Group Blog
 
 
กันยายน 2555
 
 1
2345678
9101112131415
16171819202122
23242526272829
30 
 
19 กันยายน 2555
 
All Blogs
 

ฆ่าท่านดีหรือไม่ ?

Net's Novels

ผู้เขียน อุนสุยอัน
ผู้แปล Mr. คัปปะ
ที่มา เวบพันทิป

----------------------------------------------------------


ฆ่าท่านดีหรือไม่ ?


ตอนที่ 1 ดาบและความฝันที่ไม่สิ้นสุด

สตรีนางนั้นชักมีดสั้นออกมาก้าวเข้าหาเขาทีละก้าวทีละก้าว ไม่ทราบเพราะเหตุใดเขาจึงไม่อาจขยับเขยื้อนได้แม้แต่น้อย ไม่สามารถขัดขืน ไม่สามารถหลีกหนี ไม่สามารถโต้ตอบไม่สามารถขยับแม้แต่ปลายนิ้ว เขามองเห็นสตรีนางนั้นเดินเข้ามาแต่กลับไม่สามารถจะทำเช่นใดได้ เขารู้สึกร้อนใจดั่งมดที่อยู่บนน้ำแข็งปลาที่อยู่บนฝั่ง สตรีนางนั้นเข้ามาใกล้เรื่อยๆ ขอเพียงนางลงมือ ก็สามารถฆ่าเขาได้ทว่าเขากลับไม่ทราบว่านางมีรูปร่างหน้าตาเช่นใดแม้แต่น้อย

เขารู้สึกถึงได้เพียงสภาพรอบกายรู้สึกถึงความรัก ทั้งยังรู้สึกถึงความอุ่นของมีดสั้นเล่มนั้นยามสตรีนางนั้นยกมีดสั้นขึ้น แขนเสื้อเผยเห็นข้อแขนอันขาวผ่องสตรีนางนั้นมาเพื่อฆ่าเขา สตรีนางนั้นจะฆ่าเขา เขาต้องตายแน่นอนเขารู้สึกถึงคมมีดที่เสียบเข้าไปในกล้ามเนื้อของเขา ทว่าเขากลับไม่ทราบว่าสตรีนางนั้นเป็นใครและเหตุใดนางจึงต้องฆ่าเขา

เขาพลันสะดุ้งตื่นขึ้น

เรื่องแรกที่ทำคือสำรวจดูว่าดาบยังอยู่ข้างกายหรือไม่

ยังคงอยู่ดาบข้างเอวและดาบบนหลังยังคงอยู่

ดาบอยู่ ชีวิตก็ย่อมคงอยู่เช่นกัน

สิบแปดครั้งแล้วที่เขาฝันเรื่องเดิมซ้ำๆกัน

ความฝันเเดิม บรรยากาศเดิม คนคนเดิมความรู้สึกที่เหมือนเดิม ทั้งยังสะดุ้งตื่นเหมือนเดิม

เขาสะดุ้งตื่นพร้อมเหงื่อเต็มแผ่นหลัง

สตรีนางนั้นเป็นผู้ใด

เหตุใดจึงต้องฆ่าเขา

นางคือ เซี่ยเป้าฮวาใช่หรือไม่

แม้จะตื่นจากความฝันแล้วทว่าในความรู้สึกของเขา คล้ายยังคงอยู่ในความฝันตื่นขึ้นอีกครั้งหนึ่งกลับยิ่งรู้สึกเข้าใกล้ความฝันมากยิ่งขึ้นความฝันที่เหมือนเดิม

ชีวิตหลังจากตื่นขึ้นกลับมีแต่ความอ้างว้าง

ฟางขวงฮวานชมชอบนอนฝันชีวิตเขารักความครึกครื้น ชมชอบคบหาสหาย กระทำเรื่องที่ยากที่สุดจีบสตรีที่จีบยากที่สุด ฆ่าศัตรูที่ฆ่ายากที่สุด ในยามตื่นหรือในยามฝัน ล้วนเรียกหาสหาย กอดคอร้องเพลง ด้วยความสนุกสนาน

ทว่าไม่ทราบตั้งแต่เมื่อใดเขาก็เริ่มฝันเช่นนี้ สตรีนางหนึ่ง มีดสั้นเล่มหนึ่ง จะฆ่าเขา โดยเขาไม่อาจขยับตัวในความฝัน เขาเพียงรู้สึกหวาดกลัว แต่กลับไม่รู้สึกแค้นใจแม้แต่น้อย

มันเริ่มขึ้นตั้งแต่เมื่อใด

คงตั้งแต่เริ่มหลบหนีกระมัง

ทว่าเหตุใดจึงต้องหลบหนีด้วยเล่า

เขาครุ่นคิดอยู่ชั่วครู่ก็ระบายลมหายใจออกมา

ล้วนเป็นเพราะเรื่องนั้น

การกระทำในเรื่องที่ไม่สมควรจะทำ

หากยามนั้นเขาไม่ลงมือ ไม่ยุ่งเกี่ยววันนี้เขาคงไม่ต้องหลบหนีมายังสถานที่รกร้างแห่งนี้ ต้องทนทุกข์ทรมานโดดเดี่ยวอ้างว้างแยกย้ายจากเหล่าพี่น้องในพรรคพวกเสียวหม่าอี้(มดน้อย)ของเขาที่เคยร่วมทุกข์ร่วมสุขร่วมดื่มสุรา ร่วมร้องเพลงเหล่านั้น

ตอนนี้เล่าพรรคมดน้อยของเขาแตกฉานซ่านเซ็น บ้างตาย บ้างหลบหนี บ้างทรยศ บ้างหลบซ่อน เหลือเพียงเซวียเจี้ยนและจูเถี่ยเอ๋อร์เท่านั้นที่ยังคงติดตามเขา

ขอเพียงจับดาบเข้าสู่ยุทธภพก็ได้เริ่มความฝันที่ไม่อาจสิ้นสุดจวบจนสิ้นชีวิตจึงสามารถฟื้นตื่นจากฝันนี้

เขายังคงรู้สึกสะลึมสะลือไม่อยากจะลุกขึ้น ภายหลังเขาได้ยินเสียงแคะเล็บ

คงเป็นเซวียเจี้ยน

ตื่นแล้วหรือ

เป็นเซวียเจี้ยนจริงๆเขายืนอยู่หน้าระเบียง เงียบงันไร้สุ้มเสียงดุจความมืดเขาแทบจะกลายเป็นส่วนหนึ่งของความมืดมิด

ควรถึงรอบข้านอนบ้างแล้วกระมัง

เฮ้อ เสียทีข้าบุกตะลุยมาชั่วชีวิตทว่าตอนนี้...

ถึงฟางขวงฮวานจะอดนอนหรือเหนื่อยล้าเพียงใดก็ต้องลุกขึ้น

ข้ากลับต้องมายังสถานที่แห่งนี้

หลายวันมานี้พวกเขาไม่เคยได้พักผ่อนอย่างเต็มอิ่ม แม้ยามพักผ่อน ก็ต้องมีสองคนที่ต้องคอยตื่นคอยระวังภัย

เซวียเจี้ยนค่อยๆ หมุนกายเดินเข้ามาในห้อง

ฝีเท้าที่เปรียบได้กับความมืดความมืดที่เพียงรู้สึกได้ แต่ไม่อาจทราบได้ว่ามันรุกคืบเข้ามาตั้งแต่เมื่อใดฟางขวงฮวานทราบดีว่าเพลงกระบี่ของสหายผู้นี้ ก็คล้ายกับความมืดที่ไม่อาจป้องกัน

ความมืดที่รุกคืบเข้าแทนความสว่างผู้ใดสามารถยับยั้งได้

วิกาลในฤดูใบไม้ร่วงนั้นหนาวเย็นเป็นพิเศษฟางขวงฮวานเองก็รู้สึกหนาวเล็กน้อยบางทีเป็นเพราะเพิ่งตื่นจากฝันร้ายเมื่อครู่กระมังร่างกายจึงยังไม่ฟื้นคืนเป็นปกติ

สุนัขเห่าหอนที่เบื้องนอกยิ่งทำให้รู้สึกถึงความเงียบสงัด

เถี่ยเอ๋อร์เล่า

อยู่ชั้นล่าง

เขากำลังพักผ่อนกระมัง

ยังคงระวังหน่อยดีกว่า

ช่วงวันเวลาที่ถูกคนอื่นล่าสังหารต้องหลบซ่อนตัวเช่นนี้ อย่างไรก็ต้องระวังตัวเป็นพิเศษ

ฟางขวงฮวานลงไปยังชั้นล่างเห็นจูเถี่ยเอ๋อร์กำลังสนทนากับเถ้าแก่เนี้ย

ตั้งแต่พวกเขาเดินทางมายังโรงเตี๊ยมแห่งนี้คนที่คุ้นเคยกับพวกเขามากที่สุดก็คือเถ้าแก่เนี้ยผู้นี้

นางดูแลพวกเขาเป็นอย่างดี

ทว่าอย่างไรฟางขวงฮวานก็ยังรู้สึกเถ้าแก่เนี้ยมักชอบซ่อนตัวในที่มืด ทว่าก็ยังคงดูงดงามมีเสน่ห์ดึงดูดทว่าเถ้าแก่โรงเตี๊ยมคล้ายจะกลัวภรรยามากต่อหน้าเถ้าแก่เนี้ยไม่กล้ากล่าวโต้เถียงแม้แต่คำเดียว

หากไม่ใช่เพราะเขากำลังอารมณ์ไม่ดีตอนนี้คงหยิบจอกสุรา ไปสนทนากับเถ้าแก่เนี้ยบ้างแล้ว

ระหว่างการเดินทางจะต้องมีสหายไว้สนทนาไม่เช่นนั้นการเดินทางอันยาวไกล คงต้องเงียบเหงาอ้างว้างเป็นแน่

คนนั้นตายเร็วได้แต่ไม่อาจแก่ชราเร็วเกินไป

ยิ่งตอนนี้อยู่ในระหว่างหลบหนีการไล่ล่า

ฟางขวงฮวานพลันคิดถึงเรื่องที่ริมแม่น้ำนั้นจึงคิดไปคุยกับเถ้าแก่เนี้ย

จูเถี่ยเอ๋อร์เห็นเขาเดินลงมาจึงถามขึ้นว่า

ท่านตื่นนอนก็ดีแล้ว ทานข้าวเถิด

ฟางขวงฮวานหัวร่อพลางกล่าว

เซวียเจี้ยนกำลังพักผ่อนอยู่

ช่างเขาเถิด เขาจะนอนก็นอนไป ข้าหิวแล้ว

จูเถี่ยเอ๋อร์พลันกล่าวต่อไปว่า

มื้อนี้เป็นเถ้าแก่เนี้ยลงมือเข้าครัวปรุงให้แก่พวกเราเป็นพิเศษ

ฟางขวงฮวานมองไปยังเถ้าแก่เนี้ยเถ้าแก่เนี้ยอยู่หลังโต๊ะเก็บเงิน คล้ายดั่งดอกไม้ที่อยู่ท่ามกลางความมืดทว่าสายตาของฟางขวงฮวานก็ยังถูกดึงดูดไว้ ไม่อาจตัดใจได้

รบกวนท่านแล้ว

เถ้าแก่เนี้ยจึงกล่าว

ช่วงนี้ที่นี่ก็ไม่มีแขกเหรื่ออื่นใดพวกท่านพักมาหลายวันแล้ว แต่ประหลาดยิ่งนักเหมือนรู้สึกว่าพวกท่านไม่เคยได้พักผ่อนวันนี้เถ้าแก่จึงให้ปรุงอาหารให้แก่พวกท่านรับทาน

ยามฟางขวงฮวานและจูเถี่ยเอ๋อร์ได้ยินวาจาประโยคนี้ในใจพลันรู้สึกอบอุ่นขึ้นมา

เฮ้อคนเร่ร่อนเช่นพวกเขาหากมีบ้านคงประเสริฐยิ่งนัก

ทว่าคนเร่ร่อนที่มีศัตรูคู่แค้นถึงมีบ้านก็กลับไม่ได้





 

Create Date : 19 กันยายน 2555
12 comments
Last Update : 19 กันยายน 2555 13:47:10 น.
Counter : 6390 Pageviews.

 

ตอนที่ 2 ใบหน้าที่งดงาม

ในชนบทอันห่างไกล อาหารที่แม้แต่พ่อครัวจากวังหลวงมาชิมเองก็ยังต้องยกนิ้วชื่นชมเช่นนี้ ทำให้จูเถี่ยเอ๋อร์และฟางขวงฮวานรับทานกันอย่างเอร็ดอร่อย

ส่วนเซวียเจี้ยนพอได้กลิ่นอาหารก็ตื่นขึ้น จากนั้นจึงเดินลงไปยังชั้นล่าง

มันยังคงดูเคร่งขรึม คล้ายกับภูเขาที่กำลังเคลื่อนตัวก็ปาน

อาหารทุกจาน มันล้วนใช้เข็มเงินทดสอบ ทว่าสุรากลับถูกยกเว้น

เพราะจูเถี่ยเอ๋อร์เป็นปีศาจสุรา หากแม้นในเหยือกสุรามีเกลือแม้แต่เม็ดเดียว มันก็สามารถจำแนกออกได้

ตอนนี้มันกำลังดื่มสุราชามใหญ่ ไม่ว่าจะยกจอกสุราหรือไม่ มันยังคงครึกครื้นเช่นเดิม

ฟางขวงฮวานทราบดี ล้วนเป็นเพราะมีจูเถี่ยเอ๋อร์และเซวียเจี้ยนอยู่ พวกเขาที่ถูกคนของเจ็ดพรรคแปดสมาคมเก้าสหพันธ์ตามล่ามานานกว่าครึ่งปี จึงยังสามารถรอดชีวิตมาดื่มกินอยู่ที่แห่งนี้ได้

ในใจของจูเถี่ยเอ๋อร์และเซวียเจี้ยนก็ล้วนทราบดี

ส่วนหนึ่งที่ทำให้พวกมันยังหนีรอดมาถึงตอนนี้ได้ ก็เพราะฟางขวงฮวานมักสัมผัสกลิ่นศัตรูได้ก่อนที่ศัตรูจะติดตามมาถึง

สัญชาตญาณเป็นสิ่งที่สำคัญที่สุดในการตัดสินแพ้ชนะ

เถ้าแก่กลับรู้สึกไม่ค่อยพอใจนัก

เขารู้สึกว่าแขกเหรื่อหลายคนนี้ไม่เชื่อถือเขา

สำหรับเขาแล้วนับว่าเป็นการดูแคลนอย่างหนึ่ง

เถ้าแก่เนี้ยกลับไม่สนใจ

นางเดินจากห้องครัวมายังห้องอาหาร ท่าทางวุ่นวายยิ่ง

อาจเป็นเพราะแสงฟืนไฟจากห้องครัวที่ส่องออกมา ทำให้ใบหน้าของนางดูเย้ายวน แฝงความน่าค้นหา

“เป็นอย่างไรแล้ว กลัวถูกพิษหรือ” เถ้าแก่เนี้ยหัวร่อแล้วกล่าวต่อ

“สำหรับข้าแล้วถึงคิดสังหารพวกท่าน ข้าก็ไม่ยอมแพร่พิษใส่อาหารที่ข้าปรุงด้วยตนเองเป็นแน่”

ฟางขวงฮวานจึงกล่าว

"ท่านวุ่นวายมาทั้งวันแล้ว ยังคงมาร่วมรับทานด้วยกันเถอะ”

เถ้าแก่เนี้ยมองเถ้าแก่แล้วกล่าว

“ข้าหรือ”

เถ้าแก่กำลังฟังเถ้าแก่เนี้ยอยู่

เซวียเจี้ยนกล่าวขึ้น

“รับทานด้วยกันเถอะ”

แล้วพลันกล่าว “เซี่ยเป้าฮวา”

“ทาน ทาน”

เถ้าแก่เนี้ยหัวร่อพลางนั่งลง ทั้งยังกล่าวเรียกลูกน้องอีกสองคน

“พวกเจ้าก็มาทานด้วยกันเถอะ”

