|
1 | 2 | 3 | 4 | 5 | 6 | 7 |
8 | 9 | 10 | 11 | 12 | 13 | 14 |
15 | 16 | 17 | 18 | 19 | 20 | 21 |
22 | 23 | 24 | 25 | 26 | 27 | 28 |
29 | 30 | |
|
|
|
|
|
|
|
ประวัติ เดวิด เบ็คแฮม
เดวิด เบ็คแฮม
จากบ้านเล็กๆทางย่านเลย์ตันสโตน ทางตะวันออกของกรุงลอนดอน ทายาทของพ่อครัวที่เป็นแฟนพันธุ์แท้ของทีม "ปีศาจแดง" แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด สู่การเป็นซูเปอร์สตาร์ลูกหนังระดับหมื่นล้านคนแรกของโลก กับชื่อที่ไม่มีใครรู้จัก "เดวิด เบ็คแฮม"
เดวิด โรเบิร์ต โจเซฟ เบ็คแฮม โอบีอี - อดีตกัปตันทีมชาติอังกฤษและเป็นหนึ่งในนักฟุตบอลที่มีชื่อเสียงและโด่งดังที่สุดในโลก ในฐานะมิดฟิลด์รูปหล่อฝีเท้าดีและมีภาพลักษณ์ของความเป็นซูเปอร์สตาร์เต็มเปี่ยม และยังเคยได้รับการยกย่องจากเปเล่ ราชาลูกหนังโลกให้ติด 1 ใน 100 นักฟุตบอลของโลก รวมทั้งยังเคยได้รับการยกย่องจากนิตยสาร Time ให้เป็น 100 บุคคลตัวอย่างของโลก
เบ็คแฮม หรือ "เบ็คส์" เริ่มต้นชีวิตในวัยเด็กที่มหานครลอนดอน และได้รับอิทธิพลและการปลูกฝังความรักที่มีต่อทีมแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด จากเท็ด เบ็คแฮม บิดาที่มักจะหอบหิ้วเจ้าหนูเดวิด ไปชมเกมของเร้ด เดวิลส์ ที่สนามโอลด์ แทรฟฟอร์ดบ่อยๆ และสิ่งนี้ได้กลายเป็นความผูกพันชั่วชีวิตของเบ็คแฮม ที่มีต่อทีมปีศาจแดง
เจ้าหนูเดวิด ยังโชคดีมากกว่าแฟนบอลตัวน้อยอีกนับร้อยนับพันเมื่อได้เข้าไปเยี่ยมชมโรงเรียนลูกหนัง "บ็อบบี้ ชาร์ลตัน" และยังเคยเป็น "มาสค็อต" (เด็กๆที่นักบอลจะจูงมือลงสนาม) ของทีมแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ในเกมที่พบกับเวสต์แฮม ในปี 1986 ด้วย
แต่กว่าที่จะได้เข้ามาเป็นนักฟุตบอลของแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด จริงๆ เบ็คแฮม ก็ต้องผ่านการทดสอบทีมระดับเยาวชนของเลย์ตัน โอเรียนท์ แต่ได้ลงเล่นให้สเปอร์ส เป็นทีมแรกแทน ก่อนที่จะมีโอกาสได้เซ็นสัญญาเป็นนักเตะฝึกหัดของแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ในวันเกิดอายุครบ 14 ปี และนี่เป็นก้าวแรกในการเติมเต็มความฝันของนักฟุตบอลที่โด่งดังที่สุดของอังกฤษในยุคนี้
