Bloggang.com : : เวเว : ธุรกิจดาวรุ่ง - ดาวร่วงปีมังกรทอง ส้มหล่นงานทะลักหลังน้ำลด

ธุรกิจดาวรุ่ง - ดาวร่วงปีมังกรทอง ส้มหล่นงานทะลักหลังน้ำลด

หาอุทกภัยครั้งใหญ่ที่เกิดขึ้นเมื่อปลายปี 2554 ที่ผ่านมา ได้กลายเป็นฝันร้ายของนักลงทุนตลอดจนคนไทยทั้งประเทศ ที่ต่างขวัญผวาใจเต้นระทึกกับน้องน้ำที่ไหลทะลักเข้ายึดครองพื้นที่ต่าง ๆ ทั้งในกรุงเทพฯ และบางจังหวัดในภาคกลางอย่างต่อเนื่อง มิหนำซ้ำยังสร้างความเสียหายทางเศรษฐกิจเป็นจำนวนมหาศาล ไม่แพ้เหตุการณ์สึนามิที่ซัดกระหน่ำถล่มพื้นที่ทางจังหวัดภาคใต้ของไทยอย่างรุนแรงในครั้งอดีตเมื่อปี 2547

ความสูญเสียจากมหาอุทกภัยครั้งร้ายแรงรอบนี้ ถือเป็นตัวแปรสำคัญที่ฉุดให้อุตสาหกรรมหรือธุรกิจที่กำลังเดินหน้าไปได้สวยในพื้นที่ประสบภัย ต้องตกอยู่ในสภาพจมน้ำนานนับเดือน เป็นเหตุให้โรงงานต่าง ๆ ไม่ว่าจะเป็นโรงงานผลิตยานยนต์ ชิ้นส่วนอิเล็กทรอนิกส์ รวมถึงกลุ่มอาหาร ต้องหยุดเดินเครื่องผลิตทั่วหน้า ขณะที่หมู่บ้านต่าง ๆ ที่อยู่ในจุดเสี่ยงต่างมีสภาพจมน้ำไม่ต่างกัน เป็นผลพวงให้ผู้ประกอบการธุรกิจเหล่านั้นเผชิญชะตากรรมที่ไม่คาดคิด อีกทั้งยังกลายเป็นตัวถ่วงการเติบโตของธุรกิจไปโดยปริยาย

แต่หลังจากที่สถานการณ์น้ำท่วมคลี่คลายลงแล้ว ปี 55 นี้ ธุรกิจใดจะเป็นดาวรุ่งพุ่งกระฉูดและสร้างกำไรงอกงามจนตาลุกวาวกับตัวเลขที่สูงปรี๊ด หรือธุรกิจใดที่เข้าข่ายบาดเจ็บสาหัส เพราะต้องบอบช้ำจากภัยน้ำท่วมหนักและตกเป็นธุรกิจดาวร่วง ดาวดับ !!! ทีม ’เศรษฐกิจเดลินิวส์“ มีข้อมูลมาฝากให้ติดตามกัน เผื่อใช้เป็นแนวทางในการแสวงหาความร่ำรวยจากการลงทุนในตลาดหุ้นไทย ตลอดจนเป็นช่องทางในการก้าวสู่สนามธุรกิจใหม่ ๆ ใน ’ปีมังกรทอง“ แต่จะเป็นปีทองของธุรกิจด้วยหรือไม่นั้นต้องมาฟังจากกูรูทั้งในตลาดหุ้นและภาคธุรกิจเอกชน

กูรูแนะหุ้นรับเหมารุ่ง

เริ่มจาก ’ธริศา ชัยสุนทรโยธิน“ ผู้อำนวยการอาวุโส บล.เกียรตินาคิน มองว่า หุ้นดาวรุ่งเบอร์ 1 เป็นหุ้นกลุ่มรับเหมาก่อสร้าง เพราะได้รับประโยชน์จากหลายโครงการด้านฟื้นฟูหลังน้ำท่วม, รองลงมาเป็นหุ้นกลุ่มการบริโภคในประเทศ ขณะที่หุ้นกลุ่มดาวร่วงที่น่าจะเป็นอันดับ 1 เป็นหุ้นกลุ่มอสังหาริมทรัพย์ ด้วยเหตุที่อาจได้รับผลกระทบจากกำลังซื้อที่ชะลอตัว อีกทั้งส่วนใหญ่จะมีข่าวร้ายจากผลประกอบการไตรมาส 4/54 ที่อาจขาดทุนจากภัยน้ำท่วม นอกจากนี้ ยังมีหุ้นกลุ่มส่งออก ยานยนต์ และอิเล็กทรอนิกส์ ที่จะได้รับผลกระทบในระยะสั้นจากเหตุน้ำท่วมที่เกิดขึ้นด้วย

