Kizana ขอต้อนรับสู่โลกของคนรัก(บ้า)หนังสือ
Group Blog
 
<<
เมษายน 2549
 1
2345678
9101112131415
16171819202122
23242526272829
30 
 
10 เมษายน 2549
 
All Blogs
 

งานสัปดาห์หนังสือ 2006

วันนี้มาอัพบลอคเพื่อเล่าเรื่องงานสัปดาห์หนังสือปีนี้ของเราค่ะ ปีนี้เราไปงานทั้งหมด 3 วันค่ะ


วันแรก 29 มี.ค. 49
ไปถึงงานตอนประมาณเที่ยงครึ่งได้ วันนี้ไปกับมูมูเพื่อนซี้ ไปเดินด้วยกัน แล้วก็นัดพี่บิ้วไว้ด้วย

ผลพวงจากการสอบเตรียมไม่ติด ทำให้เราหมดอารมณ์ที่จะอ่านนิยาย ไปเดินก็รู้สึกกร่อยๆอ่ะค่ะ แบบว่ายังทำใจไม่ได้ เพราะวันที่ 29 นี่วันประกาศผลสอบเตรียม แต่เราไปดูตั้งแต่เย็นวันที่ 28 แล้ว เวลาหนึ่งคืน เรายังคงทำใจไม่ได้ การไปเดินวันนี้เราเลยรู้สึกหงอยๆ ไม่ร่าเริงเท่าที่ควร ทั้งที่ทุกครั้งเวลาไปงานหนังสือ เรานี่จะเดินอย่างมีความสุข ยิ้มหน้าบานเลย

พอไปถึงงานก็ไปเจอพี่บิ้ว แต่ไม่ค่อยเดินด้วยกันเท่าไหร่ เราเดินกับมูมูเพื่อนเราซะส่วนใหญ่ บูธแรกๆที่เดินไปก็คือแจ่มใส คนก็แน่นเหมือนเดิม แต่ยังไม่ได้ซื้อสักเล่ม ทั้งๆที่ลิสต์ไว้ว่าจะซื้อประมาณ 1800 แบบว่ายังไม่อยากจะซื้ออ่ะ เลยผ่านบูธนี้ไปก่อน ไว้ทำใจได้มากกว่านี้คงจะมาซื้อ

ก็ไปต่อที่บูธอื่น เดินไปที่บูธสร้างสรรค์บุ๊คส์ ซื้อเชอร์ล๊อคโฮล์ม 1 ชุด 1000 บาท ให้เป็นของขวัญมูมู แบบว่าสัญญาว่าจะซื้อให้ตอนงานหนังสือเพราะมันลดถูกสุดแล้ว

แล้วก็เดินไปบูธบรรณาคาร ซื้อฟ้าจรดทราย 280 บาท

แล้วก็ไป ณ บ้านวรรณกรรม ซื้อดั่งดวงหฤทัยกับฤกษ์สังหาร หมดไป 600 กว่าๆ เลยได้สมัครสมาชิก ณ บ้านวรรณกรรมด้วย

จากนั้นก็เดินเรื่อยๆ ดูบูธนั้นบูธนี้ แต่ไม่ได้ซื้ออะไร แล้วก็เดินมาเจอกับพี่เจีย ไปเดินด้วยกันสักพัก แล้วก็แยกกัน

จากนั้นไปที่บูธบลิส บูธนี้เราไม่ได้ซื้อสักเล่ม แต่มูมูมันซื้อ ซื้อเยอะซะด้วย เราก็เชียร์เล่มนู้นเล่มนี้ เพราะเราจะได้อ่านด้วย เผอิญว่าเราไม่ค่อยซื้อแนวนี้เท่าไหร่ ยืมเพื่อนอ่านมากกว่า บูธนี้เพื่อนเราได้ไปหลายเล่ม แมวสามสีเล่มใหม่ ชุด ริงส์ ที่เป็นหนังอีก 5 เล่ม ซายากะเล่ม 3 จำได้แค่นี้ ไม่รู้มันซื้ออะไรอีกรึเปล่า

