ตุลาคม 2557
 
 1234
567891011
12131415161718
19202122232425
262728293031 
11 ตุลาคม 2557

:: ก๋าราณีตอบคำถามน้องบีน ::




:: ก๋าราณีตอบคำถามน้องบีน ::




ถ้าคนที่เรารักสุดหัวใจ
ทำร้ายเรา
ด้วยการทำลายตัวเค้า

หนูจะผิดมั้ย
ที่จะไม่ให้อภัยเค้า
และโกรธเค้าสุดหัวใจ



คำถามโดย : แม่น้องเอมค่ะ (dogamania )

















-1-


หลังเหตุการณ์ 9/11 ที่อเมริกามีปัญหาการเหยียดผิวอย่างรุนแรง
โดยเฉพาะความโกรธแค้นที่ชาวอเมริกันมีต่อชาวมุสลิม
ในบางชุมชนความรุนแรงเริ่มต้นตั้งแต่
เหตุการณ์อย่างการถ่มน้ำลายใส่ชาวต่างชาติที่เดินสวนกัน
การตะโกนด่าทอเมื่อพบกันตามท้องถนน
และหนึ่งในเหตุการณ์ที่เลวร้ายมากๆ
คือการที่ชายผิวขาวคนหนึ่งถือปืนไปตามร้านสะดวกซื้อ
ที่มีคนต่างเชื้อชาติศาสนาทำงานอยู่
เขายิงเพราะ “ความโกรธแค้น” ที่คนต่างชาติ
ทำร้ายคนอเมริกันด้วยการวางระเบิดและก่อการร้าย
เขายิงเพราะ “เกลียดชัง” ความแตกต่างที่มีให้เห็นและรู้สึก
สองคนในสองที่เกิดเหตุตายคาที่
ส่วนคนที่สาม...ถูกยิงอย่างจังเข้าที่ศีรษะ
ผู้ชายชาวเอเชียใต้คนนี้บาดเจ็บสาหัสแต่ไม่ตาย
ตำรวจจับตัวผู้ก่อการโหดได้ทันควัน
เขาถูกส่งตัวเข้าสู่กระบวนการยุติธรรมของรัฐ
และศาลตัดสินโทษประหารชีวิต....
เรื่องนี้ควรจะจบลงตรงความสะใจ
คนที่เชียร์ชายผิวขาวคนนี้คงมองว่านี่คือฮีโร่ผู้มาทวงคืนความแค้น
คนที่เห็นใจชายคนที่ถูกยิงคงสะใจว่าคนร้ายถูกจับ
และถูกตัดสินโทษประหารชีวิต
แต่สิ่งที่แปลกประหลาดที่สุดในโลกก็เกิดขึ้น
เมื่อชายชาวบังคลาเทศผู้ถูกยิงจนบาดเจ็บสาหัสฟื้นตัวขึ้นมา
สิ่งที่เขาคิดถึงไม่ใช่การแก้แค้น หรือการทวงคืนด้วยความรุนแรง
เขาคิดถึง “การให้อภัย” ....
ผู้คนพากันสงสัยว่าคนๆหนึ่งถูกยิงจนตาบอดและกลายเป็นคนพิการ
จะให้อภัยคนที่ยิงเขาไปเพื่ออะไร
ชายคนนี้ให้เหตุผลว่า เขาแก้ไขเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นไปแล้วไม่ได้
และรู้ว่าชายที่ถือปืนออกมาฆ่าคนนั้นก็มีเมียและลูกอีกสามคน
โทษประหารไม่ได้ช่วยอะไรให้ดีขึ้น
แก้ไขปัญหาที่เกิดขึ้นไปแล้วไม่ได้
ที่สุดแล้วชายต่างชาติคนนี้กลับเป็นผู้เคลื่อนไหวเรียกร้อง
ให้ยกโทษประหารกับฆาตกรที่ยิงตัวเขาเอง !!!
แต่ผลของการเรียกร้องไม่สำเร็จ
ที่สุดแล้วนักโทษถูกประหารชีวิตไป
ก่อนตายทั้งสองมีโอกาสพูดคุยกันสั้นๆ
มือปืนกล่าวคำขอบคุณกับทุกสิ่งที่ชายบังคลาเทศทำเพื่อเขา













-2-


ในหนังสือกึ่งอัตชีวประวัติของนักเขียนชาวบราซิล
ผู้เขียนหนังสือนิยาย “ต้นส้มแสนรัก”
เซเซ่ --- เด็กน้อยวัย 5 ขวบ
ผู้เกิดมาในครอบครัวที่ยากจนมากๆกลางเมืองบราซิล
เขาซึมซับความรุนแรง ความหยาบคาย ความแข็งกระด้าง
มาจากสภาพแวดล้อมและการเลี้ยงดูรอบๆตัว
จินตนาการของเด็กกลายเป็นเรื่องเลวร้ายในสายตาผู้ใหญ่
คำพูดที่ผู้ใหญ่รอบตัวพูดกัน เมื่อเด็กน้อยอย่างเซเซ่นำมาพูดเลียนแบบ
กลับทำให้กลายเป็นเด็กหยาบคาย เด็กดื้อ
และผลของมันคือการถูกตี ถูกตบ ถูกฟาด
ถูกทำร้ายด้วยความรุนแรงนับครั้งไม่ถ้วน
มีเพียงต้นส้มต้นหนึ่งในบ้านที่เป็นเพื่อนรักของเซเซ่
เพื่อนในโลกจินตนาการที่สามารถปรับทุกข์ได้ทุกเรื่อง
บอกเล่าเรื่องราวต่างๆให้ฟังได้ทุกอย่าง
จนวันหนึ่งเซเซ่ได้รู้จักชายคนหนึ่งซึ่งฐานะดีกว่า
และมีอายุที่แตกต่างกันราวพ่อลูก
คนในละแวกนั้นรู้กิตติศัพท์ความร้ายกาจของเซเซ่ดี
เว้นแต่ชายคนนี้ที่เข้ามาในชีวิตเซเซ่
ให้ความรัก รับฟังอย่างเข้าใจ เป็นเพื่อนที่ดีที่สุด
ในฉากท้ายๆ เซเซ่ขอร้องให้ชายคนนี้รับเซเซ่เป็นลูกชาย
เพราะอยากหนีจากครอบครัวและพ่อแม่ซึ่งเซเซ่คิดเสมอว่า
ไม่มีใครรักเขาเลย มีแต่คนที่คอยทำร้ายทุบตีเสมอ
ชายคนนี้รับปาก เขารักเซเซ่เหมือนลูกแท้ๆ
แต่ความรักนี้จบลงโดยไม่มีใครคาดคิด
รถไฟพุ่งชนรถยนต์ของเขา
ชายคนนี้จากไป พร้อมกับความฝันที่มีเพียงหนึ่งเดียวในหัวใจเซเซ่
ความรักในใจของเซเซ่ตายไปแล้ว
ทั้งต้นส้ม...เพื่อนแท้ในจินตนาการ
และ ชายคนที่เขารักเหมือนพ่อในโลกแห่งความจริงคนนั้น










