Group Blog
 
 
เมษายน 2554
 
 12
3456789
10111213141516
17181920212223
24252627282930
 
16 เมษายน 2554
 
All Blogs
 
T^T ภารกิจพิชิต ครึ่งเดือน กับเงิน 500 บาท T^T ตอนที่ 2 หุงข้าว...ช่วยชีวิต มาหุงข้าวญี่ปุ่นกันเถอะ ข้าวปั้นกับข้าวต้มสีฟ้า

T^T ภารกิจพิชิต ครึ่งเดือน กับเงิน 500 บาท T^T ตอนที่ 2 หุงข้าว...ช่วยชีวิต มาหุงข้าวญี่ปุ่นกันเถอะ ข้าวปั้นกับข้าวต้มสีฟ้า


16 /4 / 2554

วันนี้วันที่สองละครับ ของการใช้ชีวิตอยู่กับบ้านด้วยของตุนกับเงิน 500 บาท - -" เริ่มรู้สึกเหมือนกับขังตัวเองซะแล้ว
หลังจากอยู่บ้านมาวันที่สอง และพยายามไม่ออกไปไหน เพื่อลดการใช้เงินลง ก็พบว่าปัญหาที่ตามมาคืออาการจิตตกครับ เนื่องจากผม ไม่ได้อยู่หอ แต่อยู่บ้านเช่า ซึ่งก็มีบริเวณพอสมควร
ปกติก็จะมีเพื่อนอยู่ด้วย หรืออย่างน้อยก็จะออกไปเดินเล่น เดินห้าง ดูหนังสืออะไรบ้างหรือจับจ่ายข้าวของมาทำอาหาร แต่ตอนนี้ต้องลดของเหล่านั้นลง และการอยู่บ้านใหญ่ๆแบบนี้คนเดียว มันทำให้เกิดอาการแบบโหวงๆ ได้มากกว่าอยู่หอมากนัก T^T เลยมีความรู้สึกคล้ายเด็กที่เก็บตัวเองอยู่แต่ในบ้าน T^T

ส่วนเรื่องอาหาร วันนี้ไม่มีอะไรมากครับ หุงข้าว หุงไว้กินทั้งวัน ทำข้าวปั้นกับข้าวต้มเครื่อง โดยใช้ของที่มีนั่นละ มื้อแรกก็ทำข้าวปั้นครับ ขอบคุณคุณ naj-chan จากกระทู้เมื่อวานด้วยนะครับ ผมทำข้าวปั้นไส้บ๊วย กับหมูรมควัน (ยังไม่อยากแกะห่อหมูหยอง) มื้อนี้กินเป็นมื้อเช้า รวดเที่ยงอีกแล้ว

ที่บ้านมีสาหร่ายเก่าๆเหลืออยู่ด้วยสองแผ่น (เหลือจากใช้ห่อโมจิปิ้งตอนเดือนที่แล้ว)
ซึ่งตอนนี้อาการมันเหี่ยวมาก น่าจะโดนความชื้น ซึ่งปกติแล้วสาหร่ายมันจะไม่สามารถงอได้แบบนี้นะครับ มันจะแตกซะก่อน ดังนั้นก็เอาเข้าเตาอบ อบไฟอ่อนๆซักสิบ หรือสิบห้านาที ให้มันกลับมากรอบเหมือนเดิม







แล้วก็มาหุงข้าวญี่ปุ่นกันครับ เมื่อวานเห็นมีกระทู้ของคุณ ออมสินไตตั้น //www.pantip.com/cafe/food/topic/D10451200/D10451200.html ที่ทำข้าวสีม่วง(หุงอัญชัน) วันนี้ก็หยิบดอกไม้มาหุงบ้างครับผม มีดอกไม้แห้งอยู่ จริงๆข้าวสีแปลกๆพวกนี้ ผมก็หุงบ่อยเหมือนกัน แต่ไม่ได้เอามาให้ดูซักที
วิธีมันทำได้หลายแบบนะครับ จะต้มน้ำดอกไม้แล้วเอามาหุง แบบที่คุณออมสินไตตั้นทำก็ได้ หรือ ใช้วิธีแบบที่ผมทำ คือซาว แล้วหุงไปกับข้าวเลยแบบนี้ก็ได้ แต่มันจะมีกากปนอยู่ แล้วก็ ดอกไม้ที่ใช้ ต้องเป็นดอกไม้แห้งนะครับ ไม่งั้น มีโอกาสที่จะเหม็นเขียว