จากนั้นก็เดินไปบูธสถาพร บูธนี้ยังไม่ได้ซื้อสักเล่มเพราะเงินไม่พอค่ะ พ่อยังไม่ได้ให้เงินเดือนใหม่ รอมาคราวหน้าค่อยซื้อ บารามอสเฟอร์เพ๊คไกด์บุ๊คส์ก็ยังไม่มา บูธนี้ก็ไปเดินวนเวียนถามนั่นถามนี่ เจอพี่ในบูธที่รู้จักกันด้วย เพราะเค้าเคยมาขายหนังสือที่ ร.ร.เรา โชคดีไป พี่เค้าเลยให้ที่คั่นฟรีมา ดีใจๆ แล้วก็เจอนักเขียน ที่เราจำหน้าได้ก็เข้าไปทัก มีพี่โน๊ต 1981 พี่ปลายตะวัน และอีกหลายๆคนจำไม่ได้ว่ามีใครอีกมั่ง

จากนั้นก็เดินไปอีกสักพัก ตอนประมาณบ่ายสามโมงก็กลับ

วันนี้คนไม่เยอะมาก เดินสบายๆ ตอนเดินดูหนังสือเราก็รู้สึกดีขึ้น มันช่วยให้เราลืมความเศร้าไปได้บ้าง

สรุปวันนี้หมดไป 900 กว่าบาทเฉพาะของเราเองและอีก 1000 บาทที่ซื้อให้เพื่อน นับว่าน้อยมาเมื่อเทียบกับทุกปีที่ผ่านมา แต่เดี๋ยววันเสาร์ค่อยมาเก็บอีก รอพ่อให้เงินเดือนก่อน วันนี้ได้มา 3 เรื่อง 6 เล่ม แต่ละเรื่องมัน 2 เล่มจบอ่ะนะ


วันที่สอง 1 เม.ย 49
วันนี้ไปถึงงานตอนเกือบบ่ายสองได้ เลิกเรียนเคมีตอนเที่ยงสี่สิบ พอเลิกเรียนก็รีบไป มันช้าตรงนั่งรถเมลล์มาลงรถไฟใต้ดินนี่แหละ รถติดชะมัด แต่ก็มาถึงงานได้

พอมาถึงก็เดินไปจุดแจกลายเซ็นต์นักเขียนแจ่มใสก่อน สาเหตุหลักที่มาวันนี้ก็เพราจะมาเจอนักเขียนนี่แหละ นึกว่าจะให้เข้าไปในห้อง VIP ซะอีก แต่ดันกลายเป็นอยู่ที่บูธตรงข้ามห้องซะนี่ ตอนไปถึงคนเยอะอ่า เลยเลี่ยงไปดูหนังสือก่อน

ไปบูธสถาพรก่อนเลย ไปซื้อบารามอสเพอร์เฟ็คไกด์บุ๊คส์ แสงเงารัก กับกาลครั้งหนึ่งของหัวใจ สองเล่มใหม่ของพี่ปุ๊ ดวงตะวัน ได้เรื่องหวานใจเป็นเล่มแถมด้วย ซื้อไป 3 เล่มนี่ 765 บาท ไม่ถึง 800 อดได้ถุง Z-girl เลย ก็เลยถามพี่เค้าว่ารวมบิลได้มั้ย จะได้ซื้ออีกสักเล่ม จะเอาถุงให้ได้ (งกของแถม) ปรากฏว่ามีพี่ผู้หญิงข้างๆเค้าได้ยินแล้วก็ยื่นบิลมาให้เรา พี่เค้าซื้อนิยายเล่มเดียว 200 กว่าบาท เราก็อึ้งแฮะ แล้วก็ขอบคุณพี่เค้า ไม่ต้องซื้ออีกเล่ม ก็เลยได้ถุงมาสมใจ

