พึงเพียรร้อยสร้อยคำวางค้ำจิต
Group Blog
เพชรพระอุมาและหนังสือ
มุมร้อย..อักษรา
ท่องเที่ยว
ผกาขจร
จิปาถะ
เพลงไทยเดิมบรรเลง
<<
มิถุนายน 2553
>>
1
2
3
4
5
6
7
8
9
10
11
12
13
14
15
16
17
18
19
20
21
22
23
24
25
26
27
28
29
30
11 มิถุนายน 2553
.. ลำนำ ภูกามยาวนคร ..
All Blogs
๏..จันทรคาธ..๏ ( กลอนห่อฯ ฉบับรกสัมผัส)
๏ .. แด่องค์ ภควันต์ ..๏
๏.. ภวตัณหา ..๏ โคลงห่อ
๏.. เงา(แอบ)แฝง..๏ กลอนห่อฯ
๏..เถรส่องบาตร ..๏ (กลอนห่อโคลงฯ)
๏..ยามจาก..๏ (กล: กินนรเก็บบัว)
๏ ..โหม....อารมณ์ ..๏ ( กล : ช้างประสานงา)
๏.. ฟืน...ที่รอ(ใคร) พราก..๏ (กล: นาคพันธ์ ชื่อสนธิอลงกฎ)
๏..หลงฤดู..๏ ( กล : ราชสีห์เทียมรถ )
๏.. ณ ขอบชายเขา .. ๏ (กลอนห่อโคลงฯ)
๏ มนตรา ..เอื้องแซะ ๏
๏.. ชั่ว ดี-ถี่-ห่าง ..๏ (ฉบับโคลงห่อกลอน)
๏...แว่วเสียงสาป...๏
ส่งความสุข แด่ มวลมิตร ๒๕๕๖
๏..มัจฉา หลงน้ำ..๏
๏ บางครั้ง..บางค่าในคำคน???? ๏ ( กล;งูกลืนหางห่อโคลงฯ)
๐ รำลึกครูกลอน ๐
๏ .. วนเวียน ชีวิต ..๏
๏ ... มหาสยามยุทธ์ ๒ ..๏
๏ บุษปะปราโมช ฉ่องพนา (อินทนิล) ๏
๏ ย่างสู่.... มหาสยามยุทธ์ ๏
๐ ...ถวิลพงไพร ..๐
๏ ในค่ำคืน...คิมโหตุ๏
๏ มนตราคีตกะปักษาสวรรค์ ๏ ( กลอนห่อโคลง)
๏ ความมิเคยขาด...๏ ( กลอนห่อฯ แลหุ้มด้วย กลฯ ยัติภังค์)
๐ สื่อ..ด้วยมือ โบก ๐ด้วย เจ็ดสร้อยร้อยซ้อน
๏..โอ้โฉมสะคราญเอย ๏
๏ ถ้อยเสน่ห์ ๏
สุขสันต์วันส่งท้ายปีเก่า ต้อนรับปีใหม่
๐ ลำนำ รังวัดที่เสียไป ๐
๏.. ลำนำ สายน้ำ ในโมเดล ??? ๏
๏ ลำนำ...สติสัมปชัญญะ...๏
๏..ลำนำ นัยนิมิต? ..๏
๏ ... ลำนำ ..ค่าสิ้นแล้วฤา.. ๏
๐..ลำนำ..มาลัยแด่แม่..๐
๏.. ลำนำ รัศมีดาว ..๏
๏ ..ลำนำ ขมหวาน เมื่อวันวาน .. ๏
๏ ..ลำนำ น้ำเต้าลอย...ฤาถอยจม.. ๏ (ฉบับกลอนห่อโคลง)
๏ ลำนำ...ฝากถ้อย สักนิด.. ๏
๏ .. ลำนำ..ไปแล้ว ..สวีวี่วี .. ๏ ด้วย อุปัฏฐิตาฉันท์ ๑๑
๏.. ลำนำ อสุรีครองนาคร.. ๏ มาณวกฉันท์ ๘
๏.. ลำนำ...วิบากกรรม..๏ ด้วยโคลง(๓) สามสุภาพ
๏.. ลำนำ เพียงคอย?..๏
๏.. ลำนำ สายสวาท ..๏ ด้วยโคลงสี่ ( ๔) ตรีพิธพรรณ
๏.. คราบ..วัสสะตฤดู.. ๏ ด้วยโคลงสอง สุภาพ
๏ ...ลำนำ...มนตร์น้ำอมฤต ...๏
๏....ลำนำ เสียงเต้นต่างนัย .๏
๏ ลำนำ....ธารอารมณ์ ๏ ( ฉบับกลอนห่อ)
๏..ลำนำ กุสุมา กำสรวล..๏
๏ .. ลำนำ...แป้งร่ำ โลมเสน่ห์..๏
๏.. อาลัยรักจาก..บุตรหลาน ..๏
๏ แมงวาย..ว้าง ใช่ใจว้าง ๏
.. ลำนำ...เทียน อธิษฐาน ..
