เที่ยวเหนือ 6 วัน 5 คืน ตอน แม่สาย ดอยตุง เชียงราย

วันเสาร์ที่ 12 มิถุนายน 2553
อาหารเช้าวันนี้ เค้ามีให้เลือก 3 อย่าง เราเลือกมาคนละอย่าง อีกอย่างคือข้าวผัดค่ะ คิดว่าหนักไปหน่อย




อิ่มแล้วก็ออกเดินทางกันต่อ วันนี้เราจะไปแม่สายนะคะ

ระหว่างทางทำถนนอีกแล้ว ช่วงยาวด้วยค่ะ ในชุมชนที่มีบ้านคนก็กำลังขยายอยู่




เรามาถึงประมาณเก้าโมงครึ่ง เข้าไปทำบัตรผ่านกันก่อน

เค้ามีอยู่ยี่สิบกว่าช่องค่ะ ที่จริงก็ใช้เวลาไม่นานคนนึงสัก 2 นาทีก็เสร็จ แต่เราไปเจอเครื่องที่มีปัญหา ใส่ข้อมูลไปแล้วปร็นท์ไม่ออก จะเปลี่ยนเครื่องก็ไม่ได้เพราะข้อมูลค้างอยู่ เลยใช้เวลานานกว่าที่คิดไปเยอะเลย

เห็นช่องข้างๆเค้าทำเสร็จไป 5-6 คนแล้ว จนว่าง ช่องที่เราทำก็ยังแก้ไม่ได้ กว่าจะได้ก็ปาไป 20 นาที เฮ้อ....




แล้วก็ไปหาที่จอดรถกันค่ะ เราลอดใต้สะพานแล้วไปฝากรถตรงที่รับฝาก แถวนี้มีที่รับฝากรถเยอะเลยค่ะ จากนั้นก็เดินข้ามฝั่งไปพม่า เย้..ได้มาเที่ยวต่างประเทศด้วย

ก่อนจะลงสะพานลงไปเห็นมีคนมาถือป้ายชวนไปเที่ยวด้วย น่าสนใจนะคะแต่เราไม่กล้าไปเพราะไม่แน่ใจว่าจะปลอดภัยหรือเปล่า และเรามีเวลาแค่ครึ่งวันเท่านั้นเอง จึงผ่านไป




เดินกันไปเรื่อยๆ หลักๆเลยคือร้านดีวีดีค่ะ พี่ๆที่ทำงานฝากซื้อ มีหลายร้านเลยเดินดูเพลินดีนะคะ ข้ามฝั่งกลับมาเดินฝั่งไทยต่อจนเริ่มเมื่อย ตอนนี้เที่ยงแล้วหาอะไรกินกันก่อนหันซ้ายหันขวากินอะไรกันดี แวะเข้าร้านนี้เพราะอยู่ใกล้ที่สุด

เพื่อนกินก๋วยเตี๋ยวลูกชิ้น เรากินข้าวซอย แต่ไม่อร่อยง่ะ กินไปไม่ถึงครึ่งก็เลิกกิน ไปหาเอาใหม่ข้างหน้าดีกว่า




เราออกเดินทางกันต่อ จุดหมายต่อไปคือดอยตุงค่ะ
ที่นี่มาครั้งสุดท้ายเมื่อสิบกว่าปีที่แล้ว




ไปที่พระธาตุดอยตุงกันค่ะ
เราขับรถมาจนถึงทางขึ้นบันไดแล้วเห็นทางด้านซ้ายของป้ายเป็นทางค่อนข้างชัน เพื่อนจึงไม่กล้าขับขึ้นไป

เราลงไปถามคนขายของที่อยู่แถวนั้น เค้าบอกว่าขับไปได้ อีกนิดเดียวชันเท่าที่เห็นนี่แหละ ถามต่อว่าหากเราจ้างมอร์เตอร์ไซต์เค้าไปก็ได้ความว่าเค้าจะคิดคนละ 30 บาท แต่เค้าแนะนำให้เอารถไปเองหรือเดินขึ้นไปก็ไม่ไกลมากแค่ร้อยกว่าขั้นเท่านั้น

คิดไปคิดมาจึงชวนกันเดินขึ้นบันไดไปดีกว่า
เดินเข้าจริงๆก็ไม่ไกลมากนะคะ พอเมื่อยนิดๆ




ไหว้พระแล้ว เราไปพระตำหนักดอยตุงกันต่อค่ะ

ซื้อตั๋วกันก่อนนะคะ ซื้อเป็นชุดจะถูกกว่า

เข้าที่นี่กันก่อนเลย
สวนแม่ฟ้าหลวง




ตอนนี้แดดค่อนข้างแรง เดินๆไปเริ่มเหงื่อตก มองเห็นร้านกาแฟเลยแวะซะหน่อย

หยุดเดินมานั่งเล่นกันพักนึง




จากนั้นไปที่พระตำหนักกันค่ะ
ตรงนี้เค้าห้ามใส่ขาสั้น สี่ส่วน ห้าส่วน และแนบเนื้อเข้านะคะ เราใส่ห้าส่วนไปเจ้าหน้าที่เอากางเกงเลตัวใหญ่ๆมาให้สวมทับ เราก็ตัวเล็กขาสั้น ใส่ไปมันก็กองๆดูรุงรัง เราว่าแบบนี้มันดูแล้วไม่สุภาพมากกว่าซะอีก แต่กฏก็ต้องเป็นกฏค่ะ




เดินขึ้นไปไกลเหมือนกันแฮะ พอถึงข้างบนจะมีเจ้าหน้าที่คอบบรรยายเป็นรอบๆค่ะ แต่ตอนที่เราไปมีเราแค่ 2 คน เค้าบอกว่าให้รอ 15 นาที เราจึงไม่รอขอเข้าไปดูเอง ซึ่งก็จะมาเจ้าหน้าที่คอยตามอยู่ห่างๆ เพราะเค้าห้ามถ่ายรูปค่ะ




