ายิ้มๆ


“อืมม แล้ววันนี้มีโปรแกรมไปไหนกันรึป่าวครับ” พิษณุถามทุกคนถึงรายการเที่ยวในวันนี้


“ยังไม่ได้คิดเลยคะ ยาย่าอยากพักผ่อนมากกว่า” อรินยาตอบสีหน้าเรียบ


“ได้ไงกัน มาถึงหัวหินทั้งที จะนั่งๆ นอนๆ เฉยๆ ได้ไงครับ” พิษณุถามสีหน้ายิ้มๆ


“พวกเรายังไม่ได้วางแผนเลยค่ะ” ปัญจรีตอบแทนทุกคน


“งั้น ไปเที่ยวเกาะกันมั้ยครับ พอดีบ่ายนี้ผมจะไปเกาะลำหล้า ปะการังแถวนั้นสวยมากเลยนะครับ” พิษณุกล่าวสีหน้ายิ้มๆ


“อืมมม น่าสนใจแฮะ” ปัฐวีฟังพิษณุพูดก็รู้สึกสนใจขึ้นมา


“นั่นซิค่ะ” ปัญจรีเองก็เห็นด้วยเช่นกัน


“บนเกาะยังมีบรรยากาศสวยๆ ด้วยนะครับ หาดทรายขาว น้ำใส แนวเขาสวย” พิษณุบรรยาบรรยากาศของเกาะให้คนในกลุ่มฟัง


“ยาย่าว่าไงครับ” พิษณุหันไปถามอรินยาที่นั่งฟังเงียบๆ


“ยาย่าต้องรอดูปลาก่อนว่า ปลาไปมั้ย ถ้าปลาไปยาย่าก็ไป” อรินยาตอบสีหน้านิ่ง


“.......” พิษณุนั่งฟังคำตอบของอรินยาด้วยสีหน้านิ่ง


“หูยยย ถ้างี้นะ รับรองปลาไม่ยอมไปแน่ๆ” ปัญจรีตอบแบบรู้ใจพาสนา


“นั่นซิ ไอ้ปลามันยิ่ง....” ปัฐวีเองก็หันมองไปทางพิษณุ แล้วก็ต้องพูดแบบปลงๆ


“เสียดายจัง...” ปัญจรีมีท่าทางเสียดายที่จะไม่ได้ไปเที่ยวเกาะออกมาให้เห็นอย่างชัดเจน


“พวกเธอก็ไปกันซิ” อรินยาบอกกับเพื่อนรัก


“ได้ไง ไปก็ต้องไปด้วยกัน” ปัญจรีตอบกลับสีหน้าหงอยๆ


“เอออ เอางี้ซิ เราก็ไม่ต้องบอกไอ้ปลาว่าไปกับใคร” ปัฐวีวางแผนเสร็จสรรพ


“เอางั้นเลยหรอ” อรินยาหันถามปัฐวีอีกครั้ง


“อืมม ไม่งั้นไม่ต้องไปกันพอดี” ปัฐวีตอบพร้อมพยักหน้า


“แล้วปลาไม่โกรธหรอ ถ้ารู้ทีหลังว่า...” อรินยาทำหน้าไม่สบายใจ


“กว่ามันจะโวยออกมาได้ เราก็ขึ้นเรือกันแล้ว ยังไงรบกวนคุณพิษณุซ่อนตัวนิดนะครับ” ปัฐวีบอกกับพิษณุถึงแผนการของเค้า


“แหม อยากไปเที่ยวจัด ถึงขนาดวางแผนหลอกเพื่อนตัวเองเลยนะ” ปัญจรีหันไปพูดค่อนขอดปัฐวี


“พูดอย่างนี้แปลว่าคุณไม่อยากไปใช่มั้ย” ปัฐวีหันมาถามปัญจรีบ้าง


หญิงสาวอึ้งไปกับคำถามของอีกฝ่าย......เธอจึงได้แต่นิ่งเงียบลง เพราะจริงๆ เธอก็อยากไปเที่ยวกับเค้าด้วยเหมือนกัน ปัฐวีมองปัญจรีอย่างรู้ทัน เมื่อหญิงสาวเงียบลง เค้าจึงหันไปหาพิษณุอีกครั้ง


“ว่าไงครับ” ปัฐวีหันไปพูดกับพิษณุ


“ได้ซิครับ” พิษณุตอบรับพร้อมกับยิ้มออกมา


“เอาเป็นว่า เดี๋ยวทานข้าวกันเสร็จแล้ว ก็ไปเตรียมตัวกันเลยนะครับ แล้วผมจะให้เด็กๆ ไปตามอีกครั้ง” พิษณุบอกกับทุกคนด้วยสีหน้ายิ้มๆ


“ดีๆ “ ปัฐวียิ้มกว้างออกมา


แล้วทั้งหมดก็จัดการทานอาหารเช้าจนเสร็จเรียบร้อย แล้วพากันกลับบ้านพักเพื่อเตรียมตัวออกเที่ยวเกาะ....
.
.
.
พาสนายังคงนั่งนิ่งอยู่ในห้อง เธอยังคงไม่หายขุ่นเคืองใจกับเรื่องเมื่อสักครู่เลย...


ทั้งสามเดินกลับมาถึงบ้านพักแล้ว พวกเค้าเห็นถาดอาหารที่วางอยู่ที่ระเบียงหน้าบ้านพัก อาหารเหล่านั้นยังไม่มีใครมาแตะต้องมันเลยสักนิด....


