“โปรเจกต์ อาบัติ นี้ มันเกิดมาหลายปีแล้ว คือตอนแรกจะให้ฝนเขียนบทอย่างเดียวก่อน จนกระทั่งผ่านกระบวนการคิดและทำงานด้วยกันมาเรื่อยๆ ผมก็เห็นว่าฝนน่าจะกำกับหนังเรื่องนี้ได้เพราะเขาเข้าใจเรื่องนี้ดีที่สุด ผมว่าเป็นการเริ่มต้นที่ดีมากๆ ครับ สำหรับภาพยนตร์สเกลใหญ่เรื่องแรกของฝน ทั้งการเขียนบทและกำกับ ในส่วนของผมก็ทำหน้าที่เหมือนเป็นโค้ชคอยแนะนำดูทิศทางที่หนังจะเดินไป ก็จะแนะนำว่าตรงนี้ควรที่จะเล่ายังไง ซึ่งในเรื่องบทและการเล่าเรื่องผมก็ชื่นชมมากๆ แล้วก็อยากให้ทุกคนได้ลองมาพิสูจน์ดูว่า เรื่องราวของหนังเรื่องนี้เป็นอย่างไรก่อนที่จะตัดสินจากแค่เพียงตัวอย่างหนังครับ"

เท่าที่ดูจากหนังตัวอย่างค่อนข้างสั่นสะเทือนศาสนาพุทธ กับเรื่องราวของเณรที่มีสัมพันธ์กับเด็กสาว "ก็เข้าใจในสิ่งที่ทางกลุ่มชาวพุทธวิตกกังวลครับ แต่เราก็มั่นใจในสิ่งที่เรานำเสนอ เราไม่คิดทำภาพยนตร์เรื่องนี้ขึ้นมาเพื่อทำลาย แต่จะทำให้คนดูได้คิด แล้วก็มีตัวอย่างที่ดี และไม่ดีทั้งสองด้านให้ดู แล้วก็บาลานซ์ให้อยู่ในเนื้อหาที่พอดูจบแล้วคนดูก็จะได้ปัญญากลับไป

ตอนที่ฝนเขียนบทมา ผมก็มั่นใจแล้วก็เห็นว่าเป็นเจตนาที่ดีที่จะจรรโลงศาสนาพุทธ คือดูจบแล้วเราจะมั่นใจในศาสนาของเรา แล้วก็เข้าใจในพระธรรมที่พระพุทธเจ้าสอนไว้ ไม่มีภาพอะไรที่ทำให้ศาสนาเสื่อม แต่จะทำให้ผู้คนได้คิด ตั้งคำถามถกเถียงกันแล้วใช้สติปัญญาในการไตร่ตรองมัน เรามั่นใจในเนื้อหาว่าเราจะไม่ทำให้ศาสนาเสื่อมแน่นอน ยิ่งหนังมันมีการจัดเรตให้เหมาะสมกับกลุ่มคนดูที่มีวุฒิภาวะเหมาะสมกับภาพยนตร์เรื่องนี้ด้วยแล้วก็ยิ่งมั่นใจมากครับ”.