keigolin
Location :
กรุงเทพ Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 14 คน [?]




สวัสดีค่ะ ยินดีต้อนรับเข้าสู่ blog ของ keigo นะคะ ^^

blog นี้เป็น blog เก่าค่ะ ได้ย้ายบ้านไป thisiskeigo.wordpress.com แล้ว ไปติดตามกันได้ที่นั่นค่ะ ^^
หรือติดตามเพจกันได้ที่ http://www.facebook.com/thisiskeigo
ขอบคุณที่ติดตามกันค่ะ ^^
New Comments
Group Blog
 
 
กุมภาพันธ์ 2552
1234567
891011121314
15161718192021
22232425262728
 
16 กุมภาพันธ์ 2552
 
All Blogs
 
Friends' blogs
[Add keigolin's blog to your web]
Links
 

 
เสี้ยวหนึ่งของความทรงจำ #2

*** เนื้อเรื่อง ตัวละคร และสถานที่ในเรื่องต่อไปนี้ เป็นเพียงเรื่องสมมติขึ้นเท่านั้น หากไปพาดพิงกับเหตุการณ์จริงในชีวิตใครก็ตาม ขออภัยมา ณ ที่นี้ด้วยค่ะ ไม่มีเจตนาจะล่วงเกินแต่อย่างใด ***




หลับไปได้ครู่เดียวเองล่ะมั้ง ก็รู้สึกว่ามีใครมาจูบฉัน แล้วด้วยความเคยชินฉันก็เลยจูบกลับไป >///<

แล้วก็มารู้ตัวอีกทีว่าคนที่จูบฉันน่ะคือเธอนี่เอง - -^

แล้วในหัวมีแต่คำถามเต็มไปหมด

"จะยอมให้มันเกิดขึ้นเหรอ ? จะยอมเหรอ ? หยุดก่อนดีมั้ย ? จะกลับไปเป็นแบบที่เคยเป็นอีกมั้ย ?"

แต่คงเพราะฉันง่วงมั้งก็เลยคิดไม่ออกซะที จนกระทั่งเหตุการณ์เริ่มรุกหนักขึ้นเรื่อย ๆ ฉันก็เลยตัดสินใจได้ว่า

"หยุดเดี๋ยวนี้นะ"

ฉันก็เลยรีบผลักตัวเธอออกไปนิดหนึ่ง พร้อมทั้งบอกเธอซ้ำไปซ้ำมาว่า

"หยุดเถอะ ... หยุดนะ"

"ทำไมล่ะ ? เกิดอะไรขึ้นเหรอ ?" เธอถามอย่างงง ๆ ล่ะมั้ง ก็ฉันดูตอบสนองดีนี่นา - -^

ฉันซบหน้าลงกับหน้าอกของเธอ ก่อนที่จะตอบอย่างไม่รู้จะพูดยังไงดีว่า

"มันเร็วไปนะ"

แต่ฉันก็ดูเธอยังงง ๆ กับท่าที่ประหลาด ๆ ของฉันอยู่ ฉันก็เลยจำต้องเล่าเหตุการณ์ที่ทำให้ฉันตัดสินใจเลิกกับแฟนเก่า

"ที่กบเลิกกับเค้า เพราะตอนนั้นกบเข้าโรงพยาบาล หมอตรวจแล้วก็บอกว่าน่าจะแท้ง ... พอกบบอกเค้า เค้าพูดได้แค่ประโยคเดียวว่าเป็นไปไม่ได้ ๆ"

"แล้วยังไงอ่ะ พี่ไม่เข้าใจ ..." เธอย้อนถามอย่างงงจริง ๆ ... จะเล่าทำไมล่ะฟะ ... เธอคงคิดอย่างนี้ล่ะมั้ง

ตอนนั้นฉันง่วงจริง ๆ นะ สื่อเหตุผลที่อยากจะสื่อให้เธอรับรู้ไม่ออกจริง ๆ อ่ะ

"กลัวท้องหรอ ? ใช้ถุงยางก็ได้ เดี๋ยวพี่ไปหาก่อนนะ"

