สิงหาคม 2550
 
 1234
567891011
12131415161718
19202122232425
262728293031 
16 สิงหาคม 2550

บันทึกนอกรอบ : ปัญหาของเราอยู่ตรงไหนกันแน่ ?


บันทึกนอกรอบ



ปัญหาของเราอยู่ตรงไหนกันแน่ ?
เขียนโดย : สิงห์โตหมอบ




อาม่าของผม ไม่เคยเรียนหนังสือ
อาม่าอพยพมาจากเมืองจีน และมีคำสอนหนึ่งที่สะดุดใจผมมาก….

“เงินที่ไม่ได้อยู่ในกระเป๋าของเรา
มันไม่ใช่เงินของเรา”


....................................


ผมนั่งมองสภาพเศรษฐกิจในขณะนี้แบบคนที่ไม่มีปริญญาทางด้านเศรษฐศาสตร์
ไม่รู้เรื่องทั้งเศรษฐกิจมหภาค เศรษฐศาสตร์เชิงซ้อน
ฯลฯ
ไม่สนใจคำนิยามสวยหรูที่เหล่านักวิชาการป้อนสู่รูหูอยู่ทุกเมื่อเชื่อวัน

ผมรู้แค่ ณ วินาทีนี้
ในขณะที่นักการเมืองกำลังเตรียมตัวลงเลือกตั้ง
ทหารเตรียมตัวสืบทอดอำนาจ
กลุ่มขั้วอำนาจเก่า-อำนาจใหม่ยังสู้รบกันไม่หยุดหย่อน

แต่เกษตรกรกำลังจะตาย
จากราคาผลผลิตทางการเกษตรตกต่ำ


.........................


จริงๆแล้วปัญหานี้มีนานตั้งแต่ผมจำความได้
เพียงแต่บางครั้งมันไม่ได้เข้ามาใกล้ตัวมาก
เพราะผมไม่ได้ใส่ใจนั่งดูตัวเลขการค้าอย่างจริงจัง

จนวันนี้ที่เศรษฐกิจทั้งระบบของประเทศเรา
กำลังเข้าสู่หายนะทางการเงิน...

ความเดือดร้อนลุกลามขยายกระจายความเดือดร้อนไปทั่วทุกหัวระแหง

เดือดร้อนตั้งแต่เจ้าสัว เจ้าของโรงงาน
แม่ค้าขายก๋วยเตี๋ยว ลูกจ้าง แรงงานไร้ฝีมือ
เดือดร้อนกันทุกถ้วนทั่วตัวตน

คำถามคือนานแค่ไหนแล้ว
ที่เราฝากชีวิตไว้กับ “ผู้นำ” ที่เรียกกันว่า “ผู้แทนของปวงชนชาวไทย”
ทำไมเราถึงต้องเอาชีวิต และเศรษฐกิจการค้าของเรา
ไปผูกติดกับวิธีคิดของคนเพียงหยิบมือ
ที่นำพาให้เราต้องซ้ายหันขวาหันไปตามนโยบายและวิธีคิดของพวกเขา
ทำไมเราต้องนั่งรอชะตากรรมที่เราไม่อาจกำหนดเองได้
หรือว่าเราเกิดมาเพื่อเป็นเบี้ยตัวหนึ่งบนกระดานแห่งชีวิตเท่านั้นเอง......


…………………………………


ผมนั่งมองดูภาพข่าวเกษตรกรนำผลผลิตมาเททิ้งบริเวณถนนหลวงบ้าง
นำมาเททิ้งที่หน้าศาลากลางจังหวัดบ้าง
คำถามหนึ่งเกิดขึ้นในสมองทันที

“ใครคือผู้รับผิดชอบ?”

กับหายนะนี้....
ถามชาวบ้าน --- ชาวบ้านบอกรัฐไม่ได้ให้การช่วยเหลือใดใดเลย
ในขณะที่ผลผลิตราคาตกต่ำจากสภาวะ “ล้นตลาด”
รัฐกลับเลือกใช้จ่ายเงินกว่า 800 ล้านบาทกับการอนุมัติซื้อเครื่องมือดักฟังทางโทรศัพท์

ผมมองไปไกลกว่านั้น…
มองแบบคนไม่มีความรู้ทางการตลาด
ไม่มีความรู้ในเรื่องเศรษฐศาสตร์
ไม่มีความรู้ในเรื่องการเมืองการปกครอง
แต่ผมขอพูดขอเขียนแบบคนที่ไม่มีความรู้สักวัน

คนโง่แบบผมแค่คิดว่า ---

ก่อนปลูกอะไรสักอย่าง....
มีใครบอกชาวบ้านบางไหม
ว่าตลาดในประเทศต้องการผลผลิตเท่าไหร่
ตลาดนอกประเทศต้องการผลผลิตของเราเท่าไหร่
เราควรควบคุมผลผลิตให้มีคุณภาพและเพียงพอต่อความต้องการด้านการตลาดมากน้อยเพียงใด
ทำอย่างไรจึงจะเป็นผู้กำหนดราคาได้ โดยไม่ถูกตลาดแทรกแซงราคา
สินค้าของเราจะไปขายให้ใคร ขายที่ไหน เงื่อนไขอย่างไร
จึงจะเสียเปรียบน้อยที่สุด
และเมื่อสินค้าล้นตลาดทำอย่างไรจึงสามารถแปรรูปผลผลิตและเพิ่มมูลค่าเพิ่มให้กับตัวสินค้านั้นๆได้
ฯลฯ

น่าแปลกที่คนโง่อย่างผมคิดได้ แต่ทำไมคนเก่งที่ดูแลรับผิดชอบในเรื่องนี้ถึงคิดไม่ได้
หรือคิดได้แต่ไม่คิดจะทำ ?

อย่าเอาแต่โทษว่าเกษตรกรของเราต้องหัดคิดเอง
ต้องช่วยเหลือตัวเอง ต้องรู้จักพอเพียง
พระเจ้า --- ถ้างั้นพวกเราเสียเงินภาษีเพื่อมีพวกคุณไว้ทำอะไรมิทราบ ?


...........................


เรามีปัญหาในภาคการเงิน
เมื่อแบ็งค์ไม่ยอมปล่อยเงินกู้
เมื่อเงินนอนนิ่งอยู่ในแบ็งค์ การลงทุนไม่เกิด
กระแสเงินไม่เคลื่อนไหว น้ำเน่าทันที

ถามแบ็งค์ ...แบ็งค์บอกภาคการลงทุนชะงักงันจากสภาพการเมืองขาดเสถียรภาพ
ถามโรงงาน...โรงงานบอกกู้แล้วแบ็งค์ไม่ปล่อยเงิน
การค้าขาดสภาพคล่อง จำต้องปิดตัว
ลอยแพลูกจ้างเป็นพันเป็นหมื่นคน ปัญหาสังคมเกิด
รัฐบาลเข้าเจรจา บอกให้สู้ต่อ
โรงงานตอกกลับ มึงเอาเงินมาให้กูสิ.