แล้วจึงหัวร่อพลางกล่าวกับเซวียเจี้ยนว่า

“ฮวาอะไร ท่านผู้นี้ หากไม่คิดเอ่ยปากก็ไม่กล่าวทั้งวัน พอเอ่ยปากกลับกล่าวเหลวไหลไปเรื่อย”

นางหัวร่อแล้วกล่าวต่อ

“ที่นี้มีไหนเลยมีฮวา(ดอกไม้)อันใดกัน”

ยามที่เซวียนเจี้ยนกล่าวเรียก “เซี่ยเป้าฮวา” นั้น ร่างของฟางขวงฮวานกับจูเถี่ยเอ๋อร์ล้วนสะท้านเบาๆ ขึ้นคราหนึ่ง ทว่าทั้งสองล้วนทราบอยู่ในใจว่าเซวียเจี้ยนเพียงต้องการทดสอบสตรีเบื้องหน้านี้เท่านั้น

เซวียเจี้ยนช่างงมงายเกินไปแล้ว

เพียงแต่เซี่ยเป้าฮวาผู้นี้ เป็นหนึ่งในศัตรูที่พวกมันทั้งสามกริ่งเกรงจริงๆ

เซี่ยเป้าฮวาเป็นสตรีนางหนึ่ง

สตรีที่มีชื่อสะท้านแผ่นดิน

พวกมันไม่รู้จักสตรีนางนี้ ทั้งไม่เคยล่วงเกินนาง

ทว่าฟางขวงฮวานล่วงเกินจางอ้าวหรือที่ผู้คนเรียกกันว่านายท่านแซ่จาง (จางเหยีย)

ท่านจางอ้าวผู้นี้ก็คือประมุขสหพันธ์เสือดาว (เป้าเหมิง) ในกลุ่มเจ็ดพรรคแปดสมาคมเก้าสหพันธ์ ในร่มธงคนผู้นี้มียอดฝีมืออยู่สามคน หนึ่งคือหย่วนเมิ่งตี๋ หนึ่งคือเซี่ยเป้าฮวา หนึ่งคือท่านกระบี่หัก(ต้วนเจี้ยนเซียนเซิง) นามต้วนต้วน คนทั้งสามนี้ สองคนแรกเป็นศิษย์ของเขา คนที่สามเป็นศิษย์น้อง

ศิษย์ที่โดดเด่นของจางอ้าวนั้นมีมากมาย ทว่าคนทั้งสามนี้นับได้ว่าเป็นสัญลักษณ์ที่เข้มแข็งที่สุด เนื่องจากไม่ว่าคนทั้งสามนี้เข้าร่วมพรรคขบวนการใดก็ตาม กำลังและอิทธิพลของพรรคนั้นจะแข็งแกร่งขึ้นมากทันที

หลายวันมานี้ ฟางขวงฮวานและพี่น้องพรรคมดน้อยของเขาไปตอแยจางอ้าวเข้า ทำให้สหพันธ์เสือดาวทุ่มเทกำลังยอดฝีมือออกมาไล่ล่า รวมทั้งพันธมิตรเช่นพรรคอีกว้าน(พรรคเลิศอาภรณ์)ก็ให้ความช่วยเหลือ ใช้วิธีบุกสายฟ้าแลบ เข้าทลายรังมด กลุ่มมดน้อยของฟางขวงฮวานไม่อาจต่อต้าน จึงล่มสลายไปแทบหมดสิ้น

ทว่าการโต้ตอบของกลุ่มมดน้อย ก็ทำให้สหพันธ์เสือดาวเสียหายไม่น้อย พรรคเลิศอาภรณ์ต้องเดือดร้อนถึงรองประมุขแซ่เจิ้งลงมือเอง จึงสามารถทำลายพวกตั๊กแตนที่กล้าต้านล้อรถพวกนี้ไปได้

อย่างไรก็ตาม สหพันธ์เสือดาวกับพรรคเลิศอาภรณ์ก็ยังไม่อาจสยบฟางขวงฮวานได้หมดสิ้น รวมทั้งคนสนิททั้งสี่ เซวียเจี้ยน จูเถี่ยเอ๋อร์ กู้หวงเฟย และกวอถงถง

ในขณะเดียวกัน สหพันธ์เสือดาวก็ส่งเซี่ยเป้าฮวา หย่วนเมิ่งตี๋และต้วนต้วนออกมา

ครึ่งปีมานี้คนของพรรคเลิศอาภรณ์ก็ไม่อาจกำจัดฟางขวงฮวานไปได้ ดังนั้นจากพิราบสื่อสารของกวอถงถงที่ส่งมาแจ้งข่าว จางอ้าวมีโทสะกับเรื่องนี้ยิ่ง จึงได้ออกประกาศิตสังหารให้ เซี่ยเป้าฮวาฆ่าพวกเขาให้จงได้

ตั้งแต่รู้ข่าวนี้ พวกฟางขวงฮวานทั้งสามก็ไม่อาจพักผ่อนพร้อมกัน ต้องแบ่งเวรสองคนเฝ้าระวัง คนหนึ่งพักผ่อนจึงจะได้

พวกเขาล้วนครุ่นคิดอยู่เงียบๆว่า ตนเองจะมีชีวิตอยู่ได้อีกกี่วัน จะมีชีวิตได้อีกกี่ชั่วยาม

มีชีวิตอยู่ได้หนึ่งวันก็นับเป็นหนึ่งวัน อยู่ได้อีกชั่วยามก็นับเป็นชั่วยาม

คนเราเกิดมาก็ต้องตาย ตายใต้เงื้อมมือของเซี่ยเป้าฮวา อย่างน้อยก็ยังนับเป็นเรื่องที่มีเกียรติ

น่าเสียดายที่เซี่ยเป้าฮวาเป็นสตรี

บุรุษเช่นฟางขวงฮวาน จูเถี่ยเอ๋อร์และเซวียเจี้ยนที่ฟันฝ่ายุทธจักร ผ่านคลื่นลมมาโชกโชน ย่อมไม่อาจยอมตายใต้เงื้อมมือของสตรี

ไม่ว่านางจะเป็นสตรีเช่นใดก็ตาม

พวกเขาหลบหนีมาถึงหมู่บ้านเล็กๆ ซึ่งเรียกว่า เจียงจวิน(ขุนพล)

พวกเขาได้มาพักอยู่ในโรงเตี๊ยมแห่งนี้นานถึงสิบหกวันแล้ว ในท้องทุ่งแห่งนี้ พวกเขาสามารถพบความสงบขณะหลบหนีได้

โดยเฉพาะอย่างยิ่งเถ้าแก่เนี้ยที่สะคราญโฉมผู้นี้ ดีต่อพวกเขายิ่ง ดีจนคล้ายกับเป็นคนในครอบครัวเดียวกันก็ปาน

ทว่าจูเถี่ยเอ๋อร์ เซวียเจี้ยนและฟางขวงฮวานกลับไม่เคยรู้สึกวางใจ

ดังนั้นเซวียเจี้ยนจึงลองทดสอบเถ้าแก่เนี้ย

ทว่าเถ้าแก่เนี้ยไม่ทราบว่าเขากล่าวอันใด

พวกเขาจึงลอบระบายลมหายใจ

ไม่ทราบว่านางกล่าวอันใด อย่างไรก็ดีกว่าการรู้จักชื่อสตรีนางนี้

เถ้าแก่เนี้ยมองเห็นพวกเขาวางตะเกียบลง จึงกล่าวถามขึ้น

“หือ เป็นอย่างไรแล้ว”

ในยามนี้ พวกเขาก็ยังไม่อาจเห็นหน้าเถ้าแก่เนี้ยชัดเจน บางครั้งนางยกมือขึ้นเสยผม ข้อแขนยิ่งดูงดงาม โดยเฉพาะใบหน้าด้านซ้ายที่พลิกผ่านไปนั้นยิ่งทำให้คนสะท้านใจ

 

โดย: ปาฟงหัน 19 กันยายน 2555 13:47:48 น.  

 

ตอนที่ 3 เก้าอี้ที่บดทับเห็บ


ฟางขวงฮวานกล่าวด้วยน้ำเสียงราบเรียบ

“ไม่มีอันใด ให้อาหารพวกสุนัขข้างนอกแล้วกระมัง”

เถ้าแก่เนี้ยหัวร่อพลางกล่าว

“เรียบร้อยแล้ว”

ฟางขวงฮวานผงกศรีษะพลาง อีกทางก็คีบเนื้อชิ้นหนึ่ง ทว่าไม่ทันได้ทาน ก็วางกลับลงไปบนชาม

เซวียเจี้ยนใช้ตะเกียบเขียนอักษรคําวา “เขา” บนโตะ

จูเถี่ยเออรจึงกลาวขึ้น “ขาจะไปจัดการเอง”

จากนั้นลุกขึ้น แลวเดินไปยังประตูหลัง

ประตูหลังทะลุเชื่อมตอกับหลังราน

จูเถี่ยเออรผลักประตูออกไป ทั้งรองเพลงไปดวย

เสียงเพลงเงียบหาย ขางนอกพลันแววเสียงอาเจียนขึ้นแทน

เถาแกเนี้ยจึงเอยขึ้น

“เขาดื่มมากเกินไปแลวกระมัง เขาไมเบิกบานใจหรืออยางไร ขาไมเคยเห็นพวกทานเบิกบานใจเลย"

เซวียเจี้ยนขมวดคิ้วพลางกลาว

“มีเรื่องใดใหนาเบิกบานใจเชนนั้นหรือ”

กลาวพลางลุกขึ้น พรอมกับมองลงไปยังเกาอี้ไม้ แลวกลาวขึ้น


“ชางโชครายนัก แมแตเกาอี้ไมก็มีเห็บ ย่ำแยเสียจริง”

ฟางขวงฮวานวางตะเกียบไมลง แลวกลาวเรียบเฉยวา “เห็บที่นารําคาญ ยังไมรีบบีบให้ตายอีก”

เซวียเจี้ยนจึงกลาวขึ้น “ได้”

เซวียเจี้ยนพลันลงมือ ทวาไมไดลงมือตอเห็บตัวนั้น

ทวากลับขวางเกาอี้ตัวนั้นออกไป

เขาคิดจะใชเกาอี้บดทับเห็บใหตายหรือ

เกาอี้ถูกขวางออกไป ฉากการตอสูพลันเริ่มขึ้น

เกาอี้พุงเขาทลายประตูไม้ แลวลอยออกไป

พริบตาที่เกาอี้จะสัมผัสกับบานประตู พลันปรากฏอาวุธลับอยางนอยหกสิบสามชิ้นพุงเขาใส่เกาอี้นอยตัวนั้น
อาวุธลับทั้งหกสิบสามชิ้นนั้นมีอยางนอยสี่สิบเอ็ดชนิดที่มาจากตางคายสํานัก ตางรูปราง ตางชื่อ ตางวิธีใช้ ในสี่สิบเอ็ดชนิดนั้นมีอยางนอยสามสิบเอ็ดชนิดที่ฉาบพิษไว
ในอาวุธลับสามสิบเอ็ดชนิด ที่ฉาบพิษมีสิบหาชนิดขอเพียงสัมผัสถูก ก็สามารถคราชีวิตได้ อีกทั้งในจํานวนนั้นยังมีอีกแปดชนิด ที่มีพิษรายแรงพอคราชีวิตเหลาคชสาร
และพยัคฆสามตัวรวมกันได้

เคราะหดีที่เกาอี้เปนเพียงเกาอี้

หากไมเชนนั้นมันคงตองตายไปสามรอยยี่สิบสี่ครั้ง

เกาอี้พุงลอยออกไปกอน จากนั้นรางของเซวียเจี้ยนพลันทะยานตามออกไป

ในยามที่มันทะยานออกไปนั้น มันไม่ใชรางคนผูหนึ่ง

ทวาเปนประกายกระบี่สายหนึ่ง

ยามถึงเบื้องนอกพลันบังเกิดเสียงรองขึ้น พรอมกับเกิดเสียงคมกระบี่แทงกระดูก

สุดทายเหลือเพียงลมกระบี่

ลมกระบี่ที่แหลมคม

ยามที่เซวียเจี้ยนพุงตัวออกไปขางนอก ฟางขวงฮวานก็ลอยตัวไปขางประตู พรอมกับชักดาบออกมา

ดาบของมันแมนยํายิ่งนัก แทงออกไปทางชองแตกของกําแพงถูกรางคนผู้หนึ่ง บังเกิดเสียงรองขึ้นในทันที

ทวายังคงมีศัตรูอีกผูหนึ่ง กลิ้งตัวเขามาทางประตู

ยามมันเขามาพลันปะทะเขากับดาบของฟางขวงฮวาน ศัตรูผูนั้นถูกคราชีวิตไปในบดดล

ยังมีคนหมายเขามาทางหนาตาง

มันก็เผชิญกับดาบของฟางขวงฮวาน

ดาบอันคลุมคลั่ง

ประกายดาบอันคลุมคลั่ง

ดังนั้นพอมันเขามาก็ไมอาจรอดชีวิตกลับไป

ยามที่ฟางขวงฮวานเก็บดาบ มันก็ลมลงไป

ประตูถูกผลักออก เซวียเจี้ยนเดินกลับมาดวยใบหนาเย็นชา

มันออกไปคนเดียว ทวากลับมาสองคน

จูเถี่ยเออรยืนอยูดานหลังของมัน

“กี่คน”

เซวียเจี้ยนเอยตอบ

“แปดคน คนที่ขาสังหารไปมีทั้งสิ้นแปดคน”

จูเถี่ยเออรกลาวเสริมขึ้น

“ขาตัดทางถอยของพวกมัน สังหารพวกมันไปสามคน”

มันรวบนิ้วกําหมัด ทั้งถมน้ำลาย คลายสะใจกับการเขนฆาศัตรูยิ่ง ฟางขวงฮวานกลาวอยางครุ่นคิด

“ครานี้พวกมันมากันไมนอย”

เซวียเจี้ยนกลาวขึ้น

“กระเรียนในทุงน้ำคาง (เฮอหลี่ซวงเถียน) จูเยี่ยซาน และพยัคฆทองหิมะ (หูสิงเสวี่ยตี้) เหมยฮวาอู่ ลวนมาแลว
จูเยี่ยซานถูกขาสังหาร เหมยฮวาอูยามเตลิดหนีกลับตายใตดาบของทาน”

ฟางขวงฮวานเพิ่งสังเกตเห็นไหลขวาของเซวียเจี้ยนมีโลหิตหลั่งไหลออกมา

“หือ”

ศัตรูยิ่งโจมตียิ่งรุนแรง ยิ่งมายิ่งยากรับมือ

ฟางขวงฮวานกลาวขึ้น

“ทานบาดเจ็บแลว ไปพอกทายาเสียกอนเถอะ”

เซวียเจี้ยนพลันกลาวอยางหนักแน่น

“ไม่ รับทานขาวกอนคอยวากัน ยังไมรูวาจะมีมื้อตอไปหรือไม่”

ฟางขวงฮวานถอนใจกลาว

“เสียทีเปนผูกลามาชั่วชีวิต ตอนนี้แมแต่ขาวมื้อเดียวก็ไมอาจทานไดโดยงายนัก”

จูเถี่ยเออรกลาวขึ้น

“ที่แหงนี้ไมอาจรั้งอยูนานไป ขาคิดวา ไมสู้..” ฟางขวงฮวานพลันรองขึ้น

“ระวัง”

กลาวไมทันจบ ศัตรูก็บุกเขามา ครานี้ยิ่งรายกาจขึ้น

คนก็มากขึ้น

เซวียเจี้ยน ไม่ทันหมุนตัว ก็ทํารายคน ไมทันชักกระบี่ ก็สังหารคนไป

มันชักดาบทีหลังกลับเร็วยิ่งกวา ศัตรูอีกสองคนฟนดาบใสหลังของฟางขวงฮวาน

ทวาจูเถี่ยเออรสังเกตเห็นพวกมันแตแรก

สองมือของมันดุจเหล็กกลา อาวุธเพียงทํารายเลือดเนื้อคน สองมือเหล็กนี้กลับสามารถพังทลายความมุงมั่นของฝายตรงขาม

มันทั้งสองจึงตองพังทลายไป

พลังสังหารของมือทั้งสองกลับเหนือกวาอาวุธอื่นๆ

ทวามันก็ลมลง

มันถูกอาวุธทําราย

เปนขวานเลมหนึ่ง

 

โดย: ปาฟงหัน 19 กันยายน 2555 13:48:23 น.  

