ไม่ว่าฤดูร้อนปีไหนๆ กลางวันและกลางคืนที่ผ่านไป คงเป็นเวลาที่เท่ากันเสมอ
space
space
space
<<
มีนาคม 2568
 
 1
2345678
9101112131415
16171819202122
23242526272829
3031 
space
space
4 มีนาคม 2568
space
space
space

ความมืดดำ
         ณ เวลาเดียวกัน ห่างเพียงไม่กี่กิโลเมตร
         ต้นไม้แห่งกาลเวลายืนต้นให้ร่มอยู่ใจกลางสนามกีฬากลางเล็กๆ แห่งหนึ่งของหมู่บ้าน ระริกระรี้ใบล้อแดดพอๆ กับต้นมะขามเทศที่เห็นกันได้แต่ไกล ข้ามถนนสายเล็กๆ ไปจะมีอาคารกึ่งเก่ากึ่งใหม่ที่โรยราไปตามยุคสมัยแห่งหนึ่งตั้งอยู่ เป็นหอสมุดของหมู่บ้านที่น่าจะมีมาราวๆ 50 ปีเห็นจะได้ มันก็ยังคงเป็นห้องสมุดที่มีเพียงเด็กๆ วิ่งเข้าวิ่งออก ทั้งๆ ที่ในนั้นซ่อนความรู้ขนาดมหึมาไว้เงียบๆ
         เสียงอึกทึกของผู้คนที่นั่นปรากฏขึ้น ยามเหตุการณ์หนึ่งดังแว่วมาให้ได้ยิน
         ตำรวจรวบตัวหัวขโมยคนหนึ่ง พาเดินขึ้นบันไดสถานีตำรวจที่พวกชาวบ้านเรียกสั้นๆ ว่าโรงพัก หน้าตาและปากที่บิดเบี้ยวของหมอนั่นดูเหิมเกริม แลกระหยิ่มภูมิใจในตนเสียด้วยซ้ำ สายตาที่หรี่มองผู้คนกราดไปทั่ว แสยะยิ้มแล้วแสยะยิ้มอีก เดินตามเจ้าหน้าที่ และแล้ว...ก็สะเดาะกุญแจมือหลุดราวกับมีอาคม
         ชาวบ้านที่มองดูวิ่งกันให้พล่าน รีบวิ่งเข้าบ้านท่ามกลางบรรยากาศที่งดงามเวิ้งหนึ่งของฤดู จอมโจรประจำหมู่บ้านที่ใครๆ ก็รู้จักกันดีในนามของ ‘ศรถู’ วิ่งกระโดดข้ามรั้วกำแพงปูนไปทั้งๆ ถนนก็มีให้ผ่าน ดูทรงโครงร่างและสติปัญญาของหมอนี่แล้ว มันเพี้ยน แต่ก็มีความบ้าที่ทำให้ตัวเองรอดจากตำรวจได้หลายครั้งโดยที่ใครๆ หลายคนก็แปลกใจ
         ‘กอบกุล กินรี’ เห็นเหตุการณ์ขณะที่นั่งเปิดหนังสือและมองออกไปนอกหน้าต่างของหอสมุด ใบหน้าคมสันที่มีไฝประดับขับใบหน้าที่หล่อเหลาให้ดูเก๋หันมองตามการวิ่งของจอมโจรประจำหมู่บ้าน จ้องตาแทบไม่กระพริบ เพื่อนข้างๆ ของเขาอีกคนหันมามอง ดูเหตุการณ์นั้นโดยไม่ส่อแววตระหนก
         “มันจะวิ่งไปไหนวะ”
         “ไม่รู้กับมัน”
         ใบหน้ากว้างคางคมของ ‘พยุหะ คมบาก’ หันไปมองเพื่อนอย่างปราศจากความหมาย ยิ้มกว้างๆ เสียหนึ่งที ไม่ยี่หระต่อสถานการณ์ จวบจนเสียงกรีดร้องดังขึ้นเมื่อศรถูเอามีดจ่อคอหอยเจ้าหน้าที่หอสมุด
         “กูฆ่าแน่”
         กอบกุลและพยุหะตระหนกได้ก็คราวนี้
