UK: London, Bath, Salisburi and Stonhenge

อีกครั้งกับอังกฤษ

ปลายเดือนมิถุนายนที่ผ่านมา ได้มีโอกาสกลับไปอังกฤษอีกครั้ง ครั้งนี้เพื่อไปรับปริญญา (ใบสุดท้ายแล้วค่ะ) ได้คำนำหน้ามาว่า ดร. ต่อท้ายด้วย PhD หลังจากที่ใช้เวลาหลายปีในการร่ำเรียน ไปอังกฤษครั้งนี้ไม่ได้ไปคนเดียวค่ะ (ครั้งแรกที่มีหนุ่มตามไปด้วยค่ะ) ไม่ใช่ใครอื่นไกลค่ะ น้องชายสุดหล่อ (อิอิ ชมกันเองค่ะ) ตามไปด้วยในฐานะคนช่วยถือของ ตากล้อง และอื่นๆ อีกจิปาถะ การไปคราวนี้เรียกได้ว่ามีเวลาน้อยมากๆๆ ค่ะ สี่วันเท่านั้นเองค่ะ ไม่ค่อยคุ้มค่าเครื่องบินเท่าไหร่อ่ะ แต่ก็ยังดีเนอะ ดีกว่าไม่ได้ไป

ออกเดินทางกันวันอาทิตย์กลางคืนหรือเช้าวันจันทร์ค่ะ (ตีหนึ่ง) ไปถึง Heathrow ก็เช้าวันจันทร์เช่นกันค่ะ ประมาณ 7 โมงกว่า ๆ แต่กว่าจะผ่านด่านต่าง ๆ ออกมาได้ ก็นู่นเกือบเก้าโมงครึ่งค่ะ จะ Offpeak ก็ยังไม่ใช่ เลยซื้อตั๋ว Underground แบบเที่ยวเดียวก่อนเพื่อไป Russel Square ค่ะ เช็คอินเข้าโรงแรม Hotel Russel ค่ะ โรงแรมสี่ดาว กลางเมืองใกล้ ๆ British Museum ค่ะ ราคาที่ได้ค่อนข้างถูกค่ะ (จองผ่าน Lastminute.co.uk) กว่าจะเช็คอินเสร็จก็สิบโมงกว่า ๆ ก็ได้ฤกษ์พาน้องเที่ยวลอนดอนค่ะ

คราวนี้เนื่องจากมีเวลาน้อย เลยเลือกที่จะนั่งรถ Big Bus Tour ค่ะ เป็นรถสองชั้นพาเที่ยวชมเมืองลอนดอน สนนราคาก็ 24 ปอนด์ต่อคนค่ะ ถ้าซื้อผ่านเน็ตถูกกว่านี้ค่ะ เหลือประมาณ 20 อ่ะ แต่เราไม่ได้ซื้อเพราะไม่แน่ใจในแผนการท่องเที่ยวของตัวเองอ่ะ เราซื้อตั๋วรถที่โรงแรมค่ะ ป้านรถก็อยู่ใกล้ ๆ โรงแรมค่ะ เรียกว่าค่อนข้างสะดวกทีเดียวค่ะ

เมื่อเรากระโดดขึ้นรถได้สายเขียวก่อนค่ะ พาเราไปดูตึกแถว Russel Square, Southampton Rows ไปส่งเราแถว ๆ Mable Arch เปลี่ยนรถนั่งสายฟ้าค่ะ พาไปดู Tower bridge, London Bridge, Tower of London, London Dungeon, Bank Street - ถนนสายะนาคารสมชื่อค่ะ เราลงรถที่ Tower of London ค่ะ แต่ไม่ได้เข้าไปอ่ะ ลงเพื่อเปลี่ยนไปนั่งเรือค่ะ ล่องแม่น้ำ Thame ค่ะ ค่าเรือรวมอยู่ในค่ารถแล้วค่ะ ก่อนลงเรือเริ่มหิวค่ะ ซื้อ Ice Creame - White choc ของ cadburys กินกันค่ะ อร่อยสมความอยากค่ะ

