Group Blog
สิงหาคม 2558

 
 
 
 
 
 
1
2
3
4
5
6
7
8
9
10
11
12
13
15
16
17
18
19
20
21
22
23
24
25
26
27
28
29
30
31
 
 
รตนปริตร หรือ รตนสูตร


รตนปริตร หรือ รตนสูตร

ตั้งสัจจาธิษฐาน ขอพระรัตนตรัยอำนวยความสวัสดี ป้องกัยภัยจากสัมภเวสี อมนุษย์ และ มารทั้งหลาย


ก. เบื้องต้นให้กำหนดจิตระลึกถึงภูตทั้งหลาย อมนุษษย์ทั้งหลาย สัมภเวสีทั้งหลาย
แล้วกระทำไว้ในใจด้วยความสงเคราะห์แก่เขาเหล่านั้น
ตั้งจิตทำไว้ในใจด้วยปารถนาให้เขาทั้งหลายเหล่านั้น
ได้ยิน ได้ฟัง ได้รู้ถึงคุณอันยิ่งใหญ่ของพระรัตนตรัยอันไม่มีใครเสมอเหมือน
ได้ถึงซึ่งพระรัตนตรัยเป็นสรณะดังพระสูตรที่เราจะสาธยายดังต้อไปนี้คือ


๑. ยานีธะ ภูตานิ สะมาคะตานิ
ภุมมานิ วา ยานิวะ อันตะลิกเข.
เหล่าภูตทั้งหลายทั้งที่อยู่ ณ ภาคพื้นก็ดี
ทั้งที่อยู่ในอากาศก็ดี
ที่มาชุมนุมกันอยู่ ณ สถานที่นี้ก็ดี

สัพเพวะ ภูตา สุมะนา ภะวันตุ
ขอหมู่ภูตทั้งปวงนั้น จงเป็นผู้มีใจดีเถิด
อะโถปิ สักกัจจะ สุณันตุ ภาสิตัง
และเชิญฟังคำสดุดีพระรัตนตรัย
อันข้าพเจ้ากล่าวโดยเคารพเถิด

ตัสมา หิ ภูตา นิสาเมถะ สัพเพ
ดูก่อนภูตทั้งหลาย เพราะเหตุนั้นแล
ท่านทั้งหลายทั้งปวง จงฟังข้าพเจ้า

เมตตัง กะโรถะ มานุสิยา ปะชายะ ฯ
ขอท่านทั้งหลาย
จงกระทำเมตตาจิต ในประชาชาวมนุษย์เถิด

ทิวา จะ รัตโต จะ หะรันติ เย พะลิง
ซึ่งเขาทั้งหลาย
ทำเทวตาพลีอยู่ ทั้งกลางวันและกลางคืน

ตัสมา หิ เน รักขะถะ อัปปะมัตตา ฯ
เพราะเหตุนั้นแล
ท่านทั้งหลาย จงเป็นผู้ไม่ประมาท
ช่วยคุ้มครองรักษาเขาเหล่านั้นด้วยเถิด


ข. ให้กำหนดจิตระลึกถึงพระพุทธเจ้าด้วยความศรัทธายิ่ง
ด้วยทรงเป็นผู้ดับเพลิงกิเลสเพลิงทุกข์สิ้นเชิง ตรัสรู้ชอบได้โดยพระองค์เอง
ทรงเป็นผู้รู้แจ้งโลก เป็นผู้มีพระคุณและพระกรุณาที่สูงค่าอันหาที่เปรียบไม่ได้
เป็นครูผู้สอนเทวดาและมนุษย์ทั้งหลาย เป็นผู้รู้ผู้ตื่นผู้เบิกบาน
แผ่ประกาศก้องไปสู่ ภูต สัมภเวสี อมนุษย์ทั้งหลายเหล่านั้นให้ได้รับรู้ตามพระสูตรนี้
พร้อมน้อมจิตเราสวดมนต์ด้วยสภาวะจิตอันกำหนดไว้ในใจร
ะลึกถึงพระพุทธเจ้าอย่างนั้น


