:: ก๋าราณีตอบคำถามพี่แหม่ม ::
:: ก๋าราณีตอบคำถามพี่แหม่ม ::
เวลาที่ทุกอย่างมารุมพร้อมกัน เร่งทุกอย่าง ทุกคนอยากได้เร็วหมด จะทำยังไงดีคะ เหมือนรู้สึกกดดันยังไงไม่รู้ ตอนนี้ได้แต่ภาวนาให้ทุกอย่างมันผ่านพ้นไปด้วยดีทุกเรื่อง ค่อยๆ ทำมันไปทีละน้อย
คำถามโดย : mamminnie วันที่ : 16 สิงหาคม 2553 เวลา : 12:12:43 น.
สวัสดีครับพี่แหม่ม
คำถามของพี่ทำให้ผมนึกถึงตัวเองครับ ผมคิดว่าน่าจะมีเพื่อนบล็อกบางคนสงสัยว่าผมใช้ชีวิตอย่างไร ทำอะไรในแต่ละวัน ทำงานแบบไหน ถึงมีเวลาเลี้ยงลูกทั้งวัน อ่านหนังสือเดือนละหลายสิบเล่ม รวมทั้งอัพบล็อกทุกวันโดยไม่รู้จักเหน็ดเหนื่อย
ผมเชื่อว่าพี่แหม่มมีวิธีรับมือกับปัญหาที่ว่าแน่นอน ในเวลาที่งานสุมรุมเข้ามาพร้อมกันทีเดียวมากๆ
สูตรสำเร็จที่ผมเคยจดเอาไว้ในสมุดบันทึกก็คือ เราต้องมีสติและรู้ให้ได้ว่า งานทั้งหมดที่มะรุมมะตุ้มเข้ามานั้นเป็นงานลักษณะใดบ้าง
1. งานสำคัญ แต่ไม่เร่งด่วน 2. งานเร่งด่วน แต่ไม่สำคัญ 3. งานไม่สำคัญ และไม่เร่งด่วน 4. งานสำคัญ และเร่งด่วนมาก
ปัญหาที่มีคือเราไม่รู้จริงๆว่างานไหนด่วนหรือสำคัญจริงๆ เพราะเวลาเจ้านายสั่งงาน มันก็เป็นงานด่วนและสำคัญมากทุกครั้งไป 5555
ผมเปิดคอมตี 5 ทุกวันเพื่ออัพบล็อกใหม่ทุกเช้า จากนั้นนั่งตอบเม้นท์ที่ค้างจากบล็อกเก่า ทักทายเพื่อนบล็อกไล่มาเรื่อยๆจากลิสต์บนสุดจนถึงล่างสุด (แต่ไม่ได้ทักทุกบล็อกในเฟรนด์ลิ้งค์นะครับ) ทั้งหมดใช้เวลาจนถึง 8 โมงครึ่งของทุกวัน
จากนั้นไปทานข้าวเช้า แล้วเข้าห้องมาป้อนข้าวหมิงหมิงตอน 9 โมง เล่นกับเค้าไปเรื่อยๆ หรือถ้ามีป้าๆที่ร้านมาช่วยเลี้ยง ผมก็นั่งอ่านหนังสือไปเรื่อยๆ เม้นท์หาเพื่อนบล็อกบ้าง รวมทั้งทำงานอื่นไปด้วย
ประมาณเที่ยง...อุ้มหมิงหมิงหลับ เอาเข้าไปนอนในห้อง บ่ายโมงตื่นมาป้อนข้าวหมิงหมิง
แล้วก็เลี้ยงเค้าไปจนถึงเย็นปิดร้าน ป้อนข้าวเย็นอีกรอบ เล่นกับหมิงหมิงไปเรื่อยๆจนเค้าหลับในเวลาประมาณ 3 – 5 ทุ่ม
ไม่มีใครขอให้ผมอัพบล็อกทุกวันหรอกนะครับ 555 แต่ผมมีความสุขที่ได้คิดและทำบล็อกออกมา มีเพื่อนบล็อกมาแลกเปลี่ยนความคิดเห็นกัน ผมเองก็ได้เรียนรู้อะไรมากมายจากเพื่อนบล็อกเช่นเดียวกัน
