Group Blog
 
 
เมษายน 2555
1234567
891011121314
15161718192021
22232425262728
2930 
 
11 เมษายน 2555
 
All Blogs
 

กิจกรรมเสริม+เรียนพิเศษเด็กญี่ปุ่น

สามีบ้านนี้เป็นลูกชาวสวน  โอจี้จัง, โอบ้าจัง ทำสวนโมโมะ, นะชิ อยู่นิกาตะ  อิคุณสามีชอบอวดปนเบ่งอยู่บ่อยๆ ว่าฮีเรียนเก่ง  เป็นนักเรียนดีเด่นทุกปี  แม่เลยแซวไปว่า  อ๋อ....นักเรียนดีเด่นบ้านนอก 55555  คุณสามีก็ขบเขี้ยวเคี้ยวฟันเจ็บใจไป ได้มาแต่งกับภรรยาที่เป็นลูกข้าราชการ  แต่เล็กจนโตพ่อแม่ให้เรียนหนังสืออย่างเดียว  งานบ้าน, ทำอาหารไม่เคยแตะ  เพราะแม่จ้างลูกจ้างไว้ทำงานบ้านให้ตลอด   

 2 คน นี้ก็มีจุดร่วมที่เหมือนกัน คือ  พ่อแม่ไม่ค่อยส่งเสริมให้เรียนหรือทำกิจกรรมพิเศษ(ของแม่มีกวดวิชาบ้างนิดหน่อยก่อนจะเข้ามหาวิทยาลัย)  ส่วนตาพ่อได้เข้าคลับคาราเต้ของมหาวิทยาลัย แล้วฮีก็เล่นรุ่งจนได้แข่งระดับภาค  เรา 2 คน นึกอิจฉาเพื่อนๆ ที่เค้าไปเรียนดนตรี, ภาษา, เล่นกีฬาอื่นๆ เหมือนกัน  ว่าทำไมเขาช่างโชคดีจังมีพ่อแม่สนับสนุน(อ่อๆ เพิ่งนึกออก  เคยได้เรียนพิมพ์ดีดตอน ม.3 กะเค้าด้วย  พ่อพาไปเรียนตอนปิดเทอมที่ ม.เกษตร) ได้แต่มองว่าคนที่มีความสามารถพิเศษนี่มีเสน่ห์จังเลย

พอมีลูกก็เลยตั้งใจว่าจะสนับสนุนให้ลูกได้ทำในสิ่งที่อยากทำ  ได้เรียนเสริมในสิ่งที่ลูกอยากเรียน  แต่ทั้งนี้ทั้งนั้นก็ต้องมีกิจกรรมที่พ่อแม่เห็นว่าลูกควรจะเรียนใส่ลงไปด้วย  จะได้เดินไปตามความต้องการด้วยกันของทั้ง 2 ฝ่าย  ไม่ใช่พ่อแม่เป็นใหญ่อย่างเดียว


ว่ายน้ำ 
เรียวมะชอบเล่นน้ำมาก  ได้ลงน้ำละก็ไม่ยอมขึ้นง่ายๆ แต่ลูกว่ายน้ำไม่เป็น  เพื่อความปลอดภัยเราเอาลูกไปเรียนว่ายน้ำดีกว่า  หาที่เรียนในเขตที่ใกล้บ้านได้ที่  高島平スポーツスクールHP  ตอนนั้นเรียวมะ 5 ขวบ  มามิ 3 ขวบ



ที่นี่เรียนอาทิตย์ละครั้ง สอนเด็กเป็นกรุ๊ป 1 ชม. เอาเข้าจริงครั้งนึงที่ไป  มัวแต่เข้าคิว  ได้วนมาเรียนในสระจริงกันคนละไม่กี่ที  เรียนไปได้ 3 ปี  ไปไม่ถึงไหน  แถมด้วยเรียวมะเป็นเด็กพิเศษ  เวลาเข้าคิวก็ไม่ค่อยระวัง  มีเด็กคนอื่นมาแซงไปตลอด  เลยไม่ค่อยได้เรียนกะเค้าเท่าไหร่  จนสามีบอกเลิกเรียนเหอะ  เหมือนเราเอาเงินไปถมสระ  ค่าเรียนก็แพงครูก็ไม่ให้เรียวมะผ่านซะที  แต่พอเราไปแจ้งยกเลิกเรียนปุ๊บ  วัดผลครั้งต่อมาเรียวมะผ่านทันที  ให้มันได้อย่างงี๊ซิน่า.....เหอๆ

