Group Blog All Blog
|
Korea in My Eyes :: Part2 + Korea in my eyes + Second Day มาต่อกับทัวร์เกาหลีวันที่ 2 กันดีกว่าค่ะ หลังจากที่แอบรู้สึกว่า ช่วงนี้อัพ Blog ไม่ค่อยต่อเนื่อง เหตุเนื่องจากการหมักดองงานไว้ระหว่างที่หนีเที่ยว ผลก็คือ ต้องมานั่งสะสางอะไรต่างๆนาๆ ที่พอกหางอิชั้นไว้ T_T ชีวิตรันทดของคนสวย(ที่ไม่เคยสวย)จริงๆ บ่นเสร็จละค่ะ ต่อๆๆ หลังจากตื่นเช้าเพื่อมาทาน Breakfast กันตอน 6 โมง 45 นาที ซึ่งเสมือน ตี 4 45 นาทีของบ้านเรา กระพงกระเพาะ อิชั้นสับสนมึนงงไปหมดละค่ะ พูดเลย นอกจะกระเพาะยังสับสนแล้ว อิชั้นก้อวุ่นวายไปด้วย เนื่องจากคุณแฟนทำที่ลากกระเป๋าเดินทางของอิชั้นหัก ได้เลือดกันไปแต่เช้า ประเด็นคือ มันเป็นกระเป๋าใบที่ใหญ่ที่สุด ลากกันออกมาอย่างทุลักทุเล Oh my God ! วันนี้เลยจุดประกายความหงุดหงิดให้อิชั้นแต่เช้า ฮ่วยย ส่วนอาหารที่ Vivaldi ก็งั้นๆอ่ะค่ะ จืดๆ ชืดๆ บอกเลยว่าอยากกินโจ๊กป้าหน้าปากซอยมาก ณ จุดๆนี้ กินๆไป น้ำส้มคั้นอร่อยสุดค่ะ วันนี้พี่ไกด์ และหลุยส์(ผู้ช่วยหนุ่มเกาหลี) จะพาอิชั้นไปปล่อยแก่ที่ Everland ดินแดนมหัศจรรย์ค่ะ และไกด์กรุ๊ปอิชั้นน่ารักมาก รอบคอบอย่างกะอะไรดี เลยรีบพาเหล่าผู้สูงอายุอย่างเราๆ ไปเที่ยวสวนสนุกกันตั้งแต่เช้า กลัวพวกเราจะไม่มีเวลาเที่ยว เพราะว่า Everland จะมีนักท่องเที่ยวเยอะมากกกก เยอะทั้งวันจริงๆค่ะ ขนาดวันนี้ไม่ใช่วันหยุด คนยังเยอะเลยค่ะ สงสัยปิดเทอม อิชั้นไปถึงกันตั้งแต่เช้า ยังต้องไปต่อคิวอันแสนยาวเหยียดเข้าประตู วันนี้อากาศหนาวมากค่ะ สงสัยจะเช้าเกินไป อิชั้นก้อจัดทั้งหมวก ทั้งถุงมือ แถมน้ำมูกไหลตลอดเวลา เบื่อจริง! แต่เห็นหนุ่มๆ เกาหลี เอ๊าะๆ แล้วเลือดมันสูบฉีดดีค่ะ ลืมเรื่องอากาศไปชั่วขณะ (ดูหื่นยังไงชอบกล)  Everland Map Everland จัดเป็นสวนสนุกกลางแจ้งที่ใหญ่ที่สุดในเกาหลี สร้างขึ้นโดยบริษัท Samsung ซึ่งเหตุผลในการสร้างน่ารักมากค่ะ คุณเจ้าของกิจการ Samsung เค้ามีลูกชาย 3 คน เมื่อลูกชายคนโตของเค้ามีหลายชายคนแรก คุณปู่ก็เลยอยากจะสร้างสวนสนุกให้หลานเป็นของขวัญ โดยลงทุนซื้อภูเขากันเลยทีเดียวค่ะ Everland จึงเป็นสวนสนุกที่อยู่ท่ามกลางหุบเขา ช่วงแรกเปิดให้เล่นได้เฉพาะคนในครอบครัว แล้วก็พนักงานบริษัท Samsung เท่านั้นค่ะ แต่หลังๆอิชั้นจำได้คุ้นๆ เหมือนว่ารัฐบาลเกาหลีจะซื้อหุ้นไปส่วนนึงมั๊งคะ เลยเปิดให้คนนอกเข้าไปเล่นได้น่ะค่ะ เรื่องค่าบัตรอิชั้นไม่แน่ใจ เพราะหลุยส์เป็นคนจัดการให้หมดค่ะ อิชั้นมีหน้าที่เข้าไปเล่นอย่างเดียว 555  บรรยากาศโดยรวมนะคะ   ภายในนั้นมีทั้งส่วนที่เป็นเครื่องเล่น ซาฟารี แล้วก็พวกสวนดอกไม้ น่ะค่ะ เห็นเค้าว่ามีเจ้าไลเกอร์แฝดคู่แรกของโลกด้วย (ไลเกอร์ คือ เสือผสมสิงโตค่ะ) แต่อิชั้นไม่ได้เข้าไปดูในโซนนั้นหรอกค่ะ ทำไมน่ะหรอ เดี๋ยวเล่าให้ฟังค่ะ  อิชั้นและผองเพื่อนมีเวลาใน Everland ประมาณ 2 ชมครึ่งค่ะ แต่จุดไคลแมกซ์ของที่นี่ มันคือเจ้า T-express ค่ะ  ขอยืมภาพจาก everland.com ค่ะ  ขอยืมภาพจาก everland.com ค่ะ T-express เป็นรถไฟเหาะรางไม้แห่งแรกของเกาหลีและใหญ่ที่สุดในเกาหลีด้วย (ไม่แน่ใจว่าที่สุดในโลกด้วยหรือเปล่า) ความสูงมันราวๆ 56 เมตร เทียบเท่ากับภูเขาที่อยู่ข้างๆได้เลยอ่ะค่ะ ประเด็นคือมันทิ้งดิ่งลงมา 77 องศาด้วยค่ะคุณ อือหือ ช่างสร้างนะคะ  พี่ไกด์และหลุยส์(ผู้น่ารักของอิชั้น) ก็เลยพานั่งกระเช้าลงมาที่โซนล่างก่อนค่ะ เพื่อให้ผู้กล้าทุกท่านได้เข้าไปท้าทายความสูง 56 เมตรนั้น แต่อิชั้นคิดว่า เหมือนจะเอาชีวิตไปทิ้งมากกว่านะคะ สรุปคืออิชั้นและผู้ร่วมทัวร์ประมาณ 9 คน ตัดสินใจเอาชีวิตไปทิ้งกันค่ะ ส่วนคนอื่นนั้น โบกมืออำลา (ป๊อดอ่ะ) แน่ะ! ยังไปว่าเค้าอีก แต่กระนั้นเลย ขนาดอิชั้นแทบจะโหนสลิงลงมาต่อคิวเล่นแล้ว อิชั้นยังต้องรอคิวเกือบ 2 ชมค่ะ เพราะมีเหล่าวัยรุ่นเกาหลีนับร้อยยินยอมพร้อมเอาชีวิตไปทิ้งด้วยกันทั้งนั้น ยืนรอกันจนเส้นเลือดขอด   ระหว่างทางที่รอ จะมีการจำลองเบื้องหลังการสร้าง T-express ให้เราชมด้วยค่ะ แต่การจัดคิวของที่นี่ถือว่าดีนะคะ เป็นระเบียบ ไม่มีการแซงคิวกัน และประหยัดพื้นที่การยืนรอคิวด้วยการตั้งรั้วขดไปมาราวกับลำไส้เล็กของอิชั้น ระหว่างยืนรอคิว เราก็จะได้ยินเสียงรถไฟวิ่งครืดคราดอยู่บนหัว พร้อมเสียงกรีดร้องโหยหวนของเหยื่อทั้ง 36 คนบนขบวนรถไฟนั้น ฮ่าๆ หลายคนถอดใจ เดินกลับออกไปก็มีค่ะ แต่อิชั้นไม่ค่ะ บอกเลย! พอมาถึงเจ้าหน้าที่สวนสนุกก็ทักทายพวกเราตามสไตล์ Everland ค่ะ คือการยกมือพลิกไปมา (ถ้าเป็นบ้านเราจะหมายถึง ไม่มี หมดแล้ว ไม่ได้แล้ว) เหมือนทำมือไว้หลอกเด็ก เวลาเด็กถามว่ามีขนมอีกมั๊ย เราก็บอกไม่มีแล้ว บ๋อแบ๋ ๆ แต่ในที่นี้จะหมายถึงการทักทาย และยินดีต้อนรับนะคะ อย่าเข้าใจผิด ก่อนขึ้นไปเล่น เราต้องเอาของไปเก็บไว้ที่ล็อกเกอร์ค่ะ เค้าจัดล๊อกเกอร์ไว้ข้างๆตรงที่เราจะขึ้นรถไฟเลย