มาเริ่มกันเลยนะคะ (เวิ่นเว้อแต่น้อย ๆ เพราะน่าจะยาวค่ะ 555 จะได้มีพื้นที่ในการบอกเล่าเรื่องราวการเดินทางเยอะ ๆ ขึ้นเนอะ ^^" ) ...

14-Jan-15
เราสองคนพร้อมกันที่สุวรรณภูมิแต่กลางดึกเลยค่ะ (คืนวันที่ 13 อ่ะนะคะ) เพราะไฟลท์ board เวลาตี 2 15 นาทีค่ะ นั่ง ๆ นอน ๆ งีบหลับสัปหงกไปเรื่อยราว ๆ 5 ชั่วโมงก็มาถึงสนามบินนานาชาติฟุกุโอกะกันแล้วล่ะค่ะ ^^

สนามบินนานาชาติที่นี่เล็กมาก และไม่มีงวงเทียบ ใช้บัสรับส่งผู้โดยสารไปหาด่านตรวจคนเข้าเมืองค่ะ


ผ่านตม.มาอย่างสบาย ๆ ไม่ถามอะไรสักคำ เดินไม่กี่ก้าวก็พบกับห้องโถงเล็ก ๆ (แต่ยาวมากกกกกก) อันเป็นบริเวณห้องโถงของผู้โดยสารขาเข้า .. เย้ .. มาถึงฟุกุโอกะแล้วนะ



สิ่งแรกที่เราทำกันก็คือ ... กินข้าวค่ะ ^^!

ภายในบริเวณโถงผู้โดยสารขาเข้านั้นมีร้านอาหารอยู่ร้านเดียว และมีพวกบูธจำหน่ายตั๋วรถ,พาสต่าง ๆ เรียงรายอยู่ใกล้ ๆ (ออกมาแล้วจะเจอบูธต่าง ๆ อยู่ตรงหน้าเรา และร้านนี้อยู่มุมขวามือสุดค่ะ)



บอกตรง ๆ ว่าตอนนั้นเบลอ ๆ พอสมควรตั้งใจสั่งราเม็งหน้าเนื้อให้คุณสามี แต่ดันไปสั่งกิวด้งมา (ข้าวหน้าเนื้อ) แล้วคนขายก็พูดภาษาไทยได้ซะด้วย เค้าคงงง ๆ ไปเล็กน้อยพูดอีกอย่างแต่สั่งอีกอย่างค่ะ 5555



ส่วนของตัวเอง ถ้าจำไม่ผิดน่าจะเป็นชาชูด้ง (ข้าวหน้าหมูชาชู -- พูดเมนูภาษาญี่ปุ่นไปงั้นแหละ ไม่ได้รู้เลยค่าาาา 555 .. ผิดถูกประการใดขออภัยด้วยนะคะ)



มีน้ำดื่มฟรี (บริการตัวเอง) ซึ่งมีให้เลือกหลายแบบทั้งน้ำร้อน น้ำเย็นและชาค่ะ ส่วนค่าเสียหาย .. ผ่านไปนะคะ เคโกะก็ตั้งใจจะจดเหมือนทริปไต้หวันแหละ แต่ว่า จ่ายนู่นนี่เยอะเกิ๊นนนน มึนค่ะ เลยไม่ได้จดเลย T.T

จากนั้นเราก็นั่ง Shuttle bus ค่ะ เพื่อไป Domestic Terminal ซึ่งก็เป็นจุดที่มีรถไฟฟ้าด้วยอ่ะนะ แต่วันนี้เราจะยังไม่นั่งรถไฟเข้าเมืองค่ะ เราจะนั่งเครื่องภายในประเทศไปโอซาก้ากันก่อน

ไฟลท์ที่เคโกะเลือก เวลาค่อนข้างจะไม่ค่อยโอเคเท่าไหร่ รอนานค่ะ แต่ถ้ามองในแง่ดีก็คือ มีเวลาเพียงพอสำหรับการต่อเครื่องค่ะ

เมื่อพนง.เรียก boarding แล้วเค้าก็จะตรวจตั๋วให้ (ตั๋วก็เช็คอินโดยใช้เครื่อง kiosk ได้เลย -- กรณีไม่มีสัมภาระโหลด เคโกะว่าสะดวกมาก ๆ ค่ะ แล้วก็เร็วด้วย) และให้ป้ายเบอร์เกทมาแบบนี้ (ขออภัยที่รูปเบลอ ๆ นะคะ เคโกะเดินไปถ่ายรูปไปค่ะ ฮ่าาา..)



แล้วก็อำลาฟุกุโอกะเป็นการชั่วคราวค่ะ เดี๋ยวกลับมาเที่ยวนะ ..



