พักผ่อน
Group Blog
 
 
พฤศจิกายน 2549
 1234
567891011
12131415161718
19202122232425
2627282930 
 
23 พฤศจิกายน 2549
 
All Blogs
 
ลิเกย์ ปฏิวัติ

ลิเกย์ ปฏิวัติ



เมื่อหัวหน้าคณะลิเกย์ฯ พาพระเอกลิเกย์ออกรำหน้าม่าน
เพื่อออกไปโร้ดโชว์แสดงตัวต่อพ่อยกแม่ยกมิตรรักแฟนลิเกย์ฯ ทางใต้


การออกแขกหน้าม่านในครั้งนี้ หัวหน้าคณะลิเกย์ฯ หมายมั่นปั้นมือวาดหวังไว้อย่างสวยหรูวิจิตรพิสดารพันลึกหมื่นลึกแสนลึกว่า


การออกโร้ดโชว์ตัวพระเอกใหม่ของคณะลิเกย์ฯในครานี้ จะเป็นการเสริมสร้างความสมัครสามัคคีสันติสุขสมานฉันท์สมานเธอรักใคร่กลมเกลียวเป็นอันหนึ่งอันเดียวกันทั้งแดนใต้ และ ทั่วไทย
อันจะทำให้คณะลิเกย์ฯ ดำเนินการแสดงตามเรื่องใหม่ พระเอกใหม่ สคริพท์ใหม่ ได้อย่างสะดวกสบายอยู่เย็นเป็นสุขกันทั่วหน้า
อันจะได้คะแนนความนิยมชมชื่นจากประชาชนผู้ชมลิเกย์ทั่วประเทศ


ทั้งยังหวังว่าจะได้พบปะเจรจาใช้ลูกอ้อนกับอภิมหาโจรไพรที่กระทำการปล้น ฆ่า ระเบิด เผา มิตรรักแฟนลิเกย์ฯทางใต้ ให้บาดเจ็บล้มตายไปเป็นอันมาก


การออกแขกหน้าม่านครานี้ พระเอกลิเกย์คนใหม่ถึงกับวางแผนกล่าวขอโทษพ่อยกแม่ยกมิตรรักแฟนลิเกย์ฯ รวมทั้งโจรไพรทางใต้ทั้งสิ้น



เมื่อคิดแผนการอันแนบเนียนแยบคาย โดยหมายยิงหนังสะติ๊กนัดเดียว ได้นกสองตัว
กล่าวคือ จะได้ใจโจรใต้พร้อมๆกับการใส่ไฟเผาพระเอกคนเก่ามิให้มันย้อนคืนเวทีลิเกย์ได้อีก
คิดได้ดั่งนั้นแล้วพระเอกลิเกย์ ก็ออกแอ็คชั่นสวมบทตั้งมาดหล่อ ยิ้มน้อยๆที่มุมปากสมกับเป็นหนึ่งในหวานใจของผู้เฒ่า
แล้วจึงเอื้อนเอ่ยวาจาอันเป็นอสรพิษว่า


"ข้าน้อยได้มาในครานี้จักขอฝากเนื้อฝากตัวแก่พ่อยกแม่ยกมิตรรักแฟนลิเกย์ฯ ทางใต้
ด้วยหมายใจที่จะให้ได้รับความเมตตาปรานีจากบรรดาโจรไพรน้อยใหญ่ที่กระทำการก่อกวนความสงบสันติของพ่อยกแม่ยกมิตรรักแฟนลิเกย์ฯ ในทางใต้"
"ทั้งนี้เนื่องมาจากพระเอกคนเก่าคนเดิม ได้ใช้ความเข้มแข็งเด็ดขาดกับบรรดาโจรไพรใจร้ายทำให้เกิดความอาฆาตแค้นจองเวรไม่สิ้นสุด ข้าน้อยได้ตระหนักถึงความเก่งฉกาจของบรรดาโจรไพร จึงคิดยินยอมตามประสงค์เจตนาของบรรดาโจรไพรทั้งสิ้น ไม่ว่าจะเป็นเรื่อง ศอบต ค้าของเถื่อน หวยเถื่อนยาเสพย์ติดทุกชนิดทุกประเภทอันกำเนิดเกิดมีในโลกหล้า


ข้าน้อยยินยอมให้โจรไพรทั้งหลาย ดำเนินกิจกรรมได้ตามสะดวกโดยที่ข้าน้อยจะไม่คิดขัดขวาง"


"บัดนี้ข้าน้อยขอประนมมือน้อยๆของข้าน้อยเพื่อขออภัยต่อโจรไพรทั้งสิ้น ขอให้บรรดาโจรไพรทั้งสิ้นได้โปรดมีใจกรุณาเมตตาอุเบกขา และขอให้ช่วยยกความผิดพลาดน้อยใหญ่ร้ายแรงบ้าง ร้ายค่อยบ้าง หนักบ้าง เบาบ้าง อันเกิดแต่กรรมที่สร้างไว้โดยพระเอกคนเก่าด้วยเทอญ"



"กรรมใดที่บรรดาโจรไพรก่อขึ้นในโอกาสที่ผ่านมา ไม่ว่าจะเป็นการปล้น การทำร้ายร่างกาย การยิง การระเบิด การเผาข้าน้อยจักไม่กล่าวโทษใดๆทั้งสิ้น ถือเสมือนหนึ่งว่าเป็นผู้บริสุทธิ์ผุดผ่องเป็นยองใยน่ารักน่าใคร่น่าทะนุถนอมและจักบำรุงเลี้ยงดูให้บรรดาโจรไพรทั้งสิ้นได้อิ่มหมีพีมันจำเริญรุ่งเรืองต่อๆไป"


"การนี้รวมไปถึงบรรดาโจรไพรน้อยใหญ่ที่หลบหนีซุกซ่อนตัวอยู่ และข้าน้อยยังจะไปขอโทษและให้ดำเนินการเรื่องอภัยโทษบรรดาโจรไพรที่ถูกจับกุมคุมขังไว้รอการไต่สวนทวนความตามกระบิลเมือง โจรไพรทั้งนั้นก็จักได้รับการปลดปล่อย ปลดหนี้ความริยามตามบอนทั้งหลายทั้งปวงที่บรรดาโจรไพรทุกผู้ทุกนามได้กระทำล่วงมาแล้ว เป็นอันโมฆะ"


ร้องเสร็จ พระเอกลิเกย์ก็รำเชิดฉิ่งเข้าหลืบม่านไปนั่งหอบอยู่หลังเวที



ได้ฟังพระเอกลิเกย์เอ่ยจากใจดั่งนั้นแล้ว บรรดาพ่อยกแม่ยกมิตรรักแฟนลิเกย์ฯ ทางใต้ ต่างก็ปรบมือโห่ร้องกระทืบเท้าเคาะขวดกันอึงมี่
เป็นการแสดงออกถึงการแสดงความรังเกียจเป็นอันมากต่อพระเอกลิเกย์คนใหม่


สิ้นไร้ซึ่งกึ๋นแล้วหรือไฉน ใยพระเอกลิเกย์คนใหม่รูปหล่อตาคมผมหงอกทั้งกระบาลคนนี้
ถึงจะยอมยกธงขาวศิโรราบหมอบราบคาบแก้วแก่โจรไพรโดยง่ายดังนี้