“แล้วใครจะไปพูดกับปลาล่ะ” อรินยาร้องถามถึงเรื่องจะไปเกาะกัน


“อืมม ผมไปเอง” ปัฐวีรับอาสา ก่อนจะเดินตรงไปยังห้องพักของพาสนา


“ปลา.....ปลาเว้ยยย” ปัฐวีเดินไปร้องเรียกพาสนาที่หน้าห้องของเธอ


เมื่อได้ยินเสียงเพื่อนรัก พาสนาก็หันมองไปทางประตูห้อง.......เธอยกมือขึ้นลูบหน้าของเธอ เพื่อปรับสภาพอารมณ์ให้เป็นปรกติมากที่สุด ก่อนจะเดินไปเปิดประตูห้องให้ปัฐวี


“มีไร” คำถามสั้นๆ น้ำเสียงเรียบๆ ดังมาจากคนที่เปิดประตูห้อง


“เอออ ทำไมไม่กินข้าววะ” ปัฐวีร้องถาม


“ไม่หิว” พาสนาตอบสั้นๆ อีกครั้ง


“เฮ้ยยยย จะลดความอ้วนรึไงแก” ปัฐวีทำมองสำรวจรอบๆ ตัวพาสนา แล้วพูดแซว


“ป่าว...” พาสนาตอบจบก็เดินไปนั่งที่เตียงอีกครั้ง


“เฮ้ยๆ ปะๆ เตรียมตัวๆ” ปัฐวีร้องบอกกับพาสนา พร้อมกับเดินไปดึงแขนเธอให้ลุกขึ้น


“มีไรอีก” พาสนาร้องถามสีหน้ายุ่ง


“เราจะไปเที่ยวเกาะกัน ลุกๆ “ ปัฐวีบอกกับพาสนาด้วยน้ำเสียงร่าเริง


“เที่ยวเกาะ....” พาสนาร้องเสียงสูง มองหน้าปัฐวี


“อืมมม ปะๆ” ปัฐวีร้องชวนพาสนาอีกครั้ง


“ม่ายยๆๆๆๆๆ ไม่ไปอ่ะ” พาสนาดึงแขนเธอกลับ พร้อมกับตอบปฏิเสธ


“ทำไมวะ” ปัฐวีร้องถามสีหน้ายุ่ง


“แกก็รู้ว่าฉัน....” พาสนาขมวดคิ้วยุ่ง


“ว่ายน้ำไม่เป็น” ปัฐวีพูดสีหน้าเรียบ


“เอออออ” พาสนาพยักหน้ารับน้ำเสียงเคืองๆ


“กลัวไรวะ เราไม่ได้ไปเล่นน้ำสักหน่อย เสื้อชูชีพก็มี” ปัฐวีบอกกับพาสนาให้หายกังวลใจ


“แกก็พูดได้ดิ แกไม่ใช่ฉันนิ” พาสนาบ่นอุบออกมา


“แล้วไง แกรู้มั้ย แกไม่ไป คุณยาย่าก็ไม่ไป ยายปุ่นก็ไม่ไป แล้วฉันก็ต้องอดไป” ปัฐวีบ่นออกมาบ้าง


“เฮ้ยยย แล้วมันเกี่ยวไรกับฉันล่ะ” พาสนาร้องโวยออกมาอย่างไม่เข้าใจ


“เกี่ยวดิ.....” ปัฐวีพยักหน้าให้เธอ


“โหยยยยย” พาสนาโวยออกมาอย่างไม่พอใจ


“ว่าไง แกจะให้เพื่อนแกอดเปิดหูเปิดตาใช่มั้ย” ปัฐวีร้องถามพาสนาอีกครั้ง


“โหยยยยย ไอ้ตุ้ม.......” พาสนาโวยเสียงยานออกมาอีกครั้ง


 

โดย: kokoo_129 16 ตุลาคม 2552 20:33:11 น.  

 



“ไม่ต้องโหย ต้องหู อ่ะ ว่าไง แกจะไปหรือไม่ไป” ปัฐวีพูดน้ำเสียงขุ่นกับพาสนา เค้ารอคำตอบจากเธอ


“แกนะแก....” พาสนามองหน้าปัฐวี ด้วยสีหน้ายุ่งๆ


“ก็ได้ไปก็ไป” พาสนายอมไปเที่ยวเกาะตามที่ปัฐวีต้องการ ทั้งๆ ที่ใจจริงเธอไม่อยากไปสักเท่าไหร่เลย


“ก็แค่นั้น...” ปัฐวีพูดด้วยสีหน้ายิ้มๆ
.
.
.
แล้วทุกคนก็จัดการเตรียมสัมภาระสำหรับไปเที่ยวเกาะกันอย่างพร้อมเพียง


พาสนาเดินออกมานั่งอยู่ที่ระเบียงหน้าบ้าน เธอมองออกไปยังท้องทะเลข้างหน้า ท้องฟ้ายังคงแจ่มใส...


“คงไม่มีอะไรมั้ง” เธอบ่นออกมาเบาๆ กับตัวเอง


อรินยา เดินออกมาจากภายในบ้านพัก แล้วมานั่งข้างๆ พาสนา


“ปลาคะ เป็นอะไรหรอ” อรินยาร้องถามพาสนาเมื่อเห็นเธอนั่งเงียบ


“อ้อ ไม่มีไรฮะ ปลาก็แค่มองทะเลไปเรื่อยๆ” พาสนาตอบสีหน้ายิ้มๆ


“เห็นเค้าว่า เกาะที่จะไปเนี่ยะ สวยมากเลย ยาย่าว่าปลาต้องชอบนะ” อรินยาบอกกับพาสนาน้ำเสียงหวาน


“ฮะ...” พาสนาพยักหน้ารับเบาๆ


“เตรียมตัวกันเสร็จรึยังคร๊าบบบบ” เสียงปัฐวีดังออกมาพร้อมกับเป้ที่เค้าสะพายติดหลังมาด้วย