พอเลิกเรียนที่นี่  แม่ก็วางแผนจะเอาไอ้ 2 ตัว กลับเมืองไทยตอนปิดเทอมหน้าร้อน  ท้าวความนิดนึงว่าตอนที่รู้ว่าเรียวมะเป็นออฯ แม่ได้ติดตามอ่านเรื่องราวจากแม่รุ่นพี่ท่านนึงในเน็ต(ซึ่งเป็นรุ่นพี่ที่อาจจะอายุน้อยกว่าแม่ 555)  คือ  แม่ก้อย  แม่ก้อยทุ่มเทและเอาใจใส่กับน้องนนท์มากๆ จนเราคิดว่า  จะทำได้ถึงซักครึ่งนึงของแม่ก้อยไหมหนอ  หลังจากได้ติดตามอ่านเรื่องราวของน้องนนท์มา  แม่ก้อยเล่าว่าได้พาน้องนนท์ไปเรียนว่ายน้ำกับครูบอย  ซึ่งมีแต่คนชมว่าครูบอยเก่งมาก พ่อแม่เด็กพิเศษที่เป็นแฟนคลับน้องนนท์  พาลูกไปเรียนตามกันเพียบ

อย่ากระนั้นเลย  ปิดเทอมหน้าร้อนเราเอาลูกกลับไทยไปเรียนว่ายน้ำกับครูบอยบ้างดีกว่า


Little Boy Gym
รามคำแหง 24/2 (ข้างโอสถสภา)
โทร 086 393 1464

(ข้อมูลไม่อัพเดทนะคะ)

ว่าแล้วแม่ก็โทรทางไกลไปหาครูบอย  บอกกำหนดการ  ขอจองคิวครูไว้ก่อน  ซึ่งที่บ้านครูบอยทำยิมเล็กๆ ไว้ฝึกเด็กด้วย  ค่าฝึกในยิมและค่าเรียนว่ายน้ำ ณ ตอนนั้น(ปี 2008)ก็ ชม.ละ 400 บาท  พอถึงเวลากลับ  แม่เลยจับสองศรีพี่น้องร่วมทั้งหลานที่กลับมาจากอังกฤษไปเรียนด้วยกัน 








สโลแกนที่แม่ขอมอบให้ยิมครูบอย คือ "สระไม่สวย  ยิมไม่เริ่ด  แต่ครูทุ่มเท"

เด็กๆ เรียนทั้ง 2 อย่างได้พักนึงก็ทนไม่ไหว  เหนื่อย....  กลับเมืองไทยทั้งทีก็อยากเที่ยวเล่นบ้าง  แม่ก็ไม่อยากให้เด็กๆ เครียดเกินไป อาทิตย์หลังๆ เลยลดเหลือเรียนว่ายน้ำอย่างเดียว  มามิกับหลานชายยังเล็กอยู่  ก็งอแงๆ เรียนได้ครึ่ง ชม.คนนึงก็เบื่อ  อีกคนก็หนาวจากน้ำในสระ  สรุปคนที่เรียนว่ายน้ำจริงๆ จังๆ ก็มีเรียวมะคนเดียว 

กลับไปครั้งนั้นราวๆ เดือนนึง  เสาร์ - อาทิตย์ เรา(แม่กับน้องสาวแม่ที่มาจากอังกฤษ)ก็พาเด็กๆ ไปเที่ยวเล่น, ไปทะเล  วันธรรมดาก็กลับมาเรียนว่ายน้ำ  ครูสอนว่ายน้ำเก่งจริงสมคำร่ำลือ  จับทุกท่วงท่า  พูดกันคนละภาษาก็ยังสอนได้  พอครบกำหนดกลับ  เหลือเชื่อมากๆ เรียวมะว่ายน้ำท่าฟรีสไตล์ได้แล้ว  แม้จะยังไม่ค่อยสวยงาม แต่สามารถว่ายตามยาวของสระผ่านน้ำลึกได้ด้วยตัวเอง(มีครูประกบข้างๆ แต่ไม่ได้ช่วย)  แม่ต้องขอขอบคุณครูสังกัดยิมครูบอยจริงๆ  ครูพยายามและทุ่มเทมากๆ ทั้งๆ ที่เป็นเด็กที่มีเวลาเรียนน้อย