อันพวกเราซึ่งเป็นพ่อยกแม่ยกมิตรรักแฟนลิเกย์ฯ ทั้งนั้นไม่ได้มีความคิดวิตถารอยากจะถูกสาปเป็นชะนีเหมือนในเรื่องพระจันทโครพ
ทั้งโจรไพรอันเป็นศัตรูต่อความสงบเรียบร้อยของบ้านเมืองจะได้ฮึกเหิมเป็นการใหญ่ ออกมาเรียกเก็บส่วยค่าคุ้มครองอันเป็นเงินกินเปล่าแป๊ะเจี๊ยะได้ดังเดิม
ฟังแล้ว ให้รันทดหดหู่เป็นยิ่งนัก


ให้คิดถึงบรรดาพ่อแม่พี่น้องลุงป้าน้าอาปู่ย่าตายายของบรรดาผู้เคราะห์ร้าย ที่ได้รับผลกรรมจากการกระทำของโจรไพร ทั้งบาดเจ็บ พิการ ขวัญผวา เสียสติจนเสียชีวิตพวกเขาคงสาปแช่งพระเอกลิเกย์คนใหม่คนนี้เป็นแน่


ครูจูหลิงก็ยังไม่ฟื้น นาวิกที่ถูกทำร้ายทารุนก็ต้องตายฟรี


ทุกชีวิตที่คายไปก็ตายฟรี ที่เจ็บก็เจ็บฟรี ที่พิการก็พิการฟรี ที่เสียทรัพย์สินก็เสียฟรี


โอ้พระเจ้า พระเอกลิเกย์คนนี้มันช่างไร้ยางอายเสียเหลือเกิน
ถ้ามันพอมีความอายเหลืออยู่บ้าง มันคงอายที่จะมารับตำแหน่งพระเอกลิเกย์
เพราะความอายคงจะเตือนสติตัวเองว่าตนไม่มีกึ๋นพอที่จะออกแสดง



หัวหน้าคณะลิเกย์ก็คงจะด้านพอกัน ยึดวิกเขามาแล้วแต่ไม่เคยทำลิเกย์ คุมวิกไม่เป็น
ทีแรกครั้งประกาศเมื่อยึดวิกมาใหม่ๆ ก็โหมโฆษณาสารพัดสารพัน
ประชาชนก็ได้แต่ก้มหน้าอยู่ใต้กระบอกปืน หวังในใจลึกๆว่า
หัวหน้าคณะลิเกย์ คงจะหาพระเอกที่ปราดเปรียวคล่องแคล่วมีกระโหลกอันอุดมไปด้วยสมองชั้นเลิศ
ที่จะคิดไตร่ตรองทำลิเกเรื่องใหม่ให้ดีเด่นโด่งดังไปถึงนานาอารยะประเทศจนเจ็ดคาบสมุทรเก้าทวีปให้เป็นที่ประจักษ์


อนิจจา แม่ยาเส้นกระป๋อง มิกซ์79 ข้าเห็นพระเอกลิเกย์ฯคนนี้แล้วให้หมดหวัง
ไม่ว่าจะเยื้องย่าง ท่ารำ เสียงร้อง จังหวะ ทำนอง ลูกคอ มันไม่ได้สักกระผีกเสี้ยวควันปืนที่มันลงทุนโฆษณาแต่แรก
ฤาจะเป็นเพราะว่าเงินค่าจ้างยึดวิกลิเกย์ฯ ที่ยึดมา
นี่ก็จะครบจะสองเดือนอยู่รอมะร่อ หัวหน้าคณะลิเกย์ฯ ยังไม่ได้มีวี่แววว่าสะตังค์จะจ่ายออกไป
จะเป็นด้วยเหนียวหนี้ หรือ จะเป็นเพราะไม่มีตังค์หวังจับเสือมือเปล่า หรือ จะเป็นเพราะสปอนเซ่อร์คิดไม่ซื่อ
อันนี้ไม่รับทราบด้วยหรอก


แต่เรื่องนี้ก็เป็นผลให้คณะลิเกย์ฯ คณะนี้ไม่มีเครดิต
หัวหน้าก็ไม่สามารถสรรหาพระเอกลิเกย์ ที่มี สเป็ซซิฟิเคชั่นส์ ตามที่ได้อวดอ้างโฆษณาเกินจริงไปมาก


เรื่องนี้กำลังอยู่ในการพิจารณาของสมาคาคุ้มครองผู้บริโภคว่า
จะต้องฟ้องร้องเอาผิดกับ หัวหน้าคณะลิเกย์ฯ
ฐานอวดอ้างสรรพคุณพระเอกลิเกย์เกินจริง


ซึ่งฝ่ายสืบสวนสอบสวนคดีพิเศษอย่างหน่วย ดีเอสไอ คงจะเป็นที่พึ่งพาอาศัยได้
สุดท้าย หัวหน้าทีม ดี เอส ไอ ก็ถูกบู๊ทยัน เด้งไปแล้ว



ฝ่ายโจรไพรอันมีอภิพญาหัวหน้าโจร เป็นประธาน


เมื่อได้รับข่าวตามที่บรรดาสมุนโจรนำรีพอร์ทมาพรีเซ้นต์ ประกอบด้วยเพเพ่อร์หลายสิบหน้า


มีภาพถ่ายหน้าตรง ด้านข้าง ด้านหลัง ครึ่งตัว เต็มตัว ของหัวหน้าคณะลิเกย์ฯ และ พระเอกลิเกย์ฯ


ประกอบคำบรรยายดีเทลเป็นภาษาเฉพาะแบบดาวินชีโค้ดครบถ้วน


ทั้งยังฉายดีวีดีในระบบดีทีเอสโปรโลจิค ให้อภิพญาหัวหน้าโจรได้ชื่นชมโสมนัสปิติยินดีปรีดา


ในความหล่อเหลาเข้าใกล้โลงของพระเอกลิเกย์หนุ่มเหลือน้อยคนนี้



รพรีเซ้นต์เป็นไปอย่างขลุกขลักนิดหน่อย เนื่องจากต้องปั่นไฟใช้เองในป่า


ระบบจ่ายพลังงานไม่สเตเบิ้ล ทำให้ระบบแสงสีเสียงที่ใช้ในการพรีเซ้นต์ ไม่วูบวาบดังใจ


ระบบเสียงเซอรราวนด์โปรโลจิค ก็ขาดๆเกินๆ


ดังนั้นการพรีเซ้นต์จึงต้องใช้เวลายืดเยื้อยาวนานถึงเก้าสิบนาที


เทียบเท่ากับความยาวมาตรฐานของหนังแอ็คชั่น ที่สร้างในฮอลลีวู๊ด


กว่าจะจบ ก็เล่นเอาซาวนด็เอ็นจิเนียร์ กับ ไล้ทติ้งเอ็นจิเนียร์ เหงื่อแตกหัวโน


เพราะโดนเขกหัวอยู่ตลอดเก้าสิบนาที



เมื่อจบการพรีเซ้นต์ในระบบเพเพ่อร์บวกออดิโอวิช่วลสเปเชี่ยลเอฟเฝ็คท์ดิสโก้ไล้ท์ติ้ง