พรสวรรค์ของเบ็คแฮม เริ่มโดดเด่นเหนือเพื่อนร่วมรุ่นและเป็นกำลังสำคัญในการพาทีมคว้าแชมป์เอฟเอ ยูธคัพ ในปี 1992 โดยเป็นผู้ทำประตูชัยให้ทีมเอาชนะคริสตัล พาเลซ ได้ด้วยในเกมนัดที่ 2 ก่อนที่จะได้รับโอกาสจากอเล็กซ์ เฟอร์กูสัน (ขณะนั้นยังไม่มียศท่านเซอร์) ให้ขึ้นมาสู่ทีมชุดใหญ่
เบ็คแฮม ลงสัมผัสเกมแรกให้กับทีมชุดใหญ่ของแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ในปี 1992 ด้วยการลงเป็นตัวสำรองในเกมลีก คัพ ในนัดที่พบกับไบรจ์ตัน แอนด์ โฮฟ อัลเบี้ยน ก่อนจะได้เซ็นสัญญาอาชีพฉบับแรก แต่ก็ยังต้องอยู่ในทีมชุดสำรองเป็นส่วนใหญ่ กระนั้นก็ยังพาทีมคว้าแชมป์ลีกสำรองได้
ในฤดูกาล 1994/95 เฟอร์กี้ ส่งเบ็คแฮม ไปขัดเกลาตัวเองที่เปรสตัน นอร์ธ เอนด์ ซึ่งเบ็คแฮม ก็ได้เก็บเกี่ยวประสบการณ์ในการเล่นเป็นทีมตัวจริงอย่างเต็มที่ก่อนที่จะกลับมาและมีโอกาสลงเล่นในเกมพรีเมียร์ลีก เกมแรกในเกมที่แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด พบกับคู่แค้นอย่างทีม "ยูงทอง" ลีดส์ ยูไนเต็ด ในวันที่ 2 เม.ย.1995 และเริ่มเข้ามามีส่วนในทีมชุดใหญ่ของเฟอร์กี้ มากขึ้นเรื่อยๆ พร้อมกับเพื่อนร่วมรุ่นอีกหลายคนอย่าง แกรี่-ฟิล พี่น้องเนวิลล์ ,นิคกี้ บัตต์ ,พอล สโคลส์ ที่เป็นที่รู้จักกันในนาม Fergie's Babe
แต่จุดเริ่มต้นตำนานจริงๆ ของเบ็คแฮม คือการทำประตูมหัศจรรย์ด้วยการยิงจากระยะกว่าครึ่งสนามในเกมที่พบกับวิมเบิลดัน ในเดือน ส.ค. 1996 ซึ่งเบ็คแฮม แสดงให้เห็นถึงพรสวรรค์ในการวางบอลเข้าสามเหลี่ยมสุดที่นีล ซัลลิแวน ผู้รักษาประตูวิมเบิลดัน จะวิ่งกลับไปรับทันได้
ประตูนี้ทำให้ชื่อของเดวิด เบ็คแฮม เป็นที่รู้จักของคนอังกฤษและกลายเป็น "ประตูทอง" ของชีวิตเขาอย่างแท้จริง
เบ็คแฮม ถูกเรียกตัวติดทีมชาติอังกฤษทันทีไม่นานหลังยิงประตูดังกล่าว และลงเล่นเกมทีมชาตินัดแรกในวันที่ 1 ก.ย. ในนัดที่พบกับมอลโดวา ในเกมฟุตบอลโลกรอบคัดเลือกก่อนที่จะช่วยพาแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด คว้าแชมป์พรีเมียร์ลีก และคว้ารางวัลนักฟุตบอลดาวรุ่งยอดเยี่ยมแห่งปีของสถาบันพีเอฟเอ มาครองได้
ชื่อเสียงของมิดฟิลด์รูปหล่อขจรขจายไปทั่ว และในช่วงนี้เองที่เขาเริ่มพบกับวิคตอเรีย อดัมส์ หนึ่งในสมาชิกนักร้องวงสไปซ์เกิร์ล ที่ต่อมากลายเป็นคู่แท้ปาฏิหารย์และมีส่วนช่วยส่งเสริมกันและกันจนกลายเป็นคู่รักที่โด่งดังมากที่สุดในโลกคู่หนึ่ง และมีครอบครัวที่อบอุ่นด้วยลูกชายสุดน่ารักทั้ง 3 คือบรู๊คลีน (ที่มาจากชื่อของสะพานบรู๊คลีน ในมหานครนิวยอร์ค) ,โรเมโอ และโจเซฟ
