ทักทายยามเย็นๆ ค้าบทุกท่านช่วงนี้ไม่รู้เป็นไรคับ หาเวลามาอัพเดตปัดฝุ่นบล็อกได้ยากเย็นเสียเหลือเกิน.....คนไข้ก็ขยันมาตั้งแต่ไก่ไม่ทันสะดุ้งตื่น .....โอ ก็อด
ที่จริงวันนี้มีนัดตรวจต่อมลูกหมากแต่เช้า แต่คนไข้ไม่ได้งดน้ำงดอาหารมา (NPO : Nothing Per Oral)....ตรวจไม่ได้สิคับเพราะว่าเดี๋ยวอาหาร + น้ำที่ทานเข้าไปจะไปรบกวนภาพที่ออกมา แล้วก็เวลาฉีดยา ถ้าเกิดอาการแพ้จะได้ไม่ต้องอาเจียนออกมาด้วยอะคับ.......ก็เลยมีเวลามานั่งปัดหยากไย่กับเขาซักที กร้ากกกกกกกกกกกกก
เอาล่ะคับ กลับมาสู่ประเด็นหลักกันเถอะคับ.....
ผมตั้งหน้าตั้งตารองานมณียามานานมากกกก ตอนที่จัดครั้งที่แล้วเมื่อไม่นานมานี้ ตอนแรกผิดหวังมากๆ....ทำไม brand มันน้อยจังเลยหว่า
แต่พอมีข่าวมาจัดที่มณียาอีกรอบ แถม brand เยอะซะขนาดนี้.....ยอมลางานเลยดีกว่าคับ 5555555
พอจะยื่นเรื่องลาบอกหัวหน้าว่าจะไปงาน Sales น้ำหอม...พี่เค้าก็ให้เราไปเลยไม่ต้องยื่นใบลา แค่พี่ฝากซื้อด้วยก็พอแล้ว แถมให้ค่ารถมาด้วยอีกต่างหาก โอ....Perfect เสร็จโจร........กร้ากกกกกก
แต่พอดีใจได้สักพัก พี่เค้าบอกว่าทำเคสให้เสร็จก่อนนะ............อืมมม แอบเซ็งคับ หะๆๆ
พอรวบรวมรายการฝากเสร็จแล้วก็รีบสานชะลอมเตรียมเข้ากรุงมุ่งสู่อมรานครอีกครั้ง.......โอววว รถติดมาก ตูจะไปทันมั้ยนี่ แถมเป็นวันที่สองแล้วด้วย ไม่รู้ตัวไหนจะหมดบ้างแฮะ จะนั่งรถ taxi ไปก็รถติดเสียเหลือเกิน...ยอมนั่ง BTS ไปเป็นครั้งที่สองในชีวิตก็ได้ฟะ
....ไม่ต้องแปลกใจไปหรอกคับ ผมเคยนั่งครั้งที่สองในชีวิตจริงๆ เพราะว่าไม่ค่อยมีโอกาสเข้ากรุงแล้วก็เป็นโรคกลัวหลงทางเป็นอย่างมาก กลัวโน่นกลัวนี่สารพัด กลัวจะลงผิดจุด กลัวหยอดเหรียญไม่เป็น จะทำตัวเนียนเป็นชาวต่างชาติไม่รู้เรื่อง หน้าก็ไม่ให้เป็นซะเหลือเกิน ยังกับเขมรหนีกรุงแตกมา..................สรุป กลัว BTS มันกัดนั่นเอง.......5555
แต่นึกไงก็ไม่รู้ เกิดมาเป็นคน outside contry ทั้งที ก็ขอให้บ้านนอกสุดๆ แล้วกันฟะ...
พอคลำทางจาก BTS ไปลงชิดลมได้ โอยย ตื่นเต้นมากคับ นึกว่าจะโดนจับข้อหาบ้านนอกเกินขนาดซะแล้ว หะๆ.....เดินหาทางเข้าตึกมณียาซะ 3 รอบก็เจอทางเข้า....เกือบจะได้เผาซะแล้ว 5555
บรรยากาศของวันที่ 2 ไม่ต้องพูดถึงเลยคับ คนเยอะมากกกกกก แทบจะเหยียบกันเลยอ่า.....
