นังนู๋ ใบชาร่วมกับจักษุแพทย์ bigeye เลือกใส่อย่างไรให้สวยและปลอดภัย ลดการตาบอด ตอนที่1

มีแจก บิ้กอาย ในเพจ ด้วยนะคะ





ตั้งใจทำตลิปนี้ เพื่อลด ปริมาณ การติดเชื้อและสูญเสียดวงตา ในเด็กวัยรุ่น ที่มีปริมาณมากๆ ขึ้นทุกวัน
ถ้ามีประโยชน์ ช่วยกดถูกใจให้ด้วยนะคะ ขอบคุณค่า
คลิปที่ ร่วมกับ จักษุแพทย์ หลายๆท่าน  เกิดเนื่องมาจาก ปัจจุบัน มีคนไข้ สาวๆ วัยรุ่น ที่ ติดเชื้อมาจาก  การใช้คอนเทคเลนส์ และ big eye อย่างไม่ถูกวิธี   และ ใช้ big eye ที่ไม่ผ่าน อย
มา รพ กัน มากมายทุกวัน บางคนมานอนรพ เป็น เดือนๆ โชคร้ายคือ ถึงขั้นสูญเสียดวงตา กันไปเลยทีเดียว
คลิปนี้ นู๋ ใบชา ตั้งใจ พูดมากๆ นั่งท่อง นั่งทำความเข้าใจข้อมูลทั้งหมด ใช้เวลา นานมากๆ เพราะหวังว่าจะเป็น ประโยชน์ แก่ คนหลายๆคน มาก ไม่ว่าจะเป็นตัวท่านเอง หรือ บุตร หลานของท่าน หรือคนใกล้ชิด  
ถ้าเป็นว่ามีประโยชน์ ช่วยกันฟัง และกดถูกใจให้ด้วยนะคะ

สำหรับคลิปหน้า  ถ้างบไม่มากแต่ยังติดที่ต้องใส่บิ้กอาย ใส่รายวันไม่ไหว  ทำไงดี จะใส่รายเดือนได้ อย่างปลอดภัย ติดตามคลิปหน้านะคะ


