Bloggang.com : weblog for you and your gang
Group Blog
สมุดบันทึก
เรื่อง เก๋า เก๋า
Friendship
สมุดวาดเขียน
หลังสมุด
เมื่อดอกไม้บาน
kongratulation
มุมระเบียง
งานกระดาษ
<<
มีนาคม 2549
>>
1
2
3
4
5
6
7
8
9
10
11
12
13
14
15
16
17
18
19
20
21
22
23
24
25
26
27
28
29
30
31
4 มีนาคม 2549
ดวงใจของครูปราณี
All Blogs
1..2..3.....say cheeseeeeeeeeee
Format My Life
ทายนิสัยส่วนตัวกับ dna.imagini ฮับ (ตาอินเอามาให้)
คำสัญญาของชาร์ล็อตต์
หอมน้อยอยากอยู่เงียบๆคนเดียว
What's Taggggggggg !!! O__________o"
เมื่อฉันวาดน้องหมู v - oo - v
You light up my life
เหมือนกับหยดน้ำฝนที่หล่นลงไปบนผิวน้ำที่ราบเรียบ
ตามเขาไปดูงิ้วที่ตลาดน้อย
จดหมายเหตุตลาดน้ำท่าพระจันทร์
...จากตรงนี้ก็ยังไม่รู้จะไปไหนดี...
...Winter , spring , summer or fall...
ยิปซีพเนจร ตอน ตามกลิ่นจำปาลาว
สีสัน วันรับน้อง
ท่าฉลอมกับมหาชัย จะคิดทำไมว่าไกล เชื่อมความรักไว้ดีกว่า
คนหัวสูง
วัน แรก พบ *บล็อกกระชากวัย*
วันดีดี
แล้วเรา...ก็คงจะได้พบกันใหม่
"คนที่คิดถึง" กับความรักของ "คุณแม่"
จ้าวเวหา
ดวงใจของครูปราณี
..ความฝัน..
Simon Says
>( เรื่อง ของ คน เกลียด ปู )<
วิวยามเช้า
ปีใหม่...วันใหม่...
การเดินทางตามหาขุมทรัพย์ที่ปลายฝัน
ความลับของทะเล
เหงา
~ "วันนี้..ขอเป็นเจ้าหญิง 1 วัน" ~
เมื่อฮอบบิท คิด ปีนภูฯ (2)
เมื่อฮอบบิท คิด ปีนภูฯ
...เมื่อหมูดำชำรุด...
บันทึกใต้แสงดาว : ตอนที่ 6 ลมหนาว ดาว เดือน และ โคม
บันทึกใต้แสงดาว : ตอนที่ 5 ร้อง รำ ฮัม เพลง
บันทึกใต้แสงดาว : ตอนที่ 4 I can Fly !!!
เมื่อเมเปิ้ลทิ้งใบ
บันทึกใต้แสงดาว : ตอนที่ 3 ฝูงบินชาววิหคกับแม่ย่านางประจำกลุ่ม
บันทึกใต้แสงดาว : ตอนที่ 2 พี่เลี้ยงงงงงงง
บันทึกใต้แสงดาว : ตอนที่ 1 โหมโรง
โปสการ์ด จาก "เพื่อนสนิท"
++ กังหันกระดาษ กับ จั๊กจั่นมือถือ ++
++ Sembazuru : กระเรียนพัน ++
++ บาทเดียว..ซื้อเพลิน ++
หนึ่งวัน-แม่น้ำห้าสาย (กิมจูสัญจร)
= = น้ำท่วม...ใครว่าดีกว่าฝนแล้ง = =
Teruterubozu..let tomorrow be a fine day
**ขอให้โชคดี ขอบคุณนะที่มาส่ง**
If you miss the train I'm on, you will know that I am gone
คือ...ดอกไม้ของน้ำใจ
เที่ยวงานวัด
โปสการ์ดจากสามพราน...วันดี สีแดง
วันนี้...หนีเที่ยว
อยากจะชวนเธอให้มานับดาว..1 2 3 4 5 6 (เบื้องหลัง)
ดวงใจของครูปราณี
ไปดูเด็กหอมาแล้วค่ะ ^^
จริงๆแล้ว ตามความตั้งใจเดิมอาทิตย์นี้อยากไปเจอเพื่อนคนหนึ่ง ที่ไม่ได้เจอกันนานมาก แต่เผอิญว่ามีเหตุขัดข้อง เลยเปลี่ยนมาเป็นดูหนังแทน
แล้วก็เป็นความจริง ที่ไม่ขอบดูหนังผีในโรงภาพยนต์ เพราะไม่ชอบเวลาหนังเดินเรื่องมาเงียบๆ แล้วจู่ๆก็ใส่เสียงอันดังหวังให้คนตกใจกลัว ซึ่งเราก็กลัวจริงด้วย หนังผีเรื่องสุดท้ายที่กัดฟันไปดูเพราะชอบพล็อตเรื่องก็คือ ซิกส์เซ้นส์
แล้วทำไมเลือกที่จะไปดูเด็กหอ?...
