๏ .. ลำนำ..ไปแล้ว ..สวีวี่วี .. ๏ ด้วย อุปัฏฐิตาฉันท์ ๑๑
๏ ยามจรระอุจิต ........ พิเคราะห์พิษคุพองแผล ตรึงบั่นผลิบิแบ ......... ก็ประสบภวังค์วาย
๏ ภาพหลังก็เราะเร้า ..... สติเหง้าละงันหงาย เจ็บเอยอุระกลาย ........... มนแตกฤดีดาล
๏ แผลเป็นเพาะพุชู ...... บมิรู้สิสำราญ รอป่นมละมาน ........... ทิวะล่วงลุกลืนโลม
๏ หันหลังมิพะว้า ........ กิริยายะเยงโคม ลี้พายุตะโบม ............. ประทุไล่มิวายเว้น
๏ ลับลา-บหวนคืน ....... สรดื่นจะล่วงเห็น รอยร้าวคุลำเค็ญ .......... จะอบายพิบัติดล
๏ ฝากไว้ประจุจาร ....... วจะขานพจีผล จำตรึงตริกมล .............. รติต่างสะอางองค์
๏ ล่วงผ่านอธิบาย ........ ก็ประกายจุบรรจง วางปลดคณะปลง ............ ขณะบ่ายขจรลา ๏ โอจอมเทวะโลก ...... ลุวิโมกข์และทุกขา ปัดเป่าผิประดา .............. ปะทุเถ้าสลายทัณฑ์ ๚ะ๛ + กิ่งโศก +
Create Date : 17 มิถุนายน 2554 |
|
16 comments |
Last Update : 17 มิถุนายน 2554 10:37:03 น. |
Counter : 2249 Pageviews. |
|
|
|
....................ความครึกครื้น ย่อมสนองกระตุ้นความคึกคัก กระปรี้กระเปร่าในหัวใจ ได้ดีนักนะครับ ความครึกครื้นบางครั้งมาจากอารมณ์รื่นเริง หรือมาจากการฟังเพลงสนุกสนาน เพลงสนุกสนานนั้นอยู่ที่จังหวะเร็วๆหรือไม่เนิบนาบ สมัยนี้คงเรียกจังหวะแด๊นซ์ ส่วนสมัยก่อน จังหวะที่สนุกสนาน พวกชะชะช่า สามช่า บิกิน ตลุง ฯลฯ
... หรือย้อนไปให้ไกลเข้าไปอีก ยุคผู้นำเผด็จการ ก็ยังชอบเพลงจังหวะรำวง กันอย่างขนานหนัก เลยมีการกำหนด เพลงรำวง ท่ารำวงมาตรฐานต่างๆ กลายเป็นเพลงรำวงประจำชาติไปเลย คนที่อายุสักสามสิบอัพ คงพอจะได้เรียน หรือไม่ได้เรียนรำวงมาคงพอ จะจับจีบมือ ออกท่าเป็นวง (ไม่ใช่วงสวิงนักตีกอล์ฟ) ได้สวย เต้นให้จังหวะไปกับเสียงกลอง และเสียง หรืออาจจะเห็นตามแห่งานบวช มีรำวงแตรวง แห่แหนนาคเข้าวัด แต่ตอนนี้ยุคสมัย จะมีแต่เพลงรำวงมันจะโบราณจัด เลยมีแต่แตรวง จังหวะแดนซ์ คนสูงอายุ มาเต้นคงหอบซี่โครงบาน เลย
.... วันนี้อยากนำเสนอเพลงรำวง แต่เป็นรำวงทางพี่น้องชาวที่ราบสูง นั่นคือ รำวงสาวบ้านแต้ ชุดเดิมที่ขับร้องไว้เป็นของสุนทราภรณ์ ที่บันทึกร้องโด่งดังในปี 2511 ทั้งๆที่เพลงนี้ เขียนไว้ 2502 สมัยจอมพลสฤต กิ่งโศกชอบในทำนองเพลงรำวง นี่แหละ การประสานเสียงร้องหมู่ก็แสนจะได้อารมณ์แห่งความสามัคคี ( อยากจะให้คนในชาติสามัคคีกันแบบนี้สักเรื่อง) แต่ที่สดุดหู น่าจะเป็นคำร้อง ที่คงความเป็นภาษาท้องถิ่นไว้เกือบทั้งหมด คนภาคอื่นอาจจะงง เช่นกิ่งโศก แต่ก็พยายามนึกๆ ตาม แต่บางคำ ก็แปลไม่ออก หรือ บางคำไม่แน่ใจว่า เป็นของคนอีสานหรือไม่ เช่นคำว่า...
