ชนะคนอื่นเป็นร้อย ยังไม่ยากเท่าชนะตนแค่คนเดียว...
ร่างกายของมนุษย์ตอน เซลล์ (หน่วยที่เล็กที่สุดของชีวิต)

    มนุษย์เรามีความรู้ทางวิทยาการก้าวหน้าไป คือ เป็นนายใหญ่นายโต เป็นเจ้าคนนายคนบริหารประเทศทั้งประเทศ หรือคุมทหารทั้งกองทัพ มีความสามารถในด้านวิทยายุทธยอดเยี่ยม แต่มีสักกี่คนที่จะใช่หมอหรือพยาบาล จะมีความรู้ในตัวของเราเองดี รู้จักการทำงานของร่างกายหรืออวัยวะต่างๆ ของร่างกายเป็นอย่างดี และรู้จักการทะนุถนอมดูแลและบำรุงร่างกายให้มีสุขภาพอนามัยที่ดี
    ร่างกายของคนเราก็เปรียบเสมือนเครื่องจักร เครื่องยนต์ที่มีส่วนประกอบ และการทำงานอย่างสลับซับซ้อน ประกอบด้วย ตัวถัง โครงสร้างของเครื่องยนต์ ระบบไฟฟ้า น้ำมันเชื้อเพลิงและอากาศที่ช่วยในการเผาไหม้ และระบบบังคับสื่อสารสั่งงานให้เป็นไปด้วยความสัมพันธ์อันดีอีกด้วย
    ร่างกายของคนเราประกอบด้วยระบบต่างๆ หลายระบบ เช่น ระบบผิวหนัง หรือเครื่องห่อหุ้มร่างกายคล้ายๆ กับตัวถังรถยนต์ ระบบโครงกระดูก ก็เหมือนกับโครงสร้างของรถยนต์ที่จะรับตัวถังและเครื่องยนต์และรับน้ำหนักบรรทุก ระบบกล้ามเนื้อซึ่งเทียบได้กับข้อเพลา ซึ่งทำให้มีการเคลื่อนที่ ระบบเส้นเลือด และระบบย่อยอาหารก็เหมือนกับน้ำมันเชื้อเพลิง ซึ่งต้องการ ระบบหายใจ ที่จำนำเอาออกซิเจนไปใช้ในการเผาไหม้ให้เกิดพลังงาน ในการเคลื่อนที่ได้เช่นเดียวกับที่เครื่องยนต์เอาอากาศเข้าไปช่วยจุดระเบิดทำให้เกิดแรงดันขับเคลื่อน ระบบขับถ่าย ก็คล้ายๆ กับระบบท่อไอเสียและการเปลี่ยนน้ำมันหล่อลื่นที่ช่วยเอาเศษผงเศษเหล็กที่เกิดจากการสึกหรอออกไป และที่สำคัญคือ ระบบประสาท ซึ่งเป็นระบบสื่อสารสั่งงานให้ทำงานเป็นไปโดยปกติ ก็เปรียบได้กับคนขับที่จับพวงมาลัยสั่งผ่านไปยังเครื่องเคราข้อต่อ และเพลาล้อของเครื่องยนต์ต่างๆ เป็นต้น

ความมหัศจรรย์ของเซลล์
    น่ามหัศจรรย์ที่ร่างกายของคนเรามีระบบต่างๆ ที่ทำงานในร่างกายละเอียดอ่อนมากมายกว่าเครื่องยนต์หลายเท่า เป็นต้นว่า ระบบต่อมไม่มีท่อ ที่ควบคุมการทำงานหรือการเจริญเติบโตของร่างกายได้ ระบบความรู้สึกสัมผัส ตอบสนองต่อสิ่งเร้าได้ ระบบสืบพันธุ์ สามารถถ่ายทอดกรรมพันธุ์ออกลูกออกหลานได้ และยิ่งกว่านั้นยังมีระบบประสาทและสมอง สามารถเรียนรู้ มีความนึกคิด และเก็บข้อมูลได้อีกด้วย ซึ่งไม่ปรากฏในระบบของเครื่องยนต์ที่มนุษย์สร้างขึ้นมา
    ถ้าเราจำแนกหรือวิเคราะห์ระบบต่างๆ ที่มาประกอบขึ้นเป็นร่างกายของคนเรานั้นก็จะพบว่า ระบบต่างๆ แต่ละระบบก็จะประกอบขึ้นจากเนื้อเยื่อหลายๆ ชนิดทั้งที่เหมือนกันและต่างกันมาร่วมกันทำงานอย่างใดอย่างหนึ่ง โดยมีการแบ่งหน้าที่การงานกันทำ ไม่มีการก้าวก่ายหน้าที่กัน ไม่มีความอิจฉาริษยา ไม่มีการทะเลาะกัน มีแต่ความสามัคคีอย่างเดียว และมีการทำงานกันตลอด 24 ชั่วโมง ไม่มีการประท้วง ไม่มีการนัดชุมนุมหรือนัดหยุดงาน ไม่มีการจวกกันในสภาฯ