๒. ยังกิญจิ วิตตัง อิธะ วา หุรัง วา
ทรัพย์อย่างใดอย่างหนึ่งในโลกนี้ หรือในโลกอื่น
สักเคสุ วา ยัง ระตะนัง ปะณีตัง
หรือรัตนะใดอันสูงค่า ในสรวงสวรรค์
นะ โน สะมัง อัตถิ ตะถาคะเตนะ
ทรัพย์หรือรัตนะนั้นๆ
ที่จะเสมอด้วยพระตถาคตเจ้า มิได้มีเลย

อิทัมปิ พุทเธ ระตะนัง ปะณีตัง
ข้อนี้ จัดเป็นรัตนะอันสูงส่ง ในพระพุทธเจ้า
เอเตนะ สัจเจนะสุวัตติ โหตุ ฯ
ด้วยคำสัตย์นี้ ขอความสวัสดีจงบังเกิดมีเถิด

ค. ให้กำหนดจิตระลึกถึงพระพุทธเจ้าด้วยความศรัทธายิ่ง
ด้วยทรงเป็นผู้ดับเพลิงกิเลสเพลิงทุกข์สิ้นเชิง ตรัสรู้ชอบได้โดยพระองค์เอง
น้อมระลึกถึงพระธรรมคำสอนอันเป็นไปเพื่อความสิ้นกิเลส
และความพ้นจากกองทุกข์ที่พระพุทธเจ้าได้ตรัสรู้แล้วเผยแพร่ให้รู้ตาม
เป็นธรรมที่ผู้ปฏิบัติพึงเห็นเอง ให้ผลได้ไม่จำกัดกาล เป็นธรรมอันสูงค่ากว่าธรรมใดๆ
พร้อมน้อมจิตเราสวดมนต์ด้วยสภาวะจิตอันกำหนดไว้ในใจ
ระลึกถึงพระธรรมอย่างนั้น


๓. ขะยัง วิราคัง อะมะตัง ปะณีตัง
ยะทัชฌะคา สักยะมุนี สะมาหิโต
พระศากยมุนีเจ้า ทรงมีพระหฤทัยดำรงมั่น
ได้บรรลุธรรมอันใด เป็นที่สิ้นกิเลส
เป็นที่สิ้นราคะ เป็นอมตะอย่างแท้จริง

นะ เตนะ ธัมเมนะ สะมัตถิ กิญจิ
สิ่งใดๆที่เสมอด้วยพระธรรมนั้น ย่อมไม่มี
อิทัมปิ ธัมเม ระตะนัง ปะณีตัง
ข้อนี้ จัดเป็นรัตนคุณอันสูงส่ง ในพระธรรม
เอเตนะ สัจเจนะ สุวัตถิ โหตุ ฯ
ด้วยคำสัตย์นี้ ขอความสวัสดี จงบังเกิดมีเถิด

ง. ให้กำหนดจิตระลึกถึงพระพุทธเจ้าด้วยความศรัทธายิ่ง
ด้วยทรงเป็นผู้ดับเพลิงกิเลสเพลิงทุกข์สิ้นเชิง ตรัสรู้ชอบได้โดยพระองค์เอง
น้อมระลึกถึงพระธรรมคำสอนอันเป็นไปเพื่อความสิ้นกิเลส
และความพ้นจากกองทุกข์ที่พระพุทธเจ้าได้ตรัสรู้แล้วเผยแพร่ให้รู้ตาม
เป็นธรรมอันเป็นไปเพื่อสมถะได้แก่กุศลสมาธิและวิปัสสนาญาณได้แก่ปัญญารู้แจ้ง
น้อมระลึกถึงคุณแห่งธรรมอันเป็นไปเพื่อสัมมาสมาธิ
และคุณแห่งสัมมาสมาธิอันทำให้จิตตั้งมั่น ให้เกิดเห็นยถาภูญาณทัสนะ
ถึงนิพพิทาญาณด้วยวิปัสสนาณาณอันถึงความหลุดพ้นเป็นวิมุตติ
พร้อมน้อมจิตเราสวดมนต์ด้วยสภาวะจิตอันกำหนดไว้ในใจ
ระลึกถึงคุณแห่งสัมมาสมาธินัั้น


๔. ยัมพุทธะเสฏโฐ ปะริวัณณะยี สุจิง
พระพุทธเจ้าผู้ประเสริฐสุด
ทรงสรรเสริญสมาธิใด ว่าเป็นธรรมอันสะอาด

