Dhevan Dara Resort & Spa Huahin April 26, 2008

ตั้งแต่คิดว่าถ้าไม่ท้องจะไปเที่ยวญี่ปุ่นแล้วนะ ก็ท้องเลย แล้วก็ยังไม่ได้มีโอกาสไปเที่ยวที่ไหนอีกเลย เพราะมัวแต่แพ้ท้องอยู่นั่นแหละ
ตอนนี้หายแพ้ท้องแล้ว แล้วก็อยู่ในช่วงไตรมาสที่ 2 ซึ่งเป็นช่วงที่ปลอดภัยที่สุดหากจะเดินทาง ประกอบกับเป็นช่วง summer เหมาะแก่การท่องเที่ยวเป็นอย่างยิ่ง
และเห็นพ้องต้องกันกับคุณสามีว่าอยากไปเที่ยว จึงรีบดั้นด้นหาข้อมูลที่เที่ยวสุดฤทธิ์ ถึงแม้สถานที่ที่ไปได้ จะถูก limit ได้ไม่ไกลเพราะไม่อยากเดินทางไกลก็ตาม
สุดท้ายก็มาจบที่หัวหินอีกเช่นเคย
ด้วยความที่เป็นช่วง high season ทำให้ราคาที่พักต่างๆ แพงอย่างไม่น่าไปพักเลย เสียดายตังค์ แต่สุดท้ายก็ฟลุ๊กเจอที่พักแห่งหนึ่งสวยถูกใจ และราคากลับมาตกในช่วง low season ซะงั้น
ที่อื่นเค้าคิด high season ถึงสิ้นเดือนเมษา แต่ที่นี่ คิดถึงแค่ 17 เมษา ซึ่งเราไปหลังจากนั้น 1 วัน จึงได้ราคาเป็น low season ถึงแม้ว่าจะยังแพงอยู่ตามสไตล์ของที่พัก แต่ก็ยังพอรับได้
ที่แห่งนั้นก็คือ เทวัญดารา รีสอร์ท แอนด์ สปา หัวหิน นี่เอง
คราวนี้ก็เลยชวนปุ้ยกับหนุ่มไปด้วย เพราะทุกทีปุ้ยจะต้องคอยหาที่พักสวยๆ ให้เรา เราก็ไปเที่ยวอย่างเดียว พอหาได้ที่สวยก็เลยต้องแนะนำกันหน่อย
วันแรกของการเดินทาง กะว่าจะออกแต่เช้า เพราะว่าจะได้ไปเที่ยวให้เต็มที่ ปรากฎว่า คืนก่อนเที่ยวคุณสามีทำงานกลับมาดึกมาก เลยไม่อยากปลุกเช้ามากเดี๋ยวขับรถแล้วจะง่วง
เลยปลุกสายกว่าที่คุยกันไว้ 1 ชั่วโมง แล้วก็ออกเดินทาง ระหว่างทางคุณสามีนึกได้ว่าในกระเป๋าตังค์ไม่มีเงินสดเลย เลยขอกด ATM ก่อน
ก็เลยแวะบิ๊กซี พระราม 2 กดตังค์ซะหน่อย แต่พอเข้าบิ๊กซีได้ วิญญาณการช้อปปิ้งของอิชั้นก็เข้าสิงเหมือนเดิม เดินช้อปปิ้งผลไม้ เอาไว้ไปกินที่หัวหินอีกตามเคย
และที่สำคัญ ได้ซื้อแพยางด้วย หลังจากที่เดินดูแล้วดูอีกว่าจะซื้อดีไหม จากหลายๆ ห้าง เพราะคิดว่าซื้อมาใช้แค่เที่ยวครั้งนี้ กว่าจะใช้อีกทีก็คงจะนานเป็นปีแน่เลย เพราะต้องเลี้ยงลูกอีก
คุณสามีเลยช่วยตัดสินใจให้ว่าซื้อไปเถอะ เดี๋ยวครีมกันแดดที่เป็นสินค้าหลักจะใช้เอง (จริงๆ ซื้อครีมกันแดดวาสลีน แล้วจะแถมแพยาง เรามีบานาน่าโบทส์ SPF50 แล้วก็ไม่รู้ว่าจะเอาครีมกันแดดไปทำไม)
เลยซื้อในนาทีสุดท้าย แล้วก็เดินทางตรงไปยังหัวหิน ไปถึงก็เที่ยงพอดี หิวข้าว
อ่านจากร้านอาหารที่ search ใน net ว่าอร่อย ในช่วงก่อนถึงที่พักก็เป็นสเต็กริมทาง ในปั๊มปตท. ก่อนถึงสนามบิน เจ้าของร้านเคยเป็นเชฟโรงแรมอะไรสักอย่าง ตอนนี้จำไม่ได้แล้ว
ก็เลยไปกิน คุณสามีกินสเต็กไก่กะแตง กะไก่นุ่งผ้า ส่วนเรากินสเต็กปลาอินทรีย์ ด้วยความหิว จึงทำให้มื้อแรกลืมถ่ายรูปอาหารไว้
แล้วก็มุ่งหน้าสู่ Dhevan Dara Resort & Spa ตามที่โทรถามไว้ รู้แล้วว่าไม่ได้อยู่ในตัวเมือง อยู่นอกเมืองห่างจากตัวเมือง 12 กม.
