มุ่งมั่น ตั้งใจ เป้าหมาย ความฝัน
Group Blog
 
<<
พฤศจิกายน 2553
 123456
78910111213
14151617181920
21222324252627
282930 
 
4 พฤศจิกายน 2553
 
All Blogs
 
มีบทความเกี่ยวกับดีท็อกซ์ดี ๆ เอามาฝาก... ถ้ายาวนักก็ไม่ต้องอ่าน...

การทำดีท็อกซ์ดีจริงหรือ

 


รองศาสตราจารย์นายแพทย์สถาพร มานัสสถิตย์
ภาควิชาอายุรศาสตร์
Faculty of Medicine Siriraj Hospital
คณะแพทยศาสตร์ศิริราชพยาบาล

 


 การทำดีท็อกซ์เป็นอย่างไรเหมือนกับการสวนล้างลำไส้หรือไม่
            การทำดีท็อกซ์ เป็นการเอาสารพิษออกจากร่างกาย  ส่วนการสวนล้างลำไส้คือ การเอาน้ำใส่เข้าไปในลำไส้แล้วล้างเอาอุจจาระออกมา  ทั้งสองแบบมาเกี่ยวข้องกันคือ คนมีความเชื่อว่าการสวนล้างลำไส้เป็นวิธีการหนึ่งที่จะเอาสารพิษออกจากร่างกาย  จึงใช้คำสองคำนี้ใช้ปะปนกันว่า การทำดีท็อกซ์เป็นการสวนล้างลำไส้
ความเป็นมาของการทำดีท็อกซ์
            ความเป็นมาของการทำดีท็อกซ์หรือการสวนล้างลำไส้  เป็นวิธีการหนึ่งของแพทย์แผนโบราณที่ใช้รักษาโรคหรือการเจ็บป่วยอะไรก็ตาม  โดยทำให้คนไข้มีการถ่ายอุจจาระ  เป็นความเชื่อว่าการระบายเอาอุจจาระออกสามารถที่จะให้ไข้ลดลง  คนไข้อาการดีขึ้นเหมือนกับเข้าใจว่าเป็นการทำให้สารพิษออกจากร่างกาย  จะเห็นได้ว่ายาแผนโบราณหลาย ๆ ตัวจะออกฤทธิ์ทำให้ระบาย  สำหรับวิธีที่จะทำให้ระบายออกมาก ๆ  ก็ใช้วิธีสวนล้างอุจจาระออกมาเลยจะทำให้อาการดีขึ้น  การทำดีท็อกซ์จึงมีการปฏิบัติและทำมายาวนาน แต่ว่ายังไม่มีผู้สนใจที่จะนำมาทำอย่างเป็นเรื่องเป็นราว

 