“ขนอะไรไปนักวะตุ้ม” พาสนาหันไปร้องถามปัฐวี


“ไม่มีไร แค่เสื้อผ้าสัก 2 ชุด เผื่ออยากเล่นน้ำ เห็นเค้าว่ามีปะการังสวย” ปัฐวีตอบสีหน้ายิ้มระรื่น


“บ้านนอก แค่นี้ทำตื่นเต้น” ปัญจรีเดินออกมาพร้อมกับกระทบไหล่ชายหนุ่มก่อนจะเดินมานั่งข้างๆ อรินยา


“ว่าแต่คนอื่น ตัวเองล่ะ ดูใส่ชุดเข้า” ปัฐวีพูดกระทบหญิงสาวกลับคืนบ้าง เค้าจ้องมองเธอด้วยแววตาบางอย่าง แม้น้ำเสียงและคำพูดจะกระทบกระเทียบเธอ แต่สายตากลับเป็นอีกอย่าง


“จ้องอะไร เดี๋ยวควักลูกตาออกมาเลย” ปัญจรีทำเสียงดุใส่ชายหนุ่มที่จ้องมองเธอ


ก็จะไม่ให้ปัฐวีจ้องได้อย่างไร ในเมื่อสาวไฮโซแสนสวย อยู่ในชุดว่ายน้ำรัดรูป มีผ้าบางๆ ผูกที่เอวให้ปิดบังช่วงต้นขาขาวๆ ของเธอ ผิวขาวสวยทำให้ชายหนุ่มอดใจที่จะมองไม่ได้


เมื่อทั้งสี่ออกมาพร้อมกันที่ระเบียงหน้าบ้าน เพียงไม่นาน พนักงานของรีสอร์ทก็มาบอกกับพวกเค้าว่าเรือเตรียมพร้อมแล้ว...


“เรือที่จะไปเกาะพร้อมแล้วครับ” พนักงานบอกกับคนทั้งสี่


“ขอบคุณครับ” ปัฐวีมีอาการดี้ด้า ออกนอกหน้า ก่อนจะรีบเดินตามพนักงานของรีสอร์ทไปยังเรือที่รอพาพวกเค้าไปยังเกาะลำหล้า


“ออกนอกหน้ามากเลยนะนั่น” ปัญจรีมองชายหนุ่มที่เดินเริงร่าออกไปด้วยแววตาหมั่นไส้


“ปะกันเถอะ” อรินยามองเพื่อนด้วยสีหน้าขำๆ


“ปะคะปลา” อรินยาหันมาพูดกับพาสนา


“ฮะ...” พาสนาลุกจากเก้าอี้ แล้วเดินตามทุกคนออกไปยังชายหาด


ที่ริมหาดมีเรือยนต์ลำขนาดกลางจอดอยู่.....


ทุกคนค่อยๆ ทยอยขึ้นไปบนเรือ พาสนาขึ้นเป็นคนสุดท้าย....และทันทีที่พาสนาขึ้นไปบนเรือ เธอต้องต้องขมวดคิ้วยุ่งเมื่อเห็นคนที่นั่งรออยู่บนเรือ


“ฉันไม่ไปแล้ว...” พาสนาโวยออกมาก่อนจะหันหลังเพื่อลงจากเรือ


“เฮ้ย ปลา” ปัฐวีร้องเรียกพาสนาเมื่อเห็นว่าพาสนาจะไม่ยอมไป


“ทำไม กลัวหรอ” พิษณุรีบพูดขึ้น เมื่อเห็นพาสนาทำท่าจะลงจากเรือ


“ใครกลัว...” พาสนาหันขวับมาตอบชายหนุ่มด้วยสีหน้ายุ่ง


“ก็ใครล่ะ ที่กำลังจะเปลี่ยนใจกลับไม่ยอมไปเกาะ” พิษณุพูดด้วยสีหน้าลอยๆ


“ฉันไม่ได้กลัว แต่ไม่อยากไป แค่รู้ว่านายไปด้วย มันก็ไม่น่าสนุกแล้ว” พาสนาโต้กลับสีหน้ายุ่ง


“เพราะฉันไปด้วย หรือว่าเพราะกลัวกันแน่ กลัวก็ยอมรับมาเถอะน่า.....” พิษณุยังคงพูดยั่วโมโหพาสนาต่อ


“ณุคะ” อรินยารีบร้องห้ามพิษณุให้หยุดยั่วโมโหพาสนา


“ไม่มีทาง คนอย่างพาสนาไม่กลัวอะไรง่ายๆ หรอก” พาสนายังคงตอบเสียงแข็ง


“จริงอ่ะ ไม่กลัวจริงอ่ะ” พิษณุยังคงร้องถามสีหน้ากวนๆ


“ไปก็ไปซิ....” พาสนาไม่ยอมให้ชายหนุ่มมาดูถูกว่าเธอขี้ขลาด เธอเดินเข้าไปนั่งข้างๆ อรินยาด้วยสีหน้าเครียด


“หึหึหึ...” พิษณุยืนมองพาสนาที่เดินเข้าไปนั่งกับอรินยา ด้วยสีหน้ายิ้มๆ


“ไอ้ตุ้ม แกจำไว้นะ” แต่ไม่วายที่พาสนาจะหันมาทำตาเขียวใส่ปัฐวีที่นั่งอยู่ฝั่งตรงข้ามกับเธอ


“เฮ้ยยย .....” ปัฐวีร้องออกมาเมื่อเห็นสายตาจากพาสนา


“ปลาคะ ใจเย็นๆ นะ” อรินยาพยายามพูดปลอบพาสนา


“..........” พาสนาไม่พูดตอบอะไร เธอมีสีหน้าขุ่นเคืองกับทุกคน ในฐานะที่ไม่ยอมบอกเธอว่าพิษณุไปด้วย