 

ตอนที่ 4 ขวานที่ไรดาม


ขวานที่ไร้ดาม

ขวานใหญที่หนักอึ้ง กลับอยูในมือของคนที่รูปรางบอบบางผูหนึ่ง

นี่คือกระบวนทาเฟงหนิวนูฝู่(ขวานวัวคลั่ง) จูเถี่ยเออรไมอาจรับมือตานทาน จึงตองถอย

ดาบเบ็ดเดี่ยวธารหิมะ(ตูเตี้ยวเจียงเสวี่ยตาว)ของฟางขวงฮวานและกระบี่อาถรรพปักษาภูเขา (เหนี่ยวมิ่งซานโยวเจี้ยน)ของเซวียเจี้ยน
ถลันเขามาพัวพันรบขวานนั้นไวในบัดดล

จูเถี่ยเออรกลับไมมีเวลาวางพัก

หัวหนาตึกนอกของเปาเหมิง (สหพันธเสือดาว) เยี่ยนฝอหลินมาถึงแลว หัวหนาตึกในเซียวฝอจวงยอมอยูไมไกลจากที่นี่

ดาบวัวนอยของเซียวฝอจวงเปนเพียงดาบที่บางดุจกระดาษเทานั้น

นี่จึงเปนจดที่นากลัวของเพลงดาบวัวนอย

ผูคนร่ำลือกันวา คนที่ถูกดาบวัวนอยของเซียวฝอจวงสังหาร จะรูสึกสุขสบายเปนอยางยิ่ง ขางหู คลายไดยินบทเพลงของเหลาเซียน
นัยนตามองเห็นสรวงสวรรค์ คนที่ตายนั้นจวบจนตายยังไม่รูตัว ทั้งยังหลงคิดวากําลังจะไปเปนเซียนเสียอีก

จูเถี่ยเออรก็เกือบไดกลายเปนเซียนเชนกัน

ศัตรูผูนั้นบุกเขามาดุจสายฟาแลบ

เซวียเจี้ยน ฟางขวงฮวาน จูเถี่ยเออรลวนถูกยอดฝมือพัวพัน ผูอื่นก็ลอบโจมตี บางสวนก็ลอมพวกเขา
บางสวนเฝาหนาประต มีสองคนกระโดดขึ้น เทาหนึ่งถีบเถาแก่ ทั้งยื่นมือควาจับเสื้อเถาแกเนี้ย

คนผู้นั้นหัวรอขึ้น

“สตรีที่งดงามนัก ทานไมตองกลัว ขาเพียง”

ทันใดนั้นนิ้วมือของมันพลันหายไป

ถูกดาบเลมหนึ่งตัดทิ้งไป ดาบของฟางขวงฮวาน

ฟางขวงฮวานทํารายคนผูนั้นได้ ทวาตนเองก็ถูกทวนแทง ไหลขางหนึ่งตองหลั่งโลหิต

เถาแกเนี้ยร่ำรองดวยความตระหนก คมดาบสะทอนสีหนาของนาง ฟางขวงฮวานบุกไปขางหนา จัดการศัตรูอีกผูหนึ่ง

เซวียเจี้ยนรองขึ้น

“อยาเพิ่งสนใจดูแลพวกมัน รับมือศัตรูสําคัญกวา”

ฟางขวงฮวานทางหนึ่งรับศึก ทางหนึ่งรอง

“ไมได้”

เซวียเจี้ยนรับมือขวานของเยี่ยนฝอหลินอยางสุดกําลัง ทางหนึ่งก็กลาวตอไป

“ยามที่พวกมันมา สุนัขขางนอกไมเหาแมแตนอย ยอมตองเปนพวกเดียวกัน ทานอยาไดหลงกลไป”

ฟางขวงฮวานตอสูพลางกลาวตอบวา

“ทวาขาไมอาจเห็นการตายโดยไมชวยเหลือ”

พอมันกลาวประโยคนี้จบ ก็พลันนึกถึงเรื่องขางลําธารในวันนั้น

เรื่องนั้นทําใหทุกวันนี้มันตองหลบหนีไมอาจหลับนอนผานคืนวันโดยสงบ

เรื่องนั้นทําใหเหลาพี่นองของมันตองจบชีวิต

ทวาเรื่องนั้นมันไมไดเขาใจผิด

ปญหากลับเปน “เรื่องที่ไมไดเขาใจผิดนั้นใชสมควรกระทำหรือไม่”



 

โดย: ปาฟงหัน 19 กันยายน 2555 13:48:48 น.  

 

ตอนที่ 5 หนึ่งคน หนึ่งบาดแผล


เซวียเจี้ยนเองก็คิดถึงเรื่องนี้เชนกัน “ทานยังตอแยเภทภัยไมพอหรืออยางไร”

พอร่ำรอง จึงถูกคมขวานฟนใส่ ทวามันพอรับบาดเจ็บ กลับยิ่งโตตอบรุนแรงขึ้น

เถาแกเนี้ยถูกสองคนรายคุมตัวเอาไว้ ฟางขวงฮวานไมทราบควรช่วยเซวียเจี้ยนหรือเถาแกเนี้ยกอน

ในยามนั้น พลันมีเสียงรองแววมา แขนซายของจูเถี่ยเออร์ ถูกดาบวัวนอยฟนขาดไป

ทวาหมัดของจูเถี่ยเออรก็ตอยเขาใสศีรษะของเซียวฝอจวง

ทั้งรางของจูเถี่ยเออรคลายกับไหโลหิตใบหนึ่ง ทั้งคลายพยัคฆที่คลุมคลั่ง บุกตะลุยเบิกทางโลหิตสายหนึ่ง

ฟางขวงฮวานเห็นสหายมีภัย ความฮึกหาญยิ่งเพิ่มพูน

สถานการณยิ่งคับขัน ยิ่งกระตุนความหาวหาญของฟางขวงฮวาน

ประกายดาบในมือของเขากวัดแกวงไปทั่ว

ใบหนาของเขาซีดขาวแลว

ดูไปคลายหิมะ

แต่ดาบกลับยิ่งรอนแรง

แรงดุจไฟโหม

ทันใดนั้นดาบพลันแตกสลาย

สลายกลายเปนพันเปนหมื่นชิ้น

ในพริบตานั้น ศัตรูอยางนอยสี่คนพลันลมลง ศัตรูสามคนบาดเจ็บสาหัส ศัตรูอีกสองคนก็ไดรับบาดเจ็บ
ศัตรูที่หลงเหลืออีกเจ็ดคนจําตองถอยหน

ฟางขวงฮวานพุงเขาไปช่วยเหลือเถาแกเนี้ย

ยามใชกระบวนทาบุปฝาดาบนี้ แมแต่ตัวเขาเองก็ไมอาจควบคุม ที่แทเปนทํารายศัตรูหรือทํารายตนเอง

มันเองก็ถูกดาบทํารายจนหลั่งเลือด

ภายหลังมันจึงชักดาบจากขางเอว

ดาบที่เลมนี้ทั้งยาวทั้งประณีต พอรับลมก็ยาวขึ้นอีกเทาตัว ยิ่งสูศึกยิ่งยาว ยาวจนคลายกับเบ็ดตกปลา
นี่จึงเปนดาบเบ็ดเดี่ยวธารหิมะที่แทจริงของมัน

กระบี่ของเซวียเจี้ยนก็ตอสู้จนกลับกลายเปนกระบี่อัคคี

กระบี่ที่เซวียเจี้ยนใชเปนกระบี่ออน ยามนี้เคลื่อนไหวอยางรวดเร็ว ปลายกระบี่สัมผัสตัวกระบี่ คมกระบี่ปะทะกับปลายกระบี่ กอใหเกิดประกายไฟจากตัวกระบี่

อีกทั้งยังเปลงเสียงกระหึ่มดังกอง

เสียงรองที่คลายดั่งเสียงปกษานับพันตัว

กระบี่อัคคีของเซวยเจี้ยนและบุปผากระบี่ของฟางขวงฮวานนับเปนสองทาไมตายดาบกระบี่

เยี่ยนฝอหลินไมอาจตานรับได้ จําตองถอยเชนกัน

ทารางของมันรวดเร็วยิ่ง เพียงถอนตัวก็ลอยขึ้น

ทวายามที่มันลอยตัวขึ้นจึงพบเห็น ขาทั้งสองขางของมันไมไดติดตามขึ้นมาดวย

เนื่องดวยขาของมันถูกตัดขาดไปแลว

ถูกคมดาบที่แทบไมอาจมองเห็นตัดขาดไป

พอตัวมันตกลงยังพื้น ก็ถูกกระบี่แทง

มันใชขวานตานรับกระบี่เลมนี้ชัดๆ ทวากระบี่เลมนี้ก็ยังออมเขามาแทงมันจนได้

เมื่อเยี่ยนฝอหลินตาย ศัตรูแปดเกาคนที่หลงเหลือก็รีบถอยหนีเอาชีวิตรอด

เมื่อไมอาจพิชิตศัตรู สิ่งแรกที่ควรทําก็คือรักษาชีวิตตนเองไวกอน

จูเถี่ยเออร์ เซวียเจี้ยน ฟางขวงฮวานไมไดไลตามไป เพราะพวกมันลวนบาดเจ็บ




ทั้งสามคนลวนกําลังหอบหายใจ

ภายหลังฟางขวงฮวานผละจากเถาแกเนี้ย ไปพอกทายาสมานแผลแกจูเถี่ยเออร์

เซวียเจี้ยนเปาลมหายใจ ยกกระบี่ ยืนขึ้นพรอมกับเดินไปยังเถาแกเนี้ย

ฟางขวงฮวานรองขึ้น

“มีอันใดกัน”

เซวียเจี้ยนตอบ

“ขาจะฆานาง”

ฟางขวงฮวานรองอยางตระหนก “ดวยเหตุใด”

เซวียเจี้ยนกลาว

“นางไม่ใชพวกเดียวกับพวกมัน และนางก็ไมอาจหลบหนีไปไหนได้ พวกมันคงไมยอมละเวนนาง ตกอยูในมือของพวกมัน ไมสูตายโดยรวบรัดเถอะ”

“ไมได้”

“ถาเชนนั้นทานจะจัดการนางเชนใด”

ฟางขวงฮวานอึกอัก กอนตอบอยางหนักแน่น

“อยางมากพานางไปดวยกัน”

เซวียเจี้ยนตอบอยางไมอาจทนได้

“ทาน คนเชนทาน ชางตอแยหาเรื่องนัก”

“ไมวาอยางไรก็ไมอาจฆาคนที่ไรความผิด”

“ได้ ทาน..”

จูเถี่ยเออรพลันตัดบท

“ไมตองทะเลาะกันแลว ที่นี่ไมอาจรั้งอยูนานไป เดินทางกันเถอะ”

พลันไดยินเสียงอันนุมนวลกลาวขึ้น

“ไปไมไดแลว”

ไมนานก็มีคนเขามา

แตเปนยอนกลับเขามา

ที่ยอนกลับเขามามีแปดคน

ลวนเปนคนตาย

ที่ลําคอของทุกศพลวนมีรูบาดแผล

คนที่ลงมือทํารายพวกมัน ถอนมือกลับในบัดดลหลังจากเขนฆาพวกมัน ดังนั้นแมแตโลหิตก็ไม่ไหลออกมาสักหยด

หนึ่งคน หนึ่งบาดแผล

ทุกบาดแผลลวนเพียงพอจะทําใหพวกมันตองตายไป

การโจมตีรอบที่สามแลว




แตละรอบยิ่งรวดเร็ว และยิ่งดุเดือด

ฟางขวงฮวานและพวกแทบจะสิ้นหวัง

ไมใช่เพราะไมตองการดิ้นรน

ทวาไมเหลือความหวังแลว เพราะพวกมันทราบดีวาผูมาคือใคร

หนึ่งเข็มเห็นโลหิต หนึ่งบุกพิฆาต

---รองประมุขพรรคเลิศอาภรณ์ จงฉินและจงโซวล้วนมาแลว




คนที่ดูสุภาพสองคน

ทวาไมวาทั้งสองคนจะสุภาพเพียงใด ก็ดูไม่เขากับสถานการณแมแต่นอย นั่นไมใชเพียงเพราะยามนี้ไมใชเวลาที่จะมาเปนมิตร
อีกทั้งสีหนา ทาทางรวมทั้งพฤติกรรมของคนทั้งสองลวนทําใหผูคนไม่รูสึกนาคบหา ทวาพวกมันกลับมีการแสดงออกที่สุภาพยิ่ง

จงฉินกลาวขึ้น

“ทหารพายแพไมอาจละเวน พวกสวะเหลานี้ลวนตองกําจัด”

จงโซวกลาวอยางนุมนวลวา

“เชนนั้นตองฆาใหหมด พวกทานคิดวาดีหรือไม่”

พวกมันยอมไมตองถาม เพราะพวกมันไดลงมือไปแลว

คนก็ตายไปแลว

พวกมันฆาพวกเดียวกันคลายกับเปนเรื่องงายดาย ยิ่งไมตองเอยถึงศัตรู

จงฉินกลาวถามจงโซว

“ทานวาดีหรือไม่”

จงโซวเอยถามจงฉิน

“มีอันใดดีหรือไมดี”

ทั้งสองคนจัดแตงเสื้อผาของตน พรอมกับหัวรอ ฟางขวงฮวานตะเบ็งเสียงขึ้น

“พวกเจาไสหัวไป”

พรอมกับฟาดดาบ ดาบเดียวฟนเขาใสจงฉินและจงโซวทั้งสอง

ยามฟนดาบศัตรูยังอยูเบื้องหนา

หลังจากฟนดาบไปแลว คนก็ยังอยู่

ทวาเมื่อดาบใกลสัมผัสถูก ทั้งสองพลันหายตัวไป

จากนั้นมันเพียงได้ยินเสียง กรอบ กรอบขึ้นสองครั้ง

มันหมุนตัวในทันที จึงเห็นภาพทนาสยดสยองฉากหนึ่ง

จงฉินบดคอของเซวียเจี้ยน

จงโซวหักกระดูกสันหลังของจูเถี่ยเออร์

ทวาทั้งสองยังไมตาย

ความเจ็บปวดของการที่ยังไมตายแต่กําลังจะตายยังทรมานเสียยิ่งกวาตายไปเลยเสียอีก

จงฉินและจงโซวดูทาทางพอใจเปนอยางยิ่ง

คลายกับพวกมันกําลังชื่นชมเครื่องปั้นอันงดงาม

สิ่งเดียวที่พวกมันอาจไมพอใจก็คือมือของมันตองเปรอะเปื้อน

เนื่องจากเสื้อและลําตัวของเซวียเจี้ยนและจูเถี่ยเออรเปรอะเปอนเต็มไปดวยโลหิต มือของจงฉิน และจงโซวจึงยากที่จะไมสัมผัสกับคราบโลหิต

ฟางขวงฮวานสูดลมหายใจอยางเย็นยะเยือก

มันมองเห็นประกายตาของพี่นองมัน

ในประกายตาพวกมันไมไดเจ็บปวด ทวาพวกมันเศราโศก

ฟางขวงฮวานพลันตะโกนขึ้น แลวฟาดดาบออกไป

ดาบเดียวฟนใสสองคน

ทวาไมใชฟนใสจงฉินและจงโซว

แตเปนพี่นองที่จงรักภักดีของมันทั้งสองคน



ดาบเดียวปลิดชีวิตจูเถี่ยเออรกับเซวียเจี้ยน

หลังสังหารพี่นองคนสนิทที่ติดตามมันทั้งสอง ในใจของมันตอนนี้จะเปนรสชาติเยี่ยงไร



ฟางขวงฮวานโจมตีครั้งที่สอง ไมใชโจมตีพวกมัน แต่กลับสังหารจูเถี่ยเออรและเซวียเจี้ยนยอมทําใหสองพี่นองสกุลจงรูสึกประหลาดใจ

ใบหนาของจงฉินอดไมไดที่จะเผยแววชื่นชม

“ประเสริฐ ยังไงพวกมันก็ไมอาจมีชีวิตรอดตอไป นับวาทานใหความรวบรัดตอพวกมัน”

ประกายตาของจงโซวกลับปรากฏความตื่นตัว

“นาเสียดาย พวกมันทรมานนอยเกินไป แตทานจะตองรับความทรมานแทนพวกมัน”

ฟางขวงฮวานไมได้ตอบความ

มันขวางดาบ ใบหนาไมไยดีตอความเปนความตาย

จงฉินกลาวกําชับขึ้น

“ทานอยาไดฆาตัวตายไป พวกเรายอมไมตองการใหทานตายโดยสะดวกสบายเชนนั้น”

จงโซวกลาวเสริมขึ้น

“ทานมีประโยชน์ให้ใชสอย หากพวกเราจับตัวทานได้ ทานจางอาวยอมตองยินดีผูกพันธมิตรกับพรรคเรา ผูใดใช้ใหทานสังหารบุตรคนเดียวของประมุขสหพันธเสือดาว
ทานจางอาวไปเลา”

จงฉินจงโซวมองตากันแลวหัวรอ พรอมกับดึงเข็มเลมหนึ่งออกมาจากอกเสื้อ

หนึ่งเข็มทอง หนึ่งเข็มเงิน

ทวาในยามนี้ พลันไดยินเสียงสตรีกลาวขึ้น

“รอกอน”

ทันใดนั้น สองพี่นองแซจงลวนหมุนตัวกลับ

ยามที่พวกมันหมุนตัว เข็มคู่ของพวกมันก็แทงออกไปดุจตาขาย ครอบคลุมใสรางผูนั้น

ทวาไรประโยชน์

ในรังไหมดอกไมยังคงสามารถบานออกได้

เชนเดียวกัน ดอกไมโลหิตดอกหนึ่งก็สามารถเล็ดลอดจากตาขายนั้น

ดอกไม้โลหิตนั้นเบงบานบนหนาอกของจงฉิน



 

โดย: ปาฟงหัน 19 กันยายน 2555 13:49:29 น.  