ที่บูธนี้ก็เจอนักเขียนอีกแล้ว เจอพี่วัสส์ พี่คีตาญชลี พี่เค้าน่ารักมากเลย แล้วก็เอานิยายที่ซื้อไปให้พี่ปุ๊เซ็นต์ เจอตัวจริงครั้งแรกของพี่ปุ๊ ดวงตะวัน พี่เค้าน่ารักมากๆ หน้าเด็กมากเลย ไม่อยากเชื่อว่าอายุ 40 แล้ว

ต่อจากบูธสถาพร ก็เดินกลับมาตรงจุดแจกลายเซ็นต์ของแจ่มใส ก็มาต่อคิวขอลายเซ็นต์นักเขียน เจอพี่ๆนักเขียนเยอะแยะ น่ารักทุกคนเลย แบกไปหนังสือไปให้เซ็นต์ 2 เล่ม คือเธอ ให้พี่อังเซ็นต์ กับ Itoshii...hito ให้พี่อ้อมเซ็นต์ ส่วนคนอื่นก็ขอเซ็นต์บนที่คั่นแทน เพราะว่าเรายังไม่ได้ซื้อเล่มใหม่เลย แล้วเล่มเก่าเราขี้เกียจแบกมา เพราะว่าหลายเล่ม มันหนักมาก ตัวจริงของพี่อังกับพี่อ้อมน่ารักมากเลย คนอื่นก็น่ารักน้า แต่สองคนนี้นี่เป็นนักเขียนที่ชื่นชอบมากๆ แต่ไม่ชอบเลยอ่ะที่ให้นักเขียนไปอยู่ตรงบูธ อยากให้เป็นแบบคราวงานเดือนตุลาที่ให้เข้าไปนั่งในห้อง VIP เพราะรู้สึกว่าได้คุยกับนักเขียนมากกว่านี้ คราวนี้แทบไม่ได้คุยเลย

ต่อจากให้นักเขียนเซ็นต์แล้วเราก็มาเจอกับพี่บิ้ว นัดกันไว้ ก็นั่งพักสักแปป แถวๆตรงที่แจกลายเซ็นต์นั่นแหละ กำลังนั่งคุยเรื่องหนังสือกันอย่างเพลินๆ ก็มีเหตุให้ต้องตกใจ เมื่ออยู่ๆบรรดาฝูงคนทั้งหลายก็พากันลุกฮือ เรากับพี่บิ้วที่นั่งอยู่ก็ตกใจ รีบคว้าถุงหนังสือเตรียมจะวิ่ง ในใจก็นึกว่าเกิดเหตุร้าย มีคนมาก่อม็อบอะไรรึเปล่าวะ พอเดินไปถึงข้างหน้าถึงได้รู้ความจริง ว่าไอ้ที่คนมันลุกฮือน่ะ เพราะแดน ดีทูบีมา โธ่เอ๋ย เล่นเอาเราตกอกตกใจซะหมด และก็รู้แล้วว่าทำไมแถวที่นักเขียนแจ่มใสมาแจกลายเซ็นต์คนมันถึงได้เยอะนัก นึกว่าเค้ามานั่งพักอ่านหนังสือ ที่แท้ก็มารอแดนนี่เอง เพราะแดนมาแจกลายเซ็นต์ตอนบ่ายสาม ต่อจากบรรดานักเขียนแจ่มใสทั้งหลาย

ต่อจากที่ขอลายเซ็นต์นักเขียนก็ไปเดินกับพี่บิ้วต่อไปอีก ไปดูบูธพัฒนศึกษา ได้หนังสือเคมี ม.4 มาเล่มนึง

แล้วก็ไปสีม่วงอ่อน ไปเลือกๆหนังสือใหม่มาสักเล่ม มีหลายเล่มที่อยากจะซื้อเก็บแต่ตังไม่พอ จนในที่สุดก็ได้เรื่อง 0 นาฬิกา เวลาอัศจรรย์แห่งรัก พอสี่โมงก็กลับบ้าน


