:: ก๋าราณีตอบคำถามคุณ vimmy_khun ::
:: ก๋าราณีตอบคำถามคุณ vimmy_khun ::
ถ้าเจอแม่ยายที่จู้จี้จุกจิก ขี้บ่นมากๆ พูดมาก นินทาลูกสะใภ้ ไม่ว่าจะทำดีขนาดไหนก็ชอบหาเรื่องมาว่าจนได้ จะปฏิบัติอย่างไรดีถึงอยู่อย่างมีความสุข เพราะอยู่บ้านเดียวกัน
คำถามโดย : คุณ vimmy_khun วันที่ : 25-5-2554
ครั้งหนี่งสามเหลี่ยมกับวงกลมมีโอกาสได้อยู่ร่วมกันในบ้านหลังหนึ่ง
วงกลมเป็นวงกลมที่ไม่เคยคิดเปลี่ยนแปลงตัวเองเลย เป็นวงกลมที่จู้จี้ขี้บ่นและมองสิ่งต่างๆที่ไม่เหมือนวงกลม ว่าเป็นความอัปลักษณ์ เป็นสิ่งที่ไม่น่ามอง
วงกลมภูมิใจในความเป็นวงกลมของตนเองมาก มากเสียจนบางครั้งก็พยายามเปลี่ยนสิ่งต่างๆให้กลายเป็นวงกลม โดยที่ไม่รู้ตัวเลยว่าทัศนคติแบบนี้ สร้างความอึดอัดใจให้กับคนรอบข้างมากมาย รวมทั้งสามเหลี่ยมด้วย....
วงกลมพยายามโน้มน้าวให้สามเหลี่ยมเปลี่ยนแปลงตัวเอง เพื่อให้เป็นวงกลม แต่ไม่ว่าอย่างไรก็ทำไม่สำเร็จ เพราะสามเหลี่ยมนั้นเชื่อมั่นในความมั่นคงแข็งแรงของตนเอง สามเหลี่ยมเชื่อว่ารูปลักษณ์ที่ตัวเองเป็นอยู่นั้น คือสัญลักษณ์ของความหนักแน่น เป็นตัวของตัวเอง
วันผ่านวัน...ผ่านไปด้วยความอึดอัดใจ วงกลมยังคิดว่าวงกลมเท่านั้นที่ดีที่สุด ส่วนสามเหลี่ยมก็ไม่คิดเปลี่ยนแปลงตัวเอง กลับหวังในใจลึกๆด้วยซ้ำว่า วันหนึ่งวงกลมจะเห็นดีเห็นงาม และเปลี่ยนใจเปลี่ยนตนเองมาเป็นสามเหลี่ยมบ้าง....
ผมเคยทำงานกับผู้ใหญ่ท่านหนึ่ง ท่านเป็นคนที่มีชื่อเสียงมากในจังหวัด มีอำนาจในมือชนิดที่ต่อสายโทรศัพท์ตรงถึงท่านผู้ว่าฯได้เลย โดยไม่ต้องผ่านเลขาฯ
ตอนที่ผมเริ่มทำงานกับท่านใหม่ๆ ท่านพยายามสั่งให้ผมทำและเป็นอย่างที่ท่านต้องการ แต่ผมต่อต้านและขัดขืน ผมยืนกรานในความถูกต้องของหลักการ
ที่สุดผมกับท่านก็ทะเลาะกัน ท่านโทรมาด่าผมกับพ่อของผมอย่างสาดเสียเทเสียด้วยความโกรธ
ธุรกิจที่พ่อผมทำร่วมกับท่านประสบความติดขัดทันที....
แต่หลังจากนั้นผมยังต้องฝืนใจไปทำงานกับท่านเช่นเดิม จนมีโอกาสได้คุยกันในครั้งหนึ่ง
ผมตั้งคำถามเกี่ยวกับตัวท่านมากมาย เช่น ภูมิหลังด้านการศึกษา ประวัติการทำงานและสิ่งที่ท่านได้ทำสำเร็จ ฯลฯ น่าแปลกใจที่ท่านตอบคำถามต่างๆเหล่านั้น ตอบด้วยความปลื้มใจที่มีใครบางคนสนใจในสิ่งที่ท่านเป็น ยกย่องในสิ่งที่ท่านทำ....
