Phuket :: เที่ยวแบบติดเกาะ
สวัสดีค่ะ ^^ สำหรับ blog นี้ออกตัวไว้แต่แรกเลยว่าจะลงยาวเลย ไม่ตัดเป็นตอน ๆ เหมือนอย่างทุกทีนะคะ เนื่องจากไปเที่ยวมาไม่ได้เยอะ บางจังหวะมุมสวยแต่ไม่ได้ภาพดั่งใจไรงี้ก็ว่าไป :P
จุดประสงค์หลัก ๆ ที่มาภูเก็ตในหน้าฝนแบบนี้ก็คือมาเยี่ยมเพื่อนของคุณสามีเค้าล่ะค่ะ แล้วก็ฉวยโอกาสพักผ่อนไปในตัวด้วยนิดนึง ถ้าจำไม่ผิด น่าจะเป็นช่วงที่เคโกะลาออกจากที่ทำงานเก่าพอดี และอยู่ในช่วงพักร้อนก่อนเริ่มงานที่ใหม่ล่ะค่ะ
เนื่องจากจุดประสงค์หลักคือมาเยี่ยมเพื่อนอ่ะนะคะ เราก็เลยไม่ได้ใส่ทริปดำน้ำเข้าไปด้วย ก็เลยกลายเป็นอยู่แต่บนเกาะ ติดเกาะกันไปในช่วงที่เราไปกัน ก็คือ 11-13 July 2013 ที่ผ่านมา
เคโกะจองตั๋วเครื่องบินและที่พักค่อนข้างกระชั้นมาก เลยหันไปใช้บริการกับนกแอร์บ้างนะคะ
พอเครื่องบินเทคออฟได้สักหน่อย พนง.บนเครื่อง (เรียกยาวไปมั้ย - -" แอร์ฯเฉย ๆ ดีกว่าเนอะ 555) ก็แจก snack บนเครื่องค่ะ เป็นขนมปังไส้กรอกของ Auntie Anne's นะคะ
เครื่องกำลังจะลงจอดที่สนามบินนานาชาติภูเก็ตละค่ะ มองไปรอบ ๆ เห็นเกาะเล็กเกาะน้อย และเกาะใหญ่ด้วย เยอะทีเดียว
พอเครื่องลงแล้ว ก็ไปรับรถที่จองไว้ คราวนี้เคโกะเลือกใช้บริการกับ Thai Rent A Car ซึ่งมีโปรพอดีอีก เช่ารถในราคาวันละ 700 บาทถ้วน แล้วก็ออกเดินทางกันค่ะ ซึ่งเราจะยังไม่ได้เข้าที่พักก่อน แต่ตรงไปยังจุดชมวิวต่าง ๆ ก่อนค่ะ ซึ่งจะว่าไป มันก็เป็นทางที่จงใจผ่านนะคะ
จุดชมวิวแรก คือจุดชมวิวกะรน
ตรงนี้จะเรียกว่า จุดชมวิวสามอ่าว ก็ได้ค่ะ เนื่องจากพอชมวิวจากจุดนี้ เราจะเห็นอ่าวเรียงรายกัน 3 อ่าวพอดิบพอดี (เคยอ่านเจออยู่ คล้าย ๆ ว่าเป็นกะรน, กะตะน้อยและกะตะใหญ่ หรือเปล่าคะ ^^")
จากนั้นแหงนหน้ามองท้องฟ้า ดูจะมืดเต็มทนแล้วเลยรีบไปยังแหลมพรหมเทพค่ะ ซึ่งก็ผิดหวัง เพราะตะวันลับขอบฟ้าไปแล้ว มืดสนิท มองอะไรไม่ค่อยเห็นแล้ว แถมผู้คนก็บางตาลงไปเยอะมากแล้วด้วย มีแต่คนเดินออกอ่ะนะ ก็เลยวนเวียนอยู่บริเวณนั้นแป๊บนึง แล้วก็ตัดใจ กลับโรงแรมไปพักผ่อนค่ะ