แต่ชีวิตของเบ็คแฮม ก็ไม่ได้มีแต่ขาขึ้นเพียงอย่างเดียวเท่านั้น ครั้งหนึ่งเขาเคยเกือบต้องกลายเป็นนักฟุตบอลไร้อนาคตด้วยซ้ำ เมื่อถูกตราหน้าว่าเป็นคนที่ทำให้ทีมชาติอังกฤษ ต้องพ่ายแพ้ต่อทีมชาติอาร์เจนติน่า ในเกมรอบที่ 2 ของฟุตบอลโลก 1998 ที่ประเทศฝรั่งเศส หลังโดนใบแดงไล่ออกจากสนามด้วยการทำท่าจะถีบใส่ดีเอโก้ ซิเมโอเน่ กองกลางจอมตุกติกของทีมฟ้าขาว
ช่วงนี้ถือเป็นช่วงที่เบ็คแฮม ตกต่ำที่สุด คนทั้งอังกฤษโห่ไล่ด่าทอใส่เขา แต่ด้วยกำลังใจที่เข้มแข็งและการปกป้องดูแลอย่างสุดกำลังของอเล็กซ์ เฟอร์กูสัน ทำให้ดาวเตะผู้นี้ก้าวผ่านช่วงวิกฤติชีวิตมาได้และค่อยๆ เรียกชื่อเสียงกลับมาได้ทีละน้อย
ในปี 1999 ชีวิตของเบ็คแฮม พลิกกลับมาถึงจุดสูงสุดในการเล่นให้กับแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ด้วยการมีส่วนพาทีมคว้าเทรเบิ้ลแชมป์ - พรีเมียร์ลีก ,เอฟเอ คัพ และยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก ด้วยฟอร์มการเล่นที่สุดยอดไม่ว่าจะเป็นการเปิดบอลจากริมเส้น การยิงลูกฟรีคิกระดับพระกาฬ และความมุ่งมั่นทุ่มเทจนเสียงโห่ที่เคยมีกลายเป็นเสียงเชียร์อย่างสุดกำลัง ในปีนี้เองเบ็คแฮม ยังได้อันดับที่ 2 ของรางวัลนักฟุตบอลยอดเยี่ยมแห่งปีของยุโรป หรือบัลลงดอร์ และที่ 2 ในรางวัลนักฟุตบอลยอดเยี่ยมแห่งปีของฟีฟ่าอีกด้วย
หลังจากนั้นกราฟชีวิตของเบ็คแฮม ก็พุ่งขึ้นเป็นจรวด เขากลายเป็นซูเปอร์สตาร์ลูกหนังที่โด่งดังที่สุดในโลกและยังคงประสบความสำเร็จในการเล่นกับแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด อย่างไม่ขาด แถมยังได้รับตำแหน่งปลอกแขนกัปตันทีมชาติอังกฤษมาครองอีกด้วย
ซึ่งตำแหน่งกัปตันทีมนี้เองทำให้เบ็คแฮม กลายเป็นขวัญใจมหาชนคนอังกฤษอย่างเต็มภาคภูมิ รวมทั้งสร้างกระแสความคลั่งไคล้ในตัวกัปตันสุดหล่อผู้นี้ที่แม้จะทำผมทรงโมฮีแกนอันแปลกประหลาดก็ยังมีแฟนบอลแห่ไปทำผมทรงนี้ตามเป็นจำนวนมาก ซึ่งเป็นการตอกย้ำความเป็นซูเปอร์สตาร์และความเป็นผู้นำแฟชั่นในสนามฟุตบอลของเบ็คแฮมอีกด้วย
