Kizana ขอต้อนรับสู่โลกของคนรัก(บ้า)หนังสือ
Group Blog
 
 
พฤศจิกายน 2549
 
 1234
567891011
12131415161718
19202122232425
2627282930 
 
10 พฤศจิกายน 2549
 
All Blogs
 
ค่ายเส้นทางสู่หมอศิริราช ครั้งที่ 8 วันที่ 1

ค่ายนี้จะแบ่งเป็นสองรอบค่ะ รอบแรก วันที่ 14-15 ต.ค. 49 รอบสอง 28-29 ต.ค. 49 เราได้เข้ารอบที่ 2

28 ต.ค. 49
จริงๆแล้วไม่รู้มาก่อนว่าได้ค่ายนี้ คือไม่มีจดหมายมาถึงบ้านสักฉบับ แม้แต่จดหมายบอกว่าไม่ได้เข้าค่าย คนที่ไม่ได้เข้าก็จะได้จดหมายตอบนะคะ เปิดเนตดูก็ไม่เห็นมีชื่อเรา แต่เวลาเข้าค่ายดันมีชื่อเรา คาดว่ามันคงมีอะไรผิดพลาดทำให้ชื่อเราตกหล่นไป

ตอนแปดโมงกว่าๆ กำลังนั่งอ่านจูตเลียตสีเงินอยู่ พี่ประจำกลุ่มก็โทรมาตามค่ะ ว่าทำไมไม่ไปเข้าค่าย เราก็งงเลย แบบว่าหนูได้เข้าค่ายด้วยเหรอคะ พอวางสายเสร็จก็รีบอาบน้ำ แต่งตัวไปเข้าค่ายเลย ถึงที่โรงพยาบาลศิริราช ประมาณเก้าโมงครึ่ง นั่งรถเมลล์ไปเองค่ะ วันนั้นพี่เอารถไปใช้พอดี เลยไม่มีใครไปส่ง

มาถึงก็ไปเข้าฐานเลย วันนี้จะเป็นให้เข้าฐาน Pre-Clinic ซึ่งเป็นวิชาที่นักศึกษาแพทย์จะเรียนตอนปีสองกับปีสาม เราได้อยู่กลุ่ม 2b ค่ายนี้จะแบ่งเป็น 20 กลุ่ม 1a,1b,2a,2b,....จนถึง 10b ฐานแรกที่กลุ่มเราได้เข้าคือ Gross Anatomy คือให้ดูอาจารย์ใหญ่ของจริงเลยค่ะ จะมีพี่นักศึกษาแพทย์มาอธิบายให้ฟัง ว่าตรงนี้เป็นอวัยวะอะไร พอเห็นแล้วก็รู้สึกว่าไม่ค่อยน่ากลัว ได้จับอวัยวะจริงด้วยมือเปล่าด้วย จับเสร็จก็ล้างมือค่ะ ในห้องจะเหม็นกลิ่นฟอร์มาลีนนิดหน่อย แต่พอทนได้

ฐานที่สองก็ Gross Anatomy เหมือนกัน แต่เป็นให้ดูกระดูกของจริงแทน ฐานนี้พี่ๆเค้าก็ให้เอากระดูกของอาจารย์ใหญ่มาต่อให้ถูก มีกระดูกมาให้หลายส่วน ให้เลือกต่อกระดูกแขน ฐานนี้ก็สนุกดีค่ะไม่น่ากลัวเลย

พอมาฐานที่สามก็จะเป็นเข้าห้อง Lab ให้ดูกล้องจุลทรรศน์ ชื่อฐาน Histology จะได้ดูเป็นเซลล์ผิวหนังปกติ เซลล์ผิวหนังที่เป็นโรค ฐานนี้จะเป็นวิชาที่ดูส่วนต่างๆในร่างกายที่ไม่สามารถมองเห็นด้วยตาเปล่าจะเป็นการดูจำพวกระดับเซลล์

ฐานที่สี่ Microbiology ฐานนี้ก็ใช้กล้องจุลทรรศน์อีกเหมือนกัน จะเป็นการดูพวกแบคทีเรีย รา ไวรัสต่างๆที่เป็นสาเหตุให้เกิดโรค ฐานนี้จะได้เต้นเยอะค่ะ แบบจะให้แต่ละคนเปลี่ยนกล้องที่ดูไปเรื่อยๆ เปลี่ยนครั้งนึง พอดีเสร็จก็ต้องลุกขึ้นมาโยก แต่รู้สึกว่าจะมีแต่พี่ๆที่เต้นกัน น้องที่เข้าค่ายไม่ค่อยจะยอมเต้นกันเท่าไหร่

