|
|
| 1 |
2 | 3 | 4 | 5 | 6 | 7 | 8 |
9 | 10 | 11 | 12 | 13 | 14 | 15 |
16 | 17 | 18 | 19 | 20 | 21 | 22 |
23 | 24 | 25 | 26 | 27 | 28 | |
|
 |
|
ดอกมะขามเทศนี้เคยเห็นเป็นประจักษ์ |
|
ดอกมะขามเทศนี้เคยเห็นเป็นประจักษ์ ออกดอกแล้วออกผล และร่วง ประจักษ์แล้วซึ่งดวง- ตาชัด ดอกมะขามเทศ เคยยลเรื่อง- ราวเก่า หากให้เล่าคงได้เล่า เรื่องเล่า เราเอง มะขามเทศต้นใหญ่ออกดอกงาม ผลให้คนได้เก็บกิน หากต้นมะขามนี้พึงมีความทรงจำต่อการรับรู้ในคราวนั้น ก็คงพอจะจดจำเรื่องราวได้บ้างว่าเกิดอะไรขึ้น โดยเริ่มแรกยามดอกผลิออก สถานที่นั่นก็เป็นลานดินกว้างขวางดูสะอาดตา ขนานไปกับเส้นทางรถไฟที่แล่นผ่านทุกเมื่อเชื่อวัน สายลมบนที่กระทบกับดอกนั้นคงทำให้สดชื่นหากรู้สึกได้ ทิวทัศน์ที่มองเห็นตรงนั้นก็น่าจะเข้าทีถ้าดอกไม้มีตา คงได้เห็นอาณาบริเวณในยุคปี 253X กว่าๆ ได้ในโทนสีชาที่ดูจะ Classic พอเป็นพงรกเข้าหน่อย ก็มีคนมาแอบฉี่ใต้ต้นมะขามเทศนั้น รวมไปถึงเคยมีคนมาขอหวยแล้วถูกรางวัลใหญ่หลายแสน ถึงขั้นตั้งโต๊ะไหว้เทพารักษ์ประจำต้นมะขามเทศเลยทีเดียว ตรงข้ามต้นมะขามเทศเป็นบ้านของน้องชาย ถัดไปเป็นร้านก๋วยเตี๋ยว และถัดไปเป็นร้านขายของชำ ต้นมะขามเทศงอกที่ตรงนี้ยามที่ตลาดดั้งเดิมใกล้ถึงเวลาเสื่อมโทรมลงแล้ว แต่ทว่าเส้นทางเล็กๆ ที่ทอดผ่านตรงที่ยืนต้นอยู่นี้ก็ยังพอมีร้านรวงที่ยังคงตั้งร้านขายสินค้าอยู่ ไอ้ตี๋ลั้งเป็นหลานเจ้าของร้านขายของชำ ส่วนยัยยัวะเป็นหลานเจ้าของร้านก๋วยเตี๋ยว น้องชายเป็นลูกเจ้าของร้านขายของชำและเครื่องใช้ต่างๆ ร้อยวันพันปีที่ไอ้ตี๋ลั้งไม่เคยจะเล่นกับน้องชาย ก็ด้วยความหมั่นไส้ของทั้งสองที่มีต่อกัน ไอ้ตี๋ลั้งมีน้องสาวชื่อยัยลี้ เป็นเด็กห้าวประจำหมู่บ้าน ตี๋ลังจึงไม่ค่อยเล่นกับใครนอกจากน้องสาวของมัน ไอ้ตี๋ลั้งมันปรารถนาจะมีน้องเป็นผู้ชาย จึงพยายามกล่อมเกลาให้ยัยลี้เล่นต่อสู้ด้วย ยัยลี้ไม่ค่อยอยากเล่นสักเท่าไหร่ แต่พอนานไปกลับมีทักษะในการเตะเหนือกว่าตี๋ลั้งผู้เป็นพี่ วันดีคืนดีน้องชายไปล้ำอาณาเขตของตี๋ลั้งเข้า ตี๋ลั้งไม่พอใจกำลังคิดหาวิธีกำจัดน้องชายโดยละม่อม เป็นอันว่าหมั่นไส้กันไปมาไม่กี่วัน ไอ้ตี๋ลั้งก็ไปเล่นกับน้องชายราวกับสนิทกันมาแต่ชาติปางก่อน ยัยลี้เลยจำต้องเล่นคนเดียวในบ้าน