สะดวกมาก ไม่มีการขโมยของค่ะ ไม่ต้องกลัว เพราะล็อกเกอร์จะอยู่ฝั่งตรงข้ามกับที่เรายืนรอขึ้นรถไฟค่ะ เวลาเราจะเอาของไปเก็บ คือต้องเดินผ่านไปในตัวรถไฟก่อนค่ะ ซึ่งตรงนั้นมีแค่พนักงานกับคนที่เข้าไปเล่นแล้วเท่านั้น ถึงจะหยิบของได้ค่ะ หมวก แว่นตา ผ้าพันคอ กิ๊ฟ อะไรที่จะหลุดลอยออกมาได้ ให้ถอดเก็บหมดค่ะ ตอนอิชั้นขึ้นไป จำได้ว่าพอมันทิ้งดิ่งลงมา อิชั้นหลับตาอย่างเดียวค่ะ ขอเสียวในความมืด ไม่งั้นอิชั้นอาจจะตายคาโบกี้ก็เป็นได้ค่ะ ความจำที่หลงเหลือของอิชั้น จำได้ว่า อิชั้นอ้าปากร้องกรี๊ดแล้วน้ำลายกระเซ็นไปข้างหลังตลอดๆเลยค่ะ คนข้างหลังอิชั้น อาจจะลงมาแล้วสงสัยว่า เอ๊ะ ทำไมหัวเปียก เนื่องจากอ้าปาก แล้วหุบไม่ได้ค่ะ ลมมันตีแรงมาก ฮ่าๆๆๆ ช่วงที่สุดๆจริงๆคงเป็นช่วงที่ขึ้นไปสูงสุด 56 เมตร แล้วทิ้งดิ่งลงมา 77 องศา แล้วก็ขึ้นไปอีก แล้วก็ทิ้งดิ่งลงมาอีกอย่างต่อเนื่อง ระยะเวลาต่อ 1 รอบ คือ 3 นาทีค่ะ อิชั้นรู้แล้วว่า เวลาของนรกนั้น 1 นาทีก็ยาวนานค่ะ T_T ผู้ป่วยโรคหัวใจห้ามเล่นนะคะ บอกเลย อิชั้นลงมาด้วยความเปลี้ย แต่แอ๊บไว้ค่ะ กลัวน้องที่มาด้วยรู้ว่าขาสั่น ฮ่าๆๆ ยังคงไว้ฟอร์มเดินไปซื้อปาท่องโก๋สเปนมากิน ที่ไหนได้ วิญญาณอิชั้นหลุดออกจากร่างไปตั้งแต่รถไฟออกตัวแล้วค่ะ สรุปคือ 2 ชมครึ่งนั้น อิชั้นเล่นได้แต่ T-express ค่ะ เพราะลงมาอีกไม่ถึงครึ่งชั่วโมงก็ถึงเวลานัดแล้วค่ะ ไลกง ไลเกอร์ ไม่ต้องดูมันแล้ว เพื่อนที่มาด้วยพยายามปลอบใจอิชั้นว่า "เอาเหอะน่า มาเล่นนี่ก็คุ้มแล้ว" ขอบคุณทุกกำลังใจค่ะ อิชั้นฝากไว้สำหรับคนที่จะไปเที่ยวนะคะ ถ้าอยากเล่น T-express ให้รีบไปแต่เช้าเลยค่ะ เพราะคนต่อคิวเยอะมาก อย่างที่บอก ขนาดอิชั้นไปเช้า ยังรอเนิ่นนาน พออิชั้นเล่นเสร็จออกมา คนต่อแถวกันล้านแปด แถมกระเช้าคนยังต่อคิวขึ้นลงกันเยอะมาก ตอนกลับอิชั้นไม่ได้นั่งกระเช้าขึ้นมาค่ะ คิวยาวมาก ตัดสินใจเดินขึ้นมา เส้นเลือดขอดปูดรอบสองค่ะ การมา Everland คือการรีบมาแต่เช้า แล้วเล่นสิ่งที่อยากเล่นที่สุดก่อนเลยค่ะ ไม่งั้นอด อิชั้นขอเตือน แต่ที่นี่ค่อนข้างรอบคอบมากๆนะคะ ในวันที่ฝนตกหรือมีหิมะตก เค้าจะปิด ไม่ให้เล่น T-express เลยค่ะ เพื่อความปลอดภัย วันนี้เลยถือว่าโชคดีมาก ได้เล่นค่ะ ------------------------------------------ วันนี้มื้อกลางวันเราไปกินหมูย่างเกาหลี หรือเรียกว่า คาลบี้ กันค่ะ อันนี้กลุ่มอิชั้นบอกว่าอร่อยกัน บรรดาหนุ่มๆกินกันจนหมูกลัวอ่ะค่ะ กินเป็นโล บอกว่าหมูอร่อยกว่าที่ไทย บวกกับตาหลุยส์หิ้วน้ำจิ้มแจ่วมาให้เราด้วย เลยยิ่งอร่อยเข้าไปใหญ่  เค้าจะมาเป็นชิ้นใหญ่ๆแบบนี้หล่ะค่ะ ปิ้งๆเสร็จก็ใช้กรรไกรตัดเอา ตอนสุก อิชั้นไม่ได้ถ่ายหรอกค่ะ มัวแต่กิน ณ จุดๆนี้ หิวนะคะ อิชั้นคิดว่าเกาหลีเป็นชนชาติที่ชอบทำอาหารพวกหมักๆ อะไรแบบนี้นะคะ เค้าจะทำอร่อยเลยทีเดียว พวกปิ้งย่าง เนื้อเค้าจะนุ่มและอร่อยมากค่ะ ส่วนหนึ่งมาจากการเลี้ยงหมูด้วยค่ะ เนื่องจากเกาหลีเค้ามีพื้นที่จำกัด หมูก็เลยต้องอยู่ในที่แคบๆ กินๆๆ ไม่ได้เดินอะไร เนื้อก็เลยเยอะ และนุ่มค่ะ ช่วงบ่ายเราไปต่อกันที่ไร่สตอเบอรี่ค่ะ ซึ่งอิชั้นไม่ได้คาดหวังอะไรกับไร่สตอฯอยู่แล้ว ซึ่งก็เป็นไปแบบที่คิดค่ะ สตอเบอรี่พันธุ์ดูใบ (เห็นแต่ใบ) จริงๆ ยังดีที่เค้าแจกสตอเบอรี่ลูกใหญ่(มาก) ให้ทานคนละ 1 แก้วค่ะ (ประมาณ 6 ลูก)  ซึ่งหลุยส์ยังบังคับให้อิชั้นโพสต์ท่าป้อนสตอฯให้คุณแฟนด้วยค่ะ ทำไมคะหลุยส์ อิชั้นไม่ชอบทำท่าโหลๆอะไรพวกนี้ เข้าใจมั๊ยคะ อิชั้นอยากทำท่าอ้าปาก เอาฟันเฉาะสตอเบอรี่บ้างได้มั๊ย เบื่อจิงเลยหนุ่มเกาหลี มามะให้กอด 1 ที แล้วจะยอมหายเบื่อค่ะ ว๊าย กรี๊ดด!! ไม่เป็นกุลสตรีเลยอ่ะค่ะ ไร่สตอเบอรี่ที่อิชั้นไปเที่ยว คุณลุงเจ้าของไร่เค้าเคยเล่นภาพยนตร์ให้บ้านเราด้วยนะคะ เรื่องกวนมึนโฮ จำได้มั๊ยคะ เล่นเป็นพ่อของเพื่อนนางเอกน่ะค่ะ ที่เป็นคนเกาหลี วันนี้เจอคุณลุงแกด้วย แต่ไม่ได้ขอถ่ายรูปน่ะค่ะ มัวกินผลไม้ฟรี ฮ่าๆๆ ไม่ได้เห็นแก่กินนะคะ ไม่เลย  ขโมยภาพมาจาก //insidekorea.wordpress.com/ ที่เค้าเอาออกมาขายก็จะลูกใหญ่ๆแบบนี้หล่ะค่ะ หลายคนคงเคยชิมกันบ้างแล้ว สตอเบอรี่ที่นี่จะลูกใหญ่และหวานมากค่ะ ไม่เหมือนพันธุ์ของบ้านเรา ส่วนนึงมาจากดินค่ะ เค้าจะใช้ดินที่เคยปลูกต้นโสมมาปลูกสตอเบอรี่ค่ะ เลยทำให้มันหวานฉ่ำอะไรทำนองนั้น ในเดือนมีนาคมนี่ก็เป็นปลายฤดูของเค้าแล้วค่ะ ถ้าใครอยากซื้อไปฝากคนที่บ้าน ที่นี่เค้ามีบริการไปส่งที่สนามบินให้ค่ะ แต่ต้องสั่ง 1 ลัง (มี 4 กล่องเล็ก) 45,000 วอน (ราคา ณ เดือนมีนาคม ปี 2557) ค่ะ  ระหว่างทางบ้านเรือนเค้าก็จะสร้างกันประมาณนี้แหล่ะค่ะ อยู่บนเนิน บนที่ลาดชันบ้างอะไรบ้าง เพราะบ้านเค้าภูมิประเทศไม่เหมือนเราค่ะ รถยนตร์ส่วนใหญ่จากที่เห็นมา 4 วัน เค้าจะไม่ใช้รถญี่ปุ่นเลยค่ะ ประมาณว่าไม่สนับสนุนสินค้าญี่ปุ่น