สิงหาคม 2555
 
 1234
567891011
12131415161718
19202122232425
262728293031 
21 สิงหาคม 2555

:: ก๋าราณีตอบคำถามคุณคล้ายดาว ::





:: ก๋าราณีตอบคำถามคุณคล้ายดาว ::





ความรู้...เกิดจากการท่องจำ
การเรียนรู้ การท่องตำรา
และจดจำถ้อยคำสั่งสอนของนักปราชญ์

ปัญญา...นี้มีอยู่ในตัวเราทุกคน
ปัญญานี้มิอาจสร้างขึ้นได้ด้วยวิธีใดๆ
ไม่อาจแสวงหาได้พบไม่ว่าในที่ไหนๆ

(กะว่าก๋า)






ถ้าอย่างนั้นการเกิดปัญญาก็ไม่จำเป็นต้องเป็นคนฉลาดสินะ
แล้วปัญญาในตัวของคนแต่ละคนแตกต่างกันไหม ?

อย่างเช่นปัญญาของคนที่สังคมบอกว่าเค้า..โง่..
ด้อยโอกาส อ่านไม่ออก เขียนไม่ได้
ซ้ำอาจจะหูหนวก
จะตอบโจทย์คำถามของชีวิตให้ตัวเองและคนรอบข้าง
ได้เหมือนคนฉลาดระดับด็อกเตอร์ได้รึป่าว




คำถามโดย : คล้ายดาว
วันที่ : 10 มกราคม 2555
เวลา : 9:28:43 น.


























คนที่รู้เยอะ ฟังมาก อ่านมาก เขียนมาก
เราเรียกว่าคนมีความรู้

แต่คนที่รู้ในสิ่งที่ตนรู้อย่างดีที่สุด
และนำไปใช้ให้เกิดประโยชน์ได้
เราเรียกว่าคนมีปัญญา



ปัญญากับความฉลาด
ดูผิวเผินเหมือนจะคล้ายกัน
แต่ไม่เหมือนกัน


ผมคิดว่าสัญชาติญาณ การสั่งสมความรู้
ภูมิปัญญา ฯลฯ
มันใกล้เคียงกับคำว่า ความรู้มากๆ....



หมาแมวคลอดลูกมันไม่ต้องใช้หมอหรือพยาบาลเลย
นี่เราเรียกว่าสัญชาติญาณหรือความฉลาด ?


ชาวดอยเดินอยู่บนสันเขา เอามีดจิ้มลงไปในดินทีเดียว
ก็รู้เลยว่าตาน้ำอยู่ไหน


เหล่านี้บางคนเรียกว่าภูมิปัญญา ประสบการณ์
แต่ผมคิดว่ามันเป็นปัญญา
เป็นความจำ การเรียนรู้ แล้วนำมาใช้กับชีวิตจริงได้


เคยได้ยินนิทานเรื่องชายแก่กับศาตราจารย์ไหม
สองคนนี้ไปล่องเรือกัน
ศาสตราจารย์ถามชายพายเรือว่า

“ลุงรู้จักฟิสิกซ์มั้ย ?”

ชายชราตอบว่า

“ไม่รู้จักหรอกครับ ผมพายเรืออย่างเดียวมาตลอดชีวิต”

“แล้วรางวัลโนเบลล่ะ ?”

“มันเกี่ยวกับการพายเรือรึเปล่าครับท่าน ?” ชายชราถาม


ศาสตราจารย์หัวเราะด้วยน้ำเสียงเยาะเย้ย

“มันเป็นรางวัลระดับโลกสำหรับอัจฉริยะต่างหากลุง ฮ่าๆๆ
จะบอกให้นะ รางวัลนี้น่ะ ฉันต้องได้แน่ๆในสักวันหนึ่ง”


ชายชราพายเรือต่อไป แต่เขาเริ่มสังเกตว่าคลื่นใต้น้ำเริ่มก่อตัว
รอบตัวอากาศเย็นลงแบบฉับพลัน เหมือนจะมีพายุหนัก

“แล้วลุงรู้จักทฤษฏีการหักเหของแสงมั้ย ?” ศาสตราจารย์ยังถามต่อ


“ไม่รู้จักหรอกครับท่าน”


“งั้นลุงก็พลาดอะไรดีดีในชีวิตไปซะแล้ว”

“ผมถามอะไรท่านนิดหนึ่งได้มั้ยครับ”

ชายชรากล่าวอย่างนอบน้อม


“อะไรเหรอลุง”


“ท่านว่ายน้ำเป็นมั้ยครับ”


“ไม่เป็นเลย ลุงถามทำไม” ศาสตราจารย์ถามด้วยเสียงวิตก

“งั้นความฉลาดของท่านก็เปล่าประโยชน์แล้วล่ะครับ
ตอนนี้เรากำลังเจอพายุใหญ่ครับ”

ชายชราพูดด้วยน้ำเสียงเรียบเฉย
ส่วนศาตราจารย์ได้แต่ร้องเสียงหลงด้วยความรักตัวกลัวตาย














ผมไม่เล่าตอนจบนะครับ
ว่าตกลงเรื่องราวของชายชรากับศาสตราจารย์เป็นอย่างไรต่อ


แต่ที่อยากเล่าต่อ คือ


คนทุกคนเกิดมาบนโลกนี้
ไม่ได้มี “ปัญญา” ที่แตกต่างกันเลย
ขอย้ำว่า “ปัญญา” นะครับ
ไม่ใช่ความ “ฉลาด”


ในทางธรรมเราใช้คำว่า “วิชชา” กับ “วิชา”



“วิชา” หมายถึงความรู้ที่เกิดจากการจำ พูด อ่าน เขียน
และถามจากผู้รู้ ดูจากสิ่งต่างๆที่เกิดขึ้นมาก่อนที่เราเกิด



ส่วน “วิชชา” นั้นเป็นสิ่งที่มีอยู่แล้วในตัวเราทุกคน
เป็นปัญญาที่รู้แจ้งแทงตลอด
สว่างไสวในธรรมะแห่งความเป็นจริงอยู่แล้ว
โดยไม่มีสิ่งใดเปลี่ยนแปลงหรือแปรเปลี่ยนมันได้


คำถามคือ แล้วทำไมในเมื่อคนเรามี “วิชชา” เหมือนกัน
แต่กลับเปล่งแสงสว่างแห่ง “วิชา” ได้ไม่เท่ากัน


สิ่งนี้อธิบายได้ด้วยการเปรียบเทียบ...

เปรียบเทียบคนเรากับหลอดไฟหนึ่งดวง
เมื่อเรากดสวิชท์เปิด
หลอดไฟทำงานแล้วเปล่งแสง
แสงนี้นี่ล่ะครับที่เป็น “ปัญญา”

แต่ที่คนเราเปล่งแสงไม่เท่ากัน
เป็นเพราะหลอดไฟหลอดนี้ถูกผ้าสีดำเข้มบดบัง
เป็นเพราะหลอดไฟหลอดนี้ถูกฝุ่น
และขยะสกปรกเข้ามาฉาบทาหนาเตอะ
จนแสงสว่างไม่อาจเปล่งแสงของมันออกมาได้



สิ่งที่บดบังแสงสว่างนี้
ในทางธรรมเราเรียกว่า อวิชชา กิเลส อุปทาน ความหลงผิด
การมองและคิดอย่างผิดทิศทาง
หลงไปว่าสิ่งที่ไม่เที่ยงแท้ เป็นสิ่งที่เที่ยงแท้
หลงไปยึดติดว่าทุกสิ่งเป็นของฉัน นี่ของฉัน นี่คือตัวฉัน
ความรู้แบบนี้เมื่อสั่งสมไปนานๆในความคิดของเรา
จะกลายเป็นผ้าสีดำ
เป็นฝุ่นและขยะที่บดบังปัญญาหรือวิชชาที่เรามีอยู่



สิ่งที่เราต้องทำ
ไม่ใช่การพยายามไปเพิ่มแสงสว่างให้หลอดไฟ
เพราะถึงอย่างไรหลอดไฟก็สว่างเท่าเดิม
ไม่เคยเพิ่มเติม ไม่เคยลด ไม่เคยอ่อนแสง


สิ่งที่เราต้องทำ คือ ต้องนำสิ่งที่บดบังหลอดไฟออกไป

เมื่อนำสิ่งต่างๆเหล่านี้ออกไปได้
หลอดไฟก็ทำงานได้ตามปกติของมัน
โดยที่เราไม่ต้องทำอะไรเลยกับตัวหลอดไฟ












คนที่ร่างกายพิการ
ไม่ได้มีอะไรที่แตกต่างกับเราเลย
นอกจาก “สรีระ”

แต่พันธะที่เรามีร่วมกัน
คือ เราต้องเกิด เราต้องแก่ เราต้องเจ็บ เราต้องตาย
เราต้องพลัดพรากจากสิ่งของหรือบุคคลอันเป็นที่รักในทุกขณะ


