Group Blog
 
<<
กันยายน 2552
 12345
6789101112
13141516171819
20212223242526
27282930 
 
2 กันยายน 2552
 
All Blogs
 
. . สมาธิต่างกับวิปัสสนา . .



สมาธิ ต่างกับวิปัสสนา


       ในการปฏิบัติธรรม มักจะมีคนสงสัยว่า สมาธิต่างกับวิปัสสนา อย่างไร ? สมาธิ ที่กล่าวถึงนี้ หมายถึง การปฏิบัติสมถะฯ มีทั้งสัมมาสมาธิ ที่เป็นสมาธิดี และมิจฉาสมาธิ เป็นสมาธิ ที่มีผลเสียเป็นของแถม เช่น โยคีนอน นั่งบนแผงตะปู เพ่งตรงที่เจ็บปวด ทำให้ไม่ฟุ้งซ่าน เกิดสมาธิ แต่ได้โทสะ โกรธ ฉุนเฉียวง่าย เป็นของแถม

สมถฯ แตกต่างกับวิปัสสนาฯ อธิบายได้ 2 แบบ คือ

   1. แบบง่ายๆ        2. แบบละเอียด


สมถะฯ แตกต่างกับวิปัสสนาฯ แบบง่ายๆ อธิบายด้วยกิเลส 3 ระดับ มี

       1. กิเลสละเอียด คนทุกคน ยกเว้นพระอริยบุคคล โดยเฉพาะพระอรหันต์ นอกนั้น ล้วนมีกิเลสละเอียด แต่นอนสงบ นิ่ง ไม่แสดงฤทธิ์เดช เมื่อมีสิ่งมากระตุ้นทางทวาร6 คือ ตา หู จมูก ลิ้น กาย ใจ ทำให้ กิเลสละเอียดฟูโตขึ้น เป็นกิเลสกลาง

       2. กิเลสกลาง แสดงอยู่ในใจ เช่น ถ้าโกรธ จะโกรธกรุ่น อยู่ในใจ ถ้าถูกกระตุ้นทวาร 6 แรงขึ้น กิเลสกลางจะฟูโตขึ้น เป็นกิเลสหยาบ

       3. กิเลสหยาบ แสดงออกทางวาจา และกาย เช่น ถ้าโกรธ จะต่อว่า ด่าทอ ทำร้ายร่างกาย ฆ่ากันตาย

กิเลส 3 ระดับ ถูกจัดการได้โดย


       1. กิเลสหยาบ ถูกระงับ ให้เป็นกิเลสกลาง ได้ด้วยการมีสติ รู้ว่าผิดศีลธรรม

       2. กิเลสกลาง ถูกระงับ ให้เป็นกิเลสละเอียด ได้ด้วยสมาธิ เช่น สูดลมหายใจเข้า - ออก นับเลข 1 – 100 เปรียบเหมือนหินทับหญ้า กิเลสแค่สลบ ถ้าเคยทำสมาธิ แต่ขณะโกรธ ไม่ทันทำให้เกิดสมาธิ เสร็จกิเลสหรือไม่ ? (เสร็จกิเลส ถูกกิเลสคาบไปกิน)

       3.กิเลสละเอียด ถูกทำลาย ด้วยวิปัสสนาปัญญา เป็นวิธีที่ปลอดภัยที่สุด


สมถะฯ แตกต่างกับวิปัสสนาฯ แบบละเอียด คือ


       1. วิปัสสนาฯ มีวิธีปฏิบัติแบบเดียว มีรายละเอียด เทคนิควิธีมาก แต่ไม่ยาก

สมถะฯ ทำให้เกิด สัมมาสมาธิ มี 40 วิธี เช่น อานาปานสติ อสุภะ10 กสิณ10 (เลือกอย่างเดียว)

        2. วิปัสสนาฯ ใช้คำบริกรรมภาวนา หรือคำกำหนด ตามรู้กายและใจ ที่เกิดขึ้นจริง เช่น ยก ไป วาง สุข ทุกข์ เฉย

สมถะฯ ใช้คำบริกรรมภาวนา ตามสมมุติบัญญัติ เช่น กสิณ10 นึกภาพดินเป็นดวงกลม จ้องเพ่ง และบริกรรมซ้ำๆว่าดินๆๆ หรือปฐพีๆๆ จนเห็นภาพดิน ใส สะอาด ติดตา

