มามะ ไปคลอดลูกกัน ไม่น่ากลัวอย่างที่คิด
Oct. 9 2007
บล็อกนี้จะขอเล่าถึงความภาคภูมิใจในชีวิตที่เกิดมาเป็นลูกผู้หญิงคนนึง และได้ปฏิบัติหน้าที่ของการรับใช้ชาติที่เกิดมาเป็นผู้หญิงได้อย่างสมบูรณ์ นั่นก็คือ "การได้เป็นแม่ของลูก ๆ ทั้ง 4 คน" นี้นี่เอง!!! (เยอะเกินไปรึปล่าวเนี่ย) บางคนอาจจะคิดว่าน่าภาคภูมิใจตรงไหนฟระ ใคร ๆ ก็เป็นกันได้ แต่คนที่เป็นพ่อแม่คนแล้วจะเข้าใจคำ ๆ นี้อย่างลึกซึ้งมากกว่าคนที่ยังเป็นโสด ก็สุดแท้แต่ความพอใจของแต่ละคนจ้า เพราะว่าบางคนก็ไม่อยากมีลูกกวนตัว มีปั๋วกวนใจ อยู่เป็นโฉด เอ๊ย!! โสดดีกว่าเป็นไหน ๆ แต่สำหรับครอบครัวเราแล้วการมีลูกคือการเป็นครอบครัวอย่างสมบูรณ์ เป็นการเติมเต็มให้กับคำว่าครอบครัว เวลามองลูกเล่นกันดี ๆ ก็สุขภาพจิตดีกันถ้วนหน้า แต่เวลาอีทะเลาะกันนี่ก็ต้องปรับสภาพจิตกันแทบไม่ทัน วัน ๆ บิลท์อารมณ์วันละไม่รู้กี่รอบ พาลให้แต่ละวันกลายเป็นคนคุ้มดีคุ้มร้ายไปซะนี่ เฮ้อ!!
เพราะว่าการมีลูกถึง 4 คนทำให้อะฮั้นมีประสบการณ์ในการไปคลอดลูกที่แตกต่างกันไป (มันจะไปเหมือนกันได้ยังไงล่ะเพ่) แต่ละครั้งก็เด็ดสะระตี่ทั้งน้าน...น ไม่คิดว่าการไปคลอดลูกมันจะสนุกเหมือนไปช้อปปิ้งอะไรเช่นนี้ อะฮ้า !!!
พอเลิกงานก็เตรียมตัวไปโรงบาล โดยที่ไม่ลืมสิ่งสำคัญนั่นก็คือ "กระเป๋าเครื่องสำอางค์" นั่นเอง 555 อันนี้สำคัญยิ่งกว่าเสื้อผ้าอี๊ก เพราะว่าเสื้อผ้ายังหาได้ที่โรงบาล แต่เครื่องสำอางค์มันไม่มีอ่ะ ถ้าเกิดใครมาเยี่ยมหรือรายการทีวีมาถ่ายทำประสาคนดัง แล้วเห็นหน้าโทรม ๆ ของอะฮั้น หมดกันอ่ะดิ
