...เล็กๆ น้อยๆ กับกล้วยไม้และเฟินคร๊าบ..

นายเคนชิโร่
Location :
ชลบุรี Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed

ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?]




สวัสดีครับ ยินดีต้อนรับทุกท่านครับ

Google
Group Blog
 
 
เมษายน 2549
 
 1
2345678
9101112131415
16171819202122
23242526272829
30 
 
30 เมษายน 2549
 
All Blogs
 
Friends' blogs
[Add นายเคนชิโร่'s blog to your web]
Links
 

 
สกุลแวนด้า ( Vanda )

สกุลแวนด้า ( Vanda )


สกุลนี้เป็นที่รู้จักกันทั่วไป เนื่องจากมีแม่ไม้ที่สำคัญคือ ฟ้ามุ่ย เป็นแม่ไม้ที่ให้สีม่วง หรือ Blue ให้แก่ลูกผสมชนิดอื่นๆ มีการกระจายตัวตั้งแต่ ศรีลังกา อินเดีย พม่า ไทย จีนตอนใต้ ไต้หวัน ไปจนถึง ฟิลิปปินส์ และออสเตรเลีย เป็นพวก monopodial ลำต้นอวบสั้น ปลายใบมีความยาวไม่เท่ากัน ดอกมีขนาดค่อนข้างใหญ่ ในประเทศไทย พบอยู่หลายชนิดด้วยกัน
แวนด้าเป็นกล้วยไม้ประเภทโมโนโพเดี้ยล ไม่แตกกอ เจริญเติบโตไปทางยอด รากเป็นรากอากาศ ใบมีลักษณะกลม แบนหรือร่อง ใบซ้อนสลับกัน ช่อดอกจะออกด้านข้างของลำต้นสลับกับใบ ช่อดอกยาวและแข็ง กลีบนอกและกลีบในมีรูปร่างคล้ายคลึงกัน โคนกลีบแคบ และไปรวมกันที่โคนเส้าเกสร กลีบดอกในล่างด้านใต้มีเดือยแหลมยื่นออกมาเป็นส่วนท้ายของปากกระเป๋า ปากกระเป๋าของแวนด้าเป็นแบบธรรมดาแบนเป็นแผ่นหนาแข็ง และพุ่งออกด้านหน้า รูปลักษณะคล้ายช้อน หูกระเป๋าทั้งสองข้างแข็งและตั้งขึ้น สีดอกมีมากมายแตกต่างกันตามแต่ละชนิดกล้วยไม้สกุลแวนด้าพบในป่าตามธรรมชาติประมาณ 40 ชนิด มีกระจายพันธุ์อยู่ในทวีปเอเซีย ตั้งแต่อินเดีย ศรีลังกา พม่า ไทย อินโดนีเซีย จนถึงฟิลิปปินส์ แวนด้าได้รับการปรับปรุงสายพันธุ์ขึ้นอีกหลายพันธุ์ ปัจจุบันได้มีการจำแนกประเภทของแวนด้า โดยอาศัยรูปร่างลักษณะของใบออกเป็น 4 ประเภท คือ
- แวนด้าใบกลม มีลักษณะของใบกลมยาวทรงกระบอก ต้นสูง ข้อห่าง สังเกตได้ที่ใบติดอยู่ห่างๆ กัน มีดอกช่อละหลายดอก แต่ดอกจะบานติดต้นอยู่คราวละ 2–3 ดอกเท่านั้น เมื่อดอกข้างบนบานเพิ่มขึ้น ดอกข้างล่างจะโรยไล่กันขึ้นไปเรื่อยๆ การปลูกใช้ดอกจึงนิยมปลิดดอกมากกว่าตัด
ดอกทั้งช่อ
- แวนด้าใบแบน ลักษณะใบแผ่แบนออก ถ้าตัดมาดูหน้าตัดจะเป็นรูปตัววี มีข้อถี่ปล้องสั้น ใบซ้อนชิดกัน ปลายใบโค้งลงและจักเป็นแฉก
- แวนด้าใบร่อง มีรูปทรงของใบและลำต้นคล้ายใบแบนมากกว่าใบกลม แวนด้าประเภทนี้ไม่พบในป่าธรรมชาติ การนำมาปลูกเลี้ยงเป็นพันธุ์ลูกผสมทั้งสิ้น โดยนำแวนด้าใบกลมมาผสมกับแวนด้าใบแบนแวนด้าก้างปลา มีรูปทรงของใบและลำต้น กิ่งใบกลมกับใบแบน พบตามป่าธรรมชาติน้อยมาก เพราะกล้วยไม้พันธุ์นี้เป็นหมันทั้งสิ้น
ในบรรดาแวนด้าทั้ง 4 ประเภทนี้ แวนด้าใบกลมเป็นแวนด้าที่เลี้ยงง่ายที่สุด สามารถปลูกลงแปลงกลางแจ้งได้โดยไม่ต้องมีโรงเรือน แต่ดอกมักจะบานไม่ทน ส่วนที่เลี้ยงยากที่สุดคือ แวนด้าใบแบน มีหลายพันธุ์ ทั้งดอกใหญ่และดอกเล็ก แต่ที่ได้รับความนิยมได้แก่ ฟ้ามุ่ย เพราะดอกใหญ่ สีสวย การเลี้ยงแวนด้าใบแบนจำเป็นต้องมีโรงเรือนเพราะต้องการแสงที่พอเหมาะ สำหรับแวนด้าใบร่องเป็นลูกผสมระหว่างใบกลมและใบแบน ถูกผสมขึ้นเพื่อให้ปลูกเลี้ยงง่ายขึ้น แต่ดอกมักจะสีไม่สวยและปากหักง่าย

