สิงหาคม 2558
 
 1
2345678
9101112131415
16171819202122
23242526272829
3031 
19 สิงหาคม 2558

:: ก๋าราณีตอบคำถามคุณลัลลาบาย ::






:: ก๋าราณีตอบคำถามคุณลัลลาบาย ::




จุดประสงค์ของการเรียนคืออะไร
ทำไมถึงเรียนแล้วไม่จำ
พอครูกลับมาถามก็จำไม่ได้
เป็นเพราะความผิดพลาดของเราหรือว่าอะไรคะ




คำถามโดย : ลัลลาบาย


















มีเรื่องหนึ่งที่ผมเสียใจมากเกี่ยวกับการศึกษา
นั่นคือ ผมรู้ช้าเกินไปว่า “การศึกษาที่แท้จริง” คืออะไร ?
ถ้าในตอนที่เป็นนักเรียน เป็นนักศึกษาผมรู้ในสิ่งนี้
“ทัศนคติ” ของผมที่มีกับการเรียนรู้
คงจะทำให้ตัวเองรู้สึกสนุกและเป็นสุขกับการเรียนมากกว่าที่เป็น

แท้จริงแล้ว “การศึกษา” คือ “ภาพจำลองของการฝึกแก้ปัญหา”

และเป็นการสอนให้เราเรียนรู้ที่จะแก้ปัญหาอย่างมีหลักการ
เริ่มตั้งแต่การแก้ปัญหาที่ง่าย ไปสู่การแก้ปัญหาที่ยากขึ้นเรื่อยๆ
เริ่มต้นจากการจำ นำไปสู่การสร้างสรรค์สิ่งใหม่จากสิ่งเก่า

ในเด็กเล็ก...การเรียนรู้เริ่มต้นผ่านการเล่น
การร้องเพลง การออกกำลังกาย
เพื่อเตรียมความพร้อมทางด้านร่างกาย

เมื่อโตขึ้นมาจึงเริ่มหัดจำตัวอักษร เริ่มเรียนรู้ที่จะผสมตัวอักษรให้เป็นคำ
เริ่มบวกลบเลขจากหลักหน่วย หลักสิบ หลักร้อย
จนกลายเป็นหลักพัน หลักล้าน

เมื่อได้ฝึกแก้ไขปัญหาไปเรื่อยๆ
“โจทย์” ที่ต้องแก้ไขจึงเริ่มเพิ่มความยากขึ้นเรื่อยๆ


ไม่ว่าในท้ายที่สุด...เราจะเลือกเรียนสาขาใดในระดับปริญญา
นั่นคือการเพิ่มทักษะในการแก้ปัญหาของเราให้ซับซ้อนมากขึ้น
เสมือนจริงมากขึ้น มันคือการจำลองภาพ “ปัญหา” ที่จะเกิดขึ้น
เมื่อเราเรียนจบและต้องออกไปทำงาน

กระบวนการเรียนรู้จะฝึกให้เรารู้จัก “แก้ปัญหา” อย่างมีระบบ
มีรูปแบบความคิด รู้จักวางแผน รู้จักลำดับความสำคัญของงาน
ฝึกให้รู้จักเป็นคนรับผิดชอบ มีวินัย

ถ้าในขณะเรียน ถ้าเราเป็นคนไม่ตั้งใจ เหยาะแหยะ
ไม่มีระเบียบ ขี้เกียจ ฯลฯ
ทุกอย่างจะสั่งสมจนเมื่อเรียนจบออกไปทำงาน
ความไม่เอาไหน ความไร้ประสิทธิภาพก็จะติดตัวเราตามไปด้วย


ไม่ว่าคุณจะเลือกเรียนในสาขาใด วิชาใด
มันคือ การเรียนรู้ที่จะแก้ปัญหาในสาขาวิชาความรู้นั้นๆอย่างมีขั้นตอน
จากง่ายไปหายาก จากเรียบง่ายไปสู่ความซับซ้อน
จากการจำนำไปสู่การคิดสร้างสิ่งที่แตกต่างและดีกว่าสิ่งเก่าหรือวิธีการเดิมๆ


การศึกษา คือ การสั่งสม
สั่งสมประสบการณ์ในการแก้ปัญหา
ให้เราเกิดความเคยชินกับอุปสรรค
และฝึกหาหนทางที่ถูกต้องที่สุด เพื่อให้ได้คำตอบหรือวิธีการที่ดีที่สุด
ในการเรียนรู้และทำงาน รวมไปถึงการใช้ชีวิต





...................................