ก็เลยขับตามแผนที่ไป เผอิญว่าขับตามรถที่ขับช้า ประกอบกับไม่รู้เส้นทาง เลยรู้สึกว่ามันเกิน 12 กม. นะ (ตอนขับครั้งต่อๆ มาดูไมล์ที่วิ่งไปของรถก็ 12 กม.จริงๆ ด้วย)
พอถงที่พักก็แยกย้ายเข้าห้องกันไป ไปเจอว่าห้องปุ้ยมีอ่างอาบน้ำแต่ห้องเราไม่มี ก็เลยโทรไปโวยซะ บ้านเหมือนกัน จองเหมือนกัน ที่เดียวกัน ทำไมมี facility ไม่เหมือนกันล่ะ
เค้าก็พยายามกล่อมเราต่างๆ นานา เปลี่ยนคนพูดตั้ง 3 คน แต่เราก็ไม่ยอม จริงๆ ที่ไม่ยอมคือ ไม่ชอบที่มาโกหกเรา
อย่างคนแรกบอกว่าจองกันคนละที เราก็บอกว่าจองที่เดียวกัน, คนที่สองบอกเราไม่ได้ระบุพิเศษว่าต้องการอ่างอาบน้ำ เลยไม่มี เราก็บอกว่าใครจะไปรู้ล่ะว่าห้องแบบเดียวกันจะมี facility ไม่เหมือนกัน
ก่อนเราจองเราก็เคยเห็นแล้วว่าห้องแบบนี้มีอ่างอาบน้ำ คนที่สามบอกว่า ห้องที่มีอ่างมีแค่ห้องเบอร์ 11 ห้องเดียวเท่านั้น สวยสิ เราก็เลยตอบว่า ห้อง 38 ก็มี เลยอึ้งเลย
คราวนี้ไม่รู้ว่าจะโกหกต่อยังไงแล้ว เราก็เลยขี้เกียจโวยแล้ว เอาเวลาไปหาความสุขดีกว่า เพราะมาเที่ยวเอาความสุข ถึงแม้มีอ่างไปเราก็ไม่ได้ใช้หรอก
มารู้อีกทีตอนหลัง (รู้เอง) ว่าเค้าจะทำห้องสลับกันแบบมีอ่าง กับไม่มีอ่างแต่มีฝักบัวอันเล็ก พื้นที่ห้องน้ำจะโล่งกว่า มันก็เป็น design มากกว่า ถ้าเราไม่ได้ระบุอะไร เค้าก็จะจองไล่ไปเรื่อยๆ
แต่การโวยครั้งนั้นก็เลยทำให้เราลืมถ่ายรูปห้องน้ำมาด้วย (เดินไล่ถ่ายรูปไปเรื่อย พอเจอห้องน้ำแล้วไม่มีอ่าง แล้วก็โวยจนลืมถ่ายรูป)
โดยรวมๆ ห้องและสถานที่ที่นี่สวยดี บ้านแยกเป็นหลังๆ เป็นสัดส่วน ที่ชอบที่สุดก็ตรงเตียงที่มีมุ้งด้วยเนี่ยล่ะ ดูโรแมนติกดี
ตอนบ่ายแก่ๆ ก็ไปเล่นน้ำ สระว่ายน้ำก็ไม่ค่อยใหญ่ แต่คนไม่เยอะ ก็เลยกันได้สนุก ประกอบกับมีแพยางที่เพิ่งซื้อมาด้วย เป็นเครื่องเล่นอย่างดี
ตกเย็นก็ออกไปหาของกินที่ร้านแสงไทย งวดนี้ก็ลืมถ่ายรูปอีกแล้ว และก็ไปต่อที่ไอติมชาเย็นที่ตลาดโต้รุ่งเช่นเคย แต่คราวนี้ไอติมชาเย็นหมด เลยต้องกินรสธรรมดา