การโจมตีค่าเงินบาทอาจเป็นเพียงเล่ห์กระเท่ของนักค้าเงินกลุ่มหนึ่ง
ซึ่งมุ่งทำกำไรสูงสุดในระยะเวลาที่สั้นที่สุด

เมื่อโลกแข่งขันกันที่ความเร็วและขนาดของทุน
ร่างกายอมโรคเหลือเพียงซี่โครงผอมโซที่ขาดปัญญาอย่างเรา
จะเอาอะไรไปสู้เขา....


..............................


โลกแห่งทุนนิยม ลงทุนกันแบบโฮลดิ้ง
ใช้กลุ่มย่อยรวมตัวกันเป็นสหกรณ์เพื่อต่อรองซื้อขาย
สินค้าหนึ่งแสนชนิด เมื่อนำมาเสนอขาย
ตัวเลือกเยอะ .....ยอมขาดทุนหมื่นตัว กำไรเก้าหมื่นตัว
คุ้มไหม ?......

กับเดินเสนอสินค้าพันตัวของประเทศ
ตัวเล็กโดนตัวใหญ่กลืน
เอาสินค้าของตัวเองไปผูกขาดกับตลาดที่ใหญ่
โดนเขาบีบไข่หน้าซีดหน้าเซียว......


.............................



อาม่าบอกว่า

“ผู้ที่กำหนดราคาขายได้ คือ ผู้ชนะ”

เศรษฐศาตร์ที่ฮาวาร์ดไม่เคยสอน
ตำราเล่มไหนก็ไม่มีบอก.....


ผมเขียนบันทึกนี้เพื่อจะบอกว่า
เรามีผู้รู้เยอะ เดินกันเกลื่อนเมือง
แต่ไม่มีผู้มีปัญญาสักคนที่มองเห็นปัญหาของชาวบ้านอย่างแท้จริง

คุณทำให้เราเป็นเพียงหมากตัวเล็กที่ไม่มีแต้มต่อบนสังเวียนชีวิต

ผมไม่เคยคิดฝาดความหวังในชีวิตกับคนอย่างพวกคุณ
แต่มันเป็นเรื่องที่หลีกเลี่ยงไม่ได้เลย
เพราะนโยบายสาธารณะทั้งหมดที่พวกคุณกำลังร่างขึ้น
มันส่งผลกระทบต่อวิถีชีวิต ต่อวิธีการทำมาหากินของชาวบ้านทุกคนอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้


...........................


โลกแห่งการค้าต้องการคนที่มีไหวพริบ
ไม่ต้องการคนดีที่ซื่อบื้อ

โลกแห่งความเป็นจริงปากท้องต้องมาก่อน
คนยังหิว...ไม่สนใจเรื่องความเท่าเทียมกันหรอก

โลกนี้มีความแตกต่าง
เราต่างต้องอยู่ให้ได้ท่ามกลางความแตกต่างที่มี


.............................


สโลแกนสวยหรูไม่มีประโยชน์
โฆษณากรอกหูกรอกตา เป็นแค่เศษเงินให้ใครบางกลุ่มได้รุมทึ้ง

ถามว่า...เราในฐานะ “ประชาชน”
ทำได้เพียงก้มหน้าก้มตารับกรรมที่ตนเองมิได้เป็นผู้ก่อเท่านั้นเองหรือ ?

เราทำได้เพียงนั่งทำตาปริบๆ
แล้วนั่งมองดูความฉิบหายขายตนที่เกิดขึ้น
จากการบริหารงานที่ไม่เอาไหนของภาครัฐเท่านั้นเองหรือ ?

ถ้าวงจรของชีวิตมันต้องหมุนวนอยู่เช่นนี้ต่อไป
ผมคิดในใจ....
ครั้งหน้า...คงต้องออกจากบ้าน
เพื่อไปเดินเก็บลำไยที่เกษตรกรเททิ้งหน้าศาลากลางสักเข่ง
เก็บมากินเพื่อให้รู้ว่า “ลำไย” ที่ขม
เพราะราดรดด้วยน้ำตาเกษตรกรมันเป็นยังไง.







Create Date : 16 สิงหาคม 2550
Last Update : 16 สิงหาคม 2550 16:45:16 น. 28 comments
Counter : 1937 Pageviews.  

 
ว้าววว..ขอบคุณมากค่ะ ** แขกแก้วคนดีเสมอ **

โรแมนติคมากเลยค่ะ..เราชอบเล่นน้ำฝนละ...
ดูเหมือน..โบ ดีเร็ก ดี5555555555

แบบว่าเซ๊กซี่นะค่ะ...
ขอเป็นคนเจิมนะค่ะ...ได้ไหมนิ


โดย: catt.&.cattleya.. วันที่: 16 สิงหาคม 2550 เวลา:17:00:55 น.  

 
ปาดดดดดดดดดดดดดด
เว่อร์ไปแล้วลุง
คนอาราย
ว่างงานจิงๆๆ อัพวันล่ะหลายๆบล็อค
ไม่ไหวๆๆๆๆ
คนแก่ก็งี้ไม่มีอารายทำ
นอกจากทำหน้าเหี่ยวไปวันๆ
ฮ่าๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ
อย่าได้เผลอโพสอะไรนะ
เด๋วจะไปวางแผนกะคุงแม่น้องรันใหม่
อ้อ จาไปหัดโปรแกรมโหดๆๆๆ
แฮก เลยดีกว่า
ฮ่าๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ
emoemoemo


โดย: dekzin วันที่: 16 สิงหาคม 2550 เวลา:17:09:01 น.  

 
ดีใจมากค่ะได้ตอบแทนที่คุณเป็นที่ 1 ในบล๊อกเราไง
คุยเนื้อหาดีกว่า..ช่วงนี้งานเราก็ยุ่งค่ะ..
เรารู้สึกใช้อารมณ์มากเกินไปนะ..เลยเซ็งๆๆ
มายได้แวะทักทายเพื่อนสักเท่าไหร่..
คิดถึงทุกคนนะค่ะ..แต่สมองตื้อจัง..

