อปจายนมัย บุญสำเร็จได้ด้วยการประพฤติอ่อนน้อมถ่อมตน bases of meritorious action by humility or revere
หลายคนคงคิดไม่ถึงว่า การประพฤติตนเป็นคนอ่อนน้อมถ่อมตนจะถือเป็นบุญอย่างหนึ่ง
อปจายนะ คือ ความเป็นผู้มีสัมมาคารวะ ถ่อมตนการแสดงความเคารพนับถือยำเกรง รู้จักกาลเทศะ ความอ่อนน้อม ไม่แข็งกระด้าง ผู้มีความประพฤติอ่อนน้อม ผู้ที่ขัดเกลาความมานะ และนิสัยกระด้างออกแล้ว รู้จักบุคคลที่ ควรจะ อ่อนน้อมด้วย ในฐานะใด ในสภาพใด ถือด้วยความจริงใจ ไม่หน้าไหว้หลังหลอก ไม่แสดงอาการกระด้างแข็งข้อด้วยทิฐิมานะ ......สำหรับบุคคลที่ควรจะอ่อนน้อมด้วย มี ๓ ประเภท คือ ๑. วัยวุฒิ ผู้ที่สูงกว่า ด้วย วัย การวางตัวในระดับที่ตนเป็นอยู่ จะทำให้เป็นคนรู้จักการนอบน้อมถ่อมตัว มีสัมมาคารวะแก่ผู้ที่เป็นผู้ใหญ่กว่า จะส่งผลให้ตนเป็นที่เอ็นดูและรักใคร่ของคนรอบข้าง เช่น พ่อ แม่ ญาติ พี่น้อง ผู้สูงอายุ ลูกชอบทำตัวเสมอพ่อแม่ แม่พี่แขวะพี่ประจำ ว่า ระวังนรกจะกินหัว.....555 ๒. ชาติวุฒิ ผู้ที่สุงกว่า ด้วยชาติ ตระกูล เช่น เทวดา พระมหากษัตริย์ เจ้าฟ้าเจ้าแผ่นดิน เชื้อพระวงศ์ เป็นผู้มีเกียรติกว่า เช่น นักการเมือง ฯลฯ รู้ตัวเองว่าเราอยู่ในฐานะอะไร ถ้าเราเป็นเด็ก จงอย่าตีตนเสมอผู้ใหญ่ ถ้าเราเป็นลูกก็อย่าทำตนเสมอด้วยพ่อแม่ ถ้าหากว่าเราเป็นพ่อบ้านแม่เรือน จงอย่าตีตนเสมอผู้ใหญ่บ้าน เราเป็นผู้ใหญ่บ้านอย่าทำตนเสมอกำนัน ถ้าเราเป็นกำนันอย่าทำตนเสมอ นายอำเภอ ถ้าเราเป็นนายอำเภอ อย่าตีตนเสมอผู้ว่าราชการจังหวัด ผู้ว่าราชการจังหวัดอย่าตีตนเสมอท่านอธิบดี ท่านอธิบดีก็อย่าตีตน เสมอท่านปลัดกระทรวง ท่านปลัดกระทรวงก็อย่าตีตัวเสมอท่านรัฐมนตรี ท่านรัฐมนตรีก็อย่าตีตนเสมอท่านนายกรัฐมนตรี ท่านนายก รัฐมนตรีจงอย่าคิดว่าเราดีกว่าพระเจ้าแผ่นดิน หรือว่าเสมอพระเจ้าแผ่นดิน . . . . คัดมาบางประโยคจากคำสอนของพระเดชพระคุณหลวงพ่อพระราชพรหมยาน ๓. คุณวุฒิ ผู้ที่สูงกว่า ด้วยคุณธรรม มีศีลที่สูงกว่าเรา ผู้ที่ประกอบด้วยเมตตากรุณาไม่มีอคติ การนอบน้อมต่อพระรัตนตรัย อ่อนน้อมต่อผู้มีพระคุณ ครูบาอาจารย์ พระภิกษุสงฆ์ คราวนี้ในส่วนการกล่าวขอขมาต่อพระรัตนตรัย เป็นการที่ได้ปลดเปลื้องกรรมใหญ่ที่ได้สร้างเอาไว้ตั้งแต่อดีตจนถึงปัจจุบัน กรรมส่วนนี้จะคอยขวางให้การเข้าถึงธรรมของพวกเราช้าลง เพราะว่ากติกาข้อแรกของการเป็นพระอริยเจ้า คือ ต้องเคารพพระพุทธ พระธรรม พระสงฆ์ ด้วยกาย วาจา และใจ ถ้าหากว่าเคยล้วงล้ำก้ำเกินเอาไว้ สิ่งทั้งหลายเหล่านี้จะคอยขวางอยู่ตลอด โอกาสเขาถึงมรรคผลจะล่าช้าไป เนิ่นช้าไป เพราะฉะนั้นสิ่งที่เราทำในวันนี้ จัดว่าเป็นบุญใหญ่มาก คือ นอกจากจะเป็น ๑ ใน ๑๐ ของบุญกิริยาวัตถุที่พระพุทธเจ้าสั่งสอนไว้แล้ว ยังเป็นอนุสสติ คือการระลึกถึงพระพุทธ พระธรรม พระสงฆ์ด้วย ขณะเดียวกันยังเป็นการตัดกรรมที่เราเคยสร้าง
. . . . บุคคลผู้มีปกติอ่อนน้อมกราบไหว้ผู้ใหญ่ ย่อมได้รับอานิสงส์ ๔ ประการ คือ อายุ วรรณะ สุขะ พละ ในมงคลสูตร กล่าวว่า ผู้อ่อนน้อม ถ่อมตน กำจัดมานะ กำจัดความกระด้างได้ ทำตนให้เป็นเสมือนผ้าเช็ดเท้า เสมอด้วยโคอุสุภะเขาชาด หรือเสมอด้วยงูที่ถอนเขี้ยวแล้ว ท่านตรัสว่า เป็นมงคล อปจายนมัย ย่อมส่งผลให้ผู้ปฏิบัติได้รับการยกย่องสรรเสริญจากคนทั่วไป ได้รับความรักความเอ็นดูจากผู้ใหญ่ ผลบุญย่อมส่งให้เกิดอยู่ในตระกูลสูง รวมถึงการให้เกียรติ ให้ความเคารพต่อความคิด ความเชื่อ และวิถีปฏิบัติของบุคคลหรือสังคมอื่นที่แตกต่างจากเรานั้นเป็นการลดความยึดมั่นถือมั่นในความเป็นตัวตนของเรา ช่วยให้สังคมทุกระดับเกิดความเข้าใจต่อกัน และช่วยให้ชาติบ้านเมืองเกิดความสงบสุข จึงถือเป็นบุญอย่างหนึ่ง ผลบุญข้อนี้จะทำให้เกิดความเมตตาต่อกัน
ทำให้เราพบเห็น มีความเย็นตาเย็นใจเกิดขึ้น เกิดความรักความเมตตาต่อผู้ที่แสดงออก เป็นการสร้างความดีให้เกิดขึ้นในใจของผู้อื่น ดังนั้นถึงได้เกิดบุญอย่างนี้ขึ้น
Create Date : 28 กรกฎาคม 2555 |
Last Update : 28 กรกฎาคม 2555 0:33:08 น. |
|
1 comments
|
Counter : 1976 Pageviews. |
|
|
อ่านแล้วเกิดปัญญารู้คิด เกิดสติรู้ตามจริงๆค่ะ