ฐานที่ห้า Biochemistry ฐานนี้ตอนเข้าไปพี่เค้าจะจัดห้องเป็นแบบเธค ให้เข้าไปเต้นค่ะ เช่นเคย มีพี่ๆเต้น น้องๆไม่ค่อยเต้น แล้วก็สมมุติเหตุการณ์ว่ามีตำรวจมาจับ ให้ตรวจปัสสาวะ ซึ่งก็คือกิจกรรมในฐานนี้แหละค่ะ จะให้เพื่อนๆตัวแทนออกไปเอาปัสสาวะมาตรวจ จะมีพี่ๆอธิบายเกี่ยวกับการตรวจปัสสาวะ รวมทั้งความผิดปกติต่างๆที่ตรวจได้ ซึ่งจะเป็นส่วนหนึ่งที่ใช้วินิจฉัยโรคได้

จบจากฐานนี้ก็ไปกินข้าวกลางวัน แล้วก็มีกิจกรรมสันทนาการนิดหน่อย ร้องเพลงแล้วก็เต้นๆ เล่นเกม แล้วก็ปล่อยให้มาเข้าฐานต่อ

ฐานที่หกเป็น Pharmacology เป็นฐานที่ให้เรียนรู้การรักษาด้วยยา พี่ๆก็จะให้จับกลุ่ม แล้วก็ให้ยามา แล้วพี่ๆก็จะแสดงอาการเจ็บป่วย แล้วจะให้พวกเราวิเคราะห์ดูว่าจะใช้ยาอะไรรักษาอาการได้ ก็ไม่ยากค่ะ ยาที่ให้มาก็พวกยาสามัญประจำบ้านที่รู้จักกันทั่วไป

ฐานที่เจ็ด จะเข้าไปดูพิพิธภัณฑ์ทางการแพทย์ศิริราช มีอยู่ 4 พิพิธภัณฑ์ แต่ปิดปรับปรุงไปหนึ่งอัน เลยได้ดูแค่ 3 ที่ ก็มีพิพิธภัณฑ์ปรสิตวิทยา พิพิธภัณฑ์พยาธิวิทยาเอลลิส พิพิธภัณฑ์นิติเวชศาสตร์ สงกรานต์ นิยมเสน ซึ่งอันหลังนี้จะได้ดูเรื่องสึนามิ ซีอุย คดีนวลฉวี แล้วก็ได้ดูวิถีกระสุนที่ปลงพระชนม์รัชกาลที่ 8 ที่ได้ชันสูตรไว้ แล้วก็ในพิพิธภัณฑ์นิติวิทยาศาสตร์นี้ก็จะมีรูปการตายจากสาเหตุต่างๆ ตอนเดินผ่านเราก็มองๆไป ไปเห็นพวกการตายจากการโดนระเบิดกับถูกรถไฟทับ ศพจะเละมาก ดูแล้วสยอง น่ากลัว

ฐานที่แปด พิพิธภัณฑ์คองดอน พิพิธภัณฑ์นี้จะเป็นเก่าแก่หน่อย สร้างก่อนสงครามโลกครั้งที่สอง จะมีพวกชิ้นส่วนอวัยวะต่างๆซึ่งเป็นของจริงดองไว้ มีเยอะมาก มีอาจารย์ใหญ่ทั้งผู้หญิงผู้ชาย เปิดให้เห็นอวัยวะภายในดอบงไว้ แล้วก็มีทารกเกือบทุกระยะ ตั้งแต่เอมบริโอที่อยู่ในครรภ์มารดา หรือสภาพตอนที่อยู่ในครรภ์มารดา ระยะกี่เดือน กี่สัปดาห์ มีทารกที่มีความผิดปกติทางพันธุกรรม มีรูปฝาแฝดที่มีความผิดปกติในแบบต่างๆ มีโครงกระดูก สมองของบุคคลมีชื่อเสียงในอดีต มีสารพัดค่ะ ทุกอย่างเป็นของจริงหมด ดองไว้ ที่นี่ก็ได้เห็นอะไรเยอะดี ดูแล้วก็ไม่ค่อยน่ากลัวมาก

ครบแปดฐานแล้วก็กลับเข้ามาในห้องประชุม กิจกรรมต่อไปก็คือทดสอบแลบกริ๊ง คงจะรู้จักกันนะคะ มีทั้งหมดเอ่อ จำไม่ได้ ประมาณ 20-25 ข้อนี่แหละ มีเวลาข้อละ 30 วินาที มีข้อพักด้วย ประมาณ 5 ข้อ เวลาสอบแลบกริ๊งเนี่ยเค้าจะแบ่งเป็น 2 กลุ่มใหญ่ กลุ่ม 1a-5b รออยู่ในหอประชุม ให้กลุ่ม 6a-10b ไปสอบก่อน ระหว่างรออีกกลุ่มสอบก็ไม่ได้อยู่เฉยๆหรอกค่ะ มีกิจกรรมให้ทำ นั่นก็คือ ร้องคาราโอเกะ พร้อมแสดงมิวสิคประกอบเพลง แบ่งเป็น 5 กลุ่ม 1-5 เลย โดยให้เลือกป้ายแล้วลุ้นเอาว่าจะได้เพลงไหน กลุ่มเราได้เพลง รักแท้ ดูแลไม่ได้ แต่เรานั่งอยู่เฉยๆ โบกไม้โบกมือบ้าง มีเพื่อนออกไปร้องให้เรียบร้อยแล้ว