 

ตอนที่ 6 เอยถึงความสุขสันตยามเปลี่ยวเหงา


จงฉินรองออกมาคําหนึ่ง

ไมใช่เพราะมันเจ็บปวด

แตสืบเนื่องจากความกลัว

บนหนาอกพลันมีรูโลหิตเพิ่มขึ้นหนึ่งรู ไมทราบมันมีความรูสึกเชนใด

จงโซวพลันรูสึกพรั่นพรึงหวาดกลัว ยกนิ้วขึ้นชี้เถาแกเนี้ยตรงหนา แลวกลาวเสียงสั่น

“ทาน..”

ทาทางของเถาแกเนี้ยนั้นเปลี่ยนไปสิ้นเชิง

นางเดินเขามาอยางชาๆ ดวยใบหนาที่เย็นชา

จงโซวกลาวดวยโทสะ

“เซี่ยเปาฮวา ทานกลับกลาลงมือตอพวกเรา”

ยามเถาแกเนี้ยกลาววาจานั้นคลายกับหัวร่อ ทวาน้ำเสียงของนางกลับเย็นชายิ่ง

“เรื่องสังหารฟางขวงฮวาน เปนเรื่องของพวกเราสหพันธเสือดาว เรื่องปดกวาดชําระสํานัก ก็เป็น
เรื่องของพวกเราสหพันธเสือดาว ไมตองรบกวนทานทั้งสอง”

นางยังยกมือขึ้นจัดผม เผยใหเห็นถึงขอแขนที่ขาวผองชวนใหผูคนลุมหลง

จงโซวฝนหัวรอกลาววา

“ชางเถอะ ถือวาพวกเราพี่นองตอแยหาเรื่องเอง”

จงฉินแค่นเสียงคําหนึ่ง

มันพลันพุงตัวเขาหาเซี่ยเปาฮวา

พรอมกับเข็มเลมหนึ่ง

ทันใดนั้นจงโซวพลันกระทําอีกเรื่องหนึ่ง

มันลอยตัวขึ้นอยางรวดเร็ว พุงตัวหนี สองเทาไมติดพื้น ลอยตัวออกไปหลายวา เพราะมันทราบดีวา เมื่อเซี่ยเปาฮวาลงมือ ไมเคยไวชีวิตผูใด

ทวามันกับผูอื่นลวนเหมือนกัน คือตองการชีวิต

ตองการชีวิตก็ตองเอาตัวรอด

จงโซวกลับทอดทิ้งพี่นองของตน

การโจมตีคราใกลตายของจงฉินนับวารายกาจนัก

แววเสียงแหวกอากาศของเข็มทอง พรอมคนคํารามดวยโทสะ

เซี่ยเปาฮวาหลบตัว พรอมกับเกี่ยวกระบี่จากพื้นดวยความรวดเร็ว

กระบี่ของเซวียเจี้ยน

เมื่อจงฉินแทงเขาใส่ความวางเปลา มันพลันลมลง และไมอาจลุกขึ้นมาอีก

จากนั้นฟางขวงฮวานพลันเห็นกระบี่ในมือของเซี่ยเปาฮวา คลายกับยืดยาวออก

ฟางขวงฮวานอยูกับเซวียเจี้ยนมาหลายปี มันรูวากระบี่ที่เซวียเจี้ยนใชเปนกระบี่มีชื่อเสียง ทวามันก็
ไมเคยทราบวากระบี่เลมนี้มีอานุภาพรายแรงเพียงนี้

เปนนางใชสองนิ้วบดกระบี่ หักปลายกระบี่

จากนั้นนางจึงดีดปลายกระบี่หักนั้นออกไป

ปลายกระบี่นั้นพุงออกไป แทงเขาใสรางของจงโซวที่กําลังลอยตัวหนี แทงทะลุทรวงอกของมัน ออกไป ทั้งยังพุงตอไปจนลับตา

ทุกสิ่งพลันสงบลง

ไมใชเพราะไมมีคน

ทวาลวนเปนคนตาย

คนเปนมีเพียงสองคน

ฟางขวงฮวานมีชีวิตอยู

อีกผูหนึ่งยอมเปนเซี่ยเปาฮวา

เซี่ยเปาฮวากลาวด้วยใบหนายิ้มแยม

“เดียรัจฉานคูนี้ลวนตายแลว มืดค่ำแลว”



มือที่จุดไฟของเซี่ยเปาฮวาชางงดงามนัก งามดุจความฝน

ตะเกียงสะทอนรูปหนาและสองแกม โฉมสะคราญที่งดงามจนแทบเปนเพียงนิยาย

ยามมืดค่ำในหมูบานที่หางไกลเชนนี้ ฟางขวงฮวานได้อยูรวมกับสตรีที่มีชื่อสะทานยุทธจักรโดยลําพัง
พรอมกับเหลาซากศพที่นอนตายบนพื้น ไมทราบในใจมันจะรูสึกเชนใด

พี่นองของมันลวนตายแลว มันรูสึกเชนไร

“เหตุใดตองจุดตะเกียง”

นางเลิกคิ้วพรอมกับหัวรอแลวกลาว

“ตะเกียงนั้นสวยงาม แสงไฟยิ่งงดงาม ทานไมรูสึกหรอกหรือ”

“โดยเฉพาะคนเมื่อตายไปแลว วิญญาณยังไมอาจคลําหาทางออกไป ขาจึงจุดตะเกียงเพื่อสองทาง ใหกับพวกมัน”

“เหตุใดทานจึงชวยขา”

“ขาหรือ ขาไมไดคิดจะชวยทาน”

“เชนนั้นทานลงมือเถอะ”

“ฆาทานหรือ”

ฟางขวงฮวานถอนหายใจพลางกลาว

“เสียทีขาผูแซฟางบุกตะลุยมาครึ่งชีวิต...”

เซี่ยเปาฮวาพลันกลาวขึ้น

“ทานผูแซฟางเปนอยางไร เปนมนุษยไมควรกลาวพร่ำเพอรําพัน โทษนั่นโทษนี่”

วาจาของเซี่ยเปาฮวาแหลมคมไมไวไมตรีแมแตนอย

“ขอแรก ทานนับเป็นกระไร ขอสอง ทานเคยผานเหตุการณ์มามากเพียงใด ขอสาม ตัวทานนับวาผานมาชั่วชีวิตแลวหรือ
เปนลูกผูชายไมควรจะมานั่งถอนใจ คนยามเปลี่ยวเหงาควรคิดถึงความสุขสันต์ คนยามผิดหวังก็ตองมีชีวิตตอไป หากขอนี้ทานไมเขาใจ ยังนับเป็นผูกลาไดอยางไร”

ฟางขวงฮวานไดแตอึ้งไมกลาววาจา

เซี่ยเปาฮวากลาวตอ

“คนยังไมตาย ไมควรถอนใจ หากตายแลว จะถอนใจไปไย”

“ทานไมฆาขาหรือ”

“ฆาทานมีประโยชนอันใด”

“ทานจะช่วยขาหรือ”

เซี่ยเปาฮวาหัวรออีกครา

“เฮอ คาดไมถึง..”

ฟางขวงฮวานกลาวแลวหยุด แลวจึงกลาวตอ

“ทานกลับช่วยเหลือขา”

“ทานคิดจะกลาว เสียทีขาฟางขวงฮวานเปนลูกผูชายอกสามศอก กลับตองใหสตรีฝายอธรรม อยางเซี่ยเปาฮวามาชวยเหลือ ใชหรือไม่”



ยามมองเซี่ยเปาฮวาในยามค่ำคืน คลายกับดอกไมที่ขาดสีสัน ทวานางที่อยูภายใตแสงไฟ ยังคงทําใหผูคนไมอาจลืมเลือน
ฟางขวงฮวานอดไมไดที่จะคิดถึงค่ำคืนที่ฝนตกคืนหนึ่ง รางของมันกับนาง ความฝนอันสุขสันตของมันและนาง รวมทั้งเสียงหอบหายใจของนาง


“ขอบอกตอทาน ขาไม่ใชเพราะเรื่องคืนนั้นจึงชวยเหลือทาน และก็ไม่ได้ชวยทานเพราะไมอยากให้ทานตาย”



นางยังคงกลาวตอไป

“ขาไม่ใช่สตรีที่ดีเลิศ ทวาขาก็ไม่ใชสตรีที่เลอะเลือน”

“เชนนั้นเหตุใดทานจึงชวยเหลือขา”

“เพราะทานสังหารจางชีชิน บุตรคนเดียวของจางอาว” เซี่ยเปาฮวากลาวตอด้วยความสะใจ

“ฆาไดดี”

“ทานมีความแคนกับจางชีชินหรือ”

เซี่ยเปาฮวาหัวรอพลางกลาว

“ไมมี ขาเปนคนสนิทของนายผูเฒา มันยอมไม่กลามีความแคนกับขา”

“เชนนั้นทานมีญาติพี่นองที่ถูกมันย่ำยีหรือ”

เซี่ยเปาฮวาตอบอยางหนักแนน

“ไมใช่ ยามทานฆาจางชีชินนั้น มันกําลังย่ำยีหญิงชาวบาน ทําใหผูอื่นตองเดือดรอน ขาเองก็คิดสังหารมัน ทวาขาเกรงบิดาของมัน
จึงไม่กลาลงมือ สวนทานทั้งที่รูวาจางชีชินเปนบุตรชายของจางอาว ทานยังกลาฆา เหตุนี้ขาจึงรูสึกวาทานทําเรื่องที่ดีงามเรื่องหนึ่ง จึงไรเหตุผลที่จะฆาทานเพราะเรื่องนี้”

นางพลันกลาวเสริมขึ้น

“ดังนั้นวันนี้ขาชวยทาน ก็เพื่อไมใหเกิดความอยุติธรรม”

ฟางขวงฮวานเงยศีรษะขึ้น

เซี่ยเปาฮวาหัวรอ ทวาไมไดหลบหลีกสายตาของมัน

“ทานมีเรื่องแคนี้หรือ”

“ยังมี ขาเคยเสียตัวใหแกจางอาว ขาคลั่งแคนสหพันธเสือดาว ทวาขาเปนสตรี ความสามารถที่ยิ่งใหญที่สุดของสตรีก็คือการอดทน อดทนจนเคยชิน
ก็ไม่มีเรื่องใดที่ไมอาจอดทนแลว”

“ไมมีแลวหรือ”

“ท่านยังมีใดอีก”

“ค่ำคืนนั้น...”

ฟางขวงฮวานตื่นเตนจนลุกขึ้นยืน

“ทานไมได้...”

“ยังมี..”

ทาทีของเซี่ยเปาฮวาพลันเปลี่ยนไปเปนนุมนวล

“บางทีการงมงายในรักคงเปนความทุกขที่ไมอาจควบคุมไดกระมัง”

ฟางขวงฮวานก็ไมอาจควบคุมตัวเอง จึงกุมมือของนาง

มันพลันนึกถึงเรื่องราวในค่ำคืนนั้น คืนที่ฝนตก


 

โดย: ปาฟงหัน 19 กันยายน 2555 13:50:03 น.  

 

ตอนที่ 7 วิกาลไรความมืด


ค่ำคืนที่ฝนตก

เซวียเจี้ยนหลับไปแลว จูเถี่ยเออรก็เมาไปเจ็ดสวน ขณะที่ปดประตูหลัง ฟางขวงฮวานพลันรูสึกตัวขึ้น แสงไฟวูบไปมา ประตูถูกเปดออก มีคนถลันเขามาภายในหอง

นั่นเปนเถาแกเนี้ย

ดวงตานางสุกสวาง ทวาแฝงแววตระหนก คลายดั่งพายุฝนที่ไรที่มา

มือของนางถือหอผาคร่ําครึที่หอสิ่งของไว้

ยังไมทันปดประตูเรียบรอย แสงเทียนก็ถูกลมพัดดับไป

นางคิดหันกายปดประตู มันก็ชวยนางปดประตู ในชวงที่แสงเทียนเพิ่งดับไปนั้น มันอยูขางกายของนาง สูดดมได้กลิ่นหอมจากปอยผมของนาง

ไมทราบวาเพราะเหตุใด มันพลันกอดนาง

มันไดยินเสียงหัวใจของนาง นางก็ไดยินเสียงหัวใจของมัน

มันยังได้กลิ่นหอมเจือจาง

ยามมันเปลื้องอาภรณของนาง หัวใจแทบจะกระดอนออกมา ยามมันจุมพิตนาง หัวใจก็ยิ่งเต้นแรง ภายหลังยิ่งแยกไมออกวาเป็นเสียงหัวใจหรือเสียงครวญคราง

มีเพียงวิกาลที่พายุฝนโหมกระหน่ำ เช่นนี้ยิ่งทําใหคนตองหวนคะนึง ทําใหคนตองคิดถึง

ยามตื่นขึ้น กลิ่นหอมยังคงอยู

ทวาคนได้จากไปแลว

เพราะกลิ่นหอมยังคงอยู ดังนั้นยอมไม่ใชความฝัน

ยามมันพบนางอีกครั้ง นางกําลังอยูหนาเตา ยังคงสวมชุดเขียวเชนเดิม

ทวากลิ่นหอมเมื่อคืนมาจากนางอยางแน่นอน

นี่เปนเรื่องที่ฟางขวงฮวานใครจะถาม

เซี่ยเปาฮวาเอยขึ้น

“เพราะขาคิดฆาทาน ขาไดรับคําสั่งใหมารอทาน รอทานมาแลวจึงสังหารทาน”

ฟางขวงฮวานพลันรูสึกหนาวเหน็บในใจ

“ทานรูหรือไมเหตุใดขาจึงไมชวยพี่นองของทาน”

ฟางขวงฮวานมองดูแกมแดงเรื่อของนาง

“เปนเพราะขาไม่คิดช่วยพวกเขาแตแรก”

“มีเพียงขาและทานหนีไปดวยกัน หากเพิ่มคนอื่น คงตองย่ำแยแลว”

นางยังกลาวถามตอ

“ทานจําคืนนั้นไดหรือไม่ หอผาที่ขาถือไว้”