ส่วนใหญ่จะใช้ Hyundai chevrolet แล้วก็ Samsung ค่ะ  หลังจากนั้นเราก็ไปเยี่ยม N Seoul Tower กันค่ะ สถานที่สุดฮิต ที่คู่รักต้องไปคล้องกุญแจ เพราะเชื่อกันว่าคู่รักที่มาคล้องกุญแจที่นี่ แล้วโยนลูกกุญแจลงไปด้านล่าง จะทำให้ความรักยั่งยืนตลอดไป ไม่มีใครมาพรากจาก โอ้ววว โอปป้า แต่ที่นี่ อิชั้นไม่ได้ถ่ายรูปอะไรมากมายค่ะ เนื่องจากรู้สึกเมื่อย หงุดหงิด หมอกก็ลง หนาวด้วยค่ะ เลยแบบไม่มีอารมณ์จะถ่ายภาพค่ะท่านผู้ชม ถ่ายมานิดเดียว กุญจงกุญแจอะไรก็ไม่ได้คล้อง บอกกันไว้แล้วว่าเราจะไม่ตามกระแสนะที่รัก จบนะ !   ลืมเล่าว่า N Seoul Tower เนี่ย บางทีเค้าจะเรียกกันว่า "นัมซันทาวเวอร์"ค่ะ เพราะมันตั้งอยู่บนภูเขานัมซัน ซึ่งวันที่อิชั้นไป หมอกค่อนข้างลงจัด เลยมองไม่ค่อยเห็นวิวทิวทัศน์อะไรค่ะ สูงจากฐาน ประมาณ 236.7 เมตร สร้างขึ้นในปี 1969 และเปิดให้เข้าชมเมื่อ ปี 1980 ค่ะ ส่วนใครที่จะขึ้นไปดูวิว 360 องศา ต้องเสียค่าขึ้นลิฟต์นะคะ วันนี้ตอนเย็นเราไป Shopping กันต่อที่ทงแดมุนค่ะ ไปที่ Doota ค่ะ ที่นี่เสื้อผ้าสวยดีนะคะ แต่ราคาก็พอสมควร ตัวละ 2-3 พันบาทค่ะ แต่ของเค้าสวยจริง แฟชั่นมากๆ นึกถึงพระเอก นางเอกในซีรี่ย์กันเลยทีเดียว ที่นี่จะเน้นขายของแบรนด์ค่ะ มีทั้งแบรนด์นอกและแบรนด์ของเค้าเอง ส่วนถ้าเดินออกจาก Doota ไปที่ตึกถัดไปอีกนิด ก็จะเป็นเสื้อผ้าเหมือนกันค่ะ แต่อันนั้นราวๆ ประตูน้ำ โบ๊เบ๊ บ้านเราค่ะ ไม่ค่อยแนะนำ  ขโมยภาพมาจาก doota ค่ะ ส่วนมื้อเย็น เราไปทานข้าวยำเกาหลีกันค่ะ เสริฟพร้อมกับชาบู ซดกับฮวบฮาบ ครั้งนี้ก็เหมือนกัน ตาหลุยส์ก็ถือถุง Jo malone มาอีกแล้ว หยิบออกมา ก็น้ำจิ้มพันท้ายนรสิงค์เช่นเดิมค่ะ  วันนี้เราเปลี่ยนโรงแรมที่พักกันค่ะ เข้ามาพักในโซลแล้ว พักที่ Hotel Together ค่ะ ดึกๆ เลยออกไปเดินเล่น หาของกินกัน(อีกแล้ว) แถวนี้จะเป็นย่านคนทำงานค่ะ พวกนักธุรกิจจะพักกันเยอะ เลยจะมีร้านอาหารและร้านสะดวกซื้ออยู่ทุกซอยเลยค่ะ อิชั้นก็ไปสอยขนม ของฝากอีกตามเคย แฮ่ๆ คุณไกด์แนะนำว่า แถวนั้นมีร้านขายไก่ทอด อร่อยมาก แต่อิชั้นไม่ได้เดินไปค่ะ เพราะมันหนาว เลยเดินเข้า supermarket ตลอดๆ หาไออุ่น แถวนี้จะมีร้านที่เป็นซุ้มๆ ข้างทาง ที่ขายอาหารและเหล้าด้วย (เหมือนในหนังเรื่องกวนมึนโฮน่ะค่ะ) ร้านพวกนี้ถ้าเค้ารู้ว่าเราเป็นต่างชาติ เค้าจะชอบดักฟันเราค่ะ เตือนไว้ก่อน เพราะมีบางคนเข้าไปทาน แล้วบอกว่า