         คิดในใจ...จะทำอย่างไรในสถานการณ์เช่นนี้
         จวบจนรถกระบะเก่าๆ สีแดงคันหนึ่งเปิดเพลงดังกระหึ่มเคลื่อนมาจอด
         หนุ่มร่างบาง ผิวขาว ใบหน้าหล่อเหลาราวกับหยกที่ถูกสลัก ไหวกายเปิดประตูรถออกมา
         ‘นาวา วจีระ’ ก้มลงมองดูล้อรถของตนว่ามีอะไรผิดแผกไปไหม
         ขณะที่ ‘ภาคย์ เพลิงดรุณ’ หนุ่มผิวสีน้ำผึ้งนั่งผิวปากกระดิกเท้าอยู่ในรถอย่างสบายใจ สายตาที่และดูฉลาดและเจ้าเล่ห์แลมองนาวาผ่านหน้าต่างชั่วแวบหนึ่ง ก่อนที่จะยักคิ้วเก๋ของตนเล่นทำเป็นทองไม่รู้ร้อน
         “ภาคย์ เพราะแก”
         “ทำไมวะ”
         “ล้อรถฉัน”
         “เออ ทำไม...ยางแตกเหรอ”
         “ไม่ หมามันฉี่รด”
         “เพิ่งรู้ตอนนี้เนี่ยนะไอ้นาวา”
         “เออ”
         สิ้นเสียงรับคำอย่างฉุนๆ ของนาวา เสียงหนึ่งที่แสนเหี้ยมเกรียมก็ยังแว่วมาให้ได้ยินอีกระลอก
         “รู้ไหมว่ากู สอ-ระ-ถู ฆ่าตุ๊กแกมากี่ตัวแล้ว” จอมวายร้ายเบะปาก เหมือนพูดเล่นแต่มีดที่มันถือจ่อคอเจ้าหน้าที่ห้องสมุดเป็นของจริง
         คม...และเริ่มสะกิดผิวเนื้อของหญิงวัยกลางคนที่ถูกจับคนนั้นแล้ว
         “เฮ้ย” นาวาเอ่ยเมื่อเห็นเหตุการณ์ สรถูหันมามอง
         “เฮ้ยบ้าอะไร หรือมึงจะเอาเรื่องกับกู ไอ้นาวา”
         “ใจเย็นๆ พี่ศรถู ปล่อยมีดในมือก่อน”
         “สอระถูเว้ย เรียกให้ถูก ปล่อยให้โง่สิวะ” ว่าพลางแสยะยิ้ม มีดในมือของจอมวายร้ายกลับหล่นลงไปบนพื้นจริงๆ
         กอบกุลวิ่งเข้าถีบร่างของศรถูอย่างไม่ให้ตั้งตัวติด พยุหะดึงตัวน้าผู้หญิงวัยกลางคนผู้เป็นเจ้าหน้าที่หอสมุดคนนั้นออกมา ศรถูล้มลงไปที่พื้นทำหน้าเหยเก
         “มึง” พูดได้เพียงแค่คำเดียว ตำรวจก็เข้าล้อมพื้นที่ ยกปืนขึ้นชี้ไปที่ร่างของศรถู
         “ยอมมอบตัวเสียดีๆ” เจ้าหน้าที่ตำรวจนายหนึ่งกล่าว ขณะที่บางนายเริ่มเข้าถึงตัวศรถูและหาทางจับกุมแล้ว
         แต่ก็เป็นอันหลุดไปเสียทุกครั้ง
         ตัวศรถู ลื่น...ราวกับปลาไหล
         ร่างเพรียวเล็กพลิ้วไหวไปบนท้องถนนจนใครไม่ทันที่จะไล่จับตัวได้
         นาวาทำทีจะเดินขึ้นรถกระบะ หากแต่ว่าพอคลำกระเป๋าแล้ว เหมือนมีอะไรสักอย่างของเขาหายไป ข้างๆ กันนั้นพยุหะก็มองเจ้าหน้าที่หอสมุดนิ่ง