กว่าผมจะเข้าไปดูกับเค้าได้ ก็รอประมาณสักสิบนาทีคับ เพราะไม่สามารถแทรกเข้าไปตรงไหนได้เลย
ผมหยิบขวดโน้นขวดนี้มาดมเรื่อยๆ ดมจนแทบจะงงเลยคับ เพราะว่ามันเยอะมากจริงๆ มีตั้งหลายโต๊ะเลยอ่า แต่แอบดีใจคับ เพราะว่าคนขายจำเราตั้งแต่งานอโศกทั้งๆ ที่เพิ่งไปงานนั้นเป็นครั้งแรกได้ด้วย...โอยย ปลื้มมากมายคับ
ในขณะที่กำลังสาละวนดมกลิ่นจนมึนหัว ก็พอเงยหน้าขึ้นมาสูดอากาศบริสุทธิ์พอที่จะให้ช่วยบรรเทาได้บ้าง ก็ไปเห็นคนๆ นึงที่แบบขาววิ๊งมาเลย......เอ.....processing แล้ว เจอพี่นุช สาวห้องแป้ง มั่วซั่วเรนเจอร์คนสวยนี่เอง หะๆๆๆ ......ทักพี่เค้าไปถึงกับงงเลยทีเดียว ไม่นึกว่าจะได้มาเจอพิงค์ พอลลาเรนเจอร์ตัวจริงเสียงจริง สมแล้วๆ 555555
แต่งานหลวงต้องมาก่อน เลยปล่อยให้พี่นุชเลือกน้ำหอมไปอาบให้ซะสะใจก่อน ผมก็สาละวนคำนวณราคา (ซึ่งคิดได้ช้ามาก ขนาดผมกด Calc ในมือถือนะนี่)
ผมได้มาดังนี้คับ
ตอนแบกกลับนี่หนักมากกกกกกกกกก คับ........เฮ้อออ
ขอเปิดตัวด้วย Parfum ที่ Basic สุดๆ แต่ก็ยังครองใจหลายๆ คนก่อนด้วย
CK one 200 ml. ฿2100 คับ
พวกนี้มีคนฝากมาหมดคับ แบบว่าหนักมาก............................กก ถามว่าคุ้มมั้ย ไม่ทราบคับ เพราะว่าเค้าบอกราคาเต็มมา 3900 แต่เห็นเพื่อนคนนึงบอกว่าใน Duty Free ถูกกว่าเยอะเลยอ่า
ที่จริงก็มีขวด Limited Edition เป็นกล่องสีแดง ที่ตัวขวดมีลายด้วย แต่ถ้าผมจะอยากได้จริงๆ ก็คงจะเอาขวด 200 ml. ดีกว่าคับเพราะว่าปริมาณอยู่เหนือสิ่งอื่นใด หะๆๆๆ
เรื่องกลิ่นคงไม่ต้องพูดถึงนะคับ เพราะผมเชื่อว่าทุกๆ ท่านเคยได้ลองดมน้ำหอมตัวนี้กันมาบ้างแล้วล่ะคับ
ขวดที่สองเป็นขวดที่ผมอยากได้ตั้งแต่จัดงานที่อโศกแล้วคับ นั่นคือ น้อง
L : Gwen Stefani EDP 100 ml. นี่เองค้าบ.....
ผมจำได้ว่าราคา ณ งานอโศกยัง ฿2000 อยู่เลยอ่า อยากได้มากมายคับ แต่ตอนนั้นมันเกินงบไปแล้วเลยอดไปตามระเบียบ พอสบโอกาสได้มาเจอกับน้องแอลวันนี้กับราคาแค่ ฿1400 มีหรือที่พี่จะไม่อยากได้น้องนาง พอดี consult กับเพื่อนผ่านโทรศัพท์ว่ากลิ่นมันโอเคแล้วเป็นตัวที่อยากได้ เพื่อนก็เกิดกิเลสตาม เลยเอามา 2 นางคับ.......ขวดน้องแอลก็ออกแบบมาได้สวยมาก แต่ฝามันใหญ่เท่าฝาชี แต่สีข้างในเป็นสีเขียวไม่ค่อยสวยเลยอ่ะคับ น่าจะทำเป็นสีทองให้หมดเลย .....ส่วนเรื่องกลิ่นก็ช่างหอมตรึงตราใจมาก ไม่หอมหวานมากเกินไป แต่ทำไมพี่ที่ทำงานบอกว่ากลิ่นเหมือนบ๊วยฟะ ทำไม downgrade น้องแอลผมได้ขนาดนี้ค้าบ....