ช่วยแนะนำเมนูที่อร่อยๆหน่อย อาจุมม่าแกจะเอาอาหารที่แพงสุดนั่นแหล่ะค่ะ มาแนะนำเรา ดีไม่ดี จะโดนฟันหัวแบะ เพราะฉะนั้น ถ้าจะไปทาน แนะนำว่า ให้ดูโต๊ะที่เป็นคนเกาหลีมาทานค่ะ ว่าเค้าทานไรกัน เค้าจะทานของอร่อย และก็ไม่แพงมากค่ะ รู้สึกที่อร่อยๆ จะเป็นซุปอะไรซักอย่างนี่แหล่ะค่ะ คนเกาหลีชอบกินกัน สิ่งที่อิชั้นเดินไปเจอ แล้วรู้สึกว่า เออ ดีเนอะ ก็คือ ตึกที่เกาหลี เค้าจะมีสัญญาณไฟอยู่ด้านหน้าตึกค่ะ เวลารถจะออกจากตึก สัญญาณไฟก็จะดัง และกระพริบๆๆ ค่ะ ดังมากๆเลยด้วย อย่างกับสัญญาณไซเรน ่เพื่อเป็นการเตือนให้คนที่เดินผ่านไปมา ระวังรถที่กำลังจะออกมาจากตึกค่ะ ตอนแรกอิชั้นเดินผ่าน ตกใจมาก คิดว่าอิชั้นไปทำอะไรผิด เอ๊ะ ข้ามถนนผิดหรือเปล่า รีบวิ่งหลบกันใหญ่ ที่ไหนได้ รถจะออกค่ะ ฮ่าๆ เดี๋ยวมาต่อวันที่ 3 นะคะ จบกันแบบห้วนๆเลยท่ีเดียว อิๆ
ขอบคุณสำหรับคะแนนโหวตนะครับ
ตอนไปฮันนีมูนที่ฮ่องกงผมเคยไปเล่นรถไฟเหาะ มาดามไม่กล้านั่ง ผมเลยนั่งคนเดียว ลงมาขาสั่นจริงๆครับ 555 ตอนนี้ถ้าได้ไปเกาหลี คงไม่เล่นแล้วล่ะครับ 77 องศาทิ้งดิ่งซะขนาดนั้น 555 ดูน่ากลัวนะครับ 555 โดย: กะว่าก๋า
  วันที่: 10 มีนาคม 2557 เวลา:22:41:56 น.ทีเอ็กซ์เพลซไม่กล้าเล่นค่า แต่น้องสาวกับเพื่อนไปเล่นบอกสนุกดี ถ้าเป็นเราหัวใจวายตายแน่ 555
โดย: บาบิบูเบะ...แปลงกายเป็นบูริน
วันที่: 10 มีนาคม 2557 เวลา:22:52:58 น.สุดยอดเลยค่ะอ่านแล้วเหมือนได้ไปเที่ยวด้วยเลยค่ะ
เพลงก็น่ารัก เข้ากันไปหมดเลย เจ้าเครื่อง T-express นั่น ถ้าเราไปเล่นหัวใจได้หลุดออกมาทางปากแน่ๆเลยค่ะ แต่ขำที่ไกด์เอาน้ำจิ้มพันท้ายใน่ถุงป้าโจ 555 บันทึกการโหวต Blog ในวันนี้ ผู้เขียน Blog หมวดเนื้อหา Blog ได้รับโหวต Close To Heaven Food Blog ดู Blog คนสวยที่ไม่เคยสวย Travel Blog ดู Blog โดย: ปลาทอง9
วันที่: 11 มีนาคม 2557 เวลา:0:28:45 น.ตามมาเที่ยวด้วยคนนะคะ
เขียนได้สนุกมากๆ อ่านไปขำไป เคยไป Everland แต่ไม่เล่นเครื่องเล่นอะไรเลยค่ะ ยืนดูให้กำลังใจเพื่อนอย่างเดียว เจอรถไฟเหาะ 77 องศา หนึ่งคงต้องดมยาดม สลบไปหลายรอบแน่นอนค่ะ ปล เที่ยวคนเดียวมันดีตรงตื่นเต้นได้ตลอดเวลาค่ะ ;) โดย: AdrenalineRush
วันที่: 11 มีนาคม 2557 เวลา:0:30:24 น.ผู้เขียน Blog หมวดเนื้อหา Blog ได้รับโหวต