ไฟในห้องประชุมสภาก็สว่างขึ้น
อภิพญาหัวหน้าโจร ก็ขำกลิ้งตกจากเก้าอี้ประธาน


ต่อหน้าบรรดาโจรไพรน้อยใหญ่ที่อยู่ร่วมกันในสภาโจรอันไร้เกียรติ


บรรดาโจรไพรน้อยใหญ่ต่างก้มหน้าก้มตากัดลิ้นตนหรือกัดนิ้วกัดข้อมือตามถนัด


เพื่อนำความเจ็บปวดมาข่มบังคับไม่ให้ตนต้องปล่อยก๊าก...ออกมา


อันจะเป็นการหยามอภิพญาหัวหน้าโจร ซึ่งมีโทษตัดหัว



ฝ่ายอภิพญาหัวหน้าโจร
เมื่อตั้งสติลุกขึ้นมานั่งบนเก้าอี้ประธานตัวโปรดได้แล้ว


ก็ออกคำสั่งด่วน ที่ 66/49 และถือโอกาสกล่าวปราศรัย มีความโดยสรุปสั้นๆว่า


ให้บรรดาโจรไพรทั้งสิ้น ดำเนินการก่อกวนต่อไปเรื่อยๆ อย่าหยุด อย่ายั้งมือ


จนกว่าระบบการค้าเสรีของเถื่อน หวยเถื่อน น้ำมันเถื่อน และยาเสพย์ติด


จะกลับมารุ่งเรืองเฟื่องฟูสถาวรดังเดิมเหมือนเมื่อห้าหกปีที่แล้ว


และต่อไป เราก็จะกลับมาเรียกค่าคุ้มครองได้ดังเดิม



คณะลิเกย์คณะนี้ มันมาขอโทษพวกเรา


มันจะปลดปล่อยพี่น้องเรา


มันกล้วเรา ใช่ไม่ใช่? พ่อแม่พี่น้อง



เมื่อผู้เฒ่ากระเทยยก ขาใหญ่ ผู้สนับสนุนพระเอกลิเกย์คนนี้มาตั้งแต่อ้อนแต่ออก
เปรี้ยวหวานมันเค็มอย่างไรในตัวตั้งแต่หัวจรดเท้าของพระเอกลิเกย์คนนี้
ยังตราตรึงอยู่ในหัวใจของผู้เฒ่าไม่เคยลืม


แม้วันนี้จะเหินห่างจากบ้านใหญ่ในป่าคอนกรีตไปบ้าง
ก็ยังต่อสายตรงจ๊ะจ๋ากันอย่างสม่ำเสมอ


บัดนี้ ผู้เฒ่ารู้ว่าพระเอกลิเกย์ไปกล่าวขอโทษโจรไพรแดนใต้
ผู้เฒ่า ถึงกับผิวปากเป็นเพลงยอดดอยเบาๆ
ด้วยครึ้มอกครึ้มใจเป็นหนักหนาว่า
นโยบาย 66/23 อันตูข้าได้ให้ลูกจิ๋วหวานเจี๊ยบ
ไปลักโขมยมาจากจารย์เสริฐ คงจะใช้ได้ใน พศ. 49 เป็นแน่แท้
เรียกว่าโขมยของที่เคยโขมยมาแล้ว เอาไปขายต่อ


อันเพลงยอดดอยนี้ เป็นที่รู้กันทั่วไปในเขตแคว้นแดนสยามนามประเทืองฯ ว่า
เป็นเพลงโกลเด้นโอลดี้ส์ สุดยอดเฟเวอริทอมตะนิรันดร์กาลของผู้เฒ่าแต่ผู้เดียวในโลก


คนที่ร้องได้ไพเราะเพราะพริ้งเข้าไปเต็มหัวใจทั้งสี่ห้องเหี่ยวๆของผู้เฒ่า
ก็มิใช่ผู้ใดอื่นไกล เป็นนักร้องเพลงพ็อพนาม ยังเซ็กเดอะบอย นั่นอง



ดูพระเอกลิเกคนเก่าคนเดิมที่ร้องรำอยู่หน้าวิกก็ให้ท้อใจ


เป็นทั้งพระเอก เป็นทั้งนายโรง
ตัวพระเอกคิดใหม่ทำใหม่ ก็แสดงดี ไม่ว่าจะร้องจะรำ ดูกลมกลืนตัวอ่อนเอวบาง


สมเป็นพระเอกลิเกคิดใหม่ทำใหม่


แต่ทว่า อุปสรรคอันใหญ่หลวงของลิเกโรงนี้ก็คือ
พิณพาทย์ปี่กลองฆ้องฉิ่ง ไม่ค่อยจะสอดรับสามัคคีกัน
ปล่อยให้นายโรงในชุดพระเอกออกร้องออกรำแต่เดียวดาย
เมื่อพิณพาทย์ปี่กลองฆ้องฉิ่ง ขาดสามัคคี
ถ้าเป็นดังนี้ จะถูกลิเกหลงโรงตามข้างถนนขึ้นเทียบชั้น โจมตีได้โดยง่าย



ขณะนั้นนายลิ้มโกตั้บ ผู้ให้การสนับสนุนคณะลิเก (สนับสนุนทางปาก)
เกิดอาการไม่พอใจกระฟัดกระเฟียด ที่นายโรงไม่ช่วยเหลือเรื่องกิจการค้าขาย


ทั้งเรื่องอากรของนายลิ้มโกตั้บอันเป็นคดีความน้อยใหญ่ขึ้นโรงศาลอยู่มากมาย
นายลิ้มโกตั้บออกมากระแนะกระแหนต่อว่านายโรงลิเกบ่อยครั้ง
หาว่าว่านายโรงลิเกสวมชุดพระเอก แล้วออกเล่นไม่เต็มที่
เล่นไม่สมบทบาท เสียงร้องกับท่ารำก็เริ่มจะขัดเขิน


ทั้งวงปี่พาทย์กลองฉิ่งระนาดฆ้องซอ ก็เริ่มเล่นออกนอกทาง
ลิ้มโกตั้บได้ทีก็ออกเพลงเชิดรุกไล่ในบัดดล


วงปี่พาทย์รู้ข่าวก็ออกแรงเล่นระนาดไม้แข็งกับ ลิ้มโกตั้บ
ต่างก็ร่วมกันจัดการกับลิ้มโกตั้บให้หลุดพ้นช่องทางสื่อสาร



อันลิ้มโกตั้บใช่ว่าจะเป็นเจ๊กกระจอกงอกง่อย


บุญญาบารมีที่สั่งสมลงในหนังสือพิมพ์ หมาเพ้อเจ้อ นับว่ามากโข
ดีกรีอาวุโสก็นับเป็นรุ่นกังไสลายครามที่แตกลายงาเทียบชั้นของสะสมแล้ว


ด้วยความเชื่อมั่นในฝีปากและท่ารำ อันได้ฝึกฝนมาแต่เล็กแต่น้อยน้อยจนเริ่มจะแก่เฒ่าเข้าวัยโรยชราภาพ
ลิ้มโกตั้บจึงรวมรวมพ่อยกแม่ยกรับจ้าง ควงคู่นางเอกสาวสวย ออกวิกแสดงละครพันทาง
ซึ่งก็รวบรวมบรรดาผู้ชมตามมาชมละครได้จำนวนหนึ่ง