และเรียวมะก็ว่ายน้ำได้ตั้งแต่นั้นมา  ถึงจะไม่ถูกท่าสวยงามมากนักก็ไม่เป็นไร  เพราะพอถึงหน้าร้อน ร.ร.ประถมญี่ปุ่นก็สอนว่ายน้ำและแก้ไขท่าให้เองแหละ  คราวนี้เวลาพาลูกไปเล่นน้ำที่สระ  แม่ก็สบายใจไปได้เปลาะนึงว่าลูกจะไม่จมน้ำ  ส่วนแม่หนูมามิ  ขี้เกียจดีนัก  จนป่านนี้ก็ยังว่ายน้ำไม่ได้ สม.....555


เปียโน
เนื่องจากเรียวมะเป็นคนโมโหง่าย  ควบคุมอารมณ์ไม่ค่อยได้  แม่มานั่งๆ นึก  เอาลูกไปเรียนดนตรีดีไหม  เผื่อจะใจเย็นลงบ้าง  จากนั้นก็หาที่เรียนใกล้บ้านอีกแหละ  เอาใกล้ๆ บ้าน ไม่มีค่าเดินทางและลูกขึ่จักรยานไปเองได้  แม่ให้ลูกเรียนที่  ミュージックスクール テラスタジオ  ขี่จักรยานจากบ้านไป 3 - 4 นาที  เรียวมะเริ่มเรียนตอน ป.1 7 ขวบ  มามิเริ่มตอน 5 ขวบ



ปีแรกแม่ไม่ให้ออก 発表会(งานแสดงประจำปี)  เพราะยังงูๆ ปลาๆ อยู่  เปลืองเงินเปล่าๆ  ปีที่ 2 ให้ไปแต่เรียวมะยังไม่มั่นใจจะเล่นสองมือ  ต้องให้ครูช่วยเล่น  ส่วนแม่น้องสาวก็เล่นเพลงง่ายๆ อย่างเพลงมิกกี้เมาส์  ปีที่ 3 ก็ยังไม่เก่ง  2 คน เล่นเพลงง่ายๆ  แต่แม่ไม่ซีเรียส  เพราะความตั้งใจของแม่แต่แรก  อยากให้ลูกเล่นดนตรีเพื่อผ่อนคลายและเป็นความรู้ติดตัว  จะเก่งหรือไม่เก่งก็ไม่เป็นไร   ทั้ง 2 คน ไม่ค่อยมีพรสวรรค์และพรแสวงด้านนี้มากนัก  โดยเฉพาะเรียวมะไม่ค่อยชอบซ้อม  แม่ต้องพากย์ให้ซ้อม  แต่พอถามว่าถ้าไม่ชอบเรียนจริงๆ ก็เลิกได้นะ.....แม่ไม่ว่า  เรียวมะรีบบอกทันทีว่าไม่เลิก  อ้าว....เอาไงเนี่ยลูก 5555



ปีที่ 4 ครูเลื่อนมาจัดงานแสดงต้นปี 2012 เนื่องจากปีที่แล้วแผ่นดินไหว, โรงไฟฟ้าระเบิด  ไม่เหมาะกับการจัดงาน  2 คน ก็เล่นได้เรื่อยๆ ความเก่งมีน้อยความบ้ามีเยอะ 5555




งานแสดงเด็กญี่ปุ่นแต่งตัวกันเป็นการเป็นงานมาก  เด็กคนอื่นก็แต่งแบบนี้เหมือนกัน

แม่คิดไว้ว่าคงส่ง 2 คน เรียนเปียโนถึงแค่ ป.6  เพราะไม่แน่ใจว่าพอเข้าชั้นมัธยมแล้ว  จะมีเวลามาเรียนได้หรือเปล่า  ในระดับมัธยมการเรียนจะเข้มข้น  การแข่งขันเริ่มสูง  ยังไงขอดูสถานการณ์และเงินในกระเป๋า(แห้งๆ)ก่อน