สิ่งที่ผมอยากจะบอกเล่าก็คือ ปัญหามันไม่ได้อยู่ที่งาน หรือความมากน้อยของงาน เพราะต่อให้มันเป็นงานที่เหนื่อย งานเยอะ มีปัญหามากมาย แต่ถ้าเรามีความสุขกับงาน เราจะรู้สึกเหมือนไม่ได้ทำงาน แต่มันเป็นหน้าที่ที่เราอยากทำ
ผมเคยทำงานที่ร้านด้วยความรู้สึกไม่ชอบ ตอนนั้นถึงงานน้อย เงินเดือนมาก ผมก็ไม่มีความสุขเวลาทำงาน
ไม่เหมือนตอนนี้ที่ผมมีความสุขในการทำงานมาก ถึงมีภาระล้นมือผมก็ยังมีความสุขที่จะได้นั่งทำงานที่ผมรักต่อไปเรื่อยๆ
เรามักคิดถึงการเปลี่ยนงานเสมอ เมื่อเรารู้สึกเหนื่อย ทำงานหนัก ได้รับผลตอบแทนน้อย เจ้านายไม่รัก มีปัญหากับเพื่อนร่วมงาน รู้สึกว่างานที่ทำอยู่ไม่ดีพอสำหรับเรา ฯลฯ
ถ้าเราพอจะมีเวลานั่งลงเพื่อทบทวนดูให้ดี เราอาจพบว่า เราไม่ได้เกลียดงานที่เราทำอยู่ แต่เราอาจมีบางอย่างที่ไม่พอใจในตัวเอง
ผมเคยเกลียดงานที่ตัวเองทำ ไม่รัก ไม่สนุก ไม่มีความสุขที่จะต้องตื่นขึ้นมาทุกเช้าแล้วเดินไปทำงาน
แต่เมื่อถึงวันหนึ่งผมเปลี่ยนความคิดของตัวเองได้
งานก็เป็นงานเดิมที่ผมทำมาตลอดระยะเวลาหลายปี เพื่อนร่วมงาน ลูกน้องก็คนเดิม
แต่ผมกลับมีความสุขมากขึ้น เมื่อผมเลือกที่จะมองให้เห็นข้อดีของงานที่ผมทำอยู่ เมื่อผมเห็นข้อดีและเลือกที่จะมองถึงข้อดีนั้น ผมพบว่างานไม่ต้องเปลี่ยน เพื่อนร่วมงานหรือเจ้านายไม่ต้องปรับ แต่เป็นผมเองที่ขยับเข้าหาความสุขในการทำงาน ได้ด้วยการเปลี่ยนมุมมองและวิธีคิดของตัวผมเอง....
ค่อยๆ ทำมันไปทีละน้อย
ใช่เลยนะครับพี่แหม่ม... เวลาใครส่งงานให้เราพร้อมกัน แล้วเรารู้สึกทำงานไม่ทัน ผมก็จะบอกกับเขาตรงๆเลยว่า “ทำไม่ได้ ทำไม่ทันครับ” หรือถ้าไม่พูด ก็นั่งทำงานไปเรื่อยๆ ทำไปทีละนิดอย่างที่พี่แหม่มว่านี่ล่ะครับ จนเขารู้สึกด้วยตัวเองเลยว่า ถ้าอยากจะเร่งจริงๆ ก็จงมาทำเองล่ะกัน 5555
ทุกงานบนโลกนี้สำคัญหมดและเร่งด่วนทั้งนั้น ปัญหาคือเราอาจต้องจัดเวลาและวินัยในตัวเอง เพื่อเรียงลำดับความสำคัญให้ได้ว่า อะไรที่สำคัญและเร่งด่วนจริงๆ
ในสมุดบันทึกของผมก็ยังมีอีกคำหนึ่งที่เขียนไว้ว่า
“อย่ารอจนเจองานที่เรารัก แล้วค่อยคิดทำงาน แต่จงทำงานทุกอย่างด้วยใจรัก แล้วเราจะรักงานที่เราทำ”
Create Date : 24 สิงหาคม 2553 |
Last Update : 24 สิงหาคม 2553 5:05:06 น. |
|
149 comments
|
Counter : 1282 Pageviews. |
|
|
|
วันนี้ทักทายครบเลย
มีความสุขทั้งวัน และทุกวันนะค่ะ
ว่าแต่...น้องหมิง หมิง เลิกร้องเพลงแล้วเหรอ