keigolin
Location :
กรุงเทพ Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 14 คน [?]




สวัสดีค่ะ ยินดีต้อนรับเข้าสู่ blog ของ keigo นะคะ ^^

blog นี้เป็น blog เก่าค่ะ ได้ย้ายบ้านไป thisiskeigo.wordpress.com แล้ว ไปติดตามกันได้ที่นั่นค่ะ ^^
หรือติดตามเพจกันได้ที่ http://www.facebook.com/thisiskeigo
ขอบคุณที่ติดตามกันค่ะ ^^
New Comments
Group Blog
 
<<
มิถุนายน 2558
 
 123456
78910111213
14151617181920
21222324252627
282930 
 
10 มิถุนายน 2558
 
All Blogs
 
Friends' blogs
[Add keigolin's blog to your web]
Links
 

 
Still in love, in Japan #7

สวัสดียามดึกอย่างเคยค่ะ ^^" หลังจากที่เตรียมรูปไว้เสร็จสรรพก็เลยเพิ่งจะรู้ตัวนะคะว่าจะยังเหลืออีกสองตอนสำหรับทริปนี้ (รวมตอนนี้ด้วยค่ะ) .. ยาวเนอะ ^^"

กินเยอะก็งี้ มีแต่รูปของกินซะเยอะเลย 555



ความเดิมตอนที่แล้ว :-


จุดต่อไปที่เราจะแวะกันก็คือ สะพานแว่นตาค่ะ จริง ๆ แล้วไอ้เจ้าสะพานนี้เนี่ย ไม่ได้มีอะไรพิเศษเลย แต่เค้าก็ยังสามารถทำให้เป็นจุดท่องเที่ยวได้อะนะคะ

สะพานแว่นตานี้ ชื่อภาษาญี่ปุ่นคือ Meganebashi Bridge (Spectacles Bridge) ก็นั่งรถรางไปลงที่สถานี Nigiwaibashi ค่ะ เดินไปทางลำคลองเล็กน้อยก็จะเจอเลย ตอนที่เราไปกันก็มีกลุ่มนักเรียนมาทัศนศึกษานอกสถานที่กันเยอะทีเดียวค่ะ




สามารถยืนบนสะพานถ่ายรูปก็ได้แว่นสวย ๆ แล้วล่ะค่ะ แต่เคโกะก็ยังลงมาเดินเล่นใต้สะพาน มาถ่ายรูปตรงนี้อีกหลาย ๆ ช็อตเลยทีเดียว

ทางเดินข้ามลำคลองมีอิฐบล็อคปูเป็นทางเดินให้ค่ะ ก็เดินสบาย ๆ ไม่ต้องกลัวตกน้ำเลยนะคะ



มุมตรง ๆ บ้าง จะเห็นภาพสะท้อนกับผืนน้ำที่นิ่งสนิทเป็นรูปแว่นตาได้อย่างเหมาะเจาะทีเดียวค่ะ



จากนั้นก็เดินกลับมาขึ้นรถรางค่ะ นั่งรถรางไปลงที่สถานี Ishibashi ซึ่งเป็นสถานีสุดท้ายเลยนะคะ แต่ก่อนที่จะถึงสถานีสุดท้ายนั้น จะถึงสถานีที่ในแผนที่แนะนำ หากต้องการไป Glover Garden นี้ ก็คือ สถานี Ourakaigan-Dori ซึ่งเคโกะตัดสินใจตามลายแทงคุณติวเตอร์ตู่ไปค่ะ เค้าว่าเป็นการเที่ยวแบบเดินลงเขา ไม่ต้องเหนื่อยแบกสังขารขึ้นเขา .. เอ้า เป็นยังไง ลองดูค่ะ

--- กระทู้อ้างอิง //topicstock.pantip.com/blueplanet/topicstock/2012/06/E12250483/E12250483.html