เช้าวันต่อมาเลยเริ่มภารกิจถ่ายรูปของกินแต่เช้า สายๆ ก็ไปไหว้พระที่วัดชัยมงคล
กลางวันไปกินข้าวที่ร้านอยู่เย็น คราวนี้ไม่ลืมภารกิจแล้ว ประกอบกับปุ้ยเป็นเพื่อนร่วมภารกิจ ช่วยกันเตือนว่าต้องถ่ายรูปก่อนกิน เลยได้รูปมาครบถ้วน
แล้วต่อด้วยขนมหวาน คือไอติมกล้วยหอมทอด พอกินเสร็จก็รีบบึ่งรถกลับมาที่พัก เพราะนัดนวดไว้ตอนบ่าย 3
ที่พักเค้ามีโปรโมชั่นว่า พัก 2 คืน แถมนวด 1 ชม เลยได้นวดแผนไทย 1 ชม. ตกเป็นของคุณสามี เพราะอิชั้นท้องอยู่ นวดไม่ได้
เลยถ่ายรูปตอนคุณสามีถูกนวดเก็บไว้ตรึมเลย นวดตอนแรกๆ ก็ไม่มีอะไร เพราะนอนคว่ำหน้า
แต่พอเป็นท่านอนหงานปุ๊บ ปากเริ่มว่าง คุณสามีก็เลยชวนคนนวดคุย เริ่มจากคุยเกี่ยวกับเรื่องนวดเนี่ยล่ะ แต่สุดท้ายไปจบที่เรื่องแฟนคนนวดได้ไงก็ไม่รู้
ส่วนปุ้ยที่นอนนวดอยู่ข้างๆ ก็นอนถูกนวดสบายไป นานๆ ทีก็หัวเราะตามมุขที่คุณสามีคุย แต่คนนวดปุ้ยเนี่ยสิ แอบหัวเราะตลอดเลย
พอบ่ายแก่ๆ ก็ได้เวลาไปเล่นน้ำอีกแล้วครับท่าน คราวนี้ไปเจอแพยางฝาแฝด (ก็ของแถมจากครีมกันแดดเหมือนกันนั่นแหละ)
เลยได้ลองเล่นท่าแปลกๆ ใหม่ๆ เพิ่มขึ้น กลายเป็นว่า แพยางเนี่ยประโยชน์สารพัดเลย คุ้มจริงๆ ที่ซื้อมา
หลังจากเล่นน้ำจนเหนื่อย ก็ไปหามื้อเย็นกิน ลองไปกินร้านชื่อ กินแหลก เห็นรูปว่ามีการถวายอาหารให้พระเทพด้วย ต้องอร่อยแน่ๆ เลย
ก็สั่งไป คงด้วยว่ามันดึกแล้ว อาหารหลายอย่างก็หมด ปูก็ไม่มีเลยต้องเปลี่ยนเมนูบ่อย แต่ที่ทำให้อารมณ์มากกว่า คือสั่งไปแล้ว คนรับออเดอร์ก็รีบๆจด ไม่ค่อยตั้งใจฟังเท่าไร แต่บอกว่า OK ค่ะ รู้เรื่อง
แต่อาหารที่ได้มากลับไม่เหมือนกับที่สั่งไป งง ตกลงว่าใครรู้เรื่องกันล่ะเนี่ย
วันสุดท้ายช่วงเช้าไม่มีกิจกรรมอะไร คุณสามีเราก็นอนอย่างเดียว เราก็ถ่ายรูปไปเรื่อยๆ กลางวันก็ไปกินร้านเจ๊เปิ้ล
แล้วก็แวะ Fly Now ก่อนแยกย้ายกันกลับบ้าน

Create Date : 12 เมษายน 2554		0 comments
Last Update : 12 เมษายน 2554 17:27:41 น.
Counter : 917 Pageviews.
Share Tweet