ฟางขวงฮวานผงกศรีษะ

มันจําได้

นางหยิบหอผาออกมาจากในตู้

มันจํากลองนั้นได้

นางเปดกลองออก ขวางของสิ่งหนึ่งใสโต๊ะที่อยูเบื้องหนาของมัน

ใจของมันแทบตกวูบตามลงไป

นั่นเปนศีรษะคน ศีรษะของกวอถงถง

“ค่ำคืนนั้น ขาฆาคนที่คุมครองทานอยูเบื้องนอก เพราะมันพบเห็นขา มันนับเป็นคนที่ยอดเยี่ยมจริงๆ”

เซี่ยเปาฮวายังถามตอ

“เปนไร ทานคิดจะแกแค้นหรือไม่”

ฟางขวงฮวานกําหมัด แตไมไดลงมือ

“อยาเลย ไมคุมคาแมแต่นอย อีกอยางทานก็ไม่ใชคู่ตอสูของขา ขาเองก็ตองการผละจากสหพันธ์เสือดาว นับแต่นี้ไปจางอาวคงตองสงยอดฝีมือมาไลลาเอาชีวิตขา”

นางยิ้ม พรอมขยับเขาใกลแลวกลาว

“ทานใช่ตองการจุมพิตขาหรือไม่ ขาคือเซี่ยเปาฮวา ขาเคยเสียพรหมจรรยให้กับจางอาว ทวาขาไม่เคยมั่วสุมกับคนอื่น ศิษยพี่ขาหยวนเมิ่งตี๋ก็ชอบขามาก
ทวาขาไมสนใจเขาแมแตนอย”

ฟางขวงฮวานอดไมไดตองถามขึ้น

“ทวา ทานเหตุใดจึงดีตอขาเชนนี้”



เซี่ยเปาฮวายิ้มขึ้น

“ขาดีตอทาน ก็เพราะขาตองการผละจากสหพันธ์เสือดาว ขาเองก็ไมทราบภายหนาจะรอดชีวิตไปไดหรือไม แตขาตองไม่กลัวจึงอาจรอดชีวิตได้”

ทาทางของนางดูเบิกบานใจ

“ฟางขวงฮวาน ขามอบดวงใจขาให้กับทาน ทานอยาไดรานน้ำใจขา”

“ขาจะไมรานน้ำใจทานอยางแนนอน”

เซี่ยเปาฮวาพลันกลาวเด็ดเดี่ยวตอไป

“หากทานรานน้ำใจขา ขาจะฆาทาน”

ฟางขวงฮวานจุมพิตนาง

สัมผัสถึงความออนหวานและกลิ่นหอมของนาง

เซี่ยเปาฮวาผลักมันออกเบาๆ

“หากพวกเรายังพัวพันกันตอไป คงตอง... หากถึงวันนั้น ท่านตองบอกขาลวงหนากอน”

“ไมตองรอถึงวันนั้นหรอก ทานหอมเชนนี้ ใหขาได้เหลวไหลสักรอบกอนเถอะ”

“ทานตองจําวาจาของทานไว้”

เสียงของเซี่ยเปาฮวากลายเปนเสียงครางขึ้นมาแทน

ฟางขวงฮวานลุมหลงอยางคลุมคลั่ง

มันชอบนาง

นั่นเปนเลือดเนื้อแทจริง เรารอนดั่งดาบในออมกอด เรารอนจนทําใหผู้คนตองคิดวานางผานความเงียบเหงามาเปนเวลานาน

ในยามหฤหรรษนั้น ฟางขวงฮวานตองการจะมองคน เรือนรางของคนที่มันรัก เพราะนั่นจะยิ่งทําให้มันรักยิ่งขึ้น

เลือดเนื้อที่มีเนื้อ ความรักที่มีรัก

 

โดย: ปาฟงหัน 19 กันยายน 2555 13:50:35 น.  

 

ตอนที่ 8 ตัด ดับ สะบั้น


วันที่สอง หลังพายุฝนสงบ กลิ่นหอมยังคงอยู

ใชเปนกลิ่นหอมจากเรือนรางนางหรือไม่

ยามที่ฟางขวงฮวานตื่นขึ้น คนไดจากไปแลว

ฟางขวงฮวานตระหนกจนรีบลุกขึ้น

มันมองไปทางระเบียง จึงเห็นโฉมสะคราญเดินมาแตไกล ยิ้มพรอมกับโบกมือให้แก่มัน

ทาทางเบิกบานใจเชนนี้ คงตองไปอาบน้ำมากระมัง ฟางขวงฮวานครุนคิด

“ทานไปที่ใดมา”

เซี่ยเปาฮวากลาวอยางยิ้มแยม

“ขาเพิ่งฆาคนไปสามคน ยังไมรีบไป ศัตรูยิ่งมายิ่งมากขึ้น”

ยามฟางขวงฮวานออกเดินทาง พลันคิดถึงพี่นองของมันที่ตองตายอยูในโรงเตี๊ยมที่กําลังลุกไหมแหงนี้ ทําใหรูสึกกลัดกลุมใจขึ้นมา

พวกมันเดินทางไปด้วยกันไดไมไกลนัก ถึงภูเขาลูกหนึ่ง หิมะก็เริ่มตก

หลังทานอาหาร จึงแวะลางหนา ทั้งยังสาดน้ำใสกันและกัน

ภายหลังพวกมันยิ่งรูสึกวาหิมะหนาขึ้น

หลังจากผานเนินตางๆ ก็มาถึงถึงชองแคบอี๋อูลู่(เกรงวาไรทาง)

ชองแคบอี๋อูลู่นี้ทําใหคนคิดวาไรหนทางไปตอ แตวาแท้จริงยังมีทางในชองผาขาดที่คลายกับสวรรค์
บรรจงสรางเอาไว้ เปนทางที่ทอดยาวกว่าครึ่งลี้ พอให้คนเดินไดแค่คนเดียว นี่เปนทางเพียงเสนเดียว

พวกมันคนหนึ่งเดินหนาคนหนึ่งเดินหลัง

ฟางขวงฮวานรู้สึกวาทามกลางหุบเขาหิมะแหงนี้ เซี่ยเปาฮวาชางขาวโดดเดนเปนพิเศษ

มันคิดจุมพิตนาง ขณะกําลังจะโอบกอดนาง

เซี่ยเปาฮวาพลันหยิกแขนของมัน

มือที่เยียบเย็น

เย็นดั่งหิมะ

“ขาอยากอาเจียน”

เซี่ยเปาฮวาลดเสียงต่ำ

“ศัตรูมากันแลว คงตองเปนจาน ซี ตวน”



ฟางขวงฮวานกุมมือนอยของเซี่ยเปาฮวา ในพริบตานั้น มันรูสึกวา มันไมอาจไปจากนาง มันไมอาจสูญเสียนาง แตวามันอาจตองสูญเสียนางหรือมันอาจตองไปจากนาง

จาน(ตัด) ซี(ดับ) ตวน(สะบั้น) เปนนามของคน นามของคนสามคน

ทั้งสามคนลวนเปนศิษยของบุรุษกระบี่หัก (ตวนเจี้ยนเซียนเซิง) ตวนต้วน

การลงมือของจานคือตัด

การลงมือของซีคือการดับลมหายใจของศัตรู

ตวนคือไม่วามันลงมือหรือไม่ รางของศัตรูก็ตองถูกสะบั้นขาดเปนสองทอน

พวกมันสามคนเดินเคียงไหลกันเขามา

ฟางขวงฮวานไมทันไดหลบหนี

พวกมันมองเห็นเซี่ยเปาฮวากอน แทบจะในเวลาเดียวกันพวกมันก็พบเห็นฟางขวงฮวาน

ในชวงเวลานั้น พวกมันยังไมทันไดสังเกตฝายตรงขามชัดเจน

เซี่ยเปาฮวาก็ยื่นมือออกมาครากุมจุดชีพจรของฟางขวงฮวาน แลวกลาว

“ขาจับเขาได้แลว กําลังรอใหพวกทานมารับตัวไป”

จาน ซี ตวน หัวรอขึ้นพรอมกัน

พวกมันหันไปสบตากัน

ผูหนึ่งเอยขึ้นวา

“นองเรามีความสามารถยิ่งนัก”

อีกคนก็เอยขึ้น

“ขาเคยบอกแลว เมื่อนองเราผูนี้ลงมือ คงไมถึงรอบพวกเราลงมือ”

คนสุดทายก็กลาว

“มาก็ดี พอดีครากุมคนกลับสหพันธ์”

เซี่ยเปาฮวาเผยยิ้มที่คลายกับบุปผาในสายน้ำแลวเอยขึ้น

“ถูกแลว”

นางมัดมือฟางขวงฮวาน แลวขวางคนไปยังจาน ซี ตวน พร้อมกับรองวา

“รับไว้”

ฟางขวงฮวานกลาวดวยโทสะ

“ทาน…”

จาน ซี ตวน หัวรอฮาฮา และยกมือขึ้นรับคน

ฟางขวงฮวานเพียงรูสึกตนเองรางกายเบาวูบ ไมอาจใช้กําลัง ทั้งรอนใจทั้งโมโห จึงชักดาบกลางอากาศ
ทวาไมพบเห็นเปาหมาย ทันใดขางกายพลันมีเสียงคนพุงผาน เขาไมทันจําแนก ก็ฟนดาบออก ใบหนา และมือพลันรอนวูบไปดวยโลหิตที่สาดออกมา

ในเวลานั้นพลันบังเกิดเสียงรองด้วยโทสะดังขึ้น

จาน ซี ตวน เพิ่งยกมือขึ้น เซี่ยเปาฮวาก็พุงเขามา เขาใกลสามคนนั้นกอนฟางขวงฮวานเสียอีก

มีประกายสีเขียวสายหนึ่งพุงออกจากอกของนาง

ซีลมลงไป

นอนอยูในกองโลหิตของตนเอง

จานและตวนโจมตีกลับอยางรวดเร็ว

เซี่ยเปาฮวาถูกฟางขวงฮวานฟนใส่หนึ่งดาบ

ทวายามนางขยับตัวอีกครา ตวนก็ลมลง ยามที่มันลมลงนั้นบนรางมีบาดแผลไมนอยกวายี่สิบเอ็ดแหง

ทวาเซี่ยเปาฮวาก็ตองกระอักเลือดเชนกัน

ประกายสีเขียวในมือของนางถูกกระแทกหลนลง

จานกลับไมโจมตีใส่นาง แตหันไปโจมตีใสฟางขวงฮวาน

ฟางขวงฮวานรับมืออยางสุดกําลัง กระบวนทาตัดฟาของจานพุงเขาใสอยางรวดเร็ว

อานุภาพดาบนี้ แมแตหินผาก็ตองถูกฟนเปนสองทอน

ฟางขวงฮวานรูตัววาไม่ใชคูมือของฝายตรงขาม จึงรองขึ้น “รับไว้”

ดาบยาวในมือพุงออกไปหาเซี่ยเปาฮวา

เซี่ยเปาฮวามือหนึ่งยันพื้น ฝนใจรับเอาไว้ มองเห็นฟางขวงฮวานกําลังถูกบีบให้ตองตาย จานพลิกสภาวะดาบจากฟนเป็นแทงใสฟางขวงฮวาน

เซี่ยเปาวฮวาไมทราบมีเรี่ยวแรงจากที่ใด โผพุงรางไปยังเบื้องหนาของฟางขวงฮวาน ดาบนั้นของจานแทงเขาไปในไหลของนาง ทวาดาบนั้นก็ถูกดาบเบ็ดเดี่ยวธารหิมะสกัดเอาไว้
จึงไม่อาจแทงลึกเกินไปกวาหนึ่งนิ้ว ในพริบตานั้น สองนิ้วของเซี่ยเปาวฮวาพลันบิดคมกระบี่ของฝายตรงขาม

จานหมุนตัวพุงหนี

มันตองการหนีออกไปจากชองแคบแหงนี้ เพื่อไปแจงขาวตอจางอาว หากเปนเช่นนั้นเซี่ยเปาฮวา และฟางขวงฮวานยังคงตองตาย

แตวาสองนิ้วของเซี่ยเปาวฮวากลับดีดออก สวบ เสียงทะลุออกจากแผนหลังของมัน

จานหนีไปไดหนึ่งวา ก็พบวามีโลหิตหลั่งไหลออกจากอกของตน เมื่อถึงสองวาก็พบวาอาการสาหัส เมื่อถึงสามวาก็ลมลงเสียชีวิต

เซี่ยเปาฮวาแอบอิงรางกับแผ่นอกของฟางขวงฮวาน นางกุมมือของมัน พรอมกับยิ้มให้ แม้วารางนางจะหลั่งโลหิต อาการสาหัสไมนอย
ทวารอยยิ้มนี้คลายกับสลายความหดหูไปหมดสิ้น

“ดาบนั้นของทาน ทํารายขาสาหัสนัก”

ฟางขวงฮวานเพียงรูสึกวามือของนางเย็นเฉียบ มันกลัวนางจะสิ้นชีวิตไป

มันไมอาจสูญเสียนาง

ขุนเขาที่ปกคลุมไปด้วยหิมะ อากาศที่หนาวเหน็บลวนไมมีสวนเกี่ยวของกับมัน ในสายตาของมันมีเพียงนางเท่านั้น

 

โดย: ปาฟงหัน 19 กันยายน 2555 13:51:13 น.  

 

ตอนที่ 9 ชวยหรือไม่ชวย แข็งแกรงหรือไม่แข็งแกรง

เซี่ยเปาฮวาและฟางขวงฮวานเริ่มตนชีวิตที่ตองหลบหนีถึงสุดหลา

ทวาเซี่ยเปาฮวารูซึ้งถึงวิธีฝมือไลลาติดตามของจางอาว ดังนั้นนางจึงสามารถหลบหนีจากการสะกดรอยไดทันทุกครา

พวกเขาพึ่งพิง ชวยเหลือกัน ฝาลมมรสุมนับไมถวน เดินบนเสนทางที่ไรจุดสิ้นสุด

จนวันนี้ เซี่ยเปาฮวาไมยิ้มแลว

นางหอบงาย เหนื่อยงาย

มีคราหนึ่งนางไมยอมรับทานอันใด ทั้งยังปลีกตัวออกไปหลังราน บางครายังไปซุบซิบจับกลุม สนทนากับสตรีอื่นๆ ในหมูบาน โดยฟางขวงฮวานไมทราบวาสนทนากันเรื่องใด

ยามฟางขวงฮวานถามไถ่ เซี่ยเปาฮวาก็บายเบี่ยง ไม่ยอมตอบ

จนมาถึงหมูบานแหงหนึ่ง เซี่ยเปาฮวามองเห็นชอดอกไมขางลําธาร นางพลันหัวรอขึ้น คลายกับยินดีที่ไดพบความงดงามในความกันดารก็ปาน

“ใกลตามทันแลว”

ฟางขวงฮวานกุมมือนาง รูสึกวามือของนางยิ่งมายิ่งเย็นลง

“ผูใดมาแลว”

“บุรุษกระบี่หัก ตวนตวน มันจะมาลางแคนใหศิษยของมัน”

พอไดยินชื่อ แมแตมือของฟางขวงฮวานก็เย็นเฉียบ

“ยังมีศิษยพี่ของขาหยวนเมิ่งตี๋”

เซี่ยเปาฮวาเสยผม ฟางขวงฮวานเหมอมองดูผมของนาง

“ขาไม่ใชคูมือของพวกเขา”

ฟางขวงฮวานพลันรูสึกหนาวเหน็บในใจ

“อีกทั้งขาตองการบอกท่านเรื่องหนึ่ง”

เซี่ยเปาฮวาคลายกับแก้มแดงระเรื่อขึ้นมา แลวจึงกลาวตอ

“ขากําลังจะมีบุตรของทานแลว”

“อา”

ฟางขวงฮวานอุทานด้วยความตกใจ ไมทราบเปนกังวลหรือยินดี

“พวกเราตอนนี้ยังไมอาจมีบุตรได้”

เซี่ยเปาฮวากลาวอยางเด็ดเดี่ยว

“ขาจะเอาเขาออก ขาไดทานยาไปหลายชุดแลว เมื่อครู่ก็เพิ่งทานไปอีกสองชุด หากยังไมไดผล ขาจะใช้กําลังภายในขับออกมา อยางไรตอนนี้ก็ไมอาจมีทารกได้”

“ทานทราบหรือไมวาเหตุใดระยะนี้ขาจึงไม่คอยไดใกลชิดกับท่าน”

นางเอยถามฟางขวงฮวาน แตก็เหมือนกลาวกับตัวเอง

“เปนเพราะขามีความลําบากใจ”

“สวรรค์...”