เรื่องเกี่ยวกับ contact lens ค่าาา ขอย่อว่า CL นะคะ
ชนิด CL แบ่งง่ายๆ เป็น 2 ชนิดค่ะ (จริงๆมี 3 คือ hard CL, Rigid gas permeable (RGP), และ Soft CL) แต่ว่า hard ไม่มีใช้แล้ว เหลือ RGP กับ soft CL ซึ่งเค้าจะเรียกง่ายๆว่าแบบแข็งและแบบนิ่ม แบบเข็งจะอันเล็ก ไม่สบายตา ใช้แก้ไขสายตาในโรคตาบางอย่าง ต้องสั่งตัดในโรงพยาบาล ส่วนแบบนิ่มคือที่ใช้ทั่วไป หาซื้อง่าย ใส่ง่าย ขอบอกเรื่องแบบนิ่มเป็นหลักนะคะ
1.Soft CL มีแบบไหนบ้าง
- แบ่งตามการใช้งานจะมีรายวัน, 2 สัปดาห์, 1 เดือน และเป็นปี ขึ้นอยู่กับสารที่ผลิตและเกี่ยวกับการสะสมน้ำในตัว จะบอกเป็นค่า DK ยิ่งน้ำมากก็ Oxygen ผ่านดี เวลาใส่จะสบายตากว่า รายวันน้ำจะเยอะกว่า แต่ที่ต้องระวังคือมันชอบมีน้ำในตัวเองมาก จะดูดน้ำจากกระจกตาไป เราต้องหยอดน้ำตาเทียมให้ตาเราไม่แห้งเกิน และแบบรายวัน ด้วยความที่มันมีน้ำสะสมมาก จะทำให้คราบโปรตีน เชื้อโรคสะสมเช่นกัน จึงใส่ได้แค่รายวัน ไม่ให้ใส่เกินค่ะ รายสัปดาห์และรายเดือน ปริมาณการสะสมน้ำก็จะลดไป ทำให้ Oxygen ผ่านน้อย ไม่สบายตาเท่ารายวัน แต่ก็ใช้ได้นานกว่า ถ้าให้แนะนำ หมอตาทุกคนอยากให้ใช้รายวันค่ะ ราคาตอนนี้ถูกลงเยอะ ใช้แล้วปลอดภัย ไม่ต้องห่วงเรื่องการทำความสะอาด ^^
- ถ้าแบ่งตามเรื่องแฟชั่น อาจจะแบ่งเป็น CL แก้ไขสายตาธรรมดา และกลุ่ม big eye อันที่แก้สายตาธรรมดาความกว้างจะประมาณ 11.5 mm ซึ่งจะเลยขอบตาดำเล็กน้อย ทำให้คงอยู่ ไม่หลุดง่าย วัสดุจะเป็นแบบเดียวกันทั้งชิ้น น้ำและอากาศผ่านได้ดี ถ้ากลุ่ม big eye จะเป็นสีๆ มีลวดลาย ขนาด 13-15 mm การที่ใหญ่ ทำให้บังการผ่านของอากาศและน้ำ ทำให้กระจกตาขาด oxygen ได้ง่ายกว่าและเกิดปัญหาตามมา นอกจากนั้นหลักการผลิต big eye ส่วนใหญ่จะใช้หลักการคล้ายๆแซนวิส เป็นแผ่นสีลวดลายอยู่กลาง ขนาบด้วยวัสดุคล้ายแบบปกติอยู่หน้าหลัง ทำให้หนากว่าแบบธรรมดา ยิ่งทำให้น้ำและ oxygen ผ่านยากไปอีก ดังนั้นถ้าจะใส่ big eye จะต้องใส่ไม่นานเท่าแบบธรรมดา เพื่อลดผลข้างเคียงจากการขาด oxygen
2.อยากจะเลือกซื้อ CL เลือกยังไง
- อย่างแรกคือรู้จักมันก่อน และเลือกตามความต้องการใช้งาน ดูแบบรายวันก่อน ดีกว่า ถ้าแบบอื่นต้องรู้จักการทำความสะอาดด้วย ถ้าจะใส่แบบสี ใส่ big eye ต้องรู้ข้อจำกัดอย่างด้านบนก่อนที่คิดจะใส่
- เลือกยี่ห้อไหน : ต้องบอกว่าแล้วแต่สะดวกหาซื้อเลย แต่ต้องรู้ว่าความโค้งแต่ละยี่ห้อเป็นยังไง ขนาดเท่าไหร่ มีเบอร์ที่เราต้องการหรือไม่ โดยสิ่งเหล่านี้จะรู้ได้ต้องไปตรวจค่าสายตา ค่าความโค้งกระจกตา ถ้าตรวจกับหมอตาจะบอกเบอร์และความโค้งได้แน่ๆ แต่คนส่วนใหญ่ไม่รู้ว่าควรจะไปตรวจ มักจะเดินไปร้านแว่นเลย ถ้าเจอร้านดีๆ เข้าใจเรื่องพวกนี้เค้าจะดูให้ได้และช่วยแนะนำให้ได้ ถ้าเจอร้านที่จะขายอย่างเดียวก็อาจจะได้ CL ที่แน่นหรือหลวมเกินไป สุดท้ายก็จะมีปัญหาการใส่
- เลือกเบอร์อะไร เท่ากับแว่นสายตามั้ย : ใกล้เคียง แต่ไม่เท่ากัน ถ้าสั้นหรือยาวไม่มากจะพอๆกับค่าที่วัดแว่น ถ้าสั้นหรือยาวมากๆค่าจะเปลี่ยน มีวิธีการคำนวณ แนะนำให้คนสายตาเยอะๆไปหาหมอตาแนะนำค่าที่ควรใส่ดีกว่า
- ต้องใส่สายตาเอียงมั้ย : ปกติ CL จะแก้สายตาเอียงได้ประมาณ 50 ด้วยชั้นน้ำตาระหว่าง CL กับกระจกตาเราเอง ถ้าเอียงมากกว่านี้อาจต้องใส่ชนิดแก้สายตาเอียง ราคาจะแพงกว่า แนะนำให้ไปหาหมอตาเหมือนกันเพราะต้องสั่งขนาดและมุมที่ถูกต้องและต้องวัดให้ แม่นยำกว่า ถ้าเอียงไม่มากจะมีวิธีปัดง่ายๆ ซึ่งอันนี้ร้านแว่นส่วนใหญ่ทำได้ค่ะ

//www.facebook.com/Nangnubaicha

Create Date : 03 เมษายน 2556		1 comments
Last Update : 3 เมษายน 2556 13:07:49 น.
Counter : 1776 Pageviews.
Share Tweet