ลักษณะของเซลล์
    ถ้าจะวิเคราะห์เนื้อเยื่อให้ละเอียดลงไปด้วยเครื่องมือพิเศษที่เรียกว่า กล้องจุลทรรศน์ จะพบว่า เนื้อเยื่อต่างๆ แต่ละชนิดจะประกอบด้วยหน่วยที่เล็กที่สุดที่เรียกว่า “เซลล์” ซึ่งเป็นหน่วยที่เล็กที่สุดของสิ่งมีชีวิต โดยที่เซลล์ที่มีลักษณะเหมืนๆ กัน ทำหน้าที่อย่างเดียวกัน มาประกอบกันขึ้นเป็นเนื้อเยื่อดังกล่าว แต่เนื่องจากมีระบบต่างๆ หลายชนิด และมีเนื้อเยื่อต่างๆ มากมาย ดังนั้น เซลล์จึงมีหน้าตารูปร่างลักษณะหลายอย่าง ทำหน้าที่แตกต่างกันไป

ส่วนประกอบของเซลล์
    ร่างกายของคนเราประกอบด้วยเซลล์จำนวนไม่น้อยกว่าห้าหมื่นล้านหน่วย มีรูปร่างต่างๆ กัน แต่เซลล์เหล่านี้ต่างก็มีส่วนประกอบที่สำคัญๆ เหมือนๆ กัน ดังนี้ คือ มีผนังเซลล์ ภายในผนังเซลล์เป็นโปรโตปลาสซึม ซึ่งแบ่งได้เป็นส่วนสำคัญเป็น 2 ส่วน ได้แก่ นิวเคลียส ซึ่งเซลล์จะขาดเสียไม่ได้ ภายในมีส่วนสำคัญในการถ่ายทอดลักษณะจากพ่อแม่ไปสู่ลูกหลานที่เรียกว่า โครโมโซม และอีกส่วนหนึ่งได้แก่ น้ำเซลล์ อันเป็นของเหลวที่อยู่ภายในผนังเซลล์รอบๆ นิวเคลียสนั่นเอง

หน้าที่ของเซลล์
     อายุของเซลล์แต่ละชนิดจะไม่เท่ากัน โดยทั่วๆ ไปแล้ว เซลล์ของร่างกายมีเกิดมีตายอยู่ทุกๆ นาที และมีเซลล์ใหม่เกิดขึ้นมาแทนที่ตลอดเวลา เพื่อให้เกิดความสมดุลตามหน้าที่และความจำเป็น ไม่สร้างสิ่งฟุ่มเฟือยเหลือใช้ และไม่ให้น้อยไปจนไม่สามารถทำหน้าที่ได้ ไม่เหมือนกับสังคมของคนเรา ถ้าจะเปรียบเซลล์ก็เหมือนกับคนในสังคม กลุ่มคนที่ทำหน้าที่เดียวกันก็มารวมกันคล้ายๆ กับเนื้อเยื่อ กลุ่มคนหลายๆ กลุ่มก็ประกอบกันขึ้นมาเป็นแผนก เป็นกอง เป็นกรมและกระทรวงต่างๆ