การทำดีท็อกซ์ทำเพื่ออะไร
            การสวนล้างลำไส้ที่มีมาแต่โบราณนั้น ส่วนใหญ่ก็จะมีข้อบ่งชี้สารพัน ตั้งแต่ลดไข้ ท้องอืด ท้องเสีย แน่นท้อง  แม้กระทั่งรักษามะเร็งได้ คำกล่าวอ้างก็จะพอกพูนมาเรื่อย ๆ ในอดีต ไม่ว่าจะเป็นโรคปวดศีรษะไขมันสูง ความดันโลหิตสูง ตับอักเสบ นอนไม่หลับ โรคต่าง ๆ ที่กล่าวอ้างอย่างมากมายนั้น โดยตัวโรคของมันเอง บางครั้งอาจทำให้คนไข้ดีขึ้นได้ หรือบางครั้งมาพบแพทย์หรือทำอะไรบางอย่างก็ดีขึ้นได้  แต่จะดีขึ้นได้จริงหรือไม่จะต้องทำการพิสูจน์ทางวิทยาศาสตร์ด้วยการทำการศึกษาแบบชนิดสุ่ม  มีการพิสูจน์กับคนไข้ว่าถ้าใช้ยาจริงแล้วดีขึ้น หรือว่าใช้ยาหลอกแล้วดีขึ้นร้อยละเท่าไร แตกต่างกันอย่างมีนัยสำคัญหรือไม่ ซึ่งการทำดีท็อกซ์การพิสูจน์อย่างนี้ไม่มี เป็นการทำเหมือนเป็นประเพณีที่ทำกันมาแต่อดีตจนถึงปัจจุบันและทำกันต่อมาเรื่อย ๆ บางคนทำแล้วมีความรู้สึกดีขึ้นหลังจากได้ทำ ซึ่งอาจเป็นความรู้สึกช่วงสั้นๆ ไม่ใช่ระยะยาว  มีบางคนบอกว่า แม้กระทั่งไปรักษามะเร็งแต่จะเห็นว่าคนไข้ที่เป็นมะเร็งส่วนใหญ่ไปทำก็ยังคงเสียชีวิตอยู่ดี  แต่ว่าในช่วงแรก ๆ อาจจะทำแล้วเกิดความรู้สึกดีขึ้น สบายขึ้น เนื่องจากเป็นช่วงสั้น ๆ  เพราะฉะนั้นวิธีนี้ก็เป็นการช่วยเหลือหรือให้ความหวังเพื่อให้คนไข้รู้สึกดีขึ้น ถือว่าเป็นประโยชน์กับคนไข้ ในช่วงระยะเวลาสั้น ๆ
ขั้นตอนการทำดีท็อกซ์
            วิวัฒนาการในการทำดีท็อกซ์สวนล้างลำไส้มีมานานแล้ว  มีบางคนพยายามใช้น้ำเปล่า ๆ สวนล้างอุจจาระออกพบว่าไม่ดี  อาจจะมีการเอาสารอย่างอื่นเข้ามาในน้ำที่สวนล้างลำไส้ซึ่งก็มีการพัฒนาหลายอย่าง  ในอดีตมีการใช้น้ำผึ้ง น้ำชา เหล้า เบียร์ หรือว่าใช้สารสบู่ต่าง ๆ  เข้าใจว่าสามารถที่จะสวนล้างเอาสารพิษออกได้ดีขึ้น  ทำอย่างนี้เรื่อยมาจนต่อมามีความเชื่อว่า การใช้กาแฟมีฤทธิ์ทำให้มีการขยายตัวของเส้นเลือด   ถ้าให้เข้าไปแล้วจะทำให้ตับมีการขยายตัว เส้นเลือดมีการทำงานดีขึ้น  ทั้งนี้ ตับเป็นอวัยวะที่ทำลายสารพิษอยู่แล้วในร่างกาย  ในการที่ไปกระตุ้นให้ตับทำงานก็จะทำให้สารพิษขับออกจากร่างกายดีขึ้น มีทฤษฎีสนับสนุนในทางปฏิบัติจริง ๆ จะเป็นอย่างนั้นหรือไม่ ไม่ได้รับการพิสูจน์ว่ามันสามารถที่จะกำจัดสารพิษออกจากร่างกายได้จริงหรือไม่และสารพิษตัวที่กล่าวถึงอยู่นั้นไม่มีใครรู้ว่าสารพิษที่กำจัดนั้นคืออะไร  จึงมีความเชื่อกันว่าการทำดีท็อกซ์จะช่วยล้างสารพิษที่ตกค้างหรือสะสมในร่างกายโดยการนำกาแฟเข้ามาผสมน้ำทำให้มีถ่ายท้อง ก็คือวิธีการทำดีท็อกซ์ 

กาแฟที่นำมาทำดีท็อกซ์กับกาแฟที่ดื่มเหมือนหรือแตกต่างกันหรือไม่
            ส่วนใหญ่ที่บอกว่ามีการใช้กาแฟเป็นกระบวนการล้างลำไส้เป็นกาแฟที่หาได้ตามท้องตลาดทั่วไปมีสารคาเฟอีน เมื่อกาแฟเข้าไปร่างกายสามารถที่จะดูดซึมเพราะลำไส้มีหน้าที่ดูดซึมสารต่าง ๆ  เหมือนกับการดื่มกาแฟ  เพียงแต่ว่ากาแฟนั้นมันดูดซึมเข้าไปในส่วนของลำไส้ และจากลำไส้สามารถเข้าสู่ตับโดยตรง ก็เป็นความเชื่อตรงนี้ แทนที่จะดื่มก็เอาไปสวนล้าง สำหรับปริมาณไม่มีใครกำหนดว่าควรจะต้องใช้กาแฟเท่าไร บางคนอาจจะบอกว่าต้องใช้ 1 ช้อนชา 1 ช้อนโต๊ะหรือว่าเท่าไร ไม่มีการศึกษาว่าขนาดที่ถูกต้องหรือจำนวนเท่าไร รวมทั้งการใช้กาแฟได้ผลหรือไม่ก็ยังไม่ทราบแน่ชัด เพราะการทำดีท็อกซ์นั้นยังไม่ได้รับการพิสูจน์ทางด้านการแพทย์