ละครเรื่องนี้ตั้งป้อมไล่นายโรงลิเกพร้อมทั้งวงปี่พาทย์ทั้งสิ้นให้ลงจากเวทีใหญ่



แต่ผู้ชมอีกจำนวนหนึ่งก็เรียกร้องนายโรงสวมเสื้อพระเอกให้เล่นต่อ


แต่ก็เล่นอะไรไม่ได้มาก ร้องไม่ค่อยออก รำสะดุดกึกกัก เมื่อมีคนตั้งป้อมจะไล่ลง จะร้องจะรำจะเล่นก็ไม่ถนัดถนี่
วงปี่พาทย์ฆ้องฉิ่งก็เสียกำลังใจเรรวนไปสิ้น


นายโรงสวมเสื้อพระเอกลิเกคิดใหม่ทำใหม่ เห็นว่ามิตรรักแฟนลิเกทั้งหลายในชาติ


จะถึงกาลแตกแยกเป็นสองขั้ว นับเป็นสิ่งที่เลวร้ายที่สุดที่จะเกิดขึ้นได้แก่มิตรรักแฟนลิเก


นายโรงแสดงจิตสปิริตเจตนาบริสุทธิ์
ขอให้เป็นการตัดสินใจของมิตรรักแฟนลิเกทั่วประเทศ


แล้วนายโรงจึงออกประกาศเป็นสาธารณะให้ประชาชนเป็นผู้ตัดสิน
โดยวิธีการยื่นบัตรลงเบอร์ตามมาตรฐานสากลโลก



กล่าวถึงฝ่ายพระเอกลิเกหลงโรงสักเล็กน้อย


บรรดาลิเกหลงโรงวิกเล็กวิกน้อยทั้งหลาย อันมีพระเอกทั้งหนุ่มทั้งแก่
ซึ่งแต่ไหนแต่ไรก็เปิดวิกลิเกตามงานวัดบ้าง หลังตลาดสดบ้าง


ต่างก็รอคอยโอกาสที่จะได้รับเลือกให้เล่นโรงใหญ่สักครั้ง
ทั้งได้ตระเตรียมบทลิเกเรื่องใหม่ๆที่น่าสนใจเพื่อดึงดูดแฟนลิเกให้เลือกตน


แต่เมื่อยินข่าวจากนายโรงลิเกใหญ่
ว่าจะมีการประกวดลิเกเพื่อชิงดำเข้าเล่นโรงใหญ่


ต่างก็เหน็ดเหนื่อยท้อแท้
ด้วยรู้ว่าอย่างไรเสีย มิตรรักแฟนลิเกทั่วประเทศ ยังไม่อยากเปลี่ยนนายโรง
หรือเปลี่ยนพระเอกลิเกแต่อย่างใด


บรรดาลิเกหลงโรงวิกเล็กวิกน้อยทั้งหลาย จึงได้หารือกันอย่างหน้าดำคร่ำเครียด
สรุปว่าจะดัดหลังนายโรงลิเกลงใหญ่ด้วยการไม่เข้าร่วมประกวดร้องลิเก


แผนการนี้ จะเป็นการดิสเครดิตนายโรงลิเกโรงใหญ่อย่างแรง
ด้วยหากนายโรงลิเกโรงใหญ่ ออกไปร้องรำลิเกแต่เพียงผู้เดียว
ก็จะเป็นการชนะแบบไร้คู่ต่อสู้ ซึ่งในวงการลิเกถือว่าชนะไม่สมศักดิ์ศรี



ในที่สุดประชาชนที่ยังนิยมชมชอบพระเอกลิเกคนเก่า ยังรักยังชอบเรื่องราว ท่ารำ บทร้อง ลูกคอของพระเอกลิเกคิดใหม่ทำใหม่


ต่างก็พร้อมใจกันเลือกพระเอกลิเกคนเก่าด้วยคะแนนเสียงท่วมท้น
และเรียกร้องให้มารับบทเล่นลิเกเรื่องเดิมต่อไป



จะกล่าวฝ่ายผู้เฒ่า เมื่อรู้ว่านายโรงลิเกโรงใหญ่พระเอกหน้าเดิมกลับมา
ก็เกิดอาการเหมือนเป็นลมพิษ ขึ้นผื่นคันคะเยอไปทั้งตัว


รำพึงว่า ฤาพ็อพพิวลาริตี้ของพระเอกลิเกชาวเหนือชื่อใต้คนนี้
จะบดบังรัศมีของเราที่เคยปกไพศาลไปทั้งทวีป
ส่วยสาอากรอันเคยมีเคยได้จากที่ต่างๆ ก็มามีอันถูกมันทำลายเส้นทางเสียสิ้น
เมื่อมันคิดจะเป็นพระเอกแบบฮีโร่ ตัวกูก็จะให้มันเป็นสมใจนึก


คิดได้ดั่งนั้นจึงให้ลูกจุ่นกับลูกอู๊ด นำชุดตะหานออกมาปัดฝุ่นส่งแผนก ลอนดรี้
เครื่องหมายหมวดหมู่ประดามีให้จัดเตรียมไว้
เมื่อขันทีได้สวมใส่เครื่องแบบอันทรงเกียรติและศักดิ์สิทธิ์
แปะหมวกสักหลาดแบล็ค แบเร่ท์ เอียงนิดๆบนหัว
ผู้เฒ่าก็ออกอาการฮึกเหิมเป็นยิ่งนัก
รำพึงว่า Old Soldier Never Die. เป็นคำที่จำขี้ปากเขามาพูดอีกที
แล้วก็ฮัมเพลง ยอดดอย เดินออกมาจากห้อง Dressing Room
ผู้เฒ่าเริ่มแผนชั่วร้าย โดยการออกเดินสายไปร้องลิเกเดี่ยวตามสถานที่ต่างๆ


ทุกครั้งที่ไป จะต้องร้องลิเกเดี่ยว เหน็บแนมพระเอกลิเกคิดใหม่ทำใหม่
ผู้เฒ่า ผู้เคยถูกผู้คนเขาว่าพูดไม่ได้ เพราะกลัวดอกพิกุลจะร่วง
ผู้เฒ่า ผู้ซึ่งเคยได้รับฉายาว่า เตมีย์ใบ้
ผู้เฒ่า ผู้ที่ไม่นิยมการให้สัมภาษณ์ใดๆ


บัดนี้ กลับออกเดินสาย ไปร้องลิเกเดี่ยวจนผู้คนรุ่นใหม่เข้าใจผิด
เข้าใจว่าตะแกเป็นอดีตลิเกอาชีพ เปล่าเลย แต่ก่อนแกเป็นเตมีย์ใบ้อยู่แล้ว
แล้วเตมีย์ใบ้ ไฉนจึงออกมาเดินสายร้องลิเกเดี่ยวเอาจนอายุปูนนี้