วันที่สาม 8 เม.ย. 49
วันนี้ก็ไปด้วยเหตุผลเดียวกับเมื่อวันที่ 1 ไปเจอนักเขียนแจ่มใส เลิกเรียนเคมีตอนเที่ยงสี่สิบ ด้วยความหิวและอยากเลยแวะกินข้าวแถวที่เรียนพิเศษก่อน แล้วก็เดินมาขึ้นสาย 47 ไปลงตรงสถานีรถไฟใต้ดินสามย่าน คราวนี้คนแน่นมาก แถมรถก็โคตรติด กว่าจะมาถึงงานได้ สองโมงครึ่ง รีบสุดๆกลัวไม่ทันนักเขียน คิดในใจว่าไม่น่าแวะกินข้าวก่อนเลย แต่ถ้าไม่กินแถวนั้น มากินในงาน แพงอ่า

พอเดินมาถึงทางเข้างาน เจอยัยออมเพื่อนที่ร.ร. มันบอกว่าดาร์เรน แชน เล่ม 8 ออกแล้ว กรี๊ดสิคะ รอมานาน ได้เสียเงินอีกแล้ว

แต่เราก็รีบวิ่งไปที่จุดแจกลายเซ็นต์นักเขียนแจ่มใสก่อน กลัวไม่ทัน นักเขียนที่อยากเจอจริงๆคือพี่เปี๊ยก อุรัสยา เพราะรู้จักกันในพันทิพย์ เลยอยากเห็นตัวจริง ส่วนคนอื่นๆ บางคนเคยเจอแล้วเลยไม่ตื่นเต้นมากนัก ตัวจริงพี่เปี๊ยกน่ารักอ่า รู้สึกนักเขียนทุกคนนี่น่ารักหมดเลยแฮะ เสียดายไม่ค่อยได้คุยกันเท่าไหร่ ที่ได้คุยเยอะเห็นจะเป็นพี่ไอซ์นี่แหละ เจอหลายรอบและ พอได้ลายเซ็นต์นักเขียนก็ไปสอยหนังสือต่อ

ไปซื้อดาร์เรน เล่ม 8 ของนานมีบุ๊คส์ แล้วก็ไปซื้อหนังสือของพระเทพฯที่บูธพลอยแกมเพชร มีคนฝากซื้อมา

จากนั้นก็ไปบูธสถาพร กะจะสอยหนังสืออีกสักเล็กน้อย สุดท้ายก็ได้รุ้งจันทร์ตะวันดาว คิดถึง คือรัก ของพี่ปุ๊ ดวงตะวัน พร้อมลายเซ็นต์ พี่ปุ๊น่ารักอีกแล้ว ไปคราวนี้พี่คีฯกับพี่กรมาศก็อยู่ น่ารักทั้งนั้นเลย

ต่อจากสถาพรก็ตัดสินใจเดินไปบูธแจ่มใส กะว่าจะซื้อสักหนึ่งเล่ม งบจะหมดแล้ว สุดท้ายก็ได้ star in the night ดวงดาวในห้วงรัตติกาล ของพี่อ้อม จากนั้นก็กลับบ้านตอนประมาณสี่โมง

สรุปหนังสือที่ได้จากงานคราวนี้ เฉพาะที่ซื้อให้ตัวเอง ให้เพื่อนไม่เกี่ยวน้า
1. ดั่งดวงหฤทัย
2. ฤกษ์สังหาร
3. ฟ้าจรดทราย
4. กาลครั้งหนึ่งของหัวใจ
5. แสงเงารัก
6. หวานใจ
7. คือรัก
8. คิดถึง
9. รุ้งจันทร์ตะวันดาว
10. star in the night ดวงดาวในห้วงรัตติกาล
11. 0 นาฬิกา เวลาอัศจรรย์แห่งรัก
12. บารามอสเพอร์เฟ็คไกด์บุ๊คส์
13. เคมี ม.4 เล่ม 1
14. ดาร์เรน แชน เล่ม 8