จิตใจของฟางขวงฮวานพังทลายลง

“มีผูใดสามารถชวยเหลือพวกเราหรือไม่”

“ไมมีเรื่องชวยหรือไมชวยหรอก มีแตคนที่แข็งแกรงหรือไมแข็งแกรงเทานั้น”

เซี่ยเปาฮวาฝนหัวรอขึ้น

“แนนอน ยอมตองพึ่งโชคชะตาดวยเชนกัน”

ภายหลังนางจึงกลาวเสริมขึ้น

“ใชแลว คืนนี้หากไปถึงหมูบานอูอี้ ขาจะเอาทารกออก”



ทวาไมทันถึงหมูบานอูอี้ ยาที่เซี่ยเปาฮวาทานในรานก็เริ่มออกฤทธิ์ เซี่ยเปาฮวารูตัวดีวาหากยังไม่เอาทารกออก เกรงวาแมแตชีวิตก็ไมอาจรักษาไวไดแลว

ในยามนั้นหิมะเพิ่งหยุดตก ดวงอาทิตยเพิ่งสองแสง เดิมทีสภาพแวดลอมที่งดงามเชนนี้จะพบได้ก็เฉพาะชวงต้นฤดูใบไมผลิเทานั้น แต่วาหิมะที่ปกคลุมในทุกทิศเชนนี้
เมื่อดวงอาทิตยสาดสองก็สะทอนบังเกิด เปนแสงสีที่สวยงามนาชมเชนกัน

ฟางขวงฮวานไมทราบจะทําเชนใด เขาคิดโอบกอดเซี่ยเปาฮวาจากไป ทวาระยะทางไปหมูบานยังอีกไกล หากเดินทางตอไปเชนนี้ คงไมทันถึงหมูบานอูอี้

ริมฝปากของเซี่ยเปาฮวากลับกลายเปนสีมวง โดยที่ฟางขวงฮวานไมทราบวาเกิดจากความเจ็บปวด หรือความหนาวเหน็บ

“รีบหาที่หลบซอนตัวกอนเถอะ”

เซี่ยเปาฮวากุมมือของเขาพรอมกับยิ้มแลวกลาว

“ขารูสึกดีขึ้นมากแลว มีทานอยูดวย ขาไมกลัวอันใดทั้งสิ้น”

ฟางขวงฮวานคอยคลายใจลง มันเดินนําตอไปยังทิศตะวันตก คอยรูวาผิดทาง

เซี่ยเปาฮวาสงบจิตใจ และบอกถึงสิ่งที่ควรทํายามหลงทาง ยามนางกลาววาจารูสึกคลายกับมีดาบทิ่มแทงในอก จนแทบจะแทงทะลุคอขึ้นมา
ตอนนี้นางจึงทราบ ยาที่ทานนั้นไมถูกตอง ทั้งเปนยาพิษ

จางอาวไมยอมละเวนนาง

ฟางขวงฮวานพบวามีโลหิตไหลออกมาจากตัวของเซี่ยเปาฮวา เขาอยากช่วยเหลือนาง ทวานางสิ้นสติไปแลว สีหนาบัดเดี๋ยวม่วงบัดเดี๋ยวขาว
ฟางขวงฮวานคิดวาเปนเพราะความหนาวแทรกซึมเขาราง จึงถายทอดกําลังภายในชวยเหลือ ทวากําลังภายในของเซี่ยเปาฮวาสูงกวามัน
ฟางขวงฮวานจึงไมอาจถายทอดกําลังภายในชวยเหลือได้

ในยามนั้น เซี่ยเปาฮวาพลันมีสติฟนขึ้น มองเห็นมันมีเหงื่อซึมหนาผาก จึงกุมมือมันแลวเอยขึ้น

“ทานอยาไดถูกความหนาวทํารายเพราะขาเลย”

ฟางขวงฮวานร่ำไห้ขึ้นมา

“เปาฮวา ทานตองไมตาย ทานตองไม่ตาย”

เซี่ยเปาฮวากลาวอยางออนลา

“ขายังไมตาย หากไมไดอยูรวมกับทาน สูตายเสียดีกวา หากขาตายไปเชนนี้ ทานยอมตองคิดถึงขา”

เซี่ยเปาวฮวายิ้มแลวกลาวตอ

“จากกันอยางสุขสันตยอมประเสริฐกวาจากลากันดวยความเคียดแคน”

ฟางขวงฮวานพบวาเสื้อผาที่กลางหลังมีโลหิตไหลซึมออกมา เขาโอบอุมโฉมสะคราญที่กําลังหลั่งโลหิตดวยจิตใจที่วาวุ่นและสับสน

เซี่ยเปาฮวารูสึกทรมานจากเด็กในครรภและพิษพรอมๆ กัน หากไมกําจัดทารกนี้ออกไป ฟาดินคงไมละเวนชีวิตนาง

นางใช้กําลังภายในขับพิษ ทั้งยังใชกําลังบีบเอาทารกออก ทวาเลือดเนื้อจิตใจนั้นไมยอมที่จะเสียชีวิต กลับยินยอมที่จะพัวพันตายไปพร้อมกับนาง

ศัตรูพลันติดตามมาทัน

ยอดฝมือพรรคเลิศอาภรณ์นามหมาไทซีพลันมาถึงพรอมกับสมุนอีกสองคน

พวกมันมองดูสภาพการณของเซี่ยเปาฮวาแลวก็วางใจ

วางใจที่จะรับมือกับฟางขวงฮวาน

ฟางขวงฮวานพบวาเซี่ยเปาฮวาลมอยูบนพื้น จิตใจพลันสับสน

ศัตรูทั้งสามคนนี้ อาศัยมันผูเดียวไมอาจเอาชนะได้

หมาไทซีทั้งสามเริ่มโจมตีฟางขวงฮวาน ทวาผานไปเนิ่นนานก็ยังไมสามารถเอาชนะได้ หมาไทซี จึงปลีกตัว โผพุงรางออกไป
คิดครากุมเซี่ยเปาฮวาที่อาการรอแร่ เพื่อบีบบังคับฟางขวงฮวาน

“รีบวางอาวุธลง”

วาจาไมทันจบ ดาบของเซี่ยเปาฮวาก็แทงเขาใสรางของมัน ไมวาหมาไทซีจะสลัดเยี่ยงไร ดิ้นรน เพียงไร ดาบของเซี่ยเปาฮวาก็ยังคงพุงเขาใส่ขั้วหัวใจของมัน

ยามที่หมาไทซีลมลง ฟางขวงฮวานก็สังหารศัตรูไปผูหนึ่ง

อีกผูหนึ่งหลบหนีไปไดทัน

รางของเซี่ยเปาฮวาชุมโชกไปดวยโลหิต ทารกที่ยังไมเปนรูปรางนั้นถูกนางใชพลังและความมุงมั่น ที่เด็ดเดี่ยวขับออกมาได้ในที่สุด

ฟางขวงฮวานรูสึกเศราใจ

เพราะทารกที่ยังไม่นับเปนคนนั้น อยางไรก็เปนบุตรของมัน

บุตรของมันกลับถือกําเนิดออกมาในลักษณะเชนนี้

เกิดมาแลวก็จากไป

ฟางขวงฮวานคิดอยากร่ำไหสักครา

เซี่ยเปาฮวามองซากทารกนั้น จากนั้นจึงสิ้นสติไป นางฝืนใจขับพิษและทารกออกมา กําลังภายในถึงขั้นคลายตะเกียงที่ใกล้จะมอดดับ
กอนจะสิ้นสติ นางยังกําชับฟางขวงฮวานวา

“หาที่ฝงทารกใหดี จัดหาที่สะอาดสะอานให้แก่ขา หากข้ามีสองชีวิต คงไดร่วมใชชีวิตที่เหลือกับทาน”

กลาวจบจึงสิ้นสติไป



ยามที่นางฟนขึ้นมา ก็อยูในศาลเจาแหงหนึ่ง มองเห็นหิมะที่กําลังตกอยูเบื้องนอก

นางยังคงมีชีวิต

นางเห็นฟางขวงฮวานแลว

“ทารกเลา”

เมื่อถามคําถามนี้แลว เซี่ยเปาฮวาก็เริ่มร่ำไหดุจดั่งดรุณีในหองหอ

“จําไดหรือไม่ ค่ำคืนนั้นที่ทานรับปากขา ค่ำคืนที่ฝนตก”

ฟางขวงฮวานลูบคลําชุดดําที่วางอยูบนพื้นหิมะ

“นี่เปนชุดที่ขาใสโอบกอดกับทานในค่ำคืนนั้น วันนี้กลับเปยกชุมไปด้วยโลหิต”

“ชางเถอะ ยังมีชีวิตอยู ก็นับวาประเสริฐแลว”

เซี่ยเปาฮวาเงยหนาขึ้น นางรูสึกวาภูเขา ตนหญา หิมะขาว สิ่งอื่นๆ รอบตัว ลวนไมมีความหมาย มีเพียงคนที่เบื้องหนาที่มีชีวิตอยูนี้เทานั้น ที่เปนความจริง
ภายในรางของนางรูสึกวางเปลา ในใจคลายมีทวนทิ่ม แทง นางไมไดเอยถาม ‘ทารกฝงอยูที่ใด’ นั่นเปนชีวิตแรกที่ถือกําเนิดขึ้นจากนางและมัน
แม้วาชีวิตนั้นจะไมมีโอกาสไดเปนรูปรางก็ตาม

“นี่เปนโลหิตของทารกนั้น ทารกไมอยูแลว แตอยางนอยท่านกับขาก็ควรสัมผัสกับโลหิตของเขา”

 

โดย: ปาฟงหัน 19 กันยายน 2555 13:52:09 น.  

 

ตอนที่ 10 ลานกวางสิบเอ็ดวาหกเชียะ



หลังจากครานั้นเซี่ยเปาฮวาก็สํานึกวาไมอาจหลบหนีการตามลาสังหารได้ ไมสูใชความสดชื่นสยบความเหน็ดเหนื่อย กําจัดมือสังหารไปกอน

นางใชศักดิ์ฐานะเดิมในยุทธจักร ใชเงินสวนตัวซื้อบานหลังหนึ่ง ปลูกบานพรอมลานบานลอมรอบสี่ทิศ

ฟางขวงฮวานเองก็ไมเขาใจการจัดวางตําแหนงบาน มันเพียงแตฟงคําสั่งของเซี่ยเปาฮวา จัดวางดอกไมใบหญา กิ่งไม้กอนหินไปตามตําแหนงที่นางกําชับ

แมฟางขวงฮวานจะรูสึกคับของใจวาเหตุใดตองเปลืองเวลาในการจัดการเรื่องไรสาระเหลานี้ แตมันก็ไมไดเอยถามมากความ มันเชื่อมั่นในตัวเซี่ยเปาฮวา

เซี่ยเปาฮวาเปนคนที่มีความสามารถสูงเยี่ยมกวามัน

กระทั่งวันหนึ่ง มันพลันหลงทาง

หลงทางอยูภายในสวนดอกไมเล็กๆ ที่หนาบานของตน

ฟางขวงฮวานคอยทราบ ภายในลานกวางนี้ไดวางคายกลพิสดารเอาไว้

ยามที่เซี่ยเปาฮวานําทางออกจากคายกล ยังหัวรอแลวกลาว

“ทานดูวาลานแหงนี้กวางขวางหรือไม่”

ฟางขวงฮวานตอบอยางสัตยซื่อ

“ไมกวาง”

เซี่ยเปาฮวากลาวถามตอ

“แตเหตุใดทานจึงยังหลงทางเลา”

ฟางขวงฮวานไมอาจตอบคําถามนี้

“ลานบานแหงนี้กวางเพียงสิบเอ็ดวาหกเชียะ มีสภาพเหมือนกันทั้งสิ่ทิศ ขาจัดวางตามรูปแบบคายกลแปดทิศ ยามจัดวางสามารถเปลี่ยนแปลงสี่เวลา
พลิกผันหาลักษณะ แฝงสองที่สุด ซ่อนสี่รูป ลวนแตพิสดารยิ่ง แตละดานมีชื่อตามนี้ ซิว(หยุด) เซิง(เกิด) ซาง(เจ็บ) ตู้(ชะงัก) จิ่ง(ฉาก) สื่อ(ตาย)
จิ่ง(ตระหนก) ไค(เปด).....ขาจะ ทําใหคนที่คิดสังหารพวกเราเขามาไดแตไมอาจรอดกลับไป”

ฟางขวงฮวานกลาวขึ้น

“ทานมีฝมือที่แมแตภูตผีก็ไมอาจหยั่งวัด นับเป็นอัจฉริยะที่สวรรคสรางจริงๆ ทวาขายังคงชมชอบ หนาอกที่ผึ่งผาย (แผลงเปนใจกวาง) ของทานมากกวา”

“ใจกวางหรือ”

เซี่ยเปาฮวายิ้มกลาว

“เหตุใดแมแต่ขาเองยังไมรู้ตัว”

“ไหนเลยเพียงนั้น ยังมีทรวงอกที่ตูมตั้งอีกด้วย”

ฟางขวงฮวานกลาวพลางใชมือเทียบ เซี่ยเปาฮวาคอยเขาใจความหมายของเขา จึงหนาแดงพรอมกับทุบตีมัน

ฟางขวงฮวานโอบกอดเซี่ยเปาฮวา ทันใดนั้นเขามองออกไปนอกหนาตางเห็นคนสวมชุดยาวผูหนึ่ง กลางหลังแบกหอผา ยืนหนาลานมองอยูครูหนึ่งก็กาวเดินตอไป

ไมทันไรคนผูนั้นก็จากไปไกล ฟางขวงฮวานไมทันเห็นชัดตา ดังนั้นจึงไมไดแจงตอเซี่ยเปาฮวา



ผานไปสิบกวาวัน เชาวันหนึ่งเซี่ยเปาฮวาไดจัดการศัตรูสองคนภายในลานนั้น

พวกมันถูกกักขังอยูในคายกลหาวันหาคืน หมดสภาพไปแตแรกแลว

เซี่ยเปาฮวากลาวตอฟางขวงฮวาน

“ทานดู คายกลของขามีประสิทธิภาพยิ่งนัก ประหยัดเรี่ยวแรงไปไมนอย”

คนที่รักสะอาดเชนนาง ชมชอบที่จะใชมือถูตามรางกายในขณะที่อาบน้ำ

รางกายของนางอวบอัดสมบูรณ์

ยามมือสัมผัสรางที่ออนนุมจนมีแรงสะทอน แมแตตัวนางเองก็รูสึกหวั่นไหว

มือของนางสัมผัสกับรอยแผลเปนแหงหนึ่ง เปนรอยดาบ ที่ฟางขวงฮวานทํารายนาง คิดถึงเรื่องนั้น นางก็คิดถึงฟางขวงฮวาน ทั้งรูสึกวาบหวามใจ

ทวาในยามนั้นมีดวงตาคูหนึ่งกําลังจองมองนาง

มีคนผูหนึ่งแอบดูนาง

ทวานางไม่เห็นคนผูนั้น

นางไมทราบวาคนผูนั้นอยูที่ใด ที่แทมีคนผูนั้นหรือไม่

นางเพียงรูสึกวามีคนกําลังชื่นชมรางกายเปลือยเปลาของนาง

นางสวมเสื้อผาออกมา กลาวถามฟางขวงฮวาน

“เมื่อครูทานใชแอบดูขาอาบน้ำหรือไม่”

ฟางขวงฮวานยอมเคยทําเชนนั้น นั่นเป็นการหยอกลอระหวางสามีภรรยา เปนความหฤหรรษอยางหนึ่ง

ฟางขวงฮวานกลาวตอบ

“ไม่”

แตก็คิดใชมือหยอกลอเซี่ยเปาฮวา เซี่ยเปาฮวาปดมือเขาออกแลวกลาว

“อยา”