เช้าวันรุ่งขึ้น คุณเพื่อนของคุณสามีก็โทรกริ๊งกร๊างแนะนำสถานที่ท่องเที่ยวให้พวกเราเป็นการใหญ่ ก็จัดไปอย่าให้เสียค่ะ
เริ่มต้นที่พระใหญ่ก่อนเลย อยู่บนเขาอะไรสักอย่าง ชันพอสมควรทีเดียวค่ะ เล่นเอาหายใจไม่ทั่วท้อง แต่ก็สามารถขับรถคืบคลานขึ้นมาบนยอดเขาได้อย่างปลอดภัย
เห็นตั้งแต่ตีนเขาแล้ว ถ้าใครไม่มีรถหรือไม่สะดวกนำรถขึ้นไปเอง ก็มีบริการรถนำขึ้นไปไหว้พระใหญ่ค่ะ
เดินเล่นไปรอบ ๆ ก็สะดุดเอาป้ายนี้เข้า "ศรัทธาทั่วโลก" กวาดสายตาไปมาแล้วหลากหลายสกุลเงินมากค่ะ ที่โต๊ะรับบริจาคเองก็มีป้ายแปะไว้หลากหลายภาษามากทีเดียว
ตอนที่เคโกะไป ดูจะยังสร้างไม่สมบูรณ์นัก แต่ถึงกระนั้น นักท่องเที่ยว (ทั้งกรุ๊ปทัวร์และไม่กรุ๊ปทัวร์) ก็มากราบไหว้กันเยอะทีเดียวค่ะ
พอลงจากเขาวัดพระใหญ่แล้ว ก็ต่อไปยังวัดฉลองฯ ค่ะ ซึ่งเป็นทางผ่านของเราที่ตั้งใจว่าจะเข้าไปในตัวเมืองอยู่แล้ว
เดินเล่นไปรอบ ๆ วัด ด้านในสุด ๆ จะมีโบสถ์องค์งามอยู่ (หวังว่าคงเรียกถูก )
ด้านในมีพระพุทธรูปเยอะมาก ๆ ค่ะ เหลืองอร่ามไปทั้งห้องเลยอะ
เสร็จสรรพแล้วก็ดิ่ง ๆ เข้าไปในตัวเมืองค่ะ หาร้านหมี่ฮกเกี้ยนกินกัน (จากเดิมตั้งใจจะไปชิมติ่มซำบุญรัตน์ค่ะ แต่เราโอ้เอ้ไปหน่อย ไปถึงร้านก็ปิดแล้วอะ )
เราเลือกร้านหมี่สมจิตนะคะ หน้าตาก็เป็นอย่างนี้
ส่วนรสชาติ ... ก็เฉย ๆ อ่ะค่ะ
กินกันอิ่มกันตาย (เอ่อ ... ไหนว่ารสชาติเฉย ๆ ไงล่ะ ) เสร็จแล้ว ก็เดินกลับมาเอารถที่จอดทิ้งไว้ (โดนเก็บตังค์ค่าจอดรถริมฟุตบาทไปอีก 10 บาท - -") ก็เลยมีอารมณ์ถ่ายตึกเก่าสวย ๆ ซะหน่อย
ผ่านซอยรมณีย์ก็จัดไป เดินถ่ายเล่นกันอยู่นานพอควรเลยทีเดียว
ใครมาเดินถ่ายรูปตรงนี้ก็อนุมานได้ว่าเป็นนักท่องเที่ยว 555 :P
เดินกลับมาเอารถแต่ก็ยังไม่ไปเอาซะทีเดียว แวะชิมโอ๋วเอ๋วก่อนค่ะ ชิมไปให้รู้ว่ามันคืออะไร พูดถึงกันจัง เวลาใครไปภูเก็ตเนี้ยะ
โดยความคิดเห็นส่วนตัวแล้ว ... ก็โอเคอ่ะค่ะ ก็เหมือนวุ้นใส ๆ ใส่เครื่อง โปะน้ำแข็งแล้วก็ราดน้ำแดงอะ ถ้าชอบอะไรประมาณนี้อยู่แล้วก็รับได้ค่ะ