เศรษฐกิจช่วงนี้แย่มากๆๆค่ะ...
ทุกคนต้องเอาตัวรอดทุกวิถีทาง..ก็น่าสงสารนะ
ทุกๆๆอาชีพเลยค่ะ..แม้แต่เกษตกร

แต่ก่อนเราค้าขายไม่เคยใส่ใจบ้านเมืองนะค่ะ
เพราะเราทำเล็กๆๆๆ..แต่ในระยะ 10ปีหลังนี้..
ทุกอย่างต้องพึ่งพาซึ่งกันและกันเป็นลูกโซ่เลยค่ะ

ใช่ค่ะต้องเก่ง มีไหวพริบ..ใช้สาระพัดกลยุทธ์
แต่เราก็ยังคงมีความคิดเหมือนคนรุ่นเก่านะค่ะว่า...

ความดี..คนดี..ก็ยังคงอยู่ได้นะค่ะ..เพราะเราไม่ซื่อบื้อนะค่ะ
เรามีความจริงใจในการค้า..แต่ไม่ยอมเสียเปรียบในการขาย
เรามีความซื่อสัตย์ในสินค้า..แต่เราก็ไม่ยอมเสียเปรียบในต้นทุน
เรามีความซื่อตรงต่อลูกค้า..ลูกค้าก็มีความเชื่อถือในตัวเรา
ย่อมทำให้ตัวเราได้เปิดกว้างสู่วงการค้าที่สวยงามได้นะ

ใช่ค่ะผู้ที่กำหนดราคาขายได้คือผู้ชนะ
แต่สังคมปัจจุบัน..ผู้มีเงินคือผู้มีอำนาจในการต่อลอง
แต่เราก็ยังคิดว่าทุกคนย่อมมีจุดอ่อนให้ผู้มีไหวพริบแทรกแซงได้นะ

การยอมเพื่ออยู่รอดไม่ถือว่าแพ้..
แต่เพื่อเป็นการต่อยอดพื้นฐานให้แข็งแกร่งสำหรับอนาคต

การเสียศักดิ์เสีย..เพื่อความอยู่รอด
ไม่ใช่การเสียหน้าในสังคมที่จะถูกมอง

ในยุคปัจจุบัน..ตนแลเป็นที่พึ่แห่งตนค่ะ...

เราว่าเอามาทำลำไย..กระป๋องดีกว่านะ..มันไม่ขมหรอก
5555555555..แหย่เล่นจ๊ะ..หนุ่มเวียงพิงศ์

อากาศแบบนี้คืนนี้อย่าลืมนอนกอดคนข้างกายนะ
อิๆๆๆๆๆ..ของเรานะเขากอดทุกคืนเลยละ..อายอุ่นชื่นใจ
55555555555555

มานจะได้มายเครียดไงละ..


เอานางฟ้าตัวน้อยน่ารักมาฝากนะจะได้สดชื่น
ที่สองคนเลยไงละ..เผื่อคืนนี้อาจสำเร็จ
55555555555555...



โดย: catt.&.cattleya.. วันที่: 16 สิงหาคม 2550 เวลา:17:25:22 น.  

 
..อิๆๆๆๆ..เอาแบบคนข้างกายเราสิ..เขาทำจนเคยตัวนะ
ก่อนตื่นนอนต้องดึงเราไปกอด..ให้ชื่นใจสัก 5นาทีก่อนนะ
แล้วก็บอกว่า
** นอนต่อตามสบายนะ ไม่ต้องรีบตื่นหรอก **


ทำแบบนี้มาตลอด..ได้น้องน่ารัก 2คนเลยละ
555555555555555555


ตั้งแต่แต่งงานจนทุกวันนี้ก็ไม่มีคำว่าจืดจางงงงงงงง

ลองทำดูสิ..ถือไม้เท้ายอดท้องกระบองยอดเพชรเลยละ



มายเรดดดดดดดดดดนะ


โดย: catt.&.cattleya.. IP: 58.9.63.169 วันที่: 16 สิงหาคม 2550 เวลา:17:51:07 น.  

 
เข้ามาเห็นเฮีย ตอนเช้า เฮียก็อัพบล๊อก
เข้ามาบ่าย เฮียก็อัพบล๊อก...เย็นเฮียก็อัพบล๊อก
เอาเวลาไหน มาคิดมาเขียนหนักหนาเนี่ยคนเรา...
เดี๊ยนล่ะนับถือสมองเฮียก๋า จริงจริ๊งemo


โดย: กาบชมพู วันที่: 16 สิงหาคม 2550 เวลา:17:52:23 น.  

 
ขอโทษค่ะพิมพ์ผิด

'' ทอง '' ค่ะ

มายชาย..'' ท้อง ''

ใจไปอยู่ที่ไหนก็มายรู้

อิๆๆๆๆๆๆ
emoemo


โดย: catt.. IP: 58.9.63.169 วันที่: 16 สิงหาคม 2550 เวลา:17:54:15 น.  

 
เศษรฐกิจแย่ไม่แย่...เดี๊ยนก็ได้ไปยืนด่า
ราคาหัวอาหารสัตว์ทุกวัน...มันจะขาย โคตะระแพง
อะไรนักหนา
เกษตรกรเลี้ยงเป็ด ขายได้โลละ 45 บาท...หัวอาหารกระสอบเกือบสามร้อยอย่างถูก คุณภาพเกินรับ
จน....จนจะกรีดเลือดตัวเลี้ยงมันแล้วนะจ้าค่ะ
ไม่เห็นมีนโยบายเข้มแข็งสักที...
ช่วยอะไรได้ไม่เกินสามน้ำสี่น้ำ ก็ล้ม...
เพราะไม่เคยมาเห็นความจริง
เก่งจริง สันจรมานอนช่วยเดี๊ยนทำช่วยปลูก
สักครึ่งปีดูเป็นไรemo
.....................
แหะ แหะ....อารมณ์ส่วนมากไปนิด...ไม่รู้เม้นถูกเนื้อหา จขกท เฮียก๋าหรือเปล่าemo


โดย: กาบชมพู วันที่: 16 สิงหาคม 2550 เวลา:18:05:15 น.  

