|
1 | 2 | 3 | 4 | 5 | 6 | 7 |
8 | 9 | 10 | 11 | 12 | 13 | 14 |
15 | 16 | 17 | 18 | 19 | 20 | 21 |
22 | 23 | 24 | 25 | 26 | 27 | 28 |
29 | 30 | 31 | |
|
|
|
|
|
|
|
| |
โดย: ลุงแว่น 29 มีนาคม 2552 10:03:34 น. |
|
|
|
| |
โดย: หนูทราย (iampanita ) 29 มีนาคม 2552 11:23:24 น. |
|
|
|
| |
โดย: สาวจากเเดนไกล IP: 66.135.227.66 29 มีนาคม 2552 12:49:04 น. |
|
|
|
| |
โดย: คนชุมแสง 29 มีนาคม 2552 15:42:54 น. |
|
|
|
| |
โดย: ทากชมพู 29 มีนาคม 2552 17:44:00 น. |
|
|
|
| |
โดย: ลุงแว่น 31 มีนาคม 2552 7:02:09 น. |
|
|
|
| |
โดย: อันต้า 31 มีนาคม 2552 10:35:41 น. |
|
|
|
| |
โดย: Jolisa 31 มีนาคม 2552 17:26:10 น. |
|
|
|
| |
โดย: ทากชมพู 31 มีนาคม 2552 19:21:38 น. |
|
|
|
| |
โดย: Fullgold 31 มีนาคม 2552 20:35:30 น. |
|
|
|
| |
โดย: pim(พิม) 31 มีนาคม 2552 22:51:04 น. |
|
|
|
| |
โดย: ทากชมพู 1 เมษายน 2552 13:00:50 น. |
|
|
|
| |
โดย: bite25 2 เมษายน 2552 17:33:03 น. |
|
|
|
| |
โดย: สาวจากเเดนไกล IP: 66.135.227.66 2 เมษายน 2552 17:42:42 น. |
|
|
|
| |
โดย: sarntee 2 เมษายน 2552 17:51:07 น. |
|
|
|
| |
โดย: สาวจากเเดนไกล IP: 66.135.227.66 2 เมษายน 2552 18:20:23 น. |
|
|
|
| |
โดย: haiku 2 เมษายน 2552 19:22:00 น. |
|
|
|
| |
โดย: ทากชมพู (ทาสบอย ) 3 เมษายน 2552 17:10:01 น. |
|
|
|
| |
โดย: ยายเก๋า (ชมพร ) 3 เมษายน 2552 19:30:01 น. |
|
|
|
| |
โดย: ลุงแว่น 3 เมษายน 2552 22:27:49 น. |
|
|
|
| |
โดย: ทากชมพู IP: 115.67.119.174 4 เมษายน 2552 8:21:43 น. |
|
|
|
| |
โดย: ศิลปินโบราณ (pantamuang ) 9 เมษายน 2552 16:01:31 น. |
|
|
|
| |
โดย: วิภวา IP: 203.144.144.164 17 มีนาคม 2553 19:12:42 น. |
|
|
|
| |
โดย: แตงกวา IP: 203.144.144.164 17 มีนาคม 2553 19:14:02 น. |
|
|
|
| |
โดย: แตงกวา IP: 58.8.17.36 25 เมษายน 2553 13:27:19 น. |
|
|
|
| |
โดย: นิค IP: 202.176.175.69 18 พฤศจิกายน 2557 11:13:17 น. |
|
|
|
| |
โดย: นอ.นิรัตน์ ทากุดเรือ IP: 58.8.159.188 19 มีนาคม 2560 21:24:47 น. |
|
|
|
|
|
|
|
Location :
กรุงเทพฯ Thailand
[ดู Profile ทั้งหมด]
|
ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember ผู้ติดตามบล็อก : 66 คน [?]