เรียนแล้วไม่จำ
ครูถามแล้วจำไม่ได้

คงต้องย้อนกลับไปดูที่ตัวเราว่าเราตั้งใจฟังดีแล้วหรือยัง
ณ จุดเริ่มต้นของวิชานั้นๆซึ่งง่ายที่สุด
เราเข้าใจพื้นฐานวิชาแล้วหรือยัง
หากเริ่มต้นฐานยังไม่แน่น ยิ่งเรียนก็ยิ่งงง
คงต้องกลับไปย้อนศึกษาใหม่ให้ฐานแน่นเสียก่อน
แล้วค่อยต่อยอดวิชาที่ยากขึ้นต่อไป

อีกประเด็นคือ คงต้องไปดูวิธีการสอนของอาจารย์
ว่าลำดับการถ่ายทอดองค์ความรู้เป็นไปตามลำดับขั้นตอนยากง่ายหรือไม่
มีเทคนิคอะไรที่ดีและทำให้นักศึกษาเข้าใจได้มากขึ้นหรือไม่




..................................





เรียนไม่เก่ง ไม่ชอบในวิชาที่เรียน
ครึ่งหนึ่งเป็นความไม่สนใจในวิชาที่เราต้องปรับปรุงแก้ไข
ครึ่งหนึ่งเป็นเทคนิคการสอนของครูที่ยังไม่ดีพอ

แต่สุดท้ายแล้ว
ไม่ว่าครูจะสอนยังไง ถ้าเราเรียนรู้โดยรู้ว่า
เรียนไปเพื่อ “ฝึกแก้ไขปัญหา” แล้ว
เราก็ควรต้องตั้งใจ มุ่งมั่น ขวนขวาย
ที่จะแสวงหาความรู้ในทุกๆรูปแบบ ในทุกวิธี
ไม่ว่าจะเป็นการอ่านหนังสือด้วยตนเอง ถามผู้รู้
หาอาจารย์ที่ปรึกษา หาเพื่อนเก่งๆติวให้

และที่สำคัญที่สุด การ “ไม่รู้” ไม่ได้เป็นความผิดบาป
ไม่ใช่เรื่องของความฉลาดหรือโง่เขลา
“ไม่รู้” ก็ไปเรียน ... เรียนจน “รู้”
ต้องรู้ชนิดที่สามารถแก้ปัญหาได้ด้วยตนเอง

แล้ว “ความรู้” เช่นนี้จะติดตัวเราไปตลอด

ไม่ว่าวันข้างหน้าเราจะไปเจออะไรในชีวิต
เจอปัญหาชีวิตหนักหนาสาหัสแค่ไหน
“วิธีคิด” ที่ติดตัวเรา จะเป็นสิ่งที่ทำให้เราผ่านพ้นปัญหาไปได้
ไม่ว่ามันจะหนักหนาสาหัสแค่ไหนก็ตาม


หากมอง “การศึกษา” ในแง่นี้แล้ว
มันไม่ใช่แค่เรียนเก่งหรือไม่เก่ง ไม่ใช่แค่เกรด หรือเกียรตินิยม
แต่มันคือ การศึกษาเพื่อพัฒนาตัวเองให้ดีขึ้น
ให้กล้าหาญที่จะไม่ขลาดหวาดกลัวกับอุปสรรคขวากหนามในชีวิต
และทำให้เราเป็นคนที่กล้าคิดเพื่อจะทำหน้าที่ของตนเองให้ดีที่สุด
ไม่ว่าเราจะทำหรือเป็นอะไรก็ตาม





























Create Date : 19 สิงหาคม 2558
Last Update : 19 สิงหาคม 2558 6:04:04 น. 20 comments
Counter : 1092 Pageviews.  