โมเดิร์นบัลเล่ย์
ตอนเรียวมะไปฝึกพิเศษเพื่อกระตุ้นพัฒนาการและบำบัดอาการที่ 発達協会 บางครั้งมามิจะตามไปเฝ้าด้วย  พอไปก็ไปเจอน้องสาวเพื่อนเรียวมะที่มาเฝ้าพี่ชายเหมือนกัน  มามิจังก็ไปคุยเจ๊าะแจ๊ะๆๆๆ  ได้ความมาว่าน้องสาวเพื่อนเรียวมะ 2 คน เรียนบัลเล่ย์  คราวนี้เจ๊แกเลยมาบ่นๆ ว่าตัวเองก็อยากเรียนบัลเล่ย์เหมือนกัน  ตอนแรกแม่ก็ทำหูทวนลม  คิดว่าผ่านไปซักพักก็คงลืม  แต่ปรากฏว่าเจ๊แกไม่ลืม  ผ่านไปหลายเดือนก็ยังยืนยันว่าอยากเรียนบัลเล่ย์

เอาละซิ  อยากเรียนจริงหรือ  งั้นเราไปดูที่เรียนที่ใกล้บ้านที่สุดกัน

KAZZダンスファクトリー (ジャズダンス・バレエ・ストレッチ教室) 東京・板橋

ที่นี่เด็กเรียนไม่เยอะ  แต่ใกล้บ้าน  ขี่จักรยานมาไม่กี่นาที  ถ้าลูกอยากเรียนจริงๆ ก็เรียนที่นี่แหละ  ไป-มาสะดวก  มามิตกลงอยากเรียน  แม่เลยให้เรียน มามิจังเริ่มเรียนโมเดิร์นบัลเล่ย์ตอน 6 ขวบ ก่อนเข้า ป.1 4 เดือน




ฮิปฮอป
อยู่ๆ ไป  เด็กเรียนเต้นก็ลดลงๆ  อาจเป็นเพราะค่าใช้จ่ายสูง  แล้วก็ไม่มีผลอะไรกับการเรียนด้วย  สู้เอาเงินไปส่งลูกกวดวิชาดีกว่า  ครูคงกลัวมามิจะเลิกเรียนหรือไงไม่รู้  จู่ๆ เดือนกรกฏาคมปีที่แล้ว  ครูก็บอกให้มามิมาเรียนเต้นฮิปฮอปเพิ่มได้ฟรีในวันเสาร์  งี๊ก็หวานมามิเลยซิ  ของชอบอยู่แล้ว  มีหรือจะไม่เรียน




ฟุตบอล
ที่ ร.ร.เรียวมะคลาสเด็กพิเศษ  แจกใบปลิวเรียนฟุตบอลสำหรับเด็กพิเศษมา(เรียนฟรี ที่โรงเรียนมัธยมปลายแห่งหนึ่งในเขตบ้าน) เรียนวันเสาร์หรืออาทิตย์  เดือนละ 2 วัน ตาพ่อเห็นว่าลูกไม่ชอบกีฬาเลย  อะไรที่ทำงานเป็นกลุ่มนี่ลำบากมากๆ  เพื่อแก้จุดอ่อนตรงนี้  เราเอาลูกไปเรียนฟุตบอลที่นี่กันเถอะ  เราเอาเรียวมะไปเรียนที่นี่ตั้งแต่ปลายปี 2009 เมื่อพาลูกไปถึง  ปรากฏว่าเด็กที่มามีจำนวนน้อย  ไม่พอแบ่งทีมแข่ง  ครูเลยบอกว่า  งั้น...น้องของเด็กพิเศษก็มาเรียนด้วยกันละกัน  จำนวนเด็กจะได้เยอะขึ้นหน่อย  สรุปทั้งเรียวมะและมามิเลยเรียนฟุตบอลสำหรับเด็กพิเศษด้วยกัน

ข้อดีของฟุตบอลเด็กพิเศษ คือ ครูจะใจเย็น ค่อยๆ สอน  มามิซึ่งไม่ชอบฟุตบอล  ก็เรียนได้ไม่ลำบาก



น่าเสียดายที่ครูเพิ่งยกเลิกการสอนไปเมื่อเดือนมีนาคม 2012  เนื่องจากภรรยาครูไม่สบายเป็นมะเร็ง  ครูบอกว่าถ้าอยากเรียนต่อ  ให้พาลูกไปเรียนที่คิตะ-คุ  ครูยังสอนอยู่เดือนละ 2 วัน  เป็นวันอาทิตย์ตอนเช้า 