จากนั้น ก็มุ่งหน้าต่อไปยังจุดชมวิวอีกที่ คือจุดชมวิวเขาขาด ชื่อฟังดูน่ากลัว แต่เอาเข้าจริง วิวสวยมากกกกกกกกกกกกกกก
ด้านหน้าไปก่อนแล้วกัน ตอนที่ไป แดดร้อนสุด ๆ แล้วคนมาชมวิวก็ไม่เยอะด้วยค่ะ
เดินขึ้นไปยังบนศาลาบนยอดเขาในรูปข้างบนอ่ะค่ะ แล้วก็จะเห็นวิวแบบ 360 องศาเลยทีเดียว ลมเย็นสบาย เห็นท้องฟ้าสีฟ้าใส ๆ และน้ำทะเลล้อมรอบ บอกได้คำเดียวว่า ประทับใจมากกกกกกกกกกกกกกกกก
จากนั้นเราก็กลับมายังที่พักค่ะ รอเพื่อนของคุณสามีเลิกงาน แล้วก็รับไปทานข้าวด้วยกัน
ก่อนจะไปทานข้าวเย็นกันนั้น พี่เค้าก็พาไปยังจุดชมวิวกะรน (หรือจุดชมวิวสามอ่าว) อีกครั้งนึง
จากนั้นก็พาไปเดินเล่นบนหาดราไวย์ (คิดว่าน่าจะใช่นะคะ) เป็นหาดที่เงียบสงบ คนไม่พลุกพล่านเลยค่ะ ชอบมากเหมือนกัน ^^
เคโกะก็เลยได้มาเหยียบน้ำทะเลซะทีก็ตอนนี้แหละค่ะ 555
จากนั้นพี่เค้าก็พาไปยังแหลมพรหมเทพอีกด้วย คราวนี้มาถึงตั้งแต่พระอาทิตย์ยังไม่ตกดินค่ะ คนเยอะมากกกกกกกกกกกกก เจอคู่บ่าวสาวมาถ่ายพรีเวดดิ้งกันด้วยอะ (แต่เป็นคนต่างชาติค่ะ)
ตอนแรกก็อยากลงไปเดินตรงแหลมเลยอะนะ (อินมาจากหนัง "ม.3 ปี 4 เรารักนาย" ค่ะ แหะ ๆ) แต่พี่เค้าบอกว่าเดินไป-กลับคงดูพระอาทิตย์ไม่ทัน และอาจจะมืดก่อนขึ้นมาค่ะ ก็เลยไม่ได้ลงไปเดิน
เฝ้ารอพระอาทิตย์ลับขอบฟ้ากันต่อไป
จากนั้น พี่เค้าก็พาเราไปยังเขารัง ชมวิวด้วย แล้วก็รับประทานอาหารด้วย อาหารอร่อยมากกกกกก ที่ร้าน "ทุ่งคากาแฟ" ค่ะ
ดูรูปอาหารไปก่อนก็แล้วกันนะคะ (ชื่อเมนู ก็ยังลืมอ่ะ - -")
จริง ๆ แล้วมีหลายอย่างนะคะ ขอลงแค่นี้แล้วกัน (แค่นี้ก็อัพรูปไป กลืนน้ำลายไปละ - -") ส่วนของหวานเป็นผลไม้รวมชุบแป้งทอด คล้าย ๆ กับกล้วยทอดค่ะ แต่เอาผลไม้หลาย ๆ อย่างมาทำ อันนี้เคโกะก็ชอบค่ะ
แล้วพี่เค้าก็พาชมเมืองยามค่ำคืนอะไรอีกนิดหน่อย ก่อนที่จะแยกย้ายกันกลับที่พักไปพักผ่อน
ขอบคุณพี่ลักษณ์ในการพาเที่ยว พากินครั้งนี้ด้วยค่ะ ^^
