|
| 1 | 2 |
3 | 4 | 5 | 6 | 7 | 8 | 9 |
10 | 11 | 12 | 13 | 14 | 15 | 16 |
17 | 18 | 19 | 20 | 21 | 22 | 23 |
24 | 25 | 26 | 27 | 28 | 29 | 30 |
31 | |
|
|
|
|
|
|
|
กล้วยหางไหล
กะเรกะร่อน,กุหลาบเลื้อย,กล้วยหางไหล (Cymbidium finlaysonianum)
ถิ่นกำเนิด : กล้วยไม้สกุล Cymbidium พบตั้งแต่ประเทศอินเดีย ,แถบเชิงเขาหิมาลัย ,เอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ,จีน ,ไต้หวัน ,ญี่ปุ่น ,อินโดนีเซีย ,ตอนเหนือของออสเตรเลีย
กล้วยไม้สกุล Cymbidium นี้มีอยู่ด้วยกันประมาณ 44 ชนิด แบ่งออกได้เป็น 2 กลุ่มใหญ่ๆได้คือ - พวกที่ขึ้นเกาะอาศัยตามต้นไม้ กลุ่มนี้มีดอกขนาดเล็ก สีสันไม่ค่อยสะดุดตา ช่อดอกห้อยลง ใบหนาและแข็ง ทนต่ออากาศร้อนได้ดี เพราะขึ้นอยู่ตามพื้นราบสูงจากระดับน้ำทะเลไม่มากนัก เช่น กะเรกะร่อน ซึ่งพบขึ้นเกาะตามต้นตาลแถบจังหวัดเพชรบุรี - พวกที่ขึ้นอยู่ตามพื้นดิน กลุ่มนี้มีดอกขนาดใหญ่สะดุดตา ช่อดอกตั้งขึ้น ใบเรียวยาว เนื้อใบบางกว่าพวกแรก ดูเหมือนใบตะไคร้ใบหญ้า ไม่ทนต่ออากาศร้อน แต่ชอบอากาศเย็น เพราะขึ้นอยู่ตามดอยสูง ฝรั่งนำเอาซิมบิเดี้ยมกลุ่มนี้ไปผสมพันธุ์จนได้ลูกผสมสวยงาม ดอกใหญ่ จำนวนมาก ใช้เป็นไม้ตัดดอกและปลูกดูดอก กลุ่มนี้เช่น เอื้องสำเภางาม ที่พบแถบภูหลวง ภูกระดึง เป็นต้น
| | |
| |