แล้วเรือยนต์ก็แล่นออกจากริมฝั่ง มุ่งตรงไปยังเกาะลำหล้า ซึ่งอยู่ห่างออกไปจากรีสอร์ทพอสมควร


ระหว่างที่เรือแล่นเลาะคลื่นของทะเล ฟองน้ำสีขาวที่ถูกเรือกระทบกระเซนขึ้นมา น้ำทะเลสีใสชวนให้ชื่นชม พาสนาลุกขึ้นยืนดูบรรยากาศของน้ำทะเล เธอมองออกไปยังสุดขอบน้ำ เส้นขอบฟ้าตัดกับน้ำสีสวย


“ตรงหน้าจะเป็นช่วงกระแสน้ำเปลี่ยนนะครับ ยังไงนั่งระวังๆ กันด้วยนะครับ” คนขับเรือร้องบอกกับทุกคนเมื่อเข้าเขตน้ำเปลี่ยน


พาสนาที่มัวแต่ชื่นชมกับวิวรอบข้าง ไม่ได้สนใจคำเตือนของคนขับเรือเลยสักนิด


กระแสน้ำที่กำลังเปลี่ยน ทำให้เรือโคลงเคลงไปตามแรงของน้ำ คนที่อยู่ในเรือก็พลอยเซตามเรือไปด้วย คนอื่นๆ ที่นั่งอยู่ก็หาที่จับไว้อย่างแน่นหนา แต่พาสนาที่ยืนชมวิวอยู่ ไม่มีอะไรให้จับ ตัวเธอเอนเอียงไปตามแรงโคลงของเรือ


“เฮ้ยยยย....” เสียงร้องของเธอดังออกมา เมื่อตัวเธอ กำลังเซไปตามแรงของเรือ


“ปลา....จับไว้ดีๆ” ปัฐวีร้องบอกกับพาสนา เมื่อเห็นเธอกำลังทรงตัวไว้ไม่อยู่


“ปลาคะ ระวัง...”อรินยาเองก็รู้สึกเป็นห่วงพาสนาไม่น้อยเมื่อเห็นเธอยืนตัวเอียงไปเอียงมา


“ระวังครับคุณ...” คนเรือร้องเตือนพาสนาอีกครั้ง


“นี่ยายตัวแสบ...” พิษณุกำลังจะเอื้อมมือไปจับแขนของพาสนาเอาไว้ แต่ก็สายไป เมื่อคลื่นลูกใหญ่ซัดเข้ามากระทบกาบเรือ ทำให้เรือโคลงเอียงอย่างมาก


กรี๊ดดดดดดดดด....


เสียงปัญจรี และ อรินยา ร้องออกมา ทั้งสองจับขอบเรือไว้แน่น


“ปลา..........” ปัฐวีร้องเสียงดังออกมา เมื่อเห็นตัวของพาสนากำลังกระเด็นออกไปจากขอบเรือ


“เฮ้ยยย..........” เสียงร้องของพาสนาดังออกมาเมื่อรู้ตัวว่ากำลังจะตกจากเรือ


ตูมมมมมมมมมมมมมมมม!!!~


ร่างของพาสนาล่วงลงไปในน้ำที่กำลังไหลเชี่ยว


“ยายตัวแสบ” พิษณุร้องเสียงดังเมื่อเห็นพาสนาหล่นลงไปในน้ำทะเล


 

โดย: kokoo_129 16 ตุลาคม 2552 20:35:07 น.  

 




“เฮ้ยยยย ไอ้ปลา...” ปัฐวีร้องออกมาด้วยสีหน้าตกใจที่พาสนาตกลงไปในน้ำ


“กรี๊ดดดดดด ปลา....ปลาคะ” อรินยาร้องเสียงหลงเมื่อเห็นพาสนาตกลงไปในน้ำ


“แย่ละซิ มันว่ายน้ำไม่เป็นด้วย” ปัฐวีร้องออกมาอย่างตกใจ เค้ารีบออกมายืนที่กาบเรือมองหาพาสนา


“ว่ายน้ำไม่เป็น..” พิษณุ มีอาการตกใจอย่างมากที่ได้ยินปัฐวีพูดว่าพาสนาว่ายน้ำไม่เป็น


“ชะ.........ช่วย............ช่วยด้วย” พาสนาโผล่ขึ้นมาจากน้ำที่กำลังไหลเชี่ยว พร้อมร้องขอความช่วยเหลือ ก่อนที่ตัวเธอจะจมลงสู่ใต้น้ำอีกครั้ง


”ยายตัวแสบ...” พิษณุ หันมองพาสนาที่โผล่ขึ้นมาเหนือน้ำ ชายหนุ่มไม่รั้งรอ เค้ารีบกระโจนลงไปในน้ำทันที...


“แย่แน่เลยวุ้ย..” ปัฐวีร้องอุบออกมาก่อนจะกระโจนลงไปช่วยพาสนาอีกคน


“คุณระวังนะ แถวนี้น้ำมันเชี่ยว” คนเรือร้องบอกกับสองหนุ่ม


“ไอ้ปลา.......” ปัฐวีมองไปรอบๆ ผิวน้ำ เค้าร้องเรียกพาสนาที่ตอนนี้จมหายไปในน้ำทะเล


“ยายตัวแสบ.....ยายตัวแสบ....” พิษณุเองก็ตะโกนร้องเรียกพาสนาเช่นกัน ชายหนุ่มตัดสินใจดำลงไปใต้น้ำเพื่อหาพาสนาให้เจอ


“เสียแรงเกิดมาชื่อปลา ดันว่ายน้ำไม่เป็น” ปัฐวีโวยออกมาอีกครั้ง ก่อนจะดำลงไปในน้ำเพื่อหาตัวพาสนา