เพราะน้องวิเชียรสุดหล่อของแม่ยกพันทิป?
เพราะน้องชาตรีหวานใจเก่าจากแฟนฉัน?
เพราะพี่ย้งผู้กำกับมาดนิ่ง เพราะ...เพราะ...เพราะ...
ที่ไปดูเพราะชอบ theme ของหนังค่ะ "เพื่อนตาย หาไม่ยากอย่างที่คิด"
อันนี้ theme แรกที่ตึงดูดใจ
แต่พออ่านคำวิจารณ์ + เรื่องย่อ (เรามันคนไม่กลัวสปอยเลอร์อยุ่แล้ว) ยิ่งแน่ใจว่า หนังเรื่องนี้ เป็นอีกเรื่องที่จะพลาดไม่ได้ เพราะสิ่งที่สื่อออกมาผ่านเนื้อเรื่องอันชวนหวาดนั่นก็คือ "เพื่อนแท้"
...ขอเพียงเรามีเพื่อนแท้สักคนคนหนึ่ง เรื่องร้ายต่างๆที่ผ่านเข้ามา มันก็จะผ่านไปราวกับชั่วอึดใจเดียว...
นี่คือบทสรุปของหนัง ที่เราก็คิดว่า เป็นความจริงตลอดกาล
สิ่งหนึ่งที่ประทับใจอย่างมากๆ คือการที่ผู้กำกับได้เลือกใช้เพลง "ดวงใจ" มาเป็นเพลงประกอบเกือบตลอดเรื่อง โดยให้เป็นเพลงที่ครูปราณี ครูคุมหอที่เด็กๆมองว่า "แปลกๆ" ฟังอยู่ตลอดเวลา ทั้งๆที่แผ่นเสียงก็ตกร่องอยู่เฉพาะที่คำว่า ต่างแดน... ต่างแดน... ต่างแดน... แล้วครูปราณีก้เปิดลิ้นชักมองดูอะไรสักอย่าง พร้อมร้องไห้
พฤติกรรมแบบนี้ เป็นใครก็ต้องสงสัยทั้งนั้นแหละ ตำแหน่ง "แปลก" จึงได้มาอย่างไม่ต้องฝ่าฟัน
เนื้อเรื่องก็เดินไป จนมาคลายปมเอาตอนกลางเรื่อง แต่ปมในใจครูปราณีกลับได้รับการคลายเป็นคนสุดท้าย
ปมที่ครูปราณีโทษตัวเองว่า เป็นสาเหตุให้ลูกศิษย์คนหนึ่ง ต้องฆ่าตัวตายเพราะการกระทำของเธอ เป็นความผิดที่เธอไม่สามารถให้อภัยตัวเองได้ ไม่สามารถปลดปล่อยตัวเองออกจากความผิดนี้ เหมือนแผ่นเสียงที่ตกอยู่ ไม่สามารถเล่นเพลงท่อนต่อไปได้
หลายคนในเว็บบอร์ดเคยพูดถึงประเด็นเรื่องเพลงประกอบหนังเรื่องเด็กหอไว้แล้ว โดยเฉพาะเพลง "ดวงใจ" เพลงนี้เป็นเพลงประกอบภาพยนต์เก่าเรื่อง เพชรตัดเพชร (พ.ศ.2509) นำแสดงโดยคู่ขวัญตลอดกาล มิตร - เพชรา หลายคนชมว่า เลือกเพลงได้เหมาะกับหนังเป็นอย่างมาก เพราะเนื้อเพลงได้สื่อให้เห็นถึงความสัมพันธ์ฉันเพื่อน ระหว่าง ชาตรี และ วิเชียร ที่ก้าวผ่านข้อจำกัดเรื่องของลมหายใจและความกลัว เป็นมิตรภาพที่อยู่เหนือทุกสิ่งทุกอย่าง ฉากที่ชาตรีต้องการช่วยเพื่อนให้พ้นบ่วงกรรม จึงก่อให้เกิดควาสะเทือนใจอย่างสูง