พอลงจากสถานีมาแล้ว ก็จะมีป้ายบอกทางไป Glover Garden นี้ค่ะ ก็เดินไปตามทางเล็ก ๆ ลักษณะก็จะขึ้นเนินเขาเล็กน้อยค่ะ แต่ยังไม่ถึงกับเหนื่อยหอบอะนะคะ เดินมาอึดใจนึง ก็จะเจอลิฟต์หน้าตาประมาณนี้ ดูร้าง ๆ เสมือนไม่มีใครมาทางนี้เลย (น่าจะเป็นเพราะเคโกะมาถึงค่อนข้างเย็นแล้วด้วยค่ะ)



ก็ขึ้นลิฟท์เลยค่ะ ลิฟท์ตัวนี้จะแปลก ๆ นิดนึง คือเป็นลิฟท์ในแนวเฉียง ๆ นอน ๆ นิดนึง พอถึงด้านบนแล้วก็จะเจอวิวในมุมสูงแบบนี้ มองไปทางไหนก็ตึกค่ะ



เดินไปตามทางอีกเล็กน้อย ก็จะเจอทางเข้าสวน มีจุดจำหน่ายตั๋วอยู่ด้านหน้าเลยค่ะ



ค่าเสียหายที่นี่ 610Y ต่อคนค่ะ พอจ่ายตังค์แล้วก็จะได้แผนที่สวนมาด้วย พร้อมด้วยรายละเอียดสิ่งที่น่าสนใจในสวนนี้




จากนั้นก็เดินเข้าไปด้านในกันค่ะ ก็จะเป็นสวน ๆ รอบ ๆ บ้านทรงยุโรปโบราณ จัดแสดงสิ่งสำคัญต่าง ๆ ของเมืองนางาซากิ อาทิเช่น โมเดลเรือสำเภาต่าง ๆ ในสมัยก่อนล่ะค่ะ ซึ่งบ้านแต่ละหลังก็มีความสำคัญแตกต่างกันไป (ซึ่งเคโกะลืมหมดแล้ว ฮ่าาาา)

มาเดินสวนก็ดูสวนกันเถอะ .. มองลงไปเห็นวิวเมืองนางาซากิด้วยค่ะ



แล้วก็มาดูบ้านต่าง ๆ กัน (เอ่อ ... บ้านไหนจัดแสดงอะไร เคโกะก็ลืมหมดแล้วนะคะ แถมยังทิ้งโบรชัวร์ไปด้วยอีกอ่ะ T.T)



ลงประกอบเรื่องราวไว้ให้พิจารณาดูกันก็แล้วกันเนอะว่าควรแวะไปสวน Glover Garden นี้มั้ยนะคะ แหะๆ

ส่วนหลังนี้ถ้าจำไม่ผิด จะเป็นของคุณ Glover เจ้าของพื้นที่สวนตรงนี้ล่ะค่ะ



ใกล้ ๆ กับบ้านหลังนี้ก็จะมีรูปปั้นของ Mr.Glover ด้วยค่ะ (จำชื่อเต็มไม่ได้อีก 555)



เสร็จสิ้นครบถ้วนกระบวนความ ก็ได้เวลาสวนปิดพอดี สังเกตได้ว่ามีแต่คนทะยอยออกค่ะ ไม่มีใครเข้ามาอีกแล้ว รวมถึงพนง.เองก็ทะยอยกันทำความสะอาดแต่ละจุด (ที่เห็นเพราะไปแวะเข้าห้องน้ำก่อนกลับแป๊บนึง -- เอ่อ ว่าแล้วก็นึกได้ น้ำประปาที่นี่ดื่มไม่ได้นะคะ .. แอบสงสัยว่าทำไม ? ยังมีสารกัมมันตภาพรังสีหลงเหลืออยู่หรือคะ ? แต่มันก็นานโขแล้วน้าาาาา)

พอจะออกจากสวนก็เดินผ่านร้านขายของที่ระลึกค่ะ เจอตู้กดอัตโนมัติขายไอศกรีมวาฟเฟิลก็เลยรีบโดดใส่ กดมาชิมอีก 1 อัน ดูแปลก ๆ แต่ก็อร่อยดีค่ะ (แอบคิดถึงไอศกรีมเวเฟอร์ที่สิงคโปร์เลยอ่ะ)



