ฮ่องกง มาเก๊าตามเค้าว่า วันที่ 3 ไหว้เจ้าแม่กวนอิม และนั่งรถรางไปชมหมอกมุมสูงที่เดอะพีคกันค่า...


ตอนแรกกะมาเขียนบลอกไปเที่ยวมาเก๊าฮ่องกง ว่าได้ไปเที่ยวที่ไหนมา เดินทางไปยังไง ก็จะมาเล่าบรรยากาศบ้านเมืองซะหน่อย อาหารการกินเรากะไม่ค่อยเน้นเท่าไหร่ ยิ่งเรื่องช้อปนี่กะว่าจะไม่พูดถึงแน่ๆ แต่ไปๆมาๆ คุยถึงเรื่องของกิน และบรรยายบรรยากาศการช้อปปิ้งบ่อยกว่าสถานที่เที่ยวไปซะงั้น พูดตามตรง ถ้าได้มีโอกาสมาฮ่องกงอีก คงเตรียมตังมาหาของอร่อยๆกิน กับงดซื้อเสื้อผ้าใหม่ก่อนมาซัก 3 เดือนแล้วมาซื้อที่ฮ่องกง (คงงดได้อยู่นะแก)
อื้มมมม.......แค่คิด ความสุขก็ล้นปรี่......

กลับมาเข้าเรื่องกินกันดีกว่า
เช้าวันที่สาม เริ่มต้นเมื่อเช้าด้วยติ่มซำ มาตามตำราของเวบฮ่องกงแฟนคลับ (เช่นเคย) ร้านชื่อ Tao heung restaurant อยู่แถวๆโรงแรมที่เราพัก ตั้งอยู่ชั้น 3 อาคาร Carnavon plaza ทางขึ้นจะลึกลับหน่อย พอขึ้นมาก็จะเจอบรรยากาศแบบภัตตาคารจีน อะไรประมาณนั้น

เข้ามาก็ประหม่าทันที แบบว่าไม่รู้ว่าต้องสั่งอะไรยังไง เข้ามานั่งโต๊ะเค้าเอากาน้ำชามาสองกา พวกเราก็นั่งถกว่าจะทำยังไงกับมันดี สุดท้ายคิดกันเอาเองว่า อันนึงเป็นกาน้ำชา ส่วนอีกอันเป็นน้ำร้อนเฉยๆอาจใช้เพื่อเจือจางชาอีกกา ในกรณีที่มันเข้มเกินไปแล้ว (มั้งนะ) ต่อจากนั้นพนักงานก็เอาเมนูมาวางไว้ให้ ตอนแรกเอามาให้แต่ใบสีชมพูซึ่งเค้าเอาไว้ติ๊กเลือกอาหารที่เราจะสั่ง เป็นเมนูอังกฤษแต่อ่านชื่อแล้วจินตนาการหน้าตาอาหารไม่ออก พนักงานคงเห็นเราทำหน้าโง่ๆเลยเอาตัวช่วยให้ เป็นเมนูแบบมีรูปสี่สีอ่านสนุกมาให้ดูทีหลัง หลังจากนั่งทำข้อสอบเอ๊ย...เลือกอาหารจากเมนูร่วมสิบนาที สรุปสุดท้าย คือต้องเรียกพนักงานมาอีกรอบเพื่อช่วยติ๊กอาหารในใบสีชมพูที่เลือกจากเมนูสี่สีอีกต่อนึง เฮ้อออ... กว่าจะได้กินเนาะ



สั่งได้ออกมาหน้าตาแบบนี้นั้นแล....



สรุปว่ามื้อนี้อาหารงั้นๆ ขนมจีบอร่อย กระดูกอ่อนหมูนึ่งเต้าซี่ก็โอ นอกนั้นจัดว่าเฉยๆ ใจจริงเราอยากกินเมนูที่เป็นปาท่องโก๋แล้วห่อด้วยก๋วยเตี๋ยวแหละ แต่หาไม่เจอน่ะ เสียดายๆ มื้อนี้ 110 เหรียญ ถือว่าไม่แพงเลยถ้าเทียบกับร้านอาหารในฮ่องกงโดยทั่วไป