วันนี้หุงข้าวสามถ้วย แล้วก็หยิบดอกอัญชัน ดอกกุหลาบ ดอกคำฝอยลงไป กะๆเอา ไม่ได้นับ ไม่ได้ตวง






แล้วก็ซาว รวมไปกับข้าวเลยครับ การหุงข้าวญี่ปุ่นนี่มันต้องซาวหลายครั้งกว่าข้าวไทย
แล้วก็ต้องขัด ต้องนวดมันด้วย เพื่อให้ข้าวออกมาเหนียวนุ่ม วิธีการก็คือ ซาวๆๆ ล้าง แล้วก็เอามือสองมือ ขัดๆข้าว
สลับกับการนวด แบบเดียวกับที่นวดแป้งนะครับ เสร็จแล้วก็ซาวๆๆ ทำสลับกันไป จนน้ำที่เกิดจากการซาวข้าวมันใส(สีก็ตามดอกไม้ที่ใส่) จึงจะเติมน้ำ แล้วเอาไปหุงครับ โดยจะใช้อัตราส่วน ข้าวกับน้ำ 1/1 +1/2






ระหว่างที่เราซาวข้าว ดอกไม้มันก็จะเริ่มดูดน้ำ แล้วปล่อยสีออกมา เราก็นวดไปพร้อมๆกันเลยครับผม






จากนั้น ระหว่างที่หุงข้าว เราก็มาเตรียมไส้ข้าวปั้นกัน ซึ่งไม่มีอะไรมาก เพราะจะทำไส้บ๊วย
เพิ่มไส้หมูรมควันอีกอย่าง

ของที่ใช้ทำไส้บ๊วยก็คือบ๊วยครับ(แหงล่ะ) แต่ผมแอบเพิ่ม เหล้าบ๊วยไปอีกอย่าง เพื่อเพิ่มความอร่อย???








บ๊วยเค็มญี่ปุ่น(อุเมะโบชิ) นั้นจะต่างจากบ๊วยเค็มแบบไทยหรือจีน ที่ใช้นึ่งปลานะครับ
คือมันจะดูเหี่ยวๆกว่า เนื้อจะแน่นกว่าของไทยที่ดูเต่งๆ
เนื่องจากขั้นตอนการทำนั้น บ๊วยเค็มแบบไทยจะเอาไปดองเลย
แต่อุเมะโบชินี่ เค้าจะดอง แล้วเอาไปตากให้แห้ง แล้วเอามาดองสลับกันครับ มันเลยดูเหี่ยวๆ
รสชาติก็ต่างกันนิดหน่อยด้วย แต่รับรองว่า เปรี้ยวและเค็มสุดๆเหมือนกัน ><

บ๊วยดองอุเมะโบชินี่อาจจะถือเป็นอาหารช่วยชีวิตได้เลย เพราะมันรสจัดมาก กินเม็ดนึงกับข้าวทั้งถ้วยก็ยังไหว
คนญี่ปุ่นสมัยก่อนพอมีสงครามก็คงมีบ๊วยแปะบนข้าวเป็นจุดแดงๆแบบธงชาติญี่ปุ่นล่ะมั้งครับ 555






บ๊วยดองก็จัดการแกะเม็ดออก แล้วยีๆพอเละ ผสมกับเหล้าบ๊วยไว้ทำไส้ ใช้สี่เม็ดก็เยอะแล้ว
แล้วก็เอาขาหมูรมควันเมื่อวานมาแล่บางๆไว้ทำอีกไส้นึง