ความจำเป็นในการสวนล้างลำไส้
            ในทางการแพทย์นั้นมีการสวนล้างลำไส้จริง  แต่จะไม่มีการทำกับคนปกติทั่ว ๆไป คนที่ท้องผูก เล็ก ๆ น้อย ๆ ส่วนใหญ่จะใช้ยาระบายจะไม่ใช้การสวน  คนที่ท้องผูกอย่างมากอุจจาระไม่ออก ทางการแพทย์ก็จะทำการสวนล้างลำไส้ หรือในกรณีที่คนไข้จะต้องเอกซเรย์ ไม่ต้องการให้อุจจาระในลำไส้บดบังส่วนที่จะทำเอกซเรย์ จึงต้องสวนเอาอุจจาระออก เพราะฉะนั้น การล้างลำไส้ก็เป็นการเอาอุจจาระออกให้เร็วขึ้นเท่านั้นเอง  นอกจากนี้ ยังมีกรณีคนไข้ที่มีลำไส้อุดตัน อุจจาระไม่ออก แพทย์ก็จะล้างออกเพื่อให้คนไข้มีอาการดีขึ้น  หรือคนไข้ที่เตรียมผ่าตัด เป็นต้น  ในทางการแพทย์จะต้องมีข้อบ่งชี้ในการสวนล้างลำไส้  โดยจะไม่ทำอย่างพร่ำเพรื่อ 

 


การทำดีท็อกซ์ควรทำหรือไม่อย่างไร
            การทำดีท็อกซ์  หากจำเป็นต้องทำจะต้องมีข้อบ่งชี้ทางการแพทย์ โดยแพทย์จะเป็นผู้ตรวจและวินิจฉัยว่าเห็นสมควร   หากปกติหรือมีอาการปวดท้องหรือป่วยเล็ก ๆ น้อย ๆ  ก็ไม่แนะนำให้ทำเพราะไม่มีประโยชน์ ถือเป็นการทำระยะสั้น ๆ   ซึ่งถ้าทำแล้วก็จะต้องทำบ่อย ๆ และจะต้องทำไปตลอดเมื่อมีอาการ
            การทำดีท็อกซ์เป็นกรรมวิธีทางการแพทย์ จะต้องทำโดยแพทย์หรือพยาบาล เป็นการเอาน้ำใส่เข้าไปทางลำไส้ใหญ่ แล้วบีบไล่น้ำขึ้นไป  การไล่น้ำขึ้นไปบางครั้งต้องใช้แรงดัน ฉะนั้นเมื่อน้ำที่เข้าไปก็มีการแลกเปลี่ยน มีการดูดซึมเข้าสู่ร่างกาย  ฉะนั้นหากทำไม่ถูกวิธีหรือใส่น้ำที่มีความเข้มข้นไม่ถูกต้องก็อาจจะทำให้เกลือแร่ในร่างกายผิดปกติ หรืออาจทำให้มีโซเดียมสูงหรือต่ำเกินไปในกระแสเลือดได้  หรือการใส่ปริมาณน้ำที่มากเกินไปจะทำให้ลำไส้มีการโป่งมากขึ้น ลำไส้บางคนที่มีโรคอยู่แล้วและไม่ได้รับการตรวจมาก่อนอาจทำให้ลำไส้แตกหรือทะลุ และอาจมีโรคแทรกซ้อนอื่น ๆ  เพระบางคนอาจมีโรคลำไส้โป่งพองแล้วไปทำอาจเกิดอันตรายได้ เพราะฉะนั้นการทำควรอยู่ภายใต้การควบคุมของแพทย์ที่มีความรู้ความชำนาญ ไม่ควรจะทำเอง หากทำกันเองโดยขาดความรู้ความเข้าใจที่ถูกต้อง ย่อมมีผลเสียต่อร่างกายแน่นอน
การรับประทานอาหารจะมีผลต่อร่างกายในเรื่องของการขับถ่ายหรือไม่
            การที่จะให้ขับถ่ายออกมานั้น นอกจากการทำดีท็อกซ์แล้ว อาหารที่เรารับประทานทุกวันก็มีผลเหมือนกัน อย่างเช่น อาหารพวกชีวจิต ที่เชื่อว่าทำให้ร่างกายขับถ่ายได้ดีขึ้น หรืออาหารจำพวกที่เผาผลาญพลังงานได้ดีและจำพวกผักต่าง ๆ ที่ช่วยดูดซับสารพิษเหล่านี้ เป็นต้น แต่ว่าหลักการต่าง ๆ เหล่านี้ ก็เป็นความเชื่อทั้งสิ้น แต่หลักการทางการแพทย์เชื่อว่าการรับประทานอาหารให้ครบหมู่ จะทำให้ร่างกายได้รับประโยชน์มากกว่าที่จะมุ่งเน้นในด้านใดด้านหนึ่ง  เพราะจะทำให้เซลล์ในร่างกายทำงานได้ไม่สมบูรณ์  หรือวิธีการง่าย ๆ คือเลือกรับประทานอาหารที่มีประโยชน์
            ในปัจจุบันหลาย ๆ แห่งใช้วิธีสวนล้างลำไส้ จะมุ่งเน้นไปทางการค้าค่อนข้างมาก และอาจมีการชักชวนที่มากกว่าความเป็นจริง   หากเป็นเช่นนั้น เราควรใช้วิจารณญาณไตร่ตรองดูว่าการทำเหล่านี้มีประโยชน์และเป็นจริงตามคำโฆษณาชวนเชื่อหรือไม่ การทำต่อเนื่องเป็นเวลานานๆ ไม่แนะนำให้ทำ  ถ้าจำเป็นจริงๆ ควรทำเป็นครั้งคราวมากกว่า