สะมาธิมานันตะริกัญญะมาหุ
บัณฑิตทั้งหลาย
กล่าวถึงสมาธิใด ว่าให้ผลไม่มีสิ่งใดคั่นได้

สะมาธินา เตนะ สะโม นะ วิชชะติ
สมาธิอื่น ที่เสมอด้วยสมาธินั้น ย่อมไม่มี
อิทัมปิ ธัมเม ระตะนัง ปะณีตัง
ข้อนี้ ก็จัดเป็นรัตนคุณอันสูงส่งในพระธรรม
เอเตนะ สัจเจนะ สุวัตถิ โหตุ ฯ
ด้วยคำสัตย์นี้ ขอความสวัสดีจงบังเกิดมีเถิด

จ. ให้กำหนดจิตระลึกถึงพระสงฆ์สาวกของพระพุทธเจ้าด้วยความศรัทธายิ่ง
ซึ่งเป็นคู่แห่งบุรุษ ๔ คู่ นับเรียงตัวบุรุษได้ ๘ บุรุษ
เป็นผู้ที่ปฏิบัติดี ปฏิบัติชอบ ปฏิบัติตรงตามที่พระพุทธเจ้าตรัสสอน
ปฏิบัติเพื่อรู้ธรรมอันเป็นเครื่องออกจากทุกข์นั้นแล้ว
เป็นผู้ที่ควรแก่การกราบไหว้ต้อนรับ เป็นผู้ที่ควรแก่การทำทักษิณาทาน
เป็นผู้เผยแพร่พระธรรมคำสอนของพระพุทธเจ้าสืบไป
พร้อมน้อมจิตเราสวดมนต์ด้วยสภาวะจิตอันกำหนดไว้ในใจ
ระลึกถึงคุณแห่งสงฆ์สาวกของพระพุทธเจ้านัั้น


๕. เย ปุคคะลา อัฏฐะ สะตัง ปะสัตถา
บุคคลเหล่าใด นับเรียงองค์ได้เป็น ๘
จัตตาริ เอตานิ ยุคานิ โหนติ
นับเป็นคู่ได้ ๔ คู่ อันสัตบุรุษทั้งหลายสรรเสริญแล้ว
เต ทักขิเณยยา สุคะตัสสะ สาวะกา
บุคคลเหล่านั้น เป็นสาวกของพระสุคตเจ้า
เป็นผู้ควรรับทักษิณาทาน

เอเตสุ ทินนานิ มะหัปผะลานิ
ทานทั้งหลาย ที่บุคคลถวายในท่านเหล่านั้น
ย่อมมีผลเป็นอันมาก

อิทัมปิ สังเฆ ระตะนัง ปะณีตัง
ข้อนี้ จัดเป็นรัตนคุณอันสูงส่ง
เอเตนะ สัจเจนะ สุวัตถิ โหตุ ฯ
ด้วยคำสัตย์นี้ ขอความสวัสดี จงบังเกิดมีเถิด

๖. เย สุปปะยุตตา มะนะสา ทัฬเหนะ
นิกกามิโน โคตะมะสาสะนัมหิ
บุคคลทั้งหลายเหล่าใด ประกอบความเพียรอย่างดี
ดำเนินไปในศาสนา ของพระโคดมเจ้า ด้วยใจอันมั่นคง

เต ปัตติปัตตา อะมะตัง วิคัยหะ
บุคคลทั้งหลายเหล่านั้น หน่วงเอาพระนิพพานเป็นอารมณ์
ได้บรรลุคุณอันควรบรรลุ คือ พระอรหัตตผลแล้ว

ลัทธา มุธา นิพพุติง ภุญชะมานา
จึงได้เสวยอมตะรส คือ
ความสงบเย็น จากความเร่าร้อนทั้งปวง

อิทัมปิ สังเฆ ระตะนัง ปะณีตัง
แม้ข้อนี้ ก็เป็นรัตนคุณอันสูงส่งในพระสงฆ์
เอเตนะ สัจเจนะ สุวัตถิ โหตุ ฯ
ด้วยคำสัตย์นี้ ขอความสวัสดี จงบังเกิดมีเถิด