ด้าน ’กวี ชูกิจเกษม“ ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการ บล.กสิกรไทย มองว่า หุ้นดาวรุ่งเป็นหุ้นที่เกี่ยวข้องกับการบริโภคในประเทศ กลุ่มบันเทิง รวมถึงกลุ่มธนาคารพาณิชย์ เพราะได้รับประโยชน์จากสินเชื่อเช่าซื้อรถยนต์ที่น่าจะกลับมาคึกคักอีกรอบ ขณะที่หุ้นดาวร่วง เป็นกลุ่มเดินเรือ อิเล็กทรอนิกส์ และส่งออก ฟาก ’ปริญทร์ กิจจาทรพิทักษ์“ ผู้อำนวยการฝ่ายวิเคราะห์หลักทรัพย์ บล.เคทีบี (ประเทศไทย) มองว่า หุ้นดาวรุ่ง ยังเป็นกลุ่มหลัก ๆ ทั้งพลังงาน ธนาคารพาณิชย์ อาหาร และค้าปลีก ส่วนหุ้นดาวร่วง เป็นกลุ่มอสังหาริมทรัพย์ ยานยนต์ และอิเล็กทรอนิกส์

“ชิ้นส่วนยานยนต์” ดับตามน้ำ

เช่นเดียวกับ ’เทียนทิพ สุพานิช“ ผู้อำนวยการ สถาบันวิจัยเพื่อตลาดทุน ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (ตลท.) มองว่า หุ้นที่เกี่ยวกับการบริโภคในประเทศ ทั้งกลุ่มรับเหมาก่อสร้าง อาหาร โทรคมนาคม จะเป็นหุ้นดาวรุ่ง เพราะได้รับผลดีจากสถานการณ์น้ำท่วมที่คลี่คลาย แถมยังเป็นกลุ่มที่ไม่ได้รับผลกระทบจากเศรษฐกิจโลกที่ชะลอตัวด้วย ส่วนหุ้นดาวร่วงคงเป็นอุตสาหกรรมต่าง ๆ ทั้งกลุ่มชิ้นส่วน อิเล็กทรอนิกส์ ยานยนต์ รวมถึงกลุ่มอสังหาริมทรัพย์

สสว.ชี้ซ่อมบ้านมาแรง

ผ่านพ้นกันไปแล้วสำหรับหุ้นดาวรุ่งดาวร่วงที่น่าสนใจในปีมังกรทอง หันมาดูกันที่บรรดาธุรกิจดาวรุ่งดาวร่วงในปี 2555 กันบ้างว่าแต่ละมุมมองของบรรดากูรูทางเศรษฐกิจว่าแต่ละคนมีความเห็นกันอย่างไร โดย ’ยุทธศักดิ์ สุภสร“ ผู้อำนวยการสำนักงานส่งเสริมวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม (สสว.) ฟันธง ธุรกิจดาวรุ่งปีนี้ มาแรงสุด ต้องยกนิ้วให้ “ธุรกิจซ่อมแซม ตกแต่งบ้าน” เห็นได้จาก หลังเกิดน้ำท่วมครั้งร้ายแรงในปีที่ผ่านมา ประชาชนที่ประสบภัยต้องเร่งปรับปรุงบ้าน ทำให้ธุรกิจที่เกี่ยวข้องกับการซ่อมแซม ตกแต่งบ้าน มีงานล้นมือ ลูกค้าแน่นเอี้ยดตลอดปี รายได้พุ่งแรงตามไปด้วย รองลงมาเป็น “ธุรกิจอาหารเสริมเพื่อสุขภาพ ธุรกิจอาหารและเครื่องดื่ม” เพราะกระแสคนไทยรักสุขภาพยังมาแรง และเติบโตสูง ไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้น คนก็ยังต้องซื้ออาหารและเครื่องดื่มไว้ติดบ้าน ทำให้ยังโกยทรัพย์เข้ากระเป๋าได้ดีเช่นเดียวกับธุรกิจ “อีคอมเมิร์ซ และอินเทอร์เน็ต” ที่เป็นกระแสฮอตฮิต ใคร ๆ ต้องใช้โทรศัพท์เคลื่อนที่และอินเทอร์เน็ต ทำให้ตัวเลขความนิยมสั่งซื้อสินค้าในโลกไซเบอร์เพิ่มขึ้นทุกปี แถมเป็นธุรกิจที่ใช้เงินลงทุนไม่สูงแต่ผลตอบแทนคุ้มค่า รวมไปถึง “ธุรกิจซ่อมแซมรถยนต์” ที่มีรถยนต์ถูกน้ำท่วมรอซ่อมแซมจำนวนมาก เอื้อหนุนตลาดที่เกี่ยวข้องกับการซ่อมแซมรถยนต์ ส่วนการดัดแปลง ตกแต่งรถยนต์สำหรับใช้งานก็ได้รับอานิสงส์เช่นกัน