-3-


หลายปีก่อนพี่ก๋าเคยโกรธเกลียดเพื่อนของพ่อคนหนึ่ง
เขาเป็นหุ้นส่วนธุรกิจของพ่อ
ข้อมูลที่พี่ก๋ารับรู้มาคือเขาโกงเงินพ่อพี่ก๋าไปเยอะแยะมากมาย
หนี้ที่ไม่เคยสะสางมีเป็นจำนวนมาก
วันนั้นเขาเดินมาที่บ้านด้วยสีหน้าบอกบุญไม่รับ

“ไปเรียกพ่อมึงมา กูมีเรื่องจะคุยด้วย”

“ป๊ายังไม่ตื่นครับ ป๊าสั่งว่าถ้านอนอยู่ใครก็ห้ามปลุก
มีอะไรหรือเปล่าครับ รอป๊าตื่นเดี๋ยวผมให้ป๊าโทรฯกลับ”

“กูบอกให้มึงไปปลุกมันมา กูมีเรื่องสำคัญ” เขาเริ่มพูดเสียงดังขึ้น
เรื่องสำคัญในตอนนั้นของเขามีเพียงเรื่องเงิน
เขามาหยิบยืมเงินทองจากพ่อพี่ก๋าตลอด

“ป๊าสั่งไว้ว่าไม่ให้ปลุกครับ” พี่ตอบออกไป

“มึงไม่ปลุกงั้นกูจะเข้าไปปลุกเอง”
เขาตะโกนใส่หน้าพี่ก๋าก่อนขยับเดินเข้าไปในตัวบ้าน

พี่ก๋าจ้องหน้าเขาอย่างจริงจัง
พูดด้วยเสียงเรียบและเย็นชาที่สุดว่า

“ถ้ามึงเข้าไปในบ้าน กูฆ่ามึงแน่”


เขาอึ้งและยืนนิ่งตัวชา
พี่ก๋าเป็นคนที่สุภาพมากที่สุดในสายตาคนรอบข้าง
ไม่ชอบพูดคำหยาบ ไม่ก้าวร้าวใส่ผู้ใหญ่
แต่วินาทีนั้นพี่ก๋าเชื่อว่าตัวเองฆ่าคนได้จริงๆด้วย “ความโกรธ”

เขายืนนิ่งไม่กล้าเดินเข้าไปในบ้าน
ก่อนหันหลังกลับออกไปด้วยความโกรธ


สองปีหลังจากวันนั้นเวลาที่เขามาที่ร้าน
พี่ก๋าไม่ยกมือไหว้ ไม่...แม้แต่มองหน้า
โกรธ เกลียด สมเพช ไร้ความนับถือ ฯลฯ

เขาไปฟ้องพ่อพี่ก๋าว่าพี่ก๋าไม่มีมรรยาท จะทำร้ายเขา
พี่ก๋าเล่าให้ฟังหมดทุกถ้อยคำ จำได้ติดตาติดใจ
พ่อบอกว่า เราเป็นเด็กยังไงก็ต้องเคารพผู้ใหญ่
เขาเป็นหุ้นส่วนในร้านด้วย อย่าใจร้อน

เขาเองก็รู้ว่าพี่ก๋าเกลียดเขา
หลังๆมาที่ร้านจึงไม่เคยพูดคุยอะไรกัน
เดินเลี่ยงหลบกันไปมา

จนวันหนึ่งในสามปีต่อมา
พี่ก๋าค่อยๆมองย้อนไปที่ความโกรธเกลียดนี้
และอยากแก้ปมปัญหาของตัวเอง
มันต้องมีปัญหาอะไรแน่ๆในความรู้สึก
และพี่ก๋าอยากเยียวยาความรู้สึกนั้น
เพราะไม่อยากอาฆาตแค้นใครอีกแล้ว

เช้าวันหนึ่งเขามาที่ร้าน
พี่ก๋ายกมือไหว้และทักทาย
เป็นครั้งแรกในรอบเกือบสามปีที่เราพูดคุยกัน
เขาอึกอักและวางท่าไม่ถูก

หลังจากนั้นทุกครั้งที่เขามาที่ร้านพี่ก๋าจะยกมือไหว้
ชวนพูดคุย ถามไถ่เรื่องราวต่างๆ
เขาเองคงงงกับสงสัยกับท่าทีที่เปลี่ยนไปของพี่ก๋า
ใหม่ๆก็คงระแวงว่าไอ้นี่มาไม้ไหน
มันโกรธเกลียดกู ทำไมมาทำพูดดีกับกู
แต่ที่แน่ๆ....พอพี่ก๋าให้อภัยเขาได้
คนแรกที่มีความสุข ไม่ใช่เขา ไม่ใช่พ่อพี่ก๋า
แต่คือตัวพี่ก๋าเอง....