 
ขอถกด้วยความไม่รู้ด้วยคนค่ะ
นี่เป็นความคิดเห็นส่วนตัวนะคะ

เราเพิ่งคุยกับเพื่อนคนหนึ่งถึงหลายต่อหลายเรื่องราว
ใกล้เคียงกับที่คุณกิจพูดถึงนี่แหละค่ะ
การเมือง เศรษฐกิจ รวมทั้งศาสนา ปรัชญา และบ้าบออื่นๆ
เราทุกคนดำเนินชีวิตไปตามกลไกรัฐค่ะ
โดยเฉพาะรัฐที่ป่าวประกาศไปทั่วแล้วว่า ข้าจะเป็นทุนนิยม
โดยไม่ดูตาม้าตาเรือว่า ต้นทุนประเทศที่มีอยู่นั้นคืออะไร
เพราะฉะนั้นเมื่อเดินหน้าจะก้าวถอยหลังจึงทำได้ยาก
และเราเองก็ไม่อยากขึ้นชื่อว่า ล้าสมัย
ที่สำคัญเราอยากให้มีคนคบ แม้ว่าตอนนี้ไม่มีใครอยากจะคบแล้วก็ตาม
เราปฏิเสธไม่ได้ค่ะว่าเราดำเนินชีวิตและประกอบอาชีพตามนโยบายของรัฐบาลที่วางไว้
ไม่ว่าจะทางใดก็ทางหนึ่ง
ทีนี้มาพูดถึงปัญหาที่เกิดขึ้นโดยเฉพาะปัญหาที่ใครๆ ก็บอกว่าเป็นปัญหาระดับประเทศ
ปัญหาที่อยู่มานา อยู่จนกลายเป็นรากไปแล้ว
แล้วใครคะที่มีปัญหา เกษตรกรใช่ไหมคะ คนที่ใครๆ ก็บอกว่าเป็นประชากรส่วนใหญ่ของประเทศ
ขออนุญาตคิดแบบขวางโลกและขวางหูขวางตาหน่อยนะคะ
เคยลองหาเหตุผลที่ทำไมคนที่เกี่ยวข้องจึงปล่อยให้เกษตรกรมีหนี้ เกษตรยากจน เกษตรกรไร้การศึกษา
เป็นไปได้ไหมคะที่ทุกอย่างที่เกิดขึ้นนั้เพราะไม่มีใครจริงจังกับปัญหามากพอ
นี่คือความต้องการและเป็นเจตนาที่จะปล่อยให้เกษตรมีปัญหาต่อไป
เพื่อที่จะได้เอาไว้เป็นตัวชูโรงในการหาเสียงครั้งต่อไป
เพราะถ้าแก้ปัญหาได้ เกษตรกรมีรายได้ดี ทุกคนมีการศึกษา ร่ำรวย ความเป็นอยู่ดี
เวลาจะหาเสียง จะชูนโยบายอะไร
เป็นอย่างนั้นหรือเปล่า
เพราะบางทีเราลืมมองถึงส่วนรวมไงคะ
ว่าถ้าทุกคนความเป็นอยู่ดี ประเทศอื่นก็อยากจะเข้ามาคบค้าด้วย
แต่เปล่าค่ะ มัวแต่นึกถึงแต่ว่า จะทำให้ยังไงให้ข้าได้รับเลือก
ก็ต้องทำตัวให้ดูว่าเป็นผู้เข้าอกเข้าใจปัญหา
ประเทศมีปัญหา ต้องการคนเข้ามาแก้ปัญหา อะไรก็ว่ากันไป
ใครคะทำให้เกษตรกรเป็นหนี้ ถ้าไม่ใช่รัฐ
ตัวแทนของรัฐที่มีบทบาทมากที่สุดในเรื่องนี้จะเป็นใครไปได้คะ
คุณกิจว่าใช่ baac ไหมคะ
ก็อย่างที่คุณกิจว่าไว้นั่นแหละค่ะ
ปล่อยกู้ ปล่อยทุน ให้โอกาสในการทำมาหาเลี้ยงชีพแก่เกษตรเต็มที่
โดยไม่บอกกล่าวเขาเลยว่า ที่ถูกที่ควรที่แค่พอทำกินเพื่อไม่ให้เป็นหนี้น่ะแค่ไหน
การไม่เป็นหนี้น่ะดียังไง นี่มีแต่ เอาเลย กู้เท่าไหร่ จะทำไร่ทำนาบนภูเขากี่ลูกทำเลย
สนับสนุนเต็มที่ แล้วพอป่าหมด ป่าหาย ป่าเตียน
ก็ไปกล่าวโทษชาวไร่ชาวนา
อ้าว ก็คุณสนับสนุนเต็มที่นี่นา
พอจะหาคนผิด ทำไมเกษตรกร ชาวไร่ชาวนาผิดอยู่ฝ่ายเดียว
ทำไมเกษตรกรจึงกลายเป็นทั้งคนมีปัญหาและคนผิด
เพราะเขาเป็นแค่คนที่ใครๆ ก็อยากได้เป็นพวกแต่ไม่เคยนับญาติด้วยอย่างแท้จริง ใช่ไหมคะ

เอ่อ ไม่อยากกล่าวโทษใครเลย
แต่อดไม่ได้
คุณกิจคะ ความคิดดิฉันเริ่มบานปลายค่ะ
พอก่อนดีกว่า ไว้ค่อยถกกันใหม่
เอาแบบไม่ว่าเราจะพาดพิงถึงใครก็ไม่มีใครจับได้
แล้วถ้าบล็อกคุณกิจโดนปิด
เราก็คงโดนเขม่นเช่นกัน
วันนี้ขอลาละค่ะ
ชักจะปวดหัวตะหงิดๆ

พิราบนำสารมาถึงมือแล้วนะคะ เมื่อวานนี้เอง
^^


โดย: I am just fine^^ วันที่: 16 สิงหาคม 2550 เวลา:18:14:38 น.  

 
มาชวนไปทดสอบพรสวรรค์ที่บ้านดอรี่ค่ะ มามะตามมาเร้ววววว

emoemoemoemoemo


โดย: Dory (conejodulce ) วันที่: 16 สิงหาคม 2550 เวลา:18:48:30 น.  

 
เศรษฐกิจครั้งนี้เราเจ็บทุกคนเลยค่ะ

เมื่อสักครู่ก่อนจะเลิกงาน แป้งหอมคุยกับเกษตรกรคนหนึ่งที่ขนลองกองตันกว่าไปขายเพื่อเอาเงินกลับบ้านเพียง 600 กว่าบาท

และแป้งหอมพูดประโยคนี้ "ปีนี้ชาวสวนต้องกินน้ำตาแทนข้าวแล้ว ไม่มีจะกินหรอก"

หนี้ภาคเกษตรกรคงท่วมอีกเพราะค่าปุ๋ยที่สัญญาจะจ่ายหลังจากขายผลไม้ได้กำลังจะถึงวันต้องชำระแล้ว..แต่จะเอาเงินที่ไหนไปชำระ แค่จะกินยังไม่มี

แป้งหอมลบข้อความข่าวที่เข้ามาในโทรศัพท์เพราะอ่านแล้วช้ำใจ

" .....(โรงงาน / ภาคการส่งออก / ธุรกิจอื่นๆ ที่ทยอยปิดตัวเอง)....ปิดตัวลงพร้อมปลดคนงาน ...(หน่วยงานรัฐบางหน่วยงาน)...ยืนยันไม่เกี่ยวค่าบาทแข็ง .."