ท่องเที่ยว-ค้าปลีกถูกหางเลข

ส่วนธุรกิจดาวร่วง ที่เห็นชัด ๆ ผอ.ยุทธศักดิ์ มองว่า หนีไม่พ้น “ธุรกิจชิ้นส่วนอิเล็กทรอนิกส์” ที่หลายบริษัทเจอภัยน้ำท่วมรุนแรงและต้องใช้เวลาฟื้นฟูนาน ตามด้วย “ธุรกิจยานยนต์” เพราะได้รับผลกระทบหนักจากน้ำท่วมเช่นกัน ทำให้สูญเสียตลาดจากการหยุดผลิตไปนาน ต้องฟื้นฟูทั้งเครื่องจักร และโรงงาน เช่นเดียวกับ “ธุรกิจท่องเที่ยวและค้าปลีก” ที่เจอผลพวงปัญหาวิกฤติเศรษฐกิจโลกไปเต็ม ๆ เพราะธุรกิจท่องเที่ยวต้องพึ่งพาชาวต่างชาติ ซึ่งขณะนี้ระวังการใช้เงินมากขึ้น และอาจลดการท่องเที่ยว ส่วนภาคค้าปลีกที่เกี่ยวข้องกับภาคการท่องเที่ยว ก็เจอปัญหานี้ลามไปด้วย

ด้านกูรูด้านการค้าปลีกอย่าง ’ฉัตรชัย ตวงรัตนพันธ์“ ผู้อำนวยการสมาคมผู้ค้าปลีกไทย มองว่า ธุรกิจดาวรุ่งเวลานี้ต้องยกให้กับ “ธุรกิจภาคก่อสร้าง และซ่อมแซมบ้าน วัสดุก่อสร้าง เฟอร์นิเจอร์” เพราะประชาชนต้องเร่งซ่อมแซมบ้าน หรือ บางส่วนต้องเตรียมวางแผนปรับปรุงบ้านใหม่ ไว้รับมือกับภัยธรรมชาติในอนาคต รองลงมาได้แก่ “ธุรกิจซ่อมแซมรถยนต์” ซึ่งต้องมีกลุ่มลูกค้านำรถไปซ่อมแซม ตกแต่งรถยนต์ให้สูงขึ้นหรืออาจเลือกซื้อรถยนต์ใหม่ เพื่อทดแทนรถยนต์เก่า ตามติดมาด้วย “ธุรกิจ คอมพิวเตอร์ และมือถือ” ที่มาแรงต่อเนื่อง เนื่องจาก คอมพิวเตอร์และมือถือ โดยเฉพาะแบบสมาร์ทโฟน กลายเป็นส่วนหนึ่งในชีวิตประจำวันของคนไปแล้ว เป็นโอกาสขยายธุรกิจใหม่ได้ดีทีเดียว

ส่วน ธุรกิจดาวร่วง ที่มาแรง ต้องเป็น “ธุรกิจที่เกี่ยวกับภาคการผลิตสินค้า และกลุ่มอาหาร” ที่เจอผลกระทบน้ำท่วมและต้องใช้เวลานานกว่าจะกลับมาผลิตสินค้าได้ปกติ ต้องเตรียมรับมือให้ทันท่วงที ไม่เช่นนั้น ถ้าหยุดผลิตสินค้านาน ลูกค้าคงหายเรียบ

ธุรกิจเสริมความงามติดโผรุ่ง

หันมาที่ ’เสาวนีย์ ไทยรุ่งโรจน์“ รองอธิการบดีฝ่ายวิจัย มหาวิทยาลัยหอการค้าไทย บอกว่า 10 อันดับ 12 ธุรกิจในปีมะโรงวัดจากยอดขาย ต้นทุน กำไรสุทธิ และความสามารถในการรองรับปัจจัยเสี่ยง พบว่าธุรกิจเด่นอันดับแรกได้แก่บริการทางการแพทย์และความงาม เพราะคนรักสุขภาพมากขึ้น ขณะที่วัยรุ่นรักสวยรักงามและทำศัลยกรรมความงามมากขึ้น รองลงมาได้แก่อุตสาหกรรมผลิตน้ำตาลทราย เพราะแนวโน้มความต้องการของโลกมากขึ้น อันดับสาม ธุรกิจปูนซีเมนต์และคอนกรีต ตามติดด้วยสถานีบริการและจำหน่ายน้ำมันและก๊าซเอ็นจีวีและแอลพีจี สถาบันการเงิน ธุรกิจเทคโนโลยีและการสื่อสาร ธุรกิจประกันภัยและประกันชีวิต

