Group Blog
 
 
สิงหาคม 2551
 12
3456789
10111213141516
17181920212223
24252627282930
31 
 
21 สิงหาคม 2551
 
All Blogs
 
นักเรียนรุ่นคุณพ่อ

Photobucket

ภาพนักเรียน พ.ศ. 2481

สมัยก่อน คนที่มีโอกาสเล่าเรียนถือว่าโชคดี ใครที่ได้เรียนหนังสือเขาเรียกว่านักเรียนทั้งสิ้น นักเรียนชายนุ่งกางเกงขาสั้น นักเรียนหญิงนุ่งผ้าถุง เพิ่งเปลี่ยนเป็นกระโปรงเมื่อ พ.ศ. 2484-2485 นักเรียนจึงหมายถึง ผู้ที่เรียนหนังสือตั้งแต่ชั้นประถม 1 ถึงมัยมปึที่ 8 ส่วนแผนกอาชีวะมีแค่ 2 ทางเลือก คือ พาณิชยการ และ เพาะช่าง นับถึงวันนี้คงไม่ต่ำกว่า 60 ปีแล้ว

เมื่อเรียนต่อมหาวิทยาลัย เราก็ยังเรียกว่า นักเรียน เช่น นักเรียนธรรมศาสตร์ นักเรียนจุฬาฯ นักเรียนนายร้อย นักเรียนกฎหมาย เป็นต้น

สมันก่อนนักเรียนดี จะแสดงออกให้เห็นและเป็นที่ยอมรับของหมู่เพื่อนฝูงและครู ไม่ต้องมีโล่เกียรติคุณรับรองเหมือนสมัยนี้ นักเรียนดี จึงหมายถึงพวกคนเก่ง หรือนักเรียนเก่งจนสอบได้เป็นนักเรียนทุนเล่าเรียนหลวงไปศึกษาต่อต่างประเทศ หรือใช้ภาษาอังกฤษได้ดีมาก เช่น พวกที่เรียนลูกเสือ สำหรับพวกนักกีฬาก็อาจจัดว่าเป็นนักเรียนเด่น


Photobucket

การแต่งกายของเด็กหญิง สมัย 70-80 ปีมาแล้ว


นักเรียนที่ประพฤติตัวไม่ดี สมันนั้น เรียกว่า กุ๊ย คาวบอย พวกคาวบอยจะแสดงออกโดยแต่ตัวคล้ายคาวบอย หากแต่งชุดลูกเสือก็จะผูกผ้าพันคอเพล่ไปข้างๆ ให้ดูเท่ หรือชอบขี่จักรยานปาดหน้านักเรียนหญิง หรือดักรอนักเรียนหญิงที่เดินมาเป็นกลุ่มๆแล้วเรียชื่อนักเรียนคนใดคนหนึ่งในกลุ่มนั้น ซึ่งเป็นชื่อที่สืบมาได้ และไม่เคยรู้จักกันมาก่อน หรือทำเสียงประหลาดเรียกร้องความสนใจ แค่นี้ก็เป็นที่สนุกสนานของนักเรียนชายแล้ว

ส่วนพวกกุ๊ยจะเหมือนนักเลงในหนังที่มีนักเลงลูกทุ่ง ที่ชอบแสดงท่าทางยียวนกวนโมโห มีวาจาทะลึ่งตึงตังไปตามเรื่อง

พวกนักเรียนวัยรุ่นที่เรียนอยู่ในชั้นมัธยมปีที่ 7-8 เขามีสถานที่บันเทิงน้อยมาก เช่น โรงหนัง ซึ่งมีไม่กี่แห่ง บ้านเพื่อน หรือไม่ก็โรงบิลเลียด การไปสถานบันเทิงจะถือว่าเป็นพวกยังอ่อนหัด คนที่มีสตางค์สักหน่อยจะมีพวกรุ่นพี่เป็นพวกมาก สำหรับการทะเลาะวิวาทก็แค่ชกต่อยกัน


Create Date : 21 สิงหาคม 2551
Last Update : 8 กันยายน 2551 21:15:25 น. 24 comments
Counter : 5435 Pageviews.

 
เจิมใหม่ค่ะ อิอิ เดี๋ยวอ่าน
ลบอันบนให้ทีน่ะค่ะ



โดย: Fullgold วันที่: 6 กันยายน 2551 เวลา:22:52:54 น.  