 
บันทึกการโหวตเรียบร้อยแล้วค่ะ
บันทึกการโหวต Blog ในวันนี้

ผู้เขียน Blog หมวดเนื้อหา Blog ได้รับโหวต
กะว่าก๋า Literature Blog ดู Blog
ทุกวันนี้ ยังอยากย้อนเวลากลับไปตอนสมัยเรียนเลยนะคะ
ถ้าย้อนเวลาได้ จะ ตั้งใจเรียน จะ เชื่อฟัง คำพ่อกับแม่ และ คำที่ ครูสอน เวลาเรียน ให้ ดีกว่านี้ จริงๆ ค่ะ รู้สึกเสียดายเหมือนกันนะคะ
แต่ แม่ บอกว่า แค่นี้ ก้อดีแล้ว ดูแลตัวเอง ได้
แต่ ทุกวันนี้ ก้อ ยังเรียน อยู่นะคะ เรียนรู้กับประสบการณ์จริงๆ และ ต้องค่อยๆ เรียนรู้จริงๆ ค่ะ


โดย: kwan_3023 วันที่: 19 สิงหาคม 2558 เวลา:6:49:08 น.  

 
เรียนแล้วไม่จำ ผมก็เป็นครับ แต่ต้องกลับไปอ่านทบทวน
เพื่อนผมบางคนจำได้ว่าคำตอบตอบอะไร อยู่หน้าที่เท่าไร
แต่เรื่องงาน สมัยนี้จบมาทำงานไม่ตรงสาขา การแก้ปัญหางานก็เลยเป็นการแก้ปัญหางานแบบ ลองผิดลองถูก
อุทัย ฝนไม่ตกมาเป็นวันที่สามแล้วครับ พอฝนไม่ตกก็ร้อนสุดๆ รถจอดกลางแดด ตอนเที่ยงไปธุระเหมือนขับรถอยู่ในเตาอบเลยครับ

สวัสดียามเช้าครับ คุณก๋า


โดย: เศษเสี้ยว วันที่: 19 สิงหาคม 2558 เวลา:8:00:44 น.  

 
สวัสดีค่ะคุณก๋า

นอกจากการเรียนจะเป็นภาพจำลองของการแก้ปัญหาแล้ว

สำคัญอีกอย่างคือการเรียนรู้ที่จะอยู่ในสังคมและทักษะในการอยู่กับผู้คนค่ะ

ไม่อย่างนั้นเรียนที่บ้านก็ได้เนาะ


มาคุยเรื่องที่ไปคุยเมื่อวานนะคะ

สำหรับเรา คำว่ารวยคือ เลี้ยงดูตัวเองได้ เลี้ยงดูคนที่คนเลี้ยงดูได้ มีปัจจัยสี่ที่ไม่ขาดได้ตลอดชีวิต และสามารถมีปัจจัยในการช่วยเหลือสังคม/ผู้อื่นได้ตลอดในยามที่ต้องการค่ะ

เมื่อก่อนเราก็คิดอย่างคุณก๋า รวยแล้วยังทุกข์ ปัญหาเกิดจากความรวย

แต่ตอนนี้ความคิดเราเปลี่ยนไปแล้วนะคะ

คือ รวยก็มีทุกข์แบบรวย จนก็มีทุกข์แบบจน

แต่เราสามารถเป็นคนรวย/จนแบบที่ไม่ทุกข์ได้ ถ้าเราอยู่บนวิถีทางที่ถูกต้อง รู้ว่าควรปฏิบัติ/วางใจอย่างไรกับชีวิต

แต่อย่างน้อย ความรวย ถ้าดำเนินชีวิตถูกต้อง ก็มีอำนาจในการช่วยเหลือคนอื่นได้มากกว่าหละค่ะ


โดย: สาวไกด์ใจซื่อ วันที่: 19 สิงหาคม 2558 เวลา:8:58:50 น.  

