Italy : เมือง Stresa เที่ยวเกาะ Isola Bella และ Isola Pescatori

สถานที่ท่องเที่ยว : Stresa, Isola Bella, Italy
พิกัด GPS : 45° 53' 43.90" N 8° 31' 38.40" E

ดูแผนที่เพิ่มเติม

Italy: แวะเที่ยวเมือง Stresa เมืองตากอากาศน่ารักๆริมทะเลสาบ Maggiore (Lago Maggiore) ทะเลสาบนี้จะในเขตแดนของสองประเทศคือ สวิส และ อิตาลี่ค่ะ

เมืองนี้เราก็ได้แวะมาด้วยความบังเอิญอีกเช่นกัน เพราะวันนี้จะต้องขับรถยาวไกลจาก Zermatt ไปที่อิตาลี่พักในเขต sestri levante, Liguria รวมๆแล้วจริงๆต้องขับ 4-5 ชั่วโมงเลยต้องหาที่พักสำหรับแวะทานข้าวและเที่ยวเล็กน้อยเพื่อเปลี่ยนบรรยากาศ

วิธีหาเมืองเที่ยวของขิมก็คือเปิด google map แล้วจิ้มตามเมืองที่จะขับผ่านไปเรื่อยๆค่ะ

เห็นที่นี่รูปสวยดี น่าแวะไปเที่ยว ก็เลยลองแวะมาดูค่ะ ถือว่าไม่ผิดหวังเลยทีเดียว

แผนที่คร่าวๆ ว่าเมืองอยู่แถวไหนนะคะ ระหว่างขับรถออกจากพรมแดนของสวิส เข้าอิตาลี่ก็พบกับความแตกต่างค่ะ ช่วงที่วิ่งในสวิส ถนนหนทางดีมาก ไม่มีหลุมบ่อเลย แต่พอเข้าอิตาลี่ปุ้บ ถนนเริ่มแย่เลยค่ะ หลุมเยอะมาก นั่งรถสะเทือนสุดๆ บ้านเรือนเริ่มดูเยอะหนาตาขึ้น แต่ดูเก่าๆโทรมๆกว่าทางสวิสพอสมควรค่ะ แต่พอพ้นช่วงถนนแถวชายแดนไป ก็ทางดีค่ะ

การเดินทางมาเมืองนี้ หากมาโดยรถไฟก็สามารถลงที่สถานี Stresa ได้ ดูเป็นเมืองตากอากาศใหญ่พอสมควร มีโรงแรมสวยๆและวิลล่าริมทะเลสาบดูไฮโซวหลายที่เลยค่ะ

ส่วนที่เที่ยวที่มีชื่อเสียงที่สุดในเมืองนี้ก็คือเกาะ Isola Bella ซึ่งจะมีสวนแบบอิตาเลี่ยนที่มีชื่อเสียงมากๆ และวิลล่าหรูหราศิลปะแบบ Baroque บนเกาะของตระกูล  Borromeo ที่เปิดให้เข้าชมได้ (เป็นตระกูลนายธนาคารที่ร่ำรวยมากๆของอิตาลี่ ตั้งแต่สมัยประมาณช่วงปี 1600's ค่ะ)

เราขับรถมาจอดแถวๆสถานี Mottarone Cable Car ค่ะ มีที่จอดรถสาธารณะแบบหยอดเหรียญแล้วเอาบิลมาวางหน้ารถ จะจอดกี่ชั่วโมงก็ว่าไป จริงๆแล้วเมืองนี้น่าเที่ยวนะคะ สามารถซื้อตั๋วขึ้น cable ไปบนภูเขา ชมวิวมุมสูง และมีสวนสำหรับเล่นรถไฟเหาะจิ๋วลงจากภูเขา วิวสวยและน่าเล่นมากค่ะ แต่เราไม่ได้ขึ้นไป เนื่องจากสมาชิกส่วนใหญ่เที่ยวสวิสมาหลายวัน ขึ้นภูเขามาหลายลูกแล้ว และเรายังต้องเดินทางไปที่พักซึ่งยังอยู่อีกไกล ทำให้ไม่มีเวลาพอจะเที่ยวได้

เผื่อใครสนใจ ลองดูใน link นี้ได้นะคะ

พอจอดรถได้ ก็มีคนของเรือต่างๆมาเสนอขายตั๋วให้เราค่ะ มีทั้งแบบเล็กใหญ่ เรือแบบเป็นรอบๆหรือ taxi boat เลือกดูตามความพอใจได้เลยค่ะ