"โห ! มีติดห้องด้วย" ฉันอดที่จะแซวไม่ได้

"พี่เป็นผู้ชายนะ เกิดพาใครมามั่วจะได้ไม่เกิดอะไรขึ้นไง" เธอว่าอย่างนั้นด้วยสีหน้าราวกับเป็นเรื่องธรรมดาของผู้ชายสุด ๆ

แล้วจากนั้น เรื่องราวก็เกิดขึ้นต่อเนื่องจากตอนแรก ... แม้ว่าฉันพยายามที่จะห้ามอย่างไรก็แล้วแต่ ... สุดท้าย ก็ต้องปล่อยให้เกิดตามที่ควรจะเกิด

เธอหลับไปแล้ว แต่ฉันยังลืมตาโพลงอยู่ในความมืดพร้อมด้วยคำถามมากมายในหัว

... เธอทำแบบนี้ทำไม ? ... ทำไมเธอถึงทำแบบนี้กับฉัน ? ... เธอรู้สึกยังไงกับฉันกันแน่นะ ? ... ที่เธอทำแบบนี้เพราะรักฉันหรือเปล่า ? ... แล้วฉันล่ะ ปล่อยให้มันเกิดขึ้นได้ยังไงกันนะ ? ... ฉันรู้สึกอย่างไรกับเธอกันแน่นะ ? ... ร้อยแปดคำถามเต็มหัวไปหมด ก่อนที่จะหลับไปในที่สุดด้วยความอ่อนเพลีย

ตื่นมากลางดึก ฉันก็พบตัวเองอยู่ในอ้อมกอดของเธอ ... อดที่จะรู้สึกดีมากมายไม่ได้ ... ชอบจังที่ได้ตื่นมาในอ้อมกอดของเธอแบบนี้ ... รู้ไหม มันทำให้ฉันไม่รู้สึกเหงา และว้าเหว่อีกต่อไป ...

หลังจากนั้นไม่กี่วัน เธอก็เงียบเฉย และห่างเหินฉันออกไป

"ถามหน่อยสิ แบบจริงจังเลยนะ คืนนั้นทำไมพี่ตั้มทำกับกบแบบนั้นล่ะคะ ?" ฉันถามเขาทาง MSN ในค่ำวันหนึ่ง

แล้วเธอก็เรียกฉันไปคุยที่โต๊ะทำงานของเธอ

"คืนนั้น ... พี่ตั้มทำกับกบแบบนั้นทำไมอ่ะ ?" ฉันถามย้ำอีกครั้งหนึ่ง

"ก็แล้วทำไมอ่ะ ? ทำก็เพราะว่าอยากทำ รู้สึกดีที่ได้ทำ ทำไมเหรอ ?" เธอตอบพร้อมทั้งย้อนถาม

"เปล่า ..." ฉันปฏิเสธอย่างไทยแท้

... คำว่า "รัก" เธอจะไม่พูดเลยใช่ไหม ? อยากได้ยินคำตอบจากปากของเธอว่า เรื่องคืนนั้นที่เกิดขึ้นเพราะเธอรักฉันนะ ...

ตอนเย็นวันหนึ่ง ฉันขอติดรถเธอกลับบ้านด้วย และเธอก็ตัดสินใจมาส่งฉันที่รถไฟฟ้าจตุจักร

ระหว่างทางนั้นเอง มีอยู่ช่วงหนึ่งที่รถติดไฟแดงอยู่นานทีเดียว

"ขอหอมแก้มหน่อยดิ" เธอพูดขึ้นมา พร้อมทั้งยื่นหน้ามาใกล้ ๆ ฉัน

ฉันก็เลยเอียงแก้มข้างหนึ่งให้อย่างว่าง่าย

"อีกข้างด้วยดิ" เธอว่าต่อ แล้วฉันก็เอียงแก้มอีกข้างให้แต่โดยดีอีกครั้ง แล้วเธอก็หอมแก้มฉัน ก่อนที่จะจุ๊บปากเบา ๆ ทีหนึ่ง