 




อะฮ้า ..

อา คุณก๋า ..

พี่ป๋องอ่ะ .. สนุก มากค่ะ .. ในวันเดินทางที่แสนจะ สมบุกสมบัน ..

อ้อ .. คุณก๋า .. กรุณา รอ รับ พระ .. ให้ 1 ใน 5 ผู้โชคดี .. ด้วยนะคะ ..

คาดว่า อีก 2 - 3 วัน คงจะถึง เชียงใหม่ ..



อนึ่ง .. ในเร็วๆนี้ .. พี่ป๋อง จะได้ "สมบุกสมบัน" อีก วาระหนึ่ง ค่ะ ..















โดย: foreverlovemom วันที่: 19 สิงหาคม 2558 เวลา:9:53:42 น.  

 
สวัสดีค่ะ คุณก๋า

โหวตให้เลยนะคะ

รู้สึกเหนื่อยมาก เหนื่อยใจค่ะ

อยากคุยด้วยแต่เกรงใจมาก

ไปก่อนนะคะ



โดย: พรหมญาณี วันที่: 19 สิงหาคม 2558 เวลา:11:28:20 น.  

 
สมัยเรียนเราเคยเป็นอย่างคุณลัลลาบายค่ะ
บางครั้งไม่ชอบเรียน เรียนเท่าไหร่ไม่จำ
ตอนนั้นยังไม่มีความคิด
ถ้าย้อนเวลากลับไปได้เราคิดว่าต้องสนุกกับการเรียนแน่ๆค่ะ
เพราะเริ่มเข้าใจจุดมุ่งหมายในการเรียนว่าเรียนไปเพื่ออะไร



โดย: mambymam วันที่: 19 สิงหาคม 2558 เวลา:11:56:27 น.  

 
คำถามเหมือนจะตอบได้ง่าย...

แต่ ตอบให้เข้าใจ แล้วคล้อยตามนี่ซิ...ยากเหมือนกัน
เมื่อก่อน...

ได้รับการปลูกฝังไว้ว่า เรียนเข้าไว้จะได้ทำงานดี ๆ
เป็นเสมียน 555 จะได้ไม่เป็นคนถีบสามล้อ

ปัจจุบันเรียนรู้เป็นสิ่งจำเป็นในการ มีชีวิตอยู่อย่างเป็นสุข

แต่การเรียน มิใช่เพียงเรียนในห้องเรียน ควรอ่านหนังสือ
อ่านเน็ตให้เป็น..

ฟังอาจารย์พิเศษ ที่มีโอกาศไปสอนพวกนักศึกษา ย่อม
จะได้ ความรู็จากประสพการณ์ทำงานจริง ไม่เบื่อด้วย

แต่ประเภทอาจารย์ที่เรียนเก่งแล้วมีโอกาศสอน..มันก็
ดีนะครับ.. พูดมากไม่ได้แล้ว..ไปดีกว่า...


โดย: ไวน์กับสายน้ำ วันที่: 19 สิงหาคม 2558 เวลา:15:02:29 น.  

 
สวัสดีอีกรอบค่ะ

โฮมสกูล จะว่าดีก็ดีค่ะ จะว่าไม่ดีก็ไม่ดี

เพราะสำหรับเรา มันคือการไม่ให้เด็กลองไปปรับตัวการอยู่ร่วมกับผู้อื่นน่ะค่ะ ต่อให้การเรียนการสอนได้มาตรฐาน (หรืออาจจะดีกว่าด้วยซ็ำ) ของกระทรวงฯ แค่ไหน แต่ถ้าเรียนอยู่บ้าน ไม่ได้ไปเจอสังคมอื่นๆ ที่มีทั้งเด็กดี เด็กเกเร การละเล่น การเข้าสังคม เราว่า..มันไม่ครบถ้วนในแง่ของการศึกษาน่ะค่ะคุณก๋า