หากมีเวลาไม่มาก แนะนำว่าแวะแค่เกาะ Isola Bella ก็พอค่ะ จะได้ดูสวนกับ villa สวยๆค่ะ แต่ถ้ามีเวลาเยอะก็เที่ยวสองเกาะเลย วิวระหว่างนั่งเรือก็สวยดีค่ะ

เกาะ Isola Pescatori ระหว่างนั่งเรือ

ส่วนกลุ่มเรา ไปกับเรือชื่อ Lido2000 โดยไปได้ 2 เกาะ ราคาคนละ 10euro (ประมาณ 390 บาท) โดยเรือจะวิ่งไปมาระหว่างเกาะทุกๆ ครึ่งชั่วโมง ก็จำชื่อเรือไว้แล้วมาขึ้นให้ถูกลำค่ะ เค้าจะมีแบบแพคเกจขายรวมค่าเข้า villa ด้วยก็มี แต่เราไม่ได้ซื้อ กะว่าค่อยไปดูบนเกาะ จริงๆแล้วเรากะจะเข้าชมแค่สวนเพราะเวลามีไม่มา แต่ปรากฎว่าไปถึงแล้วเค้าไม่มีขายแยกตั๋วกันค่ะ + เวลาไม่ทันแล้ว ก็เลยอดเข้า แอบเสียใจเบาๆ ได้แต่ปลอบใจว่าเอาเนอะ เดี๋ยวไว้ค่อยไปดู villa ที่ทะเลสาบ como แทนก็แล้วกัน อันนั้นเป็นไฮไล้ท์เลย (แต่สุดท้ายก็อดด้วยค่ะ) ทำให้รูทนี้ในอิตาลี่ จะต้องกลับมาจัดซ้ำใหม่เลย 55555

เกาะแรกที่เรือพามาส่งก็คือเกาะ Isola Pescatori ค่ะ เดิมทีเป็นหมู่บ้านชาวประมง แต่ปัจจุบัน ก็ปรับปรุงทำเป็นร้านค้า ร้านของที่ระลึก ร้านขายเครื่องประดับ handmade น่ารักๆ

ส่วนใหญ่ก็จะเป็นร้านอาหารไว้ต้อนรับนักท่องเที่ยวค่ะ ราคาไม่ค่อยแพง ถ้าจะมาทานข้าวก็ต้องทานที่เกาะนี้จะดีกว่าค่ะมีร้านให้เลือกเยอะ ถ้าบนเกาะ Isola Bella จะร้านน้อยกว่าและคนเยอะด้วยค่ะ อาจจะเพราะบางคนเค้าไม่มาเกาะนี้ ก็เลยไปรวมตัวกันอยู่ที่เกาะ Isola Bella พอเวลาอาหารพอดีก็คนเพียบเลยต้องยืนรอคิว

 เนื่องจากสมาชิกหิวแล้ว เราก็เลยทานข้าวกันเลย เป็นร้านพิซซ่าเล็กๆ ราคาไม่แพงมาก รสชาดถือว่าอร่อยสุดเท่าที่ได้ชิมในทริปค่ะ (น้องสาวคอนเฟิร์มว่าร้านนี้พิซซ่าอร่อยสุด หลังจากชิมพิซซ่าในทริปถึง 7-8 ร้าน 5555555)

ทานข้าวเสร็จก็เดินดูของเล็กน้อย เดินตามตรอกซอกซอยเล็กๆบนเกาะแป๊บเดียวก็ทั่วแล้วค่ะ จะโดนดูดก็ตอนเข้าร้านขายของนี่แหละ พอมีคนได้เข้าไปแล้วก็หายไปเป็นสิบนาทีเลย เลือกของกันเพลินเลยค่ะ

 อากาศดี คนพาครอบครัวมาเที่ยวเยอะเลย

ได้เวลาอันสมควร ก็รีบไปขึ้นเรือเพื่อไปเกาะ Isola Bella ค่ะ ยืนรอเรือแป๊บนึงก็มา อย่าลืมเก็บตั๋วเรือที่คนขายตั๋วให้เราไว้ด้วยนะคะ จะได้ดูชื่อเรือ และตอนเราขึ้นเรือกลับฝั่งเค้าก็ขอดูด้วยค่ะ เรือนั่งสบายๆแป๊บเดียวก็ถึง