ฉันนั่งบิดเขิน ๆ อยู่แป๊บนึง ก่อนที่จะบอกเธอเบา ๆ ว่า

"นึกว่าพี่ตั้มจะเบื่อกบแล้วซะอีก"

"ฮื้อ ... เบื่ออะไรกัน ยังไม่เบื่อซะหน่อย เพียงแต่เวลาและโอกาสมันไม่ได้นะ" เธอว่าเช่นนั้น

แล้วพอฉันนั่งรถไฟฟ้ากลับบ้าน เราก็คุยโทรศัพท์กันอีก และอดที่จะวกกลับไปคุยเรื่อง "คืนนั้น" ไม่ได้

"คืนนั้นกบรู้สึกดีมากเลยนะ" ฉันอดที่จะบอกเธอตรง ๆ ไม่ได้ ซึ่งเธอก็ตอบรับกลับมาแบบกวน ๆ

วันต่อมา ฉันก็ขอให้เธอไปส่งฉันอีก โดยที่เธอก็ไปส่งฉันที่รถไฟฟ้าอีกเช่นเคย และเธอก็หอมแก้มฉันอีกครั้ง ^^

หลังจากนั้น เราก็ยังได้คุยกันบ้าง สามสี่วันครั้ง


วันหนึ่ง ฉันลาพักร้อนเพื่อไปเที่ยวเขาค้อกับเพื่อน ๆ เธอก็โทรมาหาแต่เช้าทีเดียว

"อยู่ไหนน่ะ ?" เธอถามมาตามสาย

"อยู่เขาค้อ วันนี้กบลาพักร้อนไง" ฉันบอกอย่างงง ๆ ... ก็เคยบอกเธอไปแล้วนี่นาว่าจะลาพักร้อนไปเที่ยวกับเพื่อนน่ะ

แล้วคุยกันแป๊บเดียวก็วางสายไป ... เธอรู้ไหม ว่าฉันแอบดีใจนิดหน่อยนะ อย่างน้อยเธอก็สนใจฉันอยู่ คอยแอบมองว่าฉันมาทำงานหรือเปล่า ฉันอยู่ตรงไหน

หลังจากนั้นอีกราวครึ่งเดือน ... ฉันก็เริ่มรู้สึกว่าเธอห่างเหินฉันออกไปอีกครั้งหนึ่ง พร้อมกับการที่ฉันสังเกตเห็นเธอสนิทกับผู้หญิงอีกคนหนึ่ง

"ทำไมรู้สึกว่าช่วงนี้ห่างเหินจัง" ฉันทักเธอไปทาง Google Talk ในตอนเย็นวันหนึ่งก่อนเลิกงาน

"อืม ... กำลังเครียด ๆ อยู่นะ" เธอตอบมาเช่นนั้น

"อย่าถามอะไร อยู่ให้ไกล ๆ เข้าไว้เป็นดีที่สุด" เธอว่าต่อไป

"ขนาดนั้นเลย ?" ฉันย้อนถามต่ออย่างไม่รู้จะพูดอะไรดีไปกว่านี้

"อืม" เธอตอบสั้น ๆ

"เรื่องงานหรอ" ฉันอดที่จะถามอย่างเป็นห่วงไม่ได้

"เฮ้ย ไม่เข้าใจหรอ ... นึกว่าจะเข้าใจซะอีก"

แล้วน้ำตาฉันก็หยดแหมะทันที ... ฉันเป็นห่วงเธอนะ รู้ไหม ?

ฉันหายไปร้องไห้อยู่ครู่หนึ่ง ก่อนที่จะขอโทษเธอแต่โดยดี



แล้วหลังจากนั้น เราก็คุยกันน้อยลง พร้อมกับที่ฉันสังเกตเห็นความสนิทสนมของเธอกับผู้หญิงคนนั้นมากขึ้นทุกวัน ๆ

และความคลางแคลงใจในตัวเธอก็มีมากขึ้นทุกวัน ๆ เช่นกัน

"กบไม่เบื่อพี่ตั้มนะ แต่กบไม่รู้ว่ากบอยู่ในฐานะอะไรอ่ะ" ฉันบอกเธออย่างที่ฉันคิดทาง Google Talk ในตอนค่ำวันหนึ่ง