-4-


วันนี้พี่ก๋ามองย้อนกลับไป
“ความเข้าใจ” เป็นสิ่งที่สำคัญจริงๆ
เราโกรธเกลียดใครบางคนจนให้อภัยไม่ได้
เพราะสิ่งที่เขาทำกับเรานั้นเป็นสิ่งที่เรา “ไม่เข้าใจ”

เมื่อไม่เข้าใจความคิดและการกระทำเสียแล้ว
อย่างอื่นก็ไม่สามารถพูดจากันต่อได้
ไม่สามารถอธิบายความต่อกันได้ว่า
ทำไมถึงทำต่อกันเช่นนี้ ทำไมถึงพูดเช่นนี้
ทำไมถึงไม่รักกัน ทำไมถึงต้องทำร้ายกัน ฯลฯ


ปัญหาในโลกทุกวันนี้
ตั้งแต่เรื่องใหญ่ที่สุดอย่างสงครามโลก
ไปจนถึงปัญหาในครอบครัวหรือคู่รัก
ล้วนมาจากรากเดียวกัน
รากนั้นมีชื่อว่า “ความไม่เข้าใจ”



เมื่อไม่เข้าใจ ก็ไม่รับฟัง
เมื่อไม่รับฟัง ก็เกลียดชัง
และเลือกความรุนแรง ความเพิกเฉยในการแก้ปัญหา
ทุกๆปัญหาที่แก้ไขด้วยความไม่เข้าใจ
มันไม่มีทางจะให้อภัยและแก้ไขปัญหาได้เลย










-5-



สิ่งที่ควรทำ
คือการย้อนกลับไปที่ต้นธาร
ไปดูว่าเกิดอะไรขึ้นกับ “ความคิด” และ “ความรู้สึก” ของเรา
อะไรทำให้เราเกลียดโกรธคนๆหนึ่ง
เพราะเขาไม่เป็นไปอย่างใจเราต้องการใช่ไหม ?
เพราะเขาไม่เคยรักเราใช่ไหม ?
เพราะเขาคือคนที่เราไม่เคยเข้าใจเลยใช่ไหม ?

แล้วทำอย่างไรถึงจะ “เข้าใจ” เขาได้
เข้าใจในความเป็นไปที่เขาไม่เป็นไปอย่างที่ใจเราต้องการ

ถ้าใครสักคนเป็นได้อย่างใจเราต้องการ
เราจึงจะรักเขาใช่ไหม ?

เหมือนเวลาเลี้ยงสัตว์เลี้ยง แล้วมันเชื่องต่อเรา
เราจึงรัก
แล้วถ้าวันหนึ่งมันหงุดหงิด มันมีปัญหาในตัวเอง
ไม่เชื่อง แถมยังแว้งกัด
เราจะยังรักมันอีกไหม ?


คนหนึ่งคนไม่มีความสามารถที่จะรักเราได้มากอย่างที่เรารู้สึก
แต่เราอาจมองเห็นใครคนหนึ่งอย่างชัดเจนมากขึ้น
หากวางอคติและความเกลียดชังในใจเราลงก่อน
หยุดสงสัยว่าทำไมเขาถึงทำตัวแบบนี้ ทำไมเขาจึงคิดแบบนั้น
ปล่อยให้เขาหรือเธอเป็นไปอย่างที่เขาเป็น
แล้วมองดูเขาด้วยความเข้าใจ
ลองฟังถ้อยคำของเขาอย่างตั้งใจ
บางทีเราอาจเห็นความเจ็บปวดในชีวิตของเขา
ซึ่งกลายเป็นสิ่งที่เขาส่งต่อมายังเรา

คำถามคือ แล้วเราจำเป็นต้องยื่นมือไปรับความรู้สึกด้านลบเหล่านี้
เข้ามาในชีวิตของเราด้วยหรือเปล่า

พ่อแม่อาจไม่ได้รักเรามากอย่างที่เรารู้สึก
นั่นเป็นบาดแผลของท่าน
อาจเกิดจากการเลี้ยงดู การศึกษา วุฒิภาวะ
ความเชื่อ รูปแบบสังคมที่ท่านเคยพบเจอ
หล่อหลอมจนกลายเป็นความทุกข์ในใจ
และแสดงออกกับลูก


คนรักอาจไม่ได้ดีอย่างที่เราคิด
แต่เขาเป็นของเขาแบบนั้นมาตลอดชีวิต
ทำไมเขาจะต้องเปลี่ยนชีวิตของเขาเพื่อรักเรา



เพื่อนที่เราคิดว่าเป็นเพื่อนสนิท
ถึงเวลากลับหักหลังและทำในสิ่งที่เราเจ็บปวด

ทำไมต้องเจอเจ้านายที่งี่เง่าเจ้าอารมณ์และรับมือได้ยาก

เพราะอะไรลูกจึงดื้อและไม่เคยเชื่อฟังคำสั่งสอนเลย

ฯลฯ

เหล่านี้คือ “ผลของความโกรธเกลียด”

ถ้าเราเข้าไปหา “ต้นเหตุของความโกรธเกลียด” เหล่านี้ไม่ได้
เราก็ไม่มีทางให้อภัยใครได้เลย

เพราะใจเราจะบอกตัวเองตลอดว่า
ทำไมฉันต้องทน ทำไมต้องให้อภัยคนแบบนี้
ทำไมเขาไม่เปลี่ยนตัวเองเพื่อฉันบ้าง

ฉันรักเขาแล้ว แต่ทำไมเขาไม่เคยรักฉันเลย

เรื่องราวนี้มันไม่ใช่ความผิดของฉันเลย
ทำไมถึงต้องเจอแต่คนไม่ดีหรือเรื่องเลวร้ายแบบนี้ในชีวิต

บางเรื่องราวในชีวิต
ยิ่งตั้งคำถาม
จะยิ่งไม่ได้คำตอบ













-6-


ถ้าคนที่เรารักมากๆ
ทำร้ายตัวเอง
เราจำเป็นต้องไปรับบาดแผลของเขา
มาเป็นบาดแผลของตัวเองหรือเปล่า ?