จากนั้นเดินทางไปไหว้เจ้าแม่กวนอิมที่รีพัลสเบย์ วิธีไปก็ขึ้นรถ MTR สายสีแดงจากจิ่มซาจุ่ยไปสุดสายที่เซ็นทรัล แล้วก็เดินตามป้าย exchange square เพื่อไปขึ้นรถเมล์ที่ท่ารถนี้แหละ ตามตำราเค้าก็บอกว่า พวกสาย 6 , 6x, 66 ตระกูลหก ป้ายสถานีก่อนถึงให้มองจุดสังเกตจะมีตึกเป็นรูกลมๆอยู่ไกลๆ ป้ายรถเมล์อยู่หน้าตึกนี่เลย ก็เตรียมตัวลงรถก่อนจะถึงตึกนี่แหละค่ะ แต่ถ้าไม่แน่ใจก็ให้กวาดสายตาหาคนไทยในรถเมล์ แล้วเค้าลงป้ายไหนก็เดินลงรถตามเค้าไปแบบเราก็ได้

เดินเลียบทะเลต่อไปอีก 10 นาที ก็จะมาถึงวัดเจ้าแม่กวนอิมกันซักที



ไม่รู้ว่าต้องไหว้ไหนก่อนหลัง แต่เราก็อาศัยพนมมือ นะโมตัสสะไปก่อนละกัน มาวัดมาวาไม่ใช่แนวเท่าไหร่ แต่ก็แอบเอาตังไปลูบเทพเจ้าไฉ่ซิงเอี้ยมาใส่กระเป๋าเหมือนกันนะ (ตามคนอื่นเหมือนเดิม 55)



ก็กะหมายมั่นปั้นมือว่าจะมาขึ้นสะพานต่ออายุซักหน่อย อันนี้ท่องมาดีเลยว่าให้เดินขึ้นได้ทางเดียวห้ามย้อนกลับมา บลาๆๆ
แต่อนิจจา ......สะพานปิดซ่อมแซม.....



พอตกบ่าย เราก็เดินทางมาถึงย่านช้อปปิ้งอีกแห่งหนึ่งฮ่องกง คือ Causeway bay ขึ้นมาทางออกที่ตึก Time square พอดี ผู้คนคึกคักมาก ที่มาที่นี้เพราะมีความตั้งใจอย่างแน่วแน่ ที่จะมาทานห่านย่าง หมูแดงอร่อยๆที่ร้าน Keung kee restaurant แล้วก็ไม่ทำให้ผิดหวัง สั่งมา 3 อย่าง หมูแดงอร่อยสุด ตามมาด้วยห่านย่างที่อร่อยเช่นกันแต่มันเยิ้มไปหน่อย สุดท้ายคือหมูกรอบที่เค็มไปนิด ต้องจิ้มกับมัสตาร์ดที่เค้าให้มาคู่กันรสชาติก็จะลงตัวขึ้นค่ะ



ทานเสร็จก็ออกเดินย่อยแถวนั้น
หน้าตึกไทม์สแควร์



เดินข้ามถนนที่แสนพลุ่กพล่าน วุ่นวายดีจริงๆ เห็นป้ายสีชมพูสะกดจิตให้เดินเข้าร้านของร้านซาซ่าอยู่ด้วย



ถนนเส้นนี้มีรถรางผ่านด้วย



เดินมาเรื่อยๆ จนมาถึงหน้าโซโก้ แล้วก็กลับดีกว่า เดี๋ยวต้องไปต่อคิวนั่งรถรางขึ้นเดอะพีคกันต่ออีก



เรานั่งรถใต้ดินจากสถานี Causeway bay มาลงที่สถานีฮ่องกง แล้วเดินตามป้ายทางออก (ไกลเหมือนกันนะ) ที่จะไปท่าเรือสตาร์เฟอรี่ เพื่อขึ้นรถเมล์สาย 15C ไปยังสถานีพีคแทรมกันค่ะ

ณ ป้ายรถเมล์ สาย 15C จะวิ่งจากท่าเรือเฟอรี่ไปสุดสายที่สถานีพีคแทรม ดังนั้นตัดความกังวลว่าจะลงผิดป้ายรึปล่าวไปได้เลยค่ะ เราเลือกนั่งชั้นบนจะได้เห็นวิวข้างทางไปด้วย แต่ว่าก็จะเมารถได้ง่ายขึ้นด้วยเพราะมันจะแกว่งกว่านั่งด้านล่าง