เราเคยเจอทั้งคนรวยที่ทุกข์และที่ไม่ทุกข์ และคนจนที่ทุกข์และไม่ทุกข์หละค่ะ

ความทุกข์ที่เหมือนกันของคนทั้งสองสถานะก็คือ การสูญเสียสิ่งอันเป็นที่รักที่พึงใจ (ซึ่งกรณีนี้คนรวยอาจจะมีโอกาสทุกข์เยอะกว่าหน่อย เพราะน่าจะมีสิ่งที่รักเยอะกว่ากระมัง) แต่คนจนก็มีทุกขเวทนาทางกาย การไม่มีข้าวกิน เงินไม่พอใช้จ่าย เลี้ยงดูลูกไม่ได้ ฯลฯ เช่นกันค่ะ

เราถึงบอกว่า ความทุกข์ มันไม่เกี่ยวว่าจนหรือรวย เพราะต้นเหตุแห่งทุกข์ของทุกสถานะมันเหมือนกัน ทุกสถานะมีสิ่งทีรักเหมือนกัน วันหนึ่งต้องสูญเสียเหมือนกัน มีสิ่งที่ไม่พึงใจที่ต้องอยู่กับมันเหมือนกัน

เพราะงั้นเราว่าตรรกะที่บอกว่า ยิ่งรวยยิ่งทุกข์ บางทีก็ไม่ใช่แบบ absolutely หรอกค่ะ อยู่ที่ว่ารวยมาแบบไหน รวยแล้วใช้ชีวิตยังไง รวยแล้วรู้เท่าทันมันมั้ย มีสติหรือเปล่าน่ะค่ะ


โดย: สาวไกด์ใจซื่อ วันที่: 19 สิงหาคม 2558 เวลา:16:10:39 น.  

 
พี่ก๋าไม่ได้ตั้งเป้าหมายอะไรมานานแล้วครับ

เคยผ่านความรู้สึกแบบต้องมีแผนการณ์
แผนประจำเดือน ประจำปี ชีวิตนี้ต้องทำอะไรบ้างมาก่อน

สุดท้ายก็ทิ้งมันไปหมด
แล้วหันกลับมาอยู่กับปัจจุบันอย่างมีสติ

เดินทีละก้าว เคี้ยวข้าวทีละคำ
ทำทีละอย่างครับ
...
อ่านแล้วก็ยิ้มอย่างอิ่มอุ่นนะคะ

มีความสุขมากมากค่ะ พี่ก๋า


โดย: white in the dark วันที่: 19 สิงหาคม 2558 เวลา:17:02:15 น.  

 
บางสิ่งที่อยากจำ...เรากลับลืม
บางสิ่งทีอ่ยากลืม...เรากลับจำ

ไม่ใช่เรื่องน่าแปลกนะคะ สมองก็เหมือนร่างกายส่วนอื่น ๆ
ถ้ามีการบริหาร ก็ช่วยคิดช่วยจำได้ดีขึ้นค่ะ
เมื่อพูดถึงระบบการศึกษา สอนให้ท่องจำ มากกวาจะสอนให้เข้าใจแล้วนำไปใช้
อ้าว..มาบ่นให้คุณก๋าฟังอีกแระ


โดย: เนินน้ำ วันที่: 19 สิงหาคม 2558 เวลา:19:02:19 น.  

 
พี่ผ่านพ้นจากการเรียนในห้องเรียนนานแล้ว นึกดีใจนะ

ทุกวันนี้ ถ้าอยากรู้อะไรก็หาอ่านเอา จำได้คลับคล้ายคลับคลา หรือจำไม่ได้ ก็รื้อหาอ่านใหม่ ครูมีอยู่ทั่วไป สบายใจดีค่ะ


*** วัดในเชียงใหม่ เยอะนะ พี่ไปเชียงใหม่ครั้งล่าสุด ก็ไม่ได้แวะค้างในเมืองเลย เวลาไม่พอ อย่างที่เราเคยคุยกันไว้ ถ้าจะไปวัดแถวๆ นั้นจริง


โดย: สายหมอกและก้อนเมฆ วันที่: 19 สิงหาคม 2558 เวลา:19:05:01 น.  