พอร้องครบทุกกลุ่ม ก็ได้เวลาเราไปสอบแลบกริ๊งบ้าง ก่อนเข้าห้องสอบจะโดนพี่พูดไซโคให้เครียด กดดัน แล้วก็ให้มีสมาธิ แต่พอถึงเวลาสอบจริง สิ่งทำลายสมาธิมีเพียบ ได้แก่ พี่ๆจะร้องเพลง แล้วก็เต้นๆกันอยู่ข้างนอก เสียงดังมาก แล้วก็มีพี่ๆแต่งตัวเป็นคนบ้าหรืออะไรทั้งหลายแหล่เข้ามาก่อกวนตอนกำลังทำข้อสอบ แล้วคำถามแลบกริ๊ง เหอะๆ คำถามวิชาการกับความรู้รอบตัวมีอยู่ไม่กี่ข้อ นอกนั้นคำถามปัญญาอ่อนทั้งนั้น ได้แต่ พระอะไรไม่ต้องตัด พระอะไรเป็นพระ กีฬาใดต้องมีหมอลงเล่น เวลาเกิดการทำประตูในฟุตบอล จะเกิดสัตว์ชนิดใด ฯลฯ หลายข้อมาก ซึ่งเราก็มั่วไป

พอสอบเสร็จก็กลับมาที่ห้องประชุม พี่ๆจะเฉลยแลบกริ๊งให้ เราเองก็ตอบผิดไปซะใหญ่ ตอบถูกไม่กี่ข้อ หมดจากเฉลยแลบกริ๊งก็ได้เวลากลับบ้าน ประมาณห้าดมงครึ่งแน่ะกว่าจะเลิก

วันนี้เราก็กลับบ้านไปด้วยความรู้สึก และทัศนคติต่ออาชีพหมอดีขึ้น คิดว่า เป็นหมอนี่ก็ดูไม่น่ากลัวเท่าไหร่เลย พอได้จับ ได้เห็นอาจารย์ใหญ่เองจริง ก็ไม่เห็นจะน่ากลัว ความรู้สึกอยากเรียนหมอนี่มีมากขึ้นเลย




Create Date : 10 พฤศจิกายน 2549
Last Update : 10 พฤศจิกายน 2549 20:08:39 น. 4 comments
Counter : 806 Pageviews.

 
แวะมาทักทายหนูพลอยคะ


โดย: กุ๊กไก่ (kaijunk ) วันที่: 11 พฤศจิกายน 2549 เวลา:9:56:34 น.  

 


โดย: เดรีน IP: 125.25.54.128 วันที่: 13 พฤศจิกายน 2549 เวลา:14:49:22 น.  

 
อยากไป!!!!!!!!


โดย: ทาเคชิ IP: 125.26.113.93 วันที่: 30 มิถุนายน 2555 เวลา:23:25:19 น.  

 
ขอบคุณมากคับวันนี้ พาน้องสายป่านมาเข้าค่ายครั้งที่16 คงสนุกตื่นเต้นไม่แพ้กัน


โดย: Saipan IP: 49.230.117.217 วันที่: 18 ตุลาคม 2557 เวลา:16:15:59 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

Kizana
Location :
กรุงเทพ Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed

ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?]




เด็กผู้หญิงธรรมดาคนหนึ่งที่รักการอ่านหนังสือเป็นชีวิตจิตใจ หนังสือเป็นเหมือนปัจจัยที่ห้าในชีวิต ขาดไม่ได้ ไม่งั้นจะเกิดอาการลงแดง เซ็ง เบื่อโลก (เว่อร์ไปมั้ยเนี่ย) โดยเฉพาะนิยาย เป็นหนังสือที่ชอบอ่านมากที่สุด อ่านได้ทุกแนว

แต่จะชอบมากเป็นพิเศษ คือนิยายรักโรแมนติก หวานๆแนวผู้ใหญ่ ประมาณชุดความรู้สึกดีฯ ของแจ่มใส หรือนิยายของนักเขียนที่เป็นผู้ใหญ่ ไม่ค่อยชอบอ่านแนวรักวัยรุ่นสักเท่าไหร่ (ทั้งที่ตัวเองก็ยังวัยรุ่นอยู่)

และจะยิ่งชอบ กรี๊ด บ้ามากขึ้น ถ้านิยายเรื่องนั้นมีพระเอกน่ารัก แสนดี อ่านแล้วหลงรัก

หรือแนวรักเศร้าๆ ไม่สมหวัง อ่านแล้วซาบซึ้ง กินใจ และทำให้เราร้องไห้ตามได้

อีกแนวนึงที่ชื่นชอบเหมือนกัน คือแนวแฟนตาซี จะมีโรแมนติกเข้ามาด้วย ก็จะยิ่งชอบมาก
Friends' blogs
[Add Kizana's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.