ชนิดของแวนด้า



Vanda amesiana
พบบนภูเขาสูงของพม่าและไทย ใบเป็นแบบใบร่อง ยาวประมาณ 25 ซม. ดอกขนาด 2.5 - 3.5 ซม. กลีบดอกมีสีขาวและมีสีชมพูเรื่อ ปากตรงกลางกว้าง มีสีม่วงแดง




สามปอยชมพู ( Vanda bensonii
พบในพม่าและไทย ต้นมีขนาดค่อนข้างเล็ก สูงประมาณ 30 ซม. ใบยาว 18 - 25 ซม. ดอกขนาด 5 ซม. ช่อดอกยาว 30 - 36 ซม. มีดอก 10 - 20 ดอก/ช่อ ดอกมีกลิ่นหอม กลีบในบิดเล็กน้อย ปลายกลีบงุ้มเข้า กลีบมีสีเหลืองเขียว มีลายเส้นสีน้ำตาลอ่อน ด้านหลังของกลีบมีสีชมพูอ่อนหรือขาว ปากมีสีม่วงอ่อน มีลายเส้นสีม่วงเข้มอยู่บนปากส่วนกลาง ดอกบานเดือน ก.พ. - มี.ค.
ในธรรมชาติพบว่ามีการผสมข้ามกับ Vanda coerulea มีลูกที่เกิดจากการผสมในธรรมชาติว่า
VandaXcharlesworthii

สามปอยนก ( Vanda brunnea )
พบในพม่า ตอนเหนือของประเทศไทย และ จีน ใบขึ้นชิดกัน ยาว 18 ซม. กว้าง 2.5 ซม. ช่อดอกตั้งยาว 50 ซม. ดอกย่อยอยู่ห่างกันมาก ดอกขนาด 3 - 3.5 ซม. ก้านดอกย่อยยาว ขอบกลีบดอกเป็นคลื่นเล็กน้อย แอ่นไปด้านหลัง กลีบดอกสีอมเขียว ฉาบด้วยสีน้ำตาล และมีจุดสีน้ำตาลแดง มีลายเส้น หรือขีด ปากมีสีเขียวมะกอก ปากตรงกลางแยกออกเป็น 2 แฉก ดอกมีกลิ่นหอม ดอกบานเดือน ส.ค. - ก.ย.

ฟ้ามุ่ย ( Vanda coerulea )
พบในอินเดีย พม่า ไทยและจีน บนที่สูง 900 - 1500 เมตร ขึ้นอยู่บนต้นไม้ผลัดใบ ต้นสูงได้ถึง 1.5 เมตร เริ่มให้ดอกเมื่อต้นมีความสูงประมาณ 30 ซม. ใบยาว 15 - 25 ซม. ช่อดอก 40 - 75 ซม. ดอกมีขนาด 9 -10 ซม. จำนวนดอก 10 -14 ดอก/ช่อ กลีบดอกมีพื้นสีขาวหรือม่วงอ่อน มีลายเส้น (สมุก) ตั้งแต่สีออกฟ้า ไปจนถึงม่วงเข้ม ปากมีสีม่วง สีที่หาได้ยากคือสีขาวล้วนและสีชมพูแดง กลีบในบิดประมาณ 90 องศา โดยทั่วไป กลีบจะยาวกว่าความกว้างของกลีบ ด้านใต้ของเส้าเกสร ตรงบริเวณโคนปากมีส่วนที่เรียกว่า เขี้ยว ฟ้ามุ่ยเจริญเติบโตได้ดีในที่ที่มีอากาศเย็น ในช่วงกลางวันมีความชื้นสัมพัทธ์ที่ 60 % ดอกบานเดือน ก.ค. - ธ.ค. หรือในช่วงที่สภาพเหมาะสม

ฟ้ามุ่ยน้อย ( Vanda coerulescens )
พบในอินเดีย พม่า ไทย และจีน ที่ความสูง 300 - 400 เมตร ต้นสูงประมาณ 30 - 60 ซม. ใบยาว 13 - 18 ซม. ดอกขนาด 2.5 ซม. ก้านดอกย่อยค่อนข้างยาว 3.8 ซม. จำนวนดอก 15 ดอก/ช่อ กลีบดอกมีสีม่วงอ่อน กลีบในบิด ปากมีสีม่วงเข้ม ปากด้านข้างมีสีม่วงอ่อน ดอกบาน
ม.ค. - มี.ค.