๗. ยะถินทะขีโล ปะฐะวิง สิโต สิยา
จะตุพภิ วาเตภิ อะสัมปะกัมปิโย
เสาเขื่อนที่ฝังลงดิน อย่างมั่นคงแล้ว
ลมทั้งสี่ทิศ ไม่พึงทำให้หวั่นไหวได้ ฉันใด

ตะถูปะมัง สัปปุริง วะทามิ โย
อะริยะสัจจานิ อะเวจจะ ปัสสะติ
เราตถาคตกล่าวว่า
สัตบุรุษผู้หยั่งเห็นอริยสัจธรรม ก็มีอุปมาฉันนั้น นั่นแล

อิทัมปิ สังเฆ ระตะนัง ปะณีตัง
แม้ข้อนี้ ก็เป็นรัตนคุณอันสูงส่ง ในพระสงฆ์
เอเตนะ สัจเจนะ สุวัตถิ โหตุ ฯ
ด้วยคำสัตย์นี้ ขอความสวัสดี จงบังเกิดมีเถิด

๘. เย อะริยะสัจจานิ วิภาวะยันติ
คัมภีระปัญเญนะ สุเทสิตานิ
บุคคลเหล่าใด กระทำอริยสัจธรรมทั้งหลาย
ที่พระบรมศาสดา ผู้มีปัญญาอันลึกซึ้ง
ทรงแสดงดีแล้ว ให้แจ่มแจ้งแก่ตนได้

กิญจาปิ เต โหนติ ภุสัปปะมัตตา
บุคคลเหล่านั้น ถึงจะยังเป็นผู้ประมาทอยู่มาก
นะ เต ภะวัง อัฏฐะมะมาทิยันติ
แต่ท่านก็ย่อมไม่ถือเอา ซึ่งภพที่ ๘
อิทัมปิ สังเฆ ระตะนัง ปะณีตัง
แม้ข้อนี้ ก็เป็นรัตนคุณอันสูงส่ง ในพระสงฆ์
เอเตนะ สัจเจนะ สุวัตถิ โหตุ ฯ
ด้วยคำสัตย์นี้ ขอความสวัสดี จงบังเกิดมีเถิด

๙. สะหาวัสสะ ทัสสะนะสัมปะทายะ
ตะยัสสุ ธัมมา ชะหิตา ภะวันติ,
สักกายะทิฏฐิ วิจิกิจฉิตัญจะ
สีลัพพะตัง วาปิ ยะทัตถิ กิญจิ
สังโยชน์ ๓ ประการ คือ
สักกายทิฏฐิ วิจิกิจฉา และสีลัพพตปรามาส
ซึ่งเป็นกิเลสเครื่องผูกสัตว์ไว้ในภพ
อันพระโสดาบันละได้แล้ว
เพราะความถึงพร้อมแห่งญาณทัสนะ

จะตูหะปาเยหิ จะ วิปปะมุตโต
อนึ่ง พระโสดาบันเป็นผู้พ้นได้แล้ว
จากอบายภูมิทั้ง ๔

ฉะ จาภิฐานานิ อะภัพโพ กาตุง
ทั้งไม่อาจที่จะทำอภิฐาน
คือ ฐานะอันหนัก ๖ ประการ

อิทัมปิ สังเฆ ระตะนัง ปะณีตัง
แม้ข้อนี้ ก็เป็นรัตนคุณอันสูงส่งในพระสงฆ์
เอเตนะ สัจเจนะ สุวัตถิ โหตุ ฯ
ด้วยคำสัตย์นี้ ขอความสวัสดี จงบังเกิดมีเถิด

๑๐. กิญจาปิ โส กัมมัง กะโรติ ปาปะกัง
กาเยนะ วาจายุทะ เจตะสา วา
พระโสดาบันนั้น ยังทำความผิดเล็กน้อยทางกาย
ทางวาจา หรือทางใจ อยู่บ้างก็จริง

อะภัพโพ โส ตัสสะ ปะฏิจฉะทายะ
แต่เมื่อทำแล้ว ท่านเปิดเผย ไม่ปกปิดความผิดนั้นไว้
อะภัพพะตา ทิฏฐะปะทัสสะ วุตตา
ความที่บุคคลเข้าถึงกระแสพระนิพพานแล้ว
เป็นผู้ไม่ปกปิดความผิดไว้นี้
อันเราตถาคตกล่าวแล้ว