"พี่ก็ไม่ได้เบื่อ พี่ก็ไม่รู้ว่าอยู่ในฐานะอะไร แต่พี่ก็ไม่เคยคิดจะถามใครนะ" เธอตอบมาอย่างนั้น ทำเอาฉันอึ้งกับคำตอบของเธอไปพักใหญ่

ฉันแค่อยากได้ยินจากปากของเธอว่าเราเป็น “แฟน” กัน หรือไม่ได้เป็นอะไรกันเลย ... แค่นั้นเอง

เย็นวันหนึ่ง ฉันหยิบ Chat log ของ MSN นับตั้งแต่เรารู้จักกันมาอ่านทบทวนอีกครั้งหนึ่ง ... ฉันอ่านจนจบ ก่อนที่จะรีบปิด และรีบวิ่งเข้าห้องน้ำร้องไห้ทันที

... ทำไมฉันไม่รู้ตัวเลยว่าเธอกำลังจีบฉันอยู่ ? ทำไมฉันรู้สึกตัวช้าอย่างนี้ว่าฉันรักเธอเข้าแล้ว ? ทำไม ... ทำไม ... ทำไม ... ?

หลังจากนั้น ฉันก็เริ่มที่จะเปิดเผยความรู้สึกของฉันเองมากขึ้น ด้วยการโทรศัพท์ไปหาเธอก่อนบ้าง ทักทายเธอทาง MSN ก่อนบ้าง

ฉันทำแบบนั้นอยู่ครู่ใหญ่ ... แต่ความรู้สึกของฉันก็ยังไม่ดีขึ้น และความสัมพันธ์ของเราก็ยังไม่ดีขึ้นเลยแม้แต่นิดเดียว

ตอนค่ำของวันศุกร์วันหนึ่ง ฉันเดินลงจากตึกเพื่อที่จะเดินออกจากออฟฟิศเพื่อที่จะกลับบ้านนั้นเอง ฉันก็สังเกตเห็นเธอและผู้หญิงคนนั้นกลับบ้านไปทางเดียวกันโดยรถคนละคัน

... ผู้หญิงคนนั้นอีกแล้ว ...

... ไปส่งที่รถบ่อย ๆ ... กินข้าวด้วยกันบ่อย ๆ ... พูดคุยกันบ่อย ๆ ... หายไปด้วยกันสองต่อสองบ่อย ๆ ... รองเท้าแตะในออฟฟิศก็เป็นแบบเดียวกัน ... วางไว้ใกล้ ๆ กัน แถมบางวันก็ยังวางไว้ในล็อกเกอร์ช่องเดียวกันอีกด้วย ...

... และตอนนี้ เธอก็ขับรถนำเค้าไปส่งที่บ้านของเค้า และเป็นคนละทางกับบ้านของเธอด้วย ยกเว้นแต่ว่าเธอจะกลับบ้านที่ต่างจังหวัดของเธอ ...

วูบนั้นฉันรู้สึกเจ็บแปลบที่หัวใจขึ้นมาทันที ... เพื่อนร่วมงานเค้าทำกันแบบนี้เหรอ ? ไม่ใช่แล้วล่ะ ... มันเกินคำว่า “เพื่อน” ไปแล้วนะ

ฉันต้องยอมรับความจริงที่ว่า ... ฉันไม่ใช่ "คนพิเศษ" ของเธออีกแล้ว

ผู้หญิงคนนั้นเป็น "แฟน" ของเธอสินะ ?

แล้วกับฉันล่ะ ? ฉันอยู่ในฐานะอะไร ?