ออกจากที่นี่เราไปที่สุดท้าย หอแห่งแรงบันดาลใจ




ทีแรกคิดว่าจะเป็นห้องที่เอาข้าวของมาจัดแสดงและมีบอร์ดให้อ่านคิดว่าคงใช้เวลาไม่นาน แต่ไม่ใช่เลยค่ะ ข้างในสวยมากๆ เราดูกันเพลินไปเลย ในนี้ก็ห้ามถ่ายรูปและมีเจ้าหน้าที่คุมอยู่ห่างๆค่ะ


ดูจนหมดแล้วก็เย็นพอดี วันนี้เราจะพักที่ตัวเมืองเชียงรายกันนะคะ

ที่นี่ มอร์นิ่งดิว ลอล์ด




ล๊อบบี้โล่ง ดูสะอาดดีค่ะ เค้ามีโต๊ะชา กาแฟ ตั้งไว้ให้กินตลอดเวลาเลยนะคะ

เราขึ้นมาที่ห้องพักกัน ได้ก้องชั้น 2 ติดกับบันไดเลยค่ะ




ข้างในห้องค่ะ ดูสะอาดสอ้าน ห้องไม่แคบนะคะ มีระเบียงหลังห้องเล็กๆ แต่เปิดไปเป็นสวนบ้านคนอื่นเค้ากำลังเดินเล่นกัน เลยกลับเข้ามาอยู่ในห้องเหมือนเดิมค่ะ




นั่งพักกันแป๊บนึงแล้วก็ออกไปข้างนอกกัน เราจะไปเดินเล่นที่ถนนคนเดินจึงลงไปถามน้องที่เคาเตอร์ว่ามีรถสองแถวผ่านหรือไม่หรือถ้าจะเดินไกลแค่ไหน น้องเค้าไม่ค่อยรู้เรื่อง บอกแต่ว่าเดินไกลและจะเรียกมอร์เตอร์ไซต์ให้ แต่เพื่อนบอกว่าไปเรียกสองแถวเอาดีกว่า เราจึงเดินออกมาหาสองแถวข้างหน้า

เดินหมุนไปหมุนมาเพราะไม่รู้ว่าสองแถวจะผ่านตรงไหน ก็เดินไปเรื่อยๆ เห็นฝนทำท่าจะตกจึงไปถามทาง เค้าบอกว่าจากตรงนี้เดินไปได้ประมาณ 3 ไฟแดงสั้นๆ ไม่ถึงกิโลหรอก เราก็เลยตัดสินใจเดิน

พอมาถึงยังไม่ทันจะดูอะไรฝนก็ตกลงมาไม่ลืมหูลืมตา พ่อค้าแม่ค้าเก็บของกันแทบไม่ทัน




เราหยุดหลบฝนอยู่ครึ่งชั่วโมงถึงเริ่มซาลง ตอนนี้ไปหาอะไรกินกันรอฝนหยุดก่อน จึงเอาเสื้อกันฝนที่ซื้อมาจากลำปางเมื่อปีที่แล้วมาใส่และเดินไปหาข้าวกินกัน

เดินมาทางหอนาฬิกานี่ค่ะ



เห็นเค้าบอกว่าตอน 1 ทุ่ม 2 ทุ่ม จะมีเพลงเชียงรายรำลึกและไฟที่หอนาฬิกาจะเปลี่ยนสี แต่เราผ่านตอนไม่ได้เวลาทุกที ขาไปก็หกโมงครึ่ง ขากลับออกมาก็ทุ่มเกือบๆครึ่งแล้ว


มากินข้าวที่ร้านนี้ค่ะ
ทำไมวันนี้ถึงไม่ค่อยหิวเลยก็ไม่รู้ ทั้งที่วันนี้แทบไม่ได้กินอะไรเป็นชิ้นเป็นอันเท่าไหร่ เราสั่งเกาเหลาเลือดหมู 1 ชาม และไก่ผัดเม็ดมะม่วง ทั้ง 2 อย่างอร่อยไม่น่าเชื่อค่ะ นั่งดูบอลไปกินของอร่อยๆไป ดีจัง




พออิ่มฝนก็เหลือแค่ปรอยๆเล็กๆ เดินผ่านร้านขายซาลาเปาคนมามุงกันเยอะเลย เราจึงไปมุงบ้าง มีหลายใส้ให้เลือกค่ะ เราจึงสั่ง 2 ชิ้น มาแบ่งกันกิน พอสั่งแล้วเค้าจะเอาไปอุ่นอีกทีค่ะ ได้มาแบบร้อนๆ นิ่มๆ อร่อยนะคะ ใส้หมูนี่นุ่มมาก




กลับมาที่ถนนคนเดินกันต่อ หลายๆคนเก็บของไม่ขายแล้ว แต่อีกหลายคนก็ยังสู้ ร้องเรียกลูกค้าให้มาดู เราเดินดูโน่นดูนี่ไปไม่ได้ถ่ายรูปเพราะฝนยังไม่ขาดเม็ด เดินเล่นถึง 3 ทุ่ม ก็ตัดสินใจกลับที่พัก

สัญญาณ wifi ที่นี่แรงดีค่ะ อาจจะเพราะมี rounter อยู่ตรงบันไดซึ่งใกล้ห้องเรามากก็ได้ ถ้าอยู่ห้องกลางๆไม่รู้สัญญาณจะเป็นยังไงนะคะ

Create Date : 20 กรกฎาคม 2553 Last Update : 20 กรกฎาคม 2553 10:30:26 น. Counter : 3136 Pageviews.		4 comments
Share Tweet