ตอนแรกแม่ก็ว่าจะพาไป  แต่พอดีวันที่ครูนัดฝนตก  ก็เลยยังเลื่อนมาเรื่อยๆ  ถ้าไม่มีอะไรผิดพลาด  ก็คงพาไปเรียนต่อ  เพราะที่ผ่านมา 2 ปี กว่า  จากที่เรียวมะต่อต้านมากมายเวลาเรียน  ไปยืนกอดอกบ่นบ้าง  ไม่ยอมวิ่งบ้าง  สุดท้ายลูกเริ่มเปิดใจยอมรับกติกามารยาทของฟุตบอลบ้างแล้ว  ถ้าเราหยุดตอนนี้ก็เท่ากับเรายอมแพ้


กวดวิชา 塾
ปกติที่บ้านเรารับ チャレンジ มาสอนลูกเองที่บ้านด้วย  จริงๆ ก็รับมาตั้งแต่สมัยเป็น しまじろう แหละ  แม่สอนถึง 5 ขวบ  นอกนั้นตาพ่อเป็นคนสอน  ซึ่งจะเน้นสอนเรียวมะเป็นหลัก  เพราะที่โรงเรียนชั้นเรียนเด็กพิเศษจะเน้นกิจกรรมซะเยอะ  การเรียนในเนื้อหาวิชาจะช้ากว่าชั้นเรียนปกติราวๆ 1 ปี  สามีไม่อยากให้ลูกเรียนช้า  ก็พยายามจะสอนเองที่บ้าน  กวดให้ทันชั้นเรียนปกติ  คราวนี้แม่น้องสาวก็เกิดอาการงอน  ทำไมพ่อสอนแต่พี่  ของตัวเองให้นั่งอ่านนั่งทำเอาเอง  ก็บ่นๆๆ เรียกร้องความสนใจ  ไปๆ มาๆ ก็ทะเลาะกัน 

แม่เลยตัดสินใจเอามามิไปเข้าที่กวดวิชาแถวบ้าน  ราคาไม่แพงมากนัก  ราวๆ ครึ่งนึงของสถาบันกวดวิชาที่ออกตามสื่อโฆษณา  ทำเลที่ตั้งก็ลึกลับหน่อยซุกซ่อนอยู่ในแมนชั่น  แต่อยู่ใกล้บ้าน  ขี่จักรยานไป 3 - 4 นาที  ตอนแรกครูให้เรียนอาทิตย์ละ 3 วัน อังคาร -พุธ-พฤหัส(国語+算数----英語----国語+算数)  ไปๆ มาๆ ก็ลดเหลือเรียน 2 วัน  อังคาร-พฤหัส(国語+算数+英語----国語+算数)  บางครั้งก็มีจัดกิจกรรมภาษาอังกฤษเสริมในวันเสาร์ เช่น ฮาโลวีนปาร์ตี้, คริสต์มาสปาร์ตี้

มามิจังไม่ได้เป็นเด็กที่ตั้งใจเรียนอะไรมาก  ชอบเล่นชอบสังคมตามประสาเด็กผู้หญิง  แต่แม่ก็ค่อยๆ เกลา ค่อยๆ ปลูกฝัง  บอกว่าการเรียนมันสำคัญต่ออนาคต  ถ้าเรียนไม่ดี  ต่อไปก็หาอาชีพดีๆ ทำงานยาก  หลังจากมากวดวิชาที่นี่ได้ราวๆ ค่อนปี  ดูลูกจะมีสมาธิและตั้งใจเรียนมากขึ้น  เริ่มมีจุดมุ่งหมายในการเรียน  หลังจากที่ไร้สาระมามากตอน ป.1 ถึงปลาย ป.2  เกรดก็ค่อยๆ ดีขึ้นตามลำดับ  ตอน ป.3 เทอม 2 ได้ よくできる เพิ่มขึ้น 9 ตัว  เทอม 3  แม่บอกให้เอา よくできる วิชา 国語 มาให้ได้  มามิจังก็ทำให้แม่ได้

มามิเพิ่งได้รับผลสอบ 英検 หลังจากที่สมัครสอบเป็นครั้งแรก  คะแนนก็ไม่ได้ดีอะไรมากมาย  แต่ก็เป็นการเริ่มต้น  เพื่อที่จะได้มีก้าวต่อๆ ไปที่ดียิ่งขึ้นของลูก







 

Create Date : 11 เมษายน 2555
7 comments
Last Update : 12 กันยายน 2555 15:14:25 น.
Counter : 4717 Pageviews.