ทันใดนั้นพลันบังเกิดเสียงเคาะประตูดังขึ้น

เปนผูใด ที่สามารถฝาคายกลเขามาถึงหนาประตู และเคาะประตูบานได้



เซี่ยเปาฮวาเตรียมพรอม แลวจึงเปดประตูออก

คนเบื้องนอกสวมชุดยาว กลางหลังสะพายหอผา มีเคราหาแฉก สวมหมวกสูง “บุรุษกระบี่หัก” ต้วนตวน

คนที่ตองมาในที่สุดก็มา

เซี่ยเปาฮวาเอยถามขึ้น

“เปนทานหรือ ศิษยพี่ของขาเลา”

“มันก็มาแลว”

ตวนต้วนชักกระบี่ออก

ฝกกระบี่ที่ยาวสามเชียะเจ็ดนิ้ว ตัวกระบี่กลับยาวเพียงหนึ่งเชียะเจ็ดนิ้ว

กระบี่ที่สรางชื่อสะทานยุทธภพ

“มาแลวหรือ”

“อืม มันอยูในบาน”

บุรุษกระบี่หักไมเคยกลาวโกหก

หยวนเมิ่งตี๋ที่คิ้วตรงดุจกระบี่ ดวงตาสุกใส ทาทางเรียบร้อยกลับอยูในบาน ทั้งกําลังรับทานอาหาร ทาทางเบิกบานใจ



เซี่ยเปาฮวาฝนยิ้ม

เซี่ยเปาฮวารู้ดีวาคายกลของตนเองไมอาจกักสองคนนี้ได้ แตคิดวาอยางนอยคงสามารถขัดขวางพวกมันไดชวงเวลาหนึ่ง แตสองคนนี้กลับฝาเขามาได้อยางงายดาย

เซี่ยเปาฮวาชักดาบออกจากอกเสื้อ แลวกลาวขึ้น

“เอาเถอะ พวกทานตองการเชนใด” ตวนต้วนกลาวขึ้น

“ขาตองการเชนใด ทานคงทราบแตแรกแลว ทานทรยศตอทานจางอาว ยอมตองจายคาตอบแทน”

เซี่ยเปาฮวาบุกทะลวงเจ็ดครั้ง คิดหมายใหฟางขวงฮวานฝาวงลอมออกไปกอน แตไมเพียงไมอาจบุกฝาตวนต้วน
ยังถูกบุรุษกระบี่หักลวงรูจุดออน ขอเพียงมันโจมตีใสฟางขวงฮวาน เซี่ยเปาฮวาลวนตองรับมือดวยความรอนใจ

ในเวลานั้น หยวนเมิ่งตี๋พลันลงมือ มันลงมือครากุมตัวฟางขวงฮวาน เซี่ยเปาฮวาจึงหันไปบุกเขาใส่หยวนเมิ่งตี๋อยางคลุมคลั่ง

ตวนต้วนหัวรอ พรอมกับเขาขัดขวางพัวพันเซี่ยเปาฮวา

ทันใดนั้นมันพลันรูสึกมีลมปะทะเขากลางหลัง ที่แทเปนดาบยาวของฟางขวงฮวานฟนใส่

บุรุษกระบี่หักพลันเปลี่ยนเปนรับศึกหนาหลัง แตยามคับขันไมลนลาน ทั้งพุงรางขึ้น พริบตานั้น พลันมีอาวุธลับพุงออกจากสองมือของหยวนเมิ่งตี๋ ลูกดอกพิษเลมหนึ่ง
ลูกบัวเหล็กลูกหนึ่ง มีดสั้นเลมหนึ่ง ทั้งหมดลวนฝงเขาใสรางของบุรุษกระบี่หัก

ตวนต้วนยกมือชี้หยวนเมิ่งตี๋ แลวร่ำรองอยางบาคลั่ง

“ทาน...”

แลวทะยานรางหนี

หยวนเมิ่งตี๋หนาไมเปลี่ยนสี สองมือกางออก ต้วนต้วนไม่ทันพนออกจากบ้านก็ถูกอาวุธลับสิบเอ็ดชนิด เมื่อถึงลานบานก็ถูกอาวุธอีกสิบเจ็ดชนิด
เมื่อพนลานบาน ก็มีอาวุธลับอีกแปดชนิดพุงเขาทําราย ทั้งรางเต็ม ไปด้วยอาวุธลับ แต่มันยังคงโผพุงรางตอไป

ฟางขวงฮวานและเซี่ยเปาฮวาแมจะตระหนกแตก็ยังคิดตามลาสังหาร ทวาไดยินหยวนเมิ่งตี๋ถอนใจกลาว

“ไมตองแลว”

วาจาไมทันกลาวจบ ต้วนตวนก็ลมลง

“เหตุใดทานจึงทําเชนนี้”

เซี่ยเปาฮวาไมทราบจะกลาวอะไรกับศิษยผูพี่คนนี้

“ลวนเปนเพราะทาน ขาทําเชนนี้เพราะทาน ทานยังไมเขาใจอีกหรือ”

หยวนเมิ่งตี๋กลาวตอ

“พวกทานทําเชนนี้ ยอมไมอาจหนีรอดพนการไลลาของจางอาวไปได้”

“ทาน...”

ฟางขวงฮวานเองก็มองวาศิษยพี่ศิษยนองคู่นี้มีความสัมพันธพิเศษตอกัน

“พวกทานตามขามา”

หยวนเมิ่งตี๋พาคนทั้งสองไปยังเนินเขาแหงหนึ่ง ในลําธารบนเนินนั้นมีซากศพเจ็ดแปดซาก เซี่ยเปาฮวาจดจําออกวาพวกเหลานั้นเปนยอดฝมือในสหพันธเสือดาว
สองซากในนั้นทําใหนางตระหนกยิ่ง นั่นเปนซากศพหนึ่งบุรุษหนึ่งสตรี ใบหนาถูกทําราย ซากหนึ่งกระดูกแตก ซากหนึ่งถูกดาบฟนทําราย แตเมื่อมองไป
การแตงตัวทาทางและลักษณะเหมือนตนกับฟางขวงฮวานทุกประการ

“ขาหาคนสองคนนี้มาแทนทาน รวมทั้งเตรียมการไวแลว จางอาวยอมเชื่อถือ คิดวาพวกทานตายไปแลว ขอเพียงพวกทานลบชื่อเปลี่ยนแซ่ ปลอมรูปโฉม
หลบหนีไปยังแดนไกล เซี่ยเปาฮวาและฟางขวงฮวานยอมหายสาบสูญไปจากโลกนี้”

เซี่ยเปาฮวากลาวขึ้น

“ศิษยพี่ ขา.. ขาจะตอบแทนทานไดอยางไร”

“เปาฮวา มีเพียงเรื่องเดียว ไมวาสุดหลาฟาเขียว ขอเพียงใหขาไดทราบวาทานอยูแหงหนใด อยาได้เหมือนกับเมื่อครั้งกอน ทําขาทุกขใจยิ่งนัก”

“ไมหรอก”

เซี่ยเปาฮวาขยับเขาใกลหยวนเมิ่งตี๋ กลิ่นหอมโชยถึงจมูกของมัน ทําให้ใจมันเต้นแรง จากนั้นมันรูสึกถูกดาบแทงใส่ ดาบของเซี่ยเปาฮวาแทงใสหัวใจของมัน

“ไมวายังไงก็ตามเหตุการณ์ในวันนี้ยอมไมเหมือนเมื่อคราวกอนอยางแนนอน”

หยวนเมิ่งตี๋เบิ่งตามอง จวบจนตายยังไมยอมเชื่อ ซากศพลมลงไปในลําธาร ฟางขวงฮวานพลันกลาวขึ้น

“ทาน เพราะเหตุใด”

“เพราะเหตุใดหรือ ก็เพราะขาเปนสตรีในฝายอธรรม”

เซี่ยเปาฮวากลาวอยางเคียดแคน

“ไมผิด เขาทําเพื่อขา แตหากพวกเราติดคางน้ำใจเขา ชาตินี้ก็อยาหวังจะสลัดหลุดไปได้ ในอดีตเขาเคยใชวิธีมากมายพัวพันขา แต่ก็ไมอาจพิชิตขาได้
ในตอนนี้จุดมุงหมายของเขายังคงเหมือนเดิม เขาฆาตวนต้วน ศักดิ์ฐานะของเขาในสหพันธเสือดาวก็สูงขึ้นอีกขั้นหนึ่ง อีกทั้งเขายังสามารถผลักความผิดมาที่พวกเรา
สักวันหนึ่งเขายอมตองฆาพวกเราปดปาก”

“ตอนนี้เขาไมฆาขา ยอมเพื่อเอาใจขา เมื่อใดที่ไดตัวขา พวกเราก็คงไมอาจรอดชีวิตตอไป”

เซี่ยเปาฮวาใชเสื้อผาคนตายบนพื้นเช็ดคราบโลหิตบนดาบสั้นแลวกลาวตอ

“หากทานตองการใหผูคนรักษาความลับ วิธีที่ดี่ที่สุดคือทําใหมันไมอาจวากลาวอันใดอีกตลอดกาล เชื่อขา แม้ขาจะถือกําเนิดจากฝายอธรรม
ทวาขายังสามารถจําแนกเรื่องใดควรทํา เรื่องใดไมควรทํา เรื่องใดไม่อาจไมทํา ไดชัดเจนยิ่งกวาพวกทานฝายธรรมะเสียอีก”

ฟางขวงฮวานพลันรูสึกคมดาบของเซี่ยเปาฮวาอาบไปดวยความแค้นลึกล้ำ ดาบเลมนี้แมอยูในมือของโฉมสะคราญเชนเซี่ยเปาฮวา แต่ก็คลายคิดจะพุงเขาใส่หัวใจของมัน


 

โดย: ปาฟงหัน 19 กันยายน 2555 13:52:39 น.  

 

ตอนที่ 11 ท้ายที่สุด



ท้ายที่สุดฟางขวงฮวานและเซี่ยเป้าฮวาก็สามารถสลัดหลุดจากการไล่ล่า ไม่ต้องหนีเอาชีวิตรอดอีก

พวกเขาหนีไปหลบซ่อนตัวอยู่ในเมืองเวินโจว ฟางขวงฮวานเปลี่ยนชื่อ แซ่เป็นสวีหยวนอี้ เซี่ยเป้าฮวาเปลี่ยนเป็นเหอจวี้ป้าน
ทั้งสองทำการค้าขายเล็กๆ น้อยๆ แต่ก็นับได้ว่ามีผลกำไรที่ไม่เลวนัก

เซี่ยเป้าฮวาคาดหวังที่จะตั้งครรภ์อีกครา ทว่านับแต่ใช้กาลังภายในบีบเอาทารกที่ยังไม่เป็น รูปร่างนั้นออกมา นางก็ไม่อาจตั้งครรภ์อีก

พวกเขาได้ใช้ชีวิตด้วยกันอย่างสงบสุข ทว่าในใจของฟางขวงฮวานกลับไม่อาจสงบได้

ล้วนเป็นเพราะความเงียบเหงา

อยู่ร่วมกับเซี่ยเป้าฮวาแม้จะมีความสุข แต่เซี่ยเป้าฮวาเข้มแข็งเกินไป เข้มแข็งเสียจนทำให้มันไม่อาจสอดแทรกหรือกล่าวอันใดได้

แม้เซี่ยเป้าฮวาจะอ่อนโยนต่อมัน แต่ฟางขวงฮวานกลับทราบว่าเซี่ยเป้าฮวานั้นเพียงโอนอ่อนผ่อนตามมันเท่านั้น

ไม่คล้ายกับแม่นางเสี่ยวชี่ เสี่ยวเติงในหอหนงอวี้ พวกนางนับถือมัน

ขอเพียงฟางขวงฮวานหัวร่อ พวกนางก็หัวร่อ ยามฟางขวงฮวานเล่า ถึงวีรกรรมในอดีต พวกนาง ล้วนตั้งอกตั้งใจฟัง ทั้งยังชื่นชมตัวในตัวมัน

ได้อยู่ร่วมกับพวกนาง ทำให้ฟางขวงฮวานรู้สึกว่า ตนเองไม่ได้เป็นเพียงแค่บุรุษธรรมดาทั่วไป หากทว่าเป็นผู้กล้าคนหนึ่ง

ดังนั้นมันจึงชมชอบหาข้ออ้างไปเยือนหอหนงอวี้

มีคราหนึ่งเซี่ยเป้าฮวากำลังวุ่นวายอยู่ในร้าน ถามมันว่ากำลังจะหยิบเงินไปยังที่ใด ฟางขวงฮวาน ยังพลั้งปากตอบไปว่า

“ไปดื่มสุรากับกู้หวงเฟย”

หลังจากผ่านช่วงเวลาที่สงบสุข ไร้คลื่นมรสุม ฟางขวงฮวานก็เริ่มเกิดความเปลี่ยวเหงา จึงพาน ติดต่อกับกู้หวงเฟย พี่น้องในอดีตของตน

มันไม่ได้บอกเซี่ยเป้าฮวา เพราะมัน ทราบว่านางไม่เห็นด้วยกับการที่มันจะพบปะติดต่อกับพี่น้องในอดีต

ฟางขวงฮวานจึงต้องเริ่มกล่าวโกหกเซี่ยเป้าฮวา

ขอเพียงเริ่มต้นก็ต้องมีครั้งต่อไป มันจึงต้องโกหกต่อไปเรื่อยๆ

โดยเฉพาะกู้หวงเฟยรู้จักกับสตรีที่เพียบพร้อมนางหนึ่งซึ่งมีนามว่าซ่งเสียวเอ่อร์ นางสามารถร้องรำ แต่งกาพย์กลอน ฟางขวงฮวานจึงยินดีจับจ่ายเงินขาวๆ
ให้แก่นาง มันจึงได้กลายเป็นอาคันตุกะคนสำคัญไป

ฟางขวงฮวานรู้สึกชมชอบในตัวซ่งเสียวเอ่อร์ หรืออาจจะกระทั่งเกิดน้ำใจจริงๆขึ้นมา

เสียวเอ่อร์เป็นดรุณีที่แฝงความโศกเศร้า

นางโอนอ่อนผ่อนตามฟางขวงฮวานในทุกเรื่องราว

ฟางขวงฮวานกล่าวกับซ่งเสียวเอ่อร์

“ความทุกข์ของท่านก็คล้ายความทุกข์ของข้า เห็นท่านเจ็บปวดใจทำให้ใจข้าเจ็บปวดนัก ”

เสียวเอ่อร์ไม่เชื่อจึงหัวร่อแล้วถามกลับ

“เช่นนั้นภรรยาของท่านเล่า”

ฟางขวงฮวานพลันเคร่งขรึม ไม่ว่ากล่าวอันใดต่อไป

กระทั่งคราหนึ่ง ฟางขวงฮวานกลับถึงบ้านยามดึก เซี่ยเป้าฮวารอคอยอยู่นาน เห็นมันเมาสุรากลับมา จึงช่วยมันถอดเสื้อนอก แล้วกล่าวขึ้นมาโดยไร้สาเหตุว่า

“ขวงฮวาน ท่านอย่าได้ทำสิ่งใดผิดต่อข้าเลย”

นางถอนใจในที่มืดแล้วกล่าวต่อ

“เพราะท่านทำให้ข้าต้องเป็นเช่นนี้ ต้องสังหารศิษย์พี่ เพราะข้าทราบว่าเขาต้องไม่ยอมละเว้นท่าน ท่านดู ข้าไม่มีทางถอยแล้ว”

ฟางขวงฮวานพอได้ยิน พลันรู้สึกตระหนก มือเย็นเฉียบขึ้นมา

มันปลอบโยนนาง ไม่ให้คิดเหลวไหลฟุ้งซ่าน เซี่ยเป้าฮวาค่อยจุดตะเกียงแล้วกล่าวอย่างยิ้มแย้ม

“ไม่มีก็ดีแล้ว”

ในใจของฟางขวงฮวานรู้สึกอึดอัดยิ่ง



วันนี้ฟางขวงฮวานไปถึงบ้านของซ่งเสียวเอ่อร์ กู้หวงเฟยรออยู่ในห้องโถงแล้ว ทว่าทั้งสองสีหน้าเคร่งเครียด ดูหวาดกลัวยิ่ง