พอไปถึงหมอก็ให้น้ำเกลือบอกว่าจะช่วยเร่งให้เร็วขึ้น แล้วจะไปคลอดประมาณ ตี 2-3 ช่วงนี้ก็นอนทรมานไปเรื่อย ๆ ละกันนะเจ๊ ความรู้สึกตอนนั้นนะยากจะบรรยายจริง ๆ ตื่นเต้นปนกับจิตตกว่าจะเกิดอะไรขึ้นต่อไป ต้องทำความสะอาด สวนทวาราวดีอะฮั้น มันแยกไม่ออกระหว่างปวด กับปวดท้องคลอดอย่างไหนมันทรมานกว่ากัน พอเริ่มดึกขึ้นเรื่อย ๆ ก็ปวดเป็นระยะ ๆ เราก็โอดโอยพอเป็นพิธี (ดูละครเยอะ แฮ่ แฮ่) พยาบาลก็มาเช็คเรื่อย ๆ ความปวดเริ่มคืบคลานถี่มากขึ้น มากขึ้น แต่ที่นี่เค้าดีอยู่อย่างนะ พอชักจะไม่ไหวเค้าก็ให้หมอมาบล็อคหลังให้ ค่อยยังชั่วขึ้นมาหน่อย จนถึงเวลาคลอดก็สบายหน่อยเพราะไม่มีความรู้สึกอะไรอีก พยาบาลก็มาเข็นเข้าห้องคลอด แล้วสักพักก็บอกให้เบ่งไอ้เราก็เบ่งไปทั้ง ๆ ที่ไม่รู้สึกอะไรนั่นแหละ จนเจ้าต๊อปออกมาเป็นอันเสร็จพิธี ผ่านไปเรียบโร้ยจนตอนนี้อายุ 14 ปีแระ นี่แหละความภาคภฺมิใจครั้งแรก
และแล้วจำได้ว่าเป็นคืนวันที่ 16 วันพุธ อยู่ ๆ ท้องก็เกิดแข็งขึ้นมาเป็นลูก ๆ มองเหมือนก้นเด็ก เราก็คิดไปนะว่าเออ ถ้าน้ำเดินก็จะไปแต่ถ้าน้ำไม่เดินก็จะรอดูก่อน ปรากฎว่าแข็งอยู่อย่างนั้นทั้งคืนไม่หาย แต่ก็ไม่มีอะไรเกิดขึ้น พอรุ่งเช้าก็ไปหาหมอ หมอก็บอกว่าอยากจะคลอดหรือยัง เราก็บอกว่ายังอยากจะคลอดวันที่ 18 จะได้เกิดวันเดียวกัน หมอก็บอกให้กลับบ้านมาก่อน แต่ถ้าปวดต้องรีบมานะ เราก็บอกลูกในท้องว่าอย่าเพิ่งนะ รอเกิดวันเดียวกันดีกว่านะลูกนะ ผ่านไปไม่มีอะไรเกิดขึ้น พอถึงคืนวันที่ 17 มีนัดกับหมอหลังเที่ยงคืนเพราะหมอบอกว่าให้มานอนรอที่โรงบาลดีกว่า ไม่เสียค่าห้องพักด้วย ไอเดียแหล่มมั่ก ๆ หมอ ขอโบก ช่วงที่นอนรอทั้งคืนพยาบาลก็ไม่ได้ทำอะไรให้ นอกจากนอนเฉย ๆ น้ำเกลือก็ไม่ได้ให้ พอตอนแปดโมงเช้า ก็ได้ยินเสียงเหมือนคนเฉาะลูกมะพร้าวใกล้ ๆ หูดังพล๊อก!!! แล้วก็เหมือนเราชิ้งฉ่องออกมา แต่ไม่สามารถคอนโทรลได้ รีบเรียกพยาบาลเค้าเลยบอกว่าต้องรีบเข้าห้องคลอดแล้ว และแล้วก็ผ่านไปด้วยดีอีกหนึ่ง 555 ครั้งนี้ต้องขอโบกว่าโชคดีที่ไม่ได้นอนอยู่ที่บ้าน และประสบความสำเร็จกับการได้มีวันเกิดร่วมกัน YES!!!!!!