เรื่องนี้มันต้องมีที่มาสิ พ่อแม่พี่น้อง



อาศัยตำแหน่ง เคาซิเลอร์ ผู้มากบารมีใวงการลิเกย์สยาม
ขันทีออกร้องเดี่ยวลิเกจนเสียงแหบเสียงแห้ง
ร้องซ้ำซากอยู่เพลงเดียวเท่านั้น
คือเพลงที่มีเนื้อร้องเหน็บแนมพระเอกลิเกคิดใหม่ทำใหม่


ฝ่ายพระเอกลิเกคิดใหม่ทำใหม่ชาวเหนือชื่อใต้ตาดูดาวเท้าติดดิน
มื่อได้ยินเสียงลิเกเดี่ยวเสียงแหบแห้ง ออกมาร้องลิเกเหน็บอยู่ร่ำไป
ร้องซ้ำซากอยู่เพลงเดียวเท่านั้น ก็ให้เกิดสงสัยเป็นยิ่งนัก
จำจะต้องให้คนไปเจรจาความ ว่าเหตุใด
ท่านขันทีผู้เฒ่าจึงร้องลิเกกัดข้าพเจ้าอยู่บ่อยๆ
สืบคนค้นคน หาคนโปรดของผู้เฒ่า จะได้ขออาศัยไหว้วาน


ให้เจรจาความกับผู้เฒ่า ว่าจะแหกปากเหี่ยวร้องลิเกหาอะไร
เหลียวมองซ้ายขวาหน้าหลังบนล่าง มองจนทั่วยุทธจักร


ทั้งสีเทา สี่เขียวขี้ม้า สีน้ำทะเล สีกากี
ไม่มีใครพอกล้าที่จะพูดกับผู้เฒ่าตรงๆ


เขากลัวกันขนาดนี้เจียวหรือ?


เหลือสีเดียวที่จะพอเจรจากับผู้เฒ่าได้ สีม่วงไงละครับพี่น้อง



ทันทีที่ได้รับการทาบทามจากคนสนิทของหญิงอ้อ
หนุ่มสีม่วงก็กระโจนลงไปสุดตัว
โอกาสที่จะได้พบปะพูดคุยกับนายหญิงนั้น เป็นไปได้ยากนัก
ก็นายหญิงมีทั้งอำนาจวาสนาเงินตราข้าทาสบริวารพร้อมเพรียง
มีหรือหนุ่มสีม่วงจะปฏิเสธ


การพบปะเจรจาในครั้งนั้น สรุปตกลงเหมาจ่ายค่าจ้างผู้เฒ่าให้หยุดร้องลิเก


เป็นจำนวนเงิน 500,000,000.00 อ่านว่า ห้าร้อยล้านตำลึงไทย
พระเจ้า! ค่าจ้างหยุดร้องลิเกสำหรับผู้เฒ่าเป็นเงินสองพันล้านบาทไทย


หนุ่มสีม่วงรับไปเต็มๆเนื้อๆ 100,000,000.00 อ่านว่า หนึ่งร้อยล้านตำลึงไทย
ทำงานดีได้เงินเป็นก้อนๆ ก้อนละสี่ร้อยล้านบาทไทย


พระเจ้าช่วยประเทศไทยด้วยเถิด
เมื่อผู้เฒ่ารับทรัพย์ใส่หีบลั่นกุญแจไว้เรียบร้อยแล้ว


ก็กระหยิ่มยิ้มย่อง พระเอกลิเกคิดใหม่ทำใหม่ ต้องคิดใหม่อีกหลายตลบ
จึงจะเทียบชั้นผู้เฒ่าเช่นข้า คอยดูเถิด ข้าจะเล่นแผนสองแผนสามต่อๆไป
ไม่ต้องให้มันได้ผุดได้เกิด



ฝ่ายลิ้มโกตั้บ เมื่อได้กลิ่นตุๆ ระหว่างนายโรงลิเกกับผู้เฒ่า
ก็เข้ามาขอคารวะสวามิภักดิ์ แต่ด้วยความที่เป็นคนมีชั้นเชิง มีเลศนัยตลอดมา


ผู้เฒ่าจึงให้ลิ้มโกตั้บคุยกับลูกจุ่น ส่งซิกแนลอันเป็นที่รู้กันว่า
ต้องจัดการนายโรงลิเก ให้พ้นไปจากโรงลิเกโรงใหญ่ให้ได้


ทุกวิถีทาง ย้ำ ทุกวิถีทาง


ให้ฝ่ายลิ้มโกตั้บจัดแสดงละครพันทางต่อไป เดินเรื่องให้เข้มข้น


ฝ่ายผู้เฒ่าจะตัดกำลังทางปัญญาของนายโรงลิเก
โดยเรียกตัวลูกหลานชาวใต้ฝ่ายบุ๋นของนายโรงลิเก ให้เอาใจออกห่าง


ลูกจุ่นบรีฟให้โกตั้บฟังอย่างรวดเร็ว ภายในสิบนาที
เป้าหมายของผู้เฒ่า ก็เข้าไปฝังอยู่ในกะโหลกบวมๆของลิ้มโกตั้บ



งานนี้ ผู้เฒ่าแอบยกธงเขียวให้ลิ้มโกตั้บ ออกละครพันทางได้เต็มที่
ไม่ต้องเกรงกลัวภยันอันตรายใดทั้งสิ้น
เป้าหมายเดียว ชัดเจนคือ ต้องป่วนประเทศ ให้เลิกลิเกคิดใหม่ทำใหม่ให้ได้


ทั้งลูกอู๊ดกับลูกลบ ก็ส่งกองอารักขาไปช่วยลูกลองเกรียนห้าขันอย่างเต็มที่
ส่วนเรื่องกองกำลังรี้พลทั้งสิ้น ไม่ว่าจะเป็นตะหานดิน ตะหานฟ้า ตะหานน้ำ


ล้วนแล้วแต่อยู่ในกำกับใต้ชายผ้าถุงผู้เฒ่าทั้งสิ้น


คงเหลือแต่ปูลิศ นั่นก็ถือเป็นเรื่องจิ๊บจ๊อย
ปูลิศมีแค่ปืนพก ตะหานมีเอ็มสิบหก กับรถถัง ไม่มีปัญหาใดๆกับปูลิศแน่นอน


อันว่าโรงละครพันทางที่ตั้งอยู่ริมถนน ก็ตั้งเป็นการถาวรไปได้
ไม่ต้องโยกย้ายไปไหนทั้งนั้น ไม่ว่ารถจะติดแค่ไหน พวกแฟนลิเกจะบ่นว่า
ก็เฉยๆไว้ ไม่ต้องสนใจเสียงนกเสียงกาเสียงหมาเสียงแมวทั้งสิ้น



ส่วนเรื่องค่าใช้จ่ายเงินทองต้องใช้ในระหว่างจัดละครพันทาง
รวมทั้งข้าวปลาอาหารที่จัดเลี้ยงแจกจ่ายกันในวิกละคร
รวมทั้งค่าจ้างค่าออนคนดูให้มาดูละคร เป็นอันว่า มีพร้อม