สายการบิน Peach Air เป็นสายการบินโลว์คอส คล้าย ๆ แอร์เอเชียที่คนไทยเราคุ้นเคยดีแหละค่ะ แต่ความเป็นญี่ปุ่นสูงมาก ไม่มีภาษาอังกฤษซักคำหลุดออกมาเลยค่ะ ใช้เวลาบินราว ๆ ชั่วโมงนึงก็มาถึงสนามบินคันไซแล้วล่ะค่ะ โดยหนูพีชแอร์เนี่ย เค้าจะมี terminal ของเค้าเองเลย เราก็ใช้ shuttle bus นั่งเวียนไปยัง terminal 1 เพื่อเดินทางต่อได้ค่ะ

ทางเดินเข้า Terminal 1 ค่ะ



จากนั้นก็เดินหาบูธ Tourist Information หรือ Travel Desk ค่ะ เพื่อซื้อพาสต่าง ๆ ที่เคโกะจะใช้ในช่วง 3 - 4 นี้ ก็จะมี

- Osaka Amazing 1-Day Pass ราคา 2,300Y ตัวนี้เที่ยวในโอซาก้าคุ้มมากค่ะ เพราะสามารถใช้เดินทางด้วยรถไฟฟ้าได้ไม่จำกัดจำนวนเที่ยวภายใน 1 วัน และยังสามารถใช้ผ่านประตูเข้าชมสถานที่ต่าง ๆ ตามที่กำหนดไว้ได้อีกด้วยค่ะ
- Hanshin Tourist 1-Day Pass ราคา 2,900Y แต่ตัวนี้เคโกะปากหนักไปนิด ไม่ได้ถามก่อนว่าใช่ตัวที่คอมโบกับรถเมล์และรถรางขึ้นภูเขา Rokko หรือเปล่าค่ะ .. สรุปคือ ซื้อมาผิด - -" และราคา 2,800Y

จากนั้นก็วนไปซื้อ JR Kansai Area Pass 1-Day (2,060Y) ที่ JR Ticket office ค่ะ เข้าไปแล้วพนง.ก็จะถามว่ามาทำอะไร ถ้ามาซื้อก็จะเชิญให้ขึ้นไปชั้น 2 เพื่อชำระเงินและออกตั๋วได้เลย ซึ่งต้องระบุวันเลยค่ะว่าจะใช้วันไหน

สุดท้ายก็แวะซื้อตั๋วอีกตัวค่ะ คือ Yokoso Osaka Pass ราคา 1,500Y ซึ่งจะคอมโบเอาตั๋วรถไฟไปหรือกลับโอซาก้ากับสนามบินคันไซค่ะ (ได้แค่ขาใดขาหนึ่ง) และยังมีตั๋วรถไฟแบบ 1-Day pass ด้วย  ... แล้วก็เข้าเมืองกันได้ซะทีเนอะ

อันนี้เป็นหน้าตาตั๋วคอมโบชุด Yokoso Osaka นะคะ ใบที่เป็น 1-Day นั่นใช้วันที่ซื้อหรือวันถัดไปค่ะ เคโกะว่าน่าจะเหมาะกับคนที่มีเวลาเที่ยวในโอซาก้าจำกัดแค่วันสองวันและต้องไปสนามบินอ่ะนะคะ



จากนั้นก็เดินผ่านเข้าเกทไปรถไฟฟ้าเลยค่ะ ตรงนี้จะมีสองสายคือสาย JR และ สาย Nankai ซึ่งไอ้ตั๋วคอมโบที่เคโกะซื้อมาน่ะ จะเป็น Nankai ค่ะ



เจ้ารถไฟขบวนนี้จะมาส่งที่สถานี Namba ค่ะ แต่ยังไม่ทันได้ไปไหนต่อ ก็มาหาร้านหม่ำข้าวเที่ยง (ตอนบ่าย ๆ แล้ว) กันก่อน ^^"

ร้านที่เลือกก็เป็นร้านภายในสถานีอีกแล้วค่ะ ดูวันนี้จะไปหาร้านข้าวกินกันพ้นสถานีรถไฟกันซักมื้อมั้ยนะคะ 555

เราสองคนไปยืนจ้องเมนูหน้าร้าน (เป็นตู้กด ๆ แล้วเอาตั๋วให้พนง.ร้านอ่ะค่ะ) อยู่นานมาก จนพนง.ร้านออกมาหยิบเอาเมนูภาษาอังกฤษมาให้ดูแทน ^^"

จัดกันไปคนละชามค่ะ ของเคโกะเป็นเทมปุระโซบะ ส่วนของคุณสามีเป็นอุด้งหน้าเนื้อ





จากนั้นอิ่มกันดีแล้วก็ควักเอาตั๋ว 1-Day pass ที่ได้มาจากชุดคอมโบนั่นล่ะค่ะ มาใช้เลย เดินทางต่อไปสถานี Tsuruhashi เพื่อทำการเช็คอินเข้าที่พักที่ได้พูดถึงไปแล้วในตอนที่แล้วอ่ะนะคะ

ใช้เวลาเก็บของกันไม่นานเลย เราก็พร้อมที่จะออกไปเดินตะลุยเมืองโอซาก้ากันต่อค่ะ โดยใช้ตั๋ว 1-Day pass ให้เป็นประโยชน์สูงสุด (555)


แต่ก่อนที่จะมาดูกันว่าได้ไปไหนบ้าง ก็ขอหยุดไว้ตรงนี้ก่อนแล้วกันนะคะ แล้วจะมาเล่าต่อใน blog หน้าค่ะ ^^"

ขอบคุณทุกท่านที่แวะเวียนกันมาเยี่ยมชมนะคะ ราตรีสวัสดิ์ โอยาสึมินะไซ!!

Create Date : 23 เมษายน 2558
Last Update : 23 เมษายน 2558 0:07:45 น.		4 comments
Counter : 1491 Pageviews.
Share Tweet