 

น่ารักค่ะ เป็นคุณแม่ที่ทุ่มเทเพื่อลูกๆจริงๆค่ะ

 

โดย: settembre 13 เมษายน 2555 18:43:58 น.  

 

คุณ settembre ขอบคุณค่ะ แอบตามไปอ่านเรื่องโรงแรม ขอให้เฮงๆ นะคะ เคยไปอิตาลีครั้งเดียวตอนฮันนีมูนกับทัวร์ ประเทศสวยงามมากค่ะ แต่คงไม่มีหวังได้ไปอีกนาน กว่าจะเลี้ยงลูกโต

 

โดย: Kitakaze 13 เมษายน 2555 19:42:34 น.  

 

กำลังตามอ่านบล๊อกนี้ของคุณแม่อยู่ค่ะ
น้องๆเติบโตขึ้นมาได้อย่างน่ารักมากเลยค่ะ เรียนหลากหลายแบบนี้ดีจังเลยค่ะ

เป็นกำลังใจให้อีกทีนะคะ

ชอบบล๊อกนี้มากค่ะ เขียนได้ง่าย กระชับดีค่ะ เห็นภาพชัดเลย แหะๆ

 

โดย: gamerlot 6 มิถุนายน 2555 13:48:33 น.  

 

แม่ เรียวมะ มีพื้นฐานภาษาญี่ปุนอยู่แล้วหรือป่าวครับ พิมพ์ญี่ปุนเยี่ยมเลย

 

โดย: พ่อ IP: 49.49.183.229 24 มิถุนายน 2555 18:30:16 น.  

 

แวะมาเอาใจช่วยค่ะ
ขอให้ดีขึ้นเรื่อยๆนะคะ Keep going ค่ะ

นนท์จะไปเป็นนักเรียนประจำที่อังกฤษเืดือนหน้าแล้ว เล่าให้ฟังไว้เป็นกำลังใจค่ะ ขอเพียงมีความอดทน และ พยายามถึงที่สุด อะไรๆก็เป็นไปได้ภายใต้โลกใบนี้ :)

 

โดย: แม่ก้อย 19 กรกฎาคม 2555 20:40:56 น.  

 

คุณ gamerlot พยายามเขียนสั้นๆ ให้ได้ใจความค่ะ ขอบคุณที่ชอบค่ะ

คุณพ่อ แม่เรียวมะพยายามเรียนภาษาญี่ปุ่นเพื่อจะได้คุยกับคุณหมอและคุณครูได้รู้เรื่องค่ะ ตอนนี้ก็พอสื่อสารได้ไม่ถึงกับเก่งค่ะ

แม่ก้อย...ขอบคุณมากค่ะ ยังไงจะติดตามเรื่องน้องนนท์ต่อไปนะคะ สู้ไปด้วยกันค่ะ

 

โดย: Kitakaze 23 สิงหาคม 2555 21:06:55 น.  

 

เข้ามาอ่านเก็บข้อมูลค่ะ อ่านแล้วได้ความรุ้ดีเลยค่ะ ลูกสาวซนเหมือนเด็กผู้ชายไม่อยู่นิ่งๆเลยค่ะแต่ชอบเสียวดนตรี เต้นกระโดดไปมาตามประสาเด็กน้อย ไม่รู้ว่าโตมาจะเป็นยังไงบ้าง ขอเข้ามาอ่านประจำเลยแล้วกันน่ะค่ะ

 

โดย: นิ่ม (nimwachi ) 11 มกราคม 2556 15:49:43 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 


Kitakaze
Location :
板橋区東京 Japan

[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 17 คน [?]




แม่บ้านลูก 2
คนโตเป็นออทิสติก
คนเล็กเป็นเด็กปกติ
ต้องมาเลี้ยงลูกในต่างแดนแสนลำบาก
แต่จะว่าไปสวัสดิการความช่วยเหลือก็มากกว่าเมืองไทย
ถ้ารู้ว่าลูกจะเป็นออฯ รู้งี้ไม่ขอสัญชาติไทยให้ซะก็ดี
เพราะยังไงอยู่ญี่ปุ่นก็ดีกว่า
Friends' blogs
[Add Kitakaze's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.