ความพิการทางกาย ไม่มีอะไรที่เกี่ยวกับระดับสติปัญญาเลย
เพราะอย่างที่ผมได้อธิบายไปแล้ว

“แสงสว่าง” ในตัวเราเท่ากัน

ไม่ว่าคนจะหูหนวก ตาบอด
ไม่ว่าคุณจะเป็นกษัตริย์ หรือเป็นยาจก
เป็นครู แพทย์ คนกวาดขยะ หรือเป็นนักฟุตบอลทีมชาติ
ฯลฯ


ปัญญาเรามีเท่าเทียมกัน


แต่สิ่งที่บดบังปัญญาของเรานั้นต่างกัน
หนาบางไม่เท่ากัน



คนโง่ที่แท้จริงไม่มีหรอกครับ
มีแต่คนที่ยังรู้ไม่เท่าทันความจริงเท่านั้นเอง


อะไรที่ไม่รู้
พอได้รู้ ... ก็หายจากความไม่รู้


ความฉลาดหรือปัญญายังคงเท่าเดิม
เราไม่ได้โง่ เราแค่ไม่รู้
เราแค่ถูกความไม่รู้บดบังแสงสว่างแห่งปัญญาเท่านั้น












ผมคิดเสมอว่าทุกอาชีพและคนทุกคนมีเกียรติ
มีศักดิ์ศรีแห่งความเป็นมนุษย์ที่เท่าเทียมกัน

ในเช้าวันที่ส้วมเต็มทั้งเมือง....
พนักงานดูดส้วมที่ทำหน้าที่ของเขาอย่างเต็มที่สุดกำลังฝีมือ
ก็มีคุณค่าและเกียรติ
ไม่แพ้ตำแหน่งนายกหรือรัฐมนตรีเลยนะครับ












ผมเชื่อว่าคนเราเท่าเทียมกัน (ในทางธรรม)
แต่ในทางโลก คุณจะทำหน้าที่อะไร
คุณจะรู้อะไรก็รู้ไปเถิด
ขอให้ความรู้นั้นเกิดประโยชน์กับตัวเองและชุมชนที่คุณสังกัด

ขอให้นำความรู้นั้นไปใช้เพื่อพัฒนาจิตใจและความคิดของตนเอง


เราไม่จำเป็นต้องเป็นคนฉลาดที่สุดในโลก
ถึงจะรู้จักตนเอง

ขอเพียงรู้จักตนเอง
ผมว่านั่นเป็นความรู้ที่แท้จริง
ที่น่าจะเพียงพอแล้ว
หากใครคนหนึ่งเกิดขึ้นมาในชีวิตหนึ่ง
แล้วสามารถหลับตาตายได้พร้อมกับคำว่า


“ฉันรู้จักตัวเองอย่างดีที่สุดแล้ว”


ผมคิดว่านี่เป็นความตายที่ทรงคุณค่ามากจริงๆ
สำหรับชีวิตหนึ่งที่ได้เกิดมาครับ




















Create Date : 21 สิงหาคม 2555
Last Update : 21 สิงหาคม 2555 5:24:28 น. 78 comments
Counter : 1952 Pageviews.  

 
อรุณสวัสดิ์ค่ะคุณก๋า


แอมอร


โดย: peeamp วันที่: 21 สิงหาคม 2555 เวลา:5:48:19 น.  

 
อ่านเพลินๆจนจบ ใช้เวลาเพ่งมองภาพอย่างชื่นชม
สีเขียวสดของใบไม้
แสงเงาที่สะท้อนอย่างลงตัว
เกือบทำให้พลาดในการได้เจิม อิ อิ

จำได้ว่า ตั้งแต่รู้จักกันมา พี่มีโอกาสเจิมบล็อกคุณก๋าสองครั้ง
ก็ด้วยความเพลิดเพลินในการอ่านของพี่นี่เอง

คำถามสุดเจ๋ง คำตอบยิ่งแจ๋ว
น้องเจสมีความสามารถในการยิงคำถาม
และคุณก๋าสามารถในการตอบคำถาม
ทำให้เรื่องของธรรมะเป็นเรื่องที่เข้าใจได้ง่ายๆ
เช้าๆเข้ามาอ่านทีไร ทำให้หลอดไฟของพี่แจ่มแจ๋วขึ้นทุกวัน
ขอบคุณค่ะ


แอมอร




โดย: peeamp วันที่: 21 สิงหาคม 2555 เวลา:6:02:12 น.  

 
วันนี้ทักทายได้ไม่กี่บล็อก ต้องออกไปลงสวนแล้วค่ะ
ไม่ต้องรดน้ำ เพราะเมื่อคืนฝนตก
แต่พี่ชอบสัมผัสกับต้นไม้ใบหญ้า เป็นการเติมพลังก่อนไปทำงาน

ฟิ้ววววว ไปแล้วค่ะ


แอมอร


โดย: peeamp วันที่: 21 สิงหาคม 2555 เวลา:6:30:53 น.  

 
สวัสดีตอนเช้าค่ะพี่ก๋า

ถ้าให้สมบูรณ์แบบมีทั้งสองอย่างเลยค่ะ ทั้งปัญญาและความฉลาดค่ะ อิอิ

แต่สำหรับปอยแล้ว
คนที่เรียนหนังสือมามากมายหรือสูงๆ นะ
บ้างครั้งก็ใช่ว่าจะฉลาดหรือเอาตัวรอดได้เสมอไปค่ะ
น่าจะขึ้นอยู่ที่เฉพาะคนมากกว่าอ่าน๊า

ส่วนคนที่หูหนวกหรือหูดับ
หากใจไม่มืดมัว ก็คงไม่จมปลักกะชีวิตด้านลบหรอกค่ะ
ก่อนจะหาคำตอบให้คนรอบข้าง ควรที่จะตอบคำถามตัวเองให้ได้ก่อน
ร่างกายพิการได้ แต่ใจอย่าพิการก้อพอ


โดย: ปอย (แค่ได้รู้จัก_ก็เพียงพอ ) วันที่: 21 สิงหาคม 2555 เวลา:6:38:53 น.  

 
ทะเลาะกะตัวเองดีที่สุดค่ะ
อาจจะทำให้เราไม่สบายใจ แต่คนอื่นไม่เดือดร้อน ฮ่าๆๆ
ว้าวุ่นใจกับความไม่ได้ดั่งใจหรือไม่เอาไหนของตัวเอง
ยังดีกว่าพาลไปทะเลาะกะชาวบ้านเนอะพี่ก๋า

แต่ปอยจะใช้ชีวิตไม่กะเกณฑ์หรอกค่ะ
ไม่อยากตีกรอบว่าชีวิตตัวเองต้องเป้นอย่างโน่นอย่างนี้
แค่ทำให้ชีวิตตัวเองมีความสุขและสบายใจเป็นหลักพอแระ

ชีวิตนานาจิตตังเนอะพี่ก๋า


โดย: ปอย (แค่ได้รู้จัก_ก็เพียงพอ ) วันที่: 21 สิงหาคม 2555 เวลา:6:59:19 น.  

 
อรุณสวัสดิ์ค่ะคุณณก๋า
ได้อ่านคำถามและคำตอบในเช้านี้
หลอดไฟของเรา ... ก็ใสสว่างขึ้น ถูกใจมากค่ะ
ภาพประกอบสวยงาม พักสายตาได้ดีจัง ขอบคุณค่ะ
บันทึกการโหวต Blog ในวันนี้
กะว่าก๋า Dharma Blog


โดย: tui/Laksi วันที่: 21 สิงหาคม 2555 เวลา:7:05:13 น.  

 
อรุณสวัสดิ์ค่ะ น้องก๋า..

ตอบได้ดีมากเลยน้องก๋า..


โดย: poongie วันที่: 21 สิงหาคม 2555 เวลา:7:09:42 น.  

 
แหะๆๆ วันนี้ พูดคำว่า "อรุณสวัสดิ์" ได้เต็มปากเต็มคำหน่อยค่ะพี่ก๋า แบบว่าทีแรกกะว่าจะได้ออกไปรพ.สวนดอกแต่เช้า ส่งสว.ไปเช็คร่างกายเสียหน่อย แต่บังเอิญแอบย่องหนีไปก่อนแล้ว ประมาณว่าเห็นไผ่ยังไม่ตื่น กว่าจะรับบัตรคิวนั่นนี่โน่น คงชาติครึ่ง แอบหนีไปซะงั้นเลย

ในบล็อคไผ่...ไม่รู้ใครอ่านแล้วจะงงๆ กับเราหรือเปล่า แบบว่า...มีหลายเรื่องราวปนเปกันมากมายในช่วงเวลานนี้ จับมารวบรวมเป็นก้อนความคิดกลมๆ ที่อาจไม่กลมนัก บิดเบี้ยวบ้าง งงๆ บ้าง แอบอยากสื่อสารกับใครบางคนที่บ่นเป็นหมีกินผึ้งบ้าง เลยเขียนเรื่อยๆ เจื้อยแจ้วไปงั้นแหละค่ะ ตามประสาไผ่ผีบ้า หุหุ

วันนี้ขอให้พี่ก๋ามีความสุขรับอรุณเช่นเคยนะคะ


โดย: คมไผ่ วันที่: 21 สิงหาคม 2555 เวลา:7:19:12 น.  