แต่ชีวิตที่น่าจะจบลงด้วยการเป็นตำนานตลอดกาลของแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ก็ต้องปิดฉากลงก่อนถึงเวลาอันควร เมื่อชื่อเสียงและความโด่งดังของเบ็คแฮม เริ่มนำไปสู่รอยร้าวในความสัมพันธ์กับเซอร์อเล็กซ์ เฟอร์กูสัน ที่นับถือกันเป็นพ่อคนที่สอง และฟางเส้นสุดท้ายระหว่างทั้งสองคนคือการที่เฟอร์กี้ บันดาลโทสะหลังผิดหวังกับฟอร์มของเบ็คแฮมด้วยการเตะสตั๊ดใส่จนทำให้เกิดรอยแผลที่หางคิ้วและเป็นข่าวโด่งดังไปทั่วโลก
จบฤดูกาล 2002/03 เบ็คแฮม ได้รับเครื่องราชอิสริยาภรณ์ชั้นโอบีอี (OBE) แต่ก็ถูกขายให้กับทีม "ราชันชุดขาว" เรอัล มาดริด ด้วยค่าตัว 25 ล้านปอนด์ และกลายเป็นหนึ่งในนักเตะซูเปอร์สตาร์ของเรอัล มาดริด ที่รู้จักกันในนาม "กาลาคติกอส"
แต่ชีวิตในทีมเรอัล มาดริด ของเบ็คแฮม ก็ไม่สมหวังนักเมื่อทีมลอส เมเรนเกส เข้าสู่ภาวะตกต่ำ ซึ่งแม้ว่าความนิยมในทั่วโลกจะเพิ่มสูงขึ้นจากการมาถึงของซูเปอร์สตาร์ชาวเมืองผู้ดี แต่ก็ไม่ได้ทำให้ดัชนีความสุขของเบ็คแฮม เพิ่มขึ้นแต่อย่างใด
กับชีวิตในทีมชาติอังกฤษ เบ็คแฮม เริ่มถูกมองว่าเป็นตัวถ่วงของทีมด้วยอิทธิพลที่มีมากเกินไปเป็นการปิดกั้นขวางทางเกิดของบรรดาดาวเตะรุ่นน้องหลายๆ ราย และในฟุตบอลโลก 2006 ที่เยอรมัน ก็ได้กลายเป็นรายการที่ฝังเขาให้จมสนิทต่างจากเมื่อครั้งฟุตบอลโลก 2002 ที่ความนิยมพุ่งสูงสุด (เพราะคะแนนเห็นใจจากอาการกระดูกเท้าแตกด้วย)
ในฟุตบอลโลกที่เมืองเบียร์ เบ็คแฮม ไม่ได้ทำผลงานที่น่าประทับใจเลยซึ่งก็ไม่แตกต่างจากขุนพลทีมชาติอังกฤษทั้งชุดที่เล่นกันได้ค่อนข้างต่ำกว่ามาตรฐานแม้จะเอาตัวรอดมาได้ถึงรอบ 8 ทีมสุดท้ายก็ตาม ซึ่งหลังจบรายการเบ็คแฮม ที่ได้รับบาดเจ็บในเกมกับโปรตุเกสด้วย ได้แสดงความรับผิดชอบด้วยการขอลาออกจากการเป็นกัปตันทีมชาติอังกฤษ พร้อมๆ กับการลาออกของสเวน โกรัน อีริคส์สัน ผู้จัดการทีมชาติอังกฤษที่แจ้งไว้ก่อนล่วงหน้าแล้ว
การลาออกดังกล่าวถือเป็นจุดจบของเบ็คแฮม ในนามทีมชาติอย่างแท้จริงเมื่อสตีฟ แม็คคลาเรน ผู้จัดการคนใหม่ประกาศจุดยืนชัดเจนว่าไม่ต้องการเบ็คแฮม อยู่ในทีมต่อไปเนื่องจากต้องการนักเตะสายเลือดใหม่ที่จะนำสิงโตคำรามสู่ยุคใหม่ ทำให้ความฝันของเบ็คแฮม ที่จะสะสมหมวกทีมชาติครบ 100 ใบต้องมีอันสลายไปได้แค่ 94 ใบเท่านั้น