แล้วยังสินค้าซูวีเนียร์อีกล่ะ ไม่ว่าจะเป็นหมวก เสื้อ ธง ผ้าพันคอ
ผ้าโพกหัวกระบาล ผ้าเช็ดหน้า ผ้าซับเหงื่อ ผ้าเช็ดตัว
กระดาษรองก้น พัดด้าม ที่นอน หมอน มุ้ง ผ้าห่ม จิปาถะ ฯลฯ
ล้วนแล้วแต่เป็นของทำกำรี้กำไรได้ทั้งสิ้น


ประเดี๋ยวพวกแฟนละครที่กินหญ้าเข้าไปมากๆ
สวมหมวกโกตั้บ ใส่เสื้อโกตั้บ โบกธงโกตั้บ พันผ้าพันคอโกตั้บ
มัดกะโหลกด้วยผ้าโกตั้บ เหน็บผ้าเช็ดหน้าโกตั้บ ซับเหงื่อด้วยผ้าโกตั้บ
เช็ดตัวด้วยผ้าเช็ดตัวโกตั้บ นั่งบนกระดาษโกตั้บ พัดด้วยพัดด้ามโกต้บ
นอนด้วยที่นอนโกตั้บ หนุนหัวด้วยหมอนโกตั้บ กันยุงด้วยมุ้งโกตั้บ
ห่มผ้าด้วยผ้าห่มโกตั้บ



แฟนละครพันทางจะเสพย์พิษจากลมปากโกตั้บ จนสารพิษขึ้นสมอง
แล้วแฟนละครก็จะละเมอเพ้อพกทะเลาะกับแฟนลิเกเป็นการโกลาหล
แฟนละครผู้เมาสารพิษ จะไม่สนใจผู้อื่นในสังคมหรือในครอบครัว
ไม่ว่าจะเป็น พ่อ แม่ พี่ น้อง ลุง ป้า น้า อา ปู่ ย่า ตา ยาย
ครู อาจารย์ ลูกศิษย์ เพื่อน เจ้านาย ลูกน้อง คนรับใช้ สารถี
คนขับแท็กซี่ คนสวน แม่ครัว บ๋อย เด็กเสิรฟ นักร้อง โคโยตี้
หากผู้ใดตามลิสท์ข้างต้น เอ่ยปากชมพระเอกลิเกแม้แต่คำครึ่งคำ
แฟนละครผู้เมาสารพิษ ก็จะออกอาการอาละวาดเป็นหมาบ้าด่าทอไม่เว้น


ยุทธการไล่นายโรงลิเกออกไป อหิงสาแบบมีด่าเท่านั้น
จึงจะมีผู้บริจาคทรัพย์มากมายเหลือคณาจนนับไม่ทัน
วันนั้นลิ้มโกตั้บก็จะถอนทุนคืนได้เป็นแน่



ผู้เฒ่าจะใจดีออกทุนให้ลิ้มโกตั้บด้วยหรือ?
เปล่าเลย เปล่าเลย อย่าเข้าใจผิดนา พี่น้อง


ผู้เฒ่ามิได้เปิดหีบนับเงินให้ลิ้มโกตั้บหรอกนะ
เก็บไว้ทำนุบำรุงบำเรอลูกรักดีกว่า


ผู้เฒ่าก็ใช้สมองอันยอกย้อนซ่อนเงื่อนในกะโหลกเก่าๆ มาเป็นสันดาน
ให้ลูกอู๊ดเจรจากับเสี่ยปิโตรเคมีที่มีปัญหาคาราคาซังอยู่กับนายโรงลิเกนั้น
เนื่องด้วยเสี่ยปิโตรเคมี เป็นเจ้าของกิจการผลิตใหญ่โตที่ถูกเจ้าหนี้ยึดกิจการ
โดยเจ้าหนี้ทั้งหมดรวมหัวกันไม่รับข้อเสนอจากเสี่ยปิโตรเคมี
ทั้งนี้ นายโรงลิเกถูกกล่าวหาพัวพันกับการยึดกิจการดังว่า


เสี่ยปิโตรเคมี ก็บังเกิดความเคียดแค้นชิงชังรังเกียจนายโรงลิเกยิ่งนัก
ถึงกับเปิดวิกละครพันทางเวหา ออกอากาศด้วยคลื่นสามสลึงจะเต็มร้อย
วิกนี้ เป็นที่รวมของบรรดาผู้คนที่เคยดีเคยมีเคยได้
แต่ต้องมาสูญประโยชน์ส่วนตน เมื่อถูกนายโรงลิเกออกประกาศขัดขวาง
และได้ต่อต้านผลประโยชน์นอกระบบทุกรูปแบบ



วิกนี้นับเป็นวิกละครพันทางเวหาที่มีแฟนละครเป็นพวกที่ไม่ชอบลิเกส่วนหนึ่ง
และเป็นพวกที่ไปกินหญ้ากับลิ้มโกตั้บอีกส่วนหนึ่ง
เป็นมิตรรักแฟนละครที่นิยมชมชอบการแช่ด่าหยาบคายเป็นอันมาก


เสี่ยปิโตรเคมี เมื่อได้ฟังประสงค์เจตนาของลูกอู๊ดแสนรักของขันทีเฒ่า
จึงตอบตกลงกับลูกอู๊ดด้วยความยินดีปรีดา
จะเปิดตู้เซฟส่งเสียลิ้มโกตั้บจนขึ้นฝั่ง ไล่นายโรงลิเกออกไปให้ได้
แล้วจะถึงเวลาทวงคืนสมบัติพัสถานทั้งหลายทั้งปวง
รวมทั้งโรงงานเคมีอันถูกเจ้าหนี้ยึดไปตามกฎกระบิลเมือง


อันตัวของลิ้มโกตั้บนั้นใช่ว่าจะไม่เป็นละคร
เรื่องนี้มีผู้สันทัดกรณีรู้เห็นเป็นจำนวนน้อย


ทางละครของลิ้มโกตั้บนั้นจัดว่าเข้าขั้นละครอาชีพ
ทั้งทางร้องทางรำดูเหมาะสมกลมกลืนไปได้ดีกับวงปี่พาทย์
เดิมทีก็ใช้วงปี่พาทย์ไม้นวม แต่ผู้เฒ่าซิกแนลมาให้ใช้ไม้แข็ง
โกตั้บก็พยายามทุกวิถีทางที่จะออกเพลงละครใส่ร้ายป้ายสีนายโรงลิเก


เรื่องราวซ้ำซากก็เป็นเรื่องทุจริตคดโกง อันเกิดขึ้นในการบริหารโรงลิเก
ทั้งเรื่องเล็กน้อยหยุมหยิมตั้งแต่จัดซื้อฉิ่งราคาแพงเกินควรออกข่าวใหญ่โต


ฝ่ายคณะปี่พาทย์โรงลิเกคู่กรณีก็ออกมาตอบโต้ว่า
อันฉิ่งที่ประกอบวงปี่พาทย์ขั้นครูนั้นจักต้องมีเสียงใสกังวาน นับเป็นฉิ่งแท้
จะเปรียบกับฉิ่งกำมะลอที่ใช้ในวงปี่พาทย์ละครพันทางนั้นย่อมมิได้
เรื่องที่กล่าวติเตียนก่นว่าด่าทอถึงสนนราคาฉิ่งทองเหลืองแท้ๆ
แพงกว่าฉิ่งกำมะลอนั้น ย่อมเป็นเรื่องที่ถูกที่ควรแล้ว
สนนราคาที่ซื้อก็ควบคุมกันอย่างเคร่งครัด
กรรมวิธีในการจัดซื้อจัดจ้าง ก็ใช้ระบบวิธีการ อี-อ็อคชั่น
ดังนั้นเป็นการพ้นวิสัยที่จะเกิดทุจริตคดโกงราคาฉิ่งได้