 
สวัสดีค่ะคุณก๋า

วันนี้เข้ามาอ่านช้ากว่าเวลาปกติไปเยอะเลย ^^
จึงต้องใช้เวลาอ่านช้า..ช้า..และคิดตามค่ะ
....
ที่บ้านมีประสบการณ์ชีวิตให้เรียนรู้
สอนในสิ่งที่เห็นเรื่องปัจจุบันไปด้วยกันคะ
มากน้อยแล้วแต่สถานการณ์
ไม่บังคับว่าต้องมีมากกว่า
แต่ขอให้มีมากเพียงพอสำหรับการดูแลตนเองค่ะ
...
พอไหวเนอะ

ขอบคุณนะคะสำหรับเรื่องราวดีดี
จะว่าไป..รอชมภาพน้องหมิงหมิงจนจบอาทิตย์นี้เลยนะคะ คริ คริ


โดย: A IP: 125.27.53.91 วันที่: 21 สิงหาคม 2555 เวลา:7:24:27 น.  

 
ชอบค่ะ

โหวตให้


เราเองเชื่อในสิ่งที่คุณก๋าบอกนะคะ

แต่ก็รู้ตัวว่า ตัวเองเป็นคนหนึ่งเลยที่ "ความรู้ท่วมหัวเอาตัวไม่รอด" ฮา


แบบว่า...วิชา เยอะ แต่วิชชาไม่เยอะน่ะค่ะ กิเลสท่วมท้นมากๆ เหอๆ


โดย: สาวไกด์ใจซื่อ วันที่: 21 สิงหาคม 2555 เวลา:7:52:10 น.  

 
อรุณสวัสดิ์จ๊ะ หมิง หมิงemo


โดย: ดอกฝิ่นในสายลมหนาว วันที่: 21 สิงหาคม 2555 เวลา:8:01:52 น.  

 
ทักทายกันยามเช้าครับ คุณก๋า มาดาม น้องหมิง หมิง
เราเรียนรู้วิชาตลอดชีวิต
แต่เรียนรู้วิชชาน้อยมากครับ ทั้งที่อยู่ในตัวเราเอง



โดย: เศษเสี้ยว วันที่: 21 สิงหาคม 2555 เวลา:8:03:41 น.  

 
หวัดดียามเช้าครับพี่



ปัญญาดอยไม่ค่อยฉายแสงเลยครับ 555 ต้องหมั่นเช็ดหลอดไฟเสียหน่อย



โดย: กลิ่นดอย วันที่: 21 สิงหาคม 2555 เวลา:8:14:07 น.  

 


โดย: เสือย้อมแมว วันที่: 21 สิงหาคม 2555 เวลา:8:21:02 น.  

 
สวัสดีค่าคุณก๋า
โอ้.. วันนี้หัวข้อดีมากๆเลยค่ะ ^^ อ่านแล้ว ใช่เลยยยยยย...
คำนิยามคำว่า ปัญญา ของพี่ตามนะคะ คือ สิ่งที่เราคิดได้เองโดยมีหรือไม่มีคนชี้นำ พอคิดได้ ก็จะหาแนวทางพัฒนาแนวคิดให้แตกแขนง แต่ต้องคิดได้ในทางที่สร้างสรรค์ด้วยน๊า ไม่งั้นจะโดนว่า ปัญญาอ่อง อิอิ


โดย: Iaun_Tor วันที่: 21 สิงหาคม 2555 เวลา:8:22:39 น.  

 
ขอบคุณเรืองราวดีๆค่ะ....

ตอนนี้นี้ซีเปิดปัญญาด้วยการอ่านหนังสือ ไม่รู้ว่าโตขึ้นจะขยันแบบนี้อยู่รึเปล่า ^^

น้องซีซบหนุ่ม ชอบมากค่ะ ^^


โดย: มี๊เก๋&ซีทะเล (kae+aoe ) วันที่: 21 สิงหาคม 2555 เวลา:8:30:17 น.  

 


เหมือนผู้หญิงหน้าตาไม่สวยแต่จิตใจดีงาม ทั้งที่เรารู้ว่าดีกว่า ผู้หญิงสวยแต่จิตใจบดเบี้ยว ใครๆก็อยากได้ หญิงที่ดีรูปร่าง งดงาม น่ารัก อ่อนหวาน เฟอเพค แต่มันจะใช่ความสุข จริงนั้นเหรอ ความงามจะให้ความสุขเราได้ตลอดไปไหม แต่ที่เจอเราก็สุขใจ ปัญหาอาจพาเราไปหาบ้านหลังใหญ่ไม่ได้ อาจพาเราไปหารถหรูไม่ได้ แต่จะมีประโยชน์อะไร ถ้าหากสิ่งที่ได้มา ไม่ได้เติมเต็มความรู้สึกเราเลย
ธรรมชาติสอนให้เราได้รู้ว่า ไม่มีอะไรที่ได้มา แล้วจะไม่เสียไป ทุกๆสิ่ง รอเวลาจากไป หากเป็นสิ่งของ นั้นคงไม่สำคัญเท่าไหร่ แต่การจากไปของคนที่ยังรักกัน ช่างเจ็บปวดเหลือเกิน ไม่ว่าการตายของคนมากมายคนโลก เรามักไม่ใส่ใจ หากเป็นคนที่เรา รัก รู้จัก มันช่างมีความหมาย
อยากได้สาวสวย
อยากมีชีวิตที่ดี
อยากให้เป็นอย่างที่คิดเอาไว้
จะทิ้งสิ่งเหล่านี้ไป เหมือนว่าลอยอยู่ไม่มีที่ให้เกาะรั้งไว้
คงไม่มีใครสามารถตอบแทนตัวฉันได้
ฉันต้อง ไปลองดูด้วยตัวเอง ใช่ไหมครับพี่ก๋า
ไม่ว่าเราจะรัปประทานข้าวกล้อง อาหารที่มีคุณค่า หรือทานฟาดฟู๊ด อาหารขยะ เราก็ตายเหมือนๆกัน




โดย: น้ำแข็งน้อย (เสือย้อมแมว ) วันที่: 21 สิงหาคม 2555 เวลา:8:34:59 น.  

 
เข้ามาเห็นด้วยกับบคำตอบของพี่วันนี้อย่างมากมาย
และ ชอบตรง

"ขอย้ำว่า “ปัญญา” นะครับ
ไม่ใช่ความ “ฉลาด”" คนส่วนมากก็ยังเข้าใจจุดนี้ผิดทำให้มองพุทธศาสนาผิดก็เยอะ



โดย: อัสติสะ วันที่: 21 สิงหาคม 2555 เวลา:8:43:14 น.  

 


โดย: แม่อ้วนคนสวย วันที่: 21 สิงหาคม 2555 เวลา:8:45:18 น.  

 
หวัดดีครับคุณก๋า อ่านข้างบนแล้วชัดเลย ชอบภาพ
ชุดข้างบน ดูสดชื่น ใช่ที่พืชสวนโลกหรือเปล่าครับ
เห็น มีมอสด้วย

เมื่อสองวันผมเฉียดไปใกล้สวนราชพฤกษ์ตอนบ่ายมัน
ร้อนเลยไม่แวะ ขับขึ้นดอยคำซะเลยที่ไหนได้ ร้อน
พอกัน

ผมเพิ่งเข้า BG ได้เลยแวะมาทักทาย ตอนนี้อยู่บ้าน
พี่สาวที่ บ้านโป่งแยง ครับ


โดย: ไวน์กับสายน้ำ วันที่: 21 สิงหาคม 2555 เวลา:8:53:18 น.  

