"Just an odinary living retained by the breath of life , in the running world of timeless stream." "เพียงหนึ่งชีวิตที่ถูกพันธนาการไว้ด้วยลมหายใจบนโลกที่ลื่นไหลในท้องธารแห่งกาลเวลา"
<<
กุมภาพันธ์ 2550
 123
45678910
11121314151617
18192021222324
25262728 
8 กุมภาพันธ์ 2550

08 02 07 การปล่อยให้น้ำตาไหล...ทางปากไหลเป็นทางสายมรณะ



เดือนนี้ก็เดือนสองฉลองรัก พอดี๊พอดี
ว่ากันเลยกับข่าวของช่วงนี้แหมๆๆๆๆ เด๋วตกเทรนด์
ก็สิเปลี่ยนคนทำงาน แล้วจะได้งานหรือไม่นั้นติดตามกันไป
ต่างคนก็ต่างเข้าข้างพวกพ้องตนอยู่แร๋นนนนน ... จาทำไรใครได้
กล้าว่ากล้าด่า คนอื่นเค้า... แต่ก็นะ ตามกลิ่นพิสูจน์กันต่อไป
ขึ้นจากน้ำเมื่อไหร่ เจอกัน
ก้าวซ้าย ก้าวขวา เหลียวหลัง ระวังไวให้ดีเถอะ
ไม่ได้ขู่พี่ผมไม่ได้ขู่ใคร
เพราะกรรมให้ก็กำมัน ตามไม่ทันวันนี้ แต่คงมีสักวันที่ตามทัน

ฟ้าสวยดินหอมน้ำใส...เหมือนอยู่ที่นั่นจริงๆ
เปล่าหรือครับแค่จิ๊นต๊ะนาก๊านเอ๊าครับ
ความรู้สึกอยากทำปาบแต่เช้าเลย อยากไปตกปลา
ก่อไฟ เผาไอ้ปลาโชคร้ายมากิน
บางวันก็เถื่อนอย่างนี้ล่ะ
แหม...ก็รู้ๆกันอยู่ว่าอดข้าวอดน้ำไม่ได้
ร่างกายออกจะ พลุ้ยๆยุ้ยๆ เดินปุ่งปุ้ย ส่ายไปส่ายมา
พูดถึงเรื่องเดินนะ ... พุงเนี่ยะ หนักนะ
เดินน่ะไม่ได้อยากจะเดินท่านี้เรย มันออกจะดูนักเลง ไม่เกรงใคร
แต่ถ้าไม่ตั้งบ่าให้ตรงไว้นี่ พุงนี่ถ่วงเอาหน้าทิ่มได้เลยนะขอบอก
อย่างพื้นลาดชันนี่ ขึ้นก็แบกน้ำหนักตัวนะ ยิ่งเวลาเดินลงโห แอ่นแอนแอ๊นโครด
นะโปรดเห็นใจ ว่าแต่เย็นนี้จะกินไรกันดี
เที่ยงๆไม่ต้องคิดเพราะที่ออฟฟิต จัดให้