ขณะที่ ’ธนวรรธน์ พลวิชัย“ ผู้อำนวยการศูนย์พยากรณ์เศรษฐกิจและธุรกิจ มหาวิทยาลัยหอการค้าไทย มองว่า ปีมะโรงนี้ธุรกิจดาวร่วง ได้แก่ ร้านโชห่วย เพราะไม่สามารถแข่งขันกับค้าปลีกข้ามชาติได้ รองลงมาได้แก่ ผักและผลไม้อบแห้ง เป็นผลจากคนหันไปทานผักผลไม้สดมากขึ้นเพราะรักสุขภาพ นอกจากนี้ยังมีงานหัตถกรรมแบบงานจักสานหรืองานไม้ เพราะมีรูปแบบที่ล้าสมัย รวมถึงเครื่องหนัง ที่มีคู่แข่งมาก กำไรน้อย เสื้อผ้าเครื่องแต่งกายที่ไม่ใช่งานฝีมือ เพราะถูกสินค้าจีนและเพื่อนบ้านตีตลาด หรือแม้แต่บ้านแนวราบที่คนไทยกำลังลังเลที่จะซื้อหลังเจอเหตุการณ์น้ำท่วมครั้งใหญ่ ส่วนธุรกิจเด่นที่เกิดขึ้น เช่นธุรกิจทำความสะอาด รับขนย้ายสิ่งของ วัสดุก่อสร้าง โรงรับจำนำ เฟอร์นิเจอร์ เป็นต้น

เซเว่นฯ การันตีอาหาร-เครื่องดื่มมาแรง

ด้าน ’สมภพ มานะรังสรรค์“ อธิการบดี สถาบันการจัดการปัญญาภิวัฒน์ ในเครือ เซเว่น อีเลฟเว่น หรือกุนซือเศรษฐศาสตร์ ระบุว่า ธุรกิจดาวเด่น คือ “ธุรกิจอาหารและเครื่องดื่ม” เพราะเป็นสิ่งจำเป็นในชีวิตประจำวันที่คนต้องใช้จ่ายทุกวัน วันละ 3 มื้อ รองลงมาคือ “ธุรกิจซ่อมแซมบ้าน ซ่อมแซมเครื่องใช้ไฟฟ้า สินค้าอิเล็กทรอนิกส์ และรถยนต์” ที่มีโอกาสเติบโตพุ่งแรงในครึ่งปีแรก เพราะประชาชนต้องซื้อสินค้าใหม่ทดแทนสินค้าเก่าที่จมน้ำ และธุรกิจที่ได้รับอานิสงส์จากนโยบายรัฐบาลที่จะประกาศใช้ปีนี้ ทั้งนโยบายค่าแรง 300 บาท และเงินเดือนปริญญาตรีเริ่มต้น 15,000 บาท ซึ่งเชื่อว่าใครฟังแล้ว ต้องรีบกางหู รอฟังนโยบายจากรัฐบาล เพื่อให้ได้ประโยชน์จากนโยบายที่เตรียมประกาศออกมาใช้ ขณะที่ธุรกิจดาวร่วง ได้แก่ “อสังหาริมทรัพย์” เพราะประชาชนยังหลอนกับภาพโครงการบ้านแนวราบถูกน้ำท่วมหลายโครงการ ซึ่งกระทบไปยังการเปิดขายโครงการใหม่ที่มีปัญหาความเชื่อมั่นตามไปด้วย