 
สวัสดีค่ะน้องก๋า พี่กิ่งเข้ามาอ่านตอบคำถามคุณคล้ายดาวแล้วโห..คิดได้ยังไงเนี่ยตอบซะยาวมากและมีเหตุผลดีมากเลยค่ะ พี่กิ่งชอบตรงที่บอกว่าหมาแมวมันคลอดลูกมันไม่เคยหาหมอเลย มันคลอดของมันเองได้ จริงเป๊ะเลยค่ะ คนเรายังต้องพึ่งหมอนะคะนับว่าหมาแมวเนี่ยเก่งที่คนเราสู้ไม่ได้เลยนะคะแถมมีตั้งหลายตัวแน่ะ 555

พี่กิ่งติดโหวตไว้ก่อนนะคะ ชนกับพี่ปอป้าค่ะ เอหรือพี่กิ่งจะโหวตภาพถ่ายให้น้องก๋าคะ งั้นโหวตภาพถ่ายให้ก่อนนะคะเพราะภาพดอกไม้ก็สวยมากค่ะ ถ้าไม่ชอบใจยังไงไว้พี่กิ่งมาแก้ไขให้นะคะ


กะว่าก๋า Photo Blog ดู Blog

ระบบจะบันทึกคะแนนโหวต เฉพาะการโหวต 3 ครั้งล่าสุดในแต่ละวันเท่านั้น



คลิกๆๆ รูปสวยๆน่ารักๆไว้ส่งต่อเพียบ...







โดย: กิ่งฟ้า วันที่: 21 สิงหาคม 2555 เวลา:9:02:25 น.  

 
เคยอ่านเรื่องนี้แล้วค่ะ b_bee ก็ว่ายน้ำไม่เป็น สงสัยจะแย่แน่ๆเลยค่ะ


โดย: bee_บี วันที่: 21 สิงหาคม 2555 เวลา:9:05:37 น.  

 
เรื่องนี้เจาะกันให้ลึกถึงแก่น ก็เป็นวิทยานิพนธ์
ได้เรื่องหนึ่งสบายๆเลยครับ


โดย: คนบ้า(น)ป่า (nulaw.m ) วันที่: 21 สิงหาคม 2555 เวลา:9:06:45 น.  

 






สวัสดีครับพี่อ้อย


มีคำสอนนึงที่ผมชอบมาก
ก็คือ

พ่อเรียกฉันมาที่หน้าผา
ให้มองลงไปที่เหว
จากนั้นพ่อก็ผลักฉันลงไป

แล้วฉันก็บิน

.
.
.

ผมชอบวิธีสอนแบบนี้
เพราะลูกนกจะหาเหยื่อกินเองได้
ไม่ต้องรอเราป้อนไปตลอดชีวิตครับ






โดย: กะว่าก๋า วันที่: 21 สิงหาคม 2555 เวลา:9:09:13 น.  

 
พ่อเรียกฉันมาที่หน้าผา
ให้มองลงไปที่เหว
จากนั้นพ่อก็ผลักฉันลงไป

แล้วฉันก็บิน

.
.
.
แล้วถ้าบินไม่ได้อะคะ ตกมาละก็ เอ่อ


โดย: bee_บี วันที่: 21 สิงหาคม 2555 เวลา:9:29:06 น.  

 
ชอบคับ..มุมมองที่กว้างและชัดเจน...
src=https://www.bloggang.com/emo/emo19.gif>

เคยได้ยินมาคับ...ปัญญาคือการรู้ในสิ่งที่ควรรู้..แต่นั่นก้อยังไม่พอเพราะหากรู้แล้วแต่ใช้ไม่ถูก.คุณค่าของมันก้อยังไม่สมบูรณ์..ผู้ที่ใช้ปัญญาได้สมบูรณ์คือ สติ ของตัวเรา..ดังนั้นต้องมีสติด้วยปัญยาจึงถูกใช้งานได้....ตมความต้องการ.

โดย: biocellulose วันที่: 21 สิงหาคม 2555 เวลา:9:50:38 น.  

 
ชัดเจนมากค่ะก๋า

โดนใจทุกย่อหน้า

ก๋าราณีน่าจะได้ทำเป็นเล่มนะ
ซื้อวางไว้หัวเตียง หยิบมาอ่านก่อนนอนแค่คืนละเรื่อง
เป็นคู่มือประคองชีวิตที่ได้ผลแน่นอนค่ะ


โดย: ร่มไม้เย็น วันที่: 21 สิงหาคม 2555 เวลา:10:19:08 น.  

 
พ่อเรียกฉันมาที่หน้าผา
ให้มองลงไปที่เหว
จากนั้นพ่อก็ผลักฉันลงไป
^
^
ฉันเกาะกิ่งไม้ใต้ที่ยื่นออกมาใต้หน้าผาไว้แน่น
แล้วปีนกลับขึ้นมา


โดย: พจมารร้าย วันที่: 21 สิงหาคม 2555 เวลา:10:21:18 น.  

 

...
อรุณสวัสดิ์นะคะ พี่ก๋า
มีความสุขมากมากค่ะ

ในเช้าวันที่ส้วมเต็มทั้งเมือง....
พนักงานดูดส้วมที่ทำหน้าที่ของเขาอย่างเต็มที่สุดกำลังฝีมือ
ก็มีคุณค่าและเกียรติ
ไม่แพ้ตำแหน่งนายกหรือรัฐมนตรีเลยนะครับ
...


โดย: Nissan_n วันที่: 21 สิงหาคม 2555 เวลา:10:23:40 น.  

 
ถูกของคุณก๋า การมองประเด็นที่มีผู้มองขัดแย้งกัน
ต้องเริ่มที่ให้มองแบบไม่จับผิดกัน มองความคิดหลาก
หลายเอามาสรุปแบบ brainstorm ระดมความคิด
แต่หลายๆ เรื่องก็สรุปความขัดแย้งไม่ได้เพราะคนเรามัก
ไม่ชอบความเห็นต่างของผู้อื่น เอา self-center
เป็นหลักอยู่เรื่อย อีกทั้ง ไม่แม่นด้วยว่า วิจารณ์
วิพากษ์ และวิเคราะห็ มันต่างกันยังงัย ถึงว่า แก้
ความขัดแย้งทางความคิดให้เกิดผลที่เป็นประโยชน์
ได้อย่างแท้จริงมันยากและยาวมากเลยครับ

ใครจับประเด็นนี้มาเขียน ก็หากินได้หลายตอน
ถ้าไม่เมาซะก่อนน่ะครับ อิอิ



โดย: คนบ้า(น)ป่า (nulaw.m ) วันที่: 21 สิงหาคม 2555 เวลา:10:25:00 น.  

 
สวัสดีค่ะคุณก๋า
หนึ่งกลับมาขอเข้าครัวก่อนนะคะ
รูปเที่่ยวเดี๋ยวตามมาค่ะ

ชอบการตอบคำถามคุณก๋าวันนี้เป็นพิเศษเลยค่ะ
รู้สึกว่ามันตรงประเด็นมากๆ อ่านแล้วชอบเลยค่ะ


โดย: AdrenalineRush วันที่: 21 สิงหาคม 2555 เวลา:10:34:26 น.  

 
โย จีธ กมฺมํ กุรุเต ปมาย ถามพลํ อตฺตนิ สํวิทิตฺวา
ชปฺเปน มนฺเตน สุภาสิเตน ปริกฺขวา โส วิปุลํ ชินาติ

ผู้ใดทำการโดยรู้ประมาณ ทราบชัดถึงกำลังของตน แล้วคิดการเตรียมไว้รอบคอบ
ทั้งโดยแบบแผนทางตำรา โดยการปรึกษาหารือ และโดยถ้อยคำที่ใช้พูดอย่างดี
ผู้นั้นย่อมทำการสำเร็จ มีชัยอย่างไพบูลย์

ใช้สติปัญญาและความรอบคอบ เพื่อความผาสุกในชีวิตตลอดไป...นะคะ



สวัสดีค่ะ คุณก๋า...

พี่เอา " สติ " มาเพิ่มให้กับปัญญาอีกหน่อย...ค่ะ

คุณก๋า ตอบคำถามได้ยอดเยี่ยมไปเลย
อ่านง่าย เข้าใจง่าย อย่างนี้แหละที่เขาเรียกว่าทักษะในการถ่ายทอดดี

การที่คนเราจะถ่ายทอดความรู้ความเข้าใจของตัวเองออกมาให้คนอื่นได้รู้ได้เข้าใจด้วยนั้น
พี่ว่ามันยาก...นะคะ

อย่างพี่นี้นะ ถ้าใครมาถามอะไร แล้วให้ตอบทันที
บอกได้เลยว่า ตอบไม่ได้หรอก...ค่ะ
ต้องใช้เวลาคิด บางทีต้องวิ่งไปเปิดตำรา
คิดแล้ว เปิดตำราแล้ว บางทียังพูดไม่ออกบอกไม่ถูกเลย
แต่พอคนอื่นเขามาตอบแทน พี่ก็ว่าเออ ๆ ..นั่นแหละ ใช่แล้ว
พี่ก็เลยติดเป็นคนชอบตอบด้วยวิธีการเขียนตอบมากกว่า
เพราะการเขียนตอบนั้น มีเวลาให้เราคิดให้เราแก้ไขจนกว่าจะถูกต้องพอใจ

ช่วงนี้สุขภาพของเจ้าสัวอ้ายเป็นอย่างไรบ้าง...คะ
ข่าวภายนอกเรื่องเด็ก ๆ ป่วยรู้สึกจะจางไปมากแล้ว
แต่อากาศก็แปรปรวนอยู่บ่อย ๆ ยังไงก็รักษาสุขภาพกันด้วย..นะคะ







โดย: พรหมญาณี วันที่: 21 สิงหาคม 2555 เวลา:10:37:25 น.  