ลานใต้ต้นมะขามเทศที่ไอ้ตี๋ลั้งกับน้องชายไม่รู้ว่าดอกมะขามเทศเป็นประจักษ์พยานอยู่ ก็ยังเห็นไอ้ตี๋ลั้งกับน้องชายไปยืนฉี่ใต้ต้นมะขามเทศ หนักข้อเข้าไปคือไปแกล้งหมาโดยการฉี่ใส่กระโถนข้าวมัน น้องชายเป็นผู้นำเรื่องอุตริเช่นนี้ให้รุ่นพี่อย่างตี๋ลั้งทำ ตี๋ลั้งก็เสือกทำตามรุ่นน้องโดยไม่ยั้งคิด ตอนนั้นเป็นช่วงที่ธนาคารแห่งหนึ่งมาเปิดสำนักงานทำการที่นั่น มียามชุดเขียวมาเฝ้าและอำนวยความสะดวก และก็เป็นยามนั่นแหละที่จับไอ้เด็กสองคนที่อุตริทำเรื่องที่ไม่น่าให้อภัย ไอ้ตี๋ลั้งกับน้องชายจึงย้ายที่เล่นไปยังใต้ร่มจามจุรีแทน พากันปั่นจักรยานไปโน่นนี่ได้ไม่ไกลก็กลับมาใต้ต้นมะขามเทศดังเดิม “นี่ โอเว่อร์เรนเจอร์” น้องชายชี้ตัวละครขบวนการอะไรสักอย่างให้ตี๋ลั้งดู “นี่...ชาย” น้องชายชี้ตัวสีแดงที่เป็นพระเอก “แล้วนี่ก็พ่อ แม่ พี่ไม้ เจ๊รัน” ตี๋ลั้งคิดในใจ ไม่มีฉันเป็นพวกเดียวกับแกในขบวนการเลยรึไงวะ และบางวัน...ใต้ต้นไม้แห่งนั้น ตี๋ลั้งก็หักยาอมโบตันแผ่นสีเข้มกิน น้องชายถามว่า “กินอะไรอ่ะ” “โบ ตัน” “ขอลองหน่อย” ไอ้ตี๋ลั้งหักเจียดยาอมแผ่นนั้นให้น้องชายลิ้มรสแปลกๆ แต่ภายหลังกับรู้รสหวานชุ่มคอ “ขออีกซิ” ตี๋ลั้งหักเจียดให้ไปอีกแผ่นใหญ่กว่าเดิม สักพัก...พอตี๋ลั้งกลับบ้านไปแล้ว น้องชายวิ่งไปขอยาอมโบตันจากแม่ มันถูกตั้งดูสวยหรูอยู่ในตู้ไม้กระจกสำหรับใส่ของจำพวกลูกอมขาย แม่ของน้องชายไม่ยอมให้ “ไม่ได้ กินมากเดี๋ยวมันจะติด” ในขณะเดียวกันที่ไอ้ตี๋ลั้งเดินกลับบ้านไปแล้ว แม่ของตี๋ลั้งก็บ่น “นี่ไปเล่นยังไง ทิ้งน้องลี้ให้อยู่คนเดียว น้องลี้เหงา” ไอ้ตี๋ลั้งซึม คิดหาวิธีจะพายัยลี้ไปเล่นด้วย จึงเดินพาร่างเล็กผมทรงกะลาครอบหัวเดินไปในยามเย็นของวันเดียวกันนั้น ตอนแรกตี๋ลั้งพายัยลี้ไปคอยดูลาดเลาใต้ต้นมะขามเทศก่อน นึกถึงวันที่ไปเล่นเครื่องเกมส์ของน้องชายก็นึกในใจว่า ไอ้เด็กนี่เล่นเกมส์มาริโอ้อ่อนชิบหาย ขณะที่น้องชายพาขึ้นไปบนห้องนอน ความทรงจำของตัวต่อการ์ตูนเต็มห้อง สมุดระบายสีภาพการ์ตูนฮิตวางเรียงรายกันราว Show Room ก็ทำให้ความรู้สึกตื่นเต้นของตี๋ลั้งโลดแล่น รวยชิบหาย ไม่ทันที่จะคิดต่อว่าน้องชายจะชวนเขาเล่นอะไรต่อ ก็ตื่นจากภวังค์ “ไปยัยลี้ เข้าไปเล่นกับน้องชายกัน” มันเป็นยามเย็นที่พระอาทิตย์ยังไม่ราไปง่ายๆ บ้านของน้องชายคล้ายไม่มีคน