บรรยากาศขมุกขมัว หมอกเต็มไปหมด แต่เราก็ยังมีความหวังว่าจะเห็นภาพของเกาะฮ่องกงจากมุมสูงอยู่นะ



ขับรถผ่านไปตึกแล้วตึกเล่า (หมอกเยอะได้อีกนะเนี่ย)



จนในที่สุดก็มาถึงสถานีพีคแทรม เราไปถึงสี่โมงว่ามาก่อนเวลาที่คนจะเยอะแล้วนะ ผู้คนมหาศาล ก่อนจะเข้าสถานีก็แปะบัตรปลาหมึกจ่าค่าขึ้นพีคแทรมไป แล้วก็ยังต้องมาต่อคิวผู้คนด้านในอีก



มีใครเคยมีประสบการณ์การยืนบนพีคแทรมแบบเราบ้างมั้ยคะ -_-“
แบบว่าพอถึงคิวเราได้ขี้นแทรม ปรากฏว่าแย่งหาที่นั่งไม่ได้ ในรถรางเราลองนับดูมีคนได้ยืนอยู่ 8 คน เป็นกลุ่มเราซะ 4 คน ขอบอกว่าเสียวมากมาย เพราะแทรมจะไต่ระดับขึ้นเขาซึ่งชันมาก ตอนยืนก็เกร็งน่าดูแหละค่ะ กลัวไหลไปตามแรงโน้มถ่วงโลก แต่ก็ยังมิวายถ่ายบรรยากาศด้านในรถมาให้ดูกันค่ะ (แบบสั่นๆ)



ด้วยความที่หมอกลงจัดมาก เราไปดูที่จุดชมวิวช่วงเย็นๆ ประมาณหกโมง ไม่เห็นอะไรเลย ก็เลยนั่งรอไปเรื่อยเผื่อว่าตอนกลางคืนหมอกจะปลิวหายไป หรือไม่แสงไฟบนตึกอาจจะทะลุหมอกมาให้เราเห็นนิดๆหน่อยๆก็ยังดี

ถ่าย Peak tower ให้ดู ขนาดอยู่ใกล้ๆ ยังมองไม่ค่อยเห็นเลย



และนี้ก็คือวิวมุมสูงของเกาะฮ่องกงในคืนนั้นค่ะ เรียกว่าอกหักกันเลยทีเดียว



จากนั้นก็ต้องต่อคิวยาวเหยียดเพื่อขึ้นแทรมกลับลงไปด้านล่างอีกครั้ง แถมตอนต่อก็คนมาพยายามแซงคิวตลอดเวลา ตอนนั้นเซ็งสุดๆเลยค่ะ ส่วนโปรแกรมกลางคืนก็ออกตระเวนช้อปปิ้งย่านจิมซาจุ่ยกัน (อีกครั้ง) อาหารมื้อเย็นวันนี้ทานกันที่ร้าน Relax for a while ตามรีวิวในเวบ HKFC อร่อยมากๆ เมนูก็มีหลายหลายแต่ไม่ได้ถ่ายรูปมาให้ดูกันเลยค่ะ เพราะก่อนหน้าที่จะมากินข้าว แวะกลับเข้าไปโรงแรมกันก่อน เพื่อลดสัมภาระอันจะทำให้ติดขัดการช้อปปิ้งออกไป เราเลยทิ้งกล้องไว้ที่โรงแรม เอาของติดตัวมาให้น้อยที่สุด

สำหรับบลอกหน้า ก็จะเป็นวันสุดท้ายในทริปฮ่องกงมาเก๊าตามเค้าว่า... แล้วค่ะ




 

Create Date : 27 มีนาคม 2553
0 comments
Last Update : 27 มีนาคม 2553 17:05:33 น.
Counter : 2579 Pageviews.

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 


khimyo
Location :
ลำพูน Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 8 คน [?]




Group Blog
 
 
มีนาคม 2553
 123456
78910111213
14151617181920
21222324252627
28293031 
 
27 มีนาคม 2553
 
All Blogs
 
Friends' blogs
[Add khimyo's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.