 
ยังไม่จบเลย มือไปโดนก่อน


ถ้าจะไปวัดแถวนั้นจริงๆ สามวันก็คงไม่พอมังคะ


โดย: สายหมอกและก้อนเมฆ วันที่: 19 สิงหาคม 2558 เวลา:19:06:16 น.  

 





5555555555555555555

ป่าวให้ คุณก๋า ค่ะ ..

ให้ คุณคนตัวเล็ก .. ชื่อ หมิง หมิง ค่ะ ..







อ้อ .. สำหรับ .. สถานที่ๆจะไป ..

จองตั๋วเครื่องบินไว้แล้วค่ะ ..

กดเวลาผิดด้วย .. ตอนแรก จะจองไป 6 โมงเช้า ..

ดันไปกด ตอน บ่าย 3 !!!

วันแรก คงต้องนอนที่สนามบิน ..

คงไม่เป็นไรมังคะ .. พี่ป๋อง เก่ง อยู่แล้ว ... แฮ่ม ..



ที่แห่งนั้น เป็นสถานที่ๆพี่ป๋องต้องการไปนาน นักหนาแล้ว .. ค่ะ ..



รอ ..









โดย: foreverlovemom วันที่: 19 สิงหาคม 2558 เวลา:20:36:44 น.  

 
สาวเพิ่งเจอเลยค่ะ ยิ่งเรียนยิ่งจำไม่ได้


โดย: sawkitty วันที่: 19 สิงหาคม 2558 เวลา:20:41:02 น.  

 
ไม่นานมานี้เจอคำคมที่กินใจค่ะ
เพราะแม่โมทำงานในสถานศึกษา คนเก่งมีเยอะ
"เก่งแต่ไม่ดี ไม่มีประโยชน์" การศึกษาในแง่ของพี่ก๋าแม่โมก็ชอบนะคะ อยากให้หลายคนคิดได้อย่างนี้ สั่งสม ฝึกฝน ดีกว่าค่ะ
ดีกว่าหลาย ๆ คน ที่ศึกษาเพื่อแข่งขัน และชิงดีชิงเด่นกันค่ะ
หลับฝันดีนะคะพี่หมิง ๆ


โดย: mariabamboo วันที่: 19 สิงหาคม 2558 เวลา:20:45:04 น.  

 
อ่านแล้วดีจัง เด็กๆน่าจะได้มาอ่านนะคะ



โดย: ซองขาวเบอร์ 9 วันที่: 19 สิงหาคม 2558 เวลา:20:58:17 น.  

 
ฝึกแก้ปัญหา ก็จริงค่ะพี่ก๋า
นิคคิดว่าคือการฝึกวินัยอีกด้วย
ตอนเรียนไม่ได้คิดได้อย่างนี้ มาคิดเอาเมื่อโตตอนที่ต้องทำงานร่วมกับคนอื่นนี่ละค่ะ
ของนิคชอบตั้งใจเรียนในชั่วโมงดีกว่าค่ะ
จำง่ายกว่ามานั่งอ่านหนังสือเอง



โดย: ที่เห็นและเป็นมา วันที่: 19 สิงหาคม 2558 เวลา:22:17:51 น.  

 
ภาพประกอบสวยมากเลยคร้า
กลับจากเที่ยวสมุยแล้วคะ อ่านรายงานสดผ่านเฟส
ดีใจด้วยเจรงๆ แต่ลูกที่ได้กลับเป็นปัญหา หุ หุ

คำตอบคุณก๋า ให้หลักการการศึกษาไว้ดีมากๆ

“วิธีคิด” ที่ติดตัวเรา จะเป็นสิ่งที่ทำให้เราผ่านพ้นปัญหาไปได้

บันทึกการโหวต Blog ในวันนี้

ผู้เขียน Blog หมวดเนื้อหา Blog ได้รับโหวต
ปีศาจความฝัน Movie Blog ดู Blog
ดอยสะเก็ด Literature Blog ดู Blog
กะว่าก๋า Dharma Blog


โดย: Tui Laksi วันที่: 19 สิงหาคม 2558 เวลา:22:31:10 น.  