ในใจของเราทุกคน
มีกองไฟเล็กๆกองหนึ่ง
เรียกว่า “เพลิงโทสะ”
มันรวมความโกรธเกลียดทุกรูปแบบ
และพร้อมแสดงความรุนแรงและส่งผ่านอารมณ์ด้านลบ
ไปยังทุกคนรอบข้าง

เมื่อไหร่ก็ตามที่เราราดน้ำมันลงไป ไฟจะลุกโชน
เมื่อไหร่ที่เราโยนเชื้อไฟลงไป ความโกรธจะลุกโชน

และไฟโทสะนี้ไม่เพียงเผาไหม้คนอื่น
แต่ยังเผาลนตัวเราเองด้วย

เชื้อไฟนี้มีชื่อเรียกว่า “ความไม่เข้าใจ”



และจะดับไฟโทสะในใจนี้ได้
ต้องด้วยสิ่งที่เรียกว่า “ความเข้าใจ”
เพราะความเข้าใจจะนำไปสู่ “การให้อภัย”
การให้อภัยไม่ได้หมายความว่าเราจะไปเปลี่ยนแปลงคนอื่น
แต่เป็นการเริ่มต้นเปลี่ยนแปลง “ตัวเรา” เป็นอันดับแรก
เพื่อให้เข้าใจวิธีคิดของคนอื่น
ให้ “รู้สึก” ถึงความรู้สึกของคนที่เรากำลังเกลียดชัง
ให้ “รู้สึก” ซึมซับรับรู้ถึงความเจ็บปวดและความทุกข์ที่ใครคนนั้นกำลังเผชิญอยู่

เมื่อรู้สึกและเข้าใจในความคิดของคนอื่น
เราจะเริ่มเข้าใจตัวเอง
และเริ่มต้นการให้อภัยใครคนนั้นได้อย่างแท้จริง











-7-


เราอาจคิดว่าทำไมฉันต้องให้อภัย
ทำไมฉันจะโกรธเกลียดเขาไม่ได้

เขาต่างหากที่เป็นคนผิด


คำถามคือ กองไฟในใจเรายังอยู่
บางเวลามันอาจมอดลง
แต่ง่ายมากที่ไฟนี้จะลุกโชนขึ้นอีกครั้งและอีกครั้ง

ชีวิตสั้นๆของเรา
ไม่มีเวลามากพอที่จะจมอยู่กับความเกลียดชังคลั่งแค้นไปตลอด
การแก้แค้นที่ดีที่สุดที่พี่ก๋าเรียนรู้มา
ไม่ใช่การโต้ตอบ
แต่คือการมอบความเห็นใจและความเข้าใจให้กับศัตรูของเรา

การฆ่าศัตรูในใจที่ดีที่สุด
ไม่ใช่การทำลายตัวเขาหรือทำร้ายใคร
แต่คือการเปลี่ยนศัตรูให้กลายเป็นมิตร
เมื่อเขาเป็นมิตรเขาจะอยากเปลี่ยนแปลงตัวเอง
หรือถ้าเขาเปลี่ยนแปลงตัวเองไม่ได้
อย่างน้อยที่สุด
มุมมองที่เรามีกับคนๆนั้น
จะไม่ใช่ “เชื้อไฟ” ที่ราดลงไปบนกองเพลิงแห่งโทสะอีกแล้ว
แต่มันเป็น “น้ำเย็น” ที่ค่อยๆดับไฟแห่งความเกลียดชังที่มีต่อกัน
จนค่อยๆมอดลง มอดลง



คนเราเลือกที่จะมีชีวิตอยู่ต่อไปอย่างรุ่มร้อน เจ็บปวด
หรือเลือกมีชีวิตอยู่อย่างมีความสุขและสงบเย็นได้

อยู่ที่การเลือกและตัดสินใจว่าเราอยากเป็นคนไหน
เพราะที่สุดแล้วทั้งหมดของการเลือกและตัดสินใจ
ล้วนต้องเกิดขึ้นจาก “ตัวเรา” ผู้เดียวเท่านั้นเอง







Create Date : 11 ตุลาคม 2557
Last Update : 11 ตุลาคม 2557 6:20:52 น. 30 comments
Counter : 1474 Pageviews.  

 
เจิมมมมมมมม


แล้วค่อยอ่าน จะทันไหม


แอมอร


โดย: peeamp วันที่: 11 ตุลาคม 2557 เวลา:6:26:41 น.  

 
อรุณสวัสดิ์วันหยุดค่ะคุณก๋า
วันนี้พาชมเซรามิคสวย ๆ ด้วยนะคะ
ใช่ค่ะ บางเรื่องราวในชีวิต
ยิ่งตั้งคำถาม ยิ่งไม่ได้คำตอบ
หรือบางที เราก็กลัวคำตอบเหมือนกันนะคะ
ทั้งหมดทั้งมวล ก็อยู่ที่ตัวเรา ใจเรา เท่านั้นล่ะค่ะ


โดย: เนินน้ำ วันที่: 11 ตุลาคม 2557 เวลา:6:27:47 น.  

 

สวัสดีค่ะน้องก๋า
newyorknurse


โดย: newyorknurse วันที่: 11 ตุลาคม 2557 เวลา:7:51:08 น.  

 
กะไป ชร. วันนี้ รู้ตัววานค่ำว่า พรบ.หมดอายุ เมื่อวันที่ 2 ที่ผ่านมา
เหอ ๆ คะแนนทำให้หัวหมุนจริง ๆ คะ ตอนนั้น


โดย: แม่โม IP: 171.100.98.78 วันที่: 11 ตุลาคม 2557 เวลา:9:21:51 น.  

 
สวัสดีครับคุณก๋า

เรื่องการให้อภัย สำหรับ อ.เต๊ะ นี่ ยากจริงๆเลยครับ

จะให้อภัยได้ ก้เฉพาะคนในครอบครัวเท่านั้นเองครับ

ยิ่ง อ.เต๊ะ เป็นขาโหดมาแต่เด็กๆด้วย ขนาดตอนเด็กๆ ไม่รู้ประสีประสาอะไรนะครับ

คุณก๋าลองนึกภาพเด็ก5-6 ขวบ หน้าตาน่ารัก น่าชัง

ได้แว่นขยายมาอันนึง อ.เต๊ะ ก็จับจิ้งจกมั่ง ผีเสื้อมั่ง แมลงสาบมั่ง เอาแว่นส่องกับแดด เผามันทั้งเป็นๆ นั่งดูมันดิ้นกระแด่วๆ ด้วยความชอบใจ 555

แต่เดี๋ยวนี้ อ.เต๊ะ ใจดี ใจบุญมากเลยครับ
ขนาดมดกัด ยุงกัด ยังปล่อยกัด ให้กินเลือดจนอิ่ม
แล้วค่อยจับไปปล่อยครับ อิอิ

สำหรับเรื่องการให้อภัยนี่

อ.เต๊ะ คิดว่า อีกสัก4-5 ปี ก่อนตาย น่าจะให้อภัยแบบคุณก๋าได้บ้างนะครับ 555



โดย: multiple วันที่: 11 ตุลาคม 2557 เวลา:9:39:45 น.  