และข้อความใจความแบบนี้แทบทุกวัน ช้ำใจตรงประโยคนี้ "...(หน่วยงานรัฐบางหน่วยงาน)...ยืนยันไม่เกี่ยวค่าบาทแข็ง .."

ถ้าภาครัฐมองเห็นปัญหาแล้ว ยอมรับปัญหาและกำลังแก้ปัญหา

ในฐานะประชาชนที่ไม่มีความรู้เรื่องเศรษฐศาสตร์ บริหาร การค้าระหว่างประเทศ ฯลฯ แป้งหอมก็พอใจเย็นอดทน แข็งใจ รอได้ ให้ผู้รู้ผู้เชี่ยวชาญแก้ไขไป

แต่กับการที่ภาครัฐ ไม่ได้ตระหนักถึงปัญหาของประชาชนแม้แต่น้อยยังกล้าออกมาปัดความรับผิดชอบด้านๆอีกต่างหาก ไม่พยายามทำให้ประชาชนอิ่มท้อง ไม่พยายามทำให้ประชาชนหลับสบาย มันเป็นเรื่องที่เรากล้ำกลืนจริงๆ

ตอนนี้แค่ กินอิ่มก็ยังไม่มีกิน แม้แต่หลับก็ไม่สบายเพราะห่วงวันพรุ่งนี้ว่าตื่นมาแล้วจะพบกับอะไร จะมีกินไหม จะขายของได้หรือเปล่า จะมีโจรปล้นหรือเปล่าในภาวะข้าวยากหมากแพงอย่างนี้ ฯลฯ

หน้าที่ของรัฐ คือ การทำให้ประชาชนกินอิ่ม หลับสบายนี่เอง

ในขณะที่เราบางส่วนต่างพยายามเอาตัวให้รอดบนสังเวียนที่มองเห็นทางสู้ ก็มีประชาชนอีกส่วนหนึ่งที่เขาไม่มีโอกาสแม้แต่จะขึ้นสังเวียนเพราะชีวิตเขาถูกลิขิตไว้แล้วด้วยความไม่ใส่ใจของรัฐ


เกษตรกรของประเทศเราต้องการความช่วยเหลือเรื่อง การบริหารจัดการอีกมาก เขาถนัดแต่เรื่องผลิต ภาครัฐต้องส่งเสริม การควบคุมคุณภาพและการตลาด ที่ครบวงจร

ประเทศไทยเป็นประเทศหนึ่งที่มี"คนเก่ง"เยอะมาก...เราลงทุนกับการศึกษาไปไม่ใช่น้อย เงินอุดหนุนการศึกษาก็มาจากภาษีของพวกเราทุกคนทั้งทางตรงและทางอ้อม

แต่ไม่เคยใช้คนเหล่านี้จรีงๆจังๆ ให้เห็นผลเป็นรูปธรรมเสียที นี่แหล่ะ..เรื่องการใช้ทรัพยากรไม่เกิดประโยชน์สูงสุดนี่ยกไว้ให้เลยประเทศเรา




โดย: floral_flory วันที่: 16 สิงหาคม 2550 เวลา:19:36:18 น.  

 
นับแต่อดีตนานแสนนานมาแล้ว ...
กลุ่มชนชั้นที่กุมอำนาจในมือ
มักอ้างว่าสิ่งที่พวกท่านทั้งหลายทำ .. คิด ..
ก็เพื่อพวกเรา .. ปวงประชาตาดำดำ ..

ไม่ว่าการได้มาซึ่งอำนาจ...จะถูกต้องตามทำนองคลองธรรมที่พวกท่านตรากันเอง
หรือได้มาด้วยการแย่งชิง ..ถือครอง
ก็ล้วนแต่ทำเพื่อพวกเรา .. ปวงประชาตาดำดำ ..

ผ่านร้อนผ่านหนาว ..มา ๗๕ ปี
สิ่งที่พวกท่านทำเพื่อพวกเรา ..ปวงประชาตาดำดำ ..
คืออะไร?
เรา ..หนึ่งในปวงประชาตาดำดำ ที่ท่านมักกล่าวอ้างถึง .. ไม่เข้าใจเลย

จะรากหญ้า .. จะรากฝอย .. จะรากไทร .. จะรากแก้ว ...
ทุกวันนี้ลำบากลำบนกันถ้วนหน้า

แต่ท่านไม่มีเวลามารับรู้ .. เพราะมีงานสำคัญกว่ารออยู่มากมาย.. มาสิจะแจกแจงให้ฟังกัน
ไหนจะต้องรักษาอำนาจที่ถือครองไว้ในกำมือ ..
ไหนจะต้องสร้างอำนาจเพื่อรักษาสถานภาพที่ดำรงอยู่
ไหนจะต้องคอยกางกั้นอำนาจที่รุกราน
ดูสิ ..ดู .. งานท่านมากจริงจริง

พวกเรา.. ปวงประชาตาดำดำ.. จึงต้องพึ่งพาตัวเองไปก่อน
ท่านเปล่าทอดทิ้งนะ .. แต่ยังไม่ว่างจะมาดูแล ..
อดทนรออีกนิด .. ใกล้ถึงช่วงที่พวกท่าน ..จะออกมาสัญญาปากเปล่ากับ พวกเรา..ปวงประชาตาดำดำอีกแล้ว ..
อยากได้อะไร ..บอกมาสิ .. ท่านจะหามาประเคนให้
อยากเห็น ..น้ำท่วมหลังเป็ด ..สุนัขออกไข่ .. หรือ ...

ว่าแต่ทำไมพวกเรา .. ปวงประชาตาดำดำ ..ช่างเข้าใจอะไรยากจริงจริง
บอกแล้วว่าสัญญาปากเปล่า ..สัญญาปากเปล่า ..
พอนานวัน .. ก็สลายหายไปกับสายลม
จะมาทักท้วง .. ทวงอะไรกันนักหนา ในเมื่อ..
มันสลายหายสิ้นไปกับสายลมหมดแล้วไง ...


โดย: เหงาเหงา IP: 58.9.49.48 วันที่: 16 สิงหาคม 2550 เวลา:20:12:27 น.  