๏ สิมพลี ขจรกลิ่น๏
๏ .. กระท่อมเริงไพร.. ๏
๐ ..โฉมสอางค์ แม่เอย ..๐
๐ ..เรียวแส้..รอยโศก...
๐ เริง ในห้วงอารมณ์ ๐ ( ด้วยกลบทถอยหลังเข้าคลอง)
..รอ หล่นเพื่อลาลับ.. (ด้วยกลบทกบเต้นสามตอน)
+ ลำนำ.... กี่-เพลิง-พิษ-เฉก-ร้อย ? +
.. ลำนำ เส้นทางสู่มรณา..
.. เทิดไท้ มหาราชีนี .. ( บทอาเศียรวาท)
.. ลำนำ เนื้อใน ของเพศแม่..
.. ลำนำ ดาวประกายพรึก ..
.. ลำนำ ลำน้ำแม่กลอง ..
.. ลำนำ ใจเปิง ...
.. ลำนำ...เมืองล่ม เวียงกุมกาม ..
.. .. ลำนำ...ป่าซาง ไทยอง ผู้สัญจรจาก มหิยังคนคร
.. ลำนำ ภูกามยาวนคร ..
..วอนคืนถิ่น เถิดเจ้า..
.. เมื่อ...อำลา..
.. จริง ฤา หลอก..
.. เห่ กล่อม..
.. สาวนา อย่าลืมเคียว..
.. เซ่นรัก..ด้วย ฮาราคีรี..
.. บุหงา บอลิคำไซ ..
.. สี แต้มผกา เมืองกรุง..
.. โธ่..เอ๋ย เจ้านกขมิ้น ..
..รอยที่เปลี่ยน..
ลุ่มน้ำ..ล่องโขง..
.. จำอวด ..
.. กงล้อ กรรม ..
.. นัดพบ จามาหรือไม่ หนอ ..
~.. คำคนประณาม ..~
.. ในอ้อมอก แผ่นดินมารดร ..
~.. หล่น แล้ว ร่วง ..~
~.. เสน่ห์น้าว สาวผู้ไท ..~
~.. เงียบงัน นั้นซ่อน ? ..~
~.. มนเสน่ห์..ว่านเสน่ห์จันทร์.. ~
~.. ขับลำนำ เอื้องแซะ ..~
~.. หวงยิ่งแม่นา ..~
~.. ใจนาง ..~
~..แม่สาย..เคียงข้างนางนอน..~
~.. เนื้อนอกสดใส..เนื้อในกำสรวล..~
~..หนาวนี้ พี่ตายแน่.~
~..หนุ่มบางนา ระทม..~
~..นางรอง หรือรองใคร..~
~..คืนค่ำ..หวาดกลัว..~
~.. ณ..ราตรีหนึ่ง ..~
~.. ฟ้าคำรน ถ้อยคำราม (โคลงรกโท) ..~
~.. ชมโฉมสาวเมืองดอกบัว ..~
~.. ยังคิดถึง ..~
~.. บท อาเศียรวาท...มาตุเรศ แห่งสยาม (วันแม่ 12 สิงหาคม 2552)..~
~..คือ มาตา ..~
~..ลานสาง อันรางเลือน..~
~..ใจคน..~
~..มงกุฎไพร.....ปักษามาลาสวรรค์..~
~.. ปักษา..สวรรค์..~
~.. โอ้...ยอดดวงใจ ..~
~..หยาดน้ำตา..ตะละแม่ เมืองตองอู ..~
~..คำพ้อ..กุลาแสนสวย..~
~.. เสียงครวญ..จากกระบือ..~
~..รามสูร...รำขวาน ..~
~..กำแพงใจ..~
~ ..เปลือกนอก..~
.....ราตรีสวัสดิ์...นะ...ดวงดารามิตรแห่งข้า....
..ตะขบ...
