Bloggang.com : : เข็มทิศชีวิต : หาที่พักในสิงคโปร์..อยากรู้มาทางนี้ ตอนที่1 (ว่าด้วยเรื่องมือถือ)

หาที่พักในสิงคโปร์..อยากรู้มาทางนี้ ตอนที่1 (ว่าด้วยเรื่องมือถือ)

อันดับแรก ปัจจัยหลักที่ขาดไม่ได้เป็นอันขาดก็คือ โทรศัพท์

เนื่องจากว่าบ้าน(ที่พัก) ที่นี่จะเต็มเร็วมาก อันเนื่องมาจากประชากรจำนวนมากจากต่างแดนมาปักหลักทำงานที่นี่ไม่น้อยทีเดียว ทำให้ที่พักสามารถเต็มได้ภายในวันเดียว (เร็วสุดที่เคยเห็นก็คงจะเป็น 4-5 ชั่วโมงคะ เจ้าของบ้านเล่าให้ฟังว่า พอเค้าโพสต์ ไม่นานก็มีคนติดต่อมาขอดูบ้านในอีกไม่กี่ชั่วโมง พอมาถึงดู โอเค มัดจำเลย จบ) ดังนั้น ถ้าเรามัวแต่เมลไปหาเค้า เค้าก็ไม่มาสนใจหรอกคะ เพราะว่า วันๆหนึ่งมีคนโทรหาเค้าเยอะมาก และนี่ก็เป็นอีกเหตุผลหนึ่งซึ่งทำให้ราคาที่พักในสิงคโปร์ที่แพงอยู่แล้ว ทะยานสูงขึ้นไปอีกคะ

ขอบอกนิดหนึ่ง สำหรับคนที่คิดจะซื้อโทรศัพท์ที่สิงคโปร์ ระบบโทรศัพท์ของที่นี่จะเหมือนบ้านเราคะ ดังนั้น เราสามารถเอาโทรศัพท์มือถือที่ใช้อยู่ปัจจุบันในเมืองไทยมาให้ที่นี่ได้ เพียงแต่ซื้อซิมการ์ดใส่เข้าไปเท่านั้นเอง ก็สามารถใช้ได้เรียบร้อยคะไม่ยุ่งยากอะไรเลย

โทรศัพท์ที่นี่ จะมี 3 ค่ายคะ คือ SingTel, star Hub and M1
แต่ละค่ายก็จะมีโปรโมชั่นที่แตกต่างกันไป ดังนั้นก่อนซื้อโทรศัพท์ ถ้าไม่รีบมากแบบสุดๆ ลองเดินถามราคาค่าบริการก่อนว่าในช่วงนั้นๆ ค่ายไหน มีโปรโมชั่นดีๆ เหมาะสำหรับลักษณะการโทรของเราคะ และโดยเฉพาะคนที่ต้องการโทรกลับเมืองไทย ปัจจุบันนี้ โทรศัพท์ในสิงคโปร์ทุกค่าย ให้บริการ ฟรี IDD โทรกลับเมืองไทย และอีกหลายๆประเทศคะ นั้นหมายถึง เราสามารถโทรกลับเมืองไทยได้ในราคาเดียวกับโทรภายในสิงคโปร์คะ แต่อย่างเพิ่งดีใจไปนะคะ เพราะว่า ของบอกว่าค่าโทรศัพท์ในสิงคโปร์แพงมากๆ คะ เฉลี่ยประมาณ 20 เซนต์ ต่อ นาทีคะ (ขึ้นอยู่กับโปรโมชั่น) ดังนั้นคนที่นี่ส่วนมากจะนิยมส่ง SMS กันแทน แค่ครั้งละ 5 เซนต์