ผ่านไปจนเกือบ 2 ปีก็ตามมาติด ๆ อีกหนึ่งหน่อ เป็นครั้งที่ทรมานที่สุดในชีวิตก็ว่าได้ สด ๆ คร๊าบพี่น้อง สด ๆ บล็อกหลงบล็อกหลังไม่ต้อง ได้ไปคลอดที่โรงบาลก็ถือว่าบุญแล้ว...ว เกือบไม่ทัน ขนาดโทรไปบอกหมอล่วงหน้าแล้วนะว่า ช่วยกรุณาลุกออกมาจากเตียงนอนมาทำคลอดให้อะฮั้นที เฮ้อ ดันจะมาคลอดตอนดึกก็อย่างงี้แหละ หมอก็ดันไม่เชื่ออีกว่าจะคลอด เราเลยบอกว่าท้องนี้เป็นท้องที่ 3 แล้วหมอ ตามประสบการณ์มันจะเร็วขึ้นเรื่อย ๆ ไม่ใช่เหรอ ตอนนี้มันปวดจนทนไม่ไหวแว้ว...ว ในขณะที่พูดมือก็เร่งเก็บเครื่องสำอางค์ใส่กระเป๋าไปด้วยนะ อืม ยังคงรักษาคอนเซ็ปท์ไว้อย่างเหนียวแน่น พอไปถึงโรงบาล พยาบาลก็เข็นเข้าห้องคลอดเลยทันที แต่หมอยังมาไม่ถึงทำไงดี ต้องรอก่อน แต่ลมเบ่งมันมาแล้วอ่ะ ทำไงดีอ่ะ พยาบาลก็ห้ามอย่าเพิ่งเบ่งจ้า แต่มันไม่ไหวแล้วจริง ๆ ฮึ้บ...บ แรกผ่านไป หมอเข้ามาพอดี ระหว่างที่หมอกำลังรีบใส่ถุงมือได้ข้างนึง มาอีกแว้ว...ว เหอ เหอ ฮึ้บ...บ เที่ยวนี้ได้ยินเสียงพยาบาลบอกหมอว่า เห็นหัวเด็กแล้วจ้า พอได้ยินเท่านั้นแหละ ฮึ้บ.......บ .......บ ไม่ไหวแล่ว...ว ก็ได้ยินเสียงลูกร้อง แล้วเราก็หลับไปในบัดดล (เหมือนในละครนิ) ไอ้ที่หลับไปเนี่ยเพิ่งจะมารู้ทีหลังว่า พยาบาลฉีดยานอนหลับให้ในน้ำเกลือทำให้หลับไปแป๊บนึง จำได้ว่ามารู้สึกตัวอีกที ก็ผ่านไปประมาณครึ่งชั่วโมงได้ แต่มีเรื่องจี้จี้ที่จำได้ในระหว่างหลับด้วยแหละ เหมือนกับฝันว่าได้เห็นแจ๊ค ดอสั้น กับโรส ในหนังเรื่องไททานิค ในฝันยังคิดในใจเลยว่า โรสสวยจัง แจ๊คก็หล่อ ทั้ง ๆ ที่ตอนนั้นไม่เคยได้ดูหนังเรื่องไททานิคที่เค้าฮิตกันแม้แต่ครั้งเดียว ไม่รู้ฝันไปได้ไง พยาบาลเอายาอะไรฉีดให้ตรูฟะเนี่ย อยากฉีดยาแบบนั้นอีกอ่ะ มันหลอนดี 555 พอรู้สึกตัวแต่ยังไม่เต็มที่ ก็ถามหมอว่าลูกสมบูรณ์มั้ย หมอหัวเราะแล้วก็บอกถามเป็นครั้งที่ 10 แล้วเนี่ย จริงอ่ะ ไม่รู้ตัวเลยนะเนี่ย จิตใต้สำนึกมันคงกังวลเรื่องนี้มั้ง แต่ยังไงก็ผ่านไปได้ด้วยดีเหมียนเดิม สำหรับครั้งที่ 3 และคิดว่าจะเป็นครั้งสุดท้ายเพราะโหดสุด ๆ รู้ถึงความรู้สึกคลอดสด ๆ แบบไม่ต้องใช้สลิง ไม่ต้องสตั้นท์ นึกถึงหนังจีนเวลาดูฉากที่เค้าประหารนักโทษ แบบมีม้าผูกกับแขนขา แล้ววิ่งลากไปคนละทางประมาณนั้นแหละ (โหดไปป่ะเนี่ย) สุดท้ายก็ได้มาเป็นเจ้าสตางค์คนนี้นี่เอง...ง นี่แหละ ความภูมิใจเกือบครั้งสุดท้ายของอะฮั้น