~..ตำนาน..กุหลาบบ่มพิษรัก..~
~...เสียงเพรียก...จากจันทร์กะพ้อ ...~
~..ใต้..ไทรโศก..~
~.... แก่งคอย..ฤๅจักให้คอยใคร..~
~ คิดถึง...มาก~
~...ฤๅ...แค่ใบไม้...~
~ เกร็ดน้ำค้าง..และ เกร็ดน้ำใจ ~
~ ..พายุใจ.. ~
~ รักล่ม..ณ.ริมโขง ~
~ ลาร้าง...ใต้ร่มมะลุลี ~
~ ปาริชาต บุษปะ..มาลีสวรรค์ ~
~ ยิ้ม..ของรติมณี..~
~ รักแท้...พระสุธน ~
~ เพ็ญ...แห่ง กัต-ติ-ก-มาส ~
~ โอ้...ศีตกาล ~
งามเกินสามโลก
~ น้ำตา..แม่ศรีนวล ~
เจ็บ..จึงจำจาก
~ .. โศกนาฏกรรมแห่งรัก.พระเพื่อน - พระแพง - พระลอ ..~
..กรรม..เจ้า ระตูจรกา..
~ กามนิต ...ครวญ..~
~ วาสนา เจ้าเงาะ ~
~ เนงบา กำสรวล..~
ร่วมจรรโลง ฉันทลักษณ์
.. ลำนำ ภูกามยาวนคร ..
๏ ขุนสามกษัตริย์สร้าง.......สัตยา
ริมแม่อิงแอ่งผา...............หลั่งล้อม
โลหิตร่วมมิตรา.....................ดื่มต่าง ถ้อยเนอ
สายผูกสัจจะห้อม.................ห่มเคล้าสักขี ๚ะ
๏ สามขุนกษัตริย์สร้างสัตยา
ผูกสัจจาถ้อยจริงหันพิงหลัง
โลหิตนิ้วพระหัตถ์รวมร่วมพลัง
ณ.เบื้องฝั่งดื่มสานสาบานใจ
๏ ระหานห้วยมิแห้งสำแดงบอก
เริงระลอกน้ำหลั่งสะพรั่งไหล
ชโลมชุ่มร่ำเชื้อถึงเนื้อใน
ศกสมัยล่วงผ่านผสานจินต์ ๚ะ
๏ สายน้ำโอบอุ้มเถื่อนที่เคลื่อนคล้อย
ประหนึ่งพร้อยแต่งพรายเบื้องปลายสินธ์
โตรกลึกตื้นเลอแต้มแย้มรอยอินทร์
ผู้ประทิ่นทอเส้นทอดเด่นพราว
๏ ครั้งได้เยือนพยาวยิ่งน้าวย้อน
ห้วงจิตซ้อนภาพซึ้งคะนึงสาว
พิศุทธิ์ยิ่งงามแย้มยลแต้มพราว
ภูกามยาวสาวอัปสรซ่อนจำแลง ๚ะ
๏ ระริกเย้าเสียงย้ำถ้อยคำย้อง
สรวลเริงก้องกุมชิดสนิทแฝง-
อกพี่หวั่นใจหวามภาพย้ำแทง
ผกาแจรงทัดหูพธูธาร ๚ะ
๏ สาวเริงน้ำกลางธารพึงจารจับ
แม่อิงเอยเผยขับกำซับซ่าน
หรือนี่ถิ่นไกรลาศพิมาศมาน
โฉมสะคราญว่ายเคล้าช่างเย้ายวน ๚ะ
๏ กว๊านพะเยาบึงใหญ่พี่ได้อิ่ม-
เอมภาพลิ้มห่มล้ำเมื่อย้ำหวน
จักขอเก็บภาพหวานสุดรัญจวน
รำลึกครวญทุกครั้งเมื่อยั้งเยือน ๚ะ
+ กิ่งโศก +
Create Date : 11 มิถุนายน 2553
11 comments
Last Update : 11 มิถุนายน 2553 12:59:39 น.
Counter : 1467 Pageviews.
Share
Tweet
สาวตาหวานกว๊านพะเยา บทเพลงนี้ สมัยยังเด็กๆ จะนึกถึง ภาพ ป่าเขา น้ำตก ถิ่นแถบทางเหนือ เป็นภาพในจินตนาการของกิ่งโศก นึกถึงครั้งใด ดู เป็นภาพที่ดูร่มเย็น แม้ว่าในชีวิตจริง ของกิ่งโศก ยังไม่เคยไปเยือนแม้แต่ครั้งเดียว
กว๊าน เมือหาความหมายแล้วจะ รวมอยู่ในกลุ่ม ห้วย หนอง คลอง บึง ลำคลอง แม่น้ำ ทะเลสาบ เรียกว่าเป็น สปีซี่เดียวกัน นะแหละครับ
กว๊าน เป็นคำทางเหนือเรียก บึงที่มีขนาดใหญ่
และกว๊านพะเยา ถือว่าเป็นบึงใหญ่
แถบถิ่นล้านนา หรือทางเหนือของไทยนั้น ได้สร้างมนต์เสน่ห์ ให้กลับคนภาคอื่นยิ่งนัก โดยเฉพาะคนภาคกลางเสน่ห์ความงามอันอ่อนช้อย ของสาวทางเหนือ เสน่ห์ความอ่อนช้อยทางวัฒนธรรม รวมไปถึง มนต์เสน่ห์ทางธรรมชาติ
กิ่งโศก เคยคิดไว้ว่าสักไม่นาน อยากไปเห็น สักที แม้นว่าจะช่วงนี้มีภาพ ตามสื่อว่า กว๊านพะเยา ก็ น้ำแห้ง..