 
รีบมาเลยค่ะ
ก่อนอื่นขอบอกว่า...
ขำคุณInsignia_Museum เล่าที่บล็อกฉันเกลียดแมวมากค่ะ
อิอิ..เป็นอะไรที่ตลกหน้าตาย ตลกแบบเนียนๆ..555...

................................

นักเรียนสมัยก่อน อย่างกุ๊ย หรือ คาวบอย พฤติกรรมแย่ๆของเค้าแบบนั้น ถ้าเป็นสมัยนี้ถือว่าปกติมากเลยนะคะ
มาเจอเด็กช่างกลไล่แทง ไล่ยิงคู่อริ
พวกคาวบอยคงเทียบอะไรไม่ได้เลย

นักเรียนหญิงนุ่งซิ่นน่ารักดีค่ะ
เราเปลี่ยนไปมากนะคะ เครื่องแต่งกาย
ในขณะที่เด็กหญิงลาว พม่า เขายังแต่งตัวคล้ายๆเดิม

ขอบคุณนะคะ...ที่เอามาให้ดูค่ะ


โดย: ทากชมพู วันที่: 6 กันยายน 2551 เวลา:23:15:09 น.  

 
รูปเก่ามากเลยค่ะ
ผู้หญิงนุ่งผ้าถุงน่ารักดีจัง


เคยเห็นแต่ยายนุ่งโจงกระเบนค่ะ ตอนเด็กๆ
ขอบคุณที่เอามาให้ชมน่ะค่ะ

พ.ศ. 2484-2585
ตรงนี้พิมพ์ผิดหรือเปล่า 2585
ยังไม่ถึงนี่นา



โดย: Fullgold วันที่: 6 กันยายน 2551 เวลา:23:29:33 น.  

 
เอารูปนักเรียนนุ่งผ้าถุงประกบนักเรียนนักศึกษาสมัยนี้ สองฝ่ายคงมองหน้ากันแล้วเหวอสุดขีด

แล้วเปลี่ยนจากนักเรียนมาเป็นนิสิตนักศึกษาเมื่อไหร่ละคะ แล้วทำไมต้องนิสิต ทำไมต้องนักศึกษา

อยากรู้จังค่ะ ขอบคุณล่วงหน้านะคะ


โดย: kangsadal วันที่: 7 กันยายน 2551 เวลา:5:55:04 น.  

 
เขียน พ.ศ. ผิดจริงๆด้วยครับ ขอบคุณครับที่แจ้งให้ทราบ

สำหรับภาพที่ 2 ซึ่งเป็นภาพถ่ายหมู่เด็กหญิงนั้น เป็นภาพการแต่งกายของเด็กหญิง ซึ่งเก่ากว่าภาพแรกหลายปี แต่ยังสรุปไม่ได้ว่าป็นชุดนักเรียนหญิงหรือไม่ครับ

ส่วนที่มาของคำว่า นิสิต และนักศึกษานั้น
สมัยนั้นมี 2 มหาวิทยาลัย คือ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย และมหาวิทยาลัยวิชาธรรมศาสตร์และการเมือง
นักศึกษาที่จุฬาฯ เรียก "นิสิต"
มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ใช้คำว่า"นักศึกษา" อย่างเป็นทางการเมื่อ 2 เม.ย. 2477 ซึ่งก่อนหน้านั้นก็ใช้ทั้ง 2 คำคือ นิสิต และนักศึกษา ปนเปกันไป (ดูจากเอกสารของมหาวิทยาลัย)

หม่อมเจ้าวรรณไวทยากร วรวรรณ ทรงอธิบายว่า มหาวิทยาลัยวิชาธรรมศาสตร์และการเมือง ควรเรียกผู้ เข้ามาศึกษาว่า "นักศึกษา" ไม่ควรใช้ "นิสิต" เพราะคำว่า "นิสิต" ตรงกับ "undergraduate" ส่วนคำว่า "นักศึกษา" ตรงกับ "student" ซึ่งเหมาะสมกว่า

การเรียกที่แตกต่างกันนั้น คงหมายถึง นิสิตจุฬาฯ เป็นศิษย์ที่เล่าเรียนอยู่ในสำนัก หรืออยู่ในหอพักของมหาวิทยาลัยด้วย หรือต้องมาเรียนเป็นประจำก็ได้ ส่วนธรรมศาสตร์เป็นมหาวิทยาลัยเปิด นักศึกษาธรรมศาสตร์ไม่ได้อยู่ในหอพักของมหาวิทยาลัยหรือมาเรียนตามสะดวกแบบตลาดวิชาก็ได้ จึงใช้คำว่า "นักศึกษา"


โดย: Insignia_Museum วันที่: 7 กันยายน 2551 เวลา:11:19:00 น.  