 
เวลามองดู

นักการเมือง
กับ
เกษตรกร

แล้วหดหู่!



โดย: pangz วันที่: 16 สิงหาคม 2550 เวลา:23:38:16 น.  

 


มีแคชต่คนเขียนยาวๆ เน๊าะ
แต่ปัญหาของเราอยู่ตรงไหนกันแน่
อยู่ที่ 4 แยก หรือว่าอยู่ 3 แยกดีหนอ
ตอบแบบนี้เดี๋ยวมีชกปล่าวเนี่ย อิอิอิ
อ่ะนะเขียนให้ขำๆ ในเวลางานยุ่งเพิ่งปลีกมาแซว
ปัญหาของเราอยู่ที่ถ้าตั้งโจทย์ยาก
คนก็ตีโจทย์ไม่แตก...เน๊าะ
คนแก้ก็ไม่รู้จะไปแก้ตรงไหนดี..แก้ไม่ดีให้แก้ใหม่อีก
จะไปถอดสมการหรือจะไปเขียนสแควรูท
เพื่อหารลงตัวให้ได้คำตอบที่ถูกใจและถูกต้อง
ลำบากใจจัง
ถามว่าวันที่ 19 ไปลงประชามติว่ารับหรือไม่รับ
ยังจะตอบง่ายกว่าเน๊าะ
เม้นท์แค่นี้แหละ WOW เม้นท์ยาวที่สุดในชีวิตเลยเรา
ไปนอนดีกว่า ฝากบอกคนข้างเตียงว่า
หลับฝันดีเน๊าะ


โดย: อุ้มสี วันที่: 17 สิงหาคม 2550 เวลา:1:15:53 น.  

 
ขยันอัพบล็อกจริงๆเยย เหอๆๆ
อ่านข้างบนก็สรุปได้ว่า
ตัวใครตัวมัน
เอ้ย ไม่ใช่
ตนแลเป็นที่พึ่งแห่งตน
ดีที่ซู้ดแล้ว


โดย: ถ่านหินจำศีล วันที่: 17 สิงหาคม 2550 เวลา:2:13:59 น.  

 
ผมอัพบลอกอาทิตย์ละครั้งนี่ คิดว่าตัวเองบ้าพลังเขียนเยอะแล้วนะ

แต่พอมาเห็นบลอกคุณแล้ว กระผมกลายเป็นคนขี้เกียจไปในทันที

อัพบ่อยมาก เขียนเยอะทุกอัน แถมเขียนดีซะด้วย

ข้าน้อยขอคารวะ


โดย: ฟ้าดิน วันที่: 17 สิงหาคม 2550 เวลา:4:03:41 น.  

 
เย้ๆๆ เข้าได้แล้ว
emoemo


โดย: แม่น้องรัน (runch ) วันที่: 17 สิงหาคม 2550 เวลา:9:50:33 น.  

 
โห .. เขียนได้โดนจัยอีกแล้วหล่ะ คุณก๋า..
เรื่องการเมืองนะ..คุยมาสามวันสามคืนก็ฟังได้นะ..

เราก็เคยคุยกะอาม่าเราเหมือนกันค่ะ.. ถามว่าอยากให้ใครมาเป็นนายก..
อาม่าเราบอกว่า.. ใครก็ได้ ขอให้รู้จักจ๊อเซ็งลี้(ทำการค้า)..ประเทศจะได้ไม่อับจน..
เข้าทีมั้ย..ความคิดของอาม่าเรา..

วันที่ 19 ต้องไปทำภาระกิจระดับชาติ.. อย่าลืมนะคะ


โดย: เอื้อมดาว วันที่: 17 สิงหาคม 2550 เวลา:10:08:06 น.  

 
“เงินที่ไม่ได้อยู่ในกระเป๋าของเรา
มันไม่ใช่เงินของเรา”
เจอประโยคนี้ของอาม่า แม่น้องรันสดุ้งเลย
ทำไมอาม่าคิดได้เหมือนเราจังว่....
รึว่าเราเองที่คิดเหมือนอาม่า emo
ไม่น่ะ แม่น้องรันยังไม่อยากเป็นอาม่าน่ะ emo


โดย: แม่น้องรัน (runch ) วันที่: 17 สิงหาคม 2550 เวลา:10:20:23 น.  

 
^
^
^
เพ่..ซีเรียส กับ จขกท นิดส์emo


โดย: กาบชมพู วันที่: 17 สิงหาคม 2550 เวลา:10:34:06 น.  

 
คุณเหงา เหงาครับ

ขอบคุณสำหรับคอมเม้นท์ดีดี
วันนี้ผมเชื่อว่าความคิดของเรา
อาจยังไม่เปลี่ยนแปลงสังคม
แต่วันหน้าผมหวังว่า จะมีใครสักคน
ลุกขึ้นมาพูดในสิ่งที่เราพูดกันวันนี้
แล้วก็เปลี่ยนแปลงสังคมนี้เสียที



โดย: กะว่าก๋า (กะว่าก๋า ) วันที่: 17 สิงหาคม 2550 เวลา:10:43:33 น.  

 

^
^
^

อ้อนี่เอง...ความคิดเห็น เ บ่ ง บ า น // ง อ ก เ ง ย
เราต่างมีความคิด
เราต่างมีความเห็น
อย่าปิดกั้นเราเลยค่ะ

นึกคิดยังไง พูดไปยังงั้น
นี่คือความจริงส่วนนึงในสังคม ไท ไท

เค๊าก้อรู้ แต่ไม่ว่าง
เค๊าก้อรู้ แต่ให้อันดับถัดไป ถัดไป และ ถัดไป
เราต่างก้อรู้ เราก้อเขียนก้อคิดไป
แต่ใครล่ะ จะเอาความคิดของเราไปสานต่อ
นอกจากเราเองแหละ ที่จะหาทางช่วยให้ความคิดของเราเป็นผลขึ้นมา
หรือถ้ายังไม่สัมฤทธิ์ อย่างน้อยๆเราก้อจงอย่าท้อแท้
ที่จะมีเรี่ยวแรงลุกขึ้นมา ช่ ว ย ตั ว เ อ ง



โดย: ดาวทะเล วันที่: 17 สิงหาคม 2550 เวลา:11:57:09 น.  