ฉิ่งกำมะลอที่ท่านใช้ในวงปี่พาทย์เสียอีกที่ซื้อมาราคาเกินเสียง
ต่างฝ่ายต่างตอบโต้กันไปมาด้วยลีลาท่ารำที่เด็ดขาดเฉียบคม
ทั้งลูกคอของแต่ละฝ่ายก็ไม่น้อยหน้ากัน


เรื่องราวทีฝ่ายละครพันทาง นำออกมาร้องรำเชิดก็ไม่พ้นธีมเดิมๆ
คือเรื่องทุจริต ไม่ว่าจะเป็นการจัดซื้อม่านหน้าเวที ฉากหลัง รอกชักม่าน
หนังหน้ากลอง พื้นเวที ไฟดิสโก้ หางม้าคันชักซอ รางระนาด พื้นเวที
ลำโพงปากแตร
เรียกได้ว่า สิ่งใดที่คณะลิเกจัดซื้อจัดจ้าง
ไม่ว่าจะเป็นการเปิดซองแบบเก่า หรือจะเป็นแบบ อี-อ็อคชั่น
ก็จะถูกคณะละครพันทางของลิ้มโกตั้บกล่าวหาได้ทุกเรื่อง


บุราณว่า น้ำหยดลงหิน ทุกวันหินมันยังกร่อน
แต่หัวใจอ่อนๆ ของเธอทำด้วยสิ่งใด


เมื่อคณะละครพันทางของโกตั้บ ร้องรำเชิดฉิ่งแบบมาราธอน
ออกข่าวทั้งทางกระดาษและทางอากาศเหินเวหา
ส่งซิกแนลขึ้นโพยมยานอันลอยคว้างกลางบรรยากาศเหนือผิวโลก
ถ่ายทอดอาการที่โกตั้บร้องรำเชิดส่งแฟนละครได้ดูทั่วแดนสยาม
ทั้งยังลุกลามไปยังอุตรประเทศ ชมพูทวีป ประจิมทวีป กาฬทวีป


ผู้คนที่ฟังเพลงเชิดซ้ำซากจากโกตั้บ ก็เริ่มหวั่นไหว


นานวันเข้า โกตั้บผู้มีพรสวรรค์ทางละคร ก็ได้แพรคทิสจนขึ้นหม้อ
โกตั้บกลายเป็นพระเอกละคร เป็นตัวชูโรงมี
พวกรำหน้าม่าน ฉุยฉาย ออกมารำเรียกแม่ยกเสียก่อน


เมื่อถึงคิวโกตั้บรำเชิดฉิ่งออกหน้าเวที แฟนละครจไชโยโห่ร้องกันใหญ่
นับเป็นความสำเร็จก้าวแรกของลิ้มโกตั้บในเวทีละคร


ตั้งแต่วันนั้นเป็นต้นมาวิกละครของโกตั้บก็เป็นอันรุ่งเรืองเฟื่องฟูหรูหรา


เมื่อเงินมาของก็มี หญ้ามาควายก็มี ควายมาหญ้าก็มี
ข่าวมา คนอยากรู้ก็มี ดั่งนี้เป็นสัจจธรรม


มิตรรักแฟนละครต่างก็รวมเหล่ากันเข้ามาตีตั๋วดูละครของลิ้มโกตั้บมากขึ้น


ฝ่ายผู้เฒ่า แม้จะรับทรัพย์ใส่หีบลั่นกุญแจไปเรียบร้อย
ก็ไม่ได้คิดสนใจเรื่องที่หนุ่มสีม่วงไปตกปากรับคำกับนายหญิง
รำพึงว่า เรื่องที่จะให้ตัวเราหยุดเดินสายเดี่ยวลิเกนั้น คงจะยากเสียแล้ว


เพราะการออกจากถ้ำไปสู่โลกภายนอก
ทำให้เรารู้สึกถึงความยิ่งใหญ่ในวาสนาอัตตาบารมีของตนเอง
แฟนหนุ่มๆหล่อล่ำมากหน้าหลายตามาพินอบพิเทาด้วยเห็นตัวเราสูงส่ง
ทำให้หัวใจพองโตคับหน้าอกเหี่ยวๆของเรา ติดถึงแล้วยังเสียวไม่หาย


อันตัวเรานั้น แม้ไม่ใช่ลิเกอาชีพ เสียงก็ไม่ใส ท่ารำก็ไม่สวย
แต่เพลงลิเกที่ร้องเป็นประจำก็ได้รับการยกย่องจากแฟนลิเกท่วมท้น
ถ้าเรายังร้องเดี่ยวลิเกต่อไปเรื่อยๆ
ผู้คนในสยามประเทศอาจจะรีค็อกไนส์ตัวเราเป็นลิเกผู้มาบารมีศรีสยาม


ยิ่งคิดยิ่งปลื้ม ปลื้มอกปลื้มใจ ถึงกับผิวปากเป็นเพลงยอดดอย
อันความใดๆที่หนุ่มสีม่วงไปตกปากรับคำกับนายหญิงไว้
นั่นย่อมเป็นการตกปากรับคำของหนุ่มสีม่วงแต่ลำพัง
ไม่เกี่ยวข้องกับการตกปากรับคำของเราแต่อย่างใด


เรื่องนี้เราก็สามารถจะแก้ตัวไปได้โดยไม่ให้หนุ่มสีม่วงต้องกระทบกระเทือนใจ
เป็นเพราะว่ามิตรรักแฟนลิเกเขาจำเพาะเจาะจงเชิญเราให้ไปร้อง
เราก็ไม่ได้แค่นอยากจะไปร้องเอง
ทั้งเจ้าภาพยังกำหนดหัวเรื่องไว้ก่อนแล้ว ว่าให้เราไปร้องเรื่องเก่าซ้ำซาก
ด้วยเพราะว่ามิตรรักแฟนลิเกติดอกติดใจในเรื่องนี้เสียแล้ว
จะเปลี่ยนเรื่องใหม่ เขาก็ไม่ยอม


ดังนั้น ผู้เฒ่ายังคงออกเดินสายร้องลิเกเดี่ยวต่อไปโดยไม่มีทีท่าว่าจะหยุด
ทั้งยังร้องแต่เรื่องเก่าเพลงเก่าซ้ำซาก ออกเดินสายถี่ขึ้น เหมือนกับแกล้ง
ทุกครั้งก็ออกไปร้องด้วยเนื้อร้องเหน็บแนมนายโรงลิเกโรงใหญ่เหมือนเดิม


ฝ่ายนายโรงลิเกคิดใหม่ทำใหม่ ก็ได้เห็น ได้ยิน ได้ฟัง ว่า
ผู้เฒ่ายังคงออกเดินสายร้องลิเกเดี่ยวต่อไปโดยไม่มีทีท่าว่าจะหยุด
ทั้งยังร้องแต่เรื่องเก่าเพลงเก่าซ้ำซาก ออกเดินสายถี่ขึ้น เหมือนกับแกล้ง
ทุกครั้งก็ออกไปร้องด้วยเนื้อร้องเหน็บแนมนายโรงลิเกโรงใหญ่เหมือนเดิม