แต่ความอยากไป เพื่อ อย่างน้อย ก็จะได้ มีอดีตได้เล่าขานบ้าง..
ครั้งนี้ ที่จริงจะนำเสนอ บทเพลงเกี่ยวกับทางเหนือ เจอ มนต์รักป่าซาง ก็แสนประทับ ใจ และพอมาฟัง กว๊านพะเยา..ยิ่งประทับใจ เลยขอเขียนเรื่องราว ของ กว๊านพะเยาก่อน
ก่อนฟังเพลง เรามาดู ภูมิหลัง ของเมืองนี้กันก่อน พอสังเขปนะครับ
อดีตของเมืองพะเยา
" พะเยา " เป็นเมืองเก่าแก่เมืองหนึ่งในแถบลานนาไทย เดิมมีชื่อว่า " ภูกามยาว " หรือ " พยาว " มีอายุกว่า 900 ปี
ตั้งขึ้นราวปี พ.ศ. 1639 โดยพ่อขุนศรีจอมธรรม กษัตริย์แห่งราชวงศ์ลัวะจังคราชหิรัญนครเงินยางเชียงแสน
และเจริญรุ่งเรืองสูงสุดในสมัยพ่อขุนงำเมือง ซึ่งเป็นพระสหายร่วมน้ำสาบานกับ พ่อขุนเม็งรายแห่งเมืองเชียงราย
และพ่อขุนรามคำแหงกษัตริย์กรุงสุโขทัย ทั้งสามได้กระทำสัตย์ปฏิญาณต่อกันที่ริมแม่น้ำบริเวณวัดสบร่องขุย
โดยหันหลังพิงกัน แม่น้ำนี้จึงได้ชื่อว่าแม่น้ำอิง พระราชาธิราชทั้งสามพระองค์ ได้ทรงกระทำสัตย์ปฏิญาณผูกมิตรทรงดื่มน้ำสัตยาผสมโลหิตจากนิ้วพระหัตถ์ เพื่อเป็นมิตร น้ำร่วมสาบานไม่เป็นศัตรูต่อกัน ณ ฝั่งแม่น้ำอิง เขตเมืองพะเยา
ต่อมามีการเปลี่ยนแปลงการปกครองตามอิทธิพลของอาณาจักรต่างๆ
ที่ผลัดกันมีอำนาจในแถบนี้ จนถึงสมัยกรุงรัตนโกสินทร์ พยาวเปลี่ยนชื่อเป็นพะเยา และรวมอยู่กับจังหวัดเชียงราย
กระทั่งในปี พ.ศ. 2520 จึงได้รับการจัดตั้งขึ้นเป็น " จังหวัดพะเยา " นับเป็นจังหวัดที่ 72 ของประเทศไทย
พระราชาธิราชทั้งสามพระองค์ ได้ทรงกระทำสัตย์ปฏิญาณผูกมิตรทรงดื่มน้ำสัตยาผสมโลหิตจากนิ้วพระหัตถ์ เพื่อเป็นมิตร น้ำร่วมสาบานไม่เป็นศัตรูต่อกัน ณ ฝั่งแม่น้ำอิง เขตเมืองพะเยา
ที่นี้ ลองมาฟังเพลง แม้จะออกแนวลูกทุ่ง แต่เป็นลูกทุ่งสมัยก่อน เรียกว่า เก่าแล้ว คนร้อง คนแต่ง น่าจะไม่อยู่ในโลกแล้วนะครับ
ชื่อเพลงกว๊านพะเยา ตามชื่อบึงใหญ่เลย เนื้อหา ผมว่า เป็นความจำเริญในทางภาษา ที่ ยืมคำคุณ สดายุมาใช้ได้หรือเปล่าก็ไม่รู้ คือ นารีปราโมทย์
สิ่งที่สดับได้ นั่นคือ ธรรมชาติยุคนั้น เป็นแบบบริสุทธิ์ อย่างแท้จริง ซึ่งคงหาไม่ได้แล้วในปัจจุบัน
เชิญร่วม ฟัง..เพลงนี้กันครับ..