 
จริงๆ ถ้าทุกคนรู้เรื่องนี้อาจจะตั้งใจเรียนมากกว่านี้ก็ได้ แต่จะว่าไงดี ห้องเรียนไทย ไม่เอื้อแก่การเรียนการสอน ด้วยจำนวนเด็กที่มากเกินไป และครูที่ไม่ได้เรื่อง

ครูมักจะชอบเด็กเก่ง เพราะมันสอนง่าย ไม่ต้องสอนอะไรมากมันก็เป็นแล้ว ในขณะที่เด็กไม่เก่งนั้นต้องใช้เวลาและครูมักจะดูถูกเหยียดหยามว่าโง่

อันที่จริงผมชอบคำพูดในเกมกีฬาฟุตบอลหลายๆ อันมาก มีคำพูดนึงตอนที่แมนยูยังผยองมากๆ และแขวนป้ายแซวแมนซิตี้ว่าไม่ได้แชมป์มานานมาก และตัวเลขที่ป้ายนั้นก็จะเพิ่มขึ้นทุกๆ ปี จนถึง 44 ปี

มันโช่ ประกาศเลยว่า "ผมจะปลดป้ายนั้นด้วยมือของผมเอง" แล้วเขาก็ทำได้โดยการเป็นแชมป์ FA CAP ก่อนจะเป็นได้แชมป์ในปีต่อมา ผมอยากให้มีครูที่ประกาศต่อว่าครูคนอื่นว่า "ผมจะทำให้เด็กพวกนี้ฉลาดด้วยมือของผมเอง" แบบนั้นบ้างจริงๆ

ถ้ามีครูแบบนั้นเด็กหลายๆ คนคงรักโรงเรียนอีกเยอะ ปัญหามันไม่ได้อยู่ที่วิชาน่าเบื่อ มันอยู่ที่คนสอนน่าเบื่อมากกว่า

+


โดย: คุณต่อ (toor36 ) วันที่: 20 สิงหาคม 2558 เวลา:0:03:08 น.  

 
วันนี้คุณลัลลาบายถามเรื่องธรรมดาผิดคาด แต่ถามถูกคนแล้วครับ เรื่องการตามหาความหมายที่แท้จริงของการเรียนต้องถามพี่ก๋าเลย (หรือไม่ก็อ่านสองปีที่ฝันร้าย อิอิ)
การศึกษาคือการฝึกกระบวนการความคิด ฝึกทำงานร่วมกัน ฝึกแก้ปัญหา ฯลฯ มากกว่าการนำวิชามาใช้ตรงๆจริงครับ
ส่วนการรับน้อง ไม่ได้มีไว้เตรียมพร้อมรับสภาพการทำงานที่เลวร้าย แบบที่พี่ว้ากเกอร์ชอบโม้ อันนี้ก็แน่นอนเหมือนกัน 5555

บันทึกการโหวต Blog ในวันนี้

ผู้เขียน Blog หมวดเนื้อหา Blog ได้รับโหวต
mambymam Home & Garden Blog ดู Blog
กะว่าก๋า Dharma Blog ดู Blog
ระบบจะบันทึกคะแนนโหวต เฉพาะการโหวต 5 ครั้งล่าสุดในแต่ละวันเท่านั้น


โดย: ชีริว วันที่: 20 สิงหาคม 2558 เวลา:0:34:34 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิกช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

กะว่าก๋า
Location :
เชียงใหม่ Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 392 คน [?]




มองฉันอีกครั้ง
เธออาจเห็นฉัน
หรืออาจไม่เห็นฉัน

ฉันแค่แวะผ่านทางมา
และอาจไม่หวนกลับมาทางนี้อีกแล้ว

เราเคยรู้จักกัน
และมันจะเป็นเช่นนั้นตลอดไป

มองดูฉันอีกครั้ง
เธออาจเห็นฉัน
และฉันอาจมองไม่เห็นเธอ.





[Add กะว่าก๋า's blog to your web]