ฉันเก็บความสงสัยนี้ไว้อยู่นานจนรวบรวมความกล้าโทรศัพท์ไปถามเธอในตอนค่ำวันหนึ่ง

"พี่ทำดีกับกบแบบนี้ทำไม ?" ฉันเริ่มเรื่อง

"พี่ก็ทำดีกับทุกคนนะ ใครดีมาพี่ก็ดีตอบ" เธอย้อนกลับมา

"ไม่ ... หมายถึงว่าทำดีเกินกว่าเพื่อนร่วมงานอ่ะ" ฉันพยายามจะสื่อว่าเธอจะมาจีบฉันทำไม แต่ก็ไม่กล้าพูดตรง ๆ

"แล้วแรก ๆ กบเห็นพี่เป็นแค่เพื่อนร่วมงานเหมือนกันไม่ใช่เหรอ ?" เธอย้อน

"ก็ใช่ ..." ฉันตอบรับอย่างหงุดหงิดเล็ก ๆ ทำไมเธอไม่เข้าใจสิ่งที่ฉันจะสื่อนะ ? ...

"พี่ตั้มกับพี่นุ่นเป็นแฟนกันหรอ ?" ฉันตัดสินใจถามตรง ๆ ซะเลย

"เฮ้ย ... อะไรเนี่ย วัน ๆ ไม่มีจะคิดเรื่องอื่นหรือไง คิดแต่เรื่องพวกนี้เนี่ยนะ ?" เธออดที่จะเอ็ดฉันไม่ได้

"ก่อนหน้านี้พี่เคยบอกแล้วใช่ไหม ว่าพี่เป็นอะไรอยู่ พี่เครียดอยู่ ไม่เข้าใจเลยใช่มั้ย ?" เธอถามต่ออย่างซีเรียสมาก

"ก็อยากรู้ ก็เลยถาม" ฉันตอบอ่อย ๆ ... ฉันไม่รู้จริง ๆ นะว่าเธอเครียดนานขนาดนั้น นึกว่าเธอจะหายเครียดแล้วนี่นา ...

"เอ้า เอาเลย อยากถามไรก็ว่ามา" เธอตัดบทรำคาญ

"พี่ตั้มกับพี่นุ่นเป็นแฟนกันหรอ ? อยากรู้แค่นี้แหละ" ฉันย้ำประโยคเดิม

"แล้วคิดยังไงล่ะ ?" เธอย้อนถาม

"ก็ .... เป็นแฟนกัน ..." ฉันตอบแบบคิด ๆ

"ก็แล้วแต่จะคิด กบคิดยังไงก็ตัดสินด้วยสายตาของกบไปแล้วนี่ จะมาอยากรู้อะไรอีก ?"

"ก็อยากรู้แค่นี้แหละ"

"ก็แล้วแต่กบจะคิดละกัน คิดว่าใช่ก็ใช่ ถ้าคิดว่าไม่ใช่ก็ไม่ใช่ รู้แล้วแล้วความสัมพันธ์มันจะแย่ลงมั้ยล่ะ ?"

"ก็ไม่นะ กบก็เฉย ๆ นี่ ก็ไม่ได้อะไรซักหน่อย"

"ไหนกบบอกว่ากบไม่ใช่คนดีไง ?"

"ก็ไม่ใช่ ... ถ้าเป็นคนดีจริง ป่านนี้ร้องไห้โฮไปแล้วล่ะ แต่นี่ก็ยังเฉย ๆ อยู่เล้ย" ฉันทำเป็นปากแข็ง ปากเก่งไปอย่างนั้นเอง

พอวางหูโทรศัพท์ลง คำถามมากมายก็เริ่มก่อขึ้นในหัวอีกครั้งหนึ่ง ...

... ตกลงนี่มันยังไงกันแน่ ? ที่ผ่านมามันคืออะไรกันนะ ? เธอแค่หลอกใช้ฉันเหรอ ? เธอเห็นความรู้สึกของฉันที่มีให้เธอเป็นเรื่องสนุกงั้นเหรอ ? เธอไม่เคยรู้สึกอะไรกับฉันเลยสินะ ใช่ไหม ? ...