เพลง : กว๊านพะเยา
ศิลปิน : สุรพล สมบัติเจริญ
เนื้อเพลง :
.....โอ โอ่โอโอ่โอ้ละเน้อ
ทำบุญจั่งใดเล่าเออ ถึงได้มาเจอสาวเจ้า
น้องอยู่ดงดอย ดินแดนห้วยป่าและเขา
ถิ่นพงไพรในป่าลำเนา กว๊านแห่งพะเยายังงามละเน้อ
.....โอ โอ่โอโอ่โอ้นวลน้อง
เจ้าคงสร้างบุญด้วยทอง ไผมองเห็นจึงหลงเพ้อ
ถึงอยู่พะเยา น้องยังสวยแจ่มเลิศเลอ
สาวเมืองกรุงยังบ่เทียมเธอ ใช่ยอนะเออพี่พูดด้วยใจ
.....เจ้าแต่งตัว ยามเล่นน้ำ เจ้านุ่งกระโจม
เก็บกล้วยไม้มาแซมเสียบผม แลสลวยสวยงามวิไล
เห็นดอกบัวตูม เด่นงามท่ามกลางน้ำใส
เจ้าผุดดำโผแหวกเวียนว่าย ร้องกรีดหวีดไปในเพื่อนหมู่สาว
.....โอ โอ่โอโอ่โอ้ละหนอ
ทำบุญจั่งใดพี่ขอ ยกผลกุศลให้เจ้า
ขอตักบาตรพระ ร่วมเรียงเคียงคู่กับสาว
แม่ตาหวานกว๊านแห่งพะเยา ขอปองฮักเจ้าจนวันชีพวาย
.....เจ้าแต่งตัวยามเล่นน้ำ เจ้านุ่งกระโจม
เก็บกล้วยไม้มาแซมเสียบผม แลสลวยสวยงามวิไล
เห็นดอกบัวตูม เด่นงามท่ามกลางน้ำใส
เจ้าผุดดำโผแหวกเวียนว่าย ร้องกรีดหวีดไปในเพี่อนหมู่สาว
.....โอ โอ่โอโอ่โอ้ละหนอ
ทำบุญจั่งใดพี่ขอ ยกผลกุศลให้เจ้า
ขอตักบาตรพระ ร่วมเรียงเคียงคู่กับสาว
แม่ตาหวานกว๊านแห่งพะเยา ขอปองฮักเจ้าจนวันชีพวาย
เจ้าแต่งตัว ยามเล่นน้ำ เจ้านุ่งกระโจม
เก็บกล้วยไม้มาแซมเสียบผม แลสลวยสวยงามวิไล
เห็นดอกบัวตูม เด่นงามท่ามกลางน้ำใส
เจ้าผุดดำโผแหวกเวียนว่าย ร้องกรีดหวีดไปในเพื่อนหมู่สาว
เป็นภาพที่ชมสาว แล้วมีความรู้สึกว่าไม่อุจาดแต่อย่างใด แต่ชวนเคลิบเคลิ้มตามยิ่ง นะขอรับ..งดงามภายใต้จินตนาการ อย่างยิ่ง...
โดย: กิ่งโศก (
Taboonkam
) 11 มิถุนายน 2553 12:54:25 น.
ทักทายตอนบ่ายๆ จ้า
โดย:
หาแฟนตัวเป็นเกลียว
11 มิถุนายน 2553 17:08:02 น.
เจ้ารำพันสวรรค์เสกดังเอกเอื้อน
มนต์เหนือเยือนไหลรินมิสิ้นสาย
รสรอยรักปักจินต์ไม่สิ้นคลาย
จวบชีพวายรสรักยังปักทรวง
ว้าวๆๆ
เต็มสิบค่ะ ฮี่ๆๆ
โดย:
แก้วประภัสสร
11 มิถุนายน 2553 18:25:00 น.
แวะมาเยี่ยมค่ะ
แถมได้อ่านงานงามๆ อีกดัวย
โดย:
พธู
11 มิถุนายน 2553 18:42:55 น.
เห็นน้ำเเล้วฉุ่มช่ำหัวใจ..
ตอนนี้ดูข่าวมีแต่น้ำแห้ง..เเล้งไปทุกที่
โคลงเเละกลอนเพราะมากค่ะ
ใช้คำสวยงดงามค่ะ..
โดย:
อาลีอา
11 มิถุนายน 2553 20:10:56 น.
