Bloggang.com : weblog for you and your gang
นิทานสะสมไมล์...เพื่อวันหนึ่ง ฉันจะถึง "บ้าน"...
Group Blog
C'est la vie!
Memoire
กระจุ๊ก กระจิ๊ก
L'Avenir
เมษายน 2550
1
2
3
4
5
6
7
8
9
10
11
12
13
14
15
16
17
18
19
20
21
22
23
24
25
26
27
28
29
30
13 เมษายน 2550
ฆ่าหนูเถอะ...อย่าทำอย่างนี้กับหนูเลย
All Blogs
ฆ่าหนูเถอะ...อย่าทำอย่างนี้กับหนูเลย
ดินเนอร์ชิวชิวกะสหายเก่า
ฆ่าหนูเถอะ...อย่าทำอย่างนี้กับหนูเลย
อืมมม...มม วันนี้นั่งอ่านกระทู้ชาวบ้าน (อีกและ)
เจอกระทู้นึงอ่านแล้วได้ใจเลย เป็นกระทู้จากเว็บผู้ป่วยที่ติดเชื้อ HIV
กระทู้ที่อ่านเจอวันนี้ เจ้าของกระทู้ไม่เห็นด้วยกับ พรบ. ตั้งชื่อกระทู้ว่า
+ถ้ารู้ว่าพรบ.ใกล้จะผ่านนะ จะแพร่เชื้อให้ทั่วเลยคอยดู+
"เหมือนในหนังเรื่อง X-Men เลยที่ว่า มนุษย์ธรรมดารังเกียจมนุษย์กลายพันธ์ งัยในที่สุดมนุษย์กลายพันธ์ก็ทนยอมโดนกดขี่ต่อไปไม่ไหวก็เลยต้องลุกขึ้นสู้ และพยายามทำให้มนุษย์ทุกคนบนโลกกลายพันธ์ให้หมด แล้วจะได้รู้ว่าเวลาที่ผู้ติดเชื้อต้องไปทำฟัน แล้วต้องบอกหมอทุกครั้งว่าติดเอชน่ะ รู้มั๊ยว่า หมอจะตอบว่ให้มาทำวันอาทิตย์ นัดล่วงหน้าก่อน 1 อาทิตย์ แล้วต้องทำเป็นคิวสุดท้ายน่ะ จะรู้สึกยังงัย และถ้าไม่บอกหมอว่าติดเอช แล้วไปทำฟัน แล้วปรากฏว่ามารู้ทีหลังว่าไม่แจ้ง ตามพรบ.ใหม่จะถือว่ามีความผิดทางอาญาร้ายแรง อาจมีโทษถึงจำคุกเลยทีเดียว แมร่งพิมพ์ไปก็โมโหไป
เด๋วออไปแพร่เชื้อก่อนเลยคืนนี้
"
ข้อความนี้เราโคทมาจากกระทู้จริง... มีหลากหลายความเห็นที่เห็นด้วย และไม่เห็นด้วย และสนับสนุน (อันนี้น่ากลัวอยู่)
ใครที่ไม่รู้เรื่อง พรบ. เราขอท้าวความคร่าวๆ
"มาตรา ๕๓ ห้ามมิให้ผู้ติดเชื้อ กระทำการอย่างหนึ่งอย่างใดดังต่อไปนี้
(๑) ขายหรือให้ หรือกระทำการใดๆ ในลักษณะเดียวกันซึงเลือด น้ำเหลือง หรือสารคัดหลั่งหรือของเหลวอืนใด เนื้อเยื่อ อสุจิหรืออวัยวะของตนแก่ผู้อื่น
(๒) ใช้เข๊มฉัดยาหรือกระบอกฉัดยาร่วมกับบุคคลอื่น
(๓) กระทำการค้าประเวณีหรือประกอบอาชีพอื่นใดอันอาจแพร่เชื้อเอชไอวี
(๔) ให้ผู้อื่นกระทำการเจาะเลือด ฉืดยา ผ่าตัด ทำฟัน ตรวจหรือรักษาโรคอืนใดโดยไม่แจ้งให้ผู้นั้นทราบว่าตนเป็นผู้ติดเชื้อ
(๕) มีเพศสัมพันธ์โดยไม่มีการป้องกันการแพร่เชี้อเอชไอวี
(๖) สมรสโดยไม่ได้แจ้งให้อีกฝ่ายหนึ่งทราบว่าตนรู้หรือควรได้รู้ว่าเป็นผู้ติดเชื้อ
(๗) กระทำการอื่นใดอันก่อให้เกิดความเสี่ยงต่อการแพร่กระจายของเชื้อเอชไอวี"
ความว่าประการฉะนี้แล
ส่วนตัวเราเห็นว่ามีข้อที่เรายอมรับว่าจำเป็นในสังคมที่จะต้องมี และมีข้อที่เราว่าคนร่างฯจิตป่วยอย่างแรง (ซึ่งไม่อยู่ในข้อบนนี้) เช่น การที่แพทย์มีสิทธิ์แจ้งให้ครอบครัวผู้ป่วยทราบถึงการติดเชื้อ (ไปบอกแทนคนอื่นทำม้ายหมอ อยู่เฉยๆอ่ะดีแล้ว พ่อแม่ลูกเค้าจัดการกันเองได้)
บอกก่อนว่าเราไม่เคยรังเกียจคนที่ติดเชื้อ ในทางกลับกัน อยากให้สังคมสร้างความเข้าใจให้ถูกต้องกับเจ้าไวรัสตัวนี้ซะที
ทำงานให้กับองค์กรป้องกันการแพร่เชื้ออยู่พักใหญ่ๆ รณรงค์ให้การติดเชื้อในหมู่วัยรุ่นลดลง ได้ยินได้ฟังข้อมูลที่สังคมไม่เคยได้ยิน ที่ไม่คิดว่าจะใกล้ตัว ที่ไม่คิดว่าวันนึงมันอยู่ใกล้เสียเหลือเกิน