หรือแท้ที่จริงแล้ว คนเราไม่ว่าใหญ่โตแค่ไหน มีอำนาจมากเท่าไหร่ ก็ยิ่งอยากได้รับคำยกย่อง อยากให้คนเห็นความสำคัญ
หลังจากการพูดคุยกันครั้งนั้น ท่าทีที่ท่านมีต่อตัวผมเปลี่ยนไปอย่างสิ้นเชิง เมื่อผมแสดงออกว่าสนใจและเคารพตัวท่านอย่างจริงใจ ท่านก็ให้ความเอ็นดูผมเสมือนลูกหลานคนหนึ่ง....
เมื่อท่านป่วยเป็นโรคมะเร็งระยะสุดท้าย ผมคือไม่กี่คนที่ยังไปเยี่ยมเยียนท่านสม่ำเสมอ ในขณะที่คนที่เคยร่วมงานและรองรับอารมณ์ของท่านมาตลอด พากันปลีกตัวหนีห่างโดยไม่สนใจใยดีท่านเลย....
ที่สุดแล้ว....วันที่ท่านจากไป ท่านสั่งเสียลูกหลานของท่านว่า แขกสามคนแรกที่ต้องเชิญไปในงานศพของท่านให้ได้ หนึ่งในนั้น มีผมอยู่ด้วยคนหนึ่ง
ผมเป็นคนหนึ่งที่ท่านเคยเกลียดน้ำหน้ามาก ไม่ชอบมากที่สุด กลับเป็นคนที่ท่านสั่งเสียให้เชิญมาร่วมงานศพของท่านให้ได้....
ผมไม่รู้ว่าแม่ยายของคุณ vimmy_khun เป็นอย่างไร อารมณ์ร้ายแค่ไหน แต่ผมอยากให้คุณลองเปิดใจ มองท่านในมุมที่ท่านเป็น ไม่ใช่มุมที่เราอยากให้ท่านเป็น ลองมองเข้าไป...แล้วหาโอกาสรับฟังสิ่งที่อยู่ในใจของท่าน
ลองมองผ่านคำบ่น คำด่า คำนินทา
ลึกเข้าไปอาจเป็นความกังวลใจ ความห่วงใยที่ท่านมีต่อลูกชายของท่านหรือเปล่า หรือท่านส่งสัญญาณบอกคุณเองหรือเปล่า ว่าคุณยังไม่ได้ทำอะไรเพื่อชนะใจท่านเลย
บางคนบอกว่าทำไมฉันต้องเป็นฝ่ายเปลี่ยนแปลงตัวเองด้วยล่ะ ทำไมฉันต้องเป็นฝ่ายยอม...
แต่ผมคิดว่าเรื่องของความสัมพันธ์ ไม่ใช่เรื่องของการแข่งขันเพื่อหวังผลแพ้ชนะ แต่เป็นการเรียนรู้ที่จะเข้าใจความรู้สึกของอีกฝ่ายอย่างแท้จริง
ไม่มีใครเกลียดใครได้โดยไม่ต้องการเหตุผล ปัญหาคือ วันนี้เราได้ฟังและได้รับรู้ความรู้สึกของอีกฝ่าย อย่างดีที่สุดแล้วหรือไม่เท่านั้นเอง
Create Date : 12 กันยายน 2554 |
Last Update : 12 กันยายน 2554 5:15:49 น. |
|
101 comments
|
Counter : 1577 Pageviews. |
|
|
|
ต๋อนนี้หนูหัดยะอย่างปี้ก๋าละ เอาลิงค์บล็อกไปแปะในเฟซฯ เวลาขี้คร้านอัพในเฟซฯ ตี้บ้านจะได้บ่าต้องมาตวยในบล็อก 55555 ลิงค์ไปให้ครบทุกทาง