อิทัมปิ สังเฆ ระตะนัง ปะณีตัง
แม้ข้อนี้ ก็เป็นรัตนคุณอันสูงส่งในพระสงฆ์
เอเตนะ สัจเจนะ สุวัตถิ โหตุ
ด้วยคำสัตย์นี้ ขอความสวัสดี จงบังเกิดมีเถิด

๑๑. วะนัปปะคุมเพ ยะถา ผุสสิตัคเค
คิมหานะ มาเส ปะฐะมัสมิง คิมเห
พุ่มไม้ในป่า แตกยอดในเดือนคิมหันต์
แห่งคิมหันตฤดูฉันใด

ตะถูปะมัง ธัมมะวะรัง อะเทสะยิ
พระตถาคตเจ้า
ได้ทรงแสดงธรรมอันประเสริฐ

นิพพานะคามิง ปะระมังหิตายะ
ซึ่งเป็นหนทางให้ถึงพระนิพพาน
เพื่อประโยชน์อย่างยิ่งแก่สัตว์ทั้งหลาย
ก็มีอุปมาฉันนั้น

อิทัมปิ สังเฆ ระตะนัง ปะณีตัง
แม้ข้อนี้ ก็เป็นรัตนคุณอันสูงส่ง ในพระสงฆ์
เอเตนะ สัจเจนะ สุวัตถิ โหตุ
ด้วยคำสัตย์นี้ ขอความสวัสดี จงบังเกิดมีเถิด

๑๒. วะโร วะรัญญู วะระโท วะราหะโร
พระตถาคตเจ้า ทรงเป็นผู้ประเสริฐ
ทรงเป็นผู้รู้สิ่งอันประเสริฐ
ทรงเป็นผู้ให้สิ่งอันประเสริฐ
ทรงเป็นผู้นำมาซึ่งสิ่งอันประเสริฐ

อนุตตะโร ธัมมะวะรัง อะเทสะยิ
ทรงเป็นผู้ไม่มีใครยิ่งกว่า
ได้ทรงแสดงแล้วซึ่งพระธรรมอันประเสริฐ

อิทัมปิ พุทเธ ระตะนัง ปะณีตัง
แม้ข้อนี้ ก็เป็นรัตนคุณอันสูงส่ง ในพระพุทธเจ้า
เอเตนะ สัจเจนะ สุวัตถิ โหตุ
ด้วยคำสัตย์นี้ ขอความสวัสดี จงบังเกิดมีเถิด

๑๓. ขีณัง ปุราณัง นะวัง นัตถิ สัมภะวัง
กรรมเก่า ของพระอริยบุคคลเหล่าใดสิ้นแล้ว
กรรมสมภพใหม่ย่อมไม่มี
วิรัตตะจิตตายะติเก ภะวัสมิง
พระอริยบุคคลเหล่าใด
มีจิตอันหน่ายแล้ว ในภพต่อไป

เต ขีณะพีชา อะวิรุฬ หิฉันทา
พระอรหันต์เหล่านั้น
มีพืชคือวิญญาณสิ้นไปแล้ว
ไม่มีความพอใจที่จะเกิดอีกต่อไป
นิพพันติ ธีรา ยะถายัมปะทีโป
เป็นผู้มีปัญญา ย่อมนิพพาน
เหมือนดังดวงประทีปที่ดับไปฉะนั้น

อิทัมปิ สังเฆ ระตะนัง ปะณีตัง
แม้ข้อนี้ ก็เป็นรัตนคุณอันสูงส่ง ในพระสงฆ์
เอเตนะ สัจเจนะ สุวัตถิ โหตุ
ด้วยคำสัตย์นี้ ขอความสวัสดี จงบังเกิดมีเถิด

ฉ. เบื้องต้นให้กำหนดจิตระลึกถึงภูตทั้งหลาย อมนุษษย์ทั้งหลาย สัมภเวสีทั้งหลาย
แล้วกระทำไว้ในใจด้วยความสงเคราะห์แก่เขาเหล่านั้น
ตั้งจิตทำไว้ในใจด้วยปารถนาให้เขาทั้งหลายเหล่านั้น
ได้ยิน ได้ฟัง ได้รู้ถึงคุณของพระรัตนะตรัยดังสาธยายมานี้แล้ว
ขอเขาทั้งหลายเหล่านั้นจงได้ถึงซึ่งพระพุทธเจ้าเป็นสรณะดังนี้คือ