 
ขอบคุณภาพเซรามิคสวยๆ น่ารัก วันนี้ของคุณก๋า และขออนุญาตส่งภาพเณรน้อยเมื่อวานไปให้อีกหลายคนเพราะคิดว่าถ้าใครได้เห็นแล้วคงเบิกบานใจเช่นกัน
... เชื่อว่าทุกคนมีปมนี้ในใจเกือบทุกคน และถ้าใครทำได้อย่างที่คุณก๋าบอก มันจะรู้สึกปลดความอึดอัดที่พันธนาการเราอยู่ คนที่ได้คือตัวเราจริงๆที่รู้สึกโล่งเบาสบาย แต่ทำยากเหมือนกันนะคะ กว่าจะได้ทีละเปลาะ ถ้าหลุดเมื่อไหร่ก้อโล่ง
ขอบคุณคุณก๋า ที่ช่วยเป็นแรงบันดาลใจให้คนที่เคยมีความรู้สึกเช่นนี้ได้กล้าที่จะเลือกและตัดสินใจ.


โดย: พระจันทร์เจ้าขา IP: 27.55.159.210 วันที่: 11 ตุลาคม 2557 เวลา:9:50:14 น.  

 
สวัสดีวันเสาร์ที่ดูผิวเผิน เหมือนจะสงบค่ะ555





อ้าวหรือคะ ? มี่นึกว่าพี่ก๋าขายเสียอีก555 ตอนนี้ทางการฮ่องกง กำลังสนุกค่ะ กำลังลุ้นกัน

จะไปหรือจอด ในอาทิตย์นี้คงรู้ผลแน่ค่ะพี่ก๋า


โดย: ญามี่ วันที่: 11 ตุลาคม 2557 เวลา:10:52:10 น.  

 
เหมือนว่ามี่จะลืมไป1ครั้งค่ะ555

บันทึกการโหวต Blog

สาขา อันดับที่ ผู้เขียน Blog
Best of the blog 1 กะว่าก๋า


โดย: ญามี่ วันที่: 11 ตุลาคม 2557 เวลา:10:56:34 น.  

 
สวัสดีครับคุณพระจันทร์เจ้าขา



ภาพไหนที่ชอบ
นำไปใช้ได้เลยนะครับ
ด้วยความยินดีและเต็มใจเลย


ปมในใจผมเชื่อว่าเรามีทุกคน
เว้นเสียแต่ว่าใครจะปลดความรู้สึกนี้ลงได้ก่อนกัน

ใครปลดได้เร็วก็ทุกข์น้อยลง
ใครยังคงความทุกข์นี้ไว้
ก็เจ็บปวดไปอีกนานครับ





โดย: กะว่าก๋า วันที่: 11 ตุลาคม 2557 เวลา:11:25:37 น.  

 
สวัสดีค่ะก๋า

จริงๆแล้วทุกอย่างอยู่ที่เราเข้าใจกับสิ่งนั้นๆไหม?
รัก โกรธ เกลียด เพื่ออะไร ?

อ่านแล้วเข้าใจเลยค่ะ เข้าใจมากขึ้นด้วย

จะมีสักกี่คน ที่มานั่งคิด นั่งมองถึงปัญหาที่เกิด
และกลับไปแก้มันให้ดีดั่งเดิม ?

บางคนลืมคิดไปว่าด้วยซ้ำว่าเหตุใดจึงรู้สึก
รัก โกรธ เกลียด ...
มีแต่ตั้งคำถามว่า ทำไม ทำไมและทำไม
โดยไม่หันกลับไปมองต้นเหตุต่างๆ....
เอาแต่โทษอีกฝ่ายอยู่ตลอดเวลา
จนลืมมองตัวเอง ...

เดี๊ยวนี้เลยมีแต่คนเห็นแก่ตัวเยอะขึ้น
นึกถึงแต่ตัวเองก่อน แต่ไม่เคยโทษตัวเองก่อนซะงั้น
....

ก๋า มาดาม หมิงหมิง มีความสุขนะคะ


โดย: tanjira วันที่: 11 ตุลาคม 2557 เวลา:11:27:29 น.  

 
สุดยอดค่ะคุณก๋า บทความคำตอบทั้ง 7 ตอน
อ่านแล้วให้คิด มีสติพิจารณาเข้าใจกับดักของอารมณ์โกรธ
เกลียด ให้อภัย วางอคติ ลดทิฐิ ลดความเกลียด -โกรธ
ลงได้ดีทีเดียวค่ะได้ดีมากๆ ต้องฝึกมีสติเตือนตัวเองเยอะๆ

บันทึกการโหวต Blog ในวันนี้

ผู้เขียน Blog หมวดเนื้อหา Blog ได้รับโหวต
Tristy Food Blog ดู Blog
Close To Heaven Parenting Blog ดู Blog
กะว่าก๋า Dharma Blog


โดย: Tui Laksi วันที่: 11 ตุลาคม 2557 เวลา:11:54:05 น.  

 

มีความสุขมากมากนะคะ พี่ก๋า


โดย: white in the dark วันที่: 11 ตุลาคม 2557 เวลา:13:52:19 น.  

 
รักคือการให้อภัย มีความสุข เมื่อเค้ามีสุขค่ะ ในความคิดสาว ^^


โดย: sawkitty วันที่: 11 ตุลาคม 2557 เวลา:15:27:43 น.  