เรือยนต์จอดนิ่งสนิทอยู่กับที่ คลื่นใต้น้ำยังคงกระทบเรือให้โคลงไป เคลงมา


พิษณุดำลงไปใต้น้ำ เค้าพยายามเพ่งสายตามองผ่านน้ำทะเลที่ทำให้รู้สึกแสบตาเหลือเกิน แต่เค้าก็ไม่ยอมลดละที่จะมองหาพาสนาให้เจอ


ปัฐวีเองก็พยายามแหวกว่ายอยู่ใต้น้ำ เค้ามองหาพาสนา แต่เพราะกระแสน้ำที่พัดแบบแปรปรวน ทำให้ชายหนุ่มทนไม่ไหว ต้องโผล่ขึ้นมาเหนือน้ำอีกครั้ง


“เห็นปลามั้ย” ปัฐวีตะโกนถามคนที่อยู่บนเรือ


“ไม่เลย ไม่เห็นเลย “ ปัญจรีตอบสีหน้าซีด


“ช่วยปลาด้วยยยย ช่วยปลาด้วยนะคะ” อรินยา พูดออกมาน้ำเสียงสั่น น้ำตาใสๆ กำลังจะร่วงลงมา


ปัฐวีดำลงไปใต้น้ำอีกครั้ง.........


ด้วยกระแสน้ำที่แปรปรวน ร่างของพาสนากำลังลอยไปตามแรงพัดของน้ำ.....เธอสำลักน้ำเข้าไปหลายต่อหลายครั้ง ลมหายใจกำลังจะหมดลง....ตอนนี้เธอรู้สึกทรมานกับการขาดอากาศหายใจอย่างมาก


พาสนาพยายามลืมตามองขึ้นไปบนผิวน้ำ และพยายามจะดันตัวเองให้ขึ้นไปสูดอากาศข้างบนนั้น แต่เธอก็ทำไม่ได้ เหมือนน้ำกำลังดูดเธอให้จมลงไปยังก้นทะเล


พิษณุแหวกว่ายกระแสน้ำ และมองหาพาสนา..........ชายหนุ่มเห็นร่างของพาสนาที่กำลังลอยห่างออกไปกับกระแสน้ำเชี่ยว เค้ารีบว่ายเข้าไปหาเธอ....


พาสนารู้สึกว่าลมหายใจของเธอกำลังจะขาดหายไป ฟองอากาศฟองสุดท้ายกำลังหลุดออกมาจากริมฝีปากของเธอ ดวงตาของเธอกำลังหรี่ลงเรื่อยๆ หรือนี่เธอกำลังจะจบชีวิตง่ายๆ แบบนี้หรือ.....คำถามสุดท้ายเกิดขึ้นกับเธอ


หมับ!!!!~......


พาสนารู้สึกถึงอะไรบางอย่างที่จับมือของเธออยู่ เธอพยายามหรี่ตามอง แต่ภาพไม่ชัดนัก ใบหน้าของใครบางคนปรากฏขึ้น


พิษณุคว้ามือของพาสนาเอาไว้.....เค้าดึงร่างที่กำลังจะจมลงสู่ก้นทะเลขึ้นมา ท่าทางของเธอบอกว่าตอนนี้เธอกำลังขาดอากาศ ที่จะหายใจ ชายหนุ่มดึงตัวพาสนาเข้าหาตัวเค้า........สองมือโอบตัวเธอไว้ และ..............เค้าก็ได้มอบลมหายใจให้กับเธอ


ฟองอากาศจากชายหนุ่มถูกถ่ายจากตัวเค้า ส่งมอบให้กับพาสนา.......ก่อนที่เค้าจะพาเธอขึ้นสู่ผิวน้ำ......


แค่กๆ แค่กๆ


ทันทีที่ขึ้นสู่ผิวน้ำ พาสนาก็ไอเพราะสำลักน้ำออกมา


“เป็นยังไงบ้าง” พิษณุร้องถามพาสนาด้วยสีหน้าเป็นห่วง เพราะตอนนี้สีหน้าของเธอไม่ดีเอาซะเลย


“แค่กๆ ...” พาสนาไม่สามารถตอบอะไรได้ เธอเอาแต่สำลักน้ำ และท่าทางเธอจะอ่อนเพลียเหลือเกิน เรี่ยวแรงแทบไม่มี


พิษณุมองไปรอบๆ เค้ามองหาเรือยนต์ แต่ชายหนุ่มก็พบว่าเค้าและพาสนาโดนน้ำพัดออกมาห่างจากเรือยนต์อย่างมาก ชายหนุ่มมองไม่เห็นเรือยนต์ซะแล้ว...


“แย่จริง...” เค้าพูดออกมาเบาๆ แล้วมองไปทางพาสนาที่เค้ากำลังกอดเธอเอาไว้


ชายหนุ่มว่ายน้ำพาพาสนาไปยังหาดที่ใกล้ที่สุด.....


“อดทนไว้นะยายตัวแสบ” เค้าบอกกับเธอ ก่อนจะพยายามว่ายน้ำพาเธอไปยังชายฝั่งของเกาะ....
.
.
.
ปัฐวีโผล่ขึ้นเหนือน้ำอีกครั้ง เค้ามองไปรอบๆ ก็ไม่พบร่องรอยของพาสนาเลยสักนิด


“ว่าไงคะเจอมั้ย” ปัญจรีร้องถาม


“ไม่เห็นเลย แล้วคุณณุล่ะ” ปัฐวีร้องถามถึงพิษณุที่หายไปอีกคน


“ตายจริง คุณณุก็หายไปเหมือนกัน แย่แล้ว” ปัญจรีร้องออกมาด้วยสีหน้าวิตก


“บ้าชะมัด” ปัฐวีสบถออกมาก่อนจะดำลงสู่ใต้น้ำอีกครั้ง


“ลุงๆๆ รีบขอความช่วยเหลือจากคนบนฝั่งด่วน” ปัญจรีหันไปบอกกับคนเรือให้วิทยุไปบอกบนชายฝั่ง


“ปลา...........” อรินยา นั่งร้องไห้เมื่อไม่เห็นพาสนากลับขึ้นมา


ครืนนนนนนนนนนนนนน.................