ยัง...ง ยังไม่หมดเท่านี้ เวลาที่ผ่านไปไวเหมือนโกหก ห่างหายจากวงการคลอดลูกไปประมาณ 9 ปีกว่า ก็หวนกลับคืนวงการ มาหาหมอคนเดิม โรงพยาบาลที่เดิม เหตุผลก็คือแกเคยเห็นความลับของเราแล้ว ไม่อยากให้คนอื่นเห็นความลับอีก 555 (กลัวหลอนชาวบ้าน ว่างั้นเหอะ) มาเที่ยวนี้ความเป็นโปรฯ ในการวางแผนคลอดลูกก็ยังเหมือนเดิม คืออะฮั้นเนี่ยตอนท้องไม่รู้เป็นอะไรชอบทำเล็บ ทำผมที่ร้านเสริมสวย ยิ่งท้องยิ่งบ้า ถ้าเห็นเล็บมือเล็บเท้าถลอกแม้แต่นิดเดียว นอนไม่เป็นสุขแระ วันรุ่งขึ้นต้องกลับไปทำจนกว่าจะพอใจ ตอนใกล้กำหนดคลอดก็คิดอีกแหละว่า นี่นะถ้าวันที่ไปคลอดนะได้ทำเล็บทำผมก่อนนะ แจ่ม...ม จำได้ว่าเป็นเช้าวันที่ 9 ตุลา อะฮั้นก็รีบออกไปทำเล็บทำผมแต่เช้า อยู่ร้านทำผมทำเล็บซะ 3 ชั่วโมง แล้วก็กลับบ้านอีก 2 ชั่วโมงได้เวลารับลูกที่โรงเรียนพอดี พอกลับมาถึงบ้านเดิน ๆ อยู่ก็รู้สึกเหมือนปวด แต่ก็ไม่ได้คิดอะไร ก็เลยไปอุตสาหะซะหน่อย ทีนี้พอปฏิบัติการเสร็จ เออ ทำไมมันยังปวดวุ้ย ท้องก็ไม่เสีย พอลุกขึ้นยืน ก็รู้สึกหน่วง ๆ มากผิดปกติ ก็ยังชิลด์ ชิลด์อยู่ ไม่กล้ากระโตกกระตาก กลัวเสียเชิง แต่ส่ง SMS เข้ามือถือคุณฝาชี ทุกวันนี้เค้ายังเก็บเอาไว้หัวเราะอยู่เลย ก็อะฮั้นเล่นส่งไปว่า If you can leave from school 15.30 because i feel not good...ถามเค้าตอนหลังว่าขำอะไร เค้าบอกคนจะไปคลอดลูกเค้าส่ง SMS กันแบบนี้เหรอ 555 แล้วอะฮั้นก็เตรียมจัดกระเป๋าเครื่องสำอางค์เหมือนเดิม รอคุณฝาชีกลับมารับไปโรงบาล พอไปเจอหมอตรวจเสร็จก็บอกว่าเตรียมไปรอที่ห้องคลอดได้เลย ปากมดลูกเปิดแล้ว อาจจะคลอดประมาณ 3-4 ทุ่มนั่นแหละ พอคุณฝาชีไปส่งทีห้องคลอด สังเกตุ he ตื่นเต้นประมาณว่าเหงื่อออก มือเย็น เราก็เลยต้องบอกให้เค้าใจเย็น ๆ ฟังแล้วทำตามนะ กลับไปบ้าน ไปรับลูกเดี๋ยว I จะโทรไปบอกลูกให้อาบน้ำเตรียมตัวรอ you ไปรับนะ แล้วก่อนจะเข้ามาที่โรงบาล you ก็พาลูกไปทานข้าวที่ฟู้ดแลนด์ติดกับโรงบาลให้เรียบร้อยนะ แล้วอย่าลืมเอากล้องวีดีโอมาด้วยนะ มีเวลาเหลือเฟือ ไม่ต้องรีบ ขับรถดี ๆ นะจ๊ะที่รัก ไม่ต้องตื่นเต้น ตอนนั้นก็ประมาณเกือบ 6 โมงเย็นแล้ว