     แต่ที่เซลล์มีลักษณะไม่เหมือนกับคน คือ ไม่มีความวุ่นวายใดๆ ทั้งสิ้น รู้จักรักธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ไม่มีการตัดไม้ทำลายป่า แต่ถ้ามีศัตรูหรือมีอันตรายใดๆ ผ่านเข้ามา เช่น พวกเชื้อโรค หรือแบคทีเรีย พวกที่มีหน้าที่ต่อสู่ป้องกัน เช่น เม็ดเลือดขาวและภูมิคุ้มกันก็จะเข้ามาช่วยทำลายศัตรู แต่ถ้ามีกำลังสู้ไม่ได้ ก็จะสร้างสิ่งคุ้มกันไม่ให้แพร่กระจาย แต่ถ้าร่างกายของเราแข็งแรงมีการทำนุบำรุง เตรียมกำลังพร้อมอยู่เสมอ ก็จะทำลายสิ่งแปลกปลอมที่เข้ามาได้ ตัวอย่างง่ายๆ ที่เห็นได้ชัดในชีวิตประจำวัน ได้แก่ ไข้หวัด เป็นต้น คนที่ตรากตรำทำงานเหนื่อยไม่มีเวลาพักผ่อน ร่างกายก็อ่อนแอ ไม่มีภูมิคุ้มกัน เชื้อหวัดเพียงเล็กน้อยในอากาศซึ่งจะเข้าสู่ร่างกาย ทำให้เป็นหวัด คัดจมูก น้ำมูกไหล แต่ถ้าให้ร่างกายได้พักผ่อนมากๆ ดื่มน้ำมากๆ บางครั้งไม่ต้องกินยาก็อาจหายได้ เป็นต้น

ชนิดของเซลล์
    เซลล์ที่มีลักษณะต่างๆ กันอยู่ ในที่ต่างกันก็มีหน้าที่ต่างๆ กัน เป็นต้นว่า เซลล์ของเยื่อบุตามผิวหนัง มีลักษณะยาวแหลมที่ปลายทั้ง 2 ข้าง วางเรียงซ้อนกันหลายชั้นคล้ายกระสอบทรายบังเกอร์ มีหน้าที่ป้องกันร่างกายและเหมาะสำหรับการเสียดสีสัมผัส เซลล์ที่อยู่ชั้นนอกได้รับอาหารน้อยกว่ามักจะตายและกลายเป็นขี้ไคล เซลล์ที่หุ้มอยู่รอบๆ อวัยวะหรือตามท่อเส้นเลือด ก็ตะเรียงชิดติดกันแบบกระเบื้องโมเสด มีช่องว่างระหว่างเซลล์เล็กๆ ยอมให้เม็ดเลือดขาวและภูมิคุ้มกันลอดผ่านได้เมื่อคราวจำเป็น เซลล์ประสาท ซึ่งทำหน้าที่สื่อสารมักจะมีลักษณะคล้ายสายไฟเป็นเส้นยาว สามารถนำความรู้สึกผ่านไปและนำคำสั่งกลับมาได้ เซลล์ที่ประกอบกันเป็นท่อของต่อมต่างๆ มีลักษณะแบบลูกเต๋าเรียงกัน ทำหน้าที่ให้สิ่งที่ต่อมสร้างขึ้นมาส่งผ่านออกไปได้ เซลล์ของกล้ามเนื้อ เป็นเซลล์พิเศษ มีลักษณะยาวและกลมแหลมที่ปลายทั้ง 2 ข้าง มีคุณสมบัติหดตัว ทำให้เกิดการเคลื่อนที่ทำงานได้ เซลล์ขาวอสุจิ ซึ่งมีหน้าที่จำเป็นต้องว่ายน้ำไปตามท่อ นำไข่ไปผสมกับเซลล์ไข่ จึงมีหัวโตและหางยาวคล้ายว่าวปักเป้าเพื่อให้เคลื่อนที่ได้สะดวก เซลล์ของเม็ดเลือดแดง มีลักษณะคล้ายขนมที่เป็นก้อนกลมและแบน เพื่อให้ไหลผ่ายไปตามเส้นเลือดขนาดแคบๆ ได้ และสามารถเรียงตัวเป็นแถวเดียวได้อย่างเป็นระเบียบ ค่อยๆ ผ่านไปไม่มีการเบียดเสียดแย่งกันอย่างมนุษย์หรือการจราจรของสังคมเราปัจจุบันนี้ เซลล์ของกระดูก ซึ่งแข็งก็สามารถอยู่ได้สะดวกตามสภาพแวดล้อม และความจำเป็นของหน้าที่ เหล่านี้ เป็นต้น