พอตี๋ลั้งกับยัยลี้เดินเข้าไปก็ได้ยินเสียงร้องเพลงของเด็กดังมาจากประตูห้องน้ำที่เปิดอ้าไว้ ภาพของน้องชายที่เปลือยกายอาบน้ำอยู่ในอ่างสีฟ้าสำหรับเด็ก น้ำปริ่ม มีเป็ดเหลืองลอยน้ำ เสียงร่าเริงกำลังร้องเพลงไปพร้อมๆ กับแม่ของเขาที่กำลังถูตัวให้ ยัยลี้อายุน้อยกว่าน้องชายหนึ่งปี ยืนมองภาพนั้นตาไม่กะพริบ ตี๋ลั้งก็มองเช่นกัน แต่มองในความหมายว่า อาบน้ำเสร็จแล้วมาเล่นด้วยกันนะน้องชาย น้องชายหยุดร้องเพลงยามที่ตาทั้งสองคู่ของตี๋ลั้งและยัยลี้จ้องอยู่นาน เขาสะดุ้งสุดตัวยามเมื่อรู้ตัว แม่ของน้องชายจ้องตี๋ลั้งกับยายลี้ราวกับตำหนิในสายตาว่าไม่มีมารยาท ส่วนน้องชายร้องไห้โฮ เขาไม่อยากให้ใครมาเห็นในสภาพเด็กน้อยเช่นนี้ หรือมิเช่นนั้นก็เพราะไม่อาจทนต่อความอายที่ผู้หญิงมาเห็นตอนอาบน้ำ ซึ่งน่าจะเป็นเหตุผลที่เป็นข้อเท็จจริงที่สุดที่พิสูจน์ได้ ยัยลี้ยังคงจ้อง น้องชายก็ร้องห่มร้องไห้ราวกับกลัวใครจะเห็นน้องชายของตนทั้งๆ ที่มุมบังของอ่างก็ยังบดบังไว้จนมิด ตี๋ลั้งรู้ตัว จูงน้องสาวกลับบ้าน หลังจากนั้นก็ไม่ได้มาเล่นกับน้องชายอีกเลย ต้นมะขามเทศต้นนั้นล่วงรู้ทุกอย่าง นั่นคือเวลาของเด็กที่ได้ใช้เวลาร่วมกันเพียงเสี้ยววานของวันคืนเก่าๆ ความทรงจำที่ดีเปรียบประหนึ่งดอกมะขามเทศที่สะพรั่ง บ้างก็ให้ผลเป็นมะขามเทศแสนอร่อยที่น้องชายยังหาไม้มาสอยกินในภายหลัง บ้างก็เหี่ยวแห้งโรยราร่วงหล่นลงพื้นไป ย่อยสลายถมปฐพีให้คุณประโยชน์อีกด้านหนึ่ง ที่สุดแล้ววันเวลาที่น้องชายกลัวคนเห็นน้องชายของน้องชาย ก็ได้ผ่านพ้นไป...
#หนึ่งถ้อยบุปผา โดย #คิมหันต์วิษุวัต อ่านได้ฟรีที่ #MEB 🌸 https://www.mebmarket.com/web/index.php?action=BookDetails&data=YToyOntzOjc6InVzZXJfaWQiO3M6NzoiMTg5NDA3MCI7czo3OiJib29rX2lkIjtzOjY6IjM0OTc1NyI7fQ
Create Date : 13 กุมภาพันธ์ 2568 |
Last Update : 13 กุมภาพันธ์ 2568 14:43:31 น. |
|
1 comments
|
Counter : 218 Pageviews. |
 |
|
|
โดย: **mp5** วันที่: 13 กุมภาพันธ์ 2568 เวลา:16:07:38 น. |
|
|
|
|
|
 |
|
|
|
 |
ฝากข้อความหลังไมค์ |
 |
Rss Feed |
 | Smember |  | ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?]

|
เป็นความฝัน ดวงตะวัน กลางคืนเที่ยง ที่ร้อยเรียง ความทรงจำ อันล้ำค่า เล่าให้ฟัง ใต้ต้นไม้ แต่นานมา จึงเล่าผ่าน อักษรา เป็นความเรียง
|
|
 |
|