เรานั่งเรือจาก Tower Peir ไปที่ Westminster Peir ใช้เวลาประมาณ 40 นาที เจ้าหน้าที่บนเรือก็บรรยายไปว่าเราผ่านตึกอะไรบ้างค่ะ มี Tate Modern เป็นหนึ่งในนั้น ไปจบที่ London Eyes และ Big Ben ค่ะ ตอนแรกเราก็ว่าจะนั่ง London Eyes นะคะ แต่ว่าน้องเราบอกว่ามันก็คงเหมือนๆ ชิงช้าสวรรค์ทั่วไปค่ะ แค่วิวเป็นเมืองลอนดอนแค่นั้นอ่ะ ก็เอาเป็นว่าพับไปค่ะ เราเคยขึ้นแล้วครั้งนึงค่ะ ก็จริงอย่างที่น้องว่าอ่ะ เราว่าก็งั้น ๆ อ่ะ ไม่คุ้มเงินกะเวลาที่เสียไปอ่ะ ถ่ายรูปไปเรื่อย ๆ ลงเรือก็กระโดดขึ้นรถอีกรอบค่ะ คราวนี้ไปแถว ๆ Knight Bridge คงไม่มีใครไม่รู้จักมั้งคะ Harrods ค่ะ แต่ก่อนจะเข้าไปเดินช็อปใน Harrods ขอไปเข้า Museums ก่อนค่ะ

เริ่มจาก The most favourite one - Science Museum เปลี่ยนไปเยอะค่ะ มีนิทรรศการต่าง ๆ มากขึ้น น่าสนใจมากๆ เลยค่ะ ตั้งแต่ศาสตร์เกี่ยวกับ Energy หรือ พลังงานที่เรามีปัญหากันอยู่ค่ะ เลยได้รู้มาว่าโลกเราเคยมี Energy Crisis มาก่อนแล้วค่ะ มีนิทรรศการเรื่อง Plastic ด้วยค่ะตั้งแต่ที่มา ที่ไป จนถึงวัฒนาการจากอดีต ปัจจุบัน และอนาคตเกี่ยวกับงานวิจัยต่างๆ นอกจากนี้ยังมีเรื่องราวเกี่ยวกับวิทยาศาสตร์ อื่น ๆ อีกมากมายค่ะ

จาก Science Museum ก้ไปต่อที่ Natural Science Museum ค่ะ เรียนรู้เรื่องราว ต่างๆ ของ ธรรมชาติ โลก สุริยจักรวาล และวิวัฒนาการของแผ่นดินไหวเป็นต้นค่ะ

จากเรื่องราวทางวิทยาศาสตร์ แล้วก็ย้ายไปต่อที่ Victoria Albert Museum ค่ะ ไปดูภาพเขียน ศิลปะจากประเทศต่าง ๆ รวมทั้งของประเทศไทยด้วยค่ะ ใครจะไปคิดว่าเราจะไปเห็นเข็มขัดทองฝังเพชรของพระนางเจ้ารำไพพรรณีที่อังกฤษคะ ขอบอกว่าสวยมากๆ ค่ะ

จากสามพิพิธภัณฑ์ ก็ไปต่อที่พิพิธภัณฑ์ Harrods ค่ะ อิอิ ไปเดินดู หาของกินค่ะ พาน้องไปกิน Krisby Creme ที่น้องบอกว่าก็งั้น ๆ แหละ ไม่เห็นจะอร่อยเลยอ่ะ เดิน Harrods สักพักก็หกโมงเย็นแล้วค่ะ ออกมานั่งรถเที่ยวสุดท้ายกลับที่พักค่ะ แต่ว่า ... รถมันหมดที่หกโมงค่ะ มันพาไปจอดส่งที่ Mable Arch อ่ะ ทำไมไม่บอกกันก่อนจะได้ลงก่อนอ่ะ พอเราลงก็ โอ้ เอาไงดีเนี่ย เราเห็นอีกคันที่ยังทำงานอยู่ ก็เลยเข้าไปถามปรากฎว่า น้องคนขับพาไปส่งที่ Picadelly Circus ไปกินอาหารญี่ปุ่นค่ะ ร้านมิซาโตะ ใน china town ค่ะ เสร็จแล้วก็เดินกลับที่พักค่ะ ผ่าน Camden market, แวะซื้อของที่ Next นิดนึง เพราะเป็นร้านเดียวที่เปิดอ่ะ อิอิ หลงอีกหน่อย กลับไปที่พัก เมื่อยมาก ๆ ค่ะ ไม่ได้เดินนานแล้วอ่ะ