คำอธิบายภาพ
   1. เยื่อหุ้มเซลล์ (Cell membranes) เป็นกำแพงที่กั้นเซลล์กับโลกภายนอก คอยตรวจสอบสิ่งที่จะเข้ามาในเซลล์และสิ่งที่จะออกจากเซลล์
   2. แกนเซลล์ หรือนิวเคลียส (Nucleus) เป็นเหมือนกับรัฐบาล ที่คอยควบคุมการทำงานทุกอย่างของเซลล์ และเป็นตัวสะสมพันธุกรรมที่จะสืบทอดไปยังลูกหลาน
   3. ไรโบโซม (Ribosomes Free) ที่อิสระ เป็นเหมือนโรงงานที่สร้างสารโปรตีน เพื่อนำไปสร้างเซลล์ใหม่
   4. กอลไจ (Golgi หรือ Golgibody) เป็นเหมือนกระเป๋าเล็กๆ ที่เคลื่อนที่ได้ เพื่อนำโปรตีนที่สร้างโดยไรโบโซมไปที่เยื่อหุ้มเซลล์
   5. ลัยโซโซม (Lysosomes) เป็นเหมือนกระเป๋าที่บรรจุน้ำย่อยในการย่อยอาหาร เพื่อเซลล์จะได้นำไปใช้เลี้ยงตัวเอง
   6. ท่อขนาดจิ๋ว หรือไมโครทูบูล (Microtubules) ท่อกลวงยาวเหล่านี้ เป็นเหมือนโครงเหล็กที่ยึดเหนี่ยวให้เซลล์เป็นรูปร่างอยู่ได้ นอกจากนี้ยังช่วยส่งสัญญาณจากเยื่อหุ้มเซลล์อีกด้วย
   7. ไมโคคอนเดรีย (Mitochondria) สิ่งที่มีรูปร่างเหมือนไส้กรอกนี้ เป็นเหมือนแหล่งผลิตพลังงานของเซลล์ ซึ่งจะสร้างสารเคมีต่างๆ ที่จะปล่อยพลังงานให้เซลล์
   8. โปรตีนของเยื่อหุ้มเซลล์ (Membrane proteins) เป็นเหมือนยามเฝ้าประตูที่คอยสังเกตการณ์โลกภายนอก และคอยนำสารเคมีที่จำเป็นเข้าสู่เซลล์
   9. ร่างแหเอ็นโดปลาสมิค (Rough Endoplasmicreticulum) ร่างแหเหล่านี้ เป็นตัวเก็บสะสมและนำโปรตีนจากไรโบโซ (ที่เกาะกับไขมัน) ไปยังส่วนต่างๆ ของเซลล์
   10. ไรโบโซมที่ไม่อิสระ (Ribosomes) เป็นเหมือนโรงงานที่เกาะอยู่กับเอ็นโดปลาสมิค ซึ่งจะสร้างโปรตีนและฮอร์โมน เพื่อส่งออกไปนอกเซลล์ โดยซึมผ่านทางเยื่อหุ้มเซลล์

ที่มา  : //www.doctor.or.th

Smiley ขอบคุณที่แวะมาเยี่ยมครับ Smiley




Create Date : 19 พฤศจิกายน 2555
Last Update : 19 พฤศจิกายน 2555 11:31:17 น. 1 comments
Counter : 11327 Pageviews.

 
ดี มาก เลย ครับ


โดย: ลีโอ IP: 202.29.184.105 วันที่: 21 กรกฎาคม 2558 เวลา:9:25:15 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

kitpooh22
Location :
ตรัง Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 27 คน [?]




สวัสดีครับ
..............................
ขอบคุณที่มาเยี่ยมชม และมาเม้นให้ครับ



ขอบคุณครับ :-)
THX


วันเกิดบล็อก 25/5/2009
Google+
Group Blog
 
<<
พฤศจิกายน 2555
 123
45678910
11121314151617
18192021222324
252627282930 
 
19 พฤศจิกายน 2555
 
All Blogs
 
Friends' blogs
[Add kitpooh22's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.