 
ที่จริงทุกวันนี้ คนชนบทไกลๆ อย่างบนเขาบนดอย เค้าก็ยังนุ่งผ้าซิ่นกันเยอะนะคะ โดยเฉพาะชาวไทยภูเขา คาดว่าน่าจะเพื่อความสะดวกสบาย ลมเย็น และไม่รัดรึงร่างกายเวลาทำงานด้วยมังคะ...
ขอบคุณนะคะที่ไปเยี่ยมบ้าน...


โดย: Devonshire (Devonshire ) วันที่: 7 กันยายน 2551 เวลา:21:33:35 น.  

 
ขอบคุณที่เเวะไปเยี่ยมค่ะ...
ที่เมืองลาวเค้าก็ยังนุ่งผ้าซิ่น...เห็นเด็กๆ เค้านุ่ง เดินไปโรงเรียนดูเเล้วน่ารักดี....


โดย: กาแฟดำไม่เผ็ด วันที่: 7 กันยายน 2551 เวลา:23:36:12 น.  

 

สวัสดีครับ

ขอบคุณที่ไปเยี่ยมน้องโรสนะครับ

สมัยผม ตอนนั้น ได้นุ่งกางเกงน้อง เสื้อพ่อ รองเท้า คอนเวอร์สแล้วละก็ สุดยอดดดดด จริงๆครับ ตอนนี้ มาดูรูปอีกที เออ ทำไปได้ไง (วะ) เจ็บเป้าจะตาย
ขำดีนะครับ เราๆสมัยก่อน

วันนี้ เอาพระมาฝากครับ



ผมชอบถ่ายรูปพระ โดยเฉพาะพระพุทธรูป
วันก่อนเพื่อนเขาจะขึ้นบ้านใหม่ เลยอยากจะทำอะไร ที่มันเป็นหนึ่งเดียวให้เขา
ก็เลยขอยืมพระของเพื่อนเขา มาถ่ายรูปนี้ให้ เพื่อเป็นศิริมงคล

คนใต้ ก็ต้องเป็นพระ หลวงพ่อทวด และนี่ก็เป็น 1 ในพระบูชา 36 องค์แรก
ของวัดช้างให้ ปัตตานี สร้างเมื่อปี 2502 เป็นรูปเดียวในโลกจริงๆ
เพราะผมถ่ายเอง ทำเอง
และพระองค์นี้ตั้งแต่ได้มาจากวัด เขา ไม่เคยนำไปถ่ายรูปมาก่อน
ถ่ายเสร็จ ทำเสร็จ ก็อัดขนาด 24 X 36 นิ้ว ให้เขา สบายใจดี

เนื่องในโอกาส วันจันทร์ ที่มองไปทางใหน บ้านเมือง ผู้คนก็ อดอยาก ปากหมอง
ให้อึดอัดกันไปทั่วนั้น ขอบารมี หลวงพ่อทวด ได้ช่วยปกปัก รักษา ป้ากุ๊กไก่
ไห้มีความสุข แลปลอดจากโรคภัย ช่วยเมืองไทย ด้วยเทอญ
นะ หลวงพ่อทวดนะ !!!!!


ทวีศักดิ์ ถาวรรัตน์



โดย: คนตาพิการ วันที่: 8 กันยายน 2551 เวลา:4:18:51 น.  

 
สุดยอดแห่งการเก็บสะสมเลยล่ะค่ะ
เดาว่าบ้านที่อยู่ต้องเป็นบ้านหลังเดิมๆ ที่ไม่เคยได้ย้ายไปไหนเลยใช่มั๊ยคะ
เพราะถ้าย้ายบ้างเนี่ย.. ข้าวของก็ต้องมีสูญหายหรือโดนทิ้งบ้างแน่ๆ
น่ารักจังค่ะนักเรียนหญิง ชอบอยากกลับไปแต่งแบบนั้นบ้าง


โดย: จันทร์ไพลิน วันที่: 8 กันยายน 2551 เวลา:5:26:43 น.  