ยังไม่พอ กับเรอัล มาดริด ที่มีการเปลี่ยนแปลงประธานสโมสรจากฟลอเรนติโน่ เปเรซ และโค้ชเป็นฟาบิโอ คาเปลโล่ ก็มีส่วนทำให้เบ็คแฮม กลายเป็นส่วนเกินในทีมทันทีเนื่องจากคาเปลโล่ ไม่นิยมชมชอบเท่าไรนัก และหลังจากต้องตกเป็นตัวสำรองมาโดยตลอด ซูเปอร์สตาร์ผู้นี้จึงขอเลือกเส้นทางใหม่กับการไปเป็นดาวดังในสหรัฐอเมริกา กับแอลเอ แกแล็กซี่แทน พร้อมรับเงินค่าเหนื่อยมหาศาลที่สุดในโลกลูกหนัง
ข้อมูลส่วนตัว ชื่อ : เดวิด โรเบิร์ต โจเซฟ เบ็คแฮม วันเกิด : 2 พฤษภาคม 1975 เกิดที่ : เลย์ตันสโตน ลอนดอน, อังกฤษ ตำแหน่ง : กองกลาง, กองกลางฝั่งขวา ส่วนสูง : 182 ซม. ฉายา : เบ็คส์, DB7 สโมสรปัจจุบัน : เรอัล มาดริด หมายเลขเสื้อ : 23, 7 สโมสรอาชีพ ปี สโมสร ลงเล่น ประตู 1992 - 2003 แมนยูฯ 265 62 2003 - ปัจจุบัน เรอัล มาดริด 105 12 ทีมชาติ 1996 - 2006 อังกฤษ 94 17
Create Date : 13 เมษายน 2550 |
|
15 comments |
Last Update : 23 มิถุนายน 2550 14:13:52 น. |
Counter : 1877 Pageviews. |
|
|
|
|
| |
โดย: pm IP: 125.26.147.130 2 พฤศจิกายน 2550 12:09:00 น. |
|
|
|
| |
โดย: pm IP: 125.26.147.130 2 พฤศจิกายน 2550 12:10:05 น. |
|
|
|
| |
โดย: มอส IP: 58.9.177.147 27 มกราคม 2551 17:58:07 น. |
|
|
|
| |
โดย: กัน IP: 125.26.34.133 4 กุมภาพันธ์ 2551 9:10:21 น. |
|
|
|
| |
โดย: จุ๊กกรู IP: 61.19.30.250 22 กุมภาพันธ์ 2551 13:19:00 น. |
|
|
|
| |
โดย: ชอบแมนยูคับ IP: 117.47.175.191 18 พฤษภาคม 2551 19:03:44 น. |
|
|
|
| |
โดย: นู๋ปูเป้ IP: 122.154.36.125 1 สิงหาคม 2551 12:47:38 น. |
|
|
|
| |
โดย: 555 IP: 202.183.200.114 23 สิงหาคม 2551 9:34:39 น. |
|
|
|
| |
โดย: MasTerKooK IP: 124.121.186.172 15 ตุลาคม 2551 12:35:15 น. |
|
|
|
| |
โดย: MasTerKooK IP: 124.121.186.172 15 ตุลาคม 2551 12:35:40 น. |
|
|
|
| |
โดย: 1 2 3 4 5+6 7 8 9 10 IP: 117.47.181.244 6 มกราคม 2552 21:17:58 น. |
|
|
|
| |
โดย: niphun IP: 118.172.75.137 21 กุมภาพันธ์ 2552 11:05:09 น. |
|
|
|
| |
โดย: แอม IP: 192.168.100.83, 118.172.136.38 30 ตุลาคม 2552 14:20:53 น. |
|
|
|
| |
โดย: peterpan IP: 222.123.185.58 1 มีนาคม 2553 14:36:51 น. |
|
|
|
| |
โดย: somsa IP: 115.67.67.14 28 พฤษภาคม 2553 13:17:13 น. |
|
|
|
|
|
|
|