ภาพวาดระดับปรมาจารย์
แดดยามเช้าเริ่มร้อนขึ้นเรื่อยๆ ลมร้อนปะทะใบหน้าจนรู้สึกได้ การไปดูนิทรรศการศิลปะคือเป้าหมายใหญ่ของเขาในวันนั้น แม้ว่าจะต้องเดินข้ามถนนหลายช่องจราจร แต่โชคดีที่หมอกควันไม่ปิดทึบเหมือนช่วงที่เศรษฐกิจเร่าร้อน รถวิ่งกันเอื่อยๆราวกับไม่อยากถึงที่หมาย ถึงไม่ใช่ยุคข้าวยากหมากแพง แต่ผู้คนส่วนใหญ่บ่นกันระงม
หอศิลปแห่งนั้นต้อนรับเขาด้วยรอยยิ้มหวานเศร้า ในเช้าของวันหยุดที่ไม่เร่งรีบ เขามักเป็นคนแรกๆเสมอในสถานที่เงียบสงัดเช่นนี้ ยังนึกขำอยู่ในใจ ที่ครั้งหนึ่งเจ้าหน้าที่บางแห่งเดินตามหลังเขาเพื่อตามไปลงทะเบียน เสมือนว่าเขาทำผิดกติกาหรือพยายามฝ่าฝืน จำต้องยอมจำนน เพื่อจะได้เดินดูงานอย่างปลอดโปร่งใจ และอีกครั้งหนึ่งที่คนเฝ้าปล่อยให้เขาดูงานจนจบ แล้วมาต้อนให้ลงชื่อในสมุด เขาวิ่งไม่คิดชีวิตราวกับเห็นตำรวจไล่จับผู้ร้าย
กลับมาที่รอยยิ้มอันหวานเศร้าที่ต้อนรับเขาอย่างใส่ใจ ที่นี่ไม่บังคับให้ลงทะเบียนเพื่อเปิดเผยตัวตน ถูกจริตอย่างยิ่งกับคนอย่างเขา ไม่บ่อยนักที่จะมีเวลาอยู่กับตัวเองได้แบบนี้ ถ้าถูกต้อนอีกสงสัยจะจบกัน
ภาพเขียนเรียงรายตั้งแต่ทางเข้า เป็นผลงานภาพวาดระดับปรมาจารย์ ใครๆก็รู้จักเจ้าของผลงานแสดงเดี่ยวของศิลปินท่านนี้ สุนทรียภาพที่เปล่งประกายออกมาในแต่ละภาพ นำความสดชื่นมาให้ราวกับปลุกพลังของชีวิตให้เริงร่า ในความบันเทิงในสุนทรียรสนั้น พลัน...เขารู้สึกหม่นหมองใจชั่วขณะ หรือว่าพลังที่ส่องออกมาในแต่ละภาพขัดแย้งกันเอง ซึ่งไม่น่าจะใช่ เพราะภาพวาดแต่ละชิ้น เหมือนดนตรีวงใหญ่บรรเลงเพลงมโหรีรับกันอย่างคล้องจอง ความงามที่รังสรรค์ ถูกที่ ถูกเวลา ไร้ที่ติ แต่ความอึดอัดของเขาก็ไม่จางหายไปไหน
เขาตอบตัวเองว่า...มีอะไรสักอย่างที่ถูกขังไว้... สิ่งเหล่านั้นพยายามดิ้นร้นให้พ้นจากกรอบสี่เหลี่ยม อาจเป็นกฏเกณฑ์ หรือความถูกต้องตามหลักวิชาการ ที่ทำให้ความเป็นธรรมชาติ และอิสรภาพหายไป ราวกับมีกรงขังที่มองไม่เห็น...
Create Date : 28 กุมภาพันธ์ 2558 |
Last Update : 1 มีนาคม 2558 21:25:32 น. |
|
15 comments
|
Counter : 1954 Pageviews. |
|
|
หมวด Diarist ให้ค่ะคุณอิม