ท้องฟ้าที่สดใสเมื่อสักครู่ แปรเปลี่ยนเป็นขะมุกขะมัว ก้อนเมฆฝนได้เคลื่อนตัวเข้ามาใกล้ทุกที


“แย่แล้ว พายุมา เราต้องรีบเข้าฝั่งให้เร็วที่สุดนะครับ ไม่งั้นได้ตกทะเลกันหมด” คนเรือบอกกับสองสาว


“ทำไมมันเป็นแบบนี้เนี่ยะ” ปัญจรีร้องโวยออกมา


ปัฐวีโผล่ขึ้นมาเหนือน้ำอีกครั้ง เค้ามองไปรอบๆ ท้องฟ้าเริ่มเป็นสีเข้ม


“คุณครับ รีบกลับขึ้นเรือเถอะ พายุมาแล้ว” คนเรือร้องบอกกับปัฐวีที่ยังอยู่ในน้ำ


“โธ่เว้ย........” ปัฐวีสบถออกมาด้วยความรู้สึกไม่พอใจ เค้าว่ายน้ำเข้ามายังเรือ


“ปลา.......แล้วปลาล่ะคะ จะทิ้งปลาไว้ได้ไง ณุอีกคน” อรินยาร้องถามคนเรือด้วยน้ำตานองหน้า


“ขืนเรายังอยู่แบบนี้มีหวังตายกันหมดนะครับ ยังไงผมจะแจ้งขอความช่วยเหลือไปยังฝั่งโน้นให้เค้าออกตาหาอีกรอบแล้วกัน” คนเรือแจ้งบอกกับอรินยา ก่อนจะสตาร์ทเครื่องเพื่อกลับเข้าสู่ชายฝั่ง


“ไอ้ปลาเอ้ยยยยย.......”ปัฐวีที่ขึ้นมาอยู่บนเรือแล้วมองไปยังผิวน้ำอีกครั้ง เค้าขมวดคิ้วเข้ม ด้วยสีหน้าเครียด


“ฉันผิดเอง ฉันไม่น่าอยากมาเลย” ชายหนุ่มก้มหน้าลงกับฝ่ามือของเค้า


“โธ่ คุณปลา คุณณุ ขอให้ปลอดภัยทีเถอะเจ้าประคูณ”ปัญจรีเองก็ภาวนาของให้ทั้งสองปลอดภัย


“ปลา........” อรินยาได้แต่นั่งร้องไห้ เพราะความห่วงใยในพาสนา


แล้วเรือยนต์ก็แล่นกลับสู่ชายฝั่งอย่างรวดเร็ว....



 

โดย: kokoo_129 16 ตุลาคม 2552 20:36:31 น.  

 




พิษณุว่ายน้ำพาพาสนากลับเข้าหาชายฝั่ง....เมื่อว่ายมาถึงน้ำในระดับที่พอจะยืนได้ เค้าก็หันมองคนที่เค้าพาว่ายกลับมาด้วย อาการของเธอดูไม่สู้ดีนัก


“นี่....ถึงฝั่งแล้วนะ” พิษณุบอกกับพาสนา แต่เหมือนเธอไม่ได้รับรู้อะไรอีกแล้วในเวลานี้ ดวงตาของเธอมันปิดสนิท


ชายหนุ่มจ้องมองพาสนาด้วยอาการตกใจ เค้ารีบรวบตัวเธอไว้ในอ้อมแขนของเค้า มืออีกข้างจับใบหน้าของเธอเอาไว้ เพราะเจ้าของกำลังอยู่ในอาการหมดสติ


“นี่ยายตัวแสบ....ยายตัวแสบ...” พิษณุร้องเรียกพาสนา เค้าขมวดคิ้วเข้าหากัน แต่สิ่งที่เค้าได้รับกลับมาคือ พาสนาไม่มีปฏิกิริยาอะไรตอบโต้กลับมาเลย


ชายหนุ่มรู้สึกหัวใจกระตุกวูบ เค้ารู้สึกร้อนรนไปหมด...


“ปลา....ตื่นซิปลา” พิษณุร้องเรียกพาสนา แต่เธอก็ยังคงไม่ได้สติ


“แย่แล้ว...” พิษณุรีบอุ้มพาสนาขึ้น แล้วพาขึ้นไปยังชายฝั่งอย่างรวดเร็ว...


ชายหนุ่มอุ้มพาสนาวิ่งฝ่าน้ำทะเลขึ้นมาบนหาด........เค้ารีบวางตัวเธอลงกับพื้นทรายสีขาว


“ปลา.....ปลา....” พิษณุเรียกพาสนาอีกครั้ง แต่เหมือนเธอไม่ได้ตอบรับอะไรเลย ชายหนุ่มรู้สึกกระวนกระวายใจอย่างมาก เค้าเอามืออังแถวจมูกของเธอ ”..ลมหายใจอ่อนๆ ของเธอ ทำให้พิษณุรู้สึกใจชื้นขึ้น อย่างน้อยเธอก็ยังปลอดภัยดี


“ปลา....เธอต้องปลอดภัยนะ” ชายหนุ่มบอกกับคนที่ยังคงหลับไม่ได้สติ ด้วยสีหน้าเป็นห่วงอย่างมาก


ลมพัดแรงขึ้นเรื่อยๆ ทำให้พิษณุหันมองไปยังขอบฟ้ากว้าง แล้วชายหนุ่มก็เห็นเมฆฝนที่กำลังเคลื่อนตัวเข้ามาทางพวกเค้า.....พิษณุใช้สองแขนช้อนตัวพาสนาขึ้นอีกครั้ง และอุ้มเธอวิ่งเข้าไปหลบแถวแนวไม้ที่อยู่ไม่ไกลจากชายหาดมากนัก


ภายใต้ต้นไม้ใหญ่ พิษณุพาพาสนามานั่งหลบสายฝนที่กำลังเริ่มโปรยลงมา........