สำหรับเราแล้ว เพลงดวงใจ น่าจะสื่อถึงความรัก ความเคารพ ความรู้สึกที่วิเชียรมีต่อครูปราณีได้ด้วยเช่นกัน จนแอบคิดว่า มันน่าจะหนักแน่นกว่าการสื่อถึงมิตรภาพระหว่างเพื่อนด้วยซ้ำไป เพราะในฉากสุดท้าย เมื่อครูปราณีได้ฟังเรื่องราวความจริงแต่หนหลังทั้งหมด ว่าสิ่งที่เกิดขึ้นไม่ได้เป็นเพราะการกระทำของตน พร้อมกับรับรู้ถึงความเคารพรักที่วิเชียรมีต่อครู น้ำตาครูปราณีจึงไหลพร้อมกับแผ่นเสียงที่เล่นท่อนต่อไปโดยไม่ติดขัดที่เดิมอีกต่อไป
ดวงใจ....ทุกคนมีสิทธิ์จะรักกันได้
ถึงอยู่ห่างไกล ก็ยังส่งใจไปถึง
อ้อมแขนของฉัน คอยสัมพันธ์รักอันตราตรึง
คอยวันสุดซึ้ง จากดวงใจ ที่จริงจังมั่นคง
เธอเป็นคนต่างแดน แต่แนบแน่นด้วยไมตรีสูงส่ง
มีใจรักมั่นคง ไม่มีผู้ใดเสมอ
เธอเป็นความสว่าง พร่างดังเพชร ประกายเลิศเลอ
ฉันได้จุมพิตจากเธอ ฉันภูมิใจ และสุขใจทุกคืนวัน......
เราคิดว่า วิเชียรคงอยากจะบอกอะไรอีกหลายต่อหลายสิ่งต่อครูปราณี ในฐานะครูที่รักลูกศิษย์ ถึงขนาดโทษตัวเองในความตายของลูกศิษย์อันเป็นที่รัก ในฐานะที่อยู่ในบทบาทเดียวกันกับครูปราณี เราจึงซาบซึ้งใจกับฉากนี้มากกว่าฉากอื่นๆ
การได้รับคำชมเพียงเล็กๆน้อย หรือการได้เห็นลูกศิษย์ได้ดีในทางที่ดี ก็คงทำให้ครูทุกคนรู้สึกอิ่บเอิบใจ
ตัวเราเองก็ฟังเพลงนี้มาตั้งแต่เด็ก เมื่อเยื่อไม้เอามาร้องใหม่ในชุดเพลงประกอบภาพยนต์เก่า เราก็ซื้อเทปเก็บไว้ น่าเสียดาย ที่ตอนนี้หาไม่เจอ ไม่อย่างนั้น ก็จะเอามาแปะให้ฟังกัน
ขอขอบคุณ ฮก สำหรับ midi เพลงดวงใจค่ะ
Create Date : 04 มีนาคม 2549
Last Update : 6 มีนาคม 2549 19:22:13 น.
5 comments
Counter : 3210 Pageviews.
Share
Tweet
อีกสักนิด ฉากที่อึ้ง
ตอนที่ชาตรีรับรู้แล้วว่าวิเชียรเป็นใคร เป็นอะไร
ชาตรีบอกกับวิ้เชียรว่า รู้มั้ยว่าเขากับวิเชียรเหมือนกันตรงไหน
.
.
.
เหมือนกันตรงที่ การมีตัวตนที่ไม่อยู่ในสายตาของคนอื่น
เราขนลุก ไม่ใช่เพียงเพราะความตื้นตันใจ แต่เราเคยมีความรู้สึกแบบเดียวกันนี้ครั้งนึง ในความฝัน เราเคยฝันว่า ตัวเราตายไปแล้ว แต่ยังคงวนเวียนในที่เดิม ที่บ้านของเราเอง ความคิดในตอนนั้น เหมือนวิเชียรไม่มีผิด คือ เรายังคิดว่าเรายังอยู่ แต่ไม่มีใครเห็นเราเลย เรายังทำกิจกรรมเดิมๆอยู่ แต่ไม่มีใครทำร่วมกับเราเลย
ถ้าเป็นวิญญาณแบบวิเชียรไปเลยน่าจะดีกว่า เพราะอย่างน้อยก็พอยอมรับได้ว่าตัวเองไม่มีตัวตนแล้ว ในขณะที่ชาตรี มีตัวตน จับต้องได้ แต่ไม่อยู่ในสายตาใครเลย
(วงเล็บ ในความคิดของชาตรีนะ เพราะเขาเลือกที่จะเชื่อเช่นนั้น)
โดย: กจ IP: 202.5.87.151 วันที่: 4 มีนาคม 2549 เวลา:21:42:21 น.