 
ดีจ้าน้องก๋า

ภาพวันนี้สวยมาก ชอบ ชอบ ขอได้มะ ^^

วันนี้ยังไม่มีเวลาเลยอ่ะ ต้องรีบทำงานก่อน ถ้าว่างเมื่อไหร่จะแวะเข้ามาอ่านอีกทีละกันนะ ติดไว้ก่อน



โดย: oa (rosebay ) วันที่: 21 สิงหาคม 2555 เวลา:10:40:15 น.  

 
แวะมาทักทายยามสายค่ะ พี่ก๋า อ่านแล้วเข้าใจคำว่า ปัญญา กับความฉลาดขึ้นเยอะเลยค่ะ คนที่ไม่ได้เรียนเขาไม่ใช่คนโง่ แต่เขาแค่ไม่รู้ ไม่แน่ถ้าได้เรียนอาจจะเก่ง หรือฉลาดกว่าคนที่ถือว่าตัวเองฉลาดกว่าก็ได้ค่ะ
เดี๋ยวขอไปขัดหลอดไฟก่อน เผื่อปัญญาจะสว่างมากกว่าเดิม
-------
ว้า หมิงหมิงไม่ยอมโกนผมแล้วเหรอคะ น่ารักออก จะปล่อยผมยาวเป็นศิลปินเหรอคะ ถึงได้ไม่ยอมตัด น่าเสียดายจริงๆ


โดย: ประกายพรึก วันที่: 21 สิงหาคม 2555 เวลา:10:48:18 น.  

 
แต่เหลียวมองไปทางซ้ายมือมีงูเหลือมรอเขมือบฉันอยู่
ข้างล่างถ้าตกลงไปก็มีจระเข้รองาบ
แล้วที่หน้าผานั่นมีเสือตัวใหญ่ยืนรอคุมเชิง 555
^
^
เคราะห์ซ้ำกรรมซัดวิบัติเป็นจริงๆ

ในเมื่อฉันบินไม่ได้
ฉันก็คงต้องทำใจว่า เกิดแก่เจ็บตายเป็นเรื่องธรรมชาติ


โดย: พจมารร้าย วันที่: 21 สิงหาคม 2555 เวลา:10:59:17 น.  

 
สวัสดีตอนใกล้ๆเที่ยงค่ะคุณก๋า
แวะมาอ่านเหมือนเคยค่ะ


โดย: phunsud วันที่: 21 สิงหาคม 2555 เวลา:11:12:12 น.  

 
ดูเหมือนจะไม่ได้อ่านตอบคำถามมานานร่วมเดือน

แต่ทุกครั้งที่ได้อ่าน คุณก๋าตอบอย่างผู้รู้ อ่านง่าย เข้าใจง่าย มียกตัวอย่างประกอบด้วย

ผมคงทำแบบนี้ไม่ได้แน่ๆ

ันับถือครับ


โดย: ปลายแป้นพิมพ์ วันที่: 21 สิงหาคม 2555 เวลา:11:19:01 น.  

 
อยากอ่านที่ผมเม้นท์ไป..ระมัดระวังอย่างดีแล้วเชียว ทำไมโดนแบนก็ไม่รู้ 555


โดย: ปลายแป้นพิมพ์ วันที่: 21 สิงหาคม 2555 เวลา:11:32:55 น.  

 
สวัสดีค่ะ พี่ก๋า
ปัญญา ความฉลาด ความโง่
อย่างไรที่เรียกว่าโง่ และอย่างไรที่เรียกว่าฉลาด
สำหรับ สา ไม่มีใคร โง่ ไม่มีใครฉลาด
มีแต่เพียงว่า ใครเรียนรู้ได้มากกว่ากันและนำสิ่งที่รู้ไปใช้ได้ดีกว่ากัน
เรียกได้ว่า แทบทุกคำที่พี่ก๋าเขียน เหมือนความคิดเดียวกัน
กับที่ สา คิดและเป็นอยู่ ณ ปัจจุบันนี้ค่ะ
ส่วนหนึ่งคงมาจากธรรมะ

อย่างนิทานเรื่องนี้ ชายชรา ผู้มีประสบการณ์ชีวิต
ต่างกับชายหนุ่มผู้มีความรู้ในหลักวิชาการสูง
ก็ทำให้เห็นได้ว่า คนเราไม่ได้เก่งไปในทุกด้าน
แต่สิ่งสำคัญ ควรเรียนรู้ด้านประสบการณ์ชีวิตให้มากกว่า
การเรียนรู้เพื่อรางวัล และคำชมเชย
เพื่อการดำเนินชีวิตของเราในแต่ละวันที่ต้องเจอผู้คนมากมาย
ตำแหน่ง หน้าที่การงาน ไม่มีความต่าง สำคัญทุกหน้าที่
จึงต้องให้เกียรติกันทุกคน

ทุกอย่างมีต้นเหตุ เกิดจากตัวเรา ทั้งหมด
ไม่มีใครเก่งกว่าใคร ไม่มีใครโง่กว่าใคร ไม่มีใครฉลาดกว่าใคร
ไม่มีใครมีปัญญามากกว่าใคร ทุกคนมีทุกสิ่งเท่ากัน
แต่แตกต่างกันตรงที่การมองของตัวเราและคนอื่น เพราะเอาประสบการณ์ของเราไปเปรียบเทียบคนอื่นๆ หรือคนอื่นเอาประสบการณ์ของตนมาตัดสินเรา

เรียนรู้และรู้จักกับตัวเอง ให้มากกว่าที่จะคอยเรียนรู้และพยามทำความเข้าใจคนอื่น

ขอบคุณสำหรับคำทักทายในทุกๆวันและกำลังใจที่ส่งให้ค่ะ
วันนี้อาการดีขึ้นมากแล้วค่ะ ไม่ปวดหัว
พรุ่งนี้คงเข้าสู่โหมดปกติ สามวันแล้วค่ะ เล็กน้อยกับอาการ อิอิ
กดโหวตไปให้ด้วยกับหมวดธรรมะ ชอบมาก เขียนให้อ่านอีกเยอะๆนะคะ

อากาศเปลี่ยนแปลงเร็วมาก ฝนตก แดดแรง
ดูแลสุขภาพด้วยเช่นกันค่ะ ^^



โดย: Sawnoy วันที่: 21 สิงหาคม 2555 เวลา:11:46:03 น.  

 
ปัญญาเกิดจากสติที่สั่งสมจนเต็มเปี่ยมบริบูรณ์ค่ะ
ผู้มีปัญญาจะมองและเห็นโลกและสิ่งต่าง ๆ อย่างที่มันเป็น...
ไม่ใช่ตามที่เราอยากให้เป็น

ภาพงามขนาดเจ้า...
ช่วงนี้หันหมิงหมิงหน้าใส สดชื่นขนาดน่อ
ท่าจะก๋ำลังม่วนกับชีวิตน้อย ๆ


โดย: แม่ไก่ วันที่: 21 สิงหาคม 2555 เวลา:12:20:43 น.  

 
กะว่าก๋า Dharma Blog ดู Blog

สวัสดีค่ะ

วันนี้อากาศมัวซัว มึนซึม พี่เลย มึม ๆงง งงความคิดไม่แล่น

เอาเป็นว่าเห็นด้วยค่ะ

บางคน ความรู้ท่วมหัวเอาตัวไม่รอดก็มีมาก

เวลา และ โอกาส ที่คนเราจะได้แสดงความสามารถของแต่ละคนไม่เหมือนกัน อย่าเพิ่งด่วนตัดสินค่ะ


โดย: ตาลเหลือง วันที่: 21 สิงหาคม 2555 เวลา:12:30:41 น.  

 
บางคนฉลาด...แต่ขี้โกง...มองคนอื่นแบบไร้ค่านะคะ

ไม่มีใครเก่งเท่าตรู...โธ่...ตายไปก็เหม็นเน่าเท่ากันแหละ

---

เอาฉลาดน้อยหน่อยและใจดี...อยู่ด้วยแล้วสบายใจดีกว่านะ



โดย: Calla Lily วันที่: 21 สิงหาคม 2555 เวลา:12:47:52 น.  

 
ของเล่น พี่หมิงหมิิงชอบ คุณพ่อชอบยิ่งกว่า 5555


โดย: มี๊เก๋&ซีทะเล (kae+aoe ) วันที่: 21 สิงหาคม 2555 เวลา:12:48:40 น.  