เม็ดฝนเย็นฉ่ำ กำลังร่วงลงมาเป็นสาย กระทบพื้นทรายสีขาว.....ชายหนุ่มนั่งประคองพาสนาเอาไว้ในอ้อมแขนของเค้า เม็ดฝนที่ร่วงหล่นลงมา แม้จะถูกใบไม้น้อยใหญ่ดักเอาไว้ แต่ก็ยังคงมีเล็ดลอดหล่นลงมาเปียกคนที่นั่งอยู่ใต้ต้นไม้อยู่ดี


เม็ดน้ำฝนหยดลงเปื้อนใบหน้าของพาสนา ที่กำลังพิงอยู่กับตัวของพิษณุ ชายหนุ่มพยายามเอามือของเค้าบังหยดน้ำเหล่านั้นให้เธอ .....แต่เหมือนสายฝนไม่ได้ปราณีคนที่อยู่ใต้ฟ้าเลย น้ำฝนยังคงโปรยลงมาอย่างหนัก


“โธ่เอ้ยยยย มาตกอะไรตอนนี้นะ” พิษณุบ่นออกมาเบาๆ เค้ามองคนที่กำลังหลับไม่ได้สติอยู่ข้างๆ ด้วยความเป็นห่วง


แม้ว่าเธอจะหลับไม่ได้สติ แต่ความหนาวเย็นของเม็ดฝนก็ทำให้ร่างกายของเธอสั่นสะท้านเพราะความหนาวเย็น........พิษณุเห็นพาสนาที่กำลังหนาวสั่นด้วยความห่วงใย


“ปลา....” ชายหนุ่มเรียกพาสนาเบาๆ แต่เธอไม่ได้โต้ตอบอะไร ร่างกายของเธอกำลังสั่นเพราะความเย็นของฝน


“ปลา อย่าเป็นอะไรไปนะ” ชายหนุ่มโอบกอดพาสนาเอาไว้ เค้าบอกกับเธอจากความรู้สึกภายในที่มี


“นะ........หนาววว.....” เสียงเบาๆ ของเธอดังออกมา แต่ก็ทำให้พิษณุที่กำลังกอดเธออยู่ได้ยิน เค้ายิ้มดีใจออกมาเมื่อรู้ว่าเธอเริ่มได้สติแล้ว


“หนาวหรอ....” ชายหนุ่มร้องถามเธออีกครั้ง


“หนาว...ว....ว....” เสียงเธอดูแผ่วเบาเหลือเกิน


“ไม่ต้องกลัวนะ....” พิษณุบอกกับเธอ เค้ากระชับอ้อมแขนให้แน่นขึ้น ร่างของพาสนาชิดแนบกับอกกว้างของเค้า


พาสนาที่นั่งหนาวตัวสั่น ค่อยๆ ลืมตาขึ้น เธอมองเห็นว่าตัวเองกลับขึ้นมาอยู่บนฝั่งแล้ว แต่ตอนนี้มีน้ำฝนหล่นโปรยปรายอาบตัวเธออยู่ เธอค่อยๆ ลืมตามองให้กว้างขึ้น แล้วก็พบว่า ตัวเองกำลังถูกใครบางคนกอดเอาไว้


“อุ่นขึ้นมั้ย..” พิษณุร้องถามอีกฝ่ายด้วยน้ำเสียงที่อ่อนโยน


น้ำเสียงนี้แม้ว่าเธอจะรู้สึกไม่ชอบ แต่ในเวลานี้เธอกลับรู้สึกว่ามันดูอบอุ่นเหลือเกิน นี่เค้าช่วยชีวิตเธอเอาไว้หรอ.......เป็นไปได้ยังไงกัน......พาสนาถามกับตัวเอง แต่ในเวลานี้เธอไม่อาจจะแสดงฤทธิ์เดชอะไรได้อีก เธอจึงได้แต่ซบหน้าลงกับอกของเค้า อย่างอ่อนล้า


“อืมม..” พาสนาพยักหน้าตอบรับเบาๆ


“เธอปลอดภัยแล้ว ไม่ต้องกลัวอะไรอีกนะ” พิษณุบอกกับพาสนาอีกครั้ง ก่อนจะกระชับอ้อมแขนของเค้า


พาสนาได้แต่หลับตาซบกับอกกว้าง........
.
.
.
เรือยนต์กลับเข้าฝั่ง อย่างฉิวเฉียด เพราะเมื่อถึงฝั่ง ยังไม่ทันที่ทุกคนจะลงจากเรือ ฝนก็โปรยกระหน่ำลงมา


ทั้งสามต่างพากันวิ่งกลับเข้ารีสอร์ท...