ชอบมากเลยค่ะ
โดย:
genio
11 มิถุนายน 2553 21:35:54 น.
มีความสุขมาก ๆ ค่ะ ...
สายแสงโชติช่วงล้ำ.............เลอมาน ไสวแล
ภพรุ่งเรืองนัยกาล................ไป่กั้น
ฉวยโอกาสปราศพาล...........ภัยเพ่ง
พลันชีพสุขสันต์นั้น.............สว่างน้อมทางบุญ
.... สายแสงโชติ ช่วงล้ำ เลอมานไสว
แลภพรุ่ง - เรืองนัย กาลไป่กั้น
ฉวยโอกาส ปราศพาล - ภัยเพ่งพลัน
ชีพสุขสันต์ นั้นสว่าง น้อมทางบุญ ...
.
.
.
โดย:
ploythana
11 มิถุนายน 2553 23:01:17 น.
มีความสุขมาก ๆ นะคะ ...
ธารหลอมรวม - เลื่อมรุ้ง จรุงจรายเลิศ
ลุ่มงามเฉิด ฉายฉาบ ย้ำภาพฝัน
สื่อรำบาย บรรพ์เหล่า ลีลาศพรรณ
ภาคล้ำเพรียก พร้องผัน โฉมวันคืน ..
... ยังชีพสร้าง เสริมควร ครองส่วนรัก
เสสรวลศักดิ์ พร้อมภักดิ์ ภพหลักฝืน
ชวนฉันท์สุข แสวงแล หลากจุดยืน
รายล้อมชื่น ถ้วนสวัสดิ์ บัญญัติเทอญ ...
..........................................................
..........................................................
.
.
.
โดย:
ploythana
12 มิถุนายน 2553 18:08:13 น.
หวานจัง
โดย:
อาบูรณ์
12 มิถุนายน 2553 19:48:21 น.
มีความสุขมาก ๆ นะคะ ...
... บัวขาวดาว เด่นทั้ง ธานีเลิศ
ลักษณ์สัมผัส มีเพริศ พร้อมเฉิดฉัน
ช่อไมตรี ตรึงเสน่ห์ - นางแลวัน
ผูกสัมพันธ์ น้อมเนื่อง ล้ำเรืองพร ...
บัวขาวดาวเด่นทั้ง.............ธานี
เลิศลักษณ์สัมผัสมี...........เพริศพร้อม
เฉิดฉันช่อไมตรี...............ตรึงเสน่ห์ นางแล
วันผูกสัมพันธ์น้อม............เนื่องล้ำเรืองพร
.
.
.
โดย:
ploythana
13 มิถุนายน 2553 22:06:29 น.
ตามมาเที่ยวอีกครั้ง
อยากลงเล่นน้ำเหมือนสาวน้อยๆ จังค่ะ
โดย:
พธู
14 มิถุนายน 2553 15:21:43 น.
ชื่อ :
Comment :
*ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
Taboonkam
Location :
พิษณุโลก Thailand
[ดู Profile ทั้งหมด]
ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [
?
]
Friends' blogs
Taboonkam
Be Happy ja
prinjaa
กชมนวรรณ
ทากชมพู
manow_noi
บรรณภรณ์
sawkitty
mastana
พลังชีวิต
บินไปในฟ้ากว้าง
walnutsoda
พรานอักษร
ญามี่
OFFBASS
yadapim
flower4290
แก้วประภัสสร
วนารี
นักล่าน้ำตก
yamara-tee
พธู
อาลีอา
กวีน้อยเจ้าสำราญ
ploythana
วฤก
สดายุ...
like 2 hear from u
สุนันยา
คนเดียวที่ต้องการ
Ugly owl
Bua_Jantra
วลีลักษณา
สุระสิทธิ์
pranfun
go far far
พิรุณร่ำ
H. sapiens
Webmaster - BlogGang
[Add Taboonkam's blog to your web]
Links
บ้านกลอนไทย
ชุมชนเพชรพระอุมา
หนองน้ำแห้ง
พจนานุกรม
ค้นหาศัพท์
สายรถเมล์ กทม.
Google
โค้ดแต่งบล็อค ของป้ามด
โค้ดแต่งสีบล็อค ของป้ามด
รายการเพลงสด
วิธีเขียนกลอนกลบท
ชุมชนคนบ้ากลอน
PPU
หนังสือพิมพ์
คำราชาศัพท์
คำไวพจน์
Old song
บ้านหมอนหนุ่ย
สมาคมกลอนแห่งประเทศไทย
อักษรไทย
ถนนกวีพันทิพ
อาศรมชาวโคลง
พจนานุกรมพุทธศาสตร์
ร้อยกรอง
ตรวจงบการเงิน
ชมนมคนรักเพชรพระอุมา
ปัญญาไท
ฝากเพลง
ฝากเพลง w
Bloggang.com
Pantip.com
|
PantipMarket.com
|
Pantown.com
| © 2004
BlogGang.com
allrights reserved.