 
แวะมาสวัสดีพีก๋าค่ะ


โดย: น้ำเคียงดิน วันที่: 21 สิงหาคม 2555 เวลา:13:00:06 น.  

 
สวัสดีค่ะคุณก๋า ... สบายดีนะค่ะ
งานยุ๊งยุ่งค่ะ ไม่ได้มาเยี่ยมเร็วกว่านี้


โดย: PrettyNatty วันที่: 21 สิงหาคม 2555 เวลา:13:58:13 น.  

 
อรุณสวัสดิ์ยามบ่ายจ้ะ พ่อก๋า

แม่มะเขือเทศอ่านแล้วนึกถึงเรื่องหนึ่ง ที่อาจารย์ของแม่มะเขือเทสพึ่งแชร์ไว้ในเฟสบุ๊ค

เรื่องความงามของความไม่รู้

ขอ copy มาเลยนะคะ

ค ว า ม ง า ม ข อ ง ค ว า ม ไ ม่ รู้

ด้วยความที่ชอบอ่านหนังสือ ผมจึงได้รู้ เรื่องโน้น เรื่องนี้ เรื่องที่คนอื่นทั่วไป ไม่ใคร่ใส่ใจจะรู้กัน
แต่ในทางกลับกัน ผมเองกลับมาตายน้ำตื้น ไม่รู้ในเรื่องง่ายๆ ที่ควรจะรู้ ยกตัวอย่างเช่น

: ผมไม่รู้ว่า การอุ่นอาหารแต่ละประเภทด้วยไมโครเวฟ ต้องตั้งค่าเวลาและความร้อนอย่างไรจึงจะเหมาะสม ผมเลยใช้วิธีมั่วเอาทุกครั้ง เช่นเดียวกับหากต้องซักผ้าด้วยเครื่อง ผมก็ใช้วิธีมั่วเอาเหมือนกัน
: ผมไม่รู้ว่าหากไม่มีรีโมทคอนโทรลของโทรทัศน์ เราจะกดปุ่ม TV/AV ที่ตัวเครื่องตรงไหนอย่างไร ครั้งหนึ่งผมจึงอดดู DVD ที่อยากดู เพราะหารีโมททีวีไม่เจอ
: ผมตั้งเวลานาฬิกาในรถยนต์ของตัวเองไม่เป็น จนทุกวันนี้นาฬิกาในรถของผมก็ไม่เคยเดินตรงเวลา
: ผมไม่รู้ว่าเวลาต้มไข่ เราต้องใส่ไข่ไปเลย หรือต้องรอให้น้ำเดือดก่อน

ผมคงจะยกตัวอย่างเรื่องทำนองนี้ได้อีกหลายเรื่องแต่พอแค่นี้ก่อนดีกว่า จะว่าไปเรื่องพวกนี้ไม่ใช่เรื่องยากเย็นอะไรหากจะหาคำตอบ แต่ก็นั่นแหละ จนป่านนี้แล้ว ผมก็ยังคงโง่เง่ากับเรื่องพื้นๆ แบบนี้
คนเราต่างกัน ความจำเป็นในชีวิตก็ไม่เหมือนกัน การให้ความสำคัญกับเรื่องต่างๆ จึงแตกต่างกัน

หากพนักงานเซเว่นไม่ใส่ใจจะรู้ว่าไมโครเวฟทำงานอย่างไร คงโดดเชิญออกในสามวัน หากเป็นคนขับรถแต่ปล่อยให้นาฬิกาในรถเดินไม่ตรงเวลาอยู่ชั่วนาตาปี เจ้านายคงไม่ปลื้ม หากคิดจะขายอาหารเช้า แต่ลวกไข่ ต้มไข่ไม่เป็นก็คงเจ๊ง

แต่สำหรับผม ผมไม่เดือดร้อน ไม่รู้สึกว่าเป็นปมด้อยตรงไหน ที่ไม่รู้เรื่องเหล่านี้
อีกอย่าง ไม่มีใครจะรู้หรือเก่งไปซะทุกเรื่องหรอก มันต้องมีบ้างบางเรื่องที่เราไม่รู้ทั้งๆที่ ใครๆเขารู้กัน

และตรงนี้เองคือความงามของความไม่รู้ มันทำให้เราลดอหังการในความรู้ของตัวเองลง และรู้จักถ่อมตนยอมรับผู้อื่นมากขึ้น :)

การไม่รู้ ไม่ใช่โง่
ถึงจะโง่แต่ว่าไม่บ้านะฮ๊าาา (แถไปได้อีก)


โดย: แม่มะเขือเทศ วันที่: 21 สิงหาคม 2555 เวลา:13:59:08 น.  

 
ชอบทั้งภาพและคำพูดอธิบายทั้งหมด คอ่ย ๆ อ่าน ค่อย ๆ คิดตาม...เผื่อ ปัญญามันจะเกิดกับตนเองบ้าง...


โดย: Maeboon วันที่: 21 สิงหาคม 2555 เวลา:14:03:38 น.  

 
ปัญญา คือคนที่รู้จักใช้ความรู้ครับ
ปัญญายังเป็นเจ้าของเวิร์คพ้อยต์อีกด้วย

ฮี่ๆ

emoemo


โดย: ชายผู้หล่อเหลา...กว่าแย้นิดนึง. (เป็ดสวรรค์ ) วันที่: 21 สิงหาคม 2555 เวลา:14:13:59 น.  

 
~ ธรรมะ คือ ธรรมชาติ ปราชญ์บนที่สูงคนนี้ได้สอนให้เราสองคนได้เข้าใจคำว่าธรรมะได้ดีขึ้น จากบทความข้างบน อ่านคนละสองรอบ ก็เข้าใจคล้ายกันว่า ในทางธรรมะ ในทางธรรมชาติ ทุกสิ่งล้วนเท่าเทียมกัน ได้ออกมาประมาณนี้ ขอบคุณพี่ปราชญ์ แล้วอะไรล่ะที่ทำให้เกิดความไม่เทียมกัน อะไรทำให้เกิดการเปรียบเทียบ อะำไรทำให้เกิดความแตกต่าง ~


โดย: ~ sิมน้ำ_voUฟ้า ~ (rimnam_kobfa ) วันที่: 21 สิงหาคม 2555 เวลา:14:23:45 น.  

 
ทักทายค่ะน้องก๋า
วันนี้ยาวมาก แต่อ่านจนจบ
ชอบข้อความที่ แม่มะเขือเทศ นำมาลง

มีอยู่เรื่องนึง สมัยก่อนคนกรุงไปเป็นครูบนดอย
สอนหนังสือพวกชาวเขา ตั้งใจจะเอาวิชาความรู้ไปให้
แต่กลายเป็นว่าต้องไปให้เด็กชาวเขาสอนอะไรๆให้
หลายๆอย่าง แสดงให้เห็นชัดเจนเลยว่า

ที่คนเราไม่รู้ ไม่ใช่เราโง่ ความไม่รู้กับความโง่ไม่เหมือนกัน

ประสบการณ์ในชีวิต ครอบครัว สิ่งแวดล้อม วัฒนธรรมประเพณี ฯลฯ แต่ละคนไม่เหมือนกัน ไม่เท่ากัน

ความรู้และปัญญาจึงไม่เท่าเทียมกัน
ไม่มีใครรู้หรือเก่งไปซะทุกอย่าง
และก็ไม่มีใครที่ในชีวิตไม่เคยรู้อะไรเลย
ทำอะไรไม่เป็นเลย เหมือนเรื่องเล่าข้างบน
"ชายชรากับศาสตราจารย์" นั่นแหละ


โดย: ดาวริมทะเล วันที่: 21 สิงหาคม 2555 เวลา:14:31:39 น.  

 
สวัสดีค่ะ คุณก๋า ...เราหายไปนานเลย จำกันได้ป่าวค่ะ ^^

หมิงหมิงโตเป็นหนุ่มแล้ว คิดถึงๆๆ


โดย: wayoflife วันที่: 21 สิงหาคม 2555 เวลา:15:19:24 น.  

 
สวัสดีค่ะคุณ

ฉันน่ะรู้แจ้งแทงตลอดแล้วล่ะค่ะ
(คุณคิดคำนี้ำได้ยังไงคะ?)

มองภาพของหวานใจ
แล้ว อืม..
ฉันก็ รู้สึกรักคุณมากขึ้นเลยค่ะ
เมล็ดพันธุ์ที่คุณเพาะเอง ใส่ปุ๋ยเอง
กำลังเติบโต อวดฝีมือคนปลูก

ฉันขอบอกนะคะ
คุณมือขึ้นทางนี้ค่ะ
(แววตาใสเปี่ยมด้วยความสุขคู่นั้นฟ้องฉันอยู่ตลอดเวลาค่ะ)
(ขอบคุณเฟชบุ๊คค่ะงานนี้ ไปด้วยกันได้ทุกที่)

เอาอีกสักคนนึงเนอะค่ะ
อยากเห็นตาแป๋ว ๆ ผมยาว ๆ แบบน้องเวียงพิงค์อีกบ้างจังค่ะ

น่า นะคะ นะ นะ


โดย: หวานใจหมิง หมิง (ตัวจริง) (raya-a ) วันที่: 21 สิงหาคม 2555 เวลา:15:35:58 น.  