5555555 วันนี้ขี้เกียจพิมพ์ค่ะ  ขอมีสาระกับเค้าวันหนึ่งนะ....


ความจริงบทความนี้พี่นิด (Nilz) น่ะคะ เคยลงไปแล้วเมื่อเดือนกรกฎาคมที่ผ่านมา


และหนมถ้วยเพิ่งอ่านเจอในนิตยสารน้ำดื่มสปริงค์เคิลน่ะคะ  เห็นว่าดี


มีประโยชน์ก็เลยคิดว่าน่าจะเป็นประโยชน์ต่อผู้ที่ได้อ่านน่ะคะ....


ขออัพเมนูเมื่อวานเลยละกันนะคะ


จุ๊ๆๆๆๆ~~~~!!!  น้ำหนักไม่ต้องถามนะ... เคืองSmiley


เมื่อวานเช้า


โจ๊กหมูเด้งใส่ตับ 1 ชาม // กาแฟ 1แก้ว // แซนวิชหมูสยอง 1


เบรคเช้า


---


เที่ยง


ต้มยำไก่ใส่เห็ด(ซะเพียบ) 1 ชาม(เบ้อเร้อ!!!) // มะละกอ // แตงทิเบต // ลูกชิ้น 3 ไม้


เบรคบ่าย


มะละกอ 1 ถ้วยกลาง // Tim Tam 1 ชิ้น


เย็น


แกงส้มแตงโมอ่อน 1 ชาม(เบ้อเร้อ) // ข้าวโพดขาวต้ม 1 ฝัก(เพื่อการขับถ่าย)


แตงโม 1/4 ลูก



...เดือนนี้ตั้งใจว่าจะค่อย ๆ ปรับอาหารค่ะ  จะพยายามไม่ลืมกินข้าวเช้า  ปกติจะเดินดุ่ม ๆ เข้าออฟฟิศเลยเพราะความเคยชิน


แต่ต่อไปนี้จะกินข้าวตอนเช้าค่ะ  ส่วนมื้อเย็นจะเน้นเป็นจำพวกโปรตีนและวิตามินจากผักและผลไม้ค่ะ.....


...วันจันทร์หน้าหนมถ้วยจะ plan เมนูอาหารในแต่ละวันและจะกินให้ได้ตามที่แพลนเอาไว้ค่ะ....  โดยจะพยายามไม่กินนอกเมนูที่เตรียมไว้.... 









//www.si.mahidol.ac.th/sidoctor/e-pl/articledetail.asp?id=129
ขอบคุณแหล่งที่มาค่ะ



Free TextEditor


Create Date : 04 พฤศจิกายน 2553
Last Update : 4 พฤศจิกายน 2553 14:42:50 น. 11 comments
Counter : 860 Pageviews.

 
ไม่ต้องแพลนหลอกหนมถ้วย

ทำไม่ได้หรอก 555


โดย: palomaw วันที่: 4 พฤศจิกายน 2553 เวลา:14:54:32 น.  

 
สาระเพียบเลยนะเนี่ย หนมถ้วยก็มีสาระ 5555

นึกว่าสาระ......เป็นอย่างเดียว

กร๊าก ๆ ล้อเล่นเน้อ

ทำไมไม่ลงน้ำหนักล่ะตัวเธอว์ เค้าจะได้ให้กำลังใจถูกอ่ะ

เอามาโชว์ซะดี ๆ ว่าตอนนี้น้ำหนักเท่าไหร่ คริคริ


โดย: palomaw วันที่: 4 พฤศจิกายน 2553 เวลา:14:56:03 น.  