..... วันตี้ห้า ดือนกันยายน....คำว่าตี้ห้า..แปลเป็นภาษาภาคกลางคือวันที่ ๕ นั่นเอง..คำว่าตี้ ที่ส่วนมากจะเป็นคนเหนือ ใช้แทนคำ..ที่ เลยทำให้สับสน หรือ สวีวี่วี... แต่พอไปหาประวัติ ที่มาเพลงนี้เกิดจากการไปนำเพลงท้องถิ่นทางภาคอิสาน มาดัดแปลงเป็นเพลงของวงสุนทราภรณ์ ที่จริงบทเพลงร้องโต้ตอบ ชายหญิงแบบนี้ เพลงท้องถิ่นจะมีกันทุกภาค เช่นเพลงเหย่ย เพลงฉ่อย เพลงเรือ อีแซว ค่าว ซอ หมอลำ ผญา ฯลฯ
...... วันนี้ ขอเสนอในเวอร์ ของ รวมดาว 2 ลองฟังกันดูนะครับจะรู้ว่า ม่วน มาก
รำวงสาวบ้านแต้
คำร้อง ธรรมนูญ แสงรังษี
ทำนอง ธนิต ผลประเสริฐ
(สร้อย)
พร้อม) เดี่ยนสามนกกาเหว่ามันฮ้อง
ยูงทองมันมาฮ้องไหว้วอน
หมู่หญิง) จากไปสวีวี่วี
หมู่ชาย) จากไปสวีวี่วี
หมู่หญิง) ถ้าบุญเฮามีคงจะได้เจอกัน
หมู่ชาย) ถ้าบุญเฮามีคงจะได้เจอกัน
หญิง) จากไปตั้งแต่วันตี้ห้า
หมู่หญิง) วันตี้ห้าเดือนกันยายน
หญิง) พอศอสองสี่เก้าเก้า
หมู่หญิง) พอศอสองสี่เก้าเก้า
หญิง) เจ้าสิอ่งไล้เด้อเฮ็ดเพ้อเซ่อถือกระด้งฟัดข้าว
เจ้าสิอ่งไล่แม่สาวบ้านแต่ขี่ซักขะยาน
หมู่หญิง) สาวบ้านแต่ขี่ซักขะยาน
ชาย) จดหมายไปสองซาบับ
ได้ฮับหรือเปล่าคนดี
จากไปสวีวี่วี
หมู่ชาย) จากไปสวีวี่วี
ชาย) ถ้าบุญสันมีคงจะได้เชยชม
หมู่ชาย) ถ้าบุญสันมีคงจะได้ชมเชย
ซ้ำ (สร้อย)
ชาย) สายัณห์ตะวันแล่แล่
สาวบ้านแต้ขี่รถซักขะยาน
ขี่ไปทุกถิ่นสถาน
หมู่ชาย) ขี่ไปทุกถิ่นสถาน
ชาย) ขี่รถซักขะยานไปกะสันไหมเธอ
หมู่ชาย) ขี่รถซักขะยานไปกะสันไหมเธอ
หญิง) เสียใจบ้านอยู่ไกลไปหน่อย
กล้วยอ้อยเป็นแต่ป่าสอนลอน
ขี่ไปจนหัวเข่าเหนื่อยอ่อน
หมู่หญิง) ขี่ไปจนหัวเข่าเหนื่อยอ่อน
หญิง) เป็นป่าสอนลอนคือเกษตรสมบูรณ์
หมู่หญิง) เป็นป่าสอนลอนคือเกษตรสมบูรณ์