เกาะ Isola Bella จะเป็นไฮไลท์เลย เพราะมีวิลล่าสวยๆและมีสวนสไตล์อิตาเลี่ยนที่สวยมาก ในสวนเขาเลี้ยงนกยูงสีขาวให้เดินตามสบายด้วย grand สุดๆ แต่... เราอดเข้าค่ะ เพราะเวลาไม่ทัน T__T เนื่องจากว่าหยอดเหรียญจอดรถไว้แค่สองชั่วโมงนะคะ แล้วก็เสียเวลาไปกับการทานข้าวกลางวันและเดินชอปปิ้งไปพอสมควร ทำให้อดเข้า villa เสียดายมากๆ ตอนแรกเราไม่รู้ว่ามีเวลาแค่ 2 ชั่วโมง ไม่อย่างนั้นคงเลือกไป Isola Bella เกาะเดียวพอค่ะแล้วค่อยไปทานข้าวบนฝั่งเอา

 เรือที่นั่งค่ะ บางรอบก็คนไม่เยอะ นั่งสบายๆ แต่บางรอบที่กลับเข้าฝั่งแถวยาวมากๆ มารอก่อนเวลานิดก็ดีค่ะ

 เรือมาจอดเทียบท่าอยู่เรื่อยๆ มีหลายบริษัท มองย้อนไปทางเกาะ Pescatori สวยดี แอบคิดถึงบรรยากาศที่ Hallstatt ที่นี่ถ้าตอนเช้าๆหมอกลงๆ น่าจะสวยมากๆไม่แพ้มุมมหาชนของ Hallstatt เลยค่ะ

ลงจากเรือก็รีบเดินไป เพราะเวลาเหลือไม่เยอะแล้ว ถ้าจะเข้า villa ต้องเข้าทางทางเข้าใหญ่ๆด้านหน้าเลยนะคะ เราไม่รู้นึกว่าเค้ามีให้แยกทางเข้าเฉพาะสวนได้ (เพราะเรามีเวลาไม่พอที่จะชมวิลล่าด้วยค่ะ) เลยพยายามเดินอ้อมไปด้านหลังสวย ปรากฎว่าพอไปถึงประตูด้านหลังเป็นทางออกอย่างเดียวค่ะ ไม่สามารถเข้าชมสวนได้ ถามคนแถวนั้น เค้าบอกว่าต้องไปซื้อตั๋วและเข้าจากทางหน้าเท่านั้นค่ะ เศร้าเลย

 อันนี้ก็เป็นมุมยอดฮิต  เกาะ Pescatori ถ่ายจากระเบียงของเกาะ Isola bella

 บรรยากาศรอบๆ ช่วงนี้อากาศเริ่มร้อนแล้ว มีแต่คนใส่ขาสั้น สายเดี่ยวมาเดินเล่น

 มองย้อนกลับไปที่เมือง Stresa ตรงสถานี cable ก็มีร้านอาหารค่ะ หากไม่อยากทานบนเกาะ ก็ทานแถวๆฝั่งได้

พอใกล้ถึงเวลา ก็กลับมารอขึ้นเรือค่ะ ที่นี่คนก็เป็นระเบียบดีนะคะ ต่อแถวเข้าคิวขึ้นเรือไม่แซงคิวกันค่ะ เกาะนี้ที่ไปไม่ค่อยเห็นนักท่องเที่ยวชาวเอเชียเท่าไหร่นะคะ ส่วนมากจะเป็นฝรั่งหมดเลย

สวนด้านในจะเป็นสวนแบบอิตาเลี่ยนค่ะ เป็นการจัดสวนแบบโรงละคร เท่าที่เราหาข้อมูลมา สวยงามมากๆน่าชมมากๆ ส่วนวิลล่าด้านในก็มีจัดแสดงของมีค่าต่างๆ มีห้องโถงชั้นล่าง ที่ตกแต่งด้วยเปลือกหอยและหินต่างๆ น่าไปดูค่ะ ค่าเข้าชม villa อาจจะแพงสักนิด (ปี 2017 คนละ 16euro) แต่หากมีโอกาสมาแล้ว ก็น่าแวะเข้าไปชมนะคะ :)

Links: 

อันนี้เป็น blog ของคุณ Chotiros ที่เราดูศึกษาหาข้อมูลตอนจะไปเที่ยว เขียนไว้ละเอียด และมีประโยชน์มากๆ หากใครสนใจลองเข้าไปอ่านดูนะคะ 

//chotirosk.blogspot.com/2014/10/isola-bella.html

website โดยตรงของ villa

//www.isoleborromee.it/eng/isola-bella.html

Create Date : 18 กรกฎาคม 2560		0 comments
Last Update : 18 กรกฎาคม 2560 15:18:41 น.
Counter : 5523 Pageviews.
Share Tweet