รวนน้ำมันซักหน่อย






สาหร่ายที่อบเสร็จก็เอาออกมา ตัเป็นชิ้นๆไว้ครับ






ตอนนี้ ข้าวก็หุงเสร็จพอดี(หลังจากมันดีด ปล่อยให้มันระอุในหม้อซัก 15 นาทีนะครับ) ออกมาเป็นสีฟ้าๆ ทะ:-)ๆ มีกลิ่นกุหลาบด้วย = =
จะกินได้มั้ยนี่






คดข้าวออกมาตามที่ต้องการจะใช้นะครับ ของผมใช้เท่าถ้วยนี่หละ คนๆให้ไอน้ำระเหยหน่อยนึง พออุ่นๆ
เอาเกลือซักสามสี่หยิบมือโปรยลงไปคลุกๆด้วย ให้มันมีรสเค็มปะแล่มๆ แล้วก็เอามาปั้นครับ หาอ่างใส่น้ำไว้ข้างๆตัว จะได้ใช้จุ่มเวลาข้าวติดมือ ตอนปั้นไม่ได้ถ่ายรูปเพราะมือเลอะ ต้องใช้ทั้งสองมือนะครับ
วิธีการก็คือ เราเอาข้าวส่วนแรกทำเป็นแผ่นกลมๆ แล้วก็เอาไส้วางตรงกลาง ตักข้าวอีกส่วนมทาวางทับ(น้อยกว่าส่วนแรก) แล้วก็ใช้อุ้งมือ กับนิ้วมือ ปั้นให้เป็นรูปสามเหลี่ยม
ต้องปั้นตอนอุ่นๆนะครับ ร้อนไปปั้นไม่ไหว เย็นไปมันจะไม่จับกันเป็นก้อน และก็จะแตกง่ายเอา






ปั้นเสร็จก็เอาสาหร่ายมาปิดด้านล่าง เพิ่มรสชาติ และกันข้าวติดชาม ติดมือ และติดกัน จะได้ถือง่ายๆด้วย
ออ อย่าลืมดึงๆดอกกุหลาบออกด้วยก็ดีนะครับ เคี้ยวโดนทีนี่ กลิ่นกุหลาบขจรขจายเลย = ="






ได้มาทั้งหมดเจ็ดก้อนพอดีครับ แค่นี้ก็อิ่มไปมื้อนึงล่ะ ดอกคำฝอยกับดอกอัญชัน สำหรับผมไม่เป็นไร กินได้สบายมาก ถือว่าเพิ่มสัมผัสละกัน 5555+






ข้าวปั้นสีฟ้า สีแปลกๆจะได้ไม่เบื่อครับ T^T ยังต้องอยู่อีกหลายวัน ปล. มื้อนี้กินเยลลี่ไปอีกถ้วยด้วย






จากนั้น วันนี้ทั้งวันก็อ่านหนังสือบ้าง เล่นเนต ฟังเพลง ปลูกผัก ไปตามเรื่อง ไม่อยากออกไปไหน จนมื้อเย็น ยังมีข้าวเหลือเยอะครับ เอามาทำข้าวต้มกินละกัน
จะใช้ขาหมูรมควันนี่ล่ะทำน้ำซุป เพราะมันติดกระดูกด้วย มีขิงในตู้เย็น แล้วก็ไปเก็บตำลึงมาเพิ่ม






แล่ขาหมูออก แล้วเอากระดูกมาต้มกับน้ำ ทำน้ำซุป เครื่องเทศรอดูอีกที เพราะคาดว่ากลิ่นของขาหมูรมควันน่าจะละลายออกมาพอสมควร (เมื่อวานมันละลายลงไปในมาม่า)
สรุปวันนี้ก็ใช้หมูหมดไปชิ้นนึง
และก็เป็นไปตามคาด รสหมูมันละลายออกมาพอดีครับ อร่อยดี เติมเกลืออีกนิดก็ใช้ได้