 
สวัสดีเจ้าคุณกิจ,มาดาม,หมิงหมิงและทุกๆท่าน

เพิ่งกลับมาค่ะ ฝนตกด้วย ไม่มีผักที่อยากจะกิน
ได้แต่พวกพริกแกงค่ะ น้องไปเที่ยวสวนสนุกกับเพื่อน
คงกลับช้าแบบเขาฉลองงานฮาโลวีน เปิดถึง4ทุ่ม

อ่านแล้วก็นั่งคิดตามไปเรื่อยๆเหมือนฟังเทศน์เลยค่ะ
บางครั้งเหมือนกับว่าเข้าใจ แต่บางอารมณ์ก็ยังโกรธ
เสียใจน้อยใจ มีคำถามมากมาย ทำไม ทำไม?
แต่บางทีก็รู้สึกเฉยๆ ไม่มีความรู้สึกอะไรเลยค่ะ
เหมือนคนบ้าที่มาด่าเรา พอวันหนึ่งเรารู้ว่าเขาบ้าก็ตัดใจได้ว่า...ไอ้นี่มันเสียสติว่ะ
ก็อภัยให้เขาได้

มีวันหนึ่งขี่จักรยานสวนกับคนบ้าค่ะ เขาตะโกนด่าเสียงดังมากๆ
ด่าทุกๆคนไม่ใช่เฉพาะพี่5555 เราก็ตกใจมากๆ อะไรวะ
ทำไมซวยจังวันนี้
ด้วยความตกใจเราก็ด่าคำที่ติดปากว่า...อีเดียด...
มันถามพี่ว่าอะไรอีเดียด?555
พี่รีบขี่จักรยานหนีใหญ่เลยกลัวคนบ้าเอาเรื่องค่ะ

มาเล่าให้ลูกฟัง ลูกหัวเราะใหญ่เลย
คนที่ขี่จักรยานตามหลังมาก็โดนด่าทุกคนค่ะ
เขาบอกว่าผู้ชายคนนี้มันเสียสติ
พี่ก็เลยถึงบางอ้อ... อโหสิกรรมไปเถอะ

โกรธเขาเราได้อะไร นอกจากใจร้อนรุ่มเหมือนลุยไฟ
อภัยใจชุ่มเย็น เหมือนเดินเล่นในปุยหิมะ คริคริ

การให้อภัยคือกุญแจนำเราไปสู่ประตูแห่งความสุขค่ะ

HAPPINESSISNOWHERE

ใครอ่านได้ข้อความว่าอะไรบ้างเอ่ย?
เฉลยค่ะ
: Happiness is now here !!

Have a nice weekend!!


โดย: ชัญญา IP: 94.23.252.21 วันที่: 11 ตุลาคม 2557 เวลา:16:25:10 น.  

 
สวัสดีครับพี่ชัญญา

เวลาเราโดนด่า
ปฏิกิริยาแรกผมว่าทุกคนคงโกรธ
โกรธมากโกรธน้อย
แต่พอรู้ว่าคนด่าเป็นบ้า
เราก็คงไม่อยากโกรธแล้วล่ะครับ 555

การให้อภัยคือกุญแจนำเราไปสู่ประตูแห่งความสุ

.
.

เห็นด้วยเต็มๆเลยครับพี่





โดย: กะว่าก๋า วันที่: 11 ตุลาคม 2557 เวลา:17:04:31 น.  

 






พี่ป๋องเพิ่งว่างค่ะ ..

เลยเพิ่งได้อ่าน "บทความดีๆ" ของ คุณก๋า ...

และ เมื่อได้อ่าน ..

ก็ สุดแสน ที่จะ คุ้มค่า ..



อ่ะ .. ค่า ความคุ้มค่า .. ที่พี่ป๋องได้อ่านในทุกๆ ตัวอักษร ค่ะ ..





บันทึกการโหวต Blog ในวันนี้

ผู้เขียน Blog หมวดเนื้อหา Blog ได้รับโหวต
กะว่าก๋า Literature Blog ดู Blog

ระบบจะบันทึกคะแนนโหวต เฉพาะการโหวต 5 ครั้งล่าสุดในแต่ละวันเท่านั้น







โดย: foreverlovemom วันที่: 11 ตุลาคม 2557 เวลา:19:01:21 น.  

 
อ่านเรื่องราวของคุณก๋าแล้วทึ่งมากๆเลย
ขนาดเราไม่รู้จักเพื่อนของพ่อคุณก๋า เราอ่านแล้วยังนึกไม่ชอบใจ
ในกิริยาและคำพูดของเค้ามาก แต่คุณก๋าก็กลับยกโทษให้
ถ้าเป็นเราไม่รู้จะทำได้อย่างคุณก๋ามั๊ยเลยค่ะ



บันทึกการโหวต Blog ในวันนี้

ผู้เขียน Blog หมวดเนื้อหา Blog ได้รับโหวต
Sweet_pills Food Blog ดู Blog
Close To Heaven Parenting Blog ดู Blog
toor36 Cartoon Blog ดู Blog
กะว่าก๋า Dharma Blog ดู Blog

ระบบจะบันทึกคะแนนโหวต เฉพาะการโหวต 5 ครั้งล่าสุดในแต่ละวันเท่านั้น


โหวตหมวดนี้ให้ด้วยนะคะ


บันทึกการโหวต Blog

สาขา อันดับที่ ผู้เขียน Blog
Best of the blog 1 กะว่าก๋า
2
3





โดย: mambymam วันที่: 11 ตุลาคม 2557 เวลา:19:29:08 น.  

 
สวัสดีค่ะคุณก๋า
คุณก๋าตอบคำถามได้ดีมากๆค่ะ


โดย: AdrenalineRush วันที่: 11 ตุลาคม 2557 เวลา:20:19:58 น.  

 
- ขอขอบบคุณมากค่ะสำหรับโหวตนะคร้าคุณก๋า
บรรยากาศที่ บ้านจิม ทอมป์สัน ดีมากๆค่ะ
ยิ่งเดินชมภายในบ้านด้วยแล้ว คือย้อนยุคแบบบ้านในฝัน
ที่เราคนไทยในยุคนั้นชอบและมีความสุขสุดๆ


โดย: Tui Laksi วันที่: 11 ตุลาคม 2557 เวลา:20:29:07 น.  