        3. สมถะฯ เป็นการเฝ้ารู้ อยู่ที่ฐานเดียวนานๆ ทำให้เกิดสมาธิ ใช้ข่มกิเลส ให้สงบชั่วคราว

วิปัสสนาฯต้องกำหนด รู้ฐานกายและใจ แบบย้ายฐาน ไม่อยู่ที่ฐานเดียวนานๆ ทำให้เกิดพลัง5 คือ สติ สมาธิ วิริยะ ศรัทธา ปัญญา เหมือน eletrone ที่วิ่งอยู่ใน atom ทำให้เกิดพลัง พลัง5 เป็นพลังในการทำลายกิเลส และช่วยให้การดำเนินชีวิต ประสพความสำเร็จ

        4. วิปัสสนาฯ เหมาะกับ คนทุกจริตนิสัย

สมถะฯ ต้องเลือกให้เหมาะกับจริต ถ้าเลือกไม่เหมาะ จะไม่เกิดสมาธิ ยิ่งทำให้เครียด จริตมี 6 คือ ราคจริต โทสจริต โมหจริต สัทธาจริต พุทธิจริต วิตกจริต เช่น อสุภะเหมาะกับคนที่มีราคจริต
       การเลือกวิธีทำสมาธิ ให้เหมาะกับจริต เป็นเรื่องยาก เพราะ ในแต่ละคน มีหลายจริต จัดได้ 63 ประเภท


       5. สมถะฯ มี นิวรณ์5 คือ อยากได้ คิดร้าย คิดฟุ้งซ่าน ท้อถอย ลังเลสงสัย เป็นเครื่องปิดกั้น เป็นอุปสรรคในการทำสมาธิ

วิปัสสนาฯ นำนิวรณ์5 มาใช้เป็นประโยชน์ เป็นฐาน ในการกำหนดสติ ไม่เป็นอุปสรรคในการปฏิบัติ

        6. วิปัสสนาฯจึงปฏิบัติได้ ทุกสถานที่ ทุกอิริยาบถ ทุกขณะ รวมทั้ง ขณะทำงาน ไม่จำกัดเวลา

สมถะฯ จำกัดอิริยาบถ ส่วนใหญ่เป็นการนั่งปฏิบัติ เฉพาะใน สถานที่สงบเงียบ เพื่อหลีกเลี่ยงนิวรณ์5

        7. สมถะฯได้ฌาน อภิญญา เช่น หูทิพย์ ตาทิพย์ เหาะได้ แต่ได้ยาก ต้องแยกตัว ไปฝึกในที่เงียบสงบ ไปอยู่ป่าเขา ถ้าได้แล้ว รักษาไว้ยาก เสื่อมง่าย ถ้าเสื่อมแล้ว ยิ่งได้ยาก เพราะความอยากเป็นนิวรณ์ ปิดกั้น ยิ่งยุคนี้ ไม่จำเป็น เพราะมีของอื่นทดแทน เช่น โทรศัพท์ Internet เครื่องบิน

สมถะฯ จะใช้ทำลายกิเลสได้ ต้องเป็นสมาธิ ที่มีสติไม่ดิ่งลึก จนไม่รู้ตัว แล้วยกจิตขึ้นสู่ วิปัสสนาปัญญา จึงจะใช้ทำลายกิเลสได้ เช่น นึกถึงพยัพหมอก ค่อยๆถูกแสงแดด จางสลายหายไป ให้เห็นอนิจจัง แปรเปลี่ยนในพระไตรลักษณ์

วิปัสสนาฯไดั พลัง5 คือ สติ สมาธิ วิริยะ ศรัทธา ปัญญา และได้ญาณปัญญา เอื้อให้เห็นพระไตรลักษณ์ เกิดวิปัสสนาปัญญาง่ายขึ้น ทำลายกิเลสได้ง่ายกว่า พลัง5 ยังช่วยให้ประสพความสำเร็จ ในการดำเนินชีวิต เป็นยาขนานเอก ช่วยแก้ปัญหาชีวิต ปัญหาสังคม ทุกระดับ ทุกวัย แก้ไขที่ต้นเหตุ ได้ง่ายๆ ในเวลาสั้นๆ ใช้ค่าใช้จ่ายน้อย