ใครที่โทรกลับเมืองไทยบ่อยๆ ก็อย่าเพิ่งวิตกกังวลไปนะคะ มีเคล็ดลับดีๆทางนี้คะ คือตอนนี้จะมีบัตรเติมเงินที่เรียกว่า Super Value Top-Up (สังเกตง่ายๆคือมีเลข 100 คะ) บัตรเติมเงินนี้ ราคา SGD 30 แต่ได้มูลค่าในบัตรเท่ากับ SGD 100 สำหรับ local call 75 IDD&Other 25 แต่ว่า ไม่มีอะไรที่มีแต่ข้อดีจริงไหมคะ ข้อเสียของบัตรนี้คือมีอายุการใช้งานเพียงแค่ 30 วัน (บัตรเติมเงินทั่วไป เก็บได้ 6 เดือน) สรุปง่ายๆ คือ เราต้องเติมเงินทุกๆ 30 วันเพื่อรักษามูลค่าในบัตรที่เหลือคะ ดังนั้น บัตรนี้จึงไม่เหมาะสำหรับคนโทรน้อยๆ นะคะ ในกรณีที่โทรกลับเมืองไทย หรือกรณีเปิดเป็น free incoming call (รายละเอียดด้านล่างคะ) จะตัดจาก 25 ตรงนี้ แต่ว่าถ้าโทรภายในประเทศหรือส่ง sms จะตัดจาก 75 คะ วิธีที่เข็มทิศใช้อยู่คือ โทรผ่านบัตรโทรระหว่างประเทศ (เครดิตคุณแม่น้องเบนส์คะ ต้องขอบขอบคุณข้อมูลตรงนี้ด้วย) บัตรที่ว่านี้เป็นบัตรโทรระหว่างประเทศ ซื้อได้ที่ golden mild หรือที่เรียกว่า Thai town คะ วิธีเดินทางคือ นั่งรถไฟไปลงที่สถานี Lavender สายสีเขียว แล้วเดินไปคะ ถามคนแถวๆนั้นก็น่าจะได้นะคะ ว่าเดินไปยังไง ที่นั้นจะมีคนไทยอยู่เยอะมาก พูดภาษาไทยได้เลย และมีซุปเปอร์มาเก็ตขายของไทยด้วยคะ แต่ราคาก็คงไม่ถูกเท่าเมืองไทยหรอกนะคะ ว่ากันเรื่องบัตรต่อ ซื้อได้ที่ร้านขายมือถือทั่วไปคะ ราคาหน้าบัตรจะ 10 เหรียญ แถมให้ 2 เหรียญ แต่เค้าจะขาย 8 เหรียญคะ (รวมถึงบัตรเติมเงินมือถืออื่นๆ ราคาก็จะถูกว่าหน้าบัตรเล็กน้อยคะ) บัตรใบหนึ่งใช้โทรกลับเมืองไทยได้ประมาณ 300 กว่านาที ปกติใช้โทรผ่านโทรศัพท์บ้านจะคุ้มมาก แต่ว่าอย่างเข็มทิศไม่สะดวก เลยใช้โทรจากมือถือคะ เพราะว่าสามารถโทรภายในประเทศได้ 75 เหรียญ โทรนาทีละ 18 เซนต์ ก็โทรกันเข้าไป ลองคูณหารเอาเองแล้วกันนะคะว่ามันโทรได้กี่ร้อยนาที รู้แต่ว่าเยอะมาก รวมๆก็คุ้มอ่ะคะ เพราะว่าใช้โทรบ่อยมากๆ เท่าที่ลองใช้มาก รวมๆสัญญาณอยู่ในเกณฑ์ดี แต่ว่ามักจะตัดทุกๆ 25 นาที ก็ต้องโทรใหม่คะ

อีกเรื่องหนึ่งคือ ซิมการ์ดที่พูดถึงนี้ เป็นซิมแบบเติมเงินนะคะ เพราะที่สิงคโปร์ จะใช้แบบรายเดือนได้ต้องทำสัญญาประมาณ 2 ปีเป็นอย่างน้อยคะ และซิมเติมเงินนี้ จะมีอายุการใช้งาน 6 เดือนเช่นกัน ดังนั้นพอใกล้ๆ ครบหกเดือน ต้องเติมเงินเพื่อขยายอายุการใช้งานต่อไปคะ ระบบที่นี่จะไม่เหมือนเมืองไทยนะคะ ที่เราเติมปุ๊บ วันก็เดินเลย เช่น สองเดือนแรก เราเติมกระหน่ำมาก แต่หลังจากนั้นไม่ได้เติมเลย พอครบหกเดือน ซิมจะโดนตัดคะ เพราะไม่มีการเติมเงินในช่วงเวลาใกล้ครบหกเดือน

สำคัญที่สุดอีกเรื่องหนึ่งที่เกือบลืมไปเลยทีเดียวคือ การรับโทรศัพท์ หรือรับ sms คะ ระบบเติมเงินที่นี่จะต้องเสียตังค์ทุกครั้งที่รับโทรศัพท์ หรือรับ sms โดยมากรับโทรศัพท์จะคิดเท่ากับเราโทรออกคะ เช่นถ้าเราเสียค่าโทรออกนาทีละ 20 เซนต์ รับสายเรียกเข้า ก็นาทีละ 20 เซนต์เช่นกันคะ เพราะฉะนั้นต้องระวังหน่อยนะคะ โดยมากจึงนิยมเปิด Free incoming call คะ คือเราจะต้องเสียเงิน 59 เซนต์ ต่อวัน แต่ไม่ต้องเสียตังค์เวลารับสายคะ จะรับมากน้อยแค่ไหนก็ได้