สาวตาหวานกว๊านพะเยา บทเพลงนี้ สมัยยังเด็กๆ จะนึกถึง ภาพ ป่าเขา น้ำตก ถิ่นแถบทางเหนือ เป็นภาพในจินตนาการของกิ่งโศก นึกถึงครั้งใด ดู เป็นภาพที่ดูร่มเย็น แม้ว่าในชีวิตจริง ของกิ่งโศก ยังไม่เคยไปเยือนแม้แต่ครั้งเดียว
กว๊าน เมือหาความหมายแล้วจะ รวมอยู่ในกลุ่ม ห้วย หนอง คลอง บึง ลำคลอง แม่น้ำ ทะเลสาบ เรียกว่าเป็น สปีซี่เดียวกัน นะแหละครับ
กว๊าน เป็นคำทางเหนือเรียก บึงที่มีขนาดใหญ่
และกว๊านพะเยา ถือว่าเป็นบึงใหญ่
แถบถิ่นล้านนา หรือทางเหนือของไทยนั้น ได้สร้างมนต์เสน่ห์ ให้กลับคนภาคอื่นยิ่งนัก โดยเฉพาะคนภาคกลางเสน่ห์ความงามอันอ่อนช้อย ของสาวทางเหนือ เสน่ห์ความอ่อนช้อยทางวัฒนธรรม รวมไปถึง มนต์เสน่ห์ทางธรรมชาติ
กิ่งโศก เคยคิดไว้ว่าสักไม่นาน อยากไปเห็น สักที แม้นว่าจะช่วงนี้มีภาพ ตามสื่อว่า กว๊านพะเยา ก็ น้ำแห้ง..
แต่ความอยากไป เพื่อ อย่างน้อย ก็จะได้ มีอดีตได้เล่าขานบ้าง..
ครั้งนี้ ที่จริงจะนำเสนอ บทเพลงเกี่ยวกับทางเหนือ เจอ มนต์รักป่าซาง ก็แสนประทับ ใจ และพอมาฟัง กว๊านพะเยา..ยิ่งประทับใจ เลยขอเขียนเรื่องราว ของ กว๊านพะเยาก่อน
ก่อนฟังเพลง เรามาดู ภูมิหลัง ของเมืองนี้กันก่อน พอสังเขปนะครับ
อดีตของเมืองพะเยา
" พะเยา " เป็นเมืองเก่าแก่เมืองหนึ่งในแถบลานนาไทย เดิมมีชื่อว่า " ภูกามยาว " หรือ " พยาว " มีอายุกว่า 900 ปี
ตั้งขึ้นราวปี พ.ศ. 1639 โดยพ่อขุนศรีจอมธรรม กษัตริย์แห่งราชวงศ์ลัวะจังคราชหิรัญนครเงินยางเชียงแสน
และเจริญรุ่งเรืองสูงสุดในสมัยพ่อขุนงำเมือง ซึ่งเป็นพระสหายร่วมน้ำสาบานกับ พ่อขุนเม็งรายแห่งเมืองเชียงราย
และพ่อขุนรามคำแหงกษัตริย์กรุงสุโขทัย ทั้งสามได้กระทำสัตย์ปฏิญาณต่อกันที่ริมแม่น้ำบริเวณวัดสบร่องขุย
โดยหันหลังพิงกัน แม่น้ำนี้จึงได้ชื่อว่าแม่น้ำอิง พระราชาธิราชทั้งสามพระองค์ ได้ทรงกระทำสัตย์ปฏิญาณผูกมิตรทรงดื่มน้ำสัตยาผสมโลหิตจากนิ้วพระหัตถ์ เพื่อเป็นมิตร น้ำร่วมสาบานไม่เป็นศัตรูต่อกัน ณ ฝั่งแม่น้ำอิง เขตเมืองพะเยา
ต่อมามีการเปลี่ยนแปลงการปกครองตามอิทธิพลของอาณาจักรต่างๆ
ที่ผลัดกันมีอำนาจในแถบนี้ จนถึงสมัยกรุงรัตนโกสินทร์ พยาวเปลี่ยนชื่อเป็นพะเยา และรวมอยู่กับจังหวัดเชียงราย
กระทั่งในปี พ.ศ. 2520 จึงได้รับการจัดตั้งขึ้นเป็น " จังหวัดพะเยา " นับเป็นจังหวัดที่ 72 ของประเทศไทย
