วันที่ 20 ต.ค. บีบีซีรายงานสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคไวรัสอีโบลาว่า หน่วยงานสาธารณสุขสเปนเปิดเผยผลตรวจเลือดล่าสุดของนางเทเรซ่า โรเมโร รามอส วัย 40 ปี พยาบาลของโรงพยาบาลคาร์ลอส 3 ในกรุงมาดริด ผู้ติดเชื้อไวรัสอีโบลาในประเทศคนแรก พบว่าไม่มีเชื้อมรณะในร่างกายแล้ว
แม้ว่าการตรวจสอบจำเป็นต้องตรวจเลือดครั้งที่2เพื่อยืนยันผลก่อนอนุญาตให้นางรามอสกลับบ้านได้นั้น แต่หลายฝ่ายถือเป็นข่าวดีที่สเปนสามารถควบคุมโรคอีโบลาไว้ได้ ท่ามกลางการแพร่ระบาดในแอฟริกาตะวันตก และสหรัฐอเมริกาที่ต้องเฝ้าระวังอย่างเข้มงวด กับยอดผู้เสียชีวิตมากกว่า 4,500 ราย
นางโรเมโร รามอส ซึ่งติดเชื้ออีโบลาเมื่อ 6 ต.ค. หลังรับหน้าที่ดูแลบาทหลวงมานูเอล การ์เซีย วีโฆ และบาทหลวงมิเกล ปาจาเรส ซึ่งติดเชื้อระหว่างปฏิบัติหน้าที่ในเซียร์ราลีโอน และไลบีเรีย ก่อนเสียชีวิตเมื่อเดือนก.ย.ที่ผ่านมา ได้รับการรักษาด้วยเซรุ่มสกัดแอนตี้บอดี้ในเลือดผู้รอดชีวิตจากอีโบลา อันเป็นวิธีการรักษาแบบดั้งเดิม และเป็นวิธีเดียวกันกับนพ.เคนต์ แบรตลีย์ แพทย์ชาวอเมริกัน ซึ่งถ่ายเลือดช่วยน.ส.นีน่า ฝ่าม พยาบาลผู้ติดเชื้ออีโบลาคนที่ 2 ในสหรัฐต่อจากนายโธมัส ดันแคน ผู้ป่วยคนแรก
อย่างไรก็ตามในกรณีของนางโรเมโร รามอส เกิดประเด็นพิพาทในการรับมือของเจ้าหน้าที่ ซึ่งกลุ่มผู้รักสัตว์ประท้วงกันอย่างกว้างขวาง เมื่อเจ้าหน้าที่ในกรุงมาดริดนำสุนัขของพยาบาลหญิงไปฆ่าทิ้ง เพราะกลัวว่าจะติดเชื้อด้วย แม้ว่ากลุ่มผู้รักสัตว์ขอให้เปลี่ยนวิธีเป็นการกักตัวเพื่อดูเชื้อและอาการแล้ว ก็ไม่เป็นผล
ที่มา - khaosod.co.th