 
ว้าวววว
สาระเยอะ..จนไม่รู้จะแซวอะไรเลยอ้ะ..ฮี้ววว

หลักการถูกต้องมั่กๆ เลย กินข้าวตอนเช้า กินโปรตีนกะผักตอนเย็น ลดแน่นอน

เมื่อคืนเราจับไข้ ตื่นเช้ามา น้ำหนักหายไปเยอะเลยอ้ะ ..55 ไม่รู้จะอยากจับไข้อีกดีมั้ย..อิอิ


โดย: AB_PAE วันที่: 4 พฤศจิกายน 2553 เวลา:15:44:08 น.  

 
อะแฮ่ม พี่เป้
แน่ใจนะว่านอนจับไข้อย่างเดียว


โดย: มองไม่เห็นแต่สัมผัสได้ วันที่: 4 พฤศจิกายน 2553 เวลา:15:58:39 น.  

 
ไข้น่ะมีไว้ให้จับ!!! แต่ถ้าจะบีบอ่ะต้องอย่างอื่น!!!!


โดย: ครัวคุณยาย วันที่: 4 พฤศจิกายน 2553 เวลา:18:00:42 น.  

 
จับไร..บีบไรกัน .. มาจับด้วยจิ 5555

อ่านจนจบเลยค่ะน้องนุช พี่ตามก็เพิ่งรู้นะคะเนี่ย ว่าประโยชน์และโทษของการดีท็อกซ์สวนตรูดดด.. เป็นแบบนี้ค่ะ ขอบคุณที่เอาสาระดีๆมาแบ่งกันนะคะ หามาอีกนะนุช จะตามมาอ่านจ้าาา


โดย: Iaun_Tor วันที่: 4 พฤศจิกายน 2553 เวลา:18:15:07 น.  

 
วันนี้หนมถ้วยมาแบบสาระเน้น ๆ วุ้ย

สู้ ๆ จ้าหนมถ้วย


โดย: แม่เอเธนส์ (frau ) วันที่: 4 พฤศจิกายน 2553 เวลา:20:18:48 น.  

 
มาเป็นกำลังใจให้หนมถ้วยอีกคนจ้า


โดย: กรุ๊ปบีราศีสิงห์ วันที่: 4 พฤศจิกายน 2553 เวลา:20:37:52 น.  

 
วันนี้หนมถ้วยสาระเพียบ^^
ง่ะ เจอบีบๆจับๆป้างงตึ้บออกไปเลย 555

สู้ ต่อไปนะหนมถ้วยของพี่ๆ


โดย: หมีสีชมพู วันที่: 4 พฤศจิกายน 2553 เวลา:20:57:56 น.  

 
เข้ามาคิดว่าเข้าผิดบล็อกค่ะหนมถ้วยก็มีสาระดีนะค่ะ
ขอค้านค่ะช่างตัดผมที่สุพรรณเก่งจริงๆนะ


โดย: dongchoo วันที่: 4 พฤศจิกายน 2553 เวลา:21:27:38 น.  

 
คลิกๆๆ รูปสวยๆน่ารักๆไว้ส่งต่อเพียบ...


โดย: WikiPK วันที่: 5 พฤศจิกายน 2553 เวลา:11:18:22 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

ครัวคุณยาย
Location :
กรุงเทพฯ Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?]




สู้ ๆ ๆ ๆ สู่ฝัน....... จากคนมากฝัน

บันทึกปฏิบัติการลดน้ำหนัก
เริ่มต้นเมื่อ 31 พ.ค. 53 ... 71.7 โล(เกือบจะ 72 แล้วอ่ะ!!)เริ่มต้นสูตรพี่ปลา น้ำหนักเริ่มที่ 69.00 จนถึง
วันที่ 7 ก.ย. 53 .... 64.4 กิโล(ชั่งตอนเช้าวันที่ 8) รวมลดไปได้ 4.6 กิโล
เริ่มต้นลดแบบประยุกต์(เอาให้มั่วกันไปเลย 55555) ว่าจะลองเซิฟ ๆ แค่ 7 วันก่อน.... ผลเป็นไงค่อยว่ากันอีกที เพราะตัดขนมไม่ได้อ่ะ!!!
เริ่มวันที่ 8 ก.ย.53 สตาร์ทที่ 64.4
วันที่ 1 ผ่านไป ลดลงไปอีก 1 ขีด!! 64.3

Friends' blogs
[Add ครัวคุณยาย's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.