 
สวัสดีค่ะ คุณกะว่าก๋า

เฮ้อ ..เมื่อเช้าคิดว่า blog คุณโดนส่ะแล้ว
หรือไม่อีกที ..ก็ user id เรา ไม่เป็นที่ปรารถนา
ใน bloggang
อะไรไม่ว่า .. เอ ..เรามาก่อความเดือดร้อนให้เปล่านะ

ดีค่ะ .. ไม่หวังว่าจะมีใครมาพูดหรอกค่ะ...
แต่ตั้งใจจะพูดเองไปเรื่อยเรื่อย ..
ใครจะฟังหรือไม่ ..ก็ไม่ว่ากัน ..
แต่สัญญา (ที่มิใช่แค่ลมปาก) ว่า จะไม่เหนื่อยหรือ
ท้อที่จะพูดค่ะ

และหวังลึกลึกว่าสักวัน.. พลังเงียบกลุ่มเล็กเล็กจะ
กลายเป็นพลังกลุ่มโตโตที่สามารถทำให้สังคมนี้ดีขึ้นค่ะ



โดย: เหงาเหงา IP: 125.24.41.144 วันที่: 17 สิงหาคม 2550 เวลา:12:02:24 น.  

 
สวัสดีคุณเหงา เหงาครับ

ผมมองโลกในแง่ดีว่าบล็อกผมคงไม่โดนปิด
เพราะว่าแอบมาทำในบล็อกบันทึก 5555
ถ้าเป็นบล็อกการเมือง คงไม่รอด 555

ผมไม่ได้เกลียดใคร รักใครหรอกครับ
ไม่ว่าฝ่ายไหน ผมห่วงแต่ประชาชน
เพราะเขาคือพี่น้องร่วมชาติ

คือคุณอาจจะโกงกิน หรือแย่งกระดูกอำนาจกัน
แต่เรา..ซึ่งเป็นประชาชนกำลังจะตาย

บรรยากาศรอบตัวผมเลวร้ายมากครับ
แม้เราจะยังพอประคับประคองตัวเองอยู่ได้
แต่รอบๆข้างเริ่มทยอยปิดร้าน เริ่มปลดพนักงาน
เห็นแล้วก็หวั่นไหว แม้ในใจจะยอมรับความจริงที่ว่า
อะไรจะเกิดก็ต้องเกิด

ไม่ได้กลัว
....แต่ไม่สบายใจ

เพราะคิดว่าเงื่อนไขจริงๆแล้วของปัญหาที่เราเผชิญอยู่ในชาติ
มันแก้ไขได้ ถ้าเรามีผู้นำที่ดีพอ

เราอยากยืนอยู่ได้ด้วยขาของเราเอง
แต่รัฐซึ่งเปรียนเสมือนเส้นเลือดกลับไม่ทำงาน
ร่างกายที่ไร้เลือดหล่อเลี้ยงจะอยู่รอดได้ยังไง....

วันทั้งวัน....มีแต่คนบ่นว่า แย่ ลำบาก
แต่กลับไม่มีการแก้ไขใดใด ไม่มีการให้การช่วยเหลือใดใด
จากคนที่ต้องรับผิดชอบชีวิตของเรา
เพราะทุกนโยบายที่ออกมาล้วนมีผลกระทบกับการดำรงชีวิตของพวกเราทั้งสิ้น

...........................

ผมไม่เกี่ยงระบอบการปกครอง
ไม่เกี่ยงรัฐธรรมนูญ
แต่ผมอยากได้ผู้นำที่เข้าใจสุขทุกข์ของประชาชนครับ

กฏหมายเป็นเพียงตัวอักษร
ความเที่ยงธรรมในใจต่างหากที่ทำให้ตัวบทกฏหมายศักดิ์สิทธิ์
รัฐธรรมนูญที่ดีที่สุด ก็ไม่มีความหมายหากอยู่ในมือของนักการเมืองที่เลว

แลกเปลี่ยนกันเรื่อยๆได้ครับ
เพราะอีกไม่กี่วัน ผมจะไปพักร้อนแล้วครับ

ไม่ได้เบื่อสถานการณ์บ้านเมืองนะครับ
แต่เป็นวาระแห่งความสุขน่ะครับ



โดย: กะว่าก๋า (กะว่าก๋า ) วันที่: 17 สิงหาคม 2550 เวลา:13:01:16 น.  

 
แง่คิดวันนี้ แทงใจ แทงใจ แทงใจ


แต่ก็แค่เสียงตะโกนของกระจอก กระจิบ
ดังลั่นๆ ก็แค่เสียงกระซิบ กระซิบ
เท่านั้นเอง


โดย: ป้ากุ๊กไก่ IP: 124.121.61.20 วันที่: 17 สิงหาคม 2550 เวลา:14:33:19 น.  

 
คุณกะว่าก๋า ..

ดีค่ะที่เป็นคนมองโลกในแง่ดี .. มีคำฝรั่งที่ว่า “positive thinking”
ใครที่เป็นคนมีความคิดในด้านบวก .. ในด้านดีงาม … มักจะได้เปรียบ
แม้จะตกอยู่ในภาวะคับขันเพียงใด .. ก็สามารถฝ่าฟันห้วงแห่งทะเลทุกข์เข็ญได้
ซึ่งต่อให้บอบช้ำมากแค่ไหนก็ตาม .. ย่อมสามารถฟื้นตัวได้ไม่ยากเย็นนัก

อืม .. การเมืองบ้านเรา .. หลายคนบอกว่าเป็น
“โศกนาฎกรรม” ที่ไม่อยากเอื้อนเอ่ยถึง ..
บ้างก็ว่าไร้สาระ น่าเบื่อหน่าย ...
ใครจะไปใครจะมา .. สุดท้ายก็ลงเอยในรูปแบบเดิมเดิม ..
ทุกวันที่ลืมตาตื่น “ฉัน” ยังคงต้องดิ้นรนหาเลี้ยงชีพ ..
บางวันอิ่ม .. บางวันอด ..
เจ้าพวกที่เคยตะโกนปาวปาวจะดูแล .. ปรนเปรอ “ฉัน” ไม่เห็นมีใครใส่ใจเลย ..
จะชนะการประกวดมาด้วยคะแนนท่วมท้นหรือกระหร่อยกระหริบ ก็พอพอกัน

นี่ใช่หนึ่งในปัญหาหรือไม่? เพิกเฉยต่อการเมือง .. ปล่อยไปตามยถากรรม .. อะไรจะเกิดก็ต้องเกิด ..