รวมไปถึง “ธุรกิจที่เกี่ยวข้องกับอสังหาริมทรัพย์” เนื่องจากอาจเจอแจ๊กพอตเรื่องความเชื่อมั่นหลังเกิดปัญหาน้ำท่วมครั้งใหญ่เช่นเดียวกับธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ เช่นเดียวกับ “ธุรกิจประกันภัย” ที่อ่วมจากการที่ต้องจ่ายค่าสินไหมทดแทนให้แก่ ผู้ประสบภัยน้ำท่วม บริษัท และนิคมอุตสาหกรรมต่าง ๆ ซึ่งจะส่งผลให้หลายบริษัทอาจประสบปัญหาขาดทุนจำนวนมาก ทำให้ปีนี้ต้องปรับแผนขึ้นค่ากรมธรรม์ประกันภัยจำนวนมาก ทำให้ธุรกิจประกันภัยซบเซาพอสมควรหรือแม้แต่ “ธุรกิจธนาคาร” ที่ลูกค้าของธนาคารเจอภัยน้ำท่วม ขณะเดียวกันธนาคารหลายแห่ง ยังมีบริษัทในเครือที่ทำธุรกิจประกัน เรียกว่า เจอปัจจัยลบหลายเด้งเลยทีเดียว

จะเห็นได้ว่า บรรดานักวิเคราะห์หลักทรัพย์ทำนายไปในทิศทางเดียวกันว่า หุ้นที่น่าจะคึกคักและทำให้หัวใจนักลงทุนซู่ซ่าพองโตได้คงหนีไม่พ้นกลุ่มที่รับเละจากมหาอุทกภัย โดยเฉพาะกลุ่มรับเหมาก่อสร้าง เนื่องจากประชาชนมีความจำเป็นต้องซ่อมแซมบ้านเรือน ทำให้หุ้นกลุ่มนี้น่าจะมีผลกำไรดีแซงหน้าหุ้นกลุ่มอื่น เช่นเดียวกับธุรกิจดาวรุ่งที่เหล่ากูรูในแวดวงธุรกิจที่ล้วนฟันธงตรงกันว่า ธุรกิจที่มาแรงแซงทางโค้งรับปีมังกรทอง คือ ธุรกิจซ่อมแซม และตกแต่งบ้าน ขณะที่หุ้นดาวร่วง ซึ่งฟังดูแล้วอาจน่ากลัว จนทำให้หลายคนขยาดและไม่กล้าช้อนซื้อตุนไว้ในพอร์ตนั้น นักวิเคราะห์ฯ ล้วนประเมินว่า ส่วนใหญ่เป็นหุ้นกลุ่มอสังหาริมทรัพย์!!! เพราะพิษมหาอุทกภัยครั้งร้ายแรง จนเป็นเหตุให้ผู้คนชะลอตัดสินใจซื้อโครงการออกไปก่อน

ด้านธุรกิจดาวร่วงไม่แตกต่างจากหุ้นดาวร่วงนัก เนื่องจากยังกระจุกตัวอยู่ในธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ ยานยนต์ รวมถึงชิ้นส่วน เพราะเป็นธุรกิจที่โดนผลกระทบจากน้ำท่วมไปเต็ม ๆ ทำให้ต้องใช้เวลาเยียวยาและฟื้นฟูสักระยะ เพื่อกอบกู้โรงงานหรือสถานการณ์ให้กลับมาเป็นปกติ ก่อนใส่เกียร์เดินเครื่องผลิต ซึ่งกว่าสินค้าลอตแรกจะขายออกและสร้างรายได้กลับคืนมาคงต้องใช้เวลาพอสมควร ขณะที่ธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ ประเภทบ้านแนวราบคงต้องพลิกตำราเร่งปรับกลยุทธ์ชูจุดขายบ้านในทำเลที่น้องน้ำไม่มา

ได้เห็นภาพของหุ้น ตลอดจนธุรกิจที่มีแนวโน้มโดดเด่นเป็นดาวรุ่งเปล่งแสงระยิบระยับ รวมถึงหุ้นและธุรกิจที่ต้องเผชิญชะตากรรมกัดฟันต่อสู้กับภัยน้ำท่วมครั้งใหญ่ที่ตามมาหลอกหลอนกันแล้ว คงพอทำให้เห็นช่องทางลงทุนในปีมังกรทองกันบ้าง แต่ไม่ว่าจะลงมือลุยธุรกิจหรือช้อนซื้อหุ้น ต้องศึกษาและทำความเข้าใจอย่างรอบคอบ เพื่อเตรียมรับมือสถานการณ์ที่อาจพลิกผันได้ตลอดเวลา หากมีปัจจัยเหนือการควบคุมเข้ามากระทบ โดยเฉพาะมหาภัยพิบัติทางธรรมชาติซึ่งคืบคลานเข้ามาทำลายล้างทุกอย่างที่ขวางหน้าภายในพริบตา.

ทีมเศรษฐกิจ

Create Date : 02 มกราคม 2555

Last Update : 2 มกราคม 2555 22:00:52 น.

0 comments

Counter : 508 Pageviews.