ผ่านไปแค่ครึ่งชั่วโมง โอยทำไมมันเริ่มปวดถี่ ๆ เร็วจังวุ้ย หรือว่าจะไม่รอด 3 ทุ่มฟระเนี่ย ว่าแล้วก็รีบโทรไปบอกคุณฝาชีที่กำลังพาลูก ๆ กินข้าวอยู่ว่า กินข้าวกันเสร็จหรือยัง อู๊ย....ย คุณฝาชีก็บอกกำลังรออาหารมาอยู่ Are you OK? เอ่อ I ไม่ ok ว่ะ คิดว่าจะคลอดไม่เกิน 2 ทุ่ม ชัวร์ believe me.... เท่านั้นแหละ ลูก ๆ บอกว่าเป็นอาหารที่กินเร็วมากที่สุดในชีวิตที่เคยกินมา เพราะ Dad ตื่นเต้นสุด ๆ (ลูก ๆ มาเล่าให้ฟังตอนหลัง)
และแล้วก็เป็นไปตามความคาดหมายของโปรฯ อย่างเรา 555 เจ้าแซมคลอดตอน 19.09 น ตามเวลาที่คิดเอาไว้เป๊ะ ๆ ไม่มีพลาด และคุณฝาชีก็ได้เก็บภาพตอนคลอดทุกขั้นทุกตอน แถมตอนดูวีดีโอยังนั่งหัวเราะกัน คนคลอดลูกอะไรวะ ตอนเบ่งยังยิ้มเก๊กท่าสวยใส่กล้องได้อยู่เลย
ในห้องคลอด เตรียมขึ้นเขียงก็ยังยิ้มได้อยู่
สู้ตายว้อย...ย
และที่ฮากลิ้งอีกอย่างก็คือหลังจากที่พักอยู่ในห้องคลอด 2 ชั่วโมง ก็เตรียมกลับลงมาที่ห้องพัก พอบุรุษพยาบาลเข็นยังไม่ทันเข้าห้อง ก็ได้ยินเสียงเหมือนมีปาร์ตี้ ยังคิดเลยว่าห้องไหนฟระ ปรากฎว่าพอเปิดห้องเข้าไปก็ต้องเซอร์ไพรส์กับกลุ่มเพื่อน ๆ หลายชีวิต กำลังมีปาร์ตี้ไวน์กันเพียบ Oh..my god จำได้ว่าโทรไปบอกแค่คนเดียวนี่หว่า แล้วทำไมรวมกลุ่มกันได้รวดเร็วปานนี้ แถมเตรียมแก้วกันมาแจกไวน์ซะดิบดี ไม่น่าเชื่อ!!!! แต่ก็ดีใจสุด ๆ ที่มีคนมาให้กำลังใจกันล้นหลาม แหม้!!! อย่างนี้มันน่ามีอีกซักคน 2 คนเนอะ หะ หะ เอื๊อก
หลักฐานยังคาอยู่ในมือเร้ย...ย
Daddy มือใหม่จ้า สังเกตที่ตาไม่ได้นอนเกือบทั้งคืน
ไปให้นมลูกมื้อแรกในห้องเนิร์สเซอรี่
สุดท้ายนี้ต้องขอบคุณกำลังใจทุกกำลังใจจากเพื่อน ๆ ทุกคน โดยเฉพาะกลุ่ม Angel ที่เป็นกำลังใจให้กับครอบครัวเราตลอดเวลา ให้คำปรึกษาทุก ๆ เรื่องเวลาที่มีปัญหา ขอบคุณผู้อ่านที่มีความอดทนในการอ่านบล็อกนี้จนจบ อาจจะเป็นบล็อกที่ยาวเกินไป แต่อยากจะถ่ายทอดความรู้สึกผ่านบล็อก เวลาที่ลูก ๆ มาอ่านเค้าจะได้รู้ว่าเราภาคภูมิใจแค่ไหนที่พวกเค้าได้ทำให้เราได้ใช้คำว่า "แม่" ในทุกวันนี้ อาจจะไม่ได้เป็นแม่ที่เพอร์เฟกต์ หรือว่าเป็นแม่ที่ใจดีที่สุดในโลก แต่อยากจะบอกว่าแม่จะเลือกสิ่งที่ดีที่สุดและจะทำให้ดีที่สุดเท่าที่จะทำได้ เพื่อลูก ๆ ทั้ง 4 คนของแม่จ้า (ซึ้งไปป่ะเนี่ย)
Create Date : 27 มีนาคม 2552 |
Last Update : 4 เมษายน 2552 22:52:04 น. |
|
11 comments
|
Counter : 5450 Pageviews. |
|
|
น้องน่ารักกันทุกคนเรย อิ อิ