เช้ารุ่งขึ้ก็อยู่ใน London อีกหน่อย ไปเที่ยว British Museum ครึ่งวันเช้าแล้วค่อยเดินทางต่อไป Bath ค่ะ ตอนแรกว่าจะไป Stonhenge ก่อน แต่ว่าสัมภาระของเรา อืมม ไป Bath ก่อนดีกว่าค่ะ British Museum จากที่เคยมาแล้ว เดินไม่ทั่วสักที คราวนี้ก็เหมือนกันค่ะ เดินไปเรื่อย ๆ เหมือนได้เที่ยวทั่วโลกเลยค่ะ ไม่ว่าจะเป็น Egypt, Greece, Italy, Asia, Africa, America เป็นต้นค่ะ สุดยอดจริงๆ ค่ะ เกือบ ๆ เที่ยวก็กลับมาที่โรงแรมเช็คเอาท์ คราวนี้ก็วิ่งค่ะ ไปขึ้นรถไฟเที่ยวเที่ยงครึ่งค่ะ ไป Bath เรียกว่าเกือบตกรถค่ะ ไม่ได้ซื้ออะไรไปกินเลยอ่ะ เศร้า! นั่งรถไปน้องก็หลับ เราก็หลับ ตื่นก็หิว เดินไปซื้อ Panini มากินค่ะ ก็อร่อยดีอ่ะนะ

ถึง Bath บ่ายสองโมงค่ะ ตอนแรกว่าจะไป Stonehenge ต่อค่ะ แต่ไปๆ มาๆ ตกรถค่ะ ไม่ทันรถไฟอ่ะ คุยกับเพื่อนๆ เพลินไปหน่อย เลยเดินเล่นในเมืองแทนดีกว่าอ่ะ พาน้องเดินช็อปปิ้งค่ะ ได้ของนิดหน่อยเองค่ะ แต่ของลดราคาเพียบแล้วอ่ะ ปีนี้ลดเร็วจัง วันต่อมาเราขึ้นมหาวิทยาลัยไปหาคนรู้จักค่ะ แล้วลงมาก็ไปเยี่ยมรุ่นพี่ที่ป่วย เอาของไปให้เขาด้วยอ่ะ จากนั้นก็ไปกินกลางวันที่ Sally Lunn ร้านที่พลาดไม่ได้ถ้ามา Bath ค่ะ จากนั้นก็ไป Salisbury ถึงนู่นทันรถเที่ยวสุดท้ายไป Stonehenge พอดีค่ะ นั่งรถชมเมืองไปเรื่อย ๆ ดู Stonehenge หรือ แท่งหินมหัศจรรย์ แล้วก็กลับค่ะ กลับมาเพื่อดูบอลยูโรที่ Pub กับพี่ ๆ ค่ะ รอบรอง พานองไปสัมผัสผับอังกฤษวันแข่งบอลค่ะ

วันที่ 26 เป็นวันสำคัญสำหรับเราค่ะ วันรับปริญญา ซึ่งเป็นปริญญาในที่ยิ่งใหญ่มากค่ะ ก็นะปริญญาใบที่ทำให้เราเป็น ดร. ค่ะ วันนี้เป็นวันที่เราได้เดินถ่ายรูปรอบ Bath กับเพื่อนๆ พี่ ๆ ที่เรารู้จักค่ะ อาจารย์เราก็มาด้วยค่ะดีใจมาก ๆ ค่ะ เย็นนั้นพี่กานต์ใจดีพาน้องไปกินข้าวร้านลุงที่คิดถึงมากอ่ะ

27 แต่เช้าก็เดินทางกลับบ้านแล้วอ่ะ ยังเที่ยวไม่หมดเลยอ่ะ ซักวันคงได้กลับไปอีกนะคะ

Knot @ Home
July 5th, 2008

Create Date : 05 กรกฎาคม 2551 Last Update : 5 กรกฎาคม 2551 13:16:39 น. Counter : 777 Pageviews.		6 comments
Share Tweet