เข้ามาอ่าน
โดย: ปมทร. IP: 58.11.68.10 วันที่: 6 มีนาคม 2549 เวลา:15:43:44 น.
"เพื่อนตาย หาไม่ยากอย่างที่คิด"
^
^
อืม.. "เพื่อนสนิท" ที่ถูกจับวางไว้ในตำแหน่ง "เพื่อนแท้" ก็หาได้ไม่ยากอย่างที่คิด จริงไหมป้ากิมจู
โดย: ตุ๊กแกปีศาจ IP: 202.28.181.7 วันที่: 7 มีนาคม 2549 เวลา:0:02:18 น.
เข้ามา แล้วก็ scroll down มาจนถึงกล่องที่ให้พิมพ์นี่แหละ
กะว่าจะไปดูอยู่อ่ะ หวังว่าคงไม่รีบออกนะ
โดย: IP: 61.47.104.244 วันที่: 8 มีนาคม 2549 เวลา:17:08:27 น.
^
^
ทำไมชื่อไม่ขึ้นล่ะเนี่ย ???
โดย: ก่ายยย... (
ก่ายยย...
) วันที่: 8 มีนาคม 2549 เวลา:17:13:15 น.
ชื่อ :
Comment :
*ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
Meliot Baggins
Location :
กรุงเทพ Thailand
[ดู Profile ทั้งหมด]
ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
ผู้ติดตามบล็อก : 3 คน [
?
]
สวัสดีค่ะ ... กลับมาแล้วค่ะ
อัพบล็อกใหม่แล้วค่ะ
... ชมสวนที่คาดว่า จะอังกิ๊ด อังกฤษได้ที่กรุ๊ป
เมื่อดอกไม้บาน
...ภาพงานกระดาษของขวัญวันแต่งงาน ที่กรุ๊ป
งานกระดาษ
ค่ะ
Friends' blogs
ก่ายยย...
ตาอิน
ลุงมะละกอ
กระต่ายน้อยท่าพระจันทร์
บบ
มม
พต
ชมนร
ลุงเดี้ยง
วัชชี่
ลุงแอลจี้
หมีเอ็ม
นาย dont
fakeplasticgirl
Qooma
uggie*
Candydolls
nsk
"ผมอยู่ข้างหลังคุณ"
jan_tanoshii
the grinning cheshire cat
wj42
กึ่งยิงกึ่งผ่าน
Cozmen
KOok_k
tuktikmatt
fozzil
parawarm
Webmaster - BlogGang
[Add Meliot Baggins's blog to your web]
Links
มัลติพลาย
เรารักโปสการ์ด
หอมน้อย
ห้องต้นไม้
BlogGang.com
Pantip.com
|
PantipMarket.com
|
Pantown.com
| © 2004
BlogGang.com
allrights reserved.
ตอนที่ชาตรีรับรู้แล้วว่าวิเชียรเป็นใคร เป็นอะไร
ชาตรีบอกกับวิ้เชียรว่า รู้มั้ยว่าเขากับวิเชียรเหมือนกันตรงไหน
.
.
.
เหมือนกันตรงที่ การมีตัวตนที่ไม่อยู่ในสายตาของคนอื่น
เราขนลุก ไม่ใช่เพียงเพราะความตื้นตันใจ แต่เราเคยมีความรู้สึกแบบเดียวกันนี้ครั้งนึง ในความฝัน เราเคยฝันว่า ตัวเราตายไปแล้ว แต่ยังคงวนเวียนในที่เดิม ที่บ้านของเราเอง ความคิดในตอนนั้น เหมือนวิเชียรไม่มีผิด คือ เรายังคิดว่าเรายังอยู่ แต่ไม่มีใครเห็นเราเลย เรายังทำกิจกรรมเดิมๆอยู่ แต่ไม่มีใครทำร่วมกับเราเลย
ถ้าเป็นวิญญาณแบบวิเชียรไปเลยน่าจะดีกว่า เพราะอย่างน้อยก็พอยอมรับได้ว่าตัวเองไม่มีตัวตนแล้ว ในขณะที่ชาตรี มีตัวตน จับต้องได้ แต่ไม่อยู่ในสายตาใครเลย
(วงเล็บ ในความคิดของชาตรีนะ เพราะเขาเลือกที่จะเชื่อเช่นนั้น)