 
ดูรูปคุณตา คุณยาย สมัยเก่าๆแล้วมีความสุขนะคะ
สมัยนั้นถ้าใครได้เรียนหนังสือจะภาคภูมิใจมาก ยิ่งถ้าผู้หญิงด้วยแล้วต้องเป็นคนค่อนข้างมีฐานะจึงจะมีโอกาสเช่นนั้น

มายุคนี้คงเป็นยุคไฮเทค เด็กเล่นคอมพิวเตอร์ได้ตั้งแต่อยู่อนุบาล ครูก็บ่นไปเถอะ "ทำไมนักเรียนจึงเขียนภาษาไทยไม่ได้ เขียนผิดแบบไม่น่าเชื่อ ใช้ภาษาก็ผิด คำพูดคำจาก็พิกลพิการแปลกๆ" คำตอบเห็นจะง่ายๆค่ะ คอมพิวเตอร์สอนก็เป็นอย่างนี้แหละ (ความคิดเห็นส่วนตัวนะคะ)


โดย: nathanon วันที่: 8 กันยายน 2551 เวลา:10:24:42 น.  

 
ขอบคุณครับ ที่ไปตามมาอ่านเรื่องดี ๆ เช่นนี้

สะกิดใจตรงคำว่า "นิสิต" ของจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย กับคำว่า "นักศึกษา" ของมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์(และการเมือง)

ดูเหมือนคำว่า นักศึกษา นี่จะไม่สู้มีปัญหาเท่าไร เพราะเป็นที่ยอมรับของนักศึกษาฝ่ายท่าพระจันทร์ แต่พอจะแตะต้องคำว่า "นิสิต" ของฝ่ายสามย่านบ้าง จะกลายเป็นเรื่องใหญ่เรื่องโต เขาภาคภูมิใจของเขาอย่างนั้น ก็เลยต้องปล่อยเขาไป ทั้งที่สมัยนี้ ไม่มี "นิสิต" คนใดหรือคณะใดเลย ที่กิน-นอน อยู่ในมหาวิทยาลัย (อันนี้คงรวมถึงสถาบันอื่น ๆด้วย)

ควรบันทึกลงไปด้วยว่า ในสมัยหนึ่ง ระหว่างปี 2516-2519 นักศึกษาจำนวนมาก โดยเฉพาะของมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ พากันแอนตี้เรื่องชุดนักศึกษา แทบจะไม่มีนักศึกษาคนใดเลยที่ใส่ชุดนักศึกษา อย่างดีก็แค่สวมเสื้อสีขาว (สำหรับนักศึกษาชาย) แต่ส่วนใหญ่จะใส่เสื้อยืดหลากสีสรร และใส่กางเกงยีนส์ ลากรองเท้าแตะเข้าเรียน

เรื่องของเรื่องเป็นเพราะยุคดังกล่าว เป็นยุคของเสรีภาพ เพราะเป็นช่วงเหตุการณ์ 14 ตุลา 2516

ปรากฎการณ์นี้ สร้างความไม่พอใจให้กับอาจารย์ฝ่ายอนุรักษ์นิยมเอามาก ๆ แต่ด้วยกระแสของนักศึกษาแรงกว่า จึงไม่อาจต้านทานได้ นักศึกษาก็อ้างถึงเสรีภาพ และยังอ้างว่า ในต่างประเทศ ไม่เห็นมีที่ไหนบังคับให้นึกศึกษามหาวิทยาลัยแต่งชุดเครื่องแบบเลย อาจารย์น่าสนใจอะไรที่อยู่ในหัว ในตัวนักศึกษามากกว่าเครื่องแบบหรือเปลือกนอก....

แต่ภายหลังเหตุการณ์สังหารหมู่นักศึกษาในธรรมศาสตร์ เมื่อวันที่ 6 ตุลาคม 2519 และมีการทำรัฐประหารยึดอำนาจ ฝ่ายทหารเข้ามายึดครองประเทศอีกครั้ง อาจารย์หัวเก่า ก็เลยได้ที บังคับให้นึกศึกษาให้ใส่เครื่องแบบอีกครั้ง....

ไม่แน่ใจว่าเป็นเรื่องที่ควรค่าแก่การบันทึกหรือไม่...


โดย: ลุงแว่น วันที่: 9 กันยายน 2551 เวลา:7:09:44 น.  

 
มาอ่านเพิ่มเติมค่ะ
ได้รู้เรื่องอีกเยอะเลย ขอบคุณค่ะ



โดย: Fullgold วันที่: 9 กันยายน 2551 เวลา:21:20:43 น.  