สามปอยขุนตาล ( Vanda denisoniana )
พบในพม่า ไทยและจีน ที่ระดับความสูง 600 - 750 เมตร ต้นมีขนาดปานกลางลำต้นมักจะบิด ช่อดอกยาว 15 - 18 ซม. จำนวนดอก 8 ดอก/ช่อ ดอกขนาด 5 - 6.5 ซม. ดอกมีกลิ่นหอม กลีบดอกมีตั้งแต่สีเหลืองอ่อน ไปจนสีเหลืองเขียว ปากมีขนาดค่อนข้างใหญ่ สีเขียวเหลือง ปากด้าน
ข้างกลม ส่วนปากตรงกลาง ปลายปากหยัก สีของกลีบดอกมีความหลากหลายค่อนข้างมาก สามารถพบได้ตั้งแต่เขียวอ่อน เขียวเหลือง ไปจนกระทั่งถึงน้ำตาลเหลือง บางครั้งพบว่ามีลายเส้น หรือขีดสีเข้มด้วย ดอกบาน มี.ค. - พ.ค.

เข็มขาว ( Vanda lilacina or Vanda laotica )
พบในพม่า ไทย ลาว เขมร เวียดนาม และจีน ในช่อหนึ่งมีประมาณ 8 - 20 ดอก ดอกมีขนาดเล็ก 2.5 ซม. กลีบดอกสีขาว กลีบในบิด บางครั้งกลีบนอกคู่ล่างมีสีม่วงอ่อนแต้มอยู่ ปากมีสีม่วงแดง ดอกบาน ม.ค. - เม.ย.

สามปอยหางปลา ( Vanda livouvillei )
พบในพม่าไทยและลาว ช่อดอกยาวประมาณ 50 ซม. ดอกเรียงตัวกันค่อนข้างห่าง จำนวนดอก 15 ดอก/ช่อ ก้านดอกย่อยยาว ประมาณ 5.5 ซม. ในขณะที่ดอกมีขนาด 4 ซม. เท่านั้น ขอบกลีบดอกเป็นคลื่นเล็กน้อย และกลีบดอกงุ้มมาด้านหน้า กลีบดอกมีสีออกเหลือง และมีจุดหรือขีดสีน้ำตาลเป็นแนวตามยาวของกลีบ เริ่มจากโคนกลีบไปหาปลายกลีบ ปากมีลักษณะคล้ายหางปลา ปากด้านข้างมีสีขาว มีแต้มสีเหลืองที่ปลายปากด้านข้าง ปากตรงกลางมีสีม่วงแดง ดอกบานเดือน ก.พ - เม.ย.

เข็มเหลือง ( Vanda parviflora or Vanda testacea )
ต้นนี้มีชื่อเรียกเป็นภาษาไทยว่า เข็มเหลือง แต่ไม่ได้จัดอยู่ใน สกุลเข็มแต่อย่างใด แท้จริงเป็นสกุลแวนด้า ชนิดนี้พบในอินเดีย เนปาล พม่า ไทย และจีน ดอกมีขนาดเล็ก ประมาณ 2.5 ซม. จำนวนดอก 10 -12 ดอก/ช่อ กลีบดอกบิด และงุ้มมาด้านหน้า กลีบดอกมีสีเหลือง หรือเหลืองส้ม ปากมีสีขาวหรือเหลืองอ่อนและจุดสีม่วงแดงกระจายอยู่บนปากส่วนหน้า ดอกบานเดือน ก.ย.







Create Date : 30 เมษายน 2549
Last Update : 30 เมษายน 2549 14:40:44 น. 2 comments
Counter : 1296 Pageviews.

 


โดย: ช้างกระ IP: 61.7.159.55 วันที่: 28 พฤศจิกายน 2549 เวลา:15:47:07 น.  

 
สวยดีคะ แต่บ้านดิฉันมีเยอะมากถ้าออกดอกเมื่อไร จะถ่ายรูปมาให้ดูค่ะ


โดย: คนรักกล้วยไม้ IP: 58.147.82.181 วันที่: 30 มิถุนายน 2550 เวลา:20:09:30 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 
 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.