 
บอกคำเดียวค่ะว่าชอบ คุณก๋าน่าไปทำรายการเมื่อคุณถามเรามีคำตอบเนอะ ตอบได้ดี มีเหตุและผลเป็นตัวอย่างให้เห็นคำอธิบายได้ชัดเจนขึ้น ชอบค่ะ ภาพประกอบก็สวย ฟังคุณก๋าอธิบายแล้วเคลิ้มเลยจร้า^.^



บันทึกการโหวต Blog ในวันนี้

ผู้เขียน Blog หมวดเนื้อหา Blog ได้รับโหวต
กะว่าก๋า Literature Blog ดู Blog

ระบบจะบันทึกคะแนนโหวต เฉพาะการโหวต 3 ครั้งล่าสุดในแต่ละวันเท่านั้น


โดย: หญิงแก่น วันที่: 21 สิงหาคม 2555 เวลา:15:52:14 น.  

 
อ่านแล้วได้สาระธรรมดีมาก ประเทืองปัญญาดีมากขอชื่น

ชมก๋าราณีค่ะ


โดย: พรไม้หอม วันที่: 21 สิงหาคม 2555 เวลา:15:55:13 น.  

 

 
คนโง่เท่านั้น ที่จะทนงตัวเองว่าเป็นคนฉลาด "ไม่รู้ว่าคิดถูกหรือเปล่าค่ะ


โดย: blog pu วันที่: 21 สิงหาคม 2555 เวลา:16:42:19 น.  

 
สวัสดีเจ้าคุณก๋า
บะฮู้อุปทานก่อ วันนี้คุณก๋าตอบได้ยาวเน้อเจ้า
แต่ก่อ่านจ๋นจบเลยหนา
ตอบได้ดีมาก ๆ เลยเจ้า
อ่านเพลินเลยเจ้า เคลียร์ชัดแต้ ๆ เจ้า

อากาศช่วงนี้ ฝนตก แดดออก
บะหายซักเตื้อ ก๊ายขนาดเจ้า
ไอจ๋นบอกรำคาญตั๋วเก่า แห๋มอย่างขายคัวตวย
มันดูบะดีเลยเนอะ

ช่วงนี้ตี้ฮ้านถูกสาธารณะสุขจ้องอยู่เจ้า
มีจดหมายหื้อไปยื่นจดทะเบียน เสียภาษีสาธารณสุขแห๋มละนิ
แปลกใจ๋ ว่ามีตวยกะ เพราะเปิดฮ้านมาสิบกว่าปีว่าจะต้อง
เสียภาษีนี้ตวย นึกว่าจดทะเบียนการค้า เสียภาษีป้าย
ภาษีโรงเรือน ภาษีเงินได้บุคคลธรรมดา ล่าสุดภาษีมูลค่าเพิ่ม
เป่นเป้าแต้ ๆ เลยจ้า

โทรศัพท์ไปถามเปื้อนในวง
เขาบอกว่าช่วงนี้ สตง.เข้มงวด ต้องมีผลงาน อิ๊
ประชาชนทำมาหากินก่ต้องกัดฟันทนต่อไป อิอิ


โดย: JinnyTent วันที่: 21 สิงหาคม 2555 เวลา:16:53:54 น.  

 
ดร ที่เจอบางคนก็ไม่ได้ฉลาด แค่ทำวิจัยเก่งจริงๆนะ


โดย: น้องผิง วันที่: 21 สิงหาคม 2555 เวลา:16:58:54 น.  

 
ปัญญาคนเฮามีเต้ากัน แต่สิ่งตี้บดบังปัญญาของเฮานั้นต่างหากตี้หนาบางบ่าเต้ากั๋น แม่นแต้ ๆ ล่ะปี้ก๋า อ่านเรื่องศาสตราจารย์ว่ายน้ำบ่าจ้างล่ะเป็นดีไค้หัว ฮ่า ๆๆ หนูก็เหมือนอีตาลุงพายเรือนะ ตั้งแต่เกิดมาจนจะเป็นแม่คนไม่เคยเรียนวิชาเคมี ฟิสิกส์ เลยอ่ะเพราะไม่ได้อยู่ในข่ายของความสนใจใคร่รู้ สรุป แม้แต่เรื่องพื้น ๆ ทางนี้หนูเรียกได้ว่าโง่อินฟินิตี้มั่ก ๆ เหอะ ๆๆ

ที่รักหนูกะหนูตั้งแต่วันแรกที่รู้จักกันจนถึงวันนี้ก็ย่างเข้าปีที่เก้าแล้วล่ะปี้ก๋า เวลามันผ่านไปไว เหมือนไม่นานมานี้เอง ช่วงนี้ถือว่าเขาเหนื่อยคนเดียวเยอะ อย่างจ่ายตลาดเข้าบ้านสัปดาห์ละหนก็เขาตลอดมาตั้งแต่ต้นปี มันเป็นเรื่องเล็ก ๆ น้อย ๆ ที่หนูก็อดสงสารไม่ได้ เพราะต้องไปหลังเลิกงานเพื่อว่าเสาร์อาทิตย์จะได้ไปทำอย่างอื่นแทนซื้อของเข้าบ้าน ส่วนหนูเรื่องอะไรในบ้านก็พยายามไม่ลืมไม่ขาด แต่ก็ไม่ได้มานั่งบ่นหรือคุยกันหรอก มันเหมือนว่ารู้กันล่ะว่าเราทำอะไรให้กันงั้นงี้ เรื่องอิจฉาหรือน้อยใจนี่ยังไม่รู้นะ เด๋วต้องรอให้ลูกเกิดมาก่อน 555 ต้องเจอะเจอด้วยตัวเองใช่มะ แต่หนูคงแบบฝรั่งอ่ะปี้ก๋า หัดให้ลูกนอนห้องลูกไปเลย ไม่นอนห้องเดียวกันสามคนพ่อแม่ลูก ห้องมันติดกันก็เปิดประตูทิ้งไว้ ยังไงก็ต้องตื่นมาฉี่มาให้นมลูกอยู่แล้ว


โดย: prunelle la belle femme IP: 31.32.18.106 วันที่: 21 สิงหาคม 2555 เวลา:17:15:31 น.  

 
โหย...วันนี้ยากแต๊ะ ๆ


โดย: tuk-tuk@korat วันที่: 21 สิงหาคม 2555 เวลา:17:21:32 น.  

 
สวัสดีครับ
อย่าหาว่ากวนนะ
แล้วคุณก๋าคือใคร???
แค่นี่หรือ
จริงหรือเปล่า
จะเป็นอย่างนี้อีกนานไหม



โดย: จิรโรจน์ วันที่: 21 สิงหาคม 2555 เวลา:17:26:24 น.  

 
ยินดีค่ะ

เห็นเรื่องราวคล้ายคลึงกัน เลยเอามาแชร์ซะหน่อย
เดี๋ยวหาว่าเราเข้ามาเม๊าแต่เรื่องตัวเอง

.. คำถามนั้น แม่มะเขือเทศก็เซ็งเหมือนกัน
รู้สึกเสียใจมากที่หลับหูหลับตาทำในสิ่งที่ศรัทธา
แต่กลับทำให้คนที่รักเรามากที่สุด ต้องมาทุกข์ทรมานด้วยความเป็นห่วงเรา

แต่เรื่องมันก็ผ่านไปแล้วเนอะ
อย่างน้อย วันนี้เราก็มีบทเรียนเอาไว้สอนลูก ถ้าวันหนึ่งเขาจะเจ็บเพราะเรื่องเดียวกัน ก็อยากจะให้เขาเจ็บให้น้ิอยที่สุด

.. เริ่มมีจิตวิญญาณของการเป็นแม่มากขึ้นๆทุกทีแล้วสิน๊า แม่มะเขือเทศเนี่ย


โดย: แม่มะเขือเทศ วันที่: 21 สิงหาคม 2555 เวลา:17:48:38 น.  

 
ตอบได้ดีจริงๆครับ อ่านเพลินคิดตามเพลินไปเลยครับ แล้วก็จำไปใช้ต่อด้วย อิอิ ^^

สาธุสำหรับคำถามและคำตอบที่งดงามนะครับ






โดย: วนารักษ์ วันที่: 21 สิงหาคม 2555 เวลา:18:12:10 น.  