ถึงเวลาที่ฉันจะต้องทำใจ และต้องยอมรับความจริงแล้วสินะ

"เธอไม่เคยรักฉันเลยแม้แต่น้อย"

แต่ถึงอย่างนั้น ... ฉันก็ยังรักเธออยู่ดี

นับจากวันนี้เป็นต้นไป ฉันจะเข้มแข็งขึ้น จะเลิกสนใจเธอแล้ว จะตัดความรู้สึก "รักเธอ" นี้ออกไปให้ได้ แม้ฉันจะเป็นคนเลวแค่ไหน แต่ก็ไม่อยากเป็นคนเลวที่รักเธอแบบนี้ ขอเป็นคนดีแม้ไม่มีใครต้องการดีกว่า


...

มือที่กำลังจรดคีย์บอร์ดคอมพิวเตอร์ชะงักไปน้อย ๆ ก่อนที่จะถอนหายใจอย่างเพลีย ๆ แล้วค่อย ๆ หลับตาลงอย่างช้า ๆ พร้อม ๆ กับหยดน้ำใส ๆ ไหลรินจากนัยน์ตาทั้งคู่เป็นทางยาว

เมื่อไหร่นะ ... ที่ความเจ็บปวดแบบนี้จะหายไปเสียที ?



ฉันจะจดจำไว้ว่า ...
ครั้งหนึ่งที่ฉันเคยได้รักเธอ
ครั้งหนึ่งที่ฉันเคยเจ็บปวดเพราะรักเธอ
ครั้งหนึ่งที่ฉันร้องไห้เพราะรักเธอ
ความทรงจำ 4 เดือนที่แสนสั้น ... ที่ฉันได้รักเธอ ... จะจบลงตรงนี้
ขอให้เรื่องนี้เป็นเสี้ยวหนึ่งของความทรงจำ เป็นบทเรียนที่มีค่าของฉันตลอดไป ...


- E N D -






keigo talk : หวัดดีคะ ไม่ได้มาอัพเรื่องสั้นเสียนาน มาคราวนี้กลายเป็นเรื่องสั้น 2 ตอนจบ จริง ๆ กะว่าแค่ตอนเดียวก็พอ แต่พอเติมนั่นเติมนี่เข้าไป ก็เลยกลายเป็น 2 ตอนซะงั้น ...

ตอนแรกคิดอยู่นานเหมือนกันว่าจะเอามาอัพดีมั้ย ... เป็นเรื่องที่แต่งจบภายใน 3 - 4 วันเองอ่ะค่ะ เป็นเรื่องที่เขียนได้ใช้เวลาน้อยที่สุดเลย แต่ก็เป็นเรื่องที่แต่งด้วยความประณีตมากเหมือนกัน ทวนแล้วทวนอีก ... แก้แล้วแก้อีกจนออกมาได้แบบนี้ ก็คงเป็นเพราะว่า "ขอให้เรื่องนี้เป็นเสี้ยวหนึ่งของความทรงจำ เป็นบทเรียนที่มีค่าของฉันตลอดไป ..."

อ่านแล้วชอบไม่ชอบตรงไหน ขัดใจตรงไหน ติติงได้เต็มที่เลยนะคะ ไม่ต้องเกรงใจค่ะ

edit on 25/02/09 : แวะมาเพิ่มเติมข้อความบนหัวเรื่องนิดหน่อย เพราะเพิ่งนึกขึ้นได้ว่าสถานที่มีจริง ๆ นี่นา เหอ ๆ




Create Date : 16 กุมภาพันธ์ 2552
Last Update : 25 กุมภาพันธ์ 2552 9:09:40 น. 8 comments
Counter : 690 Pageviews.

 
ถามก่อน..ตกลงเป็นเรื่องสั้น หรือเรื่องจริง

เพราะถ้าเป็นเรื่องจริง พี่ขอคอมเม้นท์ (ตรงๆ) ดังนี้

ผู้ชายคนนี้ไม่ใช่คนดี และใช้วิธีต่างๆ เพื่อหวังเรื่องอย่างว่าแค่นั้นแหละค่ะ

รอดพ้นมาได้ ก็นับว่าบุญแล้ว

อย่าเอาใจของตัวเองไปผูกกับคนเลวๆ พรรณนี้ จริงๆ นะ

คนอย่างนี้ไม่เห็นค่าความรักของใครหรอก นอกจากความรู้สึกของตัวเอง



ไม่รู้ว่าจะทำร้ายจิตใจไปมั้ย แต่คนที่อยู่ในสถานการณ์เอง จะทำใจลำบาก เพราะรักเขาแล้ว

แต่คนอย่างนี้ ไม่คู่ควรกับความรักของใครค่ะ


โดย: สาวไกด์ใจซื่อ วันที่: 17 กุมภาพันธ์ 2552 เวลา:10:03:17 น.  