 
สวัสดีค่ะ พี่ก๋า ^^

นู๋ชอบเรื่องที่สามจังเลย เพราะใกล้ตัวมาก
ส่วนตัวนู๋คิดว่าคนที่อายุเยอะกว่า หรืออาวุโสมากกว่า
ยิ่งพวกที่อายุเกินครึ่งร้อยนี่จะทำผิดไม่ได้เลยหรือ
เราต้องยอมต้องอภัยเค้าตลอด เพราะเค้าอายุมากกว่าหรือ
ส่วนตัวนู๋หากผู้ใหญ่ที่ทำไม่ถูกนู๋ก็จะมีความอดทนในระดับหนึ่งนะ
แต่ถ้ามันแย่จริง ๆ ก็ต้องมีการตอบโต้กันบ้าง
ส่วนตัวนู๋ตอบโต้ครั้งเดียวจบค่ะ หลังจากนั้นก็คุยนะคะ

==============================

บันทึกการโหวต Blog ในวันนี้

ผู้เขียน Blog หมวดเนื้อหา Blog ได้รับโหวต
Bonjour_KiTTy Food Blog ดู Blog
กะว่าก๋า Dharma Blog ดู Blog


โดย: ปรัซซี่ วันที่: 11 ตุลาคม 2557 เวลา:21:20:34 น.  

 
มาอ่านคำถามที่ถามยากมากๆนะครับ แต่คนตอบก็สามารถตอบได้ดีและทำให้ผมเข้าใจคำถามและเข้าใจคำตอบของคำถามนั้นด้วย ^^

แถวๆบ้านผมมีพ่อที่ดุมากๆกับลูกชายคนเล็ก ไม่รู้ว่าเด็กดื้อเอง หรือว่าพ่อดุแกมากจนดื้อ ผิดกับพี่สาวที่พ่อโอ๋ตลอด ทำผิดก็ไม่เคยว่าเลย เด็กคนนี้ถ้าจะทำไม่ดีเพื่อประชดพ่อของตัวก็คงไม่ใช่เรื่องยากเลยนะครับ

โหวตธรรมะให้กับแง่คิดดีๆในวันนี้นะครับ ^^

มาโหวต best of the blog ให้น้องก๋าด้วยสำหรับมิตรภาพที่มีต่อผมและเพื่อนๆในบล็อกนะครับ













โดย: วนารักษ์ วันที่: 11 ตุลาคม 2557 เวลา:21:34:57 น.  

 
สวัสดีในค่ำคืน ช่วงนี้พอจะมีเวลาเดินเล่นในบล็อคบ้าง อาจเห็นเฮียบ่อย ๆในเฟส แต่เฮียก็เพียงแว๊บไปแว๊บมาเท่านั้น ภาระกิจมากมายทั้งงานราษฎร์งานหลวง

ความโกรธไม่เคยทำร้ายใครเพียงลำพังหรอก ในการทำร้ายนั้นมีใจของเราร่วมด้วยเสมอ เฮียเองก็มีความโกรธมากมายและพยายามลดทอนลงไปตามอายุ เสมือนปลงได้ว่าให้ร่างเฮียมอดไหม้ในเชื้อไฟในวันที่ชีพสิ้น ยังดีกว่าให้ไฟแห่งความโกรธเผาเฮียทั้งเป็นอยู่ในทุกปัจจุบัน เมื่อคิดเช่นนี้ก็ไม่อยากโกรธใคร

ในเรื่องคำถามของน้องคนนี้ คนอื่นทำร้ายตัวเขาเองเพื่อทำร้ายน้องเขาที่รักเขา บางทีเรื่องความรักก็แปลกนะ ยากที่จะเอาเหตุผลมาอธิบาย คงตอบยาก ก๋าก็ทำดีแล้วยกเรื่องราวมากมายมาอธิบาย อยู่ที่ตัวน้องเขาแล้วว่าจะคิดเป็นเช่นไร

ขอบคุณนะ ขอบคุณ สำหรับการแวะไปเยี่ยมบ้านหลังน้อยของเฮียเสมอ


โดย: tiensongsang วันที่: 11 ตุลาคม 2557 เวลา:21:35:30 น.  

 
หวัดดีเจ้าอ้ายก๋า

ความโกรธ ความเกลียดที่มันสะสมอยู่ในใจ
หายได้ด้วยการให้อภัย จริงๆ
อภัยแล้วใครจะมีความสุข ก็คือตัวเรานั่นเองเจ้า

เห็นด้วยแต้ๆ เลย รินก็เคยเป็น เคยโกรธเกลียด แต่จริงๆ ก็ต้องใช้เวลานะ พอเวลาผ่านไป
เราก็เริ่มลดทิฐิลง
แต่มันคงยากที่จะให้อภัยกันทันทีเลยเจ้า ถ้าไม่โกรธเลยจะดีที่สุด อิอิ




บันทึกการโหวต Blog ในวันนี้

ผู้เขียน Blog หมวดเนื้อหา Blog ได้รับโหวต
เศษเสี้ยว Photo Blog ดู Blog
กะว่าก๋า Dharma Blog ดู Blog





โดย: Rinsa Yoyolive วันที่: 11 ตุลาคม 2557 เวลา:22:45:13 น.  

 
กะลังเห็นว่ามีเปิดโหวตหมวดพิเศษแล้ว

จัดประเดิมไปเลยเจ้าาาา


สาขา อันดับที่ ผู้เขียน Blog
Best of the blog 1 กะว่าก๋า





โดย: Rinsa Yoyolive วันที่: 11 ตุลาคม 2557 เวลา:22:46:08 น.  

 
สวัสดีค่ะน้องก๋าเพิ่งมีเวลาเข้าบล็อกค่ะ แหะ แหะ วันนี้ยุ่งๆค่ะ

พี่กิ่งไลท์ให้กับคำตอบของน้องก๋านะคะ การให้อภัยเป็นสิ่งที่ีที่สุดพระท่านก็บอกไว้แต่คนเราทำกันยากมากเลยนะคะ น้องก๋าทำดีแล้วค่ะ

หลับฝันดีนะคะ



โดย: กิ่งฟ้า วันที่: 11 ตุลาคม 2557 เวลา:22:53:41 น.  