ไปเปิดตู้เย็น เพราะคิดว่าจะเอาแครอทมาใส่
ปรากฏว่า แครอทเริ่มเสื่อมสภาพละครับ กลายเป็นแบบนี้ซะแล้ว เหี่ยวเลย ก็มันตั้งแต่เดือนที่แล้วละนี่เนาะ สังขารย่อมร่วงโรยไปเป็นธรรมดา






แต่ถึงยังไงก็จะกินอยู่ดี จัดการปาดส่วนที่เสียออก และปอกเปลือก
เป็นแครอทที่นุ่มมากๆเลยล่ะครับ = ="
จัดการหั่นเป็นชิ้นๆ แล้วลวกน้ำเกลือไว้ดีกว่า น่าจะยืดอายุออกไปได้อีกซักพัก






จัดการเอาเกลือละลายน้ำ แล้วต้มให้เดือด ครับ เอาแครอทลงไปลวกแปปนึง ซักนาทีสองนาทีพอ แล้วเอาไปล้างน้ำเย็น ใส่กล่องเก็บไว้ ผักที่สุกแล้วน่าจะเก็บได้นานขึ้น







จะเอามาใช้ก็ง่ายดีด้วยครับ จัดการหย่อนลงไปในน้ำซุปสองสามเส้น ต้มกับกระดูกหมู






เอาหมูรมควันที่สไลด์ไว้ใส่ลงไปด้วย พอน้ำเดือดก็เอาข้าวใส่ลงไป ปล่อยให้มันบานเต็มหม้อ
ขอบอกว่าข้าวต้มสีฟ้านี่มัน... ดูไม่เจริญอาหารเลยล่ะครับ ใส่ไข่ด้วยฟองนึง
เสร็จแล้วเยอะพอควร น่าจะกินได้มื้อเย็นกับมื้อดึก






นี่ครับ ใส่ตำลึง โรยขิงซอย โดยพริกไทยก็เสร็จ ไปละอีกมื้อ มีเนื้อแดดเดียวที่ตากไว้เมื่อวานทอดเป็นเครื่องเคียง กับพวกของดอง กินโออิชิไปด้วยขวดนึง อากาศร้อนมาก เดี๋ยวหมดแล้วค่อยชงเอง - -"






เครื่องเคียง เนื้อแดดเดียวเค็มอะ T^T และก็บ๊วยดอง กระเทียมดอง แคปเปอร์ดองที่ตุนไว้






ซัดเยลลี่ไปอีกแก้ว เหลือแก้วเดียวแล้วในตู้เย็น ซักพักคงต้องทำของหวานเพิ่ม(ผมชอบกินของหวานครับ)
ตกลงวันนี้ก็จัดการได้อีกวัน ออ ยังมีข้าวต้มเหลือไว้มื้อดึก แล้วก็ข้าวหุงไว้ทำข้าวผัดด้วยครับ






ปล. วันนี้แอบใช้ตังค์ไปสิบบาท ซื้อนม เพราะคาดว่าน่าจะจำเป็น แต่ยังไม่กระทบกับแบงค์ห้าร้อย >< ว่าจะทยอยใช้เหรียญก่อน แล้วพอต้องใช้ห้าร้อยนี้จะทำบัญชีอย่างจริงจัง เหตุผลก็เพราะ ผมเกลียดเลขครับ T^T

ขอบคุณทุกคนที่มาแชร์ไอเดีย และให้กำลังใจนะครับ







Create Date : 16 เมษายน 2554
Last Update : 16 เมษายน 2554 22:40:17 น. 1 comments
Counter : 6056 Pageviews.

 
แอบมาติดตามภารกิจนี้จากห้องก้นครัว
แต่ละอย่างนี่น่ากินทั้งนั้น :))


โดย: Mowcup วันที่: 17 เมษายน 2554 เวลา:0:55:55 น.  

ชื่อ : * blog นี้ comment ได้เฉพาะสมาชิก
Comment :
  *ส่วน comment ไม่สามารถใช้ javascript และ style sheet
 

คุ้มข้าวกล้อง
Location :


[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 11 คน [?]




Friends' blogs
[Add คุ้มข้าวกล้อง's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.