ว่าด้วยเรื่องโทรศัพท์ซะยาวเลย ตามไปดูสิ่งจำเป็นอื่นๆได้ใน หาที่พักในสิงคโปร์..อยากรู้มาทางนี้ ตอนที่ 2 เลยคะ

ป.ล. มีการแก้ไขข้อมูลคะ ตรงตัวหนังสือสีๆ ต้องขออภัยสำหรับข้อมูลที่ผิดพลาดเล็กน้อย

Create Date : 14 เมษายน 2550

Last Update : 23 เมษายน 2550 20:38:59 น.

8 comments

Counter : 1760 Pageviews.

สู้ๆ ค่าา

โดย: ลูกนุ่น

วันที่: 14 เมษายน 2550 เวลา:10:56:41 น.

โอ้วววว ได้รู้ในสิ่งที่ไม่เคยรู้ค่ะ

แต่ว่าต้องเสียทั้งตอนรับตอนโทรเนี่ย

สวัสดีปีใหม่ไทยและวันครอบครัวค่ะ

โดย: ดวงตะวัน (Doungtawan

) วันที่: 14 เมษายน 2550 เวลา:12:19:05 น.

สวัสดีปีใหม่ไทยค่ะ

โดย: someone like me

วันที่: 14 เมษายน 2550 เวลา:12:48:10 น.

เข้ามาอ่าน แล้วก็เป็นกำลังใจให้ครับ

ใกล้ๆแล้ว ที่ผมคงจะได้พบกับชะตาเดียวกันกับคุณเข็มทิศชีวิต

ยังไงก็สู้ๆ

ถ้าโชคดี คงได้รู้จักันที่สิงคโปร์ครับ

โดย: Last Samurai IP: 124.120.150.67 วันที่: 16 เมษายน 2550 เวลา:1:11:37 น.

ดีใจมากเลยที่มีคนเข้ามาอ่าน
หวังว่าข้อมูลเหล่านี้คงจะเป็นประโยชน์บ้างนะคะ

และต้องขออภัยสำหรับข้อมูลที่ผิดพลาดด้วยคะ

โดย: เข็มทิศชีวิต

วันที่: 23 เมษายน 2550 เวลา:20:41:23 น.

ขอบคุณสำหรับ ทิปเล็กๆน้อยๆที่ดีๆแบบนี้ครับ

เป็นประโยชน์จริงๆครับ คุณเข็มทิศ

ป.ล. สำหรับเรื่อง 2+0 ,2+1 ขอบคุณที่หาคำตอบให้ครับ น่าจะเป็นประโยชน์กับคนอื่นๆด้วยครับ

โดย: Last Samurai IP: 124.120.156.182 วันที่: 23 เมษายน 2550 เวลา:23:54:41 น.

ขอบคุณ สำหรับข้อมูลดีๆ ค่ะ

เราเคยมีคบคนสิงคโปรค์อยู่พักนึง ก้อแปลกใจมาก ว่าเค้าโทรมาหาเราบ่อยๆ ไม่เปลืองเงินแย่หรอ

วันนี้เข้าใจชัดเจนมากเลยค่ะ

เค้าเสียเงินไปหกร้อยกว่าบาทเอง คุยกันวันละชั่วโมงทุกวันเกือบสองเดือน

เรียกคะแนนจากเราได้มากจริงๆ ค่ะ

โดย: xozai IP: 125.25.128.18 วันที่: 13 ตุลาคม 2550 เวลา:8:45:59 น.

มีเรื่องอินเตอร์เน็ตของสิงค์โปรไหมคะ ว่าอะไรอย่างรัย เพราะกำลังจะเดินทางไปสิงค์โปร์อีกสองเดือน ช่วยหน่อยนะคะ ส่งเมล์มาให้ด้วยได้ไหมคะ อยากรุ้จริงๆๆหามานานแล้วไม่รู้จะหาทางไหน หมดความสามารถ คะ ammy_ne@hotmail.com ขอบคุณล่วงหน้าสำหรับคำตอบคะ

โดย: แอม IP: 115.67.207.102 วันที่: 2 พฤษภาคม 2552 เวลา:18:45:10 น.