 
เอ่อ... ตามมาจากบล็อคคุณสาวไกด์ครับ

ขออนุญาตบอกในฐานะผู้ชายครับ ว่าที่คุณสาวไกด์พูดน่ะถูกแล้ว

เป็นกำลังใจให้นะครับ เข้มแข็งไว้ เดี๋ยวก็ผ่านไปได้


โดย: แฟนผมฯ IP: 202.134.119.218 วันที่: 17 กุมภาพันธ์ 2552 เวลา:15:59:36 น.  

 
^
^
อ้าว..มาด้วยซะงั้น แต่ก็ดีค่ะ อยากรู้เหมือนกันว่า ผู้ชายเค้าคิดอย่างไรกัน


เคโกะ

อวยพรให้ทำใจได้ไวๆ นะคะ ไปทำบุญเยอะๆ อุทิศส่วนกุศลให้เจ้ากรรมนายเวรนะ อะไรที่มันทำให้เราเจ็บปวดอยู่ บั่นทอนเราอยู่จะได้หายไปไวๆ นะจ๊ะ

หวังว่าบทเรียนนี้จะทำให้เราไม่เจ็บปวดอีกต่อไปในอนาคตนะ


โดย: สาวไกด์ใจซื่อ วันที่: 18 กุมภาพันธ์ 2552 เวลา:9:47:08 น.  

 
ขอบคุณนะคะคุณแฟนผมฯ ที่แวะมาบล็อกเคโกะด้วย ^^ ขอบคุณสำหรับกำลังใจมากนะคะ ตอนนี้กำลังฝึกฝนร่างกายให้เข้มแข็งค่ะ ^^

ส่วนพี่สาวไกด์ฯ เดี๋ยวแวะไปตอบที่บล็อกเน้อ ..


โดย: :D keigo :D วันที่: 19 กุมภาพันธ์ 2552 เวลา:9:13:05 น.  

 
สวัสดีอีกรอบนะ

อืมม์..การทำบุญ ถ้าได้ตักบาตรบ้างก็ดี แต่การรักษาศีล ก็เป็นการทำบุญอีกแบบนะ รักษาศีล ทำจิตใจให้สงบ ผ่องใส สวดมนตร์บ้าง น่ะจ้ะ


โดย: สาวไกด์ใจซื่อ วันที่: 19 กุมภาพันธ์ 2552 เวลา:17:43:01 น.  

 
....ผ่านเข้ามาค่ะ.....ยอมรับนะว่าเป็นคนความอดทนสั้น..ถ้ามีผู้ชายมาทำแบบนี้กับเรา...เขาคงนั้นคงจะหายใจไม่สงบแบบที่เป็นอยู่หรอกค่ะ........เข้มแข็งนะคะ...เวลาจะช่วยเยียวยาทุกอย่าง.......


โดย: mangotip IP: 118.173.239.217 วันที่: 21 กุมภาพันธ์ 2552 เวลา:20:05:12 น.  

 
แวะผ่านมาเช่นกัน

เข้มแข็งไว้นะคะ...เป็นกำลังใจให้ค่ะ

ผ่านไปให้ได้นะคะ...สู้ๆค่ะ ^^


โดย: Tigger IP: 125.26.32.137 วันที่: 22 กุมภาพันธ์ 2552 เวลา:21:32:48 น.  

 
ขอบคุณสำหรับทุกกำลังใจคะ



โดย: :D keigo :D วันที่: 24 กุมภาพันธ์ 2552 เวลา:18:48:07 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 
 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.