คนสวยที่ไม่เคยสวย Travel Blog ดู Blog บล็อกนี้เล่าเรื่องสนุกอีกแล้ว ที่แรกเห็นภาพ Everland คิดว่าจะคล้ายๆกับ ดิสนีย์แลนด์ ที่โตเกียวซะอีก สองภาพแรกบรรยากาศคล้ายมาก แต่ไม่ใช่ สมัยอยู่ที่ญี่ปุ่นไปเที่ยวดิสนีย์แลนด์มาสาม ครั้ง สนุกมากๆอยากกลับไปอีกครั้ง จริงๆมันไม่ได้อยู่โตเกียว แต่คนไทยเราชอบเรียกทุกอย่างว่า..โตเกียว เช่นสนามบิน นาริะตะ(สนามบินโตเกียว) และดิสนี้ย์แลนด์โตเกียว แท้จริงสองที่นี้อยู่ในจังหวัดชิบะของญี่ปุ่น อ้าวกลายเป็นมาเล่าเรื่องของตัวเองซะนิ ขอบคุณนะขอรับสำหรับคะแนนเป็นกำลังใจ โดย: ขุนเพชรขุนราม
 วันที่: 11 มีนาคม 2557 เวลา:5:37:37 น.เห็นไร่สตอบอรี่แล้วอยากรี๊ดดค่า อุ๊ย ลืมไปไม่เป็นกลุสตรีเน๊าะ 55
 เสียงเพลงเข้ากับกลิ่นอายของเกาหลีดีแท้น๊ออ บรรยากาศภาพรวมสวย ชอบค่า เกาหลีที่สุดที่อยากไปล่ะน๊า  จัดไปค่า โหวตไล้ท์ คริๆ บันทึกการโหวต Blog ในวันนี้ ผู้เขียน Blog หมวดเนื้อหา Blog ได้รับโหวต ขุนเพชรขุนราม Political Blog ดู Blog ปีศาจความฝัน Movie Blog ดู Blog ประกายพรึก Diarist ดู Blog คนสวยที่ไม่เคยสวย Travel Blog ดู Blog ระบบจะบันทึกคะแนนโหวต เฉพาะการโหวต 5 ครั้งล่าสุดในแต่ละวันเท่านั้น โดย: พริ้วไหวไปตามลม
วันที่: 11 มีนาคม 2557 เวลา:6:19:09 น.โอยยยยยยยยยยยย คิดถึงเกาหลี
อัพบล็อกใหม่แล้วไปเคาะบอกหน่อยนะคะ จะตามมาอ่าน โดย: สาวไกด์ใจซื่อ
วันที่: 11 มีนาคม 2557 เวลา:9:08:50 น.สวัสดีค่ะคุณคนสวยแต่ไม่สวย อิอิ ไงกันสวยแต่ไม่สวย แต่ก็ขอบอกว่าสวยก็แล้วกันนะคะ อิอิ ขอบคุณที่เข้าไผทักทายฟังเพลงค่ะ ยินดีที่ได้รู้จักนะคะ
ตามมาเที่ยวเกาหลีด้วยค่ะ อ่านสนุกตื่นเต้นไปด้วยตอนที่ดิ่งร่างลงมาโห...หัวใจจะหยุดเต้นไปด้วย เก่งมากๆเลยค่ะที่ทำได้ ไลท์ให้นะคะ ไว้จะมาติดตามตอนต่อไปนะคะ มีความสุขวันสีขมพูค่ะ  More Flowers Greetings Comments โดย: กิ่งฟ้า
 วันที่: 11 มีนาคม 2557 เวลา:12:55:28 น.ตามไปเที่ยวค่ะ
ขอบคุณที่แวะไปเยี่ยมบล็อกนะคะ ยินดีที่ได้รู้จักค่ะ โดย: never the last
วันที่: 12 มีนาคม 2557 เวลา:7:50:05 น.คนสวยที่ไม่เคยสวย Travel Blog ดู Blog
ตามมาเที่ยวด้วยค่ะ.. เพลงฟังไม่ออกแต่ชอบๆทำนองสนุกดีค่ะ โดย: มายะนา โปโย (Opey
) วันที่: 12 มีนาคม 2557 เวลา:7:57:14 น.แวะมาเยี่ยมก่อนเที่ยงวันตามเวลาของเมืองไทยขอรับ .. ส่วนคุณท่านขุนฯเป็นเวลาใกล้เที่ยงคืนสำหรับเมกา.. แวะมาคุยด้วยเฉยๆขอรับ.. ขอวันนี้มีความสุขกับการทำงานนะขอรับ
โดย: ขุนเพชรขุนราม