อยากได้ผู้นำที่เข้าใจทุกข์สุขของประชาชน .. ความอยากที่ตรงกันของอีกหลายหลาย “ฉัน” ในบ้านเมืองนี้ แต่ผลการเลือกตั้งในหลายครั้งหลายครา .. กลับตรงข้ามกับความอยากของ “ฉัน” อย่างสิ้นเชิง

นี่ใช่หนึ่งในปัญหาหรือไม่? รู้ทั้งรู้ ..ว่าควรเลือกใคร .. แต่กลับมอบสิทธิและเสียงให้ใครอีกคน หรือไม่รับรู้ใดใดเลย .. “ฉัน” จะเลือกด้วยใจภักดิ์ ..จะเลือกด้วยผลต่างตอบแทน .. หรืออีกหลากหลายเหตุผลที่รู้รู้กันอยู่ ..เพียงแต่จะได้พูดหรือไม่ได้พูด ..พูดได้หรือพูดไม่ได้ ..

อยากได้ประชาธิปไตยเต็มเต็มใบ … อยากมีรัฐธรรมนูญที่กำเนิดจากมันสมองของมวลชนอันหลากหลายในประเทศ แต่ทว่ากลับมี “ฉัน” อีกหลาย “ฉัน” ถามว่า “ประชาธิไตย” คืออะไร? “รัฐธรรมนูญ” คืออะไร?

นี่ใช่หนึ่งในปัญหาหรือไม่? ความเหลื่อมล้ำแตกต่างของการศึกษา … ช่องทางและโอกาสของการเรียนรู้ที่ไม่เท่าเทียบกัน ..

คำตอบของคำถามที่ว่า “ปัญหาของเราอยู่ตรงไหนกันแน่ ?” มีมากมายเกินกว่าที่จะกล่าวอ้างได้หมด ... สั่งสมเนิ่นนานจนยากเกินกว่าที่จะสะสางให้หมดสิ้นในห้วงเวลาสั้นสั้น ... และหนักอึ้งเกินกว่าที่จะมีคนดี .. ใจเด็ดเดี่ยว ..หาญกล้าเข้ามาแบกรับ ..

ฤา อโยธยาจะสิ้นคนดีแล้วจริงจริง...


ปล. ขอให้สนุกกับการเดินทางพักร้อนค่ะ ..



โดย: เหงาเหงา IP: 58.9.47.106 วันที่: 17 สิงหาคม 2550 เวลา:21:00:19 น.  

 
^
^
^

เป็นคอมมเ้นท์ที่ตรงกับความรู้สึกมากครับ
ขอบคุณครับ



โดย: กะว่าก๋า (กะว่าก๋า ) วันที่: 18 สิงหาคม 2550 เวลา:7:52:16 น.  

 
Kor klub mar aan tee hlung naa kaa P'Kit

Yom rub kha wa' ton nii

Jai mun mai ning por tee ja aan a rai hnuk hnuk bab nii kha

Kor tod naa kaa


โดย: CSULB@FineArt วันที่: 23 สิงหาคม 2550 เวลา:18:46:10 น.  

 
ผู้นำของรัฐมองปัญหาที่ใด

1.ความเป็นอยู่อาหารการกินอยู่ของเกษตรกร จริงหรือ

2.ความร่ำรวยทางตัวเลข หรือความจริงของสังคม

3.จริยธรรม และหิริโอตัปปะ มีจริงหรือ

แนวทางการแนะนำของรัฐ มุ่งแต่สร้างเพื่อให้สินค้าเหลือล้นพอในตลาดและต่อไปก็ล้นจนเป็นขยะ แต่ไม่เคยมองความเป็นจริงของตลาดเลยว่าจะมีผู้ต้องการบริโภคเท่าใด และแค่ไหนที่เหมาะสม

มีคนรู้มากมายว่าการบริการการกระจายการผลิตคืออะไร
แต่ทำไมไม่มีใครวางแผนการผลิตให้เกษตรกร
เพื่อให้ผลผลิตมีน้อย หรือแค่พอต่อความต้องการในเวลาหนึ่ง
และอย่าลืมสิว่าผู้รู้หลายคนรู้ว่าทำอย่างไรสินค้าทางเกษตรจึงจะออกในช่วงเวลาใด
และสามารถบริหารการให้ออกนอกช่วงฤดูได้เพื่อเป็นการกระจายการผลิด
แต่มีใครส่งเสริมและรณรงค์อย่างจริงจังบ้าง กระทำกันก็แต่ตามกระแส เวลาเกษตรกร มีปัญหา ก็บอกว่าทำไม่ทำให้ออกนอกฤดูละ
แล้วใครกันแน่ที่รู้ทั้งรู้ว่าในประเทศมีเกษตรกร เท่าไหร มีไร่ กี่แปลง มีอะไรที่ไหน
ทำไม ไม่กำหนดการลงไปหรือหาแนวทางส่งเสริม ป้องกันให้เกิดการผลิดอกออกผลได้นอกฤดูกาล

แค่คิดเล่น ๆ นะ ถ้าทำได้ราคาผลผลิตการเกษตรจะคงที่ทั้งปี และได้ผลกำไรเท่ากันทุกคน โดยเฉลี่ย

และขอที่นะเรื่องอ้างน้ำไม่พอ
มีใครไม่รู้บ้างว่าน้ำในประเทศไทยมีเหลือทั้งปี แต่เพราะการบริหารไม่ดี และไม่ใส่ใจจริงจัง จึงเกิดปัญหาตลอด
ทุกครั้งที่ร้อน และฝนตก มันเป็นปัญหาไปเป็นได้ไง
ก็เมืองไทย มีแค่สองฤดู พวกยังบริหารไม่ได้ แล้วอยากให้เมืองไทยมี สี่ฤดู ไปมีประโยชน์อะไร

ดีแต่โทษปี่โทษกล้อง แล้วตัวผู้นำทำผิดไม่เห็นได้รับโทษ

แค่ยืนด่ารัฐไม่กี่คำก็โดนจับ ลงโทษไว
แต่ทำประเทศเสียหายทั้งภาพพจน์ ทั้งประชาชนของประเทศ ไม่ได้รับโทษใด ใด


โดย: sysee วันที่: 23 สิงหาคม 2550 เวลา:20:55:43 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิกช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

กะว่าก๋า
Location :
เชียงใหม่ Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 392 คน [?]




มองฉันอีกครั้ง
เธออาจเห็นฉัน
หรืออาจไม่เห็นฉัน

ฉันแค่แวะผ่านทางมา
และอาจไม่หวนกลับมาทางนี้อีกแล้ว

เราเคยรู้จักกัน
และมันจะเป็นเช่นนั้นตลอดไป

มองดูฉันอีกครั้ง
เธออาจเห็นฉัน
และฉันอาจมองไม่เห็นเธอ.





[Add กะว่าก๋า's blog to your web]