|
ความตั้งใจในการทำบล็อกเปลี่ยนไปตามกาลเวลา เริ่มต้นด้วยการเขียนถึงถิ่นที่อยู่ในวัยเด็ก ต่อมาเป็นเรื่องเครื่องหมายต่างๆ เรื่องศิลปะ ภาพถ่ายในยุคก่อนๆ อาหารการกิน และอะไรต่อมิอะไรที่ประสบพบเห็น สนใจอะไรขึ้นมาก็อยากรู้ให้มากขึ้น กลุ่มเนื้อหาจึงแตกแขนงไปเรื่อยๆ
|
|
|
|
|
|
|
|
เห็นภาพเครื่องแบบทหารเก่า ๆ แล้ว ทั้งแปลกตา และตลกเหมือนกัน
โดยเฉพาะสองภาพแรก ทหารบางคนแต่งตัวเสียเต็มยศสุดเท่เชียว แต่ไม่ได้สวมรองเท้า ตลกแต่ขำไม่ออกนะ...
สมัยยังเด็ก เพื่อนนักเรียนบ้านนอกหลายคน พ่อแม่ซื้อรองเท้าให้ใส่มาโรงเรียน ตามระเบียบของกระทรวงศึกษาธิการ แต่เนื่องจากรองเท้าเป็นของแพง จนนับเป็นของฟุ่มเฟือยของเพื่อนบางคน หน้าฝน เพื่อนเหล่านี้ต้องถอดรองเท้าเอาใส่กระเป๋านักเรียน แล้วเดินย่ำโคลนมาถึงโรงเรียนแล้วค่อยล้างขาเอารองเท้ามาใส่...
กลายเป็นว่ารองเท้ากลายเป็นเพียงเครื่องประดับให้ถูกต้องตามกฎระเบียบ(ที่คนออกกฏไม่เคยสนใจสภาพความเป็นจริงของสังคม) แทนที่จะเป็นเครื่องปกป้องเท้า นับเป็นความขบขันแบบขมขื่นประการหนึ่ง...
สะดุดใจกับภาพทหารเรือถ่ายหมู่ยืนอยู่หน้าช้างศึกหลายเชือก งงเหมือนกันว่า ทหารเรือในยุคนั้นเกี่ยวพันกับช้างอย่างไร จะว่าเขาขนเอาช้างลงเรือไปรบด้วย ก็ไม่น่าจะใช่ แถมบนหลังช้างยังมีปินใหญ่หรือปืนกล (ไม่แน่ใจ) ติดล้อบันทุกอยู่ด้วย คิดต่อไปว่า ถ้าเกิดศึกสงครามขึ้นจริง ทหารประจำปืนยิงปืนทั้งที่อยู่บนหลังช้าง ช้างคงจะตื่นเสียงปืน คงได้ตกจากหลังช้างมาแข้งขาหักกันบ้างละ....
ส่วนภาพยากะแร็ต ชุดเครื่องแบบทหารเหล่าต่าง ๆ ก็งดงามมากครับ ทำให้เห็นวิวัฒนาการของเครื่องแบบทหารได้ชัดเลย
คนไทยชอบแต่งเครื่องแบบอยู่แล้ว แม้ว่าเครื่องแบบของบางหมู่บางเหล่า ออกแบบมาไม่คล่อยสอดคล้องกับภูมิอากาศภูมิประเทศของเรานัก ใส่ทีร้อนเหงื่อท่วมทั้งที่ยังไม่ได้ออกไปรบทัพจับศึกกับใคร แต่สังเกตดู คนในเครื่องแบบจะชอบใส่เครื่องแบบและไม่บ่นสักนิด
บางหมู่เหล่า พอถึงเวลาพ้นราชการ กลายเป็นสามัญชน ก็ยังอาลัยอาวรณ์กับเครื่องแบบ มีโอกาสต้องหยิบขึ้นมาสวมใส่อีก เรียกคนพวกนี้ว่า ยังยึดติดกับเครื่องแบบอยู่มาก
คงคล้ายกับหัวโขนหัวชฎา ใส่แล้วเป็นพระเป็นยักษ์เป็นลิง ถอดแล้วกลายเป็นสามัญชน คนยึดติดก็เลยไม่อยากถอดหัวโขนหัวชฎา ทั้ง ๆ ที่รู้ว่าสิ่งเหล่านั้นล้วนเป็นมายา....