วันที่: 12 มีนาคม 2557 เวลา:10:42:53 น.เข้ามาโหวต Travel Blog ให้ด้วยนะครับ
ขอบคุณสำหรับคะแนนโหวตด้วยครับ ปล. พี่เบิร์ดเป็นอีกคนที่มีทัศนคติที่ดีต่อการใช้ชีวิตเลยนะครับ โดย: กะว่าก๋า
วันที่: 12 มีนาคม 2557 เวลา:11:54:24 น.เห็นแล้วอยากไปเที่ยวเกาหลี กดไลค์กดโหวตให้เลยครับ
ป.ล.ขอบคุณสำหรับที่กดโหวตให้ผมด้วยนะครับ โดย: ปีศาจความฝัน
 วันที่: 12 มีนาคม 2557 เวลา:12:32:47 น.Everland นี่น่าสนใจไปเล่นจังค่ะ เห็นเพื่อนๆหลายคนไปประเดิมกันมาแล้ว อิอิ
ที่เที่ยวก็ดูหลากหลายดีเหมือนกันนะเนี่ย เรื่องชาตินิยมนี่เห็นด้วยที่ใช้แต่ของที่ผลิตเอง แต่ก็มีคนที่แอนตี้ญี่ปุ่นอยู่เหมือนกันจากที่ถามๆมา ปล. เรื่องสกินเฮดที่รัสเซีย ที่เคยได้ยินมาก็หวาดเสียวตรงที่เคยมีคนเวียดนามโดนพวกนี้ผลักให้รถไฟชนมาแล้วค่ะ  โดย: wachi (กาบริเอล
) วันที่: 12 มีนาคม 2557 เวลา:15:25:54 น.อ่านเพลินเพลงจังหวะสนุก
คิดว่าค่อยเป็นค่อยไปลดละเลิกก็ได้ครับ ขอบคุณโหวตด้วยครับ คนสวยที่ไม่เคยสวย Travel Blog โดย: moresaw
วันที่: 12 มีนาคม 2557 เวลา:20:54:25 น.แวะมาทักทายครับผม
ป.ล.ขอบคุณสำหรับที่กดโหวตให้ผมด้วยนะครับ โดย: ปีศาจความฝัน
วันที่: 14 มีนาคม 2557 เวลา:15:43:37 น.สวัสดีค่ะคุณคนสวยที่ไม่เคยสวย เอชื่อแบบนี้สงสัยจะสวยนะคะ
ขอบคุณที่แวะไปทักทายกันนะคะ และยินดีที่ได้รู้จักค่ะ เข้ามาอ่านเรื่องของคุณแล้ว ขำมากมาย หัวเราะจนท้องแข็งเลยค่ะ อยากจะโหวตหมวดขำขันให้เลยนะ แต่มันไม่เข้ากับหัวข้อบล๊อกเลยอ่ะ อ่านสนุก อยากไปเกาหลีอยู่แล้ว พอมาอ่านอยากไปซะวันนี้พรุ่งนี้เลย ประมาณตามรอยอะไรประมาณนั้นอ่ะคะ เขียนได้มันส์เห็นภาพมากๆค่ะ แบบนี้เอารางวัลไปเลยค่ะ คนสวยที่ไม่เคยสวย Travel Blog มาช้าเพราะช่วงนี้มีเวลาน้อยนะคะ แต่เข้ามาแล้วติดใจขอแอดเฟรนไว้เลยนะคะ มีเวลาจะมาอ่านตอน 1 ค่ะ ถ้าตอน3ออนเมื่อไหร่ รบกวนมาสะกิดด้วยนะคะ มีความสุขมากๆนะคะ  โดย: ดาวริมทะเล
วันที่: 15 มีนาคม 2557 เวลา:20:44:52 น. |
kwonkanunz
 ฝากข้อความหลังไมค์ Rss Feed  Smember ผู้ติดตามบล็อก : 24 คน [?]
Friends Blog
Link MY VIP Friends   |
|||||||||||||
:: ผู้หญิงมาจากดาวพฤหัส ::
ยิ่งอ่านความเป็นมา ยิ่งอึ้ง
โห สร้างสวนสนุกให้หลาน สุดยอดจริงๆ อลังมากกก
คนมีเงินอ่ะเนอะ
เห็นแบบนี้แล้วยิ่งอยากไปเกาหลี เผื่อจะได้เจอดาราขวัญใจมั่ง อิอิ
ขอบคุณที่นำมาให้ชมนะคะ
และขอบคุณที่แวะไปฟังเพลงด้วยค่ะ