 
ดูจากฉากหลังเนี่ย
เด็กหญิงกลุ่มนั้นน่าจะถ่ายที่ฉากร้านถ่ายรูปนะคะ..รึไงคะ?

......วันนี้อัพบล็อกแล้ว ...รออ่านอยู่น้าคะ...อิอิ...


โดย: ทากชมพู วันที่: 9 กันยายน 2551 เวลา:22:49:56 น.  

 

สวัสดีตอนเช้าๆค่ะ


โดย: จันทร์ไพลิน วันที่: 10 กันยายน 2551 เวลา:5:46:37 น.  

 
ได้ความรู้กลับไปอีกแล้ว ขอบุคุณมากๆๆนะค๊า


โดย: ออย (Borken ) วันที่: 11 กันยายน 2551 เวลา:0:02:51 น.  

 
ขอติดตามชมเรื่องราวดีๆ ด้วยคนนะครับ ภูมิใจและยินดีในความสามารถครับ


โดย: sarntee วันที่: 11 กันยายน 2551 เวลา:11:43:32 น.  

 
เอาชุดของครูลาวมาฝาก
เรียบง่าย สบายดี...แต่งแบบนี้ ไม่มีหนี้สินเยอะเหมือนครูไทยค่ะ



โดย: ทากชมพู วันที่: 11 กันยายน 2551 เวลา:18:45:31 น.  

 
จ๊ะเอ๋ ยังจำกันได้เปล่าจ๊ะ...ขอบคุณมากๆที่แวะไปทักทายกันนะคะ


โดย: Why England วันที่: 12 กันยายน 2551 เวลา:0:01:43 น.  

 
ขอบคุณสำหรับคำตอบค่ะ
แต่คำตอบนี้ไปชวนใครมา "แขวะ" คนแถวสามย่านเขาหรือเปล่า...
อ๊ะ ล้อเล่นนนน....

จากคนอยากกลับไปนุ่งผ้าถุงค่ะ


โดย: kangsadal วันที่: 12 กันยายน 2551 เวลา:8:44:18 น.  

 
ชุดนักเรียนสมัยก่อนก็เท่ห์ดีนะคะ ขอบคุณสำหรับความรู้ที่เอามาฝากกันนะคะ ยินดีที่ได้รู้จักค่ะ


โดย: นักเดินทางพเนจร (นักเดินทางพเนจร ) วันที่: 12 กันยายน 2551 เวลา:8:44:47 น.  

 
เห็นภาพแบบนี้แล้วก็รู้สึกดีนะคะ
ดูขลังดี และที่สำคัญสื่อถึงความเป็นไทย
ที่เรียบง่ายดีจัง


โดย: aomamm (Forest-ic ) วันที่: 12 กันยายน 2551 เวลา:13:45:10 น.  

 


โดย: sansook วันที่: 21 ตุลาคม 2551 เวลา:14:20:34 น.  

 
รูปถ่ายสวยมากครับ โดยเฉพาะรูปที่สอง ดูแล้วรู้สึกนิ่ง ๆประหลาด ๆ ดี เหมือนมันซ่อนอะไรไว้เยอะเลย


โดย: คุณม้าม วันที่: 5 มีนาคม 2552 เวลา:0:23:08 น.  

 
เข้ามาชมภาพเก่าครับ.


โดย: เจียวต้าย วันที่: 28 กุมภาพันธ์ 2554 เวลา:11:08:07 น.  

ชื่อ : * blog นี้ comment ได้เฉพาะสมาชิก
Comment :
  *ส่วน comment ไม่สามารถใช้ javascript และ style sheet
 

Insignia_Museum
Location :
กรุงเทพฯ Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 66 คน [?]




ความตั้งใจในการทำบล็อกเปลี่ยนไปตามกาลเวลา เริ่มต้นด้วยการเขียนถึงถิ่นที่อยู่ในวัยเด็ก ต่อมาเป็นเรื่องเครื่องหมายต่างๆ เรื่องศิลปะ ภาพถ่ายในยุคก่อนๆ อาหารการกิน และอะไรต่อมิอะไรที่ประสบพบเห็น สนใจอะไรขึ้นมาก็อยากรู้ให้มากขึ้น กลุ่มเนื้อหาจึงแตกแขนงไปเรื่อยๆ
New Comments
Friends' blogs
[Add Insignia_Museum's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.