พระราชาธิราชทั้งสามพระองค์ ได้ทรงกระทำสัตย์ปฏิญาณผูกมิตรทรงดื่มน้ำสัตยาผสมโลหิตจากนิ้วพระหัตถ์ เพื่อเป็นมิตร น้ำร่วมสาบานไม่เป็นศัตรูต่อกัน ณ ฝั่งแม่น้ำอิง เขตเมืองพะเยา
ที่นี้ ลองมาฟังเพลง แม้จะออกแนวลูกทุ่ง แต่เป็นลูกทุ่งสมัยก่อน เรียกว่า เก่าแล้ว คนร้อง คนแต่ง น่าจะไม่อยู่ในโลกแล้วนะครับ
ชื่อเพลงกว๊านพะเยา ตามชื่อบึงใหญ่เลย เนื้อหา ผมว่า เป็นความจำเริญในทางภาษา ที่ ยืมคำคุณ สดายุมาใช้ได้หรือเปล่าก็ไม่รู้ คือ นารีปราโมทย์
สิ่งที่สดับได้ นั่นคือ ธรรมชาติยุคนั้น เป็นแบบบริสุทธิ์ อย่างแท้จริง ซึ่งคงหาไม่ได้แล้วในปัจจุบัน
เชิญร่วม ฟัง..เพลงนี้กันครับ..
เพลง : กว๊านพะเยา
ศิลปิน : สุรพล สมบัติเจริญ
เนื้อเพลง :
.....โอ โอ่โอโอ่โอ้ละเน้อ
ทำบุญจั่งใดเล่าเออ ถึงได้มาเจอสาวเจ้า
น้องอยู่ดงดอย ดินแดนห้วยป่าและเขา
ถิ่นพงไพรในป่าลำเนา กว๊านแห่งพะเยายังงามละเน้อ
.....โอ โอ่โอโอ่โอ้นวลน้อง
เจ้าคงสร้างบุญด้วยทอง ไผมองเห็นจึงหลงเพ้อ
ถึงอยู่พะเยา น้องยังสวยแจ่มเลิศเลอ
สาวเมืองกรุงยังบ่เทียมเธอ ใช่ยอนะเออพี่พูดด้วยใจ
.....เจ้าแต่งตัว ยามเล่นน้ำ เจ้านุ่งกระโจม
เก็บกล้วยไม้มาแซมเสียบผม แลสลวยสวยงามวิไล
เห็นดอกบัวตูม เด่นงามท่ามกลางน้ำใส
เจ้าผุดดำโผแหวกเวียนว่าย ร้องกรีดหวีดไปในเพื่อนหมู่สาว
.....โอ โอ่โอโอ่โอ้ละหนอ
ทำบุญจั่งใดพี่ขอ ยกผลกุศลให้เจ้า
ขอตักบาตรพระ ร่วมเรียงเคียงคู่กับสาว
แม่ตาหวานกว๊านแห่งพะเยา ขอปองฮักเจ้าจนวันชีพวาย
.....เจ้าแต่งตัวยามเล่นน้ำ เจ้านุ่งกระโจม
เก็บกล้วยไม้มาแซมเสียบผม แลสลวยสวยงามวิไล
เห็นดอกบัวตูม เด่นงามท่ามกลางน้ำใส
เจ้าผุดดำโผแหวกเวียนว่าย ร้องกรีดหวีดไปในเพี่อนหมู่สาว
.....โอ โอ่โอโอ่โอ้ละหนอ
ทำบุญจั่งใดพี่ขอ ยกผลกุศลให้เจ้า
ขอตักบาตรพระ ร่วมเรียงเคียงคู่กับสาว
แม่ตาหวานกว๊านแห่งพะเยา ขอปองฮักเจ้าจนวันชีพวาย
เจ้าแต่งตัว ยามเล่นน้ำ เจ้านุ่งกระโจม
เก็บกล้วยไม้มาแซมเสียบผม แลสลวยสวยงามวิไล
เห็นดอกบัวตูม เด่นงามท่ามกลางน้ำใส
เจ้าผุดดำโผแหวกเวียนว่าย ร้องกรีดหวีดไปในเพื่อนหมู่สาว
เป็นภาพที่ชมสาว แล้วมีความรู้สึกว่าไม่อุจาดแต่อย่างใด แต่ชวนเคลิบเคลิ้มตามยิ่ง นะขอรับ..งดงามภายใต้จินตนาการ อย่างยิ่ง...