ทุกคนพยามยามแก้ที่ปลายเหตุโดยการสร้างเครื่องมือต่างๆ ช่วยเหลือผู้ติดเชื้อ
มีใครรู้บ้างว่ามีวัยรุ่นมากมายขนาดไหนยืนรออยู่ปากเหว รอวันเป็นเหยื่อของไวรัสตัวนี้
ตั้งแต่หมดยุคของคุณมีชัย เป็นต้นมา สังเกตดีๆ จะไม่ค่อยเห็นการรณรงค์ป้องกันโรคเอดส์เท่าไหร่จนถึงทุกวันนี้
มีใครรู้บ้างว่า การเปลี่ยนถ่ายของวัฒนธรรมสมัยใหม่ สร้างหายนะอะไรบ้างในสังคมเล็กๆ บ้านเรา
สมัยก่อน
เอดส์ = หญิงค้าบริการ+ชายอาบอบนวด+เด็กเล่นยา
สมัยนี้
เอดส์ = เด็กวัยรุ่น ม.ปลาย, มหาลัย, พนง. กินเงินเดือน
สมัยนี้บรรดาสาวขายบริการเค้ามีความรู้เรื่องการป้องกันมากกว่าเด็กมหาลัยอีกคู้นนน
ผู้ชายจ้าง 500 บาทอย่าใส่ถุงยาง ไม่โดนคุณตัวตบแบบไม่มีเยื่อใยแล้ว ยังโดนด่าให้เสียเชิงชายไปนอนฝันร้ายเปล่าๆ
ทำไม เกิดไรขึ้น เพื่อนเรามากกว่า 4 คนติดเชื้อ คนที่เรารู้จักเห็นกันหลัดๆ นับได้ก็ เจ็ดแปดคน ทำไมอ่ะ ทำไม ไหนว่าโรคเอดส์เป็นโรคของคนรากหญ้า ไฮโซไม่ติดไง มั่วไงก็ไม่ติด เป็นไปไม่ด้ายยยยย ชั้นจบโทจากเมกา เอดส์กล้าดียังไงมาติดชั้น
ใครรู้ไม๊ ว่าเกิดจับพวกทาเก็ทกรุ๊ประดับ C+ อายุตั้งแต่ 15 ปีขึ้นไป มาตรวจเลือด สังคมจะตกตะลึงพรึงเพริด กะไอ้โรคบ้าๆนี่ที่หน้าด้านหน้าทนทรมาณชาวโลกอยู่ได้ ไล่ก็ไม่ไป แต่หน่วยงานของรัฐ ผู้หลักผู้ใหญ่ปิดหูปิดตาเด็กๆ (และไม่เด็ก) กันเหลือเกิน จนประชาชนชาวไทยนึกว่ามันเป็นกาฬโรค คือสูญหายไปจากโลกได้ซะเฉยๆ
ควรแหกลูกกะตาตื่นขึ้นมาจากนิยายการเมือง มาดูโลกความจริง และเจียดเงินจากการทำเรื่องบ้าๆบอๆ มาทำแคมเปญให้เด็กวัยรุ่นใช้ถุงยางอนามัย (ให้เด็กมันรักษาพรหมจรรย์ก่อนแต่งงาน คงมีคนเป็นเอดส์เต็มประเทศพอดี)
หน่วยงานรัฐที่รับผิดชอบไม่รู้จะเริ่มต้นตรงไหนคิดไรไม่ออก เริ่มจากพาลูกตัวเองไปตรวจ HIV แล้วจะเรื่มเข้าใจหัวอกคนประชาชนตาดำๆ
ไม่งั้นก็เจอมนุษย์ H-Men คนพันธ์ เอช ขู่ฆ่าอย่างข้างบนนั่นล่ะ
ไปดีก่า กัววว
Sarah Brightman & Andrea Bocelli - Time to say goodbye -
Create Date : 13 เมษายน 2550
2 comments
Last Update : 21 ตุลาคม 2550 18:49:48 น.
Counter : 429 Pageviews.
Share
Tweet
รีบเจิมก่อนเยย
โดย:
mooemp
7 มิถุนายน 2550 18:01:58 น.
แวะมาจัดเรตติ้ง คุคุ
โดย:
mooemp
8 มิถุนายน 2550 17:04:23 น.
ชื่อ :
* blog นี้ comment ได้เฉพาะสมาชิก
Comment :
*ส่วน comment ไม่สามารถใช้ javascript และ style sheet
kikou
Location :
[ดู Profile ทั้งหมด]
ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [
?
]
Friends' blogs
Mutation
mochalover
Kurt Narris
MaRiMeKKo
maxpal
หน่อยอิง
Aampous
giwgaw16
Fleur Bleue
มรรคณิชา
Madam_Hatyai
uter
i am tabo
ENu
vintage
Striker no.9
riskx_ray
pun@ru
monkey-noi
บ้านเซลาวี
Dark Secret
I will see U in the next life.
ShadowServant
Dying To Be Alive
กี๋พกแป้ง
biggg
ohvenus
สเตลล่า
Webmaster - BlogGang
[Add kikou's blog to your web]
Links
BlogGang.com
Pantip.com
|
PantipMarket.com
|
Pantown.com
| © 2004
BlogGang.com
allrights reserved.
รีบเจิมก่อนเยย