ทีนี้ขากลับ เราไม่ได้กลับทางเดิมที่เรามา เพราะอย่างที่บอก เราเดินเที่ยวสวนแบบลงเขาค่ะ ซึ่งสวนนี้มีทางเข้า-ออกสองทาง สามารถเข้าได้จากสถานีรถรางทั้งสองสถานี อย่างที่ว่าไปแล้วตอนต้นเลย เราก็เลยงง ๆ อยู่แถวนั้น วนไปวนมา ปราศจากคนให้ถามทางด้วย T.T

เดินงงหลงทิศก็เลยเจอกับตึก HSBC ทรงยุโรปแบบนี้เข้า (อยู่ในแผนที่นำเที่ยวด้วยนะเออ) .. ถ้าเจอไอ้ตึกนี้ แปลว่าเดินผิดทางค่ะ 555



สุดท้าย เราก็คลำทางกลับมาเจอรถรางจนได้ ก็นั่งรถรางกลับไปที่สถานีหลักค่ะ คือ Nagasaki Eki-mae อันเป็นจุดเริ่มต้นที่เรามา จากนั้นก็เข้ามินิมาร์ท จัดข้าวกล่องมาคนละชุด แล้วก็รีบไปบุ๊คตั๋วรถบัสกลับไปฟุกุโอกะ ซึ่งพนง.เค้าก็จะคอนเฟิร์มกับเราว่าลงฟุกุโอกะ (Hakata Bus Terminal) นะ แล้วก็จะออกสลิปมาให้ หน้าตาเหมือนขามาตามนี้เลยค่ะ



จากนั้น เราก็นั่ง ๆ นอน ๆ ปัดหน้าจอโทรศัพท์กันอีกราว ๆ 2 ชั่วโมงครึ่ง ก็กลับมาถึงฟุกุโอกะแล้วค่ะ


19-Jan-2015

ตื่นเช้ามา วันนี้เราลงสถานีรถไฟฟ้าใต้ดินที่หน้าโรงแรมเลย ซึ่งก็คือสถานี Gion ค่ะ วันนี้เราจะไปตะลุยเมืองฟุกุโอกะกัน โดยพ่วงวัด Dazaifu เข้าไปด้วย

สำหรับวันนี้ที่เป็น City tour แบบนี้ ตามลิสท์สถานที่ของเคโกะแล้ว เคโกะก็รู้สึกลำบากใจอยู่พอควรเลยค่ะ เพราะไม่แน่ใจว่าใช้ Day pass แบบไหนถึงจะดี เพราะรถไฟฟ้าไม่ครอบคลุมทุกสถานที่ที่อยากไป บางที่ก็ต้องต่อรถเมล์ แต่ถ้าซื้อพาสที่สามารถขึ้นรถเมล์ได้ด้วย ก็จะเป็นการเกินงบเกินไป

สุดท้าย เคโกะก็เลือก 1-Day Subway Pass (620Y -- สำหรับวันธรรมดา และ 520Y สำหรับวันเสาร์อาทิตย์ค่ะ) และ Dazaifu Stroll Ticket Pack 1-Day Journey (1,000Y)

พอลงไปสถานีรถไฟแล้ว ก็ไปที่ตู้ซื้อตั๋วอัตโนมัติ สามารถกดเลือกเป็น 1-Day Pass ได้เลยค่ะ ก็จะได้บัตรรถไฟมา 1 ใบ (ส่วน Subway Guide น่ะ เคโกะหยิบมาเองต่างหากอีกทีค่ะ)



นั่งรถไฟไปลงที่สถานี Tenjin ค่ะ ซึ่งจริง ๆ แล้วก็ไม่ได้ไกลเลย แต่เราก็นั่ง เอาสะดวกเข้าว่าเนอะ จากนั้นก็เดินไปหา "Nishitetsu Tenjin Staion" ให้เจอค่ะ มองแต่ป้าย เดินตามป้ายไปเรื่อย ๆ ไม่หลงแน่นอนค่ะ

