แคเป็นพืชที่ปลูกง่าย มีอายุไม่นานก็ยืนต้นตาย เหมือนพืชตระกูลถั่ว มีเนื้ออ่อน ใบจะเรียวดูคล้ายกับขนนก มีแคขาวกับแคแดง เมื่อดอกบานออก แมลงจะมาตอมแล้วจะผสมเกสรระหว่างดอกกัน เมื่อดอกแก่จนกลีบร่วงก็จะเป็นฝักอ่อน ฝักจะหมือนถั่วฝักยาวแต่จะแบนกว่า แคปลูกได้ในทุกพื้นที่ทั้งดินเหนียวและดินปนทราย ขยายพันธุ์โดยใช้เมล็ดที่แก่จัด ส่วนใหญ่จะนิยมปลูกเป็นรั้วบ้าน คันนา ริมถนน และในบริเวณบ้าน หรือปลูกไว้เพื่อปรับพื้นที่ให้มีปุ๋ย เพราะใบแคที่ผุแล้ว ทำให้ดินอุดมสมบูรณ์
ประโยชน์ของแคด้านอาหาร ส่วนที่นำมารับประทาน ได้แก่ ยอดอ่อน ดอกอ่อน ใบอ่อน และฝักอ่อน โดยนำมาลวกน้ำร้อนใช้กินร่วมกับน้ำพริกกะปิหรือน้ำพริกปลาร้า
ดอกแคอ่อนนำไปปรุงอาหารได้หลายชนิด เช่น แกงส้มดอกแค แกงจืดดอกแค ดอกแคสอดไส้ ดอกแคผัดหมูหรือกุ้ง ดอกแคผัดน้ำมันหอย และดอกแคชุบแป้งทอด ซึ่งจะใช้กินกับน้ำพริก ควรเด็ดเกสรตัวผู้ออกจากดอกแคก่อนเพื่อลดความขม
ส่วนชาวอีสานนิยมนำดอกและยอดอ่อนมานึ่ง หรือย่าง กินร่วมกับแจ่ว ลาบ ก้อย และนำดอกแคมาปรุงอาหารประเภทอ่อมได้อีกด้วย
สรรพคุณทางยา
แก้ท้องเดินท้องร่วง สมานแผลในกระเพาะอาหารและลำไส้ แก้บิดมูกเลือด แก้ไข้หัวลม แก้ริดสีดวงจมูก มีวิตามินซี ซึ่งช่วยอาการหวัดให้ทุเลา ทำให้ผิวสวย ช่วยแก้ไข้ ลดไข้ นอกจากนี้ยังอุดมด้วยสารอาหารต่างๆ โดยเฉพาะเบต้าแคโรทีนที่ร่างกายสามารถเปลี่ยนเป็นวิตามินเอได้ ช่วยบำรุงสายตาและต้านมะเร็ง อีกทั้งช่วยเสริมสร้างกระดูก เพราะมีแคลเซียมฟอสฟอรัสสูง
เปลือกนำมาต้มคั้นน้ำแก้ท้องร่วง แก้บิด แก้มูกเลือด คุมธาตุ ที่สำคัญสามารถช่วยแก้อาการปวดศีรษะได้
ดอกแคมีคุณสมบัติในการใช้รักษาไข้หัวลมเมื่ออากาศเริ่มเปลี่ยนได้เป็นอย่างดี
ใบจะมีคุณสมบัติเป็นยาระบาย แก้รอยฟกช้ำโดยการโขลกแล้วนำไปพอกบริเวณนั้น สำหรับคนที่มีเป็นโรคริดสีดวงจมูก
นอกจากนี้ยังสามารถใช้เปลือก ใบ ราก และดอกมาต้มหยอดจมูกได้
ในประเทศอินเดียมีการให้ใบอ่อนของแคเป็นอาหารเสริมบีตา-แคโรทีนอยด์ พบว่าบุคคลที่ขาดแคโรทีนอยด์ หลังจากได้รับอาหารเสริมใบอ่อนแค (เรียกอะกาทิ-agathi) จะมีปริมาณแคโรทีนในซีรั่มเพิ่มในวันที่ 7
ประเทศอินเดียใช้แคเป็นยาพื้นบ้านดังนี้
รากสด 20 กรัม เคี่ยวในน้ำ 1 ลิตร 30 นาที กรองเอารากออกดื่มแก้อาการอักเสบ
เทน้ำเดือด 1 ลิตรท่วมใบสด 20 กรัม ทิ้งไว้ 15 นาทีกรองเอาใบแคออก ดื่มแก้โรคตาบอดกลางคืน ขับพยาธิ บรรเทาอาการลมบ้าหมูและโรคเกาต์
ทน้ำเดือด 1 ลิตรท่วมดอกแคสด 20 กรัม ทิ้งไว้ 15 นาทีกรองเอาดอกแคออก ดื่มแก้หลอดลมอักเสบ ไซนัสอักเสบ และบำรุงตับ
ฝักสด 20 กรัม เคี่ยวในน้ำ 1 ลิตร 30 นาที กรองเอาฝักออกดื่มเพื่อระบายท้อง บรรเทาอาการไข้ ปวด เลือดจาง ช่วยความจำและป้องกันการเกิดเนื้องอก
ใบแคตำพอกบรรเทาอาการช้ำบวม
น้ำคั้นรากแคเจือน้ำผึ้งใช้ขับเสมหะลดอาการไอ
(สูตรจากประเทศอินเดียทั้งหมดนี้ดื่มก่อนอาหาร เช้า เย็น 1 ชั่วโมงและก่อนนอน เตรียมแต่พอดื่มวันต่อวัน)
การวิจัยของประเทศอินเดียพบว่า สารสกัดเอ-ทานอลของใบแคมีฤทธิ์ป้องกันการถูกทำลายของตับในหนูทดลองที่ได้รับยาเกินขนาดโดยพบปริมาณเอนไซม์ แอสพาร์เทตทรานส์อะมิเนส อะลานีนทรานส์อะมิเนส อัลคาไลน์ฟอสฟาเทสต่ำในหนูที่รับยาและสารสกัดใบแค เอนไซม์ดังกล่าวมีปริมาณสูงในหนูซึ่งรับยาเกินขนาด เนื่องจากตับถูกทำลาย
นอกจากนี้หนูที่ได้รับยาและสารสกัดใบแคมีปริมาณไตรกลีเซอไรด์ โคเลสเตอรอล ฟอสโฟไลพิด และกรดไขมันอิสระต่ำกว่าหนูกลุ่มที่ได้รับยาอย่างเดียวและพบว่าสารสกัดใบแคทำให้ปริมาณสารต้านอนุมูลอิสระในกระแสเลือดหนูกลับสู่สภาวะปกติ ขณะที่ปริมาณสารดังกล่าวในหนูที่รับยามีปริมาณต่ำผลการวิจัยนี้เป็นข้อสนับสนุนข้อมูลแพทย์ทางเลือกที่ใช้ใบแคบำรุงตับและแก้ความผิดปกติของตับได้อย่างดี
ที่มา:www.thaihealth.or.th และ www.doctor.or.thhtm
ตอกชอบแกงส้มมากสุดค่ะ