เย็นนี้เตรียมตัวเตรียมใจ จะไปออกกำลังกาย
ก็เมื่อวันอังคารไปมาแล้ว หลังจากที่สมัครทิ้งไว้นาน
เค้าก็ถามว่าไปได้เมื่อไหร่ ช่วงนี้คนเจแป๋น เค้าไม่กล้ามา
สถานการณ์ไม่ค่อยดี ระเบิดที่นั่น ถูกยิงที่นี่ ไม่เอากลัว
เมื่อวันอังคารเลยไปซะที นัดกันอีกทีก็วันนี้
แต่โหผลของการไปอ่ะนะ คืนนั้นยังไม่ค่อยรู้สึกอะไร
มารู้สึกอีกทีตอนที่ หัวเราะ กะ ไอแค่กๆ เฮ้ย ทำไมเจ็บพุงนะนี่
ออกฤทธิ์ขึ้นมาเชียวร่ะ ... นี่ก็ยังนั่งเจ็บอยู่
แต่มันก็ต้องซ้ำไม่งั๊นนะมันไม่หายยยยยยย
ต้องทำให้มันชิน ดูจิ๊ว่า จะเอาพุงเราออกได้ป่ะ
กีย์นะ สะสมมาตั้งเป็น สิบๆปีแล้ว
ตั้งแต่ มัธยมปลาย จริงๆแล้วเป็นคนไม่อ้วนนะติดจะผอมซะด้วยซ้ำไป
ตอนเด็กๆอ่ะน้ำหนักไม่ถึงเกณฑ์ด้วย แม่ยังบ่นว่าดดนคุณหมอดุอยู่เรย
แล้วก็พาไปหาหมอว่าจะทำไง ลูกไม่กินข้าว
ก็เล่นมันอย๋างเดียว วิ่งไล่กับน้องบ้าง น้องไม่เล่นก็ไปไล่กับหมา
บ้าหนังจีนกำลังภายใน แล้วยังจะเล่นผจญภัยมัวเอาจิ๊นต๊ะนาก๊านไปเรื่อย
น้องสาวเล่นขายข้าวแกง เราเล่นเป็นคนซื้องี้ เบื่อนี่หว่าไม่เอา
แกล้งน้องทำตัวนักเลงเลย กินไม่จ่ายตังค์เฟ้ย
ทะเลาะกะแม่ค้า ทะเลาะไปทะเลาะมา ดั๊นทะเลาะกันจริงๆ แป่ว
น้องร้องไห้ พี่ร้องไห้ ไม่เล่นด้วยแล้วเดินจากไปแยกกันคนล่ะมุม
เฮ้อ! แล้วเวลาก็ผ่านไปไวเหมือนโกเช็ด (ไม่โกหกเพราะสกปรกเกินไป)
สรุปว่า ก็หายาบำรุงมาให้กิน ยาถ่ายพยาธิจนป่วยไม่มีอะไรเหลือในท้องเลย
แต่แล้ว เหตุการณ์ที่ทำให้อ้วนก็เกิดขึ้น ...
ฉากบ้านเก่าๆหลังนึง มีใต้ถุนบ้าน ซึ่งด้านหลังกั้นเป็นห้องครัว
ตรงประตูครัวก็มีหมาโดเวอร์แมน ตัวผู้โตเกินวัย ชื่อไอ้โทน
นอนรอหมดวันอย่างเบื่อหน่าย
ที่ด้านนอกห้องครัว มีโต๊ะทีวี เตียงนอนดูทีวี
แล้วก็อย่างที่บอกเป็นใต้ถุน ย่อมมีเสาบ้านเยอะ
(เอาไว้เล่นลิงชิงหลัก ... รุจักกันป่าววววววว)
ทีนี้โต๊ะทีวีน่ะอยู่ชิดกะเสา แล้วเตียงต่างเนี่ยะ
ก็ห่างจากโต๊ะทีวีประมาณ 1 เมตรเอาไว้นั่งดูนอนดูทีวีได้
ระหว่างพัก คา-สะ-โนช โฆษณา ก็รีบวิ่งเข้าไปเอาข้าวมากิน
(เพราะถ้าไม่เอามากินมีหวังยายจะเอามาราดหัวเพราะสายมากแล้ว)
แล้วพอตักข้าวเสร็จจะรีบมาดู (รายการอะไรก็ไม่รุจำไม่ได้แร้ว)
แต่ดีนะยังไม่ได้หยับจานออกมาด้วย(เพราะอะไรนี่ลืมไปแล้ว)
วิ่งออกมาจากครัวคุณโทนก็วิ่งตามแล้วกีย์ก็เสี้ยวจะไปนั่งที่เตียง
คุณโทนชนท้ายล้มลงไปนอน ไอ้กีย์หัวเข่าชนเปรี้ยงเข้ากับเหลี่ยมเสา
ลงไปนอนดิ้นชักแหง่กๆๆๆๆๆๆ ร้องลั่นบ้านยายถือตะหลิ่วออกมาดู
คุณโทนลุกขึ้นมามองไอ้กีย์นอนดิ้น ไอ้กีย์แค้นสิครับ โมโหโครด
ค่อยๆ กระเสือกกระสนยันตัวลุกขึ้น พอตั้งหลักได้
ถีบคุณโทนไปอีกเปรี้ยง แรงมากคุณโทนล้มลงไปนอนอีกครั้ง
แต่พอลุกได้ก็ค่อยๆเดินเข้ามาหาไอ้กีย์
ไอ้กีย์นั่งเฉยๆเริ่มหายเจ็บ เห็นคุณโทนเข้ามาหา เอาคางมาเกยตัก