จากนั้นก็พุ่งเข้าไปซื้อตั๋วที่เคาน์เตอร์จำหน่ายตั๋วเลยค่ะ หน้าตาตั๋วก็จะเป็นแบบนี้ ด้านในจะมีคูปองที่พนง.จะฉีกไปเวลาเราเดินเข้าเกทไปนะคะ เป็นแบบไป-กลับภายในวัน และก็จะมีคูปอง (ในรูปคือทางซ้ายมือ) สำหรับเอาไปแลกขนมโมจิได้ 1 ชุด (ถ้าจำไม่ผิด จะได้กันคนละ 4 ชิ้นนะคะ) ซึ่งเราจะเอาไปแลกที่ร้านไหนก็ได้ บนถนนที่หน้าวัด Dazaifu ค่ะ และในชุดนี้ก็ยังมีส่วนลดอื่น ๆ อีกด้วยค่ะ (ซึ่งเราไม่ได้ใช้เลย - -" )


หน้าตาของรถไฟที่จะพาเราไปยัง Dazaifu กันก็จะเป็นหน้าตาประมาณนี้ค่ะ



นั่งรถไปเรื่อย ๆ พอถึงแล้วก็เดินออกมาจากสถานี หน้าตาจะประมาณนี้ค่ะ



ไม่ต้องคิดอะไรมากเลยค่ะ เดินตามฝูงชนไป เป็นทางที่ถูกต้องแน่นอนค่ะ 555 .. เลี้ยวขวาเข้าซอยเล็ก ๆ ไปนิดเดียวก็เจอร้านคิตตี้นี้เลยค่ะ เด่นมากกกกก



เดินมองสองข้างทางจนคอหมุน แล้วก็มาสะดุดตากับร้านสตาร์บั๊คส์ร้านนี้ ที่ติดอันดับร้านดีไซน์สวยเก๋ของโลกด้วยนะคะ (โพลไหนไม่รู้แล้ว 555)



แล้วก็เดินต่อค่ะ เดินไปจนสุดก็จะเป็นทางเข้าวัดพอดี ที่นี่เค้าว่าดังเรื่องการขอพรในด้านการศึกษาค่ะ

และเคโกะก็ขอตัดจบสำหรับ blog นี้ลงตรงนี้เลยแล้วกันนะคะ แล้วกลับมาเจอกันใหม่ในตอนหน้า .. ตอนสุดท้ายแล้วค่ะ ^^

ขอบคุณทุกท่านสำหรับติดตามและเยี่ยมชมนะคะ ราตรีสวัสดิ์ค่ะ



Create Date : 10 มิถุนายน 2558
Last Update : 18 มิถุนายน 2558 15:25:36 น. 4 comments
Counter : 1690 Pageviews.

 
โหวตให้จ้าา

ไม่แปลกหรอกที่รีวิวทีแล้วจะยาวน่ะ

คือถ้าเราตั้งใจจะถ่ายทอดให้ละเอียด ให้เป็นประโยชน์มันจะเป็นอย่างนี้แหละ รูปเยอะ เรื่องก็จะมีให้พูดถึงเยอะ

ของพี่ถึงเป็นมหากาพย์อยู่บ่อยๆ


โดย: สาวไกด์ใจซื่อ วันที่: 11 มิถุนายน 2558 เวลา:8:59:59 น.  

 

บันทึกการโหวต Blog ในวันนี้

ผู้เขียน Blog หมวดเนื้อหา Blog ได้รับโหวต
ขุนเพชรขุนราม Music Blog ดู Blog
การเป็นคนดีบางทีก็ปวดร้าว Photo Blog ดู Blog
keigolin

รูปที่สองสวยจับใจแม่โมค่ะ ตอนนี้อยากแช่น้ำเย็น ๆ มาก ร้อน แหะ ๆ


โดย: mariabamboo วันที่: 11 มิถุนายน 2558 เวลา:13:23:49 น.  

 
thx u crab


โดย: Kavanich96 วันที่: 12 มิถุนายน 2558 เวลา:2:45:31 น.  

 
แถวนี้ยังไม่ได้ไปเลยค่ะ


โดย: tuk-tuk@korat วันที่: 17 มิถุนายน 2558 เวลา:10:52:17 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 
 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.