 
เรื่องที่เขียนเยอะเกิน อ่านจบในทีเดียวไม่ไหว ต้องค่อยๆ อ่านค่อยๆ เม้นต์

ผมนึกถึงการรับน้องขึ้นมาอีกแล้ว เราโกรธแค้นแบบโง่ๆ แต่เราไม่จำเป็นต้องส่งต่อความแค้นเพราะมันเป็นประเพณีหรือวัฒนธรรมงี่เง่าเลย เราไม่เคยตระหนักกันเลยว่าการรับน้องที่เลวร้ายมีอยู่จริงและพยายามจะพูดว่ามันดี

ผมเคยคุยกับคนจีนหลายคน ผมลองแกล้งแซวเค้าเรื่องการถุยน้ำลาย ขากเสลดของคนจีน ผมได้รับคำตอบที่ใกล้เคียงกันแทบทุกคนว่า คงแก้ไม่ได้ง่ายๆ แต่พวกเราตระหนักได้ว่ามันไม่ดี ซึ่งผมมองว่า การที่เค้าตระหนักได้นั้นเป็นเรื่องที่น่าสนใจมาก แต่ประโยคต่อไปที่เค้าพูดทำผมอึ้งมากกว่าคือ คงต้องรอให้คนรุ่นเก่าๆ ตายให้หมดก่อน แล้วพวกเราไม่ถุยน้ำลาย ก็คงจะพอแก้ปัญหาได้ แม้จะฟังดูแรง แต่ผมว่ามันน่าสนใจนะ

ผมเคยได้ยินว่า วิธีแก้แค้นศัตรูที่ดีที่สุดคือ การให้อภัยเค้า อันนี้ก็น่าสนใจ ผมว่าพี่ก๋าตอนนั้นแรงไปจริงๆ น่ะแหละ แต่กลับกันเป็นผมก็คงทำไม่ต่างกัน (ช่วงที่ใจร้อนมากๆ) แต่ผมเบากว่าหน่อย อารมณ์ตอนนั้นผมเดาว่าน่าจะตะโกนว่า "ถ้ามึงเข้ามากูเรียกตำรวจมาลากคอมึงแน่"

พูดก็พูดครับ ถึงจะเป็นผู้ใหญ่ แต่การพูดไม่สุภาพก็ไมู่กต้องหรอกครับ ผมเป็นคนหัวโบราณ แต่บางเรื่องผมก็เป็นพวกหัวก้าวหน้า สิ่งหนึ่งที่คนที่ได้ชื่อว่า "ผู้ใหญ่" น่าจะตระหนักได้คือ คำพูด อย่าให้เด็กมันด่าเราได้ว่า "แก่เพราะกินข้าว เฒ่าเพราะอยู่นาน"

ไฟแห่งความโกรธ มันมีแต่จะเผาเราเท่านั้น ถ้าเราไม่ไปเติมเชื้อ มันก็จะมอดไปเอง พูดง่าย แต่ทำยากเหมือนกันนะ

+


โดย: คุณต่อ (toor36 ) วันที่: 11 ตุลาคม 2557 เวลา:23:36:57 น.  

 
โดนแบนเม้นต์ครับ ข้อความแรงไปมั้ง


โดย: คุณต่อ (toor36 ) วันที่: 11 ตุลาคม 2557 เวลา:23:37:25 น.  

 
การให้อภัย นิคถูกสอนมาแบบนี้ตลอด
แต่บางครั้งทำไม่ได้ค่ะ
คือไม่ได้ในทันทีน่ะค่ะพี่ก๋า
เมื่อเวลานานๆไป ก็ลืมความโกรธนั้นและไม่ใส่ใจอีก
แบบนี้ก็เหมือนให้อภัยไปโดยปริยายรึป่าวคะ




ผู้เขียน Blog หมวดเนื้อหา Blog ได้รับโหวต
mambymam Music Blog ดู Blog
Tui Laksi Photo Blog ดู Blog
เวียงแว่นฟ้า Book Blog ดู Blog
Close To Heaven Parenting Blog ดู Blog
กะว่าก๋า Dharma Blog ดู Blog
ระบบจะบันทึกคะแนนโหวต เฉพาะการโหวต 5 ครั้งล่าสุดในแต่ละวันเท่านั้น


โดย: ที่เห็นและเป็นมา วันที่: 12 ตุลาคม 2557 เวลา:0:04:28 น.  

 
พี่ไม่ใช่แม่พระมาจากไหนนะ โกรธ เกลียดก็ปกติ แต่ใช้คำว่า "ช่างมัน" บ่อยค่ะ เลยไม่รู้ว่าแบบนั้นเรียก "อภัย" มั้ย




โดย: สายหมอกและก้อนเมฆ วันที่: 12 ตุลาคม 2557 เวลา:19:53:56 น.  

 
เปิดมาเห็นใจเต้นตูมตาม ดีใจที่พี่ก๋ายังจำบีนได้ค่ะ

ตอนมีเรื่องราว ร้าย ร้าย

พี่ก๋า ให้คำตอบ และ เป็นที่ปรึกษาที่ดีมาก มากเลยค่ะ



ขอบคุณอีกหลายหลายครั้งค่ะ

ขอให้พี่ก๋า มาดาม และ หมิง หมิง แข็งแรง มีความสุขทั้งกายและใจนะคะ


โดย: บีนเองค่าาา (dogamania ) วันที่: 17 ตุลาคม 2557 เวลา:4:14:07 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิกช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

กะว่าก๋า
Location :
เชียงใหม่ Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 392 คน [?]




มองฉันอีกครั้ง
เธออาจเห็นฉัน
หรืออาจไม่เห็นฉัน

ฉันแค่แวะผ่านทางมา
และอาจไม่หวนกลับมาทางนี้อีกแล้ว

เราเคยรู้จักกัน
และมันจะเป็นเช่นนั้นตลอดไป

มองดูฉันอีกครั้ง
เธออาจเห็นฉัน
และฉันอาจมองไม่เห็นเธอ.





[Add กะว่าก๋า's blog to your web]