ปัฐวีวิ่งตรงไปยังส่วนต้อนรับของรีสอร์ท ชายหนุ่มฝ่าสายฝนที่โปรยกระหน่ำลงมาอย่างร้อนใจ


“นี่คุณๆ” ปัฐวีร้องเรียกพนักงานด้านหน้าทันทีที่วิ่งเข้ามาถึง


“มีอะไรค่ะคุณ” พนักงานของรีสอร์ทถามกลับ เธอมองสภาพของเค้าที่เปียกปอนด้วยอาการตกใจ


“ช่วยส่งคนออกตาหาเพื่อนผมหน่อยครับ เธอตกเรือ” ปัฐวีแจ้งกับพนักงานของรีสอร์ทด้วยท่าทางร้อนใจ


“อุ้ยตายจริง...” พนักงานมีอาการตกใจไม่น้อย เธอรีบกดโทรศัพท์แจ้งเรื่องไปยังหน่วยกู้ภัย และแจ้งเรื่องไปยังผู้จัดการของรีสอร์ททันที


เพียงไม่นาน ผู้จัดการรีสอร์ทก็รีบออกมาพบกับปัฐวี


“เกิดอะไรขึ้นครับ” ผู้จัดการรีสอร์ทร้องถามปัฐวีด้วยสีหน้าตระหนก


“คือเพื่อนผมครับ เธอตกน้ำช่วงก่อนฝนตก ตอนนี้เราหาตัวเธอไม่เจอเลย..” ปัฐวีตอบผู้จัดการด้วยสีหน้าเป็นกังวล


“โทรแจ้งหน่วยกู้ภัยรึยัง คุณพร” ผู้จัดการรีสอร์ทหันไปถามพนักงานหน้าเคาน์เตอร์


“เรียบร้อยแล้วค่ะ” พนักงานที่ชื่อพร ตอบกลับ


“คุณใจเย็นๆ นะครับ เราส่งหน่วยกู้ภัยออกตามหาแล้ว แต่ว่า......ไม่ทราบว่าเหตุเกิดตรงไหนครับ” ผู้จัดการรีสอร์ทถามกลับ


“ก่อนถึงเกาะ....เกาะลำหล้าครับ” ปัฐวีตอบกลับอย่างใช้ความคิด


“เกาะลำหล้า..เอ๊ะ ใช่พวกคุณรึป่าวที่ไปกับคุณณุ” ผู้จัดการรีสอร์ทถามกลับอย่างสงสัย


“เอออ ผมลืมไปเลย คุณณุ คุณณุก็ตกน้ำไปด้วยอีกคน ตอนนี้ทั้งสองคนหายไปกับน้ำทั้งคู่เลยครับ” ปัฐวีแจ้งกับผู้จัดการรีสอร์ทถึงพิษณุ


“หะ...คุณณุด้วยหรอ” ผู้จัดการรีสอร์ทมีอาการตกใจหนักกว่าเดิม เค้ารีบเดินไปที่เคาน์เตอร์ทันที


“คุณพรกดเรียกหน่ยวยกู้ภัยด่วน ไม่ว่ายังไงต้องหาทั้งสองคนให้เจอให้ได้นะ” ผู้จัดการรีสอร์ทบอกกับพนักงานที่ชื่อพรด้วยท่าทางเครียด


“ยังไงช่วยตามหาเพื่อนผม กับคุณณุด้วยนะครับ” ปัฐวีกล่าวกับผู้จัดการรีสอร์ทด้วยสีหน้าเครียด


“รับรองครับ เราจะรีบค้นหาให้เจอโดยไวที่สุด” ผู้จัดการรีสอร์ทกล่าวกับปัฐวีน้ำเสียงเครียดไม่ต่างกัน



ระหว่างที่ทั้งสองกำลังพูดคุยกันอยู่นั้น ชายคนที่แอบไปถ่ายรูปพิษณุกับพาสนาเมื่อช่วงสายก็นั่งฟังอยู่แถวล็อบบี้ด้วยเช่นกัน...
.
.
.
อรินยา กับปัญจรีกลับมารอฟังข่าวที่บ้านพัก


หญิงสาวร่างบางเอาแต่นั่งร้องไห้ฟูมฟาย เธอจ้องมองไปยังผืนทะเลกว้าง ซึ่งตอนนี้มีแต่น้ำฝนที่โปรยลงมา


“ยาย่า ไปเปลี่ยนเสื้อผ้าก่อนดีกว่านะ” ปัญจรีเดินมาปลอบเพื่อนรัก เพราะไม่ว่าอรินยาจะร้องไห้มากแค่ไหน มันก็ไม่ได้ทำให้อะไรดีขึ้นมาได้


“ปุ่น........ปลา..........ปลา” อรินยาหันมามองเพื่อนรักด้วยน้ำตานองหน้า


“ฉันเชื่อว่าทั้งปลา และคุณณุต้องปลอดภัย” ปัญจรีพูดด้วยสีหน้ามั่นใจ


“ณุหนะคงไม่เป็นไร แต่ปลาซิ ปลาว่ายน้ำไม่เป็นนะปุ่น” อรินยาโต้เถียงเพื่อนรัก


“คิดในทางที่ดีซิยาย่า บางทีคุณณุอาจจะช่วยปลาได้แล้วก็ได้” ปัญจรีพยายามพูดปลอบใจเพื่อนของเธอ และตัวเธอเอง


“ขอให้เป็นอย่างนั้นเถอะปุ่น ไม่งั้นฉันคงอยู่ต่อไปไม่ได้” อรินยา พูดออกมาด้วยน้ำเสียงสั่น น้ำตาเธอยังคงไหลออกมา






*************จบตอนที่10*************

 

โดย: kokoo_129 16 ตุลาคม 2552 20:41:25 น.  

ชื่อ : * blog นี้ comment ได้เฉพาะ VIP Friend
Comment :
  *ส่วน comment ไม่สามารถใช้ javascript และ style sheet
 


kokoo_129
Location :
ชลบุรี Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?]




Smiley*~๐.."รัก" ก็แค่คำว่า "รัก"..๐~*Smiley
Cute Cursors from Dollielove
Free Hit Counters
Friends' blogs
[Add kokoo_129's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.