พระพุทธเจ้าตรัส กับพระสารีบุตรว่า . ในพระภิกษุ 500
มี180 เป็นพระอริยะ ที่เป็นฌานลาภีบุคคล (โดยสมถะฯ)
นอกนั้น320 เป็นพระอริยะ ที่เป็นสุกขวิปัสสกบุคคล (โดยวิปัสสนาฯ) พระอริยะ ที่เป็นสุกขวิปัสสกบุคคล มีจำนวนมากกว่า พระอริยะที่เป็นฌานลาภีบุคคล นั้นมากมาย


       ความแตกต่างของสมถะฯ และวิปัสสนาฯ ที่กล่าวมานี้ จะเห็นว่า วิปัสสนาฯมีข้อดีกว่า ในหลายๆด้าน นอกจากนี้ ท่านคงเคยได้ยิน คำเตือนบ่อยๆว่า ระวัง ทำสมาธิ จะทำให้สติฟั่นเฟือน เป็นบ้า ทำให้ติดสุข มีชีวิตอยู่ในโลก ที่สับสนวุ่นวาย ได้ลำบาก เหมือนดัง ที่พระพุทธเจ้าทรงค้นพบ มานานกว่า2500ปี หลังจากทรงได้ฌานขั้นสูงสุดว่า การทำสมาธิอย่างเดียว ไม่ใช่หนทางพ้นทุกข์ . . . .





หลักสูตร "ออกกำลังจิต เพิ่มวัคซีนใจ" MODERN VIPASSANA
1148/44 ถ.นครไชยศรี ดุสิต กท10300
โทรศัพท์ : 02-241-0721 084-933-4009
mail to : nuchaporn9@yahoo.co.th





Create Date : 02 กันยายน 2552
Last Update : 19 พฤศจิกายน 2557 0:21:21 น. 0 comments
Counter : 1655 Pageviews.

ออกกำลังจิต
Location :
กรุงเทพฯ Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 2 คน [?]




จิตทำหน้าที่เหมือน computer
กิเลสเปรียบเหมือน virus
ทำให้ computer มนุษย์
. .ทำงานแปรปรวน . .
. .ล่อลวง ให้ทำในสิ่งที่ผิด . .
. .เกิดความเสียหาย . .
. .ทำให้ไม่มีความสุข . .


เมื่อออกกำลังจิต . . ทำให้
. .จิตเข้มแข็ง . . มีกำลัง . .
. .เกิดสมาธิ . . มีสติ . .
. .รู้เท่าทัน สิ่งที่จะมาล่อลวง . .
. .เกิดปัญญา . .
. .ปล่อยวางความทุกข์ได้ง่าย . .
. .ก่อให้เกิดความสุข สงบเย็น . .


มา. . ออกกำลังจิต. . กันเถอะ..!!

สิ่งที่.. สำคัญในชีวิต คืออะไร ?

ดร.โกแมน เชี่ยวชาญEQ กล่าวว่า
คนประสบความสำเร็จ
ใช้ความรู้ที่เรียนมา 20%
แต่ใช้. .
สิ่งที่ไม่ได้เรียนมาเลยถึง 80%

ในวงการแพทย์
ถ้ามนุษย์. . เครียด กลัว วิตกกังวล
ร่างกาย. . จะผลิต สารทุกข์
ทำให้เกิดโรคต่างๆมากมาย เช่น มะเร็ง
ในทางตรงข้าม
ถ้าปิติ อิ่มใจ ไม่ฟุ้งซ่าน
ร่างกาย. . จะผลิต สารสุข
ช่วย. .ซ่อมแซมร่างกาย
ขับสารพิษ


พระพุทธเจ้าตรัส. .ว่า
. .ใจเป็นใหญ่ ใจเป็นประธาน
ทุกสิ่ง ทุกอย่างสำเร็จได้ด้วยใจ. .


โดยสามัญสำนึก เรารู้อยู่แล้ว. . ว่า
ใจสำคัญกว่ากาย. . เมื่อเป็นเช่นนี้
แบ่งเวลาให้ใจ. . มากกว่า
หรือยัง ?
รู้. .วิชาจัดการจิตใจ มากกว่า
หรือยัง ?
เตรียมจิตใจ. . รับปัญหาเศรษฐกิจ
ที่เคลือบคลานเข้ามา
หรือยัง ?



Friends' blogs
[Add ออกกำลังจิต's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.