 
เย้ .... อุ๊ย! ลืมตัว จะเย้ เค้าทำไม
เห็นด้วยคร้า ... เรามีเพื่อนร่วมชะตากรรมประเดิมนัดแรกเหมือนกานนนนเล๊ย ....555
เอฟเวอร์ตัน นัดแรกมาแรงเชียวนะค่ะ
"หงส์แดง" นัด2-3 "งานหนัก"เอาการเลยนะค่ะ
แต่ อาเซน่อล เราน่าจะได้เปรียบกว่านะคร้า... อิอิ
ความเห็นส่วนตัว


โดย: tui/Laksi วันที่: 21 สิงหาคม 2555 เวลา:18:35:49 น.  

 

ทักทายหลังกลับจากที่ทำงานค่ะพี่ก๋า
วันนี้กลับค่ำอีกวัน และคงจะเป็นอย่างนี้ไปอีกหลายๆวัน

คนฉลาด กับ คนมีปัญญา
อาจดูเหมือนจะคล้ายกัน
แต่มันต่างกันลิบเลยนะคะ



โดย: fonrin วันที่: 21 สิงหาคม 2555 เวลา:18:38:34 น.  

 
สวัสดีค่ะคุณก๋า
สงสัยแพทต้องปัดฝุ่นหลอดไฟตัวเองบ้างแล้วค่ะ
ตื้อๆคิดอะไรไม่ค่อยออกค่ะช่วงนี้


โดย: blueberryblossom วันที่: 21 สิงหาคม 2555 เวลา:18:42:30 น.  

 
ปัญญาบังเกิดด้วยรูปอันแสนเกร๋


โดย: Bkkbear วันที่: 21 สิงหาคม 2555 เวลา:19:04:55 น.  

 
เห็นด้วยกับคุณหมี

รูปสวย สาระเพียบ


โดย: Dingtech วันที่: 21 สิงหาคม 2555 เวลา:19:59:06 น.  

 
แม่นแล้วเจ้าอ้ายก๋า...สวนดอกที่ว่านั่นแหละ แต่...เวลาคลาดเคลื่อนไปหน่อยนะพี่...รับบัตรคิวตอนตีสี่ครึ่ง ได้คิวตอน 10 โมงต่างหาก ฮ่าๆๆ
แบบว่าป๊ะป๋ากะคุณนายเป็นข้าราชการบำนาญ มันมีสวัสดิการค่ารักษาพยาบาลที่สวนดอกแบบเบิกตรงได้ไงคะพี่ เลย "จำ" ต้องไปที่นั่นอ่ะค่ะ ถ้าไปรพ.เอกชนในเคสโรคประจำตัวแบบนี้ คง...ไม่ตา่ยจากโรค แต่มาตายกับใบเสร็จแหละพี่ หุหุ
จริงๆ เครื่องมือ อุปกรณ์ และบุคลากรทางการแพทย์ของสวนดอกนี่ แจ่มสุดนะคะ แต่...เรื่องที่จอดรถนี่...สวดยวดจริงๆ

ปล.แบบว่า...ช่วงนี้เสพย์หนังสือแนวปรัชญา แนวคิด นวนิยายอิงประวัติศาสตร์ ธรรมมะ เยอะไปหน่อย บวกกับรายละเอียดในชีวิตเยอะไปนิด เลยต้องรวมรวมกลุ่มก้อนความคิดให้มันเหมือนจะเป็นเรื่องเดียวกันเสียหน่อย ไม่งั้นอาจเข้าขั้นเอ๋อได้ค่ะพี่

คืนนี้นอนหลับฝันดีนะคะ


โดย: คมไผ่ วันที่: 21 สิงหาคม 2555 เวลา:20:46:48 น.  

 
หวัดดีเ้จ้าอ้ายก๋า

รู้จักตัวเองดีที่สุดแล้ว ก็คือตัวเราเองนี้แหละเจ้า
นับว่าคำถามนี้ของคล้่ายดาวเป็นคำถามที่นักคิดคิดกันได้นักขนาดเจ้า

น้องรินว่า ปัญญาในแต่ละคนมี บางอย่างเกิดจากประสบการณ์
ประสบการณ์ต่างๆ ทีเราได้ผ่านมา
ทำให้เราเกิดปัญญา

แม้แต่คนเรียนด๊อกเตอร์มาก็ตาม
บางที หากบ่อได้มาคลุกคลีเกี่ยวกับเรื่องคนรากหญ้าเอง เขาก็บ่อรู้จริงรู้แน่หรอกเจ้า
เพราะบางอย่างแค่รู้ ก็คือ รุ้จากเรื่องบทท่องจำเท่านั้น

แต่บ่อได้รู้การปฏิบัติ

เพราะคนเราทุกคนมีปัญญา หรือวิชา่ต่างกัน




โดย: Rinsa Yoyolive วันที่: 21 สิงหาคม 2555 เวลา:20:52:42 น.  

 
สวัสดีค่ะคุณก๋า
อ่านแบบนี้แล้วก็เป็นการเตือนสติอย่างนึง
ส่วนตัวบุ๊งเองเชื่อว่าคนเราเรียนรู้ได้ทุกวัน ทุกเวลา
ขอแค่ใฝ่เรียน อยากรู้ให้มากขึ้น
ก็จะทำให้เรามีความรู้มากขึ้น ตามประสบการณ์ที่สั่งสมมาด้วยค่ะ


โดย: Close To Heaven วันที่: 21 สิงหาคม 2555 เวลา:20:56:38 น.  

 
เนื้อหา blog น้องก๋า วันนี้ดีจริงๆค่ะ ชอบมาก


โดย: me-o วันที่: 21 สิงหาคม 2555 เวลา:21:14:07 น.  

 
เห็นรูปหมิงหมิง ล่าสุด เป็นหนุ่มน้อยผมม้าน่ารักน่าหยิกเชียว


โดย: รุ่นป้าหน้าใส วันที่: 21 สิงหาคม 2555 เวลา:21:19:26 น.  

 
แวะมาเยี่ยมยามค่ำคืน...หลับฝันดีครับ


โดย: **mp5** วันที่: 21 สิงหาคม 2555 เวลา:21:58:28 น.  

 
สวัสดียามดึกครับก๋า..

เปิดตัวเอง....เรียนรู้โลก...เรียนรู้จากผู้คน บ้างครั้งในตำราไม่ได้เฉลยคำตอบที่ถูกต้องไปหมด แค่ทฤษฎี แต่ต้องมาปฎิบัติดูจึงรู้ผล...และหมั่นฝึกฝนให้ชำนาญยิ่งขึ้นไป....



emoemo


โดย: นักเดินทางพเนจร (นักเดินทางพเนจร ) วันที่: 21 สิงหาคม 2555 เวลา:22:58:50 น.  

 
สวัสดีค่ะพี่กำ พักนี้ยุ่งมากๆเลยค่ะ อิอิ เพิ่งว่างค่ะฝันดีนะคะ




โดย: ญามี่ วันที่: 21 สิงหาคม 2555 เวลา:23:57:30 น.  

 
ผมชอบแนวคิดที่เอามาใช้ตอบครับ

จากนิทานเรื่องจริงคล้ายๆ แบบนี้ก็เคยเกิดขึ้นมาแล้ว มีคำกล่าวที่ว่า เซียนอยู่รูหมูอยู่ตึก อาจมาจากตรงนี้ก็ได้

พูดยากครับ ผมว่ายังไงคนมันก็มองอาชีพต่างๆ ไม่เท่ากัน อย่างคนกวาดถนน ผมเชื่อว่าเอาทหารไปทำก็ทำไม่ได้เท่าคนกวาดถนนหรอก ในสังคมไทยยังมีการดูถูกอาชีพที่ใช้แรงงานเยอะครับ


โดย: คุณต่อ (toor36 ) วันที่: 22 สิงหาคม 2555 เวลา:0:10:52 น.  

 
อ่านแล้วได้อะไรดีๆเยอะเลยค่ะ
วันนี้และทุกๆวันที่เข้าบล็อกคุณก๋า
เรื่องชายชรากับศาสตรจารย์นั่นก็ดีมากๆ
เป็นมุมมองชีวิตที่แตกต่าง ได้ข้อคิดที่ดีทีเดียวค่ะคุณก๋า

ราตรีสวัสดิ์นะคะ


โดย: anigia วันที่: 22 สิงหาคม 2555 เวลา:1:41:55 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิกช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

กะว่าก๋า
Location :
เชียงใหม่ Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 392 คน [?]




มองฉันอีกครั้ง
เธออาจเห็นฉัน
หรืออาจไม่เห็นฉัน

ฉันแค่แวะผ่านทางมา
และอาจไม่หวนกลับมาทางนี้อีกแล้ว

เราเคยรู้จักกัน
และมันจะเป็นเช่นนั้นตลอดไป

มองดูฉันอีกครั้ง
เธออาจเห็นฉัน
และฉันอาจมองไม่เห็นเธอ.





[Add กะว่าก๋า's blog to your web]