หมดไปประมาณสองพันกว่า สำหรับหนังสือของเรา และอีกหนึ่งพันที่ซื้อให้ของขวัญเพื่อน ขี้เกียจคำนวณยอดที่แน่นอน ถือว่าน้อยสำหรับเรา ทุกปีจะซื้อมากกว่านี้ อย่างน้อยสามพันอัพ

แต่ปีนี้มันมีหลายอย่างที่ทำให้ไม่ซื้อเยอะ แจ่มใสลิสต์ไว้ 1800 ซื้อมาแค่ 150 ปริ๊นเซสไม่ได้ซื้อสักเล่ม ไว้รอตอนเปิดเทอมช่วงมิถุนา ในสัปดาห์ส่งเสริมการอ่านที่ ร.ร. เดี๋ยวแจ่มใสกับสถาพรก็มา ค่อยซื้อตอนนั้น งานหนังสือเด็กและเยาวชนตอนกรกฏาอีก เก็บเงินใหม่

ตอนนี้อ่านจบไปเกิน 50 % ของที่ซื้อมาและเดี๋ยวคงอ่านหมด และจะเคลียร์เล่มเก่าๆที่ดองไว้ให้หมดด้วย

เปิดเทอมจะพยายามอ่านให้น้อยลง ต้องตั้งใจเรียนมากกว่านี้แล้ว

13-15 นี้จะไปเที่ยวสงกานต์ที่ระยอง ทะเล




 

Create Date : 10 เมษายน 2549
2 comments
Last Update : 11 เมษายน 2549 18:01:14 น.
Counter : 372 Pageviews.

 

อ่านเก่งมากๆ ค่ะ พี่อ่านแล้วอายเลย

ไปเที่ยวระยองเป็นไงบ้าง สนุกหรือเปล่าเอ่ย

 

โดย: สายลมโชยเอื่อย 16 เมษายน 2549 21:22:30 น.  

 

เล่าได้ยาวมากเลย

พี่เพิ่งไล่อ่านที่ซื้อมาไปได้ครึ่งเดียวเองอ่ะ เหอเหอ...

 

โดย: คีตภา 26 เมษายน 2549 8:51:37 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 


Kizana
Location :
กรุงเทพ Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed

ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?]




เด็กผู้หญิงธรรมดาคนหนึ่งที่รักการอ่านหนังสือเป็นชีวิตจิตใจ หนังสือเป็นเหมือนปัจจัยที่ห้าในชีวิต ขาดไม่ได้ ไม่งั้นจะเกิดอาการลงแดง เซ็ง เบื่อโลก (เว่อร์ไปมั้ยเนี่ย) โดยเฉพาะนิยาย เป็นหนังสือที่ชอบอ่านมากที่สุด อ่านได้ทุกแนว

แต่จะชอบมากเป็นพิเศษ คือนิยายรักโรแมนติก หวานๆแนวผู้ใหญ่ ประมาณชุดความรู้สึกดีฯ ของแจ่มใส หรือนิยายของนักเขียนที่เป็นผู้ใหญ่ ไม่ค่อยชอบอ่านแนวรักวัยรุ่นสักเท่าไหร่ (ทั้งที่ตัวเองก็ยังวัยรุ่นอยู่)

และจะยิ่งชอบ กรี๊ด บ้ามากขึ้น ถ้านิยายเรื่องนั้นมีพระเอกน่ารัก แสนดี อ่านแล้วหลงรัก

หรือแนวรักเศร้าๆ ไม่สมหวัง อ่านแล้วซาบซึ้ง กินใจ และทำให้เราร้องไห้ตามได้

อีกแนวนึงที่ชื่นชอบเหมือนกัน คือแนวแฟนตาซี จะมีโรแมนติกเข้ามาด้วย ก็จะยิ่งชอบมาก
Friends' blogs
[Add Kizana's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.