๑๓. ยานีธะ ภูตานิ สะมาคะตานิ
ภุมมานิ วา ยานิวะ อันตะลิกเข.
เหล่าภูตทั้งหลายทั้งที่อยู่ ณ ภาคพื้นก็ดี
ทั้งที่อยู่ในอากาศก็ดี
ที่มาชุมนุมกันอยู่ ณ สถานที่นี้ก็ดี

ตะถาคะตัง เทวะสะนุสสะปูชิตัง
พุทธัง นะมัสสามะ สุวัตถิ โหตุ
เราทั้งหลายจงนมัสการพระพุทธเจ้าผู้มาแล้ว
อันเทวดาและมนุษย์บูชาแล้ว
ขอความสุขสวัสดีจงมีเถิด


ช. เบื้องต้นให้กำหนดจิตระลึกถึงภูตทั้งหลาย อมนุษษย์ทั้งหลาย สัมภเวสีทั้งหลาย
แล้วกระทำไว้ในใจด้วยความสงเคราะห์แก่เขาเหล่านั้น
ตั้งจิตทำไว้ในใจด้วยปารถนาให้เขาทั้งหลายเหล่านั้น
ได้ยิน ได้ฟัง ได้รู้ถึงคุณของพระรัตนะตรัยดังสาธยายมานี้แล้ว
ขอเขาทั้งหลายเหล่านั้นจงได้ถึงซึ่งพระธรรมเป็นสรณะดังนี้คือ


ยานีธะ ภูตานิ สะมาคะตานิ
ภุมมานิ วา ยานิวะ อันตะลิกเข.
เหล่าภูตทั้งหลายทั้งที่อยู่ ณ ภาคพื้นก็ดี
ทั้งที่อยู่ในอากาศก็ดี
ที่มาชุมนุมกันอยู่ ณ สถานที่นี้ก็ดี

ตะถาคะตัง เทวะสะนุสสะปูชิตัง
ธัมมัง นะมัสสามะ สุวัตถิ โหตุ
เราทั้งหลายจงนมัสการพระธรรมอันมาแล้ว
อันเทวดาและมนุษย์บูชาแล้ว
ขอความสุขสวัสดีจงมีเถิด


ซ. เบื้องต้นให้กำหนดจิตระลึกถึงภูตทั้งหลาย อมนุษษย์ทั้งหลาย สัมภเวสีทั้งหลาย
แล้วกระทำไว้ในใจด้วยความสงเคราะห์แก่เขาเหล่านั้น
ตั้งจิตทำไว้ในใจด้วยปารถนาให้เขาทั้งหลายเหล่านั้น
ได้ยิน ได้ฟัง ได้รู้ถึงคุณของพระรัตนะตรัยดังสาธยายมานี้แล้ว
ขอเขาทั้งหลายเหล่านั้นจงได้ถึงซึ่งพระสงฆ์เป็นสรณะดังนี้คือ


ยานีธะ ภูตานิ สะมาคะตานิ
ภุมมานิ วา ยานิวะ อันตะลิกเข.
เหล่าภูตทั้งหลายทั้งที่อยู่ ณ ภาคพื้นก็ดี
ทั้งที่อยู่ในอากาศก็ดี
ที่มาชุมนุมกันอยู่ ณ สถานที่นี้ก็ดี

ตะถาคะตัง เทวะสะนุสสะปูชิตัง
สังฆัง นะมัสสามะ สุวัตถิ โหตุ
เราทั้งหลายจงนมัสการพระสงฆ์ผู้มาแล้ว
อันเทวดาและมนุษย์บูชาแล้ว
ขอความสุขสวัสดีจงมีเถิด


รตนสุตฺตํ นิฏฺฐิตํ ฯ




Create Date : 14 สิงหาคม 2558
Last Update : 14 สิงหาคม 2558 7:34:02 น.
Counter : 260 Pageviews.

0 comments
ชื่อ :
Comment :
 *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

สมาชิกหมายเลข 1075032
Location :
  

[ดู Profile ทั้งหมด]
 ฝากข้อความหลังไมค์
 Rss Feed
 Smember
 ผู้ติดตามบล็อก : 4 คน [?]