วันนี้ผมก็ใช้ตัวนี้ล่ะคับ หอมไปทั้งวัน คนไข้เป็นอันสลบ.....55555555555555 ดมตอนนี้ก็ยังได้กลิ่นน้องแอลอยู่เล้ย
ขวดที่ 3
Joop! Go EDT 100 ml. ค้าบบ
ตัวนี้ราคาแค่ ฿1250 เท่านั้นเองคับ กลิ่นหอมๆ สบายๆ เหมาะกับคนที่ look ซุกซนนิดหน่อย ถึงใครจะว่าขวดมันธรรมดา แต่ผมว่ามันก็ดูโอเคดีนะคับ ตอนแรกก็อยากได้เจ้าตัวนี้ไว้ครอบครองเหมือนกันเพราะว่าราคามันน่าสนมากๆ แต่พอบอกราคากับพี่ที่ทำงาน พี่เค้าก็บอกว่าอยากได้ตัวนี้แล้วเอาเงินมาให้เลย......เกิดอาการสมองขาดเลือดไปชั่วขณะคับ งงไปเลย..............
แต่ตอนนี้ฝากพี่สาวสุดสวยซื้อมาทดแทนดวงใจที่ขาดหายไปแล้วคับ แหะๆๆ ต้องขอบคุณพี่สาวผมกับตรงนี้ด้วยคับ 5555
ขวดที่ 4
BVLGARI AQVA Marine pour homme 100ml.คับ
ผมจำกลิ่นตัวนี้ไม่ค่อยได้เท่าไหร่คับ ตัวนี้มีคนฝากซื้อ เลยไม่กล้าแกะดมคับ หะๆๆ สนนราคาอยู่ที่ ฿2050 คับ
ขวดที่ 5
BVLGARI BLV EDP 75ml. ค้าบ
ขวดนี้ราคา ฿2350 คับ แอบแพงไปหน่อย แต่ก็เข้าใจว่ามันเป็ย EDP ล่ะคับ ตัวนี้เพื่อนฝากซื้อเลยมีโอกาสได้ดมอีกครา ก็หอมติดตราตึงและทนนานอีกเช่นกันคับ แม้ว่าตอนช่วงแรกๆ กลิ่นจะไม่ค่อยออกเท่าไร แต่พอผ่าน body temp. ไปนานๆ ก็หอมทั่วเลยล่ะคับ.....ขวดมันผมว่าไม่ค่อยสวยเท่าไหร่อะคับ สีน้ำเงินด้านๆ น่าจะเล่นอะไรมากกว่านี้แฮะ
ขวดที่ 6
Davidoff cool water 125 ml.ขวดนี้ราคา ฿1850 คับ ตัวนี้คนฝากซื้อบอกให้เอาอะไรมาก็ได้....ผมก็เลือกน้ำหอมไม่ค่อยเป็นเสียด้วย อาศัยจากการที่แอบดู SotD ทุกๆ วัน ก็คิดว่าตัวนี้น่าจะเป็นตัว Top ก็เลยสอยมาคับ ส่วนกลิ่นก็จำไม่ค่อยได้เหมือนกันอ่า
ขวดที่ 7 ขวดสุดท้าย กับ
Davidoff adventure amazonia 100 ml. ค้าบ
ตัวนี้ก็จำกลิ่นไม่ค่อยได้เหมือนกันคับ กำลังหลงลมปากคนขายที่จำผมได้ที่อโศก เค้าบอกว่าเป็นตัวใหม่ ก็เลยสอยมาโดยที่ยังไม่ได้ทันดมเลยคับ หะๆๆๆ
สรุปแล้ว เหมือนไปซื้อให้คนอื่นเขามากกว่าแฮะ ดีนะที่มีค่ารถไป ไม่งั้นก็บวก Service charge 5 ดาวไปเรียบร้อยแล้วล่ะคับ 55555
ขอบคุณที่มาเยือนบล็อกนะคับ
ถึงวันนี้คงหอมฟุ้งทั้งออฟฟิศ