ก็สำนึกได้ว่า คุณโทนรักไอ้กีย์อยากเล่นกับไอ้กีย์มากเลยวิ่งตามออกมา
คิดว่าไอ้กีย์เพื่อนรักจะเล่นด้วย แต่พอรู้ว่าไอ้กีย์ไม่ได้เล่นด้วยและทำให้ไอ้กีย์เจ็บ
คุณโทนก็คิดว่าจะต้องรักไอ้กีย์มากขึ้นกว่านี้จะได้เข้าใจไอ้กีย์
เพราะไม่งั๊นเด๋วมันจะถีบเอาอีก นึกได้อย่างนั้นไอ้กีย์ทรุดตัวลงไปนั่งที่พื้น
กอดไอ้โทนแน่น แม้จะเจ็บเข่า(อิ๊บอ๋าย) ไอ้กีย์ไมได้ไปหาหมอ
กีย์อดทนอยู่สองวัน อาการไม่ดีขึ้นก็เลยไปหาหมอ คุณหมอก็บอกว่ายังเดินได้
เอ่อ ... ทราบแล้วว่ายังเดินได้ แต่หนู่เจ็บ(โว๊ย)ค่ะ
... เอายาไปทา เดินน้อยๆ เข่ายังบวมอยู่ อีกอาทิตย์ ถ้าไม่หายให้มาหาหมออีกที
ทายาทุกวัน ไม่ค่อยได้เดิน แล้วมันเป็นไตแข็งบวมๆ ตรงหัวเข่า
ผ่านไป หนึ่งอาทิตย์ ที่บวมๆน่ะหายแล้ว แต่ที่แข็งเป็นไตเวลากดเจ็บนี่ยังอยู่
หมอก็เอายาไปทาต่อ...แค่นี้หรอหมอ แล้วให้หนูมาหาทำไม
หลังจากนั้นก็ไม่ไปหาหมอคนนี้อีก แล้วก็ไม่ได้ไปหาหมอที่ไหนด้วย
เพราะคิดว่ามันคงจะหายเองง่ายๆ ผ่านไปปี ก็ยังเดินเป๋อยู่
น้าๆ ยาย แม่ ก็จะคอยบอกว่าอย่าเดินมาก อย่าซน(ม.ปลายแล้วยังซนอยู่เลย)
เรียนวิชาพละ ก็ต้องนั่งดูเพื่อน ลงไปวิ่งได้ไม่นานก็ต้องกลับมาพักขา
ทีนี้...ไม่ค่อยได้เอาอะไรที่กินเข้าไปออก ... มันก็เริ่มสะสม
แล้วที่หนักกว่าอะไรทั้งหมดคือ น้าจะไม่ค่อยยอมให้เราเหงื่อออก
พอกีย์ทำให้เหงื่อออก น้าก็จะเรียกไปอาบน้ำ ไปนั่งเป่าพัดลม...งิ
แล้วมันก็เริ่มสะสมอย่างรวดเร็ว ตกปีล่ะ 5 กิโล จบม.ปลายด้วยน้ำหนัก 60 กิโล.
(แหมช่างเป็นอะไรที่น่าภาคภูมิใจเหลือเกิน)
ทุกๆคนเห็นด้วยว่ากีย์เริ่มอ้วนแล้ว ... แต่กระนั้นก็เกินเวลาเสียแล้ว
ตอนนี้ ... ผ่านจากม.ปลายมา 10 ปี น้ำหนักอยู่ที่ 75-80 กิโล.(ขึ้นอยู่กับการกิน)
เท่ากับโดยเฉลี่ยน้ำหนักขึ้น 2 กิโลต่อปี ... ทำไมมันไม่ลงเลยว๊าาาาาา

แต่ช่างเถอะเรื่องมันผ่านไปแระ
ตั้งแต่บัดนี้สืบไปเบื้องหน้า
ข้าพเจ้าจะถือว่าไขมันเป็นอริศัตรู
จะไม่ยอมให้ความอ้วนได้สิงสถิตย์อยู่ตรงนี้อีกนานนัก
ข้าพเจ้าจะปลดเปลื้องไขมันเพื่อสุขพลานามัยของตัวเองนับจากนี้
(เวอร์ไปป่ะครับพี่)

ยาวไปแร่ะ ไปทำอย่างอื่นอีก
แค่จะมาบอกว่า
การปล่อยให้น้ำตาไหล...ทางปากไหลเป็นทางสายมรณะ จริ๊งจริ๋งงงงงงงงง



Create Date : 08 กุมภาพันธ์ 2550
Last Update : 8 กุมภาพันธ์ 2550 13:54:28 น. 1 comments
Counter : 579 Pageviews.  

 


ส่งดอกกุหลาบมาให้จ้า


โดย: nakwan6 วันที่: 8 กุมภาพันธ์ 2550 เวลา:19:37:19 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิกช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

ปลุ่ย
Location :
ชลบุรี Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?]




[Add ปลุ่ย's blog to your web]