เรื่องนี้มาทำแอบลับๆล่อๆจะเจาะยางเลื่อยขาเก้าอี้ขายโรงลิเกของเรา
นี่เราก็รู้อยู่ ทำกันมานานแล้ว นี่ดีว่า ขาเก้าอี้ของเราเป็นไททาเนี่ยม
ถ้าเป็นขาไม้แบบดั้งเดิม ป่านนี้คงจะขาดไปทั้งสี่ขาแล้ว


มันคิดอยากจะเอาเก้าอี้นายโรงลิเกของเราไปยกให้ใคร? ลูกรักคนไหน?
นี่เราก็รู้อยู่ ไอ้สุราจู๊ดมันรอเสียบอยู่นานแล้ว ไอ้ลูกคอมมูนิดคิดชั่วมั่วชาย
มันอยากจะเป็นนายโรงเต็มแก่
ทั้งที่มันไม่เคยรู้เรื่องการบริหารจัดการโรงลิเกมาก่อน


และมันก็อยากจะเป็นพระเอกลิเก
ทั้งที่มันไม่เคยร้องลิเกมาก่อน ร้องก็ไม่ได้ รำก็ไม่เป็น มันยังอยาก


นายโรงลิเกคิดได้ดั่งนั้นแล้วจึงวางหมากแก้ลำ
หมายจะประกาศให้มิตรรักแฟนลิเกคิดใหม่ทำใหม่ทั่วประเทศ
ได้รับรู้เรื่องผู้เฒ่าเจ้าเล่ห์ ที่ทำตัวเป็นอีแอบไอ้โม่ง
อยู่เบื้องหลังการเลื่อยขาเก้าอี้นายโรง


และแอบสนับสนุนโรงละครพันทางของไอ้ลิ้มโกตั้บให้ใหญ่โต
เมื่อมิตรรักแฟนลิเกคิดใหม่ทำใหม่รับรู้เรื่องนี้เป็นสาธารณะ


ผู้เฒ่าเจ้าเล่ห์ ก็ไม่สามารถเคลื่อนไหวได้สะดวก
เนื่องด้วยติดขัดที่ตำแหน่งแชร์แมน ออฟ เคาซิเลอร์ ออฟ ลิเกย์ เดอ ไซแอม
ผู้เฒ่าต้องระมัดระวัง ไม่อาจออกไปเดินสายเดี่ยวลิเกที่ใดๆได้อีก


นายโรงลิเกจึงออกร้องรำลิเกเรื่องใหม่เป็นเรื่องฤาษีแปลงสาส์น
กล่าวถึงผู้เฒ่าผู้อวดอ้างบารมีนอกรัฐธรรมนูญนอกกติกาลิเกย์สยาม


ก่อความแตกแยกในหมู่มิตรรักแฟนลิเกทั่วประเทศ
ออกไปร้องลิเกเดี่ยวสร้างเนื้อหาเหน็บแนมนายโรงลิเกโรงใหญ่
นายโรงลิเกผู้ซึ่งได้รับอำนาจการบริหารโรงลิเกแห่งนี้
ย่อมมีสิทธิและหน้าที่ในการปกปักรักษาโรงลิเกตลอดจน
ระเบียบวิธีการประกวดคัดเลือกนายโรงลิเกและพระเอกลิเกต่อไปในอนาคต


มีผู้ไม่หวังดี จะทำลายขนบธรรมเนียมประเพณีอันดีงามของพวกเรา
ยุยงให้ตั้งข้อรังเกียจลิเกโรงใหญ่อันเป็นโรงลิเกคู่บ้านคู่เมือง
ยุแหย่ให้คนหันไปชมละครพันทางแทนการชมลิเก


ขอให้พ่อแม่พี่น้องมิตรรักแฟนลิเกได้โปรดระวัง
อำนาจนอกระบบเริ่มที่จะรุกล้ำสิทธิเสรีภาพในการชมลิเกของท่าน


ฝ่ายผู้เฒ่าเมื่อยินข่าวจากภายนอกถ้ำอันมาจากปากของลูกจุ่น
ว่าถึงกาลนายโรงลิเกท้ารบแล้ว
นายโรงลิเกรู้ความนัยหมดสิ้น พยายามลากพวกเราออกไปที่แจ้ง
เพื่อเปิดเผยไม่ให้เราเคลื่อนไหว


ผู้เฒ่าแม้นจะร้อนเหมือนอยู่ในซะฮาร่า แต่ก็ใจเย็นเป็นขั้วโลก
เอื้อมมือไปลูบหัวลูกจุ่นเบาๆ แล้วปล่อยดอกพิกุลร่วงจากปากว่า
อีกไม่นานแล้วลูกจุ่น เราจะยึดประเทศ ไม่ใช่แค่โรงลิเกนะลูก
ทั้งประเทศ


แล้วถึงกาลวันหนึ่งเมื่อนายโรงลิเก พร้อมคณะปี่พาทย์วงเล็ก
มีความจำเป็นที่จะต้องไปร้องรำลิเกยังต่างแดนแสนไกลถึงประจิมทวีป
อันเป็นขนบธรรมเนียมประเพณีอารยะปฏิบัติกันมาแสนนาน


ไม่ว่านายโรงลิเกคนไหน เมื่อขึ้นโรงใหญ่แล้ว
จะต้องมีหน้าที่ไปร้องรำทำลิเกยังต่างแดนไม่มีข้อยกเว้นใดๆทั้งสิ้น
ไปเพื่อดำรงความสำคัญของคณะลิเกไทยในเวทีลิเกระดับโลก
ซึ่งแต่ไหนแต่ไรมาแต่กาลก่อนโพ้นสมัยโน้น
คณะลิเกไทยยังห่างชั้นกับคณะลิเกชาติอื่นๆในเวทีโลก
มีนายโรงลิเกคิดใหม่ทำใหม่นี่แหละ ที่พอจะขึ้นหม้อเทียบรุ่นได้


ผู้เฒ่าเห็นโรงลิเกปลอดคนจึงสั่งการให้ลูกๆทั้งหลาย
อันมีลูกอู๊ดทำหน้าที่เป็น ยูเอสบี ฮับ
เชื่อมโยงทำดาต้าทรานสเฟอร์ มายังผู้เฒ่าผู้เป็นโฮสท์


เมื่อแผนการทุกอย่างเข้าที่ทาง ผู้เฒ่าจึงสั่งยึดโรงลิเก
กลางคืนวันที่ 19 กันยายน 2549






Free TextEditor


Create Date : 23 พฤศจิกายน 2549
Last Update : 18 กรกฎาคม 2551 14:52:53 น. 0 comments
Counter : 315 Pageviews.

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

Klass
Location :
กรุงเทพ Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed

ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?]




Words are spears;
there are weapons with which to defend yourself
and with which to attack your enemies.
Words have the sharpest blades,
without them you will be warriors disarmed.



Friends' blogs
[Add Klass's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.