เช้าวันสุดท้าย เราเพิ่งค้นพบร้านติ่มซำที่อยู่ใกล้ ๆ โรงแรมกันค่ะ (จากคำบอกเล่าของพี่เค้านั่นแหละ) .. เล่นเอาเสียดายว่าถ้ารู้ก่อน เมื่อวานก็คงได้ฝากท้องที่นี่ไปแล้วล่ะค่ะ หุหุ
ร้านนี้ออกมาจากถนนย่อยก็เจอเลย อยู่ติดถนนใหญ่เลยนะคะ มีอาหารหลากหลายประเภทมาก ๆ เคโกะขอจัดขนมจีนน้ำยามาก่อน ชอบตรงที่ผักเคียง จัดมาเยอะมาก ๆ ค่ะ
ต่อด้วยติ่มซำอีกชุดใหญ่กับคุณสามี (ซึ่งเค้าก็สั่งอะไรทานไปก่อนแล้วเยอะอยู่)
ตบท้ายก่อนกลับกรุงเทพฯ ด้วยการแวะร้านขายของฝาก เคโกะเสิร์ช ๆ ดูทริปที่คนอื่นเค้าไปกันมา ส่วนใหญ่ก็แนะนำร้านพรทิพย์ ซีสโตร์ค่ะ อยู่บนถนนสายหลักวิ่งไปสนามบินเลย ร้านใหญ่มาก หาไม่ยากค่ะ และมีกรุ๊ปทัวร์ลงเยอะมากเหมือนกัน
ร้านนี้ทำเอาเคโกะถึงกับอึ้งไปในราคาของทางร้านค่ะ ไม่ทราบจริง ๆ ว่าเกิดอะไรขึ้นกับร้านนี้ เคโกะเห็นราคาที่แปะบนแพคเกจจิ้งทุกอย่าง ราคาแพงลิบลิ่ว แทบจรดไม่ลงเลย แต่ก็จำใจหยิบ ๆ มาเท่าที่จำเป็น (ฝากเค้า กินเองนิด ๆ หน่อย ๆ ไรงี้อ่ะค่ะ) แต่พอเดินไปจ่ายเงิน กลับกลายเป็นว่าเราได้ส่วนลดคนไทย+ไม่ใช่กรุ๊ปทัวร์ กลายเป็นสินค้าต่าง ๆ ที่เราหยิบมานั้นเป็นราคาปกติ O.o?
เอิ่มมม ... ไม่เก็ทกับกลยุทธ์ร้านนี้จริง ๆ ค่ะ
จากนั้นก็ขับรถเข้าสนามบิน คืนรถ ตอนคืนรถไม่มีปัญหาค่ะ เค้าจะคืนใบหนึ่งมาให้ แล้วบอกให้เอาไปส่งที่เคาน์เตอร์ของสนง.ที่อยู่ในสนามบิน แล้วจะได้ใบเสร็จที่รูดบัตรกันวงเงินไว้คืน ... ปัญหามันอยู่ตรงนี้ค่ะ เพราะเคาน์เตอร์ของ TRAC นั้นไม่ได้อยู่ด้านนอก แต่อยู่ภายในสนามบินขาเข้าเท่านั้นที่จะไปถึงเคาน์เตอร์ได้ .. งงอยู่เป็นนานว่าแล้วจะเอาใบเสร็จบัตรเครดิตคืนยังไง
สุดท้ายคุณสามีก็เดินไปหาจนท.การท่าแหละค่ะว่าขอเดินเข้าไปเคาน์เตอร์ TRAC หน่อย เค้าก็เปิดประตูให้เข้าง่าย ๆ O.o โอ้ว amazing Thailand อีกแล้ว
จบทริปซะที
แล้วกลับมาพบกันใหม่ใน blog ถัดไป ขอบคุณและสวัสดีค่ะ ^^
Create Date : 19 พฤศจิกายน 2556 |
Last Update : 19 พฤศจิกายน 2556 23:41:53 น. |
|
4 comments
|
Counter : 2618 Pageviews. |
|
|