ฟางขวงฮวานยิ่งประหลาดใจกว่า

กู้หวงเฟยกล่าวขึ้น

“เหล่าต้า (พี่ใหญ่) พวกเราผิดต่อท่าน ทว่าพวกเราถูกบีบบังคับ”

ทันใดนั้น พลันมีคนนับสิบคนปรากฏตัวขึ้นจากทุกทิศทาง

คนเหล่านี้เคลื่อนไหวไร้สุ้มเสียง รวดเร็ว ไม่ทันลงมือก็ทราบว่าเป็นยอดฝีมือ

จากนั้นจึงมีชายชราที่มีท่าทางคล้ายดั่งราชสีห์ปรากฏตัวขึ้น คนผู้นั้นค่อยๆนั่งลง แล้วจึงกล่าวขึ้น

“ข้าแซ่จาง ชื่อคำเดียวว่าอ้าว ผู้คนเรียกว่าท่านจางอ้าว ข้าตามล่าเจ้ามานานมาก ครานี้กู้หวงเฟย และซ่งเสียวเอ่อร์ทรยศต่อเจ้า เจ้าหนีไม่รอดแล้ว และก็อย่าคิดหนีเลย”

เพียงวาจาไม่กี่ประโยคนี้ จางอ้าวก็ทำลายความคิดดิ้นรนต่อสู้ของฟางขวงฮวานลงโดยสิ้นเชิง

โดยเฉพาะความสงบสุขในช่วงหลายวันมานี้ ทำให้ฟางขวงฮวานขาดความฮึกเหิมไปหมดสิ้น

จางอ้าวมอบภารกิจชิ้นหนึ่งให้กับเขา แต่ก็เป็นปัญหาที่ยุ่งยากด้วยเช่นกัน

“ข้าไม่แน่จะฆ่าเจ้า ขอเพียงเจ้าจัดการเรื่องหนึ่งให้กับข้า ข้าจะไม่ฆ่าเจ้า ”

จางอ้าวกล่าวต่อ

“เจ้านำยาพิษห่อนี้ไปฆ่าภรรยาของเจ้า แน่นอน ข้าสามารถฆ่านางด้วยมือของข้า ทว่าข้า ต้องการให้เจ้าฆ่านาง ให้นางตายด้วยความเคียดแค้น แม้ตายก็ไม่ยินยอม ”

“เจ้าฆ่าบุตรชายข้า แต่เขา หมายจะข่มขืนสตรี นับว่ามีความผิด แม้ข้าจะเสียใจ แต่ก็สามารถ จำแนกถูกผิด”

จางอ้าวไม่เปิดโอกาสให้ฟางขวงฮวานได้ขบคิดไตร่ตรอง

“แต่นางเป็นคนของข้า กลับทรยศต่อข้า ไร้เหตุผลสิ้นดี ข้ามองออก ต้วนต้วนและหย่วนเมิงตี๋ ถูกลอบทำร้าย ย่อมต้องเป็นฝีมือของเซี่ยเป้าฮวา ดังนั้นข้าจึงต้องให้นางตาย”

“ขอเพียงเจ้าฆ่านางได้ ข้าจะละเว้นเจ้า เจ้าสามารถตกแต่งซ่งเสียวเอ่อร์ แล้วพานางจากไป ข้ากล่าววาจาเหล่านี้ต่อหน้าคนของข้า ข้าย่อมต้องรักษาสัตย์”

จางอ้าวไม่ยอมให้ฟางขวงฮวานปฏิเสธ

“หากเจ้าไม่ยอมฆ่านาง นางยังไงก็ต้องตาย เจ้าก็ต้องตาย เจ้าอย่าได้คิดมากความแล้ว”

จากนั้นเขายื่นห่อกระดาษเล็กๆให้กับฟางขวงฮวาน ยาห่อหนึ่ง

ห่อยาพิษ ยาพิษที่จะใช้สังหารภรรยาตนเอง



สุราสองถ้วย คนสองคน

เซี่ยเป้าฮวาแต่งหน้าบางๆ แม้จะยิ้มตลอดเวลา แต่ก็ทำให้คนรู้สึกถึงความเปลี่ยวเหงาของนาง

เซี่ยเป้าฮวากล่าวขึ้น

“ท่านไม่ได้ทานข้าวกับข้ามานานแล้วกระมัง ทว่า ช่วงที่พวกเราหลบหนี พวกเรา คล้ายอยู่ด้วยกันมากกว่านี้”

“ความสงบสุขทำให้คนตกต่ำลงใช่หรือไม่”

นางดึงดอกไม้ที่เสียบอยู่บนปอยผมออก สายต้าจ้องมองฟางขวงฮวาน

“ความเย็นชาทำให้ต้องเจ็บปวด ทั้งทำให้เงียบเหงา”

ฟางขวงฮวานรู้สึกจิตใจสับสน

เขายกถ้วยขึ้นแล้วกล่าว

“พวกเราดื่มสุราก่อนแล้วค่อยว่ากันเถอะ”

“อ้อ”

เซี่ยเป้าฮวาใช้ศอกยันกับโต๊ะ สีหน้าแดงฉาน คล้ายไม่ทันดื่มสุราก็เมาไปก่อน

“ท่านดู ท่าทีที่ไม่เชี่ยวชาญในการปกปิดใจจริงของท่าน”

ฟางขวงฮวานแทบทาถ้วยสุราตกพื้น

“ท่านคิดว่าข้าดูไม่ออกหรือ ข้าสูดได้กลิ่นแต่แรกแล้ว”

เซี่ยเป้าฮวากล่าวต่อ

“เสื้อของท่านไม่ได้มีเพียงกลิ่นหอมของข้าคนเดียว คราก่อนข้าไปยังหอหนงอวี้ พบสตรีนางหนึ่งรู้สึกว่าบนร่างนางก็มีกลิ่นหอมของข้า
นั่นย่อมเป็นเพราะท่านทิ้งกลิ่นหอมนั้นไว้ ทำให้บนร่างนางมีกลิ่นนี้เช่นกัน”

“ท่านคิดว่าข้าไม่ทราบกระมัง”

นางยังถือถ้วยสุรา คล้ายกับคิดจะดื่มสุรา ในพริบตานั้นฟางขวงฮวานคิดห้ามนาง แต่เสียงมาถึงลำคอ ก็ไม่อาจว่ากล่าวต่อไป

“ว่าอย่างไร”

เซี่ยเป้าฮวาเอียงคอ แสงตะเกียงส่องกระทบแก้มนาง

“ท่านไม่คิดดื่มแล้วหรือ”

ฟางขวงฮวานเกรงนางสงสัย ในใจคิดสับสนจนพลั้งดื่มสุราในถ้วยลงไปจนหมดสิ้น

“ข้าไม่เพียงทราบเรื่องนี้เท่านั้น”

เซี่ยเป้าฮวายิ้มพลางกล่าวต่อ

“ข้ายังทราบว่าท่านอยู่กับกู้หวงเฟยใช่หรือไม่”

ฟางขวงฮวานตอบอย่างหวาดระแวง

“นั่นเพียงแค่..บังเอิญพบกัน ท่านดื่มสุราก่อนแล้วพวกเราค่อยทานอาหารเถอะ”

“ท่านต้องการให้ข้าดื่ม ข้าก็จะดื่ม”

ยามเซี่ยเป้าฮวากาลังจะดื่มสุราลงไป พลันถามขึ้นต่อว่า

“ท่านไฉนจึงต้องการให้ข้าดื่มสุราถ้วยนี้”

ใจของฟางขวงฮวานเย็นเฉียบ

“หากท่านไม่ให้ข้าดื่มสุราถ้วยนี้ บางทีข้าอาจละเว้นท่าน”

เซี่ยเป้าฮวาลุกอย่างช้าๆ แล้วกล่าวอย่างเย็นชา

“จำช่วงเวลาที่พวกเราหลบหนีด้วยกันได้หรือไม่ วันเวลาที่แทบสิ้นหวังในครานั้น พวกเรากลับไม่เคยสำนึกเสียใจแม้แต่น้อย จำที่ทางอี๋อู๋ลู่ได้หรือไม่
ท่านขว้างดาบให้กับข้า ข้าใช้ร่างรับดาบแทนท่าน บาดแผลยังคงอยู่ที่หน้าอกของข้า ที่โรงเตี๊ยม ลู่หย่วน ท่านรับทวนแทนข้า บาดแผลนั้นก็ยังคงอยู่บนไหล่ของ ท่านกระมัง”

ฟางขวงฮวานพยายามที่จะลุกขึ้น

แต่เขาลุกไม่ขึ้น

เขาคิดชักดาบ

ทว่าแม้แต่เรี่ยงแรงชักดาบก็ไม่มี

กระดูกทั่วร่างคล้ายกำลังแตกสลาย ไม่อาจรวมกัน ไม่มีเรี่ยวแรงแม้แต่น้อย

ย่อมต้องเป็นเพราะสุราถ้วยนั้น

ตอนนั้นเขาเพียงแต่สนใจสุราพิษที่เขามอบให้แก่เซี่ยเป้าฮวาเท่านั้น กลับไม่ทันระวังพิษในสุราของตน

“ทว่าพริบตาเดียว ท่านก็ลืมจนหมดสิ้น สนใจแต่สตรีอื่น ”

เซี่ยเป้าฮวาถกแขนเสื้อขึ้น ปรากฏข้อแขนที่ขาวผ่อง นางชักดาบสั้นในอกของนาง ตัวดาบมี กลิ่นหอมจากร่างของนาง

“วางใจ ที่ท่านดื่มเป็นเพียงยาสลายพลัง ไม่ใช่สุราพิษ”

ฟางขวงฮวานพลันคิดถึงความฝันนั้น

ความฝันที่ไม่ได้ฝันมานาน

มันรู้สึกแม้กระทั่งความเจ็บปวดที่คมดาบแทงเข้าใส่กล้ามเนื้อของเขา

“ท่านโง่งมเกินไปแล้ว แม้ท่านจะฆ่าข้า ท่านคิดหรือว่าจางอ้าวจะปล่อยให้ฆาตกรที่สังหาร บุตรชายรอดชีวิตไป”

เซี่ยเป้าฮวาเดินเข้ามาใกล สีหน้าคล้ายไม่อาจตัดใจ

“แม้เขาจะรับปากท่าน ขอเพียงท่านฆ่าข้า เขาจะไม่ฆ่าท่าน แต่เขาไม่อาจใช้คนอื่นมาฆ่าท่านหรือ นี่เป็นอุบายของเขา ท่านกลับคิดฆ่าข้าเพราะสัจจะ ของคนที่ไม่ถือสัตย์เช่นนี้”

ฟางขวงฮวานรู้สึกว่าตนเองจบสิ้นแล้ว

“ข้าคิดมาตลอดว่าท่านเป็นคนที่สามารถพึ่งพิงฝากชีวิตได้ แต่ท่านกลับรานน้ำใจข้า ที่แท้คนที่ ช่วยสตรีที่ถูกข่มเหงนั้นไม่ได้หมายความว่ามันจะเป็นคนรักเดียวใจเดียว ”

“ยามที่ข้าฆ่าจางชีชินเพื่อช่วยสตรีนางนั้น แท้จริงแล้วข้าไม่ทราบว่าเป็นบุตรชายของจางอ้าว ”

ฟางขวงฮวานไม่ใส่ใจแล้ว เพราะเรื่องนี้ทำให้ชีวิตของเขาต้องลำบาก

“หากข้าทราบ ไม่ว่าอย่างไรข้าก็ไม่ยอมเป็นศัตรูกับสหพันธ์เสือดาว ”

มันไม่อาจขยับ

ทว่ามันยังสามารถกล่าววาจา จึงตะโกนขึ้น

“ข้าไม่อาจไม่ฆ่าท่าน”

เซี่ยเป้าฮวาตระหนกตกใจ คิดฟังมันกล่าวต่อไป

“แม้แต่จางอ้าวที่ชุบเลี้ยงท่านมา ท่านยังกล้าทรยศ หย่วนเมิ่งตี๋ที่ชมชอบท่าน ก็ถูกท่านฆ่าปิดปาก ท่านยังเคยสังหารพี่น้องของข้า
ตอนตัดสินใจกำจัดทารกนั้นก็ไม่เคยปรึกษาข้า ข้าไหนเลยทราบได้ ว่าวันหน้าท่านจะฆ่าข้าหรือไม่”

ฟางขวงฮวานกล่าวต่อ

“ท่านแข็งแกร่งเกินไปแล้ว อยู่ต่อหน้าท่าน ข้าเพียงแต่คอยรับคำสั่ง นับเป็นตัวอะไร ข้าฟางขวงฮวานอาจหาญมาชั่วชีวิต กลับต้องตกอยู่ในสภาพนี้ ”

ทันใดนั้นเขาฉุกคิดถึงคำพูดในวันนั้นของนาง วาจาจึงชะงักไป ไม่อาจกล่าวต่อ

เซี่ยเป้าฮวาที่อยู่ภายใต้แสงโคมไฟคล้ายกับดอกไม้ที่ใกล้จะเหี่ยวเฉา

“ข้าไหนเลยทราบได้ว่าเหตุใดท่านจึงช่วยเหลือข้า”

ฟางขวงฮวานกลัวที่จะเสียชีวิต ดังนั้นวาจาของมันจึงกล่าวเน้นเป็นพิเศษ

“อีกทั้งข้าไม่ใช่บุรุษคนแรกของท่าน”

เซี่ยเป้าฮวาฟังถึงตอนนี้ พลันบังเกิดโทสะ จึงตะโกนขึ้น

“ฟางขวงฮวาน เจ้าตัวบัดซบ”

เซี่ยเป้าฮวาเพียงรู้สึกแผ่นดินหมุนตลบ ตัวคนแทบจะล้มทั้งยืน

นางกล่าวอย่างเจ็บปวดใจ

“ที่แท้ระหว่างเรา มีบุญคุณความแค้นมากมายเพียงนี้”

นางจ้องมองถ้วยสุราใบนั้น

จากนั้นจึงมองดาบสั้นในมือของตน

นางเอ่ยขึ้น

“ฆ่าท่านดีหรือไม่”

“หรือว่าข้าควรดื่มสุราที่ท่านต้องการให้ข้าดื่มถ้วยนี้ดี ”

มุมปากของนางปรากฏรอยยิ้มขึ้น

“จางอ้าวกับคนของเขาล้อมข้าอยู่เบื้องนอกแต่แรกแล้ว ข้าควรไปสังหารพวกมัน หรือควรวางเพลิงเผาพวกเราทั้งคู่ให้สิ้นชีวิตที่นี้ดี”

นางขยับเข้าใกล้ฟางขวงฮวาน แล้วกล่าวขึ้น

“พวกเรามีความสุขกว่า ตอนก่อนที่จะรู้จักหรือไม่ เบิกบานใจกว่าตอนที่หนีเอาชีวิตรอดหรือไม่”

แท้จริงแล้ว ไม่ว่านางฆ่าฟางขวงฮวาน หรือจางอ้าว หรือตัวนางเอง ชั่วชีวิตนี้ของนาง ก็คงไม่มีความสุขอีกต่อไป

ฟางขวงฮวานเล่า จะเหมือนกันหรือไม่



จบบริบูรณ์



 

โดย: ปาฟงหัน 19 กันยายน 2555 13:53:16 น.  

 

ตอนนี้มันกำลังดื่มสุราชามใหญ่ ไม่ว่าจะยกจอกสุราหรือไม่ มันยังคงครึกครื้นเช่นเดิม

จะเอา จอก หรือ ชาม ก้อว่ามา

 

โดย: zeng IP: 124.120.177.67 20 กันยายน 2555 11:11:57 น.  

 

สงสัยก็ดูภาษาจีนเอานะ เขาแค่สื่อว่าเป็นจอกเหล้าขนาดใหญ่เอง

他現在便正在大碗喝酒,不管別舉不舉杯,他都痛飲如故。

 

โดย: ปาฟงหัน 20 กันยายน 2555 16:14:22 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 


ปาฟงหัน
Location :


[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 9 คน [?]




Friends' blogs
[Add ปาฟงหัน's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.