         “กระเป๋าเงินหาย” นาวาพูด เจ้าหน้าที่ห้องสมุดคลำข้าวของๆ ตน สีหน้ายู่ยี่
         “เดี๋ยวผมตามไปเอามาให้ครับ” พยุหะกล่าวกับเจ้าหน้าที่ผู้หญิงวัยกลางคนผู้นั้น
         “ไปด้วย” กอบกุลรีบกระโดดขึ้นท้ายรถกระบะของนาวา พยุหะกระโดดตาม นาวารับคำสั้นๆ ก็ติดเครื่องรถ มีภาคย์หันมามองดูเหมือนถาม
         “ไอ้พวกนี้คิดจะจับโจรกันรึไง แย่งงานตำรวจกันดีพิลึก” ภาคย์ว่าแล้วก็ส่ายหัว
         รถของนาวาแล่นไปบนถนน พยายามเดาทางไล่ดักหน้าศรถู และมันก็เป็นเช่นนั้นจริงๆ พอข้ามพ้นรางรถไฟมา ศรถูก็โผล่ออกมาจากพงไม้ พอเห็นรถกระบะของนาวาแล่นไล่หลังมาก็ตกใจ วิ่งแจ้นราวกับไม่มีความเหน็ดเหนื่อย
         “พี่ถู เอาเงินผมคืนมา”
         ศรถูหันหลังมาเบะปากแสยะยิ้มให้ครั้งหนึ่งแล้วก็ทำท่ายียวน วิ่งไม่คิดชีวิต
         นาวาหักพวงมาลัยรถพุ่งเข้าใต้ต้นจามจุรีใหญ่ที่ทอดกิ่งก้านสาขาจนดูเหมือนจะมิดท้องฟ้า กระโดดลงรถแล้ววิ่งตามไปโดยไม่ได้คิดอะไรอีก พรรคพวกอีกสามคนตามกันมาติดๆ
         พวกเขาวิ่งไล่ศรถูจนหอบ พอวิ่งไปเรื่อยๆ ฟ้าก็แลแปลกตาขึ้น เพียงแต่ไม่มีใครสังเกตเห็น
         นาวา วิ่งตามมาเพื่อเอากระเป๋าเงินของตนคืน
         ภาคย์ พลอยสนุกและระอาไปด้วย
         พยุหะ กะทวงกระเป๋าเงินของเจ้าหน้าที่หอสมุดคืน
         กอบกุล ตามเพื่อนเพื่อร่วมช่วยเหลือพยุหะ
         พวกเขาทั้งหมดรู้จักกัน เพราะเคยร่วมโรงเรียนเดียวกัน ในวันเวลาที่เรียนอยู่มัธยมต้น
         แต่เรื่องราวที่กำลังดำเนินต่อไป จะเป็นความบังเอิญที่เราไม่รู้เหตุผลกระนั้นหรือ
         ที่กำลังจะเกิดขึ้น...กับพวกเขา


ในรูปแบบ E-Book ที่
MEB https://shorturl.at/0JlKy
Pinto https://pintobook.com/sl/thbdzeqirs



Create Date : 04 มีนาคม 2568
Last Update : 9 มีนาคม 2568 10:39:26 น. 0 comments
Counter : 26 Pageviews.
(โหวต blog นี้) 

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 
space

คิมหันต์วิษุวัต
Location :


[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?]




เป็นความฝัน ดวงตะวัน กลางคืนเที่ยง
ที่ร้อยเรียง ความทรงจำ อันล้ำค่า
เล่าให้ฟัง ใต้ต้นไม้ แต่นานมา
จึงเล่าผ่าน อักษรา